EP 3“พี่ชาย....ผมอยากออกไปข้างนอกจังเลย”
มันบอกกับผม หลังจากที่เงยหน้าขึ้นมาจากซากศพโสเภณีที่ถูกดูดเลือดจนแห้ง และกัดกินเครื่องในจนกลวงโบ๋
“ได้ด้วยเหรอ?”
ผมถามมันกลับพร้อมกับจ้องมองร่างกายของมัน ที่ดูแล้วไม่ต่างกับเนื้อบดที่ถูกปั้นให้เป็นรูปร่างคล้ายมนุษย์ หลังจากที่มันได้อาหาร คนแล้วคนเล่า รูปร่างของเดรนบอยก็เปลี่ยนไป จนเกือบจะใกล้เคียงมนุษย์เข้าไปทุกที ผมมองเห็นกระดูกสันหลังและเส้นเลือดที่ก่อกำเนิดขึ้นอย่างไม่เร็วและไม่ช้า ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้วผมไม่สามารถทนสังเกตสิ่งที่เป็นไปบนตัวของมันได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนนัก เพราะทุกครั้งที่พยายามจะเก็บรายละเอียดโดยการจ้องมอง ผมก็แทบจะกลั้นอาเจียนเอาไว้ไม่ไหว
เอาเป็นว่ามันไม่ใช่ของเหลวที่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในภาชนะอีกต่อไปแล้ว
“ทำได้สิพี่ชาย....ไม่มีอะไรที่พี่ทำให้ผมไม่ได้หรอก พี่ชายเก่งจะตาย ต้องหาทางได้อยู่แล้วล่ะน่า”
เออเฮอะ....มันตอบได้ดี สมกับเป็นเด็กขี้ประจบ รู้จักใช้คำพูดมาหว่านล้อม หรืออาจเป็นเพราะผมเองตกหลุมพรางของมันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เพียงแค่ได้ฟังเสียงใสๆอันแสนไพเราะ ผมก็ไม่รู้จะสรรหาเหตุผลใดมาปฏิเสธมันได้ทุกทีไป
ผู้ศรัทธา....ย่อมปราศจากข้อกังขา
เพราะศรัทธา....จึงไม่อาจโต้แย้ง
สิ่งที่ผมรู้สึกกับมัน เกินคำว่ารักหรือลุ่มหลงไปไกลโขแล้ว
แต่ถึงกระนั้น ทุกครั้งที่ทำงานให้มันสำเร็จ ผมกลับรู้สึกผิดจนต้องออกไปสงบสติอารมณ์ตัวเองบนดาดฟ้า หัวเราะ....ไม่ก็ร้องไห้ออกมาจนกว่าความรู้สึกผิดทั้งหลายจะทุเลาเบาบางลง
คนที่ผมพามาเซ่นสังเวย....แม้จะเป็นผู้หญิงหากิน เด็กสาวใจแตก แต่พวกเธอก็ไม่สมควรจะต้องมาตาย ถ้าเพียงแต่ผมฝืนตัวเองได้ จัดการกำจัดเจ้าสิ่งซึ่งไม่สมควรจะมีอยู่บนโลกใบนี้
ใช่.....กำจัดมันเสีย แค่นั้นถูกอย่างก็จบ ไม่มีการฆ่า ไม่ต้องฝืนทำเรื่องชั่วร้าย
ไม่ใช่ว่าทำไม่ลง แต่เพราะทุกครั้งที่คิดจะทำ ดวงตาคู่นั้นกับเสียงของมันทำให้ผม.....เหมือนวนกลับไปยังจุดเดิม
ผมถูกครอบงำแล้วสินะ
.
.
.
.
.
.
“อากาศดีจังเลยพี่ชาย”
ไอ้ก้อนเนื้อทรงมนุษย์ ถูกห่อพันด้วยผ้าพันแผลหนึ่งชั้นกันไม่ให้ของเหลวจากผิวของมันซึมออกมาและหยดเป็นทางบนพื้นถนน ตามด้วยเสื้อยืดเก่าๆของผมกับกางเกงผูกเชือกไซส์เด็กโต ก่อนจะคลุมกายของมันจนมิดชิดด้วยผ้าคลุมสีเลือดหมู ถุงมือ บู๊ตหนัง และหน้ากากอนามัยสำหรับปิดปากและจมูกป้องกันฝุ่นละออง
จะมีก็แต่ดวงตาของมันที่ไม่มีอะไรปกปิด ดวงตาที่ทั้งสวยและดูเศร้า นี่เป็นสิ่งเดียวในตัวมันที่ทำให้มันดูเป็นมนุษย์มากที่สุด เดรนบอยหยุดยืนอยู่ที่หน้าป้ายบิลบอร์ดขนาดยักษ์ มันแหงนหน้าขึ้นมอง บนป้ายนั้นเป็นโฆษณาเสื้อผ้าเด็กโต ที่มีนายแบบเป็นเด็กชายตาน้ำข้าว
“อยากได้เสื้อผ้าเหรอเรา”
“เปล่าหรอกพี่ชาย....เมื่อก่อนผมก็เคยเป็นแบบเด็กคนนั้น ไม่สิ....น่ารักน่าชังกว่าด้วยซ้ำ ผมเป็นเด็กที่ไม่ว่าใครได้เห็นเป็นต้องหยุดมองและตกหลุมรัก มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ....ผมเคยมีผมนุ่มๆสีน้ำตาลเข้ม เคยมีใบหน้าที่น่ารักกว่าเด็กคนไหน เคยมีผิวพรรณที่เนียนละเอียด.....”
การพูดจาของมัน ทำให้เชื่อได้ยากว่ามันคือเด็กที่มีอายุเพียงแค่สิบขวบเศษ ๆ จากรูปร่างของมัน เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กฝรั่งในโฆษณาที่มันอ้างถึง อายุของมันน่าจะราวๆสิบถึงสิบสองปี ไม่เกินนั้น แต่ในคำพูดที่ดูโตเกินตัวของมัน มันเหมือนกับคนที่ผ่านโลกมานาน....อาจจะมากกว่าผมเสียด้วยซ้ำไป
มันอาจจะไม่เคยโตไปกว่านั้น ก่อนจะถูกไอ้แก่ระยำนั่นสับจนเละ ก่อนที่มันกับไอ้แก่นั่นจะได้เจอกัน ย้อนกลับไปอีกสิบปีหรือร้อยปี ผ่านผู้คนหลายยุคสมัย.....
และคนที่ตกอยู่ใต้อาณัติของมันก็เปลี่ยนหน้าไปเรื่อยๆ
ผมคือคนล่าสุด....มันไม่มีอะไรชัดเจนไปกว่านี้อีกแล้ว
“หืม?....เจ้านกน้อย”
ขณะที่พามันมานั่งเล่นรับลม บนเก้าอี้ในสวนสาธารณะ อยู่ดีๆก็มีนกกระจอกตัวหนึ่งบินมาเกาะตรงไหล่ของมัน นกน้อยเอียงคอมองอย่างสงสัย และเจ้าเดรนบอยมองมันตอบเช่นกัน พร้อมกับเอียงคอเลียนแบบเจ้านก ดูแล้วก็น่ารักดี
แต่ทว่า....
“เฮ้ย”
ผมสะดุ้งเฮือก....เมื่อมีบางอย่างพุ่งออกมาจากผ้าคลุมตรงส่วนใบหน้า ซึ่งคลุมเอาไว้จนมืดมิดดูคล้ายกับหลุมดำ ลิ้นหรืออะไรผมก็ไม่แน่ใจนัก พุ่งออกมาและกระชากตัวเจ้านกน้อยเข้าไปอย่างรวดเร็ว ผมไม่ได้ยินเสียงนกร้อง มันคงสิ้นใจโดยที่ไม่ทันตั้งตัว ที่ได้ยินมีเพียงเสียงเคี้ยวและกลืนลงคอ
“ทำไมทำแบบนี้”
“กินไม่ได้หรือพี่ชาย....ก็แค่นกเอง”
“ไม่กลัวใครเห็นเข้าหรือไง”
“พี่ชายคิด....ว่าจะมีคนเห็นผมจริงๆน่ะหรือ”
“หมายความว่ายังไง”
ผมถามมันอย่างกระตือรือร้น และคำตอบของมันทำเอาผมรู้สึกใจแป้ว จิตตก สลดหดหู่ภายในเวลาอันสั้น
“ผมอาจจะไม่ได้มีตัวตนก็ได้นะ..... บางทีผมอาจเป็นแค่ภาพหลอนก็ได้.....หึหึหึ แต่สิ่งที่อยู่ในห้องนั้นเป็นจริงพี่ชาย...ผู้หญิงพวกนั้น....คนแรกถูกสับเป็นชิ้นและโยนลงท่อ.....ต่อมาก็ตาแก่ที่มาตามหาลูกชาย....แล้วก็คนอื่นๆ”
ทันทีที่มันพูด ผมก็เห็นภาพตัวเองเต็มไปด้วยเลือด กำลังสับร่างของผู้หญิงคนหนึ่งจนแหลกเป็นชิ้นๆ เลือดและเครื่องในของหล่อนกระจายเกลื่อน.....
ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่อีตัว
แต่เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบภายในที่ตรวจพบการทุจริตของผมกับพรรคพวก
ผมฆ่า....
ฆ่าทุกคน
เป๊าะ!!!
เสียงดีดนิ้วของมัน(มันดีดนิ้วได้แล้วเรอะ!!!)ทำให้สติผมหวนคืนสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง ความเป็นจริงที่ว่าตอนนี้ผมกับมันนั่งอยู่ในสวนสาธารณะ ผมหันไปมองหน้ามัน พยายามเพ่งมองเข้าไปในความมืดนั้น จนได้เห็นดวงตาของมันลางๆ ดวงตาเศร้าสร้อยที่ตอนนี้ดูระรื่นซุกซน
“ผมอยากกินไอศกรีม”
“มันจะมากไปแล้วนะเว้ยยยยย”
“หึหึหึ....จะได้รู้ไงว่าผมมีตัวตนจริงๆหรือเปล่าน่ะ ไปซื้อไอศกรีมแล้วก็ถามคนขายดูว่าเห็นผมไหม....”
ผมยอมมันแต่โดยดีอีกตามเคย บ้าชิบ!!!
.
.
.
.
.
“พี่ภพ”
“เฮ้ย....ไอ้ธีร์”
“ผมมาหาพี่.....เอ่อ....แต่ห้องพี่ไม่ได้ล็อคน่ะ”
ไอ้ธีร์บุกมาหาผมกลางดึกคืนหนึ่งโดยที่ไม่ยอมเคาะประตูห้อง ผมเพิ่งอาบน้ำเสร็จและนุ่งเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
ไอ้เดรนหายไปไหน!!!!
“เป็นอะไรไปพี่....มองหาอะไรเหรอ”
“ป่ะ....เปล่านี่....ซื้อเบียร์มาด้วยเหรอ”
“ใช่.....ฉลองเงินเดือนออกไง”
“พี่ไม่อยากว่ะ”
“เอาน่า...แดกเป็นเพื่อนผมหน่อย”
ผมกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะสะดุดเข้ากับตู้เสื้อผ้าที่เปิดแง้มเอาไว้ นิ้วเล็กๆของมันยื่นออกมาและพรมเป็นจังหวะเหมือนจงใจจะหยอกเย้า
ฉิบหายล่ะสิ
“เอ่อ....ไอ้ธีร์...ในห้องมันร้อน ไปนั่งกินกันตรงระเบียง ตากลมเย็นๆดีกว่า”
“ก็ดีพี่....ตกลงกินเป็นเพื่อนผมนะ”
“เออ”
อีตุ๊ดเด็กหน้าหวาน พยายามจะทำตัวถ่อยเพื่อเข้าหาผม แต่กิริยาท่าทางของมันออกไปทางทะแม่งเสียมากกว่า ยิ่งสายตาตอนที่มันจ้องหุ่นของผม ร่างกายที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำจากฝักบัว เหมือนกับจะกลืนกินผมได้ทั้งตัว อ้าปากค้างจนแมลงวันบินเข้าไปได้ทั้งฝูง
“พี่......”
“อะไรวะธีร์”
“เอาจริงๆเลยนะ.....ผมว่าผม.....ชอบพี่ว่ะ”
“พี่รู้”
“จริงเหรอวะ....รู้ได้งายยยยย.....เอิ๊ก”
พอนั่งดื่มไปได้พักใหญ่ๆ ไอ้ธีร์ก็เริ่มเมา พอเมาแล้วมันก็เริ่มพูดมากและพูดในสิ่งที่ไม่สมควรจะพูด ผมเกลียดพวกตุ๊ดนัก โดยเฉพาะตุ๊ดแรดๆที่พยายามจะให้ท่ากันแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ เอาเข้าจริงไม่ว่าจะสวยหยาดเยิ้มหยดย้อยหรือหน้าเหี้ยเรี่ยราด ขึ้นชื่อว่าเป็นพวกตุ๊ดแล้ว ผมก็เกลียดแม่งหมดแหละ ถึงจะแปลงมาจนสวยแค่ไหนก็เถอะ พอรู้ว่าเป็นผู้ชายเหมือนกัน ผมก็เอาไม่ลงหรอก
ใจจริงผมก็อยากจะเอามันเซ่นสังเวยให้เดรนบอยอยู่เหมือนกัน แต่ติดตรงที่มันดีกับผมเหลือเกิน และที่สำคัญ ไอ้ธีร์เป็นคนมีหลักแหล่ง มีคนรู้จัก ไม่เหมือนอย่างกระหรี่พวกนั้น ขืนมันหายไป เรื่องได้สาวถึงตัวผมแน่ๆ
แต่ไอ้กิริยาที่ไอ้ธีร์กำลังทำในตอนนี้ มันชักทำให้ผมลังเล ผมประคองมันกลับเข้าไปในห้องเมื่อมันเริ่มส่งเสียงดังโวยวาย จังหวะที่หิ้วปีกมัน มือของมันก็อยู่ไม่สุข จับโน่นล้วงนี่บ้าง....
“ผมชอบพี่....ชอบ....เอิ๊ก”
“ห่านี่อย่าจับจู๋กูสิวะ”
อูย....บ้าจริง ถูกไอ้ธีร์บดคลึงเจ้าโลกเข้าให้จนได้แล้ว กลายเป็นตอนนี้ผมถูกมันกอดแน่นและพยายามจะลากขึ้นเตียงเสียให้ได้
ซี๊ด....ดีจริง
ไอ้ห่านี่เก่งแฮะ....มือมันนี่นิ่มใช้ได้เลย ผมนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวนั่นแหละ ยังไม่ทันได้แต่งตัวหรอก เพราะว่าไอ้ตัวห่านั่นเสือกเอาตู้เสื้อผ้าผมเป็นที่ซ่อน ไม่ช้าผ้าขนหนูก็หลุดออกจากเอว ผมไม่ได้มีเซ็กส์....นับตั้งแต่อีตัวคนนั้นถูกดึงลงท่อไป....
ผมก็ยังเกลียดตุ๊ดอยู่นะ
แต่....
แค่มือกับปากคงไม่เป็นไร ขออย่าให้มากกว่านี้
“ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก..........อ่ออออ.....อ่อกกกกก..........อึก......”
“เฮ้ย....ไอ้ธีร์......ไอ้ธีร์.....”
ผมกำลังหลับตาพริ้มตอนที่ไอ้ธีร์ใช้ปากให้ไอ้หนูของผมอยู่ แต่แล้วอยู่ๆมันก็แหกปากร้อง พอลืมตาขึ้นมาไอ้ธีร์ก็นอนตาเหลือก มือกุมอก อ้าปากค้างไปเสียแล้ว อ่า....ขนเพชรของผมยังติดอยู่ที่เหล็กดัดฟันของมันเลย หลายเส้นเชียว
มันเห็นอะไร....
ไอ้เดรนโผล่มางั้นหรือ
ไหนล่ะ....
ไม่เห็นมีใครเลย
ผมมองตู้เสื้อผ้าที่บัดนี้เปิดอ้า ของเหลวเปียกๆหยดใส่หัวของผม ผมเงยหน้าขึ้นมองก็พบคำตอบ ไอ้เด็กท่อเกาะหนึบอยู่ข้างบนนั้น เกาะเพดานแล้วห้อยหัวลงมา ปากที่ปราศจากฟันของมันแสยะออกเหมือนกำลังยิ้ม...
ไอ้ธีร์หัวใจวายตายห่าไปเสียแล้ว
“พี่ชาย.....ไหนๆเพื่อนของพี่ก็ม่องเท่งไปแล้ว ผมขอได้ไหม.....อีกแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ผมก็จะกลับเป็นเหมือนเดิมแล้วนะ”
“หึหึหึ...ฮะฮะฮะฮะ.....ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
ผมหัวเราะ
หัวเราะทั้งน้ำตา
ก็แล้วผมยังเหลือทางเลือกอะไรอีกเล่า
.
.
.
.
.
To be con
ตอนหน้าจะคืนร่างไหมมาดูกัน