แผนที่ 4 รุก
วนันต์“ไม้ เค้ามีอะไรมาให้ตัวเองดูล่ะ”เสียงเจื้อยแจ้วยัยจอมแสบ ดังมาตั้งแต่ยังไม่เห็นตัว
“อะไรอีกล่ะครับ ไม้ง่วงมากเลย วันนี้ซ้อมไปเยอะ ดินทั้งวันถูกจับบิดไปนุ่นนี่ไม้เหนื่อยครับ”
ผมบ่นพึมพำทั้งที่ยังไม่ลืมตา วันนี้ได้พักบ่ายๆเอง คืนนี้ก็ต้องขึ้นเวทีแล้ว เหนื่อยอะไรขนาดนี้ก็ไม่รู้ เฮ้อ เมื่อไหร่จะผ่านไปสักที
“ลุกเลยๆ นี่ๆ บัวได้ลิ้งค์เมื่อสามปีก่อนที่พี่โอ๊ตได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยล่ะ สนใจจะอ่านไหม”
“ไม่เห็นเกี่ยวกับไม้นี่นาหนูบัว”
“เกี่ยวสิ เผื่อเป็นแนวทางการตอบคำถามไง นะๆลุกมาดูกับเค้าเลยไม้ “
“เคเค ไหนเอามาดูซิ “ผมยื่นมือไปคว้าไอแพดของหนูบัว ที่เจ้าตัวเปิดลิ้งไว้ให้แล้ว
ภาพผู้ชายร่างสูง ใบหน้าคมเข้มมีผมสีดำสนิท นัยตาสีน้ำตาลแดงแบบที่ผมไม่เคยเห็น สีเหมือนสนิมซะมากกว่า
คิ้วหนา พาดเฉียงกับหน้าผาก แลดูเหมือนคนขี้หงุดหงิดหรือโมโหตลอดเวลา ตาเรียวรี ดูมีเสน่ห์ชวนมอง
จมูกโด่งรับกับใบหน้าคมเข้มแบบคนไทยแท้ๆ ผิวสีแทนสวย รวมๆแล้วพี่คนนี้หล่อชนิดหาตัวจับยากเลยล่ะ
เป็นคนมีเสน่ห์ชวนมองทั้งๆที่แค่ดูรูปถ่ายแต่พี่มันดึงดูดสายตาจนต้องยอมรับว่าพี่มันหล่อจริงๆ
“แหนะๆ มองตาค้างเลยหล่อใช่ไม๊ล่า”ผมเบ้ปากอยากจะมองบนให้รู้แล้วรู้รอด แม่คนช่างยุนี่ เฮ้อ
“ก็หล่อ แต่ก็ผู้ชายนะ “
“พี่เค้าเหมาะกับไม้นะ ดูสิ หล่อมาก กรี๊ดดดด “
ผมไม่ตอบโต้ยัยตัวแสบอีกแต่ใช้นิ้วเลื่อนลงมาดูคลิปบทสัมภาษณ์ ด้านล่างแทน
Q.แนะนำตัวหน่อยค่ะ** อินทัช อิงคนันท์ ครับ
Q. ชื่อเล่นล่ะคะ**.โอ๊ตครับ
Q .อายุเท่าไหร่คะ**21 ปีครับ
Q .เรียนคณะอะไรคะ **วิศวะครับ
Q .แหมน้องโอ๊ตนี้ถามคำตอบคำจริง แล้วมีแฟนหรือยังคะ **ไม่มีครับ
Q .น้องโอ๊ตมีเสป๊กแบบไหนคะบอกได้ไหมเผื่อพี่อยุ่ในตัวเลือก คิกๆ**ผู้หญิงครับ
Q .ว้ายยยแบบนี้แสดงว่าโดนหนุ่มจีบเหรอคะ เล่นตัดกำลังกันแบบนี้ หนุ่มๆเสียใจแย่เลย
เอาล่ะค่ะ นี่เป็นตัวอย่างสั้นๆ หากใครอยากรู้จักน้องโอ๊ตเฟรชชี่คนหล่อดีกรีเดือนมหาลัยคนนี้ติดตามได้ที่นิตยสารของมหาวิทยาลัยปีนี้นะคะ ....
เป็นคลิปสั้นๆที่ผมดูไปขำไป
ท่าทางสายตาที่บอกว่าเริ่มรำคาญเต็มทีของพี่โอ๊ตทำให้ผมหลุดหัวเราะ คนอะไรตอบคำถามได้กวนมากถ้าไม่ถามพี่แกก็ไม่ตอบ
ปรกติคนอื่นๆเวลาให้แนะนำตัวจะร่ายยาว ทั้งแต่ชื่อยันวันเดือนปีเกิด หึหึ น่าสนใจดีเหมือนกันแฮะ
“แหนะๆยิ้มๆ ชอบใช่ม๊า”ผมแทบจะคว่ำปากใส่ยัยตัวแสบที่ทำหน้าล้อเลียนไม่หยุดหย่อน
“บัว เราไม่ได้ชอบผู้ชายและพี่โอ๊ตก็บอกชัดเจนว่าสเป๊คคือผู้หญิง กับเราแซวได้นะ เพราะบัวคือเพื่อน
แต่กับพี่โอ๊ตอย่าไปทำแบบนี้กับพี่เขา มันดูไม่ดีนะรู้ไหมยัยตัวแสบ อีกอย่างถ้ามีผู้ชายคนไหนมาจีบบัว อย่าไปแกล้งเขาล่ะมันไม่ดี”
“บู่... ไม้อ่ะไม่เข้าใจความบันเทิงของสาววายเลยให้ตายเถอะ “
ยัยตัวแสบทำปากยื่นหน้างอ คนอื่นคงมองว่าน่ารักแต่ผมว่าน่าดีดปากเสียจริง หมั่นไส้
“บัว”
“จิ๊..ก็ได้ๆ อย่าทำเสียงเข้ม เอาเป็นว่าเราจะแอบๆชงนะ ไม่ให้พี่โอ๊ตรู้ตัวโอเค้ ส่วนคนที่มาชอบบัว ถ้าไม่บอกตรงๆบัวไม่รู้คือไม่ผิดนะ ดีลนะคะคุณแฟน ”
ผมถอนหายใจให้กับความดื้อรั้นของเพื่อนผม แม้ยัยตัวแสบจะเนียนมากอดเอวง้อผมก็ไม่ทำให้ผมยิ้มได้หรอก
ต้องแกล้งซะให้เข็ด ชอบทำอะไรไม่นึกถึงใจคนอื่นเขาดีนัก
“สักวันนะบัวถ้าบัวเจอคนที่บัวรัก บัวจะเข้าใจว่าการจับคู่ให้คนที่เราไม่ได้มีใจด้วยมันไม่เจ็บปวดมากเลยนะ ”
“บ่นๆ ก็บัวไม่ได้ชอบผู้ชายพวกนั้นนี่นา “
“แต่พวกเขาชอบบัวนะ ถ้าเขาจีบบัวแล้วบัวไม่ชอบอย่าให้ความหวังใคร บอกตรงๆเหมือนที่บัวบอกไม้ไง นะครับ อย่าเล่นกับความรู้สึกคนอื่นมันไม่น่ารักเลย”
“จริงจัง?”
“ครับจริงจัง บัวเองก็ต้องจริงจังเหมือนกัน”
“บู่ ...ไม่สนุกเลย เฮอะ ก็ได้ๆ ยอมก็ได้ งั้น คุณแฟนคะ ถ้าบัวได้ตำแหน่งคุณแฟนต้องมีรางวัลแลกกับที่ไม้ขอ ..โอเค๊”
“จะเอาอะไร “
“ รับปากก่อนสิ ถ้าเค้าได้รางวัลไม้ต้อง ทำตามที่เค้าขอ 1 ข้อ นะคะๆ นะๆ”
“อย่าเล่นอะไรแผลงๆเหมือนของขวัญวันเกิดก็พอ”
“เย้ๆ คอยดู บัวจะสอยตำแหน่งดาวมาให้คุณแฟนให้ได้คิกคิก”
ผมส่ายหัวด้วยความระอา จะมีอะไรถ้าไม่แกล้งผมที่ขัดใจเจ้าหล่อนน่ะ หวังว่าคงไม่แกล้งผมหนักๆหรอกนะ
ช่วงตอนมัธยมต้นผมเคยรับปากยัยตัวแสบตอนวันเกิด ของขวัญวันเกิดที่หนูบัวอยากได้คือให้ผมใส่ชุดคอสเพลย์เป็นชุดนักเรียนญี่ปุ่น
ที่ยัยตัวแสบหามาให้ แถมยังถ่ายรูปเก็บไว้อีก เป็นของขวัญวันเกิดที่น่าอายที่สุดสำหรับผม แต่ยัยหนูบัวกับชอบมากที่สุด
หนำซ้ำยังควงผมในสภาพนั้นออกไปเที่ยวห้างไปดูหนัง เฮ้อ ผมจะบ้าตาย ก็ได้แต่หวังว่า
คราวนี้คงไม่โดนสั่งให้ทำอะไรแผลงๆแบบนั้นหรอกนะ เอหรือผมจะแช่งให้ยัยหนูบัวชวดตำแหน่งดาวดีนะ
“น้องบัวน้องไม้พร้อมหรือยัง ไปแต่งตัวได้แล้วไป หมดเวลาพักแล้วค่ะ”
พี่แปง คนที่ดูแลกองประกวดเดินเข้ามาเรียกให้พวกผมเตรียมตัว หวังว่า งานคืนนี้ จะรีบๆจบลง ผมเหนื่อย
ณ เวทีกลางแจ้งบริเวณหน้าอาคารหอประชุมใหญ่ สโมสรนักศึกษาผมมองดูบรรยากาศในวันนี้เต็มไปด้วยความคึกคักและยิ่งใหญ่คงเหมือนทุกๆปีที่ผ่านมา
ภายในงานมีการแสดงของชมรมดนตรี ของมหาวิทยาลัย เรียกเสียงกรี๊ดจากทั้งเฟรชชี่และเหล่านิสิตได้เป็นดย่างดี
ความสนุกสนานจากการแสดงทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องสร้างความบันเทิงคึกคักได้ทั้งคืน ถ้าผมได้เป็นผู้เข้าร่วมงานเหมือนคนอื่นคงสนุกไม่น้อย
แต่นี่ต้องมานั่งแอบมองบรรยาการจากเต๊นท์สำหรับแต่งตัวของดาวเดือนหลังเวทีแบบนี้ไม่สนุกเอาเสียเลย
ถึงมันจะเป็นไฮไลท์ของงานในค่ำคืนนี้ที่ทั้งเหล่ารุ่นพี่และรุ่นน้องต่างเฝ้าคอยคือ การประกวดหนุ่มหล่อและสาวสวยมากความสามารถ
ที่จะมาเป็น “ดาว-เดือน” ของมหาวิทยาลัย แต่ผมก็ยังยืนยันว่าผมอยากเดินชมงานมากกว่าการมานั่งเก็บบตัวอยู่ในเต๊นท์หลังเวทีแบบนี้ เฮ้อออ
ผมได้แต่มองดูบรรยากาศงานด้วยความเสียดาย ขอบกินต้องเยอะมากแน่ๆเลย ตอนนี้ด้านหน้าเวทีกลางแจ้งบริเวณหน้าอาคารหอประชุมใหญ่ก็
เนืองแน่นไปด้วยนักศึกษาทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องที่เข้ามาให้กำลังใจและเป็นแรงเชียร์ให้กับดาวและเดือนจากคณะของตนเอง
ผมหยิบมือถือมาเปิดส่องโซเชี่ยลแก้เซ็ง
ระหว่างรอ เพจของมหาวิทยาลัยเป็นตัวเลือกที่ดี ผมเลื่อนดูโพสต์ในปีก่อนๆที่มีงานเฟรชชี่แบบนี้
พี่โอ๊ตตอนเป็นเฟรชชี่ดูดีเหมาะสมกับตำแหน่งมาก
**เฟรชชี่ปีนี้แซ่บมากแอดต้องเตรียมกระดาษทิชชู่ไว้ซับน้ำลายซับเลือดกันเป็นลังๆแน่นอน**
**แนบรูป**
เป็นภาพพี่โอ๊ตนุ่งแค่โจงกระเบนสีน้ำตาลทอง ไม่ใส่เสื้อ มีผ้าสีเดียวกับโจงกระเบนคาดไว้บนหัว สองมือถือไม้ตีกลองท่าทางทะมัดทะแมง
ท่วงท่าการรำสวยงามจนผมลืมบรรยากาศภายนอกไปเลย พี่โอ๊ตตีกลองสะบัดชัย หล่อมากขนาดผมเป็นผู้ชายยังยอมรับว่าพี่มันหล่อจริงๆ
ยิ่งดูยิ่งหล่อดูดีไปหมดทุกท่วงท่า ไม่แปลกใจเลยที่ตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยจะเป็นของพี่โอ๊ต ใบหน้าไร้รอยยิ้มแต่ไม่บึ้งตึง
สีหน้าเรียบเฉยแต่ดูมีเสน่ห์จนผมไม่อาจละสายตาไปไหนได้เลย
“ดูอะไรอ่ะไม้ดูด้วยสิเซ็งจังจะรออีกนานไหมเนี่ย”
เสียงใสๆของยัยตัวแสบดังมาจากมุมแต่งหน้า ผมรีบกดออกจากเพจ เพราะถ้ายัยหนูบัวรู้ว่าผมดูรูปพี่โอ๊ตอยู่ล่ะก็
เรื่องคงไม่จบโดนแซวยันพรุ่งนี้แน่นอน
“เปล่าหรอกดูไปเรื่อย อีกนิดเดียวเอง ทนหน่อย อ๊ะ!! นั่นพี่อิงฟ้านี่”
ผมละความสนใจจากหนูบัวหันไปมองพี่อิงฟ้ากับพี่โอ๊ตที่เดินคู่กันขึ้นไปบนเวที เป็นดาวเดือนที่เหมาะสมกันมาก
“สวยจัง”ผมอดไม่ได้ที่จะชมพี่อิงฟ้า เพราะพี่เขาสวยมากจริงๆ รูปร่างสูงเพรียว
ผมสีน้ำตาลดัดเป็นลอนส่งให้ดวงหน้าขาวผ่องนั่นดูเด่นขึ้นรอยยิ้มหวานละมุนดูใจดีจนน่าหลงไหล
“ไม้ ตื่นเต้นเหรอ..”เสียงยัยตัวแสบดึงผมออกจากห้วงคิดก่อนจะหันมามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆกัน
“อื้อ..บัวเก่งนะ ไม่ตื่นเต้นเลยเหรอ”
“บ้าสิ ฉี่จะราดอยู่ละ ฮิฮิ “
“คำพูดคำจาไม่สมกับเป็นสาวเป็นนางเลยนะ ยัวบัวบ๊อง”
เราสองคนนั่งเถียงกันไปมา มีพี่แปงยืนส่ายหัวด้วยความระอากับพวกผม จริงๆผมชอบบรรยากาศแบบนี้นะครับ
มันเหมือนเราได้เข้าใกล้เพื่อนๆ และได้เรียนรู้คนอื่นๆด้วย บางทีผมควรจะเลิกกลัวได้แล้ว ความกลัวที่เกาะกินใจผมมาตลอด
หากการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย และการได้พบเจอเพื่อนใหม่ๆ ทำให้ผมหายกลัวเรื่องนั้นได้ ผมคงจะมีความสุขไม่น้อย
“ไปเถอะเขาเรียกเราแล้ว ไม้ อย่ากังวล หนูบัวจะอยู่ข้างไม้เสมอ ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปแน่นอน “
นั่นสินะ การก้าวข้ามความกลัวนั้นได้ มันจะต้องดีแน่นอน ที่สำคัญเพื่อนคนสำคัญของผมยังอยู่ตรงนี้เสมอ
ไม่ว่าใครจะจากไปใครจะหายไป หนูบัวยังอยู่กับผม แค่นี้ก็พอแล้ว ผมหันมายิ้มให้เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผม
ก่อนจะเดินจูงมือกันออกไปสู่โลกภายนอกนั่น
เป็นโลกที่ผมต้องเจออะไรอีกหลายอย่าง แค่เรื่องบางเรื่องผมจะต้องกำจัดมันให้หายไปจากผมให้ได้ ผมต้องทำได้
อินทัชกว่างานเฟรชชี่จะผ่านพ้นไป เหนื่อยครับบอกตรงๆเหนื่อยจนอยากจะกลับบ้านนอนถ้าไม่ติดว่ามีภาระกิจที่จะต้องทำ
น้องไม้หล่อมาก ดูท่าสาวๆจะกรี๊ดกร๊าดกันจนแสบแก้วหู น้องบัวก็สวยจนไอ้ปีย์ตาลอย หอบดอกไม้ช่อใหญ่ไปให้ถึงหน้าเวที
ไม่มีความเกรงใจน้องไม้ที่ยืนอยู่ข้างๆสักนิด ขนาดมีข่าวว่าทั้งคู่เป็นแฟนกันความฮ็อตกับไม่ลดลงเลยสักนิด
ภาพน้องไม้ที่นั่งตัวตรงตีขิมทำนองอ่อนหวานกับหนูบัวที่ร่ายรำด้วยท่าทางอ่อนช้อย สวยงามตราตรึงผู้ชมราวกับต้องมนต์
ผลเป็นไปตามคาดครับ
น้องไม้ได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยปีนี้มาครองคู่กับดาวมหาลัยอย่างน้องบัวด้วย ทีนี้ล่ะครับงานยากกว่าเดิม เพราะทุกคนรู้จักน้องไม้ รู้จักผม หึหึ
ความวุ่นวายบังเกิดแน่ๆ ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกขัดใจกับความคิดที่ว่า น้องไม้กลายเป็นที่สนใจของสาวๆทั่วมหาลัยกันนะ
เฮ้อ..รู้สึกแย่จัง แต่ก่อนกลับคืนนี้ขอไปอ่อยน้องมันก่อนละกัน
ตั้งแต่เมื่อวานที่หนูบัวว่าจะชวน ผมกับไอ้ปีย์ไปเลี้ยงข้าว แต่ด้วยต้องเข้าประกวดทั้งภาระกิจเต็มมือ
เลยทำให้วันนี้ทั้งวัน ผมกับไอ้ปีย์ ไม่เจอหน้า สวยๆของสองคนนั้นเลย วันนี้ผมรับหน้าที่บนเวทีกับอิงฟ้าดาวมหาวิทยาลัย คู่กัน
จริงๆควรเป็นไอ้เชน เดือนมหาลัยปี 2 มากกว่าแต่มันป่วยความซวยเลยตกมาที่ผมกับอิงฟ้า
หลายคนเชียร์ให้ผมเป็นแฟนอิงฟ้า แรกๆที่รู้จักกันผมก็จีบอิงฟ้านะครับ เพราะอิงฟ้าเป็นคนน่ารักเรียบร้อย มารยาทดี
เอาเป็นว่ากุลสตรีไทย ที่ทุกคนต้องการรวมตัวอยู่ที่อิงฟ้าหมดครับ เพราะงั้น คนดีๆ แบบนี้จะเหลือมาถึงผมเหรอครับ
อิงฟ้ามีแฟนแล้ว เป็นพี่ข้างบ้านของอิงฟ้า กำลังเรียนหมอ อยู่คนละมหาวิทยาลัย แล้วไอ้พี่หมอที่ว่านั่นดัน เป็นพี่ชายผมครับ
เลยกลายเป็นพี่อาร์ตฝากให้ผมดูแลอิงฟ้า คนที่รู้ว่าอิงฟ้าเป็นแฟนพี่ชายผม ก็มีแค่พวกผม 5 คนนี่ล่ะครับ
คนที่ไม่รู้เรื่องก็คิดว่าผมจีบอิงฟ้าอยู่ ผมไม่เคยเดือดเนื้อร้อนใจไปแก้ข่าว มีแต่อิงฟ้าที่กลัวว่าผมจะหาแฟนไม่ได้
ผมไม่เคยสนตรงนี้มาตลอดครับ จนวันนี้แหละผมรู้สึกแปลกๆ เมื่อน้องไม้มองมาที่ผมและอิงฟ้า สายตาสงสัยและดูปลาบปลื้มอิงฟ้าแบบนั้น
ทำให้ผมทั้งอยากขยับออกห่างอิงฟ้าเพราะกลัวน้องเข้าใจผิด ทั้งยังอยากขยับไปชิดๆอิงฟ้าเพราะหมั่นไส้สายตาปลาบปลื้มนั่น
เฮ้อออ ผมว่าผมเริ่มสับสนแล้วล่ะครับ ผมกลัวจีบน้องไม่ติดนี่ครับ อย่างอื่นไม่เกี่ยวเลยนะบอกตรงๆ
“โฮ้ยยยยย เหนื่อยยยยยย”
ผมนั่งพักอยู่เต๊นท์ข้างๆได้ยินเสียงของน้องบัว ที่ลงมาพักอยู่หลังเวที การประกวดแบบนี้คงจะสูบพลังงานของเธอไปมากมาย
ขนาดเสียงเหนื่อยของเธอยังดังมาอีกเต๊นท์ ไอ้ปีย์แค่ได้ยินเสียงน้องก็ทำหน้ายิ้มเคลิ้มจนผมอดไม่ได้ที่จะยกเท้าถีบเพื่อนไปแรงๆ
“โอ๊ต แม่ง กูเจ็บ ถีบมาได้“
“หึ “ผมเหยียดปากใส่มัน คอยเงี่ยหูฟังเต๊นท์ข้างๆ แอบส่องตรงรอยสาบของผ้าใบ
เห็นคนข้างในกำลังนั่งพักพร้อมเสียงบ่นหงุงหงิงของน้องบัว เสร็จจากตรงนี้ก่อนเถอะ จะไปขโมยเดือนหมาดๆจากเต๊นท์นั้นกลับบ้าน
“น้องไม้ น้องบัวขา ดอกไม้ทั้งหมดนี่ น้องไม้จะเอากลับด้วยไหมคะ”
เสี่ยงพี่แปงคนที่คอยดูแลพวก เฟรชชี่ ตั้งแต่เริ่มเก็บตัว จนเสร็จสิ้นการประกวด ท่าทางเหนื่อยอ่อนของหนูบัวไม่เท่าไหร่
เพราะน่าจะชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว ต่างจากไม้ ที่อยากจะหลับมันตรงนี้เลย
“พี่แปงเอาไปไว้ที่คณะฯก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้เอาใส่แจกันตกแต่งมันทุกห้องเลยดีไหมคะ “
เสียงแจ้วๆของน้องบัวออกความคิด ดอกไม้เยอะขนาดนี้ ถึงเอากลับห้อง ก็ไม่แคล้วต้องทิ้ง
ไหนๆจะทิ้งก็แจกจ่ายให้ทุกห้องได้สดชื่นกันบ้างจะดีกว่า ดูเป็นความคิดที่ดีเลย
“ได้เลยค่า งั้นเดี๋ยวพี่เรียกเพื่อนๆเรามาขนไปไว้ที่คณะดีกว่าเดี๋ยวจะเหี่ยวซะหมด ว่าแต่สองคนกลับยังไงล่ะ “
“เดี๋ยวกลับรถบัวค่ะ ไม้ไม่ได้เอารถมา “
“จ้าๆ ขับดีๆนะหนูบัว “
“ขอบคุณครับพี่แปง“เสียงน้องไม้ที่ยังเหนื่อยอ่อนได้แต่เอ่ยขอบคุณเบาๆ
พี่แปงกลับไปแล้ว น้องไม้กับน้องบัวยังนั่งพักเอาแรง ท่าทางจะ ปวดขามาก ทั้งยืนทั้งเดินแทบจะทั้งคืน แถมตอนนี้ก็ จะเที่ยงคืนแล้วด้วย
“ปีย์ ไปหาน้องกันป่ะ”
“เอาจริงเหรอเพื่อน มึงหนีได้เหรอ “
“เราไปได้ใช่ไหมอิง “
“ไปเถอะ เดี๋ยวตรงนี้อิงรับหน้าให้ ว่าแต่โอ๊ตสนใจคนไหนเหรอ อิงเห็นจ้องตั้งนานละ “
แววตาเป็นประกายแบบนั้น ดูถูกใจพอควรล่ะ ที่ผมจะมีคนที่ถูกใจ
“ไม่บอก อิงเถอะ อย่าออกจากเต๊นท์ไปไหนล่ะ เดี๋ยวพี่อาร์ตมารับ”
“จ้าๆ ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงอิงหรอก อิงโตแล้วนะ ทั้งโอ๊ตทั้งอาร์ตเลยทำยังกับอิงสามขวบ “
เสียงบ่นของว่าที่พี่สะใภ้ ทำให้ผมต้องตบมือปุๆลงบนกลุ่มผมนุ่มๆนั่นก่อนลุกขึ้นเดินออกจากเต๊นท์ของคณะฯตรงไปอีกเต๊นท์
ที่อยู่ข้างๆกัน เสียเวลาตรงเดินอ้อมฉากกั้นนี่แหละครับน่าเบื่อที่สุด จะกั้นไกลไปไหนวะ
“พี่ไปส่งไหมท่าทางจะไม่ไหวนะ “ทันที่ที่เดินเข้าเต๊นท์น้องไปผมรีบอาสาด้วยกลัวว่าน้องๆจะมีตัวช่วยก่อนผม
“พี่โอ๊ต!” ท่าทางดีใจของน้องบัวที่เห็นผมทำให้ผมยังพอมีความหวัง
“ไม่เป็นไรครับ พักสักหน่อยเดี๋ยวผมกับบัวกลับได้ครับ “
แต่น้องไม้คนสวยกลับตอบแบบตัดฉับ แต่มีหรือที่ผมจะสนใจมาถึงนี่แล้วพี่ไม่ยอมกลับไปคนเดียวแน่ๆน้อง
“ตาจะปิดอยู่แล้วไม้ พี่รู้ว่ามันเหนื่อยแค่ไหนนะ เดี๋ยวรถบัวให้ปีย์ขับกลับให้ สองคนนี่ไปรถพี่ละกันไปลุก “
ผมไม่คิดจะฟังคำปฏิเสธจากเด็กหนุ่มหน้าสวย เพราะจากสภาพที่เห็นถ้าไม่ได้นอนคงไม่ฟื้นแน่ๆ
ดูท่าน้องไม้กำลังมึนจนไม่ได้สนใจว่าว่าผมจะแทนตัวเองว่าอะไรหรือน้ำเสียงห่วงใยแค่ไหนเป็นห่วงจริงๆนะครับ
เห็นท่าทางน้องแล้วตอนนี้ผมเป็นห่วงจริงๆ จนไอ้ปีย์มันมองหน้าผมสลับกับหน้าน้องบัวของมัน
“ให้พี่โอ๊ตไปส่งก็ดีนะไม้ บัวง่วงมากเลยไม้ก็ไม่ไหวใช่ไหมล่ะ บัวรู้หรอก นะไม้ นะๆ อีกอย่างบัวต้องกลับบ้านลืมหรือไงไม้จะไปส่งเราไหวเหรอ “
อ้าวมีตัวช่วยครับ ว่าที่แฟนมึงทำดีมากปีย์ เสียงน้องไม้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพยักหน้า แล้วค่อยๆลุก ผมเลยเดินเข้าไปพยุงเขาลุก
เพราะดูท่าทางน้องจะหลับกลางอากาศอยู่แล้ว
“กูว่านะ โอ๊ต ให้หนูบัวไปกับกูก็ได้ จะได้นั่งสบายๆ เดี๋ยวพี่ไปส่งหนูบัวที่บ้านเอง โอ๊ตจะได้ไม่ย้อนไปมา เนอะ ว่าแต่บ้านหนูบัวอยู่ที่ไหนครับ แหะๆ”
ตอนท้ายไอ้ปีย์หันไปถามความเห็นคนสวย ที่ยังยิ้มแฉ่ง ดูมีเรี่ยวแรงทั้งๆที่ควรจะเหนื่อยสุด
จะว่าไปหน้าน้องบัวก็ยิ้มแป้นตั้งแต่ ผมถลาเข้าไปพยุงแฟนของเธอแล้ว มันแปลกๆนะผมว่า
“แต่ ผมว่า ไปด้วยกันดีกว่านะ “
น้องไม้ยังคงไม่ยอมปล่อยแฟนไปกับผู้ชายอื่นง่ายๆ แหงล่ะเป็นผมก็ไม่ยอม
ไอ้ปีย์มึงเก็บหน้าบานๆไว้ก่อนได้ไหม น้องมันจะรู้หมดว่ามึงหวังฟันแฟนเขาไอ้เหี้ยนี่
//ไม้จ๋า เราน่ะลูกใครจำไม่ได้เหรอแค่นี้ ไม่พ้นมือหนูบัวหรอกน่าจัดการได้ นะๆ//
ผมเห็นหนูบัวกระซิบอะไรสักอย่างข้างๆหูน้องไม้ แต่สีหน้าเบื่อหน่าย แบบนั้น ผมคงได้ไปส่งน้องแน่ๆ
“ ป่ะ พี่ปีย์ รถบัวอยู่ทางนี้ เจอกันพรุ่งนี้นะไม้ “
สาวสวยเพียงเหนึ่งเดียวลากมือรุ่นพี่ปีสามอีกคนลิ่วๆออกจากห้องหลังเวที คงทิ้งไว้แค่ผมกับแฟนตัวเอง
บางทีผมก็งงๆกับการกระทำของหนูบัวนะครับ มันแปลก
“เดินไหวไหม”ช่างเถอะ ตอนนี้ผมควรสนใจคนที่อยู่ตรงหน้าผม ที่ยังยืนพิงพนักเก้าอี้อยู่ด้วยความเพลียจัดนี่ดีกว่า
“ไหวครับ พี่โอ๊ตนำไปเลยได้ครับ “
“หึหึ ท่าทางจะไม่รอดนะเราน่ะ มานี่มา “
ไม่มีการถามความสมัครใจหรืออะไร ผมคว้าเอามือเรียวมาจับเอาไว้พลางดึงเอากระเป๋าใบโตของไม้มาถือไว้เอง
ก่อนจะออกแรงดึงให้คนที่ตัวเล็กกว่าเดินตามหลังมาแบบงงๆ
“เอ่อ..พี่โอ๊ต ผมเดินเองได้ครับ”
“.....................”
เงียบไว้ดีที่สุดครับ ผมทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นล่ะครับ รู้สึกแค่มือนุ่มๆที่ผมจับไว้อยู่ตอนนี้ มันอุ่นดีจัง นุ่มดีด้วย อ่า...รู้สึกดีจัง
และดูเหมือนน้องไม้ไม่มีแรงจะยื้อยุดกับผมน้องเลยเดินตามหลังผมมา แสงแฟลตแสงไฟที่ไล่ตามหลังผมทั้งคู่มาพร้อมๆกับเสียงกรี๊ดกร๊าด
รอบทิศที่ไม่ดังนัก ทั้งผมและน้องไม้เลยไม่ได้สนใจอะไรมากนอกจากเดินตามกันไปที่รถ
ผมเหลือบมองดูรุ่นน้องที่พอขึ้นมานั่งบนรถผมไม่นาน เดือนคณะฯหมาดๆก็หลับลงไปอย่างห้ามไม่อยู่แม้เจ้าตัวจะพยายามฝืน
แต่ความเหนื่อยล้าของร่างกายทำให้น้องไม้ไม่อาจทนทานต่อความง่วงได้ ผมยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนจะบ้าแล้วครับ ก็น้องไม้น่ะพอหลับแล้ว
ดูราวกับเด็กมัธยม ผมนั่งมองน้องอยู่ครู่เดียวก็เลยปรับเบาะให้คนหลับได้นอนสบายๆ ตัวผมพยายามขับรถอย่างช้าๆ
เพราะกลัวคนหลับตื่น แต่พอคิดไปคิดมาผมก็หงุดหงิด อะไรจะไว้ใจคนง่ายขนาดนั้นไม่ระวังตัวเองเลยหรือไงนะ
แล้วไหนจะแฟนเจ้าตัวอีก คิดอะไรถึงได้แยกกันไปกับคนแปลกหน้าง่ายดายขนาดนี้นะ ถ้าคนๆนั้นไม่ใช่ผมไม่ใช่ไอ้ปีย์
แต่เป็นคนไม่หวังดีขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ให้ตายเถอะ
ขับไปตามทางที่เจ้าตัวบอกก่อนจะหลับ ต่อให้น้องไม้ไม่บอก ผมก็รู้ทางเพราะแค่บอกชื่อคอนโด ก็ต้องร้องอ๋อ เพราะว่าอยู่คอนโดเดียวกัน
พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ ไม้คงได้พักยาว แต่สำหรับเดือนมหาวิทยาลัยอย่างผม ยังต้องมีงานเพิ่มเติมอีกทำแทนไอ้เชนมันครับ
มันเป็นน้องรหัสผม พอมันป่วยเลยเป็นผมที่ต้องมาทำหน้าที่แทนมัน แม้จะแค่เล็กน้อย
แต่ผมไม่อยากให้เวลาแบบนี้จบลงไปเลย อยากนั่งมองหน้าคนหลับแบบนี้ไปนานๆ แต่ก็คงทำได้แค่คิด ผมนี่ถ้าจะบ้าไปแล้วจริงๆ
น้องไม้เป็นผู้ชายคนแรกที่ผมไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วนที่จะอยู่ด้วย ไม่ได้รู้สึกอึดอัด ที่ต้องจับมือจูงน้องเดิน ตรงกันข้าม ผมกลับรู้สึกดีที่ได้สกินชิปคนสวยเวลาเผลอแบบนี้
ผมไล้นิ้วมือเบาๆที่แก้มเนียนด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร แต่ที่รู้คือผมไม่เคยทำแบบนี้กับผู้ชายคนไหน
น้องไม้ เป็นผู้ชายคนแรกที่ผมไม่ปฏิเสธหากจะมีข่าวคู่จิ้นหรืออะไรก็ตามที่สื่อว่าผมกัยบน้องเป็นมากกว่าพี่น้องร่วมรุ่น
ผมคงเอ็นดู น้องไม้เหมือนน้องชาย ผมอยากมีน้องนี่นา คงเป็นแบบนั้นแหละ น้องไม้น่ารักขนาดนี้ มาเป็นน้องชายพี่ดีกว่านะ หึหึ
ใช่เลย เป็นน้องชาย น้องที่ผมฝันอยากมีมาตลอด ตอนนี้ผมมีน้องชายแล้ว
TBC ....
อิพี่โอ๊ตก็ยังคงปักใจเชื่อว่า เอ็นดูน้องไม้เหมือนน้องชายคนนึงต่อไป
ไหนใครอยากเห็นพี่โอ๊ตหวงน้องชายนอกไส้บ้าง ยกมือขึ้นค่ะ 55555555
พาคนซึน2018 มาส่ง ไม่ใช่แค่พี่หรอกที่ซึน คนน้องก็ซึนไม่แพ้กัน
แอบใส่ปมเล็กๆให้น้องไม้ เผื่อไว้ก่อไฟต้มมาม่า 555555
อ๊ะๆ นิยายพันวาไม่มีมาม่า แค่หน่วงๆ เนอะ
ขอบคุณคนเม้นท์ให้กำลังใจพันวานะคะ
จะมาเรื่อยๆไม่ดองแล้วเด้ออออออออออออออออออ