:: 6 ::
“พี่เค้ก นั่งตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวผมเอาขนมไปใส่จากก่อน อย่าไปไหนนะ”
“บิ๊ก พี่รู้แล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆสักหน่อย” ผมบ่นหมุบหมิบอย่างไม่เข้าใจจนบิ๊กหัวเราะออกมาก่อนที่เสียงจะเงียบหายไป ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนต้องเห็นผมเป็นเด็ก หรือผมต้องเอาป้ายมาแขวนคอแล้วเขียนว่า
‘ผมอายุ 19 แล้วครับ โตแล้ว!’ และกรกฏาคมนี้ผมก็จะ 20 แล้วด้วย
บิ๊ก เป็นลูกชายเจ้าของหอที่ผมพักอยู่ อายุน้อยกว่าผมแค่ปีเดียวและตอนนี้ก็เรียนมอ 6 ที่โรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง ศุกร์ตอนเย็นก็จะกลับบ้านทีหนึ่งทุกอาทิตย์
“มาแล้วคร้าบบบบบบ มามะ เดี๋ยวผมป้อน” เสียงห้าวที่ดูสดใสของบิ๊กทำให้ผมยิ้มได้ตลอดเวลา ผมไม่เคยเห็นหน้าบิ๊กหรอก ตอนผมมาอยู่ที่นี่ผมก็มองไม่เห็นอยู่ก่อนแล้ว แต่บิ๊กก็ดีกับผมมาก วันหยุดทีไรบิ๊กจะมาอยู่เป็นเพื่อนผม คอยซื้อขนมมาให้ทั้งๆที่ผมเคยบอกแล้วว่าไม่ต้องซื้อมา มันเปลือง แต่บิ๊กก็ไม่เคยฟังผมสักที รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ที่ผมจะฝากบิ๊กซื้อให้ แต่ก็เกรงใจเหมือนกัน
ถ้าพูดเรื่องความใจดี ยังมีอีกคนที่ใจดีกับผมมาก นั่นก็คือพี่ทราฟ ทำให้ผมรู้ว่าบางทีโลกใบนี้มันก็ไม่ได้โหดร้ายเกินไปหรอก
“พี่กินเองดีกว่า บิ๊กก็กินเถอะ” ผมยื่นมือไปรับช้อน บิ๊กบ่นอุบอิบจะป้อนผมให้ได้แต่ผมไม่ยอม อะไรที่พึ่งตัวเองได้ผมก็จะทำเอง
“เมื่อวานบิ๊กไปหาพี่เค้กที่ห้อง แต่พี่เค้กไม่อยู่ ไปไหนมาเหรอ” ผมหยุดมือที่กำลังตักเค้กอยู่ กลืนเค้กในปากลงคอ รสชาติของช็อคโกแลตกับสตรอเบอร์รี่ทำให้ผมมีความสุข
“พี่ออกไปเดินเล่นข้างนอกมา”
“ไปกับใครอ่ะ”
“พี่ที่รู้จักน่ะ” เมื่อบิ๊กจะถามอะไรสักอย่างแต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่อยากพูดถึงพี่ทราฟกับคนอื่นสักเท่าไหร่
“แล้ววันนี้บิ๊กกลับโรงเรียนเมื่อไหร่หรอ แล้วตอนนี้กี่โมงแล้ว” ผมถาม เพราะคิดว่าตอนนี่น่าจะบ่ายแล้วและยังเป็นวันอาทิตย์ที่บิ๊กต้องกลับโรงเรียน
“จะบ่ายสามแล้วครับ อีกสักพักก็จะกลับแล้ว แต่บิ๊กยังไม่อยากกลับเลยอ่ะ คราวนี้มีเวลาอยู่กับพี่เค้กนิดเดียวเอง” แม่ของบิ๊กเคยพูดว่าบิ๊กตัวโตเกินที่จะอ้อนได้ แต่เขาก็มักจะอ้อนผมแบบนี้เสมอ แต่ที่ผมพอรู้ก็คือบิ๊กสูงกว่าผม แต่ในเมื่อเขาอายุน้อยกว่าผม ผมก็เลยไม่ได้ว่าอะไร
“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็ได้เจอกัน” เวลาผ่านไปเร็จจะตาย แปบๆก็หมดวันแล้ว
“โหย ตั้งอีกอาทิตย์แน่ะ” บิ๊กร้องโอดครวญน่าสงสาร
“ไปตั้งใจเรียนไป เป็นเด็กเป็นเล็ก” ผมลองพูดบ้าง รับรองว่าบิ๊กจะต้องโวยวายออกมาแน่ๆ
“บิ๊กโตแล้วเถอะพี่เค้ก สาวๆนี่จีบผมตรึมไม่อยากจะคุย” นี่ขนาดไม่อยากจะคุยยังพูดซะขนาดนี้ ฮ่าๆๆ ตลกดีจัง
“ไอ้บิ๊ก! เก็บของเสร็จยัง อาแกมารับแล้ว” เสียงของน้าแก้วแม่ของบิ๊กตะโกนมาจากที่ไหนสักที่ไม่หน้าหอก็หลังหอ
“อะไรว่ะเนี่ย ต้องกลับซะแระ”
“อย่าบ่นน่า ไปๆ เดี๋ยวพี่จะขึ้นห้องแล้ว” ผมบอกบิ๊ก เพราะบิ๊กมันจะทำตัวเป็นเด็กๆทุกทีที่ต้องกลับโรงเรียน ทั้งๆที่ผมอยากเรียนจะตายแต่บิ๊กกลับขี้เกียจที่จะเรียน ทำไมนะ ถ้ามีโอกาศที่ดีก็ควรจะไขว้ขว้าไว้สิ
“เดี๋ยวผมไปส่ง” บิ๊กรีบบอกทันที ได้ยินเสียงจานกระทบกันเพราะบิ๊กคงกำลังเก็บจานอยู่
“ไม่เป็นไร พี่ขึ้นห้องเองได้ แค่นี้เอง ไม่หลงหรอก ไปเก็บจานเถอะ” ผมบอกติดตลก ก็มันจริงนี่น่า ถึงผมมองไม่เห็น แต่การเดินขึ้นห้องเองทุกวันผมก็พอรู้หรอกว่าต้องไปยังไง ห้องผมอยู่แค่ชั้นสองเองไปได้หนักหนาเลย เพราะผมดูแลตัวเองได้
“เค้ก!” เสียงที่ฟังดูเหมือนตกใจพร้อมกับแรงจับที่หัวไหล่ทำให้ผมต้องหยุดเท้าที่กำลังก้าวขึ้นบันได เสียงที่คุ้น กลิ่นน้ำหอมที่เคยได้กลิ่น ทำให้ผมรู้ว่าเป็นใครก็รู้สึกโล่งใจ
“พี่ทราฟ....เป็นอะไรเหรอครับ”
“เปล่า พี่แค่ตกใจที่ไปหาเราที่ห้องแล้วไม่เจอ คิดว่าหายไปไหน” ผมรู้สึกชื้นใจที่พี่ทราฟเป็นห่วงผมขนาดนี้ ผมเลยยกมือไปจับแขนพี่ทราฟที่ยังจับที่ไหล่ผมอยู่
“พาผมกลับห้องหน่อยสิครับ” ผมบอก
“ได้สิ แล้วเราไปไหนมาเหรอ พี่ถามได้ไหม” ผมเดินตามพี่ทราฟที่เปลี่ยนจากจับไหล่มาจูงมือผมให้เดินตามและพากลับห้อง
“เค้กแค่ไปนั่งเล่นข้างล่าง พอดีลูกเจ้าของหอเขาซื้อขนมมาฝากเลยชวนเค้กไปกิน แล้วพี่ทราฟล่ะครับ มาทำอะไรเหรอ” ผมส่งกุญแจห้องให้พี่ทราฟ พี่ทราฟหยิบไปไขก่อนจะดันผมเข้าห้อง
“ที่บ้านพี่จัดงานเลี้ยง พี่เลยจะชวนเค้กไปด้วย อยู่ห้องคงน่าเบื่อแย่เลยใช่ไหมล่ะ”
“เค้กไม่ไปได้ไหมครับ” ผมถามออกไป เพราะรู้สึกว่าไม่อยากจะไปเลยจริงๆ
“ทำไมล่ะ”
“ก็...เค้กไม่รู้จักใคร เค้กไปก็ทำตัวไม่ถูก” เป็นไปได้ผมอยากจะหลีกเลี่ยงการพบปะกับผู้คน ผมไม่อยากออกไปไหนในสภาพที่ตัวเองเป็นแบบนี้เท่าไหร่ ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ผมจะไปไหนไม่ถูก จับจุดอะไรไม่ได้ และสุดท้ายก็จะกลายเป็นภาระคนอื่น ซึ่งผมไม่ชอบ ไม่อยากเป็นแบบนั้น
“พี่ไง เค้กรู้จักพี่ และที่บ้านพี่ก็มีเพื่อนพี่และรุ่นน้องอีก อายุก็เท่าเค้กบ้างหรือมากกว่าเค้กบ้าง สนุกนะ ไปกลับพี่เถอะ” พี่ทราฟพยายามพูดโน้มน้าวให้ผมเปลี่ยนใจ แต่ผมก็ยังไม่อยากไปอยู่ดี
“เค้ก...ไม่อยากไปครับ” ผมก้มหน้าลง เล่นมือตัวเองเพราะไม่รู้จะทำอะและไม่รู้ว่าพี่ทราฟจะรู้สึกยังไง เข้าใจว่าต้องรักษาน้ำใจคนชวน แต่ผมอึดอัดนิ
“เป็นอะไรไปครับ อย่าคิดมากสิ พี่แค่อยากพาเราไปสนุกเท่านั้นเอง หืม เด็กดี ไม่อยากไปเหรอครับ” พีทราฟดังผมไปนั่งที่เตียงและพี่ทราฟก็นั่งลงข้างๆผม ผมพยักหน้าตอบน้อยๆ ผมไม่อยากไปจริงๆนะ ผมอยากอยู่ที่ห้องมากกว่า
“บอกพี่ได้ไหมว่าทำไมถึงไม่อยากไป ไม่เหงาเหรอ” พี่ทราฟยังคงถามหาเหตุผมที่ไม่ไปอีกครั้ง
“เค้ก...ไม่อยากไป เค้กอยู่ห้องก็ได้ครับ ไม่เหงาหรอก” ถึงจะเหงาก็ดีกว่าไปอยู่ถามกลางคนเยอะโดยที่มองไม่เห็นแบบนี้ ถ้าเขารังเกียจผมล่ะ ผมจะทำยังไง
“ไม่เอาครับ ไม่ดิ้อนะ ไปกับพี่นะครับเค้ก” พี่ทราฟนั่นแหละที่ดื้อ ทำไมต้องบังครับผมด้วย เหมือนน้ำตาผมจะไหล ผมเลยก้มหน้าลง น้อยใจที่พี่ทราฟดูจะไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผมถึงไม่อยากไป
“แต่คนเยอะ เค้กไม่ชอบ เค้กไม่ไป” ผมหันตัวหนีไปอีกทาง ผมไม่อยากเอาแต่ใจแต่...ผมไม่อยากไป
อ้อมกอดจากคนข้างหลังทำให้ผมปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาง่ายๆ ผมจะโทษใครดี โทษผมที่รู้สึกดีกับพี่ทราฟเร็วเกินไปจนเปิดเผยความรู้สึกตัวเองง่ายๆแบบนี้ หรือโทษผมที่ทราฟเอาใจและตามใจผมจนทำให้ผมอยากเอาแต่ใจ
“อย่าร้องสิเค้ก ยิ่งเค้กร้องพี่ยิ่งไม่อยากให้เค้กอยู่คนเดียว ไหนบอกว่าไว้ใจพี่ไง พี่อยากให้เค้กไปสนุกกับงานเลี้ยงที่พี่จัด เชื่อพี่ว่าเพื่อนพี่ต้องชอบน้องชายของพี่คนนี้แน่นอน เค้กน่ารักจะตายไม่ต้องกลัวอะไรหรอก เพื่อนพี่ใจดีทุกคนเลยนะ แถมยังมีอาหารอร่อยๆเยอะแยะมากด้วย”
“แล้ว ฮึก ถ้าเพื่อนพี่ไม่ อึก ไม่ชอบเค้กล่ะ” ผมถามเสียงเบา พี่ทราฟกอดผมและโยกตัวผมไปมาทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น
กอดของพี่ทราฟอุ่นจัง
“ต้องชอบแน่นอน อยู่กับพี่ไม่มีใครทำอะไรเราหรอกและพี่ก็จะดูแลเค้กเองไม่ทิ้งเราด้วย นะครับ ไปกับพี่นะ” ผมนิ่งคิดว่าจะเอายังไงดี เมื่อวานพี่ทราฟก็พาผมไปเดินเล่น กินข้าว ซื้อของให้มากมาย ถ้าผมยอมไปเป็นการตอบแทนพี่ทราฟก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ยังไงผมก็เลือกที่จะไว้ใจพี่ทราฟ และพี่ทราฟเองก็บอกแล้วว่าจะไม่ทิ้งผม มันก็คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง
“ก็ได้...ครับ” ผมไม่ได้คิดผิดใช่ไหมที่เลือกไปกับพี่ทราฟ
“งั้นก็ลุกไปแต่งตัวไป เดี๋ยวพี่เลือกชุดให้” พี่ทราฟปล่อยตัวผมออกจากอ้อมกอด จนผมรู้สึกโหว่งๆแปลกๆ ผมนั่งรอสักพักพี่ทราฟก็วางเสื้อผ้าไว้ที่ตักผมก่อนจะลูบหัวผมเบาๆและบอกให้ผมไปเปลี่ยเสื้อผ้า
ผมเดินเข้าห้องน้ำ วางเสื้อผ้าที่ชั้นวางของในห้องน้ำก่อนจะถอดเสื้อออกและหยิบเสื้อยืนคอกลมที่พี่ทราฟเลือกให้มาใส่ ตามด้วยกางเกงที่เป็นกางเกงยีนขาสั้นเหนือเข่านิดหน่อย จัดการล้างหน้าและปะแป้งใหม่อีกเล็กน้อย เสร็จแล้วก็เดินออกจากห้องน้ำ ได้ยินเสียงพี่ทราฟคุยกับใครสักคน คงจะกำลังคุยโทรศัพท์อยู่แน่ๆ
“จะบ่นทำไมเนี่ย เสร็จแล้วก็ยืนรอ เดี๋ยวกูกำลังจะออกจากห้องน้องเขาแล้ว และก็แวะไปรับมึงเลยไง” ผมไม่รู้จำทำยังไงเลยเดินเบาๆไปหยิบกระเป๋าตังค์มาใส่ไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลังและนั่งลงบนเตียงรอพี่ทราฟที่ไม่รู้อยู่ตรงส่วนไหนของห้อง
“บ่นจริง เออๆ เดี๋ยวกูออกเองก็ได้ เดี๋ยวกลับไปเอาตังค์ให้เลย แค่นี้ก็ต้องบ่น” พี่ทราฟบ่นแบบหงุดหงิดแบบที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน
“เสร็จแล้วเหรอครับเค้ก ไปกัน เพื่อนพี่กับแฟนพี่รออยู่ที่ตลอด เดี๋ยวเราต้องแวะไปรับมันก่อน” ผมฟังพี่ทราฟพูดก็สะดุดเข้ากับคำว่าแฟน พี่ทราฟมีแฟนแล้วอย่างนั้นเหรอ มันก็คงต้องอย่างนั้นใช่ไหม ก็พี่ทราฟเพิ่งพูดนิ
ผมลุกตามพี่ทราฟที่จับมือผมไว้ แต่พอจะออกจากห้องผมก็เพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้ให้อาหารปลาเลย ผมเลยกระตุกมือพี่ทราฟนิดๆ
“มีอะไรเหรอเค้ก”
“ผมยังไม่ได้ให้อาหารอ้วนกลมเลย”
“อ้วนกลม?”
“ปลาทองของผมเอง” ผมตั้งชื่อมันว่าอ้อนกลมเพราะผมอยากเลี้ยงมันให้อ้วนๆ ผมเคยเลี้ยงอีกตัวเมื่อก่อน มันตัวอ้วนมากๆ หัววุ้นโต ตัวอ้วนกลมบ๊อก มันน่ารักมากๆเลย แต่มันอยู่ที่บ้านใหญ่ ผมไม่ได้พามันออกมาด้วย
พอผมให้อาหารปลาทองเสร็จพี่ทราฟก็พาผมไปขึ้นรถเพื่อที่จะไปรับเพื่อนและแฟนของพี่ทราฟที่ตลาดสด ผมนั่งไปก็คิดไปตลอดทางว่าถ้าถึงตลาดสดแล้ว ผมต้องลงไปนั่งหลังแล้วให้แฟนพี่ทราฟมานั่งหน้าแทนดีหรือเปล่า แต่พี่ทราฟไม่ได้บอกอะไรผมก็เลยเลือกที่จะเงียบ จนรถหยุดลงผมเลยรู้ว่าคงถึงตลาดสดแล้ว เสียงเปิดประตูข้างที่ผมนั่งเปิดออก ผมเลยหันไปดูที่ไม่รู้จะหันทำไง ยังไงก็มองไม่เห็นอยู่ดี
“ทราฟ” เสียงผู้หญิงที่ออกหวานนิดๆดังขึ้น คนนี้คงเป็นแฟนพี่ทราฟสินะ อยู่ดีๆผมก็รู้สึกเกร็งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“เอ่อ เฟไปนั่งข้างหลังกับไอ้สองละกัน เปลี่ยนไปมามันลำบาก” พี่ทราฟเอ่ยเสียงเรียบๆ ผมเลยไม่รู้ว่าพี่ทราฟรู้สึกยังไง
“อ่อ โอเค” แฟนพี่ทราฟพูดก่อนที่เสียงปิดประตูด้านข้างผมจะดัง
“ไอ้ทราฟ มึงนะมึง บอกไปแปบเดียว หายหัวไปเลย กูกลับเฟต้องเดินซื้อของกันอยู่สองคนเนี่ย เอ๊ะ นี่ใครอ่ะ” เสียงผู้ชายที่ไม่ใช่พี่ทราฟดังขึ้น คนนี้คงจะเป็นเพื่อนพี่ทราฟ ฟังดูจากสรรพนามที่เรียกกันก็พอจะรู้
“เอาหน้ามึงกลับไปเลยไม่ต้องโผล่มาไอ้สอง น้องตกใจหมด” เสียงพี่ทราฟดุเพื่อนเสียงดัง แต่ผมไม่ได้ตกใจหรอก เพราะไม่รู้ว่าพี่เขาทำอะไรกัน
“โหยยย อะไรวะ หวงไง ว่าแต่น้องน่ารักชื่ออะไรอะครับ พี่ชื่อเจนะ” เสียงเพื่อนพี่ทราฟที่ชื่อเจดังขึ้นอีกครั้งและยังถามชื่อผมด้วย
“ชื่อเค้กครับ” ผมตอบเสียงเบา
“ชื่อน่ากินจัง กินได้ไหมครับ”
“พอๆไอ้เจ น้องกูก็เว้นๆบ้างเหอะ สันดานจริงๆมึง” ผมไม่ได้ใส่ใจกับบทสนทนาของพี่ทราฟกับพี่เจสักเท่าไหร่ เพราดูเหมือนจะตีกันไปมามากกว่า แต่พี่เฟแฟนพี่ทราฟนั่งเงียบ ผมไม่ได้ยินเสียงพี่เขาเลย ไม่รู้ว่าพี่เขาไม่พอใจหรือเปล่าที่ผมมาแย่งที่นั่งข้างหน้าข้างพี่ทราฟแบบนี้
“เจนี่นะ น้องเค้กกลัวแล้วมั่งเนี่ย น้องเค้กอายุเท่าไหร่ค่ะ” เสียงพี่เฟพูดขึ้นอย่างร่าเริง บางทีพี่เขาอาจจะไม่คิดมาก เป็นผมเองที่คิดมากไป
“สิบเก้าครับ”
“หน้าเด็กจัง ทราฟๆ จอดร้านเค้กร้านโปรดของเฟให้หน่อยสิ เฟอยากกิน” ผมสะดุ้งที่อยู่เสียงพี่เฟก็ดังขึ้น ทำไมผมถึงรู้สึกกลัวทั้งๆที่เสียงพี่เฟก็ออกจากหวาน
“ได้สิ กินเยอะๆเดี๋ยวอ้วนนะเฟ เค้กครับ อยากกินขนมอะไรไหม” พี่ทราฟคุยเล่นกับพี่เฟก่อนจะถามผม ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ตอนนี้ผมไม่รู้สึกอยากกินอะไรเลยสักนิดเดียว
“เฟ ฝากซื้อเค้กให้น้องสักสองชิ้นนะ เอแครล์ด้วย อ่ะนี่เงินครับ”
จะผิดไหม ถ้าผมจะตะโกนออกไปว่าผมไม่อยากไปแล้ว
ผมอึดอัด...ทำไม
ทำไมผมถึงเศร้าใจล่ะ
----------
----------