"พิมตะวัน" : P.66 (20/10/2011)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "พิมตะวัน" : P.66 (20/10/2011)  (อ่าน 488016 ครั้ง)

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
สงสารเชจังเลยอ่ะ
ส่วนมาม่าที่ว่านี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับน้องรุ่งหรือเปล่าน๊า
รอตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ Wins_Sha

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 949
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-4
โฮฮฮฮ

สงสารเชจังเลยยย

แล้วน้องดอนรูสึกแบบไหนเนี่ยว่าพี่เพชรทำงานที่ไหนอ่ะ

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
แง้ๆๆๆๆๆๆๆ
ตอนต่อไปเขียนมานานมากเลยค่ะ
แล้วก็ยังไม่ถูกใจเลยด้วย
มีแววว่าจะได้ลบทั้งหมดแล้วเริ่มใหม่

หงิงๆ ขอโทษที่ให้รอนะคะ
แต่...คืนนี้ก็คงยังไม่เสร็จแหงๆเลย


ปล. พี่ลิตเติ้ลเดวิลลลลลลลลลลลลล อย่าทิ้งหนู...อู๋...อู๋.... งี้ดๆ หงิงๆ

ออฟไลน์ PeeYaR

  • >///<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
เจ็บแทนเช TT^TT
พี่นุุ่นช่วยส่งเนื้อคู่มาให้นายเชทีเถอะ

mumoo

  • บุคคลทั่วไป
แอบมารอนู๋ดอว์นเงียบๆ มือถือยาแก้แพ้มาม่าไว้พร้อม!!

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
แอบค้างเน้อ...แบบว่าอยากรู้ว่ามีอะไรที่โรงพยาบาล นอกจากความรู้สึกเก่าๆของน้องดอว์น.... :z10:

K3n0

  • บุคคลทั่วไป
สงสารพี่เช 

ออฟไลน์ acorntan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +566/-34
พี่นุ่น  รับเลี้ยงดูเช

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
เข้ามาขอติดตามน้องแว่นด้วยคนนะคะ

 :กอด1:

ออฟไลน์ vanny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
แอบเศร้า+ซึมนิดๆ สงสารคนที่ได้แต่เฝ้ามองอย่างนายเช แต่เชื่อว่าคนดีๆ อย่างนี้ต้องมีคนมารักในไม่ช้า
แม่สาวจี๊ด แก่น เซี้ยว เปรี้ยว ซ่า แต่แอบเสน่ห์แรง

น้องดอนมีความหลังอะไรกับโรงพยาบาลของพี่เพชรกันนะ ต้องรอลุ้นตอนต่อไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Motor-tricycle

  • บุคคลทั่วไป
หลังจากซุ่มอ่านมานาน มาแสดงตัวค่ะ
รอพี่เพชร กะน้องดอว์น  อิอิ

ออฟไลน์ Fanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-2
เชน่าสงสารอ่ะ เศร้าตามเช  :เฮ้อ:
รอตอนต่อไปค่ะ :L2:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
สงสารเช  :monkeysad:
แต่ที่สงสารมากที่สุด คือ ตัวเองค่ะ  :sad4:
ค้างงงงงงงง  :z3: :z3: :z3:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
ตอบเมนท์ก่อนส่งตอนต่อไป
เสร็จแล้วนะคะ แต่ใช้เวลาเขียนน้านนาน
เดี๋ยวตอบเม้นท์แล้วไปตรวจคำผิดอีกรอบแล้วไม่เกินสิบนาทีมาส่งค่ะ  :กอด1:

.....................
สงสารเช  :monkeysad:
แต่ที่สงสารมากที่สุด คือ ตัวเองค่ะ  :sad4:
ค้างงงงงงงง  :z3:
โอ๋ๆๆๆ ไม่เป็นไรนะคะ คนของเชก็ต้องมีอยู่แล้วล่ะค่ะ เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนก็แค่นั้นเอง หงิงๆ เดี๋ยวมาต่อนะคร้าาาาาาา

เชน่าสงสารอ่ะ เศร้าตามเช  :เฮ้อ:
รอตอนต่อไปค่ะ :L2:
เนอะๆ เศร้าด้วย ช่วยไม่ได้นี่คะ ความรักก็แบบนี้แหละค่ะ มันควบคุมไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเราจะสะกดจิตตัวเองให้รักใครหรือไม่รักใครได้ง่ายๆซะหน่อยนี่นา

หลังจากซุ่มอ่านมานาน มาแสดงตัวค่ะ
รอพี่เพชร กะน้องดอว์น  อิอิ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและแสดงตัวค่ะ ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวญาติเยอะของพี่ดอว์นพี่เพชรและพี่ๆน้องๆเพื่อนๆคนอื่นนะคะ ^o^

แอบเศร้า+ซึมนิดๆ สงสารคนที่ได้แต่เฝ้ามองอย่างนายเช แต่เชื่อว่าคนดีๆ อย่างนี้ต้องมีคนมารักในไม่ช้า
แม่สาวจี๊ด แก่น เซี้ยว เปรี้ยว ซ่า แต่แอบเสน่ห์แรง

น้องดอนมีความหลังอะไรกับโรงพยาบาลของพี่เพชรกันนะ ต้องรอลุ้นตอนต่อไป
ใช่ค่ะ อีกเดี่ยวนุ่นก็จะมาส่งตอนต่อไปแล้วล่ะค่ะ (ไอ้จี๊ดมันหน้าตาโก้ดธรรมดา ถ้าจะมีใครปิ๊งปั๊งมันได้ก็ต้องรุ้จักนิสัยแล้วเท่านั้นแหละค่ะ แหะๆ ผู้หญิงขี้เหร่ หมดโอกาสกับความรักแบบ"รักแรกพบ"โดยสิ้นเชิง งุงิ)

เข้ามาขอติดตามน้องแว่นด้วยคนนะคะ

 :กอด1:
ยินดีต้อนรับค่ะ หนุ่มแว่น สุโก้ยยยยยยยยยยยยยย!!  :กอด1: (แอบเห็นไปอ่านเรื่องเล่าจากความฝันด้วย เขินเลยค่ะ >/////<)

พี่นุ่น  รับเลี้ยงดูเช
สงสารพี่เช 
สองคนนี้ กี๊ดดดดดดด เช เกวาร่า ไอ้หน้าตี๋ กลายเป้นตัวประกอบเสน่ห์ดีไปตั้งแต่เมื่อไหร่นี่ โอว....หรือจะเพราะบทส่ง????

แอบค้างเน้อ...แบบว่าอยากรู้ว่ามีอะไรที่โรงพยาบาล นอกจากความรู้สึกเก่าๆของน้องดอว์น.... :z10:
แหะๆ มาส่งช้าเพราะเขียนนาน แต่ก็มาแล้วนะคะ กอดๆๆหมุนๆๆ ขอโทษที่ทำให้ค้างค่ะ งุงิ

ตอบเมนท์พอหอมปากหอมคอ ไปตรวจทานก่อนนะคะ แป๊บเดียวค่ะ  :กอด1:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
.
..
...
...............................
ตอนที่๒๔ น้องสาว


‘พี่ดอนคะ น้องรุ่งอยากไปที่สวน...’
‘เดี๋ยวน้องรุ่งกินแอปเปิลอีกสองชิ้นแล้วพี่ดอนจะพาไปนะคะ’


              หนุ่มลูกครึ่งผิวขาวจัดรูปร่างสูงโปร่งสะดุดตาในเชิ้ตขาวที่ปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกงตามสบาย ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนกำลังเป็นที่สนใจจากสายตาหลายคู่ของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาในโถงทางเดินนี้ได้พักใหญ่ๆแล้ว ด้วยเหตุที่เจ้าตัวมัวแต่ยืนเข้าภวังค์จนเกือบจะชิดกับผนังกระจกใสที่กั้นระหว่างทางเดินด้านในตัวอาคารกับสวนหย่อมเล็กๆที่ถูกจัดอยู่ด้านนอก ซึ่งโรงพยาบาลศีลเวชจัดให้เป็นสวนที่พอจะให้ผู้มารับบริการรวมถึงญาติที่มาเยี่ยมและมาเฝ้าสามารถออกมานั่งเล่นผ่อนคลายได้

              สวนหย่อมที่ว่าตั้งอยู่บนพื้นที่ตรงกลางระหว่างตึกสีครีมรูปตัวแอล(L) สองตึกที่ตั้งหันหน้าเข้าหากัน ห้องตรวจของแผนกผู้ป่วยนอกที่อรุณรุ่งต้องเดินไปก็อยู่ที่ตึกหน้า เพียงเดินไปจนสุดโถงทางเดินช่วงแรกหรือสุดผนังกระจกนี่ก็ถึงแล้ว



              นายแพทย์วัชระ  เวชชากร ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาเป็นรอบที่สิบภายในเวลาครึ่งชั่วโมง เพราะจากที่คุยกับดอว์นตอนขึ้นรถไฟฟ้าจนตอนนี้ก็เลยเวลาที่ควรจะมาถึงไปเกือบยี่สิบนาทีแล้ว คุณหมอที่ภายนอกแสดงออกเรียบเฉยยิ้มแย้มน้อยๆตามปกติกับผู้ร่วมงานตอนนี้ในใจกลับตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่อรุณรุ่งเป็นฝ่ายมาหา แถมยังเป็นการมาหาถึงที่ทำงานด้วย

              แม้ใจหนึ่งนายแพทย์วัชระจะอดกังวลไม่ได้กับข่าวที่จะต้องไปถึงหูพ่อกับแม่แน่ๆว่าวันนี้มีแขกมาหาถึงห้องตรวจ เพราะการทำงานที่ตรงนี้ก็เท่ากับอยู่ภายใต้สายตาของท่านเจ้าของที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลด้วยเป็นธรรมดา แล้วในเมื่อพี่ชายคนโตและพี่สาวอีกสองคนต่างก็แต่งงานมีครอบครัวกันหมดแล้ว ลูกคนเล็กอย่างชายหนุ่มที่ยังไม่เคยแม้แต่พาผู้หญิงสักคนมาแนะนำให้ครอบครัวรู้จักจึงถูกจับตามองแทบทุกฝีก้าว
              แต่ถึงจะรับรู้อย่างนี้ เจ้าความรู้สึกภูมิใจว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะมาหาเองเมื่อพลาดจากการไปรับก่อนบ่ายตามที่คุยกันไว้เมื่อคืนก็กลับมีน้ำหนักมากกว่าความกังวลเรื่องอื่นจนแทบทำให้ลืมเลือนไปเสียด้วยซ้ำ

              คุณหมอเพชรตัดสินใจไม่รออยู่ในห้องตรวจ เมื่อเป็นบ่ายที่โล่งขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจพาตัวเองเดินออกไปรอรับคนพิเศษแถวหน้าตึกจุดที่คาดว่าอรุณรุ่งจะต้องเดินผ่านเสียเอง แต่แค่เดินพ้นห้องตรวจผ่านเก้าอี้นั่งรอสำหรับผู้มารอรับการตรวจที่มีคนนั่งอยู่แค่สองสามคนสายตาคมกริบของคุณหมอหนุ่มก็พบกับร่างสูงโปร่งของคนที่กำลังยืนหันหน้าออกไปทางนอกตึก

              ร่างที่เห็นจากเพียงด้านหลังนั้นนิ่งสนิทจนแทบจะเหมือนรูปปั้นไร้ชีวิต จนหมอเพชรมาหยุดยืนมองห่างออกมาไม่ถึงสามก้าว จึงได้เห็นการเคลื่อนไหวเชื่องช้าราวไม่แน่ใจของมือขาวซีดที่ยืดออกมาจนปลายนิ้วแตะเข้ากับกระจกใส ก่อนที่มือข้างนั้นจะทาบลงไปทั้งฝ่ามือ

              ร่องรอยแห่งความเศร้าที่เห็นได้ชัดเจนเมื่ออยู่ในระยะเพียงเอื้อมมือถึงทำให้วัชระไม่สนใจว่าจะมีใครจับตาอยู่อีกต่อไป ชายหนุ่มสอดฝ่ามืออุ่นจัดเข้ากับมือข้างซ้ายที่ปล่อยอยู่ข้างตัวของคนที่ตัดขาดโลกภายนอกหนีเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัว และแค่เพียงสัมผัสแรกอรุณรุ่งก็สะดุ้งขึ้นราวกับขวัญลอย

              หมอเพชรยึดมือที่เย็นเฉียบไว้แล้วบีบกระชับ แววตาหม่นเศร้าของเด็กน้อยหลงทางพลันกระจ่างวาบเมื่อเบือนมาพบว่าผู้อุกอาจเข้าถึงตัวโดยไม่ให้สุ้มให้เสียงคือใคร

              “.....เพชร.....ผม.....”

              “ไปคุยกันในห้องทำงานพี่นะครับ ดอว์นหน้าซีดมากเลยรู้มั้ย...”
              
              นายแพทย์วัชระออกเดินกลับห้องตรวจโดยจูงเด็กน้อยหลงทางให้ก้าวตามต้อยๆ ไม่สนใจสายตาอยากรู้อยากเห็นของใคร ในขณะที่คนเดินตามก็จับสายตาอยู่เฉพาะแผ่นหลังกว้างภายใต้เสื้อกาวน์สีขาวสะอาดเท่านั้น

              เมื่อปิดประตูห้องตรวจหมายเลขสี่ วัชระก็นำคนที่จูงมือมาตลอดทางไม่ยอมปล่อยไปนั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเอง หากพอจะผละไปกดน้ำดื่มมาบริการแขกพิเศษมือขาวที่ตอนนี้เริ่มอุ่นสมกับเป็นคนมีเลือดมีเนื้อกลับคว้าจับแขนเสื้อของชายหนุ่มไว้แล้วออกแรงรั้งให้เขยิบเข้าไปหา

              “แป๊บเดียวนะดอว์น พี่จะไปเอาน้ำมาให้”

              ใบหน้าขาวซีดเซียวประดับแว่นกลับส่ายไปมาน้อยๆเป็นการปฏิเสธ และแทนที่คำพูดอรุณรุ่งกลับใช้การกระทำบอกกับคุณหมอหนุ่มแทนว่าเจ้าตัวไม่ต้องการดื่มน้ำแต่ต้องการอะไร
              อรุณรุ่งเลื่อนเก้าอี้ล้อเลื่อนที่นั่งอยู่เข้าไปจนชิดตัวคนที่ยังยืนงงก่อนจะเอนตัวแตะหน้าผากที่มีผมสีน้ำตาลบางส่วนปกคลุมแนบเข้ากับลำตัวของหมอเพชรบริเวณต่ำกว่าช่วงอกลงมาเล็กน้อย.....อ้อนขออ้อมกอดและไออุ่น ในขณะที่มือข้างหนึ่งยังเกาะติดกับแขนเสื้อของคุณหมอไม่ยอมปล่อย ส่วนข้างที่เหลือก็กำขยำลงกับกางเกงตัวเองจนข้อนิ้วขึ้นขาว

              วัชระลูบมือข้างหนึ่งลงบนเส้นผมอ่อนนุ่ม ในขณะที่อีกข้างซึ่งยังโดนยึดแขนเสื้อไม่ยอมปล่อยทำได้แค่วางลงบนบ่าของเด็กขี้อ้อนแล้วลูบประโลมไปมาเบาๆ เดี๋ยวเดียวอรุณรุ่งก็เงยหน้าขึ้นสบตาแล้วส่งยิ้มอ่อนๆมาให้ เห็นอย่างนั้นคุณหมอตัวโตจึงก้มตัวลงแล้วเท้ามือทั้งสองข้างลงกับที่วางแขนเก้าอี้ สบตาค้นคว้าราวจะอ่านความในใจจากนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเชื่อมคู่นั้นแทน

              “มีเรื่องไม่สบายใจอะไรรึเปล่า....ที่พี่บอกว่าพูดกับพี่ได้ทุกเรื่องนั่นพี่หมายความตามนั้นจริงๆนะครับ ไม่ได้พูดไปพล่อยๆเพราะจะจีบเด็กแถวนี้หรอกนะ”

              รอยยิ้มอ่อนๆตรงหน้าเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มบรรจุความเขินอายและอารมณ์รักในทันที และก่อนที่วัชระจะได้ทันขยับทำอะไร มือขาวๆสองข้างที่เปลี่ยนไปประสานกันแน่นอยู่บนตักของเจ้าตัวก็เลื่อนขึ้นมาประคองที่แก้มสองข้างของคุณหมอแล้วรั้งเข้าหา พร้อมกับที่เด็กน้อยเซื่องซึมเมื่อครู่ยืดตัวขึ้นอีกนิดแล้วแตะจูบแผ่วเบาบนริมฝีปากที่ขยับพูดอยู่เมื่อครู่อย่างรวดเร็ว ผละออกมามองตาอีกนิดแล้วระหว่างที่คนถูกจู่โจมกะทันหันยังไม่ทันหายตลึง ริมฝีปากที่ยื่นย้อยน้อยๆสีสายไหมนั่นก็เลื่อนเข้ามามอบจูบหนักๆอีกครั้ง


              วัชระรู้สึกมึนๆลอยๆคลับคล้ายกับเวลาเมาเหล้าทั้งที่แตะไปแค่แก้วสองแก้วเพราะโดยธรรมชาติชายหนุ่มเป็นคนคออ่อน ทั้งที่จูบที่ได้รับมามันก็จูบเด็กน้อยธรรมดาๆที่ต่างไปจากเลื่อนปากมาชนนิดเดียวแท้ๆ

              คุณหมอผู้หลุดจากมาดนิ่งๆเนี้ยบๆทีไรก็มีสาเหตุมาจากเด็กลูกครึ่งขี้อ้อนตรงหน้าคนนี้ทุกทีเข้าใจดีว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความช่ำชองเชี่ยวชาญของคนจูบหรอก แต่ที่ตนรู้สึกไปได้ขนาดนี้นั่นเป็นเพราะสัมผัสที่นุ่มนิ่มแบบเด็กๆนี่มาจากการกระทำของคนตรงหน้าต่างหาก
              .....ถ้าเป็นคนอื่น ยังไงก็ไม่มีทางทำให้รู้สึกดีได้แบบนี้แน่ ความรู้สึกที่แค่สัมผัสนิดๆก็ทำให้ลมหายใจติดขัดแบบนี้ มีแต่คนพิเศษสุดเท่านั้นที่ทำให้เป็นได้

              “จับปล้ำเสียเลยดีมั้ย.....ฮื้ม?”

              คนที่ถูกจูบแบบเด็กๆดึงความสนใจไปจนหมดยื่นหน้าแตะปลายจมูกเข้ากับปลายจมูกแหลมๆที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มแล้วส่ายหน้าให้ปลายจมูกเสียดสีกันไปมา อดใจไม่ไหวที่จะเบี่ยงหน้านิดหนึ่งเพื่อฝังปลายจมูกลงกับแก้มชมพูนุ่มนิ่มที่อุ่นจนเกือบจะร้อน

              และยิ่งเกินคาดเมื่อกระต่ายตื่นตูมที่คอยแต่จะเลี่ยงหนีเมื่อคราวก่อนกลับเลียนแบบการกระทำได้โดยไม่ผิดเพี้ยน ที่ต่างไปก็แค่วัชระสูดกลิ่นแก้มแล้วก็อยากจะมองตาหวานๆที่ทอประกายวิบวับนี่นานๆ แต่อรุณรุ่งกลับเลือกที่จะซุกหน้าซ่อนลงตรงซอกคอกรุ่นกลิ่นเปลือกไม้สดชื่น ในขณะที่มือทั้งสองข้างก็เลื่อนสอดผ่านใต้ท่อนแขนหนาแล้วโอบกอดแนบแน่นอยู่กับแผ่นหลังของคุณหมอตัวโต

              “เดี๋ยวพี่ไปล็อคประตู ดอว์นไปหลังม่านขึ้นเตียงรอเลยนะ ตกลงมั้ย?”

              --ปึ้ก—
              “โอ๊ยยยยยย.....ใจร้าย แฟนใครก็ไม่รู้ใจร้ายชะมัด....อั้ก....หึๆๆ ตกลงว่าไง เอาเหอะ นะ เดี๋ยวพอพี่ไปล็อคห้อง....อูย....ดอว์นก็ไปถอดเสื้อผ้า.....อู้ยยยยย รอพี่บนเตียง.....อุก....เลยนะครับ....”


              “ทะลึ่งแล้วคุณ เล่นอย่างงี้เรื่อย.....”

              “ดอว์น....ทำไมถึงคิดว่าพี่เล่นล่ะ รู้มั้ย แค่คนดีตอบตกลงคำเดียว......”
              วัชระพูดประโยคเว้าวอนออดอ้อนนั้นไม่ทันจบ ริมฝีปากยกขอบที่ยังเผยอน้อยๆก็ถูกนิ้วมือเรียวยาวแตะเบาๆเป็นเชิงห้าม ก่อนที่ดวงตาสีอ่อนหวานเชื่อมจะเงยขึ้นสบประสาน แล้วคนถูกขอทีเล่นทีจริงเอาดื้อๆจะกระซิบเสียงแผ่ว

              “....ก็...ผมยังไม่พร้อม.....”

              “ตกลงครับ พี่รอได้....เอ๊...หรือที่ยังไม่พร้อมนี่เพราะจะให้ไปขอก่อน?”
              ชายหนุ่มห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ ยิ่งคนน่ารักตรงหน้าเขินอายจนหน้าแดงก็ยิ่งกระตุ้นความรู้สึกอยากยั่วแหย่ อยากกลั่นแกล้ง

              “เอ๊.....ก็บอกว่าอย่าล้อไง”
              การเย้าแหย่ของคุณหมอก็ได้ผลตอบแทนทันทีทันควัน แถมเกินความคาดหมายเสียด้วย เพราะแทนที่ดอว์นจะอายม้วนเป็นกุ้งตัวแดงๆแบบครั้งก่อน คราวนี้กลับแดงไปม้วนไป แล้วแถมมือไม้ก็ทุบลงมาบนบ่าคุณหมอเน้นๆอีกด้วย

              “โอเคๆ ไม่ทำร้ายร่างกายแฟนนะครับ มือก็ไม่ใช่เบาๆ เกิดพี่ช้ำในตายไปดอว์นจะแย่เอาน้า”

              “......จะเลิกมั้ย ไม่เลิกผมจะกลับ”

              วัชระอยากจะหัวเราะออกมาดังๆกับน้ำเสียงทั้งเบาทั้งสั่น แถมคนพูดยังหรุบตาลงมองแต่พื้นกระเบื้องยางสีขาวเหมือนจะหาเศษเหรียญที่ดูอย่างไรก็ช่างขัดกับข้อความข่มขู่นั้นเสียจริง

              “ขอโทษคร้าบบบบบ งั้นเอางี้ คราวนี้เรื่องจริงจังแล้ว.....เรียนจบแล้วจะเอาไงต่อ เรียนหรือทำงาน? ถ้าจะทำงานแล้วตอนนี้ไปหย่อนใบสมัครงานที่ไหนไว้บ้างรึยัง?”

              “ผมจะทำงานเลย”

              “ถ้างั้น....คุณอรุณรุ่งสนใจตำแหน่งนักกายภาพบำบัดประจำโรงพยาบาลศีลเวชมั้ยครับ?”

              นายแพทย์วัชระยืดตัวขึ้นยืนตรง ก่อนจะใช้เท้าเขี่ยๆเก้าอี้กลมมีล้อเลื่อนเข้าหาตัวแล้วนั่งลงเผชิญหน้ากับเด็กแว่นที่มองตามการเคลื่อนไหวของคุณหมอตัวโตแต่พอเห็นคุณหมอหันกลับมาก็เสหลบตาก้มมองหาเหรียญบนพื้นอีกแล้ว

              “.......................”

              “แค่ดอว์นมาหย่อนใบสมัครทิ้งไว้ก็พอ ว่าไงครับ ไม่สนเหรอ เป็นบุคลากรโรงพยาบาลศีลเวช เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า....เงินเดือนเริ่มต้นก็ไม่ขี้เหร่ โรงพยาบาลเรามีนโยบายปรับอัตราเงินเดือนทุกหกเดือนด้วยนะครับ ไม่ใช่แค่ปีละครั้ง.....และสำหรับนายอรุณรุ่งคนนี้ ยังแถมโปรโมชั่นทานอาหารกลางวันพร้อมแฟน แถมด้วยมื้อเย็นฟรีในวันที่นายแพทย์วัชระไม่ต้องไปทำธุระนอกโรงพยาบาล แล้วยังมีคนขับรถชื่อเพชรไปส่งถึงบ้านด้วย....”

              “แต่ผมไม่อยากเป็นเด็กเส้น”

              รอยยิ้มที่แย้มออกทีละน้อยของหนุ่มลูกครึ่งแว่นหนาตามคำโฆษณาชวนเชื่อไม่รอดพ้นไปจากสายตาคมๆของหมอเพชร แต่ทั้งที่คิดตามแล้วก็มีรอยยิ้มกระจ่างออกขนาดนั้น อรุณรุ่งก็ยังอุตส่าห์ส่งเสียงค้านอุบอิบๆตามประสาเด็กแว่นคิดเยอะให้คุณหมอตัวโตถึงกับปล่อยหัวเราะออกมาจนได้

              “ฮ่าๆๆๆๆ พี่ไม่ได้เส้นใหญ่ขนาดนั้นสักหน่อย แค่ให้มาสมัครไว้ เอ...พี่ก็ไม่แน่ใจนะ แต่เหมือนว่าบุคคลเขาจะมีสัมภาษณ์แล้วก็มีสอบวัดระดับภาษา ประมาณว่าความสามารถในการสื่อสารกับชาวต่างชาติ เพราะศีลเวชมีคนไข้ที่เป็นนักท่องเที่ยวเยอะ อืม...ต้องผ่านขั้นนี้ก่อน แล้วเขาถึงจะส่งไปให้หัวหน้าแผนกสอบอีกที ซึ่งพี่ก็ไม่รู้รายละเอียดเหมือนกัน ไหนขอถาม....ดอว์นจบเกรดเท่าไหร่ครับ?”

              “3.37”

              “แล้วมันจะเป็นเด็กเส้นไปได้ไงล่ะ พวก PT(*) นี่สามขึ้นก็หรูแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ที่จริง3.37 นี่มันก็เกียรตินิยมอันดับสองแล้วไม่ใช่เหรอ”
              คุณหมอตัวโตที่นั่งโน้มตัวไปด้านหน้าเท้าศอกสองข้างกับหน้าขาตัวเอง เถิบตัวไปด้านหน้าจนชิดกับเด็กแว่นขี้กังวลแล้วเลยขยี้ผมนุ่มนิ่มเหมือนขนแมวเล่นอย่างมันมือ

              “ก็จริงแหละ แต่เพื่อนที่เกรดดีกว่าผม เก่งกว่าผมมันก็บอกจะมาสมัครกันนี่ แล้วตามที่ดูประกาศศีลเวชก็รับแค่ตำแหน่งเดียวเองด้วย....”

               ประโยคโต้ตอบที่ยาวที่สุดในวันนี้ของอรุณรุ่งไม่ทันจบดีก็มีเสียงเคาะประตูห้องตรวจดังขึ้น ก่อนคุณพยาบาลหน้าห้องของนายแพทย์วัชระจะโผล่หน้าเข้ามารายงานว่าอีกประมาณห้านาทีจะมีคนไข้ใหม่

               ขณะคุณพยาบาลสุมาลีจะถอยออกไปหลังเก็บรายละเอียดแขกของคุณหมอเพชรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มีเสียงกลั้วหัวเราะแสดงออกว่าเจ้าตัวกำลังอารมณ์ดีอย่างไม่ปิดบังของคุณหมอบุตรชายท่านเจ้าของโรงพยาบาลเรียกเอาไว้ก่อน

               “พี่สุครับ”

               “คะ คุณหมอ”

              “นี่น้องดอว์น......ต่อไปคงได้เจอบ่อยๆ ถ้าน้องมาก็ให้เข้ามาหาผมได้เลยนะครับ ไม่ต้องนัด ไม่ต้องขออนุญาต”

              คุณสุมาลีผู้เป็นคนเก่าคนแก่ตั้งแต่สมัยทำงานกับนายแพทย์คุณพ่อของหมอเพชรเข้าใจทันทีว่าคุณหมอที่เห็นมาตั้งแต่เล็กตั้งใจจะบอกอะไร
              .....น้องดอว์น หนุ่มน้อยลูกครึ่งคนนี้เป็นคนพิเศษของคุณหมอแน่ๆ ตกใจที่คนพิเศษของคุณหมอเป็นเด็กผู้ชายไม่พอ ท่าทีเปิดเผยถึงระดับความสัมพันธ์ยังทำให้คุณสุมาลีเข้าใจทะลุถึงความต้องการของคุณหมอเพชรอีกต่างหาก ว่าถ้ายังไงเอาข่าวนี้ไปรายงานคุณพ่อคุณแม่ให้ผมด้วยก็ดีนะครับ!!!

             “ดอว์น....นี่พี่สุ เห็นแบบนี้นี่เป็นคนสำคัญของโรงพยาบาลศีลเวชเลยนะ”

             “สวัสดีครับพี่สุ”

             ในสายตาของคุณสุมาลี น้องดอนคนนี้ดูน่ารักไม่มีพิษมีภัย แถมยังไม่มีท่าทางนุ่มนิ่มให้ต้องรู้สึกลำบากใจที่จะคุยด้วยเลยสักนิด ท่าพนมมือไหว้ก็นอบน้อมงดงาม น่าแปลกทั้งที่เป็นเด็กลูกครึ่งหน้าตากระเดียดไปทางฝรั่งชัดเจนขนาดนั้นแท้ๆ

             ตอนแรกที่เห็นหมอเพชรจูงมือเดินลิ่วๆเข้าห้องมาก็ไม่ได้คิดว่าสองคนจะเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากเพื่อนไม่ก็รุ่นพี่รุ่นน้อง แถมตนเองยังนึกชมด้วยซ้ำไปว่ารุ่นน้องคนนี้ของหมอเพชรหน้าตารูปร่างดี๊ดี อย่างนี้ถ้าสนใจคงเป็นนายแบบได้สบาย ต่อเมื่อพินิจดูอย่างตั้งใจคุณสุมาลีก็รู้สึกคุ้นเคยกับบางสิ่งบางอย่างในตัวน้องดอนอย่างประหลาด

             “อ่า....สวัสดีค่ะน้องดอน ไม่ต้องไหว้พี่ก็ได้”

             “ดีแล้วล่ะดอว์น ฝากเนื้อฝากตัวไว้ เผื่อจะมาสมัครงานที่ศีลเวชจริงๆพี่สุจะได้ช่วย เป็นเด็กเส้นพี่สุนี่รับรองเลยนะว่าได้งานแน่ เพราะพี่สุเส้นใหญ่....มาก”

             คุณสุมาลีขว้างค้อนใส่คุณหมอเพชรวงโต ก่อนจะปรายตามาเห็นรอยยิ้มกระจ่างสดใสบนหน้าของหนุ่มแว่นที่นั่งเงียบๆไม่มีปากมีเสียง แล้วจึงเริ่มเข้าใจว่าทำไมคุณหมอที่ไม่เคยพาใครไม่ว่าหน้าไหนมาที่นี่และให้ความสำคัญแบบนี้จะเลือกหนุ่มน้อยคนนี้ในที่สุด
             ....น่ารักแบบนี้นี่เอง นี่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ทราบเรื่องแล้วไม่ยอมรับขึ้นมาพี่สุจะช่วยยังไงล่ะคะคุณหมอ น้องดอน...เฮ้อ...


              คุณสุมาลีขอตัวออกไปประจำหน้าที่ตามปกติแล้ว และอรุณรุ่งก็ถอยไปหยิบตำราบนตู้ติดผนังเกี่ยวกับไมเกรนลงมาอ่าน
              เด็กหนุ่มทำตัวเหมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับห้องชิ้นหนึ่ง และถอยเข้าไปรอในส่วนที่ลึกเข้าไปเมื่อคนไข้ใหม่ของนายแพทย์วัชระเข้ามารับการตรวจและคำปรึกษา ในใจคิดไปถึงข้อเสนอแนะของเพชร....มาสมัครงานที่ศีลเวช เป็นบุคลากรของศีลเวช ได้เจอเพชรเป็นประจำ กลางวันก็กินข้าวด้วยกันได้ เย็นก็กลับบ้านพร้อมกันได้

              อรุณรุ่งที่ค้นพบมานานแล้วว่าตัวเองเสพติดการสัมผัส ทั้งการกอดการหอมหรือแม้แต่แค่การจูงมือกับคนที่รักรู้สึกว่าการได้ทำงานที่ศีลเวชมีข้อดีที่ยั่วใจเหลือเกิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็มีเงื่อนไขหนึ่งพ่วงมาด้วย....ถ้ามาทำงานที่นี่ ก็คงอดไม่ได้ที่จะคิดถึงวันเก่าๆที่เคยมีน้องแฝดอยู่ข้างๆ มีคนที่คอยดูแล คนสำคัญที่สุด มากกว่าแค่คนในครอบครัว
              ....ต้องคิดถึงน้องรุ่งทุกวัน ในที่ที่น้องรุ่งตั้งใจจะมาในวันนั้น วันสุดท้ายของชีวิต


              วันนั้นทั้งๆที่ไม่ได้มีนัดตรวจ แต่น้องรุ่งบอกกับพี่ดอนว่าจะไปที่โรงพยาบาลศีลเวช เพราะเป็นวันเกิดของพี่หมอที่เป็นคนใจดีที่สุด น้องรุ่งอยากไปบอกพี่หมอว่า ‘Happy birthday’ กับตัวพี่หมอเอง
              พอพี่ดอนถามว่าพี่หมอคนไหน? เพราะคุณหมอประจำตัวของน้องรุ่งคือคุณป้าหมอวิผู้ใจดี ที่ดูแลน้องรุ่งมาตั้งแต่แบเบาะ แล้วพี่หมอนี่ใคร มาจากไหน แล้วมาสนิทกับน้องรุ่งได้ยังไงกัน?

              แทนที่สาวน้อยวัยสิบเจ็ดจะตอบพี่ชายที่อายุห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่ไม่เคยมีเรื่องปิดบังกันเลยตั้งแต่เด็ก น้องรุ่งกลับเม้มปากแน่นแล้วส่ายหน้าไม่ยอมพูด แก้มแดงๆของน้องสาวฝาแฝดทำให้พี่ดอนในวันนั้นนึกรู้ว่าน้องสาวกำลังมีความรักตามแบบฉบับสาวน้อยมัธยมปลายเป็นครั้งแรก

              ตอนแรกพี่ดอนจะขอตามไปเป็นเพื่อนแต่น้องรุ่งไม่ยอม ถึงอย่างนั้นความที่ถูกสอนให้ดูแลปกป้องน้องที่อ่อนแอกว่ามาตั้งแต่รู้ความพี่ดอนจึงแอบตามน้องไปห่างๆ จากเพชรเกษม102 มันไม่ใช่ใกล้ๆที่จะไปโรงพยาบาลศีลเวช แต่ที่น้องรุ่งไปรับการรักษาที่นั่นเป็นประจำก็เพราะตั้งแต่เกิดแพทย์ก็พบว่าน้องรุ่งมีความผิดปกติที่หัวใจ และเป็นชนิดที่เมื่อโตขึ้นอาการก็จะค่อยหายไปเอง และแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านที่พี่ดอนกับน้องรุ่งเกิดก็แนะนำให้ปะป๊าหม่าม้าพาน้องรุ่งไปพบคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และแพทย์หญิงวิลาสินีที่ประจำอยู่โรงพยาบาลศีลเวชก็เป็นอาจารย์หมอที่คุณหมอท่านนั้นเขียนชื่อแนะนำให้มา

              เมื่อยังเล็กอยู่มากโรงพยาบาลศีลเวชแทบจะเป็นบ้านหลังที่สองของเด็กหญิงรุ่งอรุณ  โพเวลล์  พี่ดอนที่ยังเล็กมากมักต้องนอนกับปะป๊าที่บ้านแค่สองคน ในขณะที่หม่าม้าทำหน้าที่อยู่เป็นเพื่อนน้องรุ่ง หากพอโตขึ้นความถี่ในการนอนโรงพยาบาลของน้องรุ่งก็ลดลง
              แต่ถึงจะต้องขาดเรียนเพราะปัญหาสุขภาพแทบจะเดือนเว้นเดือนในช่วงประถมศึกษา พี่ดอนที่ได้รับหน้าที่เรียนเผื่อน้องก็ไม่เคยปล่อยให้น้องรุ่งต้องเรียนซ้ำชั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น น้องรุ่งก็แทบไม่ต้องนอนโรงพยาบาลอีกเลย เหลือแค่การนัดตรวจสุขภาพเป็นประจำเดือนละครั้งเท่านั้น

              พี่ดอนจำได้ว่าเช้าวันนั้นก็เป็นเช้าธรรมดาๆ ทั้งสองคนเพิ่งสอบปลายภาคเทอมสุดท้ายของม.๖ เสร็จไปเมื่อวาน และทั้งพี่ดอนกับน้องรุ่งก็รู้แล้วว่าก้าวต่อไปจะใช้ชีวิตนักศึกษาที่สถาบันไหนและเรียนเพื่อไปประกอบอาชีพอะไร เพราะต่างก็สอบได้โควตากันทั้งคู่โดยไม่ต้องรอสอบเข้ามหาวิทยาลัยพร้อมกันทั่วประเทศ อนาคตช่างสดใสเหมือนกับท้องฟ้าสีฟ้าใสที่ไม่มีเมฆเลยแม้แต่ก้อนเดียวของเช้าวันนั้น

              เมื่อเดินออกไปถึงหน้าปากซอยพี่ดอนมองเห็นน้องรุ่งที่ปล่อยผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อนยาวประบ่าในชุดเอี๊ยมกระโปรงยีนส์ยาวครึ่งแข้ง เสื้อตัวในสีชมพูอ่อนลายจุดสีขาวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูที่หน้าจอเหมือนจะดูเวลา จากนั้นก็มองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินข้ามถนน
             และนั่น....คือภาพสุดท้ายที่เด็กหนุ่มได้เห็นคนคนเดียวที่แบ่งปันแม้กระทั่งลมหายใจกันมาตลอดสิบเจ็ดปีมีชีวิต.....

......................................................
..โปรดติดตามตอนต่อไป..

* หมายเหตุ PT = Physical Therapist = นักกายภาพบำบัด ค่ะ ^^

 :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2011 23:32:46 โดย anajulia »

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
555 มาแล้ว ไปอ่านก่อน

bluekawai

  • บุคคลทั่วไป
น้องนุ่นคะ

เรื่องนี้หวานแบบเศร้าๆๆจังเลยคะ
คนละอารมณืกับพี่ฟ้ากับตัวป่วนเลย

สงสารน้องดอรน์

^^

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
+1 คุณนุ่นค่ะ อ่านแล้วบีบหัวใจจริง ๆ สงสารน้องรุ่งที่ต้องมาอายุสั้น
และที่สงสัยหมอคนที่น้องรุ่งจะมา HBD น่าจะเป็นพี่เพชรรึเปล่า
เพราะพี่เพชรคงจะเป็นชายหนุ่มในฝันของเด็กสาววัย 17 ปีอย่างน้องรุ่ง
จริง ๆ รออ่านตอนต่อไปค่ะ :pig4:

pandaๅ123

  • บุคคลทั่วไป
Y________________Y

เหมือนจะหวานนะ แต่ทำไมเศร้าโก้ดๆ
เจเจ้ทำหนูร้องไห้ก่อนนอนล่ะ
โกรธๆๆๆๆ

ไม่คุยด้วยแล้ว....(เชิดใส่!!!)

 :m15:

 :o12:

sa~waii

  • บุคคลทั่วไป
ทุกอย่างเหมือนจะดี

แต่จบสะเทือนใจอ่าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
อุส่าห์ดีใจที่ได้อ่าน แต่ หุๆๆ
โคตรเศร้าเลยหนูนุ่น แงๆ

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
พี่นุ่นจ๋า เข้าใจแล้วแหละว่าทำไมพี่หมอเพชรถึงดูเหมือนมีอดีตกะนามสกุลน้องดอว์น (ถ้าเดาไม่ผิดนะ)
แล้วงี้ถ้าดอว์นรู้จะไม่รู้สึกอะไรเหรอ? ออกจะอ่อนไหวขนาดนั้น (หรือนี่คือจุดเริ่มของมาม่า?)
แล้วก็ยังแอบสงสัยว่าทำไมพี่หมอเพชรไปจีบตัวป่วนอยู่ดี เง้ออออ
แลดูขี้สงสัยจัง 5555

กอดพี่นุ่นแน่นๆค่ะ อ่านทีไรรู้สึกเหงาๆทุกทีเลยง่าาา  :กอด1:

ปล. เจอคำนึงค่ะ >> ต้องเรียนซ้ำชั้นเลยแม่แต่ครั้งเดียว





*ยื่นอกแฟ่บๆให้พี่นุ่นซบ*  :laugh:

(จิ้มทะลุรีล่างค่าา)
v
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2011 23:14:35 โดย Églantier✿ »

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ถ้าน้องดอว์นคิดว่าพี่เพชรเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องรุ่งต้องเสียชีวิต
มาม่าคงจะอืดในไม่ช้านี้แหละ :sad4:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
พี่ดอนไม่ได้คิดอย่างนั้นค่ะ

แอบมาบอกก่อนวิ่งหนี
ขนาดดาด้ายังเชิดใส่เจ้เลย แล้วยังจะมีใครรักเจ้ โฮวววววววววว

โผเข้าซบนุ้งพาร์ หงิงๆ

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
อย่าบอกนะว่าน้องรุ่งไม่ได้เสียด้วยโรคหัวใจ แต่ไปด้วยอุบัติเหตุ เศร้าเกินไปแล้วววววววT^T

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
กำลังยิ้มแก้มแทบแตก กับบรรยากาศภายในห้องตรวจหมายเลขสี่    :m1:

ก็เป็นอันต้องมาอ้าปากค้าง ทำหน้าเหวอให้กับสามบรรทัดสุดท้าย 
แค่รู้ว่าน้องรุ่งจากไปก็เศร้าแล้ว แต่นี่พี่ดอนต้องมาเห็นเหตุการณ์ด้วยตาตัวเองอีก ช้ำจริงๆ  :m8:

ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
ตอนแรกๆก็อ่านไปเขินไป แต่ไปๆมาๆ
โฮ่วววว สงสารน้องดอว์นกับน้องรุ่ง
พี่เพชรคือพี่หมอคนนั้นรึป่าว?
ถ้าใช่ น้องดอว์นคงไม่โกรธพี่เพชรด้วยเรื่องนี้ใช่มั้ยอ่า??
ไม่อยากกินมาม่านะคะคุณนุ่นนนน

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
สงสารน้องรุ่ง  :o12:

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
ปมที่เกี่ยวข้องกันของสองคนนี้คืออะไรหนอ??

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
พี่นุ่นแกล้งเด็ก...*พึมพำ*

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด