Lesson 21
( Win Part )
ตอนนี้ผมกำลังออกจากบ้านครับเพราะพึ่งส่งเฟียร์เสร็จก็กลับมาบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อเป็นชุดนักศึกษาเตรียมตัวไปเรียนในภาคบ่ายแต่แล้วเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ผมมองดูเบอร์ที่โชว์อยู่ที่จอก็สงสัยว่ามีอะไร
“ไมโล ว่าไงครับ”
“พี่วินค่ะ พี่วิน” เสียงเธอดูตื่นๆนะครับ
“คือเฟียร์ เฟียร์”
“เฟียร์เป็นอะไร ไมโล” ผมเริ่มใจไม่ดีแล้วครับตอนนี้
“คือ...คือ..” เธอเหมือนจะพูดไม่ออก
“ใจเย็นๆก่อน แล้วรีบบอกพี่มาเฟียร์เป็นอะไร” ผมตอบด้วยความหงุดหงิด
“เฟียร์โดนผู้ชายประมาณสี่คน ลากไปหลังตึกเก่าน่ะค่ะพี่วิน”
“เฮ้ยยยย” ผมอุทาน
“แล้วไมโลเห็นว่า ยัยน้ำหวานก็ไปด้วยนะพี่วิน พี่วินช่วยเฟียร์ด้วยสิ”
“สัดเอ้ย!!!” ผมสบถคำด่าอย่างดังแล้วรีบขับรถไปมหาลัยอย่างรวดเร็ว ผมขับรถมาอย่างร้อนใจเป็นห่วงเฟียร์กลัวมันจะเป็นอะไรเพราะตัวมันก็แค่นั้นกับผู้ชายสี่คน ถ้าเฟียร์เป็นอะไรไปนะผมเอาเอายัยหวานไว้แน่
เมื่อผมจอดรถและโทรบอกพวกไอ้ส้ม พวกเราก็มาถึงพร้อมกันและวิ่งไปหลังตึกเก่าทันทีครับและภาพที่ผมและทุกคนเห็นก็ตั้งอ้าปากค้างไปตามๆกัน
( Fear Part )
ผมถูกลากมาถึงหลังตึกเก่าซึ่งมันก็เก่าสมชื่อจริงๆนั้นแหละผมถูกเหวี่ยงลงกับ รู้สึกเจ็บที่แขน ถ้าถลอกขึ้นมานะ อย่าหาว่าผมไม่ปราณีแล้วกัน ผมหันไปมองอีตัวต้นเหตุที่ฉุดกระชาก ลากถู ผมมาถึงที่
“คุณมีธุระอะไรกับผมมิทราบ” ผมถามด้วยน้ำเสียงเย็นๆ
“ยังปากเก่งเหมือนเดิมนี่ แกน่ะ” มันยื่นมือมาจับหน้าผม ผมปัดมือหล่อนทิ้งเพราะตอนนี้รู้สึกขยะแขยงร่างกายคนคนนี้เหลือเกิน
“คุณมีอะไรก็รีบพูดมา ผมกำลังรีบ” ผมถามด้วยน้ำเสียงเย็นๆเหมือนดิม
“จะรีบไปไหนล่ะ ฉันอุตส่า พาคนมาไห้พานายไปสวรรค์เลยนะไม่สนใจหรอ” เธอพูดแล้วยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“จัดการซะ แล้วก็อย่าลืมถ่ายคลิปไว้ด้วยล่ะ” เธอสั่ง
“ครับ คุณหนู” อื้มท่าทางเป็นลูกคนใหญ่คนโตสินะ
“ผมไม่อยากจะพูดหรอกนะว่า ให้คุณคิดใหม่ก่อนจะมีเรื่องกับผมน่ะ”
“หุบปากเถอะน่า!!! เดี๋ยวก็ดังแล้วแค่แปปเดียว” เธอพูด
“เอาล่ะ ลงมือได้แล้ว” เธอพูดจบพวกสี่คนนั้นก็เดินตรงมาทางผม แต่คนอย่างผมเหรอจะยอม คนนึงล็อกคอผม อีกคนเตรียมจะจับแต่ว่า......
“ผลั้ก.....โอ้ย”
“ผลั้ว....ตึ้ง ๆ” ผมสัดกับพวกมันตะลุมบอนกันอยู่นานผมโดนเตะเฉี่ยวๆที่สีข้างนิดหน่อยเมื่อจัดการสี่คนเสร็จผมหันหน้าไปหาคู่กรณีทันทีตอนนี้สีหน้าเธอดูหวาดกลัวมากๆ
“เธอรู้ไหม ว่าเล่นอยู่กับใคร หึหึ” ผมมองเธอด้วยสายตาที่เชือดเฉือนเธอมากๆเมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ตัวเธอแล้ว
ก็มีเสียงคนวิ่งกลุ่มใหญ่พอสมควรวิ่งมาครับและเมื่อผมหันไปดูก็มี โอ้ ไมโล ยะ เอ้ พี่วิน พี่ส้ม พี่แป้ง พี่ต้น พี่โชว์ พี่ฟ้า พี่เกียร์ พี่แสบ และก็ใครอีกไม่รู้เยอะเลยครับแต่คงเป็นเพื่อนร่วมคณะของพวกพี่เค้านั้นแหละครับ
“อ้าว สวัสดีตอนเช้านะทุกคน” ผมยิ้มและยกมือไหว้พวกพี่ๆเค้าก็รับไหว้กันแบบ งงๆ
“เฟียร์...ไม่เป็นไรไช่ไหม” พี่วินครับดูท่าทางร้อนใจอยู่เหมือนกัน
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมขอเคลียร์ปัญหาส่วนตัวก่อนละกันนะ” พูดจบผมก็หันไปหายัยหวานทันที
“อ้าว ท่าทางยโสโอหังเมื่อกี้หายไปไหนหมดซะล่ะ คุณหวาน” ผมพูดเธอดูสั่นเล็กน้อย
“ผมบอกคุณไว้เลยนะครับ ว่าผมไม่ไช่คนดี และก็ไม่ไช่คนที่จะยอมได้ทุกเรื่อง…เพี๊ยยย”ทุกคนอึ้งครับ
“นี่สำหรับ ที่มาหาเรื่องผมวันก่อนจนทำให้ผมเป็นไข้” เธอเริ่มน้ำตาเล็ดร้องไห้แล้วครับ
“ฮืออๆ ๆ ฉันขอโทษ ฉันจะไม่ทำอีก นายอย่าทำอะไรฉันเลย ฮือๆ”
“เพี๊ยยยยย......เพี๊ยยยยย”
“นี่สำหรับวันนี้ที่ทำไห้ผมเสียเวลาและเจ็บตัว คุณไม่ต้องนั่งบีบน้ำตาหรอก....มัน ไม่ มี ประโยชน์!!!” ผมพูดเน้นเสียงตอนท้ายแล้วเดินออกมา ทุกคนค้างครับตาบางคนนี่โตยิ่งกว่าไข่ห่านอีก ไม่รู้ตกใจอะไร
“โอ้ยยยย” ผมรู้สึกเจ็บที่สีข้างครับพี่วินก็เข้ามาประคองผมครับ
“เป็นอะไรเฟียร์เจ็บตรงท้องหรอ” ผมก็ผยักหน้า แต่พอเลิ้กเสื้อขึ้นดูก็พบว่ามันเริ่มเขียวๆม่วงๆแล้วครับ สงสัยจะช้ำ
“ไปให้หมอเช็คเถอะพี่ว่า เดี๋ยวช้ำใน”
“ไม่!!!” ผมเผลอตวาดเสียง พี่วินหน้าเหวอเลย
“เอ่อ....คือ....เฟียร์ไม่อยากขาดเรียนนะ ใกล้สอบแล้ว” ผมตอบเบี่ยงๆ จริงๆแล้วผมไม่ชอบโรงพยาบาลเพราะมันเป็นที่ ที่ผมเสียยายไป
“งั้นก็กินนี่หน่อยนะ...อ่ะ” ไมโลยื่นยาแก้ปวดมาให้ผมครับ
“อืม ขอบใจว่า” พูดเสร็จผมก็กินยาเลยครับ
“เฟียร์ มีใครมาช่วยเฟียร์ก่อนพวกพี่หรอ” พี่แสบถามครับ
“ไม่มีนี่ครับ พวกพี่นั้นแหละมากลุ่มแรก ขนกันมาเฟียร์นึกว่าจะไปตามฆ่าใคร” ผมพูดแล้วยิ้มๆครับ
“เอ่อ แล้วไอ้สี่คนนั้นฝีมือใครหรอ” พี่ต้นถามครับ
“....เฟียร์ เองแหละครับ” ผมพูดจบทุกคนเบิกตาโพรงกว้างเลยครับ
“ห๊ะ!!!!”
“ตลก พี่ไม่อยากจะเชื่อตัวแค่เนี่ยเอาอะไรไปสู้เค้าวะ” พี่โชว์พูดครับ
“โหพี่ดูถูกผมมากเลยนะ ผมเรียนกังฟูตั้งแต่หกขวบยันสิบสองขวบก็ หกปีเต็มเลยนะพี่” พอพูดจบทุกคนก็พอเข้าใจครับและตามมาด้วยเสียงแซว
“วิน ท่าทางมึงจะเจอของโหดว่ะ ฮ่าๆ ๆ “ พี่โชว์พูดครับ
“เออๆ มึงระวังไว้นะเว้ยยย หนีเที่ยวกลางคืนแล้วโดนจับได้ละก็...กูไม่อยากจะคิด” พี่ฟ้าครับ
“หรอครับพี่ แต่ถ้าพี่สองคนไม่สงบปากลงเดี๋ยวนี้ล่ะก็.....ผมจะทำให้พี่มีสภาพไม่ต่างจากพวกนั้นเลยครับ” ผมยิ้มแบบเย็นๆ และพูดเน้นคำหลังอย่างชัดเจน
“เอ่อ....พี่ล้อเล่นน่ะ อย่าถือสาพี่เลยนะ” พี่โชว์ครับ
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ถุย เก่งแต่ปากนะมึง เจอเด็กตัวแค่เนี่ย หงอเลย”
“ฮ่าๆๆๆ”พวกเราหัวเราะกันอีกรอบ
หลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นและช่วงสอบปลายภาค พี่วินมันโรคจิตอะไรไม่รู้มานอนห้องผมก่อนสองสัปดาห์เลยกลายเป็นว่าผมต้องปั้มกุญแจให้พี่วินอีกดอกนึงแต่สถานะเราก็ยังคงเป็นแค่พี่น้องกันครับ อยู่แบบนี้ผมก็มีความสุขดีครับ