บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)  (อ่าน 910710 ครั้ง)

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
เอาอีกๆ ต่อบ่อยๆแบบนี้ชอบจัง ได้อ่านทุกวันเลย  :กอด1:

totoken

  • บุคคลทั่วไป
เอาอีกๆ ต่อบ่อยๆแบบนี้ชอบจัง ได้อ่านทุกวันเลย  :กอด1:

พยายามมาต่อให้ทุกวันนะครับ เพราะคิดเนื้อเรื่องไว้ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างจะยาว กว่าจะจบสงสัยได้เป็นร้อยตอน

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3


ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
พ่อที่ไม่เคยดูแลกฤษ ในที่สุดก็กลับมาพร้อมภาระอันใหญ่ยิ่ง เห้อ น่าสงสารกฤษของน้องหยกจริงๆ

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
อย่าบอกนะว่าเป็นพี่น้องกัน โหย..ดราม่ามากๆเลยอ่ะ

ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
ทำไมพ่อพี่กฤษเป็นแบบนี้เนี่ย ไม่เลี้ยงดู แล้วยังหาหนี้มาให้อีก มันน่า  :z6: :z6: :z6:


totoken

  • บุคคลทั่วไป
ผู้อ่านที่น่ารักของผมครับ ดึกๆ คืนนี้ผมจะลงให้หนึ่งตอนก่อนนะครับ พอดีวันนี้มีนัดเยอะไปหน่อยครับ

จริงๆ กะว่าจะอยู่บ้านปั่นนิยายมาลงตอนต่อไปไม่ออกไปไหน แต่ก็ออกไปหลายที่เสียเพลินเลย

ผมกำลังปั่นนิยายข้ามปีให้ท่านผู้อ่านที่น่ารักของผมอ่านอย่างน้อยวันละหนึ่งตอนนะครับ

ถ้าคืนไหนผมไม่ได้ลงนิยาย วันต่อๆ ไปผมจะลงทบต้นทบดอกให้ได้อ่านกันแน่นอนครับ สัญญาครับ

 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:


ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย
จงดลบันดาลให้ผู้อ่านทุกท่านใน ThAiBoYsLoVE และครอบครัว
มีสุขภาพแข็งแรง มีหน้าที่การงานการเรียนที่ดีขึ้น
คิดสิ่งใดขอให้ท่านสมปราถนา โดยเฉพาะความรัก
พบแต่ความสุข ความเจริญตลอดไปเทอญ

 :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 15 “กรหยก”
«ตอบ #98 เมื่อ01-01-2012 00:01:42 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 15 “กรหยก”
เมื่อเจ็บใจก็ร้องไห้ ออกมา เมื่อเธอต้องเหลือเพียง แค่น้ำตา ให้น้ำตาเป็นที่พึ่งสุดท้าย ปล่อยให้มันไหลลงมาอย่าเก็บไว้ จงร้องไป ให้มันจำว่าเคยช้ำใจเท่าไหร่ ให้น้ำตาเตือนหัวใจ ไม่มีใคร แต่อย่างน้อยมีน้ำตาคอยปลอบใจ จำเอาไว้

          “พี่กฤษไหวจริงๆ นะครับ หยกว่าพี่กฤษไปหาหมอก่อนดีกว่านะครับ...เชื่อหยกเถอะครับ...นะ...พี่กฤษ” หลังจากเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายเรียบร้อยแล้ว พี่กฤษไม่สนใจรูปคุณพ่อที่ไอ้หน้าโหดมันปาใส่หน้าพี่กฤษ แต่ผมกลับแอบรูปใบนั้นมาใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเองไว้ไม่ให้พี่กฤษเห็น

          ผมได้แต่เฝ้าอ้อนวอนพี่กฤษด้วยความเป็นกังวล พยายามขอร้องให้พี่กฤษไปหาหมอเพื่อดูอาการและทำแผลก่อน แต่พี่กฤษกลับไม่สนใจ แล้วยังขับรถมอเตอไซด์พาผมมาที่วัดเล็กๆ แห่งหนึ่งใกล้บ้านของพี่กฤษ ถ้าเทียบกับวัดอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในละแวกนี้ พี่กฤษหยุดมองหน้าผมนิ่งแล้วจูงมือผมเดินเข้าไปที่โบสถ์ใจกลางวัด

           “พี่ยังไม่อยากรีบกลับบ้าน ถ้ากลับไปตอนนี้กลัวตากับยายเห็นสภาพพี่แล้วจะเป็นห่วง” พูดได้แค่นั้นแล้วพี่กฤษก็เงียบไปตลอดทาง ระหว่างเดินเคียงกันไปพี่กฤษไม่พูดไม่จาอะไรอีกเลย ทำให้ผมรู้สึกอ่อนใจที่จะอ้อนวอน แล้วตอนนี้สีหน้าของพี่กฤษก็ดูไม่มีอาการเจ็บปวดอะไรอีกแล้ว แต่ยังมีแผลอยู่บนใบหน้านี่สิ และรอยช้ำเขียวอมม่วงก็เริ่มปรากฏขึ้นให้เห็นอย่างชัดเจน

          เรามาถึงโบสถ์ก็จุดธูปเทียนไหว้พระ เสร็จแล้วพี่กฤษก็หยิบธูปออกมาจุดอีกสองดอก แล้วก็จูงมือพาผมเดินออกมาถึงที่ริมกำแพงวัดด้านหลัง เราสองคนไปหยุดยืนตรงหน้ารูปใครคนหนึ่งซึ่งผมจำได้ว่าเป็นแม่ของพี่กฤษ เพราะเคยเห็นจากที่บ้าน เรานั่งคุกเข่าลงไหว้แล้วปักธูปลงคนละดอก

           “แม่ครับ...ผมพาคนรักของผมมาไหว้แม่นะครับ” ผมรีบหันไปมองหน้าพี่กฤษด้วยความตะลึงอึ้ง พูดไม่ออกจนได้แต่มองหน้าพี่กฤษค้างไว้อย่างนั้น

           “ผมไม่เคยพาใครมาหาแม่เลย น้องหยกเป็นคนแรกที่ผมมั่นใจว่าเค้ารักผมจริงๆ และเค้าก็ไม่รังเกียจครอบครัวของเรา...แม่ครับ...แม้ว่าน้องหยกจะเป็นผู้ชาย แต่...ผมไม่เคยมีใครหรือผู้หญิงคนไหนที่รักผมอย่างจริงใจ บ้างแสดงความรังเกียจทันทีที่เห็นสภาพบ้านของเรา บ้างก็ไม่ชอบคุณตาคุณยาย บ้างก็ทนสภาพความเป็นอยู่ของเราไม่ได้...จนผมมั่นใจครับว่ามีแต่น้องหยกที่รักผมจากใจจริง...แม้ว่าเราจะเพิ่งเคยได้เจอกัน แต่...ผมรู้สึกมีความผูกพันบางอย่างที่บอกไม่ถูกเลยครับแม่ ยิ่งตอนนี้...ผมมั่นใจว่าน้องหยกคือคนที่ผมรอมานาน ตอนนี้ผมเจอแล้วครับ” พี่กฤษพูดถึงช่วงท้ายก็หันมาสบตาแล้วกุมมือผมไว้ จนผมเขินแล้วแสร้งหันไปมองรูปของคุณแม่พี่กฤษแทน

           “หยกบอกแม่ทิพย์ของพี่สิ ว่าหยกรักพี่จริงไหม เหมือนที่หยกบอกพี่ทุกวันไง” คุณแม่พี่กฤษชื่อพรทิพย์ อิทธิภูมิบุญ ผมเรียกท่านว่าแม่ทิพย์แล้วกัน ผมไม่กล้าพูดออกเสียงหรอกครับ ได้แต่พนมมือก้มหน้าขอโทษที่ทำให้ลูกชายเค้าต้องมารักกับผู้ชายด้วยกัน

          แม่ทิพย์ครับผมสัญญาว่าผมจะรักพี่กฤษไปตลอด และผมก็ยังไม่เคยมีความรักกับรักใครเท่ากับพี่กฤษมาก่อน อนาคตผมอยากจะชวนพี่กฤษไปเรียนทำอาหารที่อเมริกา แล้วเราจะกลับเปิดร้านอาหารช่วยกันดูแลคุณตาคุณยาย นี่คือความฝันในอนาคตของผมที่คิดได้ในตอนนี้

           “ทำไมไม่คุยกับแม่ให้พี่ได้ยินบ้างละครับ ทีพี่ยังคุยกับแม่พี่ให้เมียได้ยินทุกคำเลยนะ...แล้วน้องหยกจะไม่คุยกับแม่ ให้ผัวคนนี้ได้ยินบ้างเหรอครับ” พี่กฤษเอียงใบหน้ากรุ่มกริ่มอมยิ้มล้อเลียนมาถามผม

          นี่ถ้าไม่ติดว่าคนพูดกำลังเจ็บตัวอยู่ ผมอยากจะทุบเข้าให้จริงๆ คนอะไรทะเล้นได้ทุกเวลาทั้งที่ยังเจ็บตัวอยู่แท้ๆ ผมได้แต่ค้อนใส่คนทะลึ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ เรื่องอะไรจะบอกให้พี่กฤษรู้ว่าผมขอโทษคุณแม่ที่ดันบุกเข้าไปปล้ำลูกชายเค้าถึงในบ้านกันล่ะ

           “ไม่บอกหรอก ปล่อยให้งงต่อไป” พูดจบแล้วผมก็รีบลุกเดินไปที่ศาลาท่าน้ำตรงท้ายวัด พี่กฤษยังคงพนมมือไหว้ที่รูปคุณแม่ตรงริมกำแพง ผมอยากให้คนเป็นลูกเค้าได้ระบายความในใจส่วนตัวกับแม่ตามลำพัง ผมนั่งเล่นที่ศาลาท่าน้ำเพียงสักครู่ พี่กฤษก็เดินตามผมมานั่งข้างกันที่ศาลา เรานั่งกุมมือกันเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรแล้วมองทอดสายตาออกไปยังสายน้ำย่างไร้จุดหมาย ผมไม่รู้ว่าพี่กฤษกำลังคิดอะไรอยู่

           “หยกรู้ไหม พี่ไม่อยากเรียกมันว่าพ่อเลย” อยู่ๆ คนข้างๆ ผมก็เอ่ยถึงคนเป็นพ่อด้วยสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าว ผมสะอึกในคำพูดของพี่กฤษ ทำไม...พี่กฤษถึงพูดจาแบบนั้นออกมา

           “พี่กฤษอย่าเรียกพ่อแบบนั้นสิครับ หยกรู้สึกไม่ดีเลย” ผมหันมามองหน้าพี่กฤษที่ก้มหน้ามองตักตัวเอง แล้วใช้มือข้างซ้ายของผมพยายามออกแรงบีบกระชับมือพี่กฤษที่กำลังกุมมือขวาผมอยู่ให้แน่นขึ้น

           “หยก...ฮึก...อือ...หยกไม่รู้หรอกว่ามันทำอะไรกับแม่แล้วก็พี่ไว้บ้าง...พี่จะดีใจเสียกว่า ถ้าไอ้คนชั่วพวกนั้นมันมาบอกพี่ว่า มันฆ่าพ่อตายไปแล้ว...แล้ว...ให้พี่ใช้หนี้แทน” ผมตกใจที่พี่กฤษอยู่ดีๆ ก็ร้องไห้โฮออกมา ในใจผมรู้สึกโหวงเหวงกับคำพูดของคนรักที่นั่งอยู่ข้างๆ เหลือเกิน อดีตของเค้าคงเจ็บปวดมามาก ผมไม่รู้จะปลอบยังไง ได้แต่เงียบแล้วเอื้อมมือไปปาดน้ำตาที่ร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง

           “ตาเล่าให้พี่ฟัง ว่ามันข่มขืนแม่พี่จนตั้งท้อง...อึก...ฮือ....จนแม่ของพี่ได้แต่อับอายชาวบ้าน ที่เรียนหนังสือยังไม่ทันจบมอปลายก็ท้องป่อง ต้องโดนไล่ออกมาเลี้ยงลูกที่เพิ่งคลอด ทั้งที่อายุแม่ยังน้อย ตากับยายก็ได้แต่เสียใจทุกวัน...ฮื่อ...ฮือ” พี่กฤษเล่าไปยังคงร้องไห้ไป

          สถานการณ์ดูแย่จนผมไม่รู้จะปลอบยังไง จึงใช้มือปาดน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหมดไปง่ายๆ ผมเอื้อมมือไปโน้มหัวพี่กฤษลงมาหนุนลงบนตัวของผมเอง แล้วลูบผมพี่กฤษอย่างเบามือ เรื่องมันน่ารันทดจนพี่กฤษไม่อยากพูดถึงนี่เอง ถึงได้ไม่มีรูปของพ่อ แล้วคงไม่อยากพูดเรื่องแล้วร้ายแบบนี้ให้ใครได้ฟังอีก

           “ฮึก...เท่านั้นยังไม่พอใจมัน ยายพี่บอกว่า...มันยังหน้าด้านมาประกาศตัวว่าเป็นผัวของแม่พี่ แล้วมาอาศัยอยู่ที่บ้านแม่พี่อีก...ตาพี่บอกว่าแม่ไม่รักดี ที่ยอมเป็นเบี้ยล่างมัน...ฮือ...ฮึ...ตาจะแจ้งความให้ตำรวจจับ แต่แม่พี่ขอเอาไว้ มันไม่ช่วยทำมาหากินอะไร แถมยังมาไถเงินที่แม่ไปทำงานหามา เอาไปกินเหล้าเล่นการพนันอีก พอเป็นหนี้เป็นสินก็มาขโมยเงินทองที่ตากับยายสะสมไว้ไปขายเอาเงินไปใช้หนี้ ที่เหลือก็เอาไปกินเหล้า...ฮือ...ฮือ” ผมอยากให้พี่กฤษหยุดเล่าเรื่องราวในอดีต เพราะดูเหมือนยิ่งเล่าพี่กฤษก็ยิ่งร้องไห้ไม่หยุด

           “ที่แย่ที่สุด...ฮือ...พอแม่พี่อายุครบสิบแปด มันหลอกให้แม่พี่ไปจดทะเบียนสมรส...ฮือออ...อึก...แล้วมันหลอกให้...ให้ตาโอนที่ดินให้แม่...ฮือออ...ฮึก....แล้ว...แล้วมัน ก็เอาที่ไปขายใช้หนี้...โฮ....ฮือออ...ฮือ...ที่ดินที่ตาได้จากทวดเป็นมรดก ที่ดินที่บรรพบุรุษทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวมาตลอด...ไอ้...มัน...ฮือออ...พี่ จะเรียกมันว่าอะไรดี...หยกจะให้พี่เรียกคนอย่างมันว่า...ว่า...พ่อได้ลงเหรอ...โฮ....ฮือ” พี่กฤษถึงกับปล่อยโฮเสียงดังออกมาอย่างไม่อายเมื่อเล่าเรื่องราวมาถึงจุดนี้

          ตอนนี้ผมใจสั่นไปหมดแล้ว เพราะคนตรงหน้าผมเหมือนคนที่เก็บกด เหมือนเค้าไม่เคยร้องไห้มาก่อนในชีวิต ทำไมพี่กฤษถึงร้องไห้จนตัวสั่นได้ขนาดนี้...ผมจะทำยังไงดี...น้ำตาผมไหลพรากออกมาเต็มใบหน้าตัวเอง ผมไม่รู้ว่าจะปลอบคนรักของผมยังไงดี ผมร้องไห้ตามพี่กฤษที่ฟูมฟายอยู่บนตักผม ผมได้แต่บีบมือพี่กฤษด้วยอยากให้รู้ ว่าผมพร้อมจะแบ่งเบาความเจ็บปวดที่พี่กฤษได้รับมาตลอดชีวิต ผมพร้อมจะลำบากไปกับเค้า ผมพร้อมจะดูแลครอบครัวเค้า

          ขอเพียงคนที่นอนอยู่บนตักผม...คนรักของผมคนนี้หายเจ็บปวด หรือลืมเรื่องราวอันเลวร้ายในชีวิต แล้วกลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด

           “ร้องไห้ออกมาให้พอเลยครับพี่กฤษ ร้องออกมา...แล้วลืมมันซะ...ฮือออ...เสียใจให้พอ...แล้วอย่าไปนึกถึงมันอีกเลยนะครับ” ผมฟูมฟายออกมา เพราะทนเห็นสภาพของคนตรงหน้าไม่ไหว แค่ได้ฟังผมก็เจ็บปวดเหลือเกิน แล้วคนที่ต้องเจอเรื่องราวต้องประสบเหตุการณ์จริงล่ะ เค้าทนมาได้อย่างไรกัน

          ผมสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ถามเรื่องราวในอดีตของพี่กฤษอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแม่พี่กฤษที่เป็นบ้าได้อย่างไร แล้วเสียชีวิตเพราะอะไร ผมจะถือเสียว่าขอให้ปัจจุบันนี้ผมมาเจอและได้อยู่กับพี่กฤษ เพียงเท่านี้ผมก็พอใจและมีความสุขดีอยู่แล้ว

          ผมนั่งปลอบใจคนที่นอนหนุนอยู่บนตักผม คอยช่วยซับน้ำตาและลูบเส้นผมปลอบโยนไปเรื่อยๆ เรานั่งปลอบใจกันโดยปราศจากคำพูดจนกระทั่งเย็น พระอาทิตย์เริ่มจะลาลับขอบฟ้าเป็นแสงสีส้มอมทองเรืองรองอยู่ปลายสายน้ำ สวยงามเหลือเกิน เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงจนจิตใจผมและพี่กฤษตอนนี้สงบลงไปมาก

           “ปะ...เรากลับบ้านของเรากันเถอะ” พี่กฤษที่นอนเงียบน้ำตาไหลจนเหือดแห้งไปแล้วพูดเบาๆ แล้วลุกขึ้นมานั่งข้างผม ตอนนี้เหน็บกินขาผมจนลุกขึ้นยืนเลยทันทีไม่ได้ ผมจึงกุมมือพี่กฤษที่ยังนั่งอยู่ข้างตัวผมไว้สักครู่พร้อมนิ่วหน้า เพราะตอนนี้ความปวดซ่าแล่นไปตามขาทั้งสองข้างของผมจนรู้สึกชาไปหมด ผมใช้มืออีกข้างนวดไปตามน่องเพื่อระบายความปวดชา

           “เหน็บกินเหรอ” พี่กฤษที่เห็นอาการผมแล้วทำหน้าตื่นถามผมขึ้นมา แต่ผมกลับส่ายหน้าแล้วยิ้มตอบให้รู้ว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก

           “มานี่...ให้พี่อุ้มหยกกลับบ้านดีไหม” พี่กฤษลุกขึ้นยืนแล้วก้มตัวลงมากางแขนสองข้างทำท่าจะอุ้มผมขึ้นมาจริงๆ จนผมตกใจเผลอผงะตัวถอยห่างออกมา

           “จะบ้าเหรอพี่กฤษ...อายคนเค้าตายเลย” ผมตอบอย่างรวดเร็ว สงสัยตอนนี้หน้าผมคงแดงจัดเพราะเริ่มรู้สึกอายจนร้อนไปทั้งใบหน้าอีกแล้ว

           “ฮ่าๆๆ พี่ล้อเล่นน่า...มานี่...ให้พี่นวดขาให้นะ” พี่กฤษก้มตัวลงมาบีบนวดไปตามน่องและขาผมไปมาทั้งสองข้าง เพียงสักครู่อาการปวดชาค่อนข้างทุเลาบรรเทาความเจ็บปวดลง คนอะไรไม่รู้เปลี่ยนโหมดได้อย่างรวดเร็ว เมื่อกี้ยังเศร้าปานจะขาดใจ ตอนนี้มาทำทะลึ่งใส่ผมอีกแล้วจนผมได้แต่ขำตามไปด้วย

          เราสองคนเดินตามกันออกมาขึ้นรถมอเตอไซด์คันเก่าของพี่กฤษกลับบ้านกัน ผมกอดเอวซบตัวลงแนบที่แผ่นหลังกว้างคนตรงหน้าที่กำลังบิดรถมอเตอไซด์ด้วยความรู้สึกสุขใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2012 01:11:55 โดย AxCiO@ToToKeN »

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
ชีวิตรัดทดจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

wolfram

  • บุคคลทั่วไป
หยกคือคนที่พี่กฤษรอมานาน...

แต่ก็ต้องรออีกนานจนกว่ามาม่าจะหมด!!  :laugh:

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสารพระเอกของเราจริง ชีวิต

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
สวัสดีปีใหม่ AxCiO@ToToKeN ขอให้มีความสุขตลอดปี
----------------------------------------------------------------

พี่กฤษพระเอกเราชีวิตรันทด อะไรจะขนาดนั้น

chai235

  • บุคคลทั่วไป
เอิ่ม ชีวิตรันทดมากอ่ะ

อ่านๆแล้วเอาชีวิตกฤษมาเทียบกับตัวเอง รู้สึกว่าผมนี่ใช้ตังค์เป็นเบี้ยเลย  :sad4:

ตอนนี้จะจ่ายตังค์ก็เริ่มคิดละ รู้สึกว่าตัวเอง  :angry2: "เลว" ไงไม่รู้ ใช้เงินไม่คิด ยิ่งตอนยายเย็บเสื้อให้ตา มาเทียบกับตู้เสื้อผ้าผม เต็มซะจนล้น

เรื่องนี้ดีมากๆครับ สอนชีวิตด้วย อยากให้กฤษ มีชีวิตที่ดีขึ้นครับ เอาใจช่วยกฤษ  :monkeysad:

มาต่อบ่อยๆนะครับ จะติดตามไปเรื่อยๆครับ ขอบคุณที่นำเสนอเรื่องดีๆครับ

ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
ไม่อยู่กลับมาแป็บเดียว ตามอ่านกว่าจิทัน
Happy New Year อีกรอบค้า ^    ^
อย่าลืมไปเที่ยวเพลิน ไม่กลับมาลงนิยายให้คนอ่านบ้างน้า
เดี๋ยวคนอ่านจะเหงาในวันปีใหม่  o13 :L2:

อ่านแล้วสงสารพี่กฤษอ่ะ T^T

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 16 “กรหยก”
«ตอบ #107 เมื่อ01-01-2012 19:37:11 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 16 “กรหยก”
หรือว่ามันคือพรหมลิขิต ที่ใครมาขีดไว้ แต่ก็ทำให้หัวใจ ได้ใช้รักใครสักคน บนโลกนี้ มีคนอยู่เป็นร้อยล้านคน แต่วนมาได้พบเธอ ความบังเอิญ เปลี่ยนชีวิตฉันไปแค่แรกเจอ ที่พบเธอ ก็เหมือนเจอทุกสิ่ง และเพราะเธอ คือสิ่งที่ฉันรอ

          กว่าเราสองคนจะกลับเข้าบ้านพี่กฤษก็เป็นเวลาที่คุณตากับคุณยายเข้านอนแล้ว ทางจากวัดไม่ได้ไกล เพียงเราแวะซื้อยาและอุปกรณ์ทำแผลที่ร้านขายยาแถวบ้านเข้ามาด้วย ผมกับพี่กฤษรีบไปอาบน้ำแล้วกลับขึ้นมาในห้องนอน เพื่อให้ผมช่วยทำแผลให้พี่กฤษ

           “พี่กฤษเจ็บมากไหมครับ” ผมพยายามใช้สำลีเช็ดแผลด้วยแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อโรคแล้วทาเบตาดีนบนแผลสด ตามใบหน้าของพี่กฤษอย่างเบามือที่สุด

           “ถ้าเป็นเพื่อก่อนพี่คงจะเจ็บมาก เพราะมันเจ็บทั้งกายทั้งใจ แต่ตอนนี้พี่เจ็บแค่กาย...แต่ใจพี่มีความสุขที่สุดเลยหยกรู้ไหม” พี่กฤษทำซึ้งด้วยการจับมือผมที่กำลังทำแผลขึ้นมาแนบกับแก้มตัวเอง แล้วทำตาหวานซึ้งใส่จนผมอายม้วนไปเลย

           “เจ็บตัวขนาดนี้ยังจะมีหน้ามาพูดเล่นอีก” ผมอยากจะแกล้งพี่กฤษด้วยการทำแผลให้แรงขึ้น จะได้เจ็บซะบ้าง แต่ทำไม่ลงจริงๆ ได้แต่บ่นแก้เขินไปอย่างนั้น

           “หยก...อย่าทิ้งพี่ไปนะ ถ้าวันหนึ่งตากับยายไม่อยู่กับพี่แล้ว...พี่ก็จะไม่เหลือใครอีกแล้ว” อยู่ๆ พี่กฤษก็พูดะไรเป็นลางไม่ดีขึ้นมา แถมยังทำหน้าเศร้าน้ำตาซึมจนผมต้องนิ่งอึ้งไปกับคำพูดของเค้า

           “พี่กฤษ...ทำไมพูดอะไรไม่ดีแบบนี้” ผมต่อว่าเบาๆ เพราะไม่อยากให้พี่กฤษต้องคิดมากอีก

           “ตากับยายแก่มากแล้ว พี่ไม่รู้ว่าท่านจะอยู่กับพี่ได้อีกนานแค่ไหน เมื่อก่อนตอนที่แม่พี่เสียใหม่ๆ พี่คิดว่ายังโชคดีที่รู้ว่าพ่อยังมีชีวิตอยู่...แต่...แต่ตอนนี” พี่กฤษน้ำตาไหลลงมาอาบแก้มอีกแล้ว เสียงแหบแห้งของพี่กฤษพลอยทำให้ผมใจหายวาบ ต้องรีบยกมือขึ้นมาเกลี่ยหยดน้ำตาออกจากใบหน้าให้คนรัก

           “ตอนนี้...พอพี่รู้ความจริง...แล้ว ยังต้องมารับกรรมที่มันสร้างทิ้งไว้ให้พี่ไม่จบไม่สิ้น...พี่ไม่เคยคิดว่ามันเป็นพ่อของพี่อีกแล้ว...พี่...มีเหลือแต่ตัว...เมื่อก่อนพอพี่สะสมเงินทองมาได้เท่าไร ก็ต้องโดนเจ้าหนี้มันมาไถไปหมด...จนพี่ไม่เหลืออะไรเลย...ทำ...มาเท่าไร สะสมไว้มากแค่ไหน...ก็ต้องเอามาใช้หนี้ที่พี่ไม่เคยสร้างไว้...ฮึก...ตอนนั้นพี่คิดเสียว่าทดแทนบุญคุณ ที่...มันทำให้พี่ได้เกิดมาบนโลก...แต่...พี่มาคิดดูดีๆ แล้ว มันไม่น่าทำให้พี่เกิดมาเลยมากกว่า...ฮือออ” พี่กฤษปล่อยโฮออกมาอีกแล้ว ผมรีบดึงตัวคนตัวใหญ่ตรงหน้าเข้ามากอดลูบหน้าลูบหลังปลอบโยน

           “พี่กฤษต้องไม่อ่อนแอนะครับ...พี่กฤษต้องเข้มแข็งรู้ไหม ตอนนี้พี่กฤษเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว ต้องเลี้ยงดูตากับยายอีกนะครับ” ผมพลอยน้ำตาไหลตามไปด้วย รู้สึกสงสารว่าทำไมคนตรงหน้าผมเจอเรื่องราวร้ายกาจมาทั้งชีวิต ทำไมเค้าถึงได้น่าสงสารมากขนาดนี้

           “พี่...พี่ไม่เหลือเรี่ยวแรงอะไร อีกแล้ว...พี่เหนื่อย อยากหนีไปให้ไกลจากที่นี่ พี่เคยคิดอยากทิ้งทุกอย่างเอาไว้แล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่...พี่ทำไมลง...พี่ทิ้งตากับยายไปไม่ได้...ตาไม่ยอมทิ้งที่นี่ไป...ตาอยากได้ที่ดินผืนนี้คืนกลับมา...เพราะมันเป็นมรดกของตาที่ทวดให้มา ตาบอกว่า...ถ้าตายไปคงไม่กล้าพบหน้าบรรพบุรุษ...ตาจะเป็นคนอกตัญญูไม่ได้” พี่กฤษยังคงน้ำตานองหน้า ซบลงบนอกผม

           “พี่กฤษครับ...หยกจะขายที่ดินที่ป๊าให้มา แล้วเอาเงินไปซื้อที่ตรงนี้คืนดีไหมครับ” ผมนึกเรื่องของตัวเองได้ก็รีบเสนอคนรักไป ตอนนี้ผมคิดว่าผมช่วยได้เท่านี้ดีที่สุดแล้ว

           “ที่ดินของพ่อหยกให้มาไม่ใช่เหรอ พี่รับไม่ได้หรอกถ้าหยกจะทำแบบนั้น พี่เป็นลูกผู้ชาย...พี่จะต้องช่วยตาหาทางเอาที่ดินผืนนี้คืนมาด้วยตัวเองให้ได้ หยกเก็บมรดกของพ่อเอาไว้เถอะ” พี่กฤษเงยหน้าสบตาผมแล้วยิ้มให้ คำพูดจากคนรักของผมช่างแสดงออกถึงความกตัญญูและเป็นคนดีเหลือเกิน ผมคิดว่าโชคดีที่สุดและไม่เสียแรงที่หลงรักคนตรงหน้าคนนี้

           “หยกบอกพี่ตั้งแต่วันแรกแล้วไง ที่หยกมาที่นี่เพราะตั้งใจจะยกที่ดินของป๊าให้คนที่เช่าอยู่ หยกไม่อยากได้มันไว้ คุณป้าบอกหยกว่าป๊ากับม๊าไม่เคยได้สนใจที่ดินตรงนี้เลย อากง...เอ่อ...ปู่ของหยกเค้ายกที่ให้ป๊ามาเพราะเป็นที่ดินของเพื่อนป๊ามาฝากจำนองไว้” ผมพยายามเล่าความตั้งใจเพื่อให้คนรักสบายใจ

           “ขอบใจหยกมากจริงๆ แต่ถึงยังไงพี่ก็ไม่รับนะครับ...แล้วที่ดินมันอยู่ตรงไหนล่ะหยก” คนรักของผมหยุดร้องไห้ไปแล้ว ลุกขึ้นมานั่งคุยกับผมอย่างจริงจัง ผมจึงลุกขึ้นไปหยิบเอกสารจากกระเป๋าเป้มาให้พี่กฤษดู

           “หยก...นี่มันที่ดินบ้านพี่นี่นา...ทำไม...เอ่อ...ถึง...ยังไงล่ะครับ” พี่กฤษทำตาโตโพล่งออกมาเสียงดังจนผมตกใจ

           “หยก...ไม่รู้” ผมกำลังงงเพราะอะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ พี่กฤษจ้องหน้าผมตาโตค้างอย่างนั้นจนผมรู้สึกแปลกๆ

           “ป้าบอกว่าเพื่อนป๊าเอามาขายให้อากง แล้วป๊าขอไว้ว่าให้เค้าเช่าอยู่ต่อในราคาถูก เอ่อ...หยกรู้มาแค่นี้เองครับ” ผมกำลังจับต้นชนปลายแล้วรีบเล่าเรื่องราวเท่าที่รู้ให้พี่กฤษฟัง

           “หยก...พรุ่งนี้เราค่อยไปบอกตากับยายกัน แล้วค่อยคิดว่าจะเอายังไงต่อไปดี ตอนนี้นอนกันก่อนเถอะ พี่...เอ่อ...เหนื่อยแล้ว” พี่กฤษเหมือนจะยังงงไปกับผม เราเก็บอุปกรณ์ทำแผลแล้วจัดที่นอนกางมุ้งแล้วเดินไปปิดไฟล้มตัวลงนอนในอ้อมกอดของกันและกัน

           “พี่...เอ่อ...พ่อพี่เอาที่ดินไปขายให้ปู่ของหยก...แสดงว่าพ่อหยกเป็นเพื่อนกับพ่อพี่เหรอ” พี่กฤษที่กอดผมอาไว้อยู่ถามผมเบาๆ ในความมืด

           “ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นล่ะครับ...หยกก็ไม่แน่ใจครับพี่กฤษ พรุ่งนี้หยกจะโทรศัพท์ไปถามป้าดูอีกทีแล้วกันครับ” ผมตอบอย่างไม่รู้จริงๆ เพราะจำความได้พ่อกับแม่ผมก็พาผมไปอยู่กับป้าที่อเมริกาแล้ว แถมพ่อกับแม่ผมไม่ค่อยได้อยู่บ้านเสียด้วย กลับออกไปเที่ยวตะลอนอยู่ข้างนอกได้ทุกคืน ทิ้งให้คุณลุงกับคุณป้าเป็นคนดูแลผมจนถึงวันที่เกิดอุบัติเหตุเพราะเมาเหล้าขับรถออกจากผับ

           “งั้นคืนนี้นอนกันนะคนดีของพี่...วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” พี่กฤษก้มลงมาจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากของผมแล้วก็เลื่อลงมาหอมแก้ม สุดท้ายก็จูบลงบนริมฝีปากผมแล้วแทรกลิ้นอุ่นร้อนเข้ามาในปากผม เราสัมผัสริมฝีปากเกี่ยวตวัดลิ้นของกันและกัน สักพักพี่กฤษก็ผละตัวออกจ้องตาผมเพียงครู่เดียวก็ดึงตัวผมเข้าไปซบอยู่ในอ้อมกอด แล้วเราทั้งคู่ก็หลับไปด้วยความอบอุ่นของอ้อมกอดของกันและกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2012 01:15:30 โดย AxCiO@ToToKeN »

ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
นี่เองที่เป็นสาเหตุให้กฤษไม่อยากพูดถึงพ่อ ก็สมควรที่จะไม่อยากพูดถึงอยู่หรอก   :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ปล. Happy new year นะค่ะ  :กอด1:

totoken

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้พยายามทำสต็อกนิยายเอาไว้ลงอย่างน้อยวันละตอนนะครับ  o18

ชีวิตของกฤษน่าสงสารจนอยากจะปลอบใจแทนหยกจริงๆ   :sad4:

รู้สึกดีมากเลยครับที่นิยายของผมสามารถให้ข้อคิดดีๆ นอกจากความบันเทิงแก่ผู้อ่านได้ด้วย  o13

ขอบคุณนะครับที่ติดตาม และขอบคุณจริงๆ ครับสำหรับกำลังใจดีๆ ที่มีให้กันรู้สึกดีมากมายจริงๆ ครับ  :-[

สุขสันต์วันปีใหม่นะครับ พอเจอแต่สิ่งดีๆ กันทุกคนนะครับ ^^ Happy New Year 2012 ^^  :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
เรื่องราวมันเป็นมายังไงกันแน่

wolfram

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
เริ่มจะคลี่คลายหน่อยแล้ว
น้องหยกดูแลพี่กฤษดีๆ นะ
พี่กฤษกำลังอ่อนแอ
ต้องการกำลังใจด่วน ^  ^ :o8: :-[

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
พรมหลิขิตเค้าแรง

totoken

  • บุคคลทั่วไป
วันนี้ขออนุญาตปรับภาษาและคำผิดนิดหน่อยนะครับ แล้วคืนพรุ่งนี้จะมาเฉลยให้ครับว่าพ่อแม่กฤษกะหยกเกี่ยวกันยังไง :bye2:

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
ไม่อยากจะคิด อย่าบอกว่าพี่กฤษ กับน้องหยกเป็นพี่น้องกันจริงๆ  :monkeysad:

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ไม่น๊าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

มันจะเศร้าไปไหนเนี่ยยยยยยยย

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 17 “กรหยก”
«ตอบ #117 เมื่อ03-01-2012 02:04:38 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 17 “กรหยก”
ก็ไม่รู้ทำไมทำไมต้องอาย  ทำไม่ต้องอายก็เธอนะทำให้ฉันอาย ทำไมต้องอาย

          เช้าวันนี้เราสองคนเลี่ยงที่จะตื่นเช้า เพื่อจะได้ไม่ให้ตากับยายที่เพิ่งตื่นตกใจกับรอยฟกช้ำจากเหตุการณ์ที่พี่กฤษโดยคนทำร้ายเมื่อวาน เราจึงนอนกอดกันอยู่ในห้องจนกระทั่งสาย ผมกับพี่กฤษเตรียมกันไว้ว่าจะบอกคนแก่ทั้งสองในบ้านว่าโดนเรียกค่าคุ้มครองแล้วพี่กฤษเลยโดนซ้อมเพราะไม่มีเงินจ่าย เราสองคนกำลังจะไปอาบน้ำเพราะสายแล้วจนได้ยินคุณตาตะโกนถามว่าเราตื่นกันหรือยัง

           “อ้าว...เมื่อวานเอ็งพาน้องไปเที่ยวไหนมาละสิ กลับบ้านมืดค่ำแล้ววันนี้ยังตื่นสายอีกนะพวกเอ็ง” คุณตาที่กำลังทำความสะอาดหิ้งพระและรูปถ่ายคุณแม่พี่กฤษอยู่ เอ่ยปากทักทันทีที่เห็นผมกับพี่กฤษออกมาจากห้อง

           “ไอ้กฤษ...หน้าเอ็งไปโดนอะไรมา...หา” คุณตาหยุดมือถามเสียงดังด้วยสีหน้าแสดงความตกใจ

           “พวกมันมาเรียกค่าคุ้มครองอีกแล้วครับตา ผมไม่ให้เงินมันก็เลยซ้อมผม แต่ไม่ได้ทำอะไรน้องหยก” พี่กฤษตอบแล้วทำสีหน้าเฉยๆ เหมือนจะบอกคุณตาว่าเป็นเรื่องปกติ

           “โธ่...ไอ้หลานเอ้ยยย...ดีนะที่ลูกเต้าเค้าไม่ได้เป็นอะไรไปด้วย ตาบอกแล้วว่าให้เลิกขายของที่ตลาด เงินที่เอ็งสะสมไว้ก็มากมายพออยู่แล้ว” คุณตาหันมามองผมที่ยังมีร่างกายปกติครบสามสิบสองประการไม่ได้เจ็บตัวหรือมีแผลตรงไหน แล้วคุณตาก็เดินเข้ามาลูบหน้าลูบตาพี่กฤษด้วยความเป็นห่วง สีหน้าคุณตายังกับจะร้องไห้

           “ผมไม่เป็นไรหรอกครับตา คิดว่าจะไม่ไปขายของที่นั่นสักพัก น้องหยกก็ทำแผลให้ผมแล้วตั้งแต่เมื่อวาน...ผมกับหยกไปอาบน้ำก่อนนะตา เดี๋ยวขึ้นมากินข้าวกัน” พี่กฤษตอบคุณตาให้คลายความกังวลใจลง

           “ดีนะที่ยายเอ็งออกไปตลาด เดี๋ยวตาบอกยายเองนะเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นถ้าให้ยายเห็นหน้าเอ็งก่อนคงเป็นลมเอา” คุณตาบอกพี่กฤษ เราสองคนได้แต่ยิ้มรับ แล้วพี่กฤษก็จูงมือผมไปอาบน้ำทันที ผมไม่พูดอะไรรีบเดินตามไปเงียบๆ เห็นคุณตามองตามด้วยสีหน้าบรรยายไม่ถูก

          หลังจากที่เราสองคนอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็ขึ้นบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอออกมาจากห้องนอนก็เจอคุณยายที่เหมือนรอดูแผลบนใบหน้าพี่กฤษอยู่ พอเห็นสภาพพี่กฤษเท่านั้นคุณยายถึงกับร้องไห้ พวกเราต้องคอยลูบหน้าลูบหลังปลอบโยนกันไปพักใหญ่ว่าพี่กฤษไม่ได้เป็นอะไรมากให้คุณยายสบายใจขึ้น

          วันนี้ผมช่วยคุณยายทำกับข้าวแต่ไม่ได้ปรุงเพราะผมไม่ถนัด ได้แต่เป็นลูกมือคุณยายหั่นโน่นหยิบนี่ไปเรื่อย สังเกตอาหารที่คุณยายทำคงจะเอาใจหลานชายเพราะว่าพี่กฤษเจ็บปากอยู่ คุณยายเลยทำแต่อาหารจืดๆ ทั้งนั้นเลย ทั้งต้มจืดฟักเขียวใส่หมูสับ ผัดผักรวมมิตรน้ำมันหอย ปลาหมึกกล้วยตมน้ำตาลมะพร้าวหวานๆ เค็มๆ แล้วก็ปลานิลตัวใหญ่ทอดกระเทียม

           “ตาครับยายครับผมมีอะไรจะบอก” พี่กฤษพูดขึ้นขณะที่พวกเรานั่งทานข้าวกันพร้อมหน้า ผมเดาว่าคงจะเป็นเรื่องโฉนดที่ดินของผมที่ครอบครัวพี่กฤษเช่าอยู่ในตอนนี้ เราคุยกันไว้ว่าพี่กฤษจะเป็นคนบอกคุณตากับคุณยายเองในวันนี้ ผมก็เลยตักข้าวเข้าปากปล่อยให้พี่กฤษเป็นคนอธิบายเสียเองจะดีกว่า

           “ถ้าเรื่องเอ็งสองคนได้เสียกัน...ไม่ต้องบอกพวกข้าหรอกนะ ข้ารู้ตั้งแต่เมื่อคืนก่อนแล้ว” คุณตาของพี่กฤษพูดสวนออกมา ผมที่ได้ยินคำพูดทุกคำของคุณตาอย่างชัดเจนถึงกับสำลักข้าวออกมา แล้วหยิบแก้วน้ำมาก้มหน้าก้มตารีบดื่มน้ำทันที นี่ทำไมมันถึงเป็นเรื่องนี้ไปได้ แล้วคุณตารู้เรื่องได้ยังไงกัน ผมคิดว่าพี่กฤษคงจะตกใจพอๆ กันกับผมในตอนนี้

           “ตา...พูดอะไรแบบนั้น เดี๋ยวหลานมันอาย” คุณยายที่นั่งอยู่ข้างๆ เอ็ดคุณตาขึ้นมาเบาๆ แล้วหันมามองผมสองคนด้วยสีหน้าเป็นห่วง โธ่...นี่คุณยายก็รู้เรื่องนี้เหมือนกันเหรอเนี่ย ผมอยากจะแทรกแผ่นดินหนีหายไปจากตรงนี้จริงๆ ร้อนวูบวาบไปทั้งตัวจนไม่รู้ว่าจะทำอะไรหรือแก้ตัวยังไงดี

           “ฮ่าๆๆ พวกเอ็งจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ...โตๆ กันแล้ว ข้าไม่ว่า...ขอแค่อย่าชวนกันไปเสียคนก็พอ...ถึงข้าจะแก่แล้วแต่ข้าก็ไม่ได้หัวโบราณหรอกนะ แค่เอ็งจะทำอะไรกันตอนกลางค่ำกลางคืนก็ให้มันเบาๆ หน่อยที่นี่มันเงียบ ตากับยายแก่แล้วแล้วหัวใจจะวายเอา” คุณตาตอบอย่างอารมณ์ดีแถมแซวเราสองคนตบท้ายอีกต่างหาก ฟังแล้วอยากจะร้องกรี๊ดออกมา แม้ไม่เคยจะกรี๊ดมาก่อนในชีวิตเลยก็ตาม

          ผมรู้แล้วว่าพี่กฤษทะลึ่งเหมือนใคร พูดจาทะลึ่งตึงตังได้อย่างไม่อายผีสางเทวดาฟ้าดิน ผมเป็นเด็กเลยได้แต่ก้มหน้างุด ไม่กล้าตอบโต้อะไรออกไป แล้วคนตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างผมก็ได้แต่เงียบเสียงไม่รู้ว่าทำหน้ายังไงอยู่ แต่ผมไม่กล้าเงยหน้าไปมองหรอกในตอนนี้

           “เอ้า...อายกันเข้าไปโว้ย ฮ่าๆๆ ทีตอนพวกเอ็งทำอะไรกันเสียงดังไม่เห็นเอ็งสองคนจะอายเลยนะไอ้เด็กพวกนี้” คุณตายังคงแกล้งแซวพวกเราไม่หยุด จนผมได้ยินเสียงคุณยายตีเข้าที่แขนคุณตาดังเพี๊ยะ ก็เลยต้องเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงดังเมื่อครู่

           “ตานี่ ยังไงกัน...มัวแต่ไปแกล้งหลานมัน ดูสิ...เอ้ากินข้าวกันเร็วๆ ลูก เดี๋ยวกับข้าวมันจะเย็นหมดก่อน...เอ้อ...แล้ววันนี้กฤษจะไปตลาดน้ำกี่โมง จะพาน้องหยกไปด้วยกันหรือเปล่า” คุณยายคงเห็นว่าคุณตาเอาแต่แกล้งพวกผมก็เลยรีบพูดช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น แถมยังตักกับข้าวใส่ในจานข้าวให้ผมอีกด้วย

          ผมรีบก้มหน้าก้มตาทานข้าวไปเรื่อย เพราะพูดอะไรไม่ออก ได้แต่อับอายในเรื่องที่คุณตากำลังแซวพี่กฤษ และยังไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ที่ผู้ใหญ่ดันมาทราบเรื่องที่ผมกับหลานชายเค้าทำอะไรกันในบ้านเสียงดังจนคุณตาคุณยายจับได้ แล้วไม่รู้ว่าคนแก่ทั้งสองจะได้ยินอะไรออกมาบ้าง

           “ไปสายๆ นี่ล่ะครับยายกินข้าวเสร็จก็ไป ผมจะไปคุยกับน้องพลอยว่าจะให้น้องหยกไปทำงานด้วยที่โรงแรม น้องหยกเคยช่วยป้าทำงานในร้านอาหารที่เมืองนอกโน่น คงช่วยคุยกับแขกฝรั่งได้สบาย ลำพังพวกผมก็ต้องอาศัยน้องพลอยอธิบายให้ฝรั่งฟังอยู่คนเดียว มีน้องหยกไปช่วยสองคนนั้นคงดีใจนะครับ” พี่กฤษที่เริ่มลงมือทานข้าวอีกครั้งก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุยเหมือนกัน ผมแอบเห็นว่าพี่กฤษก็หน้าแดง คงจะอายที่โดนคุณตาแซวเมื่อกี้เหมือนกัน

          ผมคิดว่าที่พี่กฤษไม่พูดออกไปเรื่องที่ดินตรงนี้เป็นของผมต่อ เพราะคงกำลังอายและไปไม่ถูกว่าจะเริ่มเข้าเรื่องยังไงดี ผมก็เลยคิดว่าเลยตามเลยแล้วกัน ดีเหมือนกันเห็นด้วยว่าไว้ค่อยพูดคราวหน้าดีกว่า วันนี้คงต้องเงียบเอาไว้ก่อน เพราะเรื่องที่คุณตาพูดออกมานั้นเป็นเรื่องที่เราสองคนไม่ได้คาดคิดเอาไว้

           “งั้นเอ็งรีบกินข้าวเข้า เดี๋ยวตาจะฝากเอาน้ำตาลสดไปให้หนูพลอยกับพ่อทองเค้าด้วย ตาต้มใส่น้ำตาลเอาไว้ในหม้อตั้งแต่เช้าป่านนี้คงเย็นแล้ว เอ็งแค่กรอกใส่ถุงก็เอาไปได้เลย” คุณตาก็ยอมเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วเหมือนกัน แต่ยังคงยิ้มทำหน้าทำตากรุ้มกริ่มให้ผมกับพี่กฤษอยู่

          ตากับหลานนี่มีนิสัยไม่ต่างกันเลยจริงๆ แต่ผมก็สบายใจไปหลายส่วนที่คุณตากับคุณยายของพี่กฤษยอมรับในตัวผม และไม่มีการโกรธเคืองที่ผมมาทำให้หลานชายคนเดียวของเค้าเป็นเกย์ แต่...มาคิดดูแล้ว แสดงว่าคืนก่อนผมกับพี่กฤษคงจะร้อนแรงใส่กันมากจนเกินไป เพราะที่นี่เป็นบ้านไม้ แถมกลางคืนยังเงียบสงัดอีก ไม่แปลกใจเลยที่คุณตากับคุณยายจะรู้ว่าเราทำอะไรกัน ที่ตอนนั้นกลับคิดไม่ได้เสียนี่ เฮ้อ...อายจังวุ้ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2012 01:18:24 โดย AxCiO@ToToKeN »

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
 :laugh: ชอบคุณตาอะ แซวได้แซวดี
แซวจนหลานชายตัวดีเงียบไปเลยนะคะ คุณตา

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
ว๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยคุณตาแรง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด