ตอนที่ 15 ความทรงจำผมขยับตัวยุกยิกไปมาบนเตียงก่อนจะส่ายหน้าหนีสัมผัสนุ่มนิ่มที่ประทับกลางหน้าผาก อดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อรู้สึกเพลิดเพลินกับสัมผัสคุ้นเคยที่เหมือนใครสักคนกำลังลูบหัวอยู่
“ตื่นได้แล้วคนเก่ง” ผมกัดริมฝีปากกลั้นยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหวานที่ผมคุ้นเคยดีว่าใครกำลังพูดดังอยู่ข้างหู
ความจริงผมตื่นแล้ว ตื่นตั้งแต่มีคนมาลูบหัวแล้ว แต่ยังไม่อยากลืมตา
ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ..
“อย่าดื้อสิครับ แม่รู้นะว่าตื่นแล้ว” เสียงใจดียังคงพูดอยู่ใกล้ๆ ปลายจมูกของแม่กดลงบนแก้มแล้วหอมเสียฟอดใหญ่ ผมยิ้มแก้มตุ่ยก่อนจะยอมลืมตาตื่นขึ้นมาดีๆ
สิ่งแรกที่เห็นคือรอยยิ้มอบอุ่น อุ่นยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ยามเช้าอีก
“ลุกไปแปรงฟันเร็ว พ่อรอกินข้าวอยู่” มือเรียวจับแขนผมพยายามฉุดขึ้นจากเตียง ผมอิดออดไม่ยอมลุกขึ้น ไม่เอา ยังไม่อยากลุกเลย อยากอ้อนแม่ต่อ
“จริงๆเลยนะเรา” แม่ขยี้หัวผมแรงๆ ก่อนจะทิ้งตัวนอนข้างๆแล้วดึงผมเข้าไปกอด ซึ่งผมก็โอนอ่อนกอดตอบ พลางซุกหน้าลงกับอกอุ่นหอมกรุ่นที่ผมชื่นชอบ
“น้องต้าโกรธแม่มั้ยคะ ที่แม่..ที่แม่ตีหนูเมื่อวาน”
มือที่ลูบหัวผมชะงักไปนิดเมื่อย้อนคิดไปถึงการกระทำของตัวเองที่พลั้งเผลอรุนแรงแล้วลูบหลังผมอย่างปลอบโยน
“ไม่โกรธครับ” ผมส่ายหน้ากับอกนุ่มแล้วกอดแน่นกว่าเดิม
“แม่ขอโทษนะคะ เจ็บมั้ยลูก” มือเรียวดันตัวผมออกก่อนปลายนิ้วจะลูบแก้มผมข้างที่มีรอยฝ่ามือประทับเบาๆ นัยน์ตาที่มองมาเศร้าสร้อยและสำนึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป
ผมส่ายหัวแรงๆ เพื่อยืนยันกับแม่ว่าผมไม่เจ็บจริงๆ
ผมคลี่ยิ้มกว้างแล้วโผกอดอีกครั้ง แค่แม่กลับมาเป็นแม่ที่ใจดีเหมือนเดิมก็พอแล้ว ความจริงแก้มข้างนั้น.. มันก็เจ็บนิดหน่อย แต่ผมไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ
ปกติแม่ผมใจดีนะ ใจดีมากๆด้วย อ้อมกอดก็อบอุ่นสุดๆ เหตุการณ์เมื่อวานก็แค่... แม่ก็แค่โมโหต้าเท่านั้นเอง... แม่จะตีต้าเวลาต้าดื้อ เมื่อวานต้าอาจจะดื้อเลยทำให้แม่ไม่พอใจ ไม่อยากให้แม่เป็นแบบนั้น เพราะงั้น.. ต่อไปนี้ ต้าจะไม่ดื้อ
ต้าเคยถูกแม่ตี แม่เคยโกรธต้า แต่ไม่เคยโกรธมากๆเหมือนเมื่อวาน แต่พอตอนเช้าแม่ก็หาย จะทายาแล้วกอดต้าแบบนี้
ผมกระชับกอดแน่นๆ ทดแทนอ้อมกอดเมื่อวานที่ยังกอดแม่ไม่เต็มอิ่ม
“ถ้าตื่นแล้วก็ลุกไปแปรงฟันเร็ว คุณพ่อบ่นใหญ่เลยว่าอยากเจอ”
ผมผละตัวออกก่อนจะพยักหน้าถี่ๆ แล้วยิ้มตาหยี อยากเจอพ่อเหมือนกัน ถ้าเจอ ต้าจะกอด จะหอมแก้มพ่อแรงๆเลย!
ผมขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง แม่เองก็ลุกขึ้นแล้วพับผ้าห่มเก็บที่นอนให้อย่างเรียบร้อย ผมลิงโลดวิ่งเข้าห้องน้ำ บีบยาสีฟันลงบนแปรงนุ่มๆก่อนจะบ้วนน้ำเข้าปากหนึ่งทีแล้วลงมือแปรงฟัน มองตัวเองในกระจกที่ปากเต็มไปด้วยฟองสีขาวๆแล้วขำคิก
มือที่กำลังแปรงฟันอยู่พลันชะงักก่อนจะขยับมือเร็วขึ้น รีบๆถูฟันให้เสร็จแล้วล้างหน้าก่อนจะวิ่งออกจากห้องน้ำทั้งที่หน้าเปียกโชก
“แม่! แม่ครับบ” ผมรีบวิ่งไปดักหน้าแม่ที่กำลังจะเดินออกจากห้อง
“ทำไมไม่เช็ดหน้าให้เรียบร้อยก่อน” มือเรียวเขกหัวผมก่อนจะเดินไปหยิบผ้าผืนเล็กที่พับไว้อย่างเป็นระเบียบ คลี่ผ้าแล้วนำมาเช็ดหน้าผมซึ่งเดินตามหลัง เหมือนลูกเป็ดเดินตามแม่เป็ดต้อยๆ
ผมหลับตายืนนิ่งๆให้แม่เช็ดหน้า ก่อนจะยิ้มตาหยีเข้าไปกอดแม่หลังจากที่เช็ดเสร็จแล้ว
“วันนี้ต้าไม่ไปโรงเรียนได้มั้ย?” ผมค่อยๆบอกสิ่งที่ต้องการ
ผมรู้สึกได้ว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดผมนิ่งชะงักไป
เห็นแม่นิ่งไม่ต่อว่าอะไร ผมก็ยิ้มสิ อ้อนต่อทันทีเผื่อฟลุ๊กได้หยุดเรียน
“นะครับ ต้าไม่อยากไปเลย การบ้านที่ครูสั่งก็ยังไม่ได้ทำ ต้าไม่อยากโดนคาบไม้บรรทัดหน้าห้องเรียน เดี๋ยวโดนเพื่อนล้อ” ผมเบ้ปากก่อนจะกระชับกอดแน่นขึ้น หัวถูต้นแขนเมื่อแม่ยืนเฉยไม่หือไม่อือกับคำขอของผม
“ต้าสัญญา วันจันทร์ต้าจะไปโรงเรียน ไม่ดื้อ ไม่ตื่นสาย” ผมดึงตัวออกออกจากอกอุ่นแต่ยังไม่ปล่อยมือจากเอวแม่ ผมยิ้มค้างเมื่อเห็นแม่จ้องหน้าผมนิ่ง คิ้วขมวดเป็นปม
“นะครับ ต้าขอหยุดเรียนวันนึงนะ” ผมยังอ้อนต่อ ไม่รู้แหละ ยังไงวันนี้ผมก็จะหยุดเรียน วันนี้วันศุกร์ พรุ่งนี้วันเสาร์แล้วก็อาทิตย์ ฮี่ๆ หยุดเรียนวันเดียวได้หยุดอีกตั้งสองวัน!
แม่นิ่งเงียบไปนานก่อนจะค่อยๆคลี่ยิ้ม พยักหน้าตอบรับในที่สุด ผมกระโดดโลดเต้นดีใจแล้วหอมแก้มแม่แรงๆสองฟอด!
ได้หยุดเรียนแล้ว!!!!
ผมรีบวิ่งตึงตังออกจากห้องลงบันไดไปชั้นล่าง ตรงไปยังห้องครัวก่อนจะเบรกตัวเองกะทันหันเมื่อเห็นพ่อกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ผมยิ้มให้กับความคิดที่ผุดเข้ามาในหัวแล้วค่อยๆย่องเข้าไป หยุดยืนอยู่หลังเก้าอี้ สองมือยกขึ้นปิดตาพ่อ ใจเต้นตึกๆด้วยความระทึก
“ไอ้ตัวแสบ!” เหมือนพ่อจะรู้ทัน!
พ่อวางหนังสือพิมพ์ทันที มือใหญ่ดึงมือผมออกจากตาก่อนจะหันหลังมาแล้วเขกหน้าผากผมแรงๆ ผมหน้ามุ่ยขยับตัวออกห่าง ยกมือขึ้นลูบหน้าผากป้อยๆ
“หายไปไหนมา!” เสียงเข้มๆมาพร้อมกับใบหน้าขึงขังทำให้ผมกลืนน้ำลายหนืดๆลงคอดังเอื้อก ก่อนจะหัวเราะแหะๆ
“ไปไหนมาไหนทำไมไม่บอก เรานี่มันยิ่งโตยิ่งดื้อ!”
ผมเบะปาก คันปากอยากเถียง แต่เงียบไว้ดีกว่า เตอร์สอนว่า เวลาพ่อแม่บ่นอย่าไปเถียง นิ่งได้ให้นิ่ง ผมเลี่ยงไปดึงเก้าอี้อีกตัวลากให้เข้าไปชิดกับพ่อแล้วนั่งลง
“ตอบพ่อ หายไปไหนมา” พ่อมองผมด้วยใบหน้าจริงจังปราศจากรอยยิ้ม
ผมยิ้มตาหยีก่อนจะกอดเอวพ่ออย่างประจบ
“คิดถึงพ่อที่สุดเลย!”
เบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น ไม่อยากบอกความจริง.. ผมไม่อยากถูกพ่อกับแม่ตีซ้ำ ไม่อยากเจ็บแล้ว ไม่อยากพูดถึง ผมดีใจที่ได้กลับบ้าน มีความสุขสุดๆ
พ่อยังนิ่งเฉย แต่ผมก็กอดไม่ปล่อย สักพักใหญ่ๆก็ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอดังอยู่เหนือหัว ผมยิ้มกว้างพลางหลับตารับสัมผัสจากมือหนาที่ขยี้หัวผมอย่างเอ็นดู
“วิคเตอร์ นั่นจะไปไหน ข้าวปลาไม่กิน” พ่อพูดขึ้น มือที่ลูบหัวผมอยู่ก็ชะงักวางค้างไว้เฉยๆ
ผมผละตัวออกจากอกแกร่งหันไปมองด้านหลัง เห็นเตอร์ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน
บ้านผมเป็นบ้านหลังเล็กๆ เข้ามาในบ้านก็จะเห็นครัวก่อนเลย ถัดไปก็ห้องรับแขก
ผมมองเตอร์ แต่เตอร์กลับหลบตาผมทำเป็นไม่สนใจ เอาแต่ก้มมองพื้นหาเศษเหรียญ
“จะไปบ้านเพื่อนครับ”
ผมเบะปาก มองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินออกไป ผมหันไปมองพ่ออย่างร้อนใจ ไม่อยากให้เตอร์ไป! พ่อยิ้มให้ก่อนจะพยักหน้า
ผมรีบวิ่งไปดักหน้าเตอร์ ใช้เท้าเตะรองเท้าที่มือหนากำลังจะหยิบมาสวม เตะไปไกลๆ
ยังไงก็ไม่ให้ไป!
หรือว่าเตอร์จะทำอย่างที่พูดว่าถ้าผมกลับบ้าน เตอร์ไม่อยู่ให้เห็นหน้า!
เตอร์ยืนค้างในท่าก้มต่ำ ก่อนจะยืดตัวเต็มความสูงแล้วกดสายตามองหน้าผม ผมชะงักกับสายตาของเตอร์
ทำไมดูหงุดหงิดขนาดนั้น... เตอร์ไม่เคยมองผมแบบนี้นะ
“...จะไปบ้านเพื่อน ..ทำไมต้องเอากระเป๋าไปด้วย!”
เตอร์มองผม คิ้วเข้มขมวดเป็นปม แล้วชักสีหน้ารำคาญ
ผมกัดปากแน่น เริ่มน้อยใจแล้วนะ!
“จะไปค้างสามวัน” เตอร์พูดโดยไม่สบตาผม ร่างสูงก้มลงหยิบรองเท้ามาใส่อีกครั้ง ผมก้มมองตาม ทำไงดี ไม่อยากให้ไป ผมเพิ่งกลับบ้านเองนะ อยากอยู่กับเตอร์ อยากเล่นด้วย
“ไม่ให้ไป” ผมพูดพร้อมกับวิ่งไปยืนซ้อนหลังร่างสูงแล้วกอดกระเป๋าเป้ที่เตอร์สะพายไว้ กอดแน่นๆ!
เตอร์เซหน้าเกือบทิ่มพื้นก่อนจะตั้งหลักแล้วปลดเป้ออกจากไหล่ให้ผมได้กอดสมใจ ผมขมวดคิ้วมือกระชับของในอ้อมแขนแน่นอย่างหวงแหน ไม่ให้หรอกนะ! ตัวเองถอดออกมาเอง ไม่คืนให้หรอก ถ้าเตอร์ไม่มีกระเป๋าก็ไปค้างบ้านเพื่อนไม่ได้
“อยากได้ก็เอาไป!” กระแทกเสียงห้วนจนผมหน้าเสีย เตอร์หันหลังทำท่าจะเดินออกไป ผมรีบทิ้งเป้แล้วรีบคว้ามือหนาจับไว้
“ไม่ให้ไป” ผมเบะปาก มือยิ่งกระชับแน่นขึ้น แต่เตอร์ก็ไม่หันมามอง ไม่พูดอะไรสักคำ
“อย่าไปนะ... วันนี้เล่นกับต้านะ จะเล่นเครื่องบินก็ได้ อะไรก็ได้ ตามใจเตอร์เลย”
ผมกระตุกมือหนา แต่ก็ไร้ปฏิกิริยาตอบกลับ
ทำไมไม่พูดอะไรสักคำล่ะ.. เงียบทำไม
น้ำใสคลอหน่วยตาทันทีหลังจากที่ได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างรำคาญนักหนา ผมผวาสองมือกุมมือเตอร์แน่นเมื่อมือหนาอีกข้างพยายามจะแกะมือผมออก
“ฮึก...” ผมกัดปากกลั้นสะอื้น น้ำตามันไหลออกมาง่ายๆเมื่อเตอร์ทำท่าไม่สนใจกัน
เหมือนคนตัวสูงจะนิ่งงันไปทันทีที่ได้ยิน มือหนาข้างนั้นผละออกปล่อยให้ผมจับมือเขาไว้อย่างเดิม
“สองพี่น้องยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น มากินข้าวได้แล้ว กับข้าวเย็นหมด” เสียงแม่ที่ดังมาข้างหลังทำให้ผมปล่อยมือข้างหนึ่งก่อนจะยกขึ้นเช็ดน้ำตา แต่มืออีกข้างไม่ปล่อยมือเตอร์หรอกนะ เดี๋ยวเตอร์หนี!
ผมหันหลังจะเดินกลับเข้าครัวและลากเตอร์มาด้วย แต่เหมือนคนตัวโตกว่าจะไม่เต็มใจมา ปล่อยให้ผมออกแรงลากๆ แต่ตัวเองยืนนิ่งเฉย! มันเหนื่อยนะ!!
ผมหยุดลากแล้วหันไปมอง ถลึงตาจ้องเตอร์ ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่หลบสายตาเหมือนตอนแรก
นี่ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่เตอร์จะยอมเล่นกับผมแล้วไม่ไปบ้านเพื่อนแล้วใช่มั้ย?
“กินข้าวกัน” ผมเอ่ยชวน สูดน้ำมูกฟืดใหญ่ก่อนจะยิ้มกว้าง
ผมลองกระตุกมือหนาอีกครั้ง คราวนี้เตอร์ไม่นิ่งแล้วอ่ะ มือหนากระตุกกลับ จะดึงมือออก ผมขมวดคิ้ว ไม่ปล่อยหรอกนะ ปล่อยก็หนีสิ!
อีกแล้ว ทำหน้ารำคาญอีกแล้ว!
ผมเบะปาก จ้องตาเตอร์ก่อนจะตะโกนลั่นบ้าน
“แม่! เตอร์ดื้อ!! บอกว่าจะไม่กินข้าว!!!!!”
“วิคเตอร์!!!” หลังจากตะโกนไปก็ได้รับผลตอบรับกลับมาดีเกินคาด แม่ตอบรับกลับมาเสียงเขียวเลย!
เตอร์ถลึงตาใส่ผม แต่ผมก็ยิ้มกว้าง ยอมปล่อยมือเตอร์ง่ายๆแล้วเดินเข้าไปนั่งที่ประจำบนเก้าอี้รอกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างสบายใจเฉิบ
ผมลูบพุงที่ป่องน้อยๆหลังจากกินอาหารเสร็จแล้วเดินมาทิ้งตัวนอนแผ่บนโซฟา ยึดครองพื้นที่ไม่เผื่อแผ่ใคร
“แม่ กระเป๋าเตอร์อยู่ไหน”
ผมยกมือขึ้นปิดปากซ่อนรอยยิ้มหลังจากได้ยินเสียงเตอร์โวยลั่นร้องหากระเป๋า
“กระเป๋าอะไร” เสียงแม่พูดตอบพร้อมกับมีเสียงจานกระทบกันดังโคล้งเคล้ง สงสัยกำลังล้างจานอยู่มั้ง
“กระเป๋าเป้ แม่เห็นมั้ย ข้างในมีเสื้อผ้า เตอร์จะไปค้างบ้านเพื่อน”
ถามแม่ไป แม่ก็ไม่รู้หรอกว่ากระเป๋าอยู่ไหน
ก็ผมเป็นคนเอาไปซ่อนเอง! ฮ่าๆๆๆ
“อะไร จะไปค้างบ้านเพื่อน น้องเพิ่งกลับมา อยู่ติดบ้านมั่งสิไอ้ลูกคนนี้”
หลังจากแม่พูดจบผมก็ไม่ได้ยินเสียงเตอร์ตอบกลับเลย ผมค่อยๆเอามือออกจากหน้า คุกเข่าลงบนโซฟาหนังชะโงกตัวมองก็เห็นเตอร์กำลังจะขึ้นห้อง ผมขมวดคิ้ว หนีผมอีกแล้ว! ทำไมไม่มาเล่นด้วยกันเล่า กำลังรออยู่นะ!
ผมลุกออกจากโซฟา เดินตามเตอร์ขึ้นบันได เมื่อขึ้นมาชั้นบนก็เห็นร่างสูงยืนพิงกำแพงเหมือนจะรออยู่ ผมกำลังจะยิ้มและชวนไปเล่น ทว่า..
“ตามมาทำไม”
หุบยิ้มแทบไม่ทัน! ไอ้พี่เตอร์นิสัยไม่ดี!! ชักจะงอนนานไปแล้วนะ! โกรธอะไรเล่า!! ปกติไม่เป็นแบบนี้นี่! ไม่พูดไม่จา ไม่มองหน้า ทำหน้ารำคาญใส่อีก!! นิสัยไม่ดี!!!
“ไม่ได้ตามซะหน่อย จะขึ้นมาเอาการบ้าน!” ผมตอบแล้วหมุนตัวจะเข้าห้อง แต่เสียงของเตอร์ก็ทำให้ขาชะงักอยู่กับที่
“การบ้านอะไร โกหก ตามก็บอกว่าตามสิ”
“ไม่ได้โกหก ไม่ได้ตามก็ไม่ได้ตามสิ จะงอนก็งอนไปเลย! เตอร์นิสัยไม่ดี ไม่เล่นด้วยแล้ว! แล้วอย่ามาง้อนะ!!”
ปังง!!
ผมปิดประตูเสียงดังปังก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ นึกโมโหเตอร์ในใจ นิสัยไม่ดี!! ตัวเองเป็นคนสอนให้เป็นคนมีเหตุผล แต่ตัวเองกลับไม่มีเหตุผลซะเอง!! พี่ภาษาอะไร!!
ผมเดินกระแทกส้นตรงไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ ขมวดคิ้วมองโต๊ะของตัวเองก็ให้แปลกใจ ทำไมไม่เหมือนเดิม หรือว่าแม่มาจัดให้?
ผมเลิกใส่ใจกับสิ่งที่เปลี่ยนไปแล้วรื้อหาการบ้านต่อ แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ!
ผมวิ่งตึงตังออกจากห้องลงไปชั้นหนึ่งก่อนจะ...
“แม่! การบ้านต้าอยู่ไหน แม่เห็นมั้ย”
“สองพี่น้องนี่มันอะไรกันนักหนา การบ้านอะไรหืม” แม่พูดบ่นพร้อมกับเดินออกมา มือเรียวก็เช็ดผ้าผืนเล็กไปด้วย
“การบ้านไง การบ้านของแม่อร ต้องส่งวันจันทร์ ต้ายังไม่ได้ทำเลย”
แม่อรเป็นครูที่โรงเรียน สอนวิชาคณิตศาสตร์ ใจดี ตัวอวบๆ ผิวขาวๆ ดูอบอุ่นน่ากอดมาก
“มีการบ้านด้วยเหรอ จะจบแล้วไม่ใช่หรือไง แล้วแม่อรนี่ใคร?” คิ้วแม่ขมวดเป็นปม มองผมด้วยความมึนงง แต่ผมสิ งงกว่า แม่กับแม่อรคุยกันบ่อยจะตาย ทำเป็นลืม
“แม่อรที่สอนคณิตฯต้าไง แม่ไม่ได้คุยกับแม่อรไม่กี่วันลืมแล้วเหรอ เดี๋ยวต้าจะเอาไปบอกแม่อร”
คิ้วแม่ยิ่งขมวดชนกันแน่นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะคลายออก
“แม่เพิ่งล้างจานเสร็จพอดี ไหนเรามานั่งคุยกันหน่อยดีกว่ามั้ย” แม่ยิ้มใจดีก่อนจะจูงมือผมพาไปนั่งบนโซฟาหน้าทีวี
ผมนั่งลงข้างๆแล้วล้มตัวนอนหนุนตักนุ่ม ซึ่งแม่ก็ลูบหัวผมโดยอัตโนมัติ ผมเงยหน้ามองแม่จากมุมต่ำแล้วยิ้ม
“ไหนแม่อร แม่อรอะไรหืม”
“แม่อรแม่ของน้องพัดแฟนเตอร์ไง” ผมเบะปากเมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ เตอร์ไม่เล่นกับผมเพราะอยากเล่นกับน้องพัดมากกว่าใช่มั้ย!?
นิสัยไม่ดี! เดี่ยวจะไปบอกให้น้องพัดเลิกคบเตอร์เลย
“แฟนเตอร์อะไรคะ แม่งงไปหมดแล้ว ตอนนี้เตอร์โสดนี่ น้องพัดนี่ใครอีกล่ะหืม” ผมกระเด้งตัวผุดขึ้นนั่งขัดสมาธิแล้วหันตัวเองเข้าหาแม่
“แม่ตกข่าว! น้องพัดที่น่ารักๆ แก้มป่องๆลูกแม่อร ที่เตอร์ตามจีบแล้วก็ขี้ตู่บอกคนอื่นว่าน้องพัดเป็นแฟนเตอร์ ต้ารู้เพราะว่าน้องพัดมาเล่าให้ฟัง แม่อย่าบอกเตอร์นะว่ารู้มาจากต้า เดี๋ยวเตอร์โกรธ”
แม่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรต่อ ทว่าใบหน้ากลับขมึงเครียด
“แม่ซื้อดินสอให้ต้าใหม่ได้มั้ย ไอ้อ้วนยืมไปแล้วไม่ยอมคืน พอต้าไปขอคืนมันก็ยึดไปเลย” ผมเบะปากฟ้องแม่
แม่ยิ้มแล้วลูบหัวผม
“เดี๋ยวแม่พาไปซื้อใหม่นะ อืม.. ว่าแต่ปีนี้น้องต้ากี่ขวบแล้วครับ”
“เก้าขวบ แม่ให้กระเป๋าเป็นของขวัญต้า ต้าจำได้”
_____________________________________________
TALK:: เย้ มีคนเล่นตอบคำถามด้วย พลาดไปจึ๋งนึง
ตอนนี้น้องต้าอายุเก้าขวบค่ะ ส่วนเก้าขวบเมื่อไหร่.. สักพักใหญ่ๆ (ตรงจุดนี้ยังไม่อยากเฉลย กำลังรอลุ้นว่าบางทีอาจจะมีนักอ่านค้นพบจุดที่ว่า) 555555
วันนี้อัพช้าหน่อย งานเข้า (จะนอนกันหรือยังน้า
)
เจอกันใหม่พาร์ทหน้าค่ะ
รักคนอ่าน.
ขอบคุณทุกกำลังใจมากค่ะ