ตอนที่ 17 จับตัว..........
หลังจากที่ผมได้ไปพูดคุยกับแม่ในวันนั้น มันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นกว่าทุกๆวันที่ผ่านมา ผมกล้าที่จะมองหน้าอีกคนได้อย่าง
ไม่ต้องหลบสายตาและที่สำคัญผมยิ่งมีความสุขทุกครั้งที่ผมได้ใกล้ชิดกับพี่ภาม นี่สินะคือความสุขที่แม่เคยบอกผมไว้ มันอาจจะ
เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมได้มีความสุขและมีรอยยิ้มเกิดขึ้นทุกวัน
“ป๊อบครับ ถ้าเลิกเรียนแล้วเดี๋ยวพี่ไปรับนะครับ รักนะครับ” ไอ้พี่ภามที่โทรเข้ามาโทรมาสั่งกำชับกับผม ก่อนที่อีกคนจะวาง
สายไป และที่สำคัญผมยังมีความรู้สึกว่าพี่ภามจะหยอดผมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน จนทำให้ผมเองยังเผลอคิดไปเองเลยว่าเราสองคน
เป็นแฟนกันจริงๆ
ตอนนี้ก็ล่วงเลยใกล้ครบหกเดือนแล้วสัญญาว่าจ้างที่พี่ภามจ้างผมก็จะจบลงอีกเพียงแค่ไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า ผมยอมรับว่า
ลึกๆแล้วผมรู้สึกใจหาย แต่ตอนนี้ผมก็เริ่มที่จะทำใจรับผลหลังจากช่วงเวลาหกเดือนนั้นผ่านเลยไปได้แล้ว
“อืม” ผมตอบรับ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง ผมยกนาฬิกาข้อมือของตัวเองขึ้นมาดูก็พบว่าอีกเพียงแค่ครึ่ง
ชั่วโมงผมก็จะเลิกเรียนแล้ว ผมจึงเอาเวลาที่เหลือทั้งหมดตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน แต่วันนี้คงจะเป็นแค่วันเดียวสินะที่ผมตั้งใจเรียน
และไม่โดเลยสักวิชา แหะๆ
“ไปร้านพี่โก้กัน” ไอ้พี่ท็อปที่เดินมาหาผมถามขึ้นหลังจากที่ผมเดินออกจาห้องเรียน
“ไม่อ่ะพี่ วันนี้มีนัด” ผมตอบปฏิเสธ พี่แกเลยยักคิ้วหลิ่วตามองผมยิ้มๆ ซึ่งไม่ใช่แค่พี่ท็อป ไอ้พี่เมฆก็อีกคนที่ยืนอมยิ้มมองผม
“แหมๆๆๆเดี๋ยวนี้มีนงมีนัดกันด้วยยย สงสัยชีวิตรักคงจะสวีทหวานราบรื่นดีเนอะไอ้เมฆเนอะ” ไอ้พี่ท็อปว่า ก่อนจะหันไปหา
ลูกคู่ที่คอยรับอย่างไอ้พี่เมฆที่ยืนพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย
“หวานอะไรกันเล่า แค่พี่ภามเขามีธุระเลยกลัวว่าจะไม่มีคนมารับป๊อบกลับบ้านก็เท่านั้นเอง” ผมตอบ แต่ไอ้พี่ท็อปและพี่เมฆก็
ยังคงมองผมอย่างยิ้มๆเหมือนเดิม
“เอาที่มึงคิดว่าสบายใจเถอะ เอาเป็นว่าถ้าแต่งกันเมื่อไหร่ส่งการ์มาหาพวกพี่ด้วยนะ ฮ่าๆๆ” ไอ้พี่ท็อปว่า ก่อนจะเดินจากไป
พร้อมกับไอ้พี่เมฆที่หัวเราะต่อท้ายเป็นลูกคู่รับกันไป ส่วนผมก็ได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอากับพี่ทั้งสองคน ไอ้เรื่องแซวน้องนุ่งนี่ขอ
ให้บอก แค่เสนอมาเดี๋ยวพี่ก็จะสนองให้อะไรประมาณนั้น เฮ้อ!
หลังจากที่ผละออกมาจากพวกพี่ๆ ผมก็โทรหาไอ้ภัทรกับไอ้ปิ๊กว่าวันนี้มีธุระกับพี่ภัทรเลยขอจะกลับก่อนเพราะตอนนี้ที่คณะ
ผมกำลังจะมีงาน ซึ่งจริงๆแล้วผมก็ต้องอยู่ช่วย แต่พอดีงานนี้มีไอ้ภัทรเป็นพ่องาน ผมเลยสามารถโดได้ตามใจและค่อยกลับมา
รับคำด่าวันหลัง ฮ่าๆๆ
ผมรีบเดินออกมาคอยอีกคนที่โทรนัดไว้ตั้งแต่วิชาที่แล้วว่าถ้าเลิกเรียนให้มารอเพราะเดี๋ยวจะมารับ ผมจึงเดินออกมารออีก
คนที่หน้ามหาวิทยาลัยเพราะจะได้สะดวกในการเดินทางของอีกฝ่าย
ในระหว่างที่รอ ผมก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นเพื่อรอเวลาที่อีกคนจะมารับ แต่ก็ได้ยินเสียงรถยนต์ที่คล้ายๆกันกับของ
พี่ภามจึงเงยหน้าขึ้นมาดูก็พบว่ามันไม่ใช่รถของอีกคน ผมจึงก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ต่อ จนไม่ทันได้ระวังว่าตอนนี้มีชายแปลก
หน้า ร่างกายสูงใหญ่สองคนกำลังเดินตรงมาที่ผม
“เดินไปขึ้นรถและอย่าตุกติกและอย่าคิดจะมีลูกเล่นใดๆทั้งสิ้น” ชายแปลกหน้าหนึ่งในสองคนพูด จึงทำให้ผมต้องเงยหน้า
เลิกคิ้วขึ้นไปมองก็เห็นว่าทั้งคู่กำลังจ่อปืนมาที่ผม โดยที่ไม่ให้คนอื่นๆรู้ ผมจึงมองหน้าทั้งสองคนสลับกันไปมาเพื่อว่าจะเป็นคนที่
ผมเคยไปก่อกวนเอาไว้ แต่เปล่าเลย ผมไม่เคยเห็นหน้าของทั้งสองคนนี้ แต่ผมก็จำต้องเดินไปตามที่มันสั่งเพราะถ้าหากผมไม่ไป
ไม่ผมก็คนที่เดินไปมาอาจจะได้รับการบาดเจ็บจากลูกตะกั่วที่อยู่ในปืนที่มันจ่อผมอยู่เป็นแน่
“เข้าไป!” มันสั่ง ก่อนที่อีกคนจะกดหัวผมให้เข้าไปนั่งในรถแล้วมันทั้งคู่ก็ตามมาสมทบ อีกคนทำหน้าที่เป็นคนขับ ส่วนคนที่
พูดกับผมในตอนแรกนั่งประกบผมอยู่ที่เบาะด้านหลัง ผมพยายามมองหาทางหนีทีไล่เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือหรือไม่ ถ้าสบ
โอกาสผมก็จะได้จัดการกับพวกมัน
“แกจะทำอะไร!” ผมตะโกนถามเสียงดัง ไอ้คนที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่หันกลับมามองแวบเดียว ก่อนจะหันกลับไปสนใจถนน
หนทางที่อยู่ตรงหน้าต่อ ส่วนไอ้คนที่นั่งประกบผมอยู่ มันหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา ก่อนจะใส่ยาอะไรบางอย่างที่ผมคิดว่ามันน่าจะ
เป็นยาสลบในผ้าผืนนั้น
“กูว่ามึงรู้ว่ามันคืออะไร” อีกคนพูดกับผมเสียงเรียบ ก่อนที่มันจะโน้มมาปิดปากปิดจมูกผม ผมที่ทั้งดิ้น ทั้งขัดขืน แต่ก็สู้แรง
ของมันไม่ได้ จนผมถูกมันเอาผาผืนนั้นมาปิดจมูก ปิดปาก ผมรู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบๆตัวดูเหมือนจะมืดดำสนิท แต่สิ่งสุดท้ายที่
ผมนึกถึง ก่อนที่ภาพทั้งหมดจะดับลง นั่นก็คือ พี่ภาม.........ช่วยป๊อบด้วย
ผมคิดในใจเอาไว้แล้วว่า วันนี้จะเป็นวันที่ผมบอกยกเลิกสัญญาบ้าๆนั่นทั้งหมดและต้องขอป๊อบเป็นแฟนให้ได้ ผมใช้ให้ไอ้
ภัทรคอยช่วยหาสถานที่โรแมนติกๆสำหรับค่ำคืนนี้ให้ แต่พอผมมาถึงที่มหาลัยก็ไม่เห็นอีกคนจะออกมารอผมตามที่นัดไว้ ผมจึง
คิดว่าอีกคนคงจะยังไม่เลิกเลยรอไปสักพัก แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของป๊อบเลยสักนิด
ผมรู้สึกว่าเหมือนมันจะมีอะไรบางอย่างที่แปลกใปเพราะความรู้สึกลึกๆหรือลางสังหรณ์ของผมมันบอกแบบนั้น
“อ้าวเฮียยังไม่เจอไอ้ป๊อบเหรอ” ไอ้ภัทรที่เห็นผมยืนรอเพื่อนของมัน จึงเอ่ยถามขึ้น ผมจึงส่ายหน้าตอบไปเพราะตั้งแต่มาถึง
ผมก็ไม่เห็นวี่แววของป๊อบเลยสักนิด
“จะเป็นไปได้ยังกันเฮียเพราะเมื่อตอนครึ่งชั่วโมงก่อน หลังจากที่เราเลิกเรียนและภัทรขอตัวไปทำงานกับเพื่อนมันยังโทรมา
บอกเลยว่ามีธุระกับเฮีย ภัทรว่ามันชักแปลกๆแล้วนะเฮีย” ไอ้ภัทรพูดขึ้น ยิ่งเป็นการย้ำถึงลางสังหรณ์ของผมเพิ่มเข้าไปอีก
แต่ไม่ทันที่ผมจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้เสียงสัญญาณเตือนของข้อความจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
อยากได้ตัวคนสำคัญก็ต้องเอาตัวเองมาแลก มาคนเดียวเท่านั้น!
ทันทีที่ผมอ่านประโยคในข้อความจบ ผมก็เผลอกำโทรศัพท์ในมือแน่น จนนึกกลัวอยู่ว่าถ้ามันบอบบางกว่านี้มันคงได้แหลก
คามือของผมไปนานแล้ว ยิ่งตอนนี้ผมรู้ว่ามันเป็นใครถึงได้กล้าที่จะจับตัวป๊อบไปยิ่งทำให้เป็นการเพิ่มความโกรธของผมเข้าไปอีก
เท่าตัว ไอ้หมาลอบกัดเอ้ย!
“ไอ้ชาติชั่ว ถ้าป๊อบเป็นอะไรแม้แต่ปลายเล็บ ฉันยิงแกทิ้งแน่!!” ผมสบถอย่างหัวเสีย ก่อนที่ไอ้ภัทรจะบอกผมให้ใจเย็นๆ
ผมไม่ตอบคำถามที่ไอ้ภัทรพยายามถามผมทางสายตา แต่ผมเลี่ยงออกมาโดยการที่ขอตัวไปตามป๊อบกลับมาก่อน งานนี้ ถ้าป๊อบ
เป็นอะไรไปล่ะก็มึงได้ตายไม่ดีแน่!
ซ่า!!
แค่กๆๆๆๆ
ผมสำลักพร้อมกับลืมตาตื่นขึ้นทันทีที่ใบหน้าถูกความเย็นเข้ามากระทบเอา ก่อนที่จะปรับโฟกัสภาพและมองไปรอบๆห้องที่
ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ดูเหมือนจะเป็นโกดังล้างชัดๆ
“พวกแกต้องการอะไรกันแน่!!” ผมตะโกนถามอย่างเหลืออดเพราะตอนนี้ผมทั้งถูกจับมัดมือมัดเท้า แถมยังโดนน้ำสาดหน้า
และที่หนักไปกว่านั้น ผมโดนไอ้ผู้ชายสองคนเอาปืนจี้ที่มหาวิทยาลัยเพื่อพาผมมาที่นี่ ซึ่งผมเองก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ
“ต้องการให้คนที่มันเป็นเจ้าของของแกต้องเจ็บช้ำยังไงล่ะ หึ!” อีกคนพูดอย่างดูแคลน ก่อนจะเดินออกมาจากเงามืด ปรากฎ
ตัวให้ผมได้มองเห็นชัดๆว่าเขาคนนั้นเป็นใคร แต่ถึงจะมองเห็น ผมรับรองว่าผมไม่เคยรู้จักคนๆนี้มาก่อน
“ไม่ต้องทำหน้าสงสัยหรอก ฉันชื่อธีระเป็นเพื่อนเก่าของภาม คนที่เป็นแฟนกับแกยังไงล่ะ แต่ฉันเองก็ยังไม่นึกเหมือนกันว่า
หมอนั่นจะเอาคนอ่านง่ายแบบแกมาเป็นคนรัก เหอะ! น่าสมเพชสิ้นดี!” อีกคนว่า ก่อนจะมองผมด้วยสายตาเกรี้ยวกราด แต่ด้วย
อะไรก็ไม่รู้ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้านี้กับพี่ภาม เขาทั้งคู่ต้องมีความหลังที่ต้องเจ็บปวดด้วยกันทั้งคู่แน่ๆเพราะถึงแม้คำ
พูดของอีกคนจะดูเกรี้ยวกราด แต่แววตาที่สื่อออกมาเมื่อพูดถึงพี่ภามมันกลับดูวูบไหวชอบกล
“ก็ในเมื่อถ้าคุณต้องการให้พี่ภามเจ็บช้ำ ทำไมคุณถึงต้องเลือกผมด้วยล่ะเป็นไอ้ภัทรก็ได้ไม่ใช่เหรอไง” ผมถามออกไป
อีกคนจึงหัวเราะออกมา ก่อนจะก้มมองผมอย่างเหยียดๆ ซึ่งถ้าเป็นในตอนอื่นๆผมคงจะตอกกลับ แต่ครั้งนี้กลับมีเรื่องของพี่ภาม
เข้ามาเอี่ยวด้วยจึงทำให้ผมอยากจะรู้ว่าเขาสองคน ทำไมถึงได้เกลียดกันขนาดนี้
“มันไม่เหมือนกันหรอก ไอ้ภัทรมันก็เป็นแค่น้องชาย ส่วนแกมันเป็นหัวใจของภามยังไงล่ะ” เท่าที่ผมสังเกต พออีกคนพูดถึงพี่
ภามแววตาของเขามันดูสั่นๆและวูบไหวเล็กน้อยราวกับคนที่น้อยใจหรือเสียใจยังไงยังงั้น
“แล้วทำไมคุณต้องการที่จะทำลายหัวใจของพี่ภามด้วยล่ะ” ผมลองถามเลียบๆเคียงๆถามเผื่อจะได้คำตอบ
“ฉันว่าแกชักจะถามมากเกินไปแล้วนะ” อีกคนว่า ก่อนจะทำท่าเดินจากไป ผมจึงเรียกอีกคนรั้งเอาไว้ก่อนเพราะตอนนี้ผมต้อง
รู้ความจริงทุกอย่างให้ได้
“คุณธีระครับเดี๋ยวก่อนสิครับคุณ เรื่องของคุณกับพี่ภามเอ่อ.....”
“พอได้แล้วเลิกพูดเรื่องของเขาสักที ฉันไม่อยากฟัง!!” ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบเสียงของอีกคนก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน
“แต่ผมว่ามันถึงเวลาที่คุณกับผมต้องพูดถึงมันอีกครั้งแล้วล่ะ” เสียงปริศนาที่ดังขึ้นเรียกให้ผมกับคนที่เหลือหันไปมอง
ซึ่งก็พบเข้ากับคนที่ผมคุ้นเคยหรือรู้จักเป็นอย่างดี
“พี่ภาม!/ภาม!” เสียงของผมกับเสียงของคุณธีระดังขึ้นพร้อมกัน พี่ภามหันมามองผมเล็กน้อยและเมื่อเห็นว่าผมปลอดภัยดี
อีกคนจึงหันกลับไปมองคนตรงหน้า
“แต่สำหรับผม ผมไม่มีอะไรที่ต้องพูดแล้ว” คุณธีระว่า ก่อนจะเดินหลังหลังกลับออกไป แต่ก็ถูกพี่ภามคว้าข้อมมือเอาไว้เสีย
ก่อน ผมที่นั่งอยู่ในเหตุการณ์ก็ได้แต่นั่งเงียบและรอให้คนทั้งคู่ได้เล่าเรื่องราวความจริงในอดีตทั้งหมดออกมา
“เดี๋ยวก่อนสิครับคุณธีระ ไม่สิ ต้องเดี๋ยวก่อนสิครับ น้องอ้น!” พี่ภามว่า คุณธีระจึงตวัดสายตากลับมามอง แต่ถ้าผมเห็นไม่ผิด
ตอนนี้คุณธีระกำลังน้ำตาคลอหลังจากที่ได้ยินพี่ภามเรียอีกคนด้วยชื่อเล่นแบบนั้น
“น้องอ้นอย่างนั้นเหรอ เหอะ ขอโทษด้วยนะ น้องอ้นคนนั้นเขาได้ตายจากโลกนี้ไปตั้งนานแล้วล่ะเหลือเพียงแค่ ธีระ ธีรชา
นนท์เท่านั้น!” อีกคนตวาดลั่นพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ค่อยๆไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสาย พี่ภามจึงรวบตัวอีกคนเข้าไว้ในอ้อมกอด
ส่วนผมที่นั่งดูอยู่ก็ไม่ได้รู้สึกมีอาการหึงหวงอะไรหรอกนะเพียงแต่รู้สึกสงสารมากกว่า แต่ก็ไม่รู้สินะ ผมว่าตอนนี้คุณธีระดูน่าสงสาร
มาก
“ฮึก ทำไม ทำไมคนที่ ฮึก แม่พี่เลือก ฮือๆๆ ถึงไม่ใช่อ้น อึก ทำไมอ่ะ บอกอ้นทีสิว่าอ้นทำอะไรผิดอย่างงั้นเหรอ ฮือๆๆๆๆๆๆ”
คุณธีระร่ำไห้พร้อมกับทุบอกพี่ภามรัวๆ แถมยังมีแต่คำว่าทำไมๆออกมาจากปากอีกมากมาย ผมว่าในตอนนี้คุณธีระดูอ่อนแอ
เหมือนเขาต้องการใครสักคนไว้เป็นที่พึ่ง
“พี่ขอโทษ ถ้าตอนนั้นพี่หนักแน่นและเข้มแข็งพอ อ้นคงไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองถึงขนาดนี้ พี่ขอโทษนะอ้น พี่ขอโทษจริงๆ”
พี่ภามก็ได้แต่เอ่ยขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้กับคนที่กำลังซบอกของตัวเองร้องไห้อย่างหนัก จนตอนนี้คุณธีระที่ร้องไห้จนหมดสติ
ไปก็ถูกลูกน้องของพี่ภามพาไปส่งที่บ้าน ส่วนลูกน้องของคุณธีระก็ถูกพี่ภามจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว
“เป็นอะไรไหมครับป๊อบ” พี่ภามรีบเข้ามาแก้มัดให้ผม ผมจึงส่ายหน้าบอกว่าเรื่องแค่นี้ไกลหัวใจไม่ตายง่ายๆหรอก
“ป๊อบไม่เป็นอะไร แต่ป๊อบอยากจะรู้เรื่องของพี่กับคุณธีระมากกว่า” ผมบอก อีกคนถอนหายใจน้อยๆ ก่อนจะยกมือมาลูบหัว
ผมเบาๆ
“ได้สิ” แล้วพี่ภามก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผมฟัง
คุณธีระหรืออ้นเป็นรุ่นน้องในมหาวิทยาลัยเดียวกันกับพี่ภาม พี่อ้นเป็นคนน่ารัก จนเป็นที่หมายปองของใครหลายๆคน
แต่คนที่พี่อ้นเลือกคือพี่ภามแล้วหลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มคบกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งที่พี่อ้นเรียนจบ พี่ภามก็ตัดสินใจพาไปแนะนำให้
กับคนที่บ้านรู้จัก แต่แล้วอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ชีวิตรักของทั้งคู่ต้องจบลงนั่นคือ คุณหญิงแม่ ท่านเห็นว่าที่พี่ภามชอบพี่
อ้นเป็นเพราะพี่ภามยังอาจจะเป็นวัยรุ่นและรักสนุกจึงไม่คิดจริงจังกับใครและที่สำคัญตอนนั้นท่านยังรับเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลยสั่งให้
พี่ภามบอกเลิกกับพี่อ้น ตอนแรกพี่ภามขัดคำสั่ง แต่ท่านก็งัดไม้ตายว่า ถ้าหากพี่ภามไม่เลิกคบกับพี่อ้น ท่านก็จะให้พี่ภามแต่งงาน
กับลูกเพื่อนของท่านและส่งพี่ภามไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกและที่สำคัญท่านจะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดพี่อ้นให้ออกไปจากชีวิตพี่
ภามให้ได้ ในตอนนั้นพี่ภามกลัวว่าคุณแม่จะทำร้ายพี่อ้นจึงจำใจต้องตัดขาดจากความสัมพันธ์นั้นลง พี่อ้นเสียใจมากถึงจขั้นคิดฆ่า
ตัวตาย แต่พี่ภามก็ทำอะไรไม่ได้เพราะแค่หน้าพี่อ้นยังไม่อยากจะมองและจากนั้นไม่นานจากที่เคยเป็นคนรักกันก็ต้องกลายมาเป็น
ศัตรูต่อกัน
“น่าสงสารชีวิตพี่กับพี่อ้นจังเลยนะ” ผมบอกเพราะเท่าที่ฟังมาทั้งคู่ก็ดูรักกันดี แต่มีอุปสรรคคือคุณหญิงแม่ที่คอยจัดขวาง
“นั่นมันคืออดีตที่ผ่านไปแล้ว ต่อให้พี่จะรักอ้นมากแค่ไหนหรืออ้นจะยังรักพี่อยู่ ยังไงซะเราทั้งคู่ก็กลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีต
ไม่ได้” พี่ภามว่า ซึ่งก็ทำให้ผมนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่เดือนมานี้
“ว่าแต่ว่าใครกันที่เป็นคนลอบทำร้ายพี่ คงไม่ใช่พี่อ้นหรอกนะ” เพราะผมเชื่อว่าไม่น่าจะใช่พี่อ้นเพราะพี่อ้นคงไม่คิดที่จะ
ทำร้ายพี่ภามหรอก
“อืม ไม่ใช่อ้นหรอก แต่เป็นคู่แข่งอีกคนน่ะ เอาเป็นว่าตอนนี้ก็ปลอดภัยแล้วนะเรื่องราวทุกอย่างก็จบลงแล้ว” พี่ภามว่า ก่อนที่
จะดึงผมเข้าไปสวมกอด ผมจึงกอดตอบอีกคน มันเป็นการส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดที่มี ทั้งรัก ทั้งคิดถึง ทั้งโหยหา ทั้งให้กำลังใจ
และอื่นๆอีกมากมาย
“พี่อาจจะเคยทำเรื่องผิดพลาดในอดีต แต่พี่ก็อยากจะบอกให้ป๊อบรู้ไว้ ว่าในตอนนี้พี่จะไม่ยอมให้มันเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
แบบนั้นอีกครั้ง พี่สัญญานะครับ” พี่ภามว่า ผมจึงกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเหมือนเป็นการตกลงและเชื่อใจในคำสัญญานั้น
ป๊อบเชื่อครับ ว่าพี่จะไม่ทำให้ป๊อบต้องเสียใจ
ตอนนี้รู้สึกเกินขาดกับพี่ภามและคุณธีระหรือน้องอ้นของพี่ภามเมื่ออดีต ใครที่อ่านตอนนี้จบแล้วคงได้มีสงสารน้องอ้นกันบ้างแหละ
นะ ขนาดดีสเองดีสยังสงสารเลย 55 ส่วนเรื่องที่เคยเดาๆกันก็มีคนเดาถูกในความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนะคะ แต่ก็ยังเดาผิดอีก
หนึ่งเรื่องคือคนที่ลอบทำร้ายพี่ภามไม่ใช่น้องอ้นของเรา อีกไม่กี่ตอนคุณสะใภ้ที่รักก็จบแล้ว ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะคะที่คอย
ติดตามเรื่องนี้กันมาตลอด ไว้พบกันใหม่ในตอนหน้าคร้าาาา