มาม่า มาแบ้ววววววววววววววจร้า
……………..14 อดีต …………..
“เหี้ยเมฆ นั่งทำอะไรมืดๆคนเดียวว่ะ” ไอ้เล็กที่เพิ่งกลับมาจากมหาลัยเอ่ยถามพลางเปิดไฟไปด้วย
“เปล่า กูก็นั่งเล่นไปเรื่อย” ผมนายเมฆา อายุ 19 เอ่ยตอบเพื่อนรัก และตอนนี้ผมคิดว่าตัวเองเป็นโรคจิตครับ อืม คิดว่ามันเป็นแบบนั้นนะ เพราะผมชอบความมืด ถ้าวันไหนที่ไอ้เล็กไม่อยู่หรือมันกลับดึกผมมักไม่ค่อยชอบเปิดไฟในห้อง ไม่รู้สิผมว่าความมืดมันไม่ได้น่ากลัวสักนิด แต่มันทำให้ผมสงบผมชอบที่จะนั่งคิดอะไรเงียบๆ ถึงผมจะเที่ยวหนักแต่นั่นมันก็แค่สิ่งที่ทำเพื่อให้ตัวเองลืมๆอะไรไปบ้าง ไปพบ ไปคุย กับคนที่ไม่รู้จักมันทำให้ผมไม่ต้องคิดมากกับเรื่องของตัวเอง
“เอาอีกแล้วนะมึง กูบอกหลายครั้งแล้วว่าให้เปิดไฟด้วย” ไอ้เล็กเอ็ด
“กระผมขอโทษคร้าบ คุณเล็ก คราวหลังกระผมจะไม่ทำอีกแล้วครับ” ผมบอกทีเล่นทีจริง
“ฮ่าๆๆ เฮ้อ มึงนี่น้า แล้วนี่จะออกไปไหนอีกหรือเปล่าว่ะ” ไอ้เล็กเอ่ยถาม
“ไปสิครับ ถ้าไม่ไปสาวๆคงจะรอกูเก้อ”
“คร้าบ พ่อคลาสโนว่า ระวังตัวด้วยล่ะมึงน่ะ”
“ไอ้นี่ กูไม่ใช่ไก่อ่อนเพิ่งเที่ยวนะครับ กูเที่ยวตั้งแต่ 15 เรื่องแค่นี้ท่าเมฆสบายมากครับ คุณเพื่อน”
“เออ จะไปก็รีบไปไป๊ กูเบื่อขี้หน้า” ไอ้เล็กไล่
“อ้าวไอ้นี่ ไล่กูจัง งั้นพี่ไปแล้วนะจ๊ะ อย่าคิดถึงพี่ล่ะตัวเอง” ผมบอกก่อนจะเดินออกจากห้องมา จุดหมายก็คงหนีไม่พ้นผับหรือไม่ก็ร้านเหล้าสักที่
ผมเดินเข้ามาในผับแห่งหนึ่งก่อนจะหาที่เหมาะๆนั่งป้อสาวซะหน่อย รูปหล่อ พ่อรวยมาก อย่างนายเมฆ หาเหยื่อไม่ยากหรอกครับ
“มาคนเดียวเหรอครับคุณ” เสียงหนึ่งทักขึ้นก่อนที่ใครคนนึงจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆ
“มากับ….เฮ้ย!!!!”
“เป็นอะไรครับน้องเมฆทำหน้าอย่างกับเห็นผี” เขาถาม
“พี่ใหญ่??” ผมมองคนตรงหน้าด้วยความแปลกใจไม่น่าเชื่อว่าจะเจอคนอย่างพี่ใหญ่ที่นี่ คนๆนี้คือพี่ชายแท้ๆของไอ้เล็กมันครับเป็นคุณชายทุกกระเบียดนิ้วไม่ว่าจะกิน นั่ง เดิน หรือทำอะไร ก็เหมือนเจ้าชายที่หลุดมาจากในนิทานแถมยังเรียนเก่งมากซะจนได้ทุนจากรัฐบาลเห็นแว่วๆว่ากำลังจะไปเมืองนอกด้วย จริงๆจะบอกว่าผมสนิทกับพี่ใหญ่ก็คงไม่ถูกนักเพราะไอ้เพื่อนรักของผมมันไม่ค่อยกินเส้นกับพี่ชายตัวเองเท่าไหร่ แต่อาศัยว่าผมไปนอนที่บ้านไอ้เล็กบ่อย เอาเป็นว่านอนตั้งแต่เด็กอ่ะครับ ก็เคยรู้จักบ้างถึงจะไม่สนิทแต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยคุยกัน
“นี่ไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นก็ได้”
“ผมไม่คิดว่าพี่จะมาเที่ยวที่แบบนี้น่ะครับ” ผมตอบตามความจริง
“ฮ่าๆๆ ทำไมครับคนอย่างพี่เขาห้ามเข้าหรือไง” พี่ใหญ่บอกด้วยรอยยิ้ม
“เปล่าครับ แต่แค่ผมไม่เคยเห็นพี่ใหญ่เที่ยวเท่านั้นเอง”
“นานๆมาครั้งน่ะครับ เรียนหนักๆมันก็เครียดก็เลยต้องมาปลดปล่อยอารมณ์บ้าง”
“อ้อ” ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะยกแก้วของตัวเองขึ้นจิบ ก่อนจะเสมองไปรอบๆ เพราะตอนนี้กำลังทำหน้าไม่ถูก ไม่คิดมาก่อนว่าจะเจอคนที่ตัวเอง “แอบชอบ” มานานในผับ ใช่ครับฟังไม่ผิดหรอก ผมแอบชอบพี่ใหญ่มาตั้งนานแล้ว คงตั้งแต่มอต้นมั้งครับ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกนี้มันเกิดจากอะไรอะไร แต่ผมมักจะใจเต้นแรงทุกครั้งที่คุยกับพี่ใหญ่
“แล้วตอนนี้เป็นไงบ้างล่ะเรา” พี่ใหญ่เอ่ยถาม
“ก็ดีครับ”
“แล้วเล็กเป็นไงบ้าง”
“ไอ้เล็กเหรอครับ ก็เหมือนเดิม ไร้สาระไปวันๆ ” ผมตอบทีเล่นทีจริง ผมรู้ว่าแม้พี่ใหญ่จะไม่แสดงออกแต่ลึกๆแล้วเขาก็เป็นห่วงไอ้เล็กมันเหมือนกัน ส่วนเพื่อนผมแม้ว่าจะปากแข็งแต่บางครั้งผมก็แอบเห็นว่ามันก็ถามเรื่องพี่มันจากนมพิศอยู่บ้าง นี่คงเป็นเรื่องเดียวที่ผมกับไอ้เล็กไม่เหมือนกัน เพราะไอ้เล็กยังมีสายใยของความเป็น “ครอบครัว” และสิ่งที่เรียกว่า “พี่น้อง” ซึ่งผมไม่เคยมีและไม่เคยได้รับมันเลยตั้งแต่พ่อพาสองแม่ลูกนั่นเข้ามา หลังจากที่แม่ผมตายได้แค่ 1 เดือน ในตอนที่ผมยังเด็กผมไม่เข้าหรอกว่าทำไมพ่อถึงพาสองคนนั้นเข้าบ้านแต่เมื่อโตขึ้น ผ่านอะไรมากขึ้น ผมถึงรู้ว่า พ่อกับแม่ไม่ได้แต่งงานเพราะความรัก แต่แต่งเพราะธุรกิจ พ่อมีคนที่รักอยู่แล้วและพ่อก็มีลูกกับผู้หญิงคนนั้นก่อนที่แม่จะมีผมซะอีก เหอะแล้วทำไมผมต้องมานั่งคิดถึงเรื่องชวนอารมณ์เสียด้วยนะ
“น้องเมฆเป็นอะไรไปครับ” พี่ใหญ่เอ่ยถาม
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร” ผมเลี่ยงที่จะตอบ
“อย่าดื่มเยอะนะครับ เดี๋ยวจะเมา จะกลับลำบากนะ” พี่ใหญ่เอ่ยเตือน
“โห ผมระดับไหนแล้วพี่” ผมบอกก่อนจะตบอกตัวเองแสดงความแมนเต็มที่
“ฮ่าๆๆ ให้มันจริงเถอะครับ”
“จริงแท้แน่นอน เมฆา ซะอย่าง” ผมบอกก่อนจะยิ้มให้
“เอื๊อกกกกกก เอิ๊ก ”
“พี่ว่าน้องเมฆ เมาแล้วนะครับ” คนที่นั่งข้างๆเอ่ยเตือน
“ม้ายยยยยยยยย มาวววววววซาหน่อย คายมาวไม่มี๊” อ่า ทำไมเสียงผมมันป้อแป้แบบน้านนนนนน
“เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่านะครับ” เสียงคนข้างๆเอ่ยบอกก่อนที่เขาจะลากผมออกมา จากผับ
“นั่งดีๆนะครับ” เขาบอกก่อนจะจัดการให้ผมนั่งลงในรถ
“อื้ออออออ อย่ามายุ่งน่า”
“น้องเมฆนั่งนิ่งๆ สิครับ เฮ้อ สภาพนี้จะไปส่งที่หอยังไงล่ะครับ งั้นไปคอนโดพี่ก่อนแล้วกันนะ” เขาบ่นก่อนจะขับรถออกไปทันที
“อื้อออออออ”
“น้องเมฆ อยู่เฉยๆสิครับ” พี่ใหญ่บอกก่อนจะพยายามให้ผมนอนบนที่นอนให้ได้
“อ้าว พี่ใหญ่ เอิ๊กๆๆ พี่หย่ายยยยยย จริงๆด้วย ฮ่าๆๆ”
“พี่หย่ายยยย ” ผมเรียกคนตรงหน้าพลางจ้องลึกเข้าไปในตาคมคู่นั้น แรงดึงดูดบางอย่างที่ผมไม่รู้ที่มากำลังผลักให้ผมทำในสิ่งที่ไม่ควรทำกว่าจะรู้ตัว ผมก็ประกบปากตัวเองกับริมฝีปากได้รูปนั้นไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าผมทำไปทำไม มันอาจจะเป็นเพราะแอลกอฮอล์ที่ผมดื่มเข้าไปหรือเปล่าที่ทำให้ผมกล้าที่จะทำ แต่ผมแค่อยากทำอยากทำตามใจตัวเองสักครั้ง ผมไม่รู้หรอกว่าพรุ่งนี้เรื่องทุกอย่างมันจะเป็นยังไงแต่ผมก็แค่อยากจะให้เข้ารู้ว่าผม รักเขา ก็เท่านั้นเอง มันเป็นความคิดที่โง่มาก ผมรู้ดี
“เมฆ ทำอะไรรู้ตัวหรือเปล่า” พี่ใหญ่เอ่ยถาม
“ผมรู้ ทำไมผมจะไม่รู้”
“พี่ว่าเมฆเมามากแล้วนะ”
“ผมไม่ได้เมา!!” ผมตวาดลั่น
“เมฆ ฟังพี่นะ เมฆเมามากแล้วไปนอนซะ เดี๋ยวพี่จะออกไปนอนห้องรับแขก” พี่ใหญ่บอกพลางหันหลังจะเดินออกไป
“ผมรักพี่!!” ผมตะโกนบอก
“พี่ขอโทษนะ แต่พี่คิดกับเมฆแค่น้องชายเท่านั้น พี่มีคนที่พี่รักอยู่แล้ว”พี่ใหญ่หันมายิ้มก่อนจะเดินออกไป
ผมได้แต่ยิ้มสมเพชกับตัวเอง มันจบแล้วล่ะ ตั้งแต่วันนี้คงไม่มีพี่ใหญ่ของผมอีกต่อไปแล้ว ต่อไปนี้ผมคงไม่กล้าสู้หน้าพี่ใหญ่ได้อีกแล้ว
ผมตื่นขึ้นมาช่วงสายของอีกวันพลางมองเงาที่สะท้อนในกระจกอย่างสมเพชตัวเอง ผู้ชายตาบวมที่เหมือนผ่านสงครามการร้องไห้คนนั้นใช่ผมแน่เหรอ ชายหนุ่ม รูปหล่อ พ่อรวย คลาสโนว่าตัวพ่ออย่างผมเนี่ยนะ อกหักเพราะผู้ชายด้วยกัน หึ น่าสมเพชชะมัด
ก๊อกๆๆ
“เมฆตื่นหรือยัง” เสียงของพี่ใหญ่เอ่ยเรียก
“ครับ” ผมตอบรับก่อนจะไปเปิดประตูให้พี่ใหญ่
“ปวดหัวหรือเปล่า เมื่อคืนเมฆเมามากพี่กลัวจะแฮงค์ กาแฟดำหน่อยไหม” เสียงนุ่มยังคงเอ่ยถาม เขาคงไม่คิดอะไรกับผมจริงๆสินะ
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะกลับแล้ว หายไปทั้งคืนไอ้เล็กคงเป็นห่วง” ในเมื่อเขาเลี่ยงที่จะพูถึงมันผมก็ควรเงียบไว้สินะ
“เรื่องนั้นพี่โทรบอกเจ้าเล็กตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วง”
“ครับ งั้นผมกลับนะครับ”
“นี่อาบน้ำก่อนดีกว่า จะกลับสภาพนี้จริงๆเหรอ ไปๆ อาบน้ำเดี๋ยวพี่ไปส่ง” เขาบอกก่อนจะส่งผ้าขนหนูมาให้
ผมออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเรียนร้อยแล้วก่อนจะออกมาที่ห้องรับแขก
“อ้าวเสร็จแล้วเหรอ กินอะไรหน่อยไหมพอดีว่าแฟนพี่มาน่ะ ”
“แฟน??”
“ใช่สิ พี่ลืมแนะนำเลย ที่รักครับ ออกมานี่หน่อยสิ” เขาบอกก่อนที่จะเรียกคนที่อยู่ในครัวออก
“มีอะไรคะ เอ๊ะ !! เมฆ ”
“พี่ฟ้า” ผมมองคนตรงหน้าด้วยความตกใจ นี่แฟนพี่ใหญ่คือพี่ฟ้างั้นเหรอครับ
“สองคนนี้ทำเหมือนรู้จักกันเลยนะ” พี่ใหญ่เอ่ยถาม
“ใหญ่ก็ นี่น้องชายฟ้านะคะจะไม่รู้จักได้ยังไง” พี่ฟ้าเอ่ยบอก
“อ้าวเหรอ งั้นก็คนกันเองสินะ ดีจัง” พี่ใหญ่บอกก่อนจะยกยิ้มกว้าง
“เมฆมาทำอะไรที่นี่จ๊ะเนี่ย” พี่ฟ้าเอ่ยถามผม
“ยุ่ง มันไม่ใช่เรื่องของเธอ” ผมบอกเสียงแข็งก่อนจะออกมาจากห้องทันที ทำไมนะ ทำไมกัน ทำไมผมต้องแพ้ให้ผู้หญิงคนนี้อยู่เรื่อยทำไม ทุกคนที่ผมรักถึงไปรุมรักพี่ฟ้ากันหมด ผมเกลียดผู้หญิงคนนี้ เกลียดจนไม่อยากจะอยู่ร่วมโลกด้วย
“ไงมึงเมื่อคืนหนักเหรอว่ะ” ไอ้เล็กถามทันทีที่ผมมาถึงห้อง
“อืม” ผมตอบรับแกนๆก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง
“เมฆ มึงเป็นอะไรว่ะ”
“เปล่า กูปวดหัวน่ะ สงสัยจะแฮงค์ วันนี้กูไม่ไปเรียนนะ” ผมบอกก่อนจะหลับตาลง
“อืม พักสักวันก็ได้ กูไปเรียนก่อนแล้วกัน ดูแลตัวเองด้วยนะมึง” มันบอก
“คร้าบ กระผมไม่ใช่เด็กสามขวบนะครับ คุณชาย เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ”
“เออๆ กูไปจริงๆแล้ว”
ผมลืมตาขึ้นหลังจากที่ไอ้เล็กออกจากห้องไป ก่อนจะคว้ารูปที่หัวเตียงขึ้นมาดู
“แม่ครับ เมฆคิดถึงแม่นะ ทำไมทุกคนที่เมฆรักต้องจากเมฆไปด้วย ทำไมทุกคนต้องรักแต่สองแม่ลูกนั่น ทำไมไม่มีใครรักเมฆเลยสักคน ….. เมฆจะไม่มีวันปล่อยให้มันสองคนมีความสุขหรอก เมฆจะทำทุกอย่างเพื่อให้มันพินาศแม่คอยดูนะ”
แผนการแก้แค้นผมกำลังเริ่มต้น สองแม่ลูกนั่นต้องเจ็บ มากกว่าที่ผมเจ็บ ผมจะทำให้มันทรมานมากกว่าที่ผมเป็น
..............................TBC......................
อืม มาอีกแล้ว การดึงคนที่ไม่เกี่ยว เข้ามาเสียใจ
บางที พิต ก็ คิดนะ ว่านิยายเรื่องนี้ มัน ม่าไปหรือเปล่า
หรือคนอ่านว่าไงจ๊ะ