กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: [1] 2 3 4 5 ... 10
1
Boy's love story / Re: ทีเซอร์ - teaser ๕. จิ๊กโก๋ - คุณหนู 28_5_2567
« กระทู้ล่าสุด โดย KADUMPA เมื่อ 28-05-2024 13:13:41  »


Teaser: จิ๊กโก๋ - คุณหนู



“เฮ้ย ๆๆ อย่าเพิ่งดับนะโว้ย” ไอ้จิ๊กโก๋ตะโกนร้อง เมื่อมอเตอร์ไซค์เก่าเก็บแต่คู่ใจของมัน มาทำเสียงคอกแคกจะดับแหล่ไม่ดับแหล่ใส่มัน “เหี้ยแล้วไง” จิ๊กโก๋ตะโกนใส่รถอีกครั้ง ทันทีที่เสียงเครื่องยนต์เงียบหายไป ก่อนที่รถจะดับจนนิ่ง จิ๊กโก๋ทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ ใช้เท้าทั้งสองถีบยันพื้นถนน เพื่อนำรถจักรยานยนต์ที่เพิ่งไปทำเครื่องยนต์มาหมาด ๆไถเข้าไปจอดที่ข้างทาง

“ไอ้อู่เวรนี่ มันเล่นกูเข้าแล้วไง แม่งเอ๊ย” จิ๊กโก๋รู้สึกเซ็งอย่างที่สุด ที่อุตส่าห์เชื่อการรีวิวในโซเชียลมีเดีย นำรถไปซ่อมกับอู่ที่เขาบอกกันว่าดีนักดีหนา “ยังไม่พ้นอาทิตย์เลยแม่ง” สบถออกมาอีกรอบเพื่อระบายความหงุดหงิด “ห่าเอ๊ย แล้วกูจะไปยังไงต่อดีวะเนี่ย” พูดไปก็มองซ้ายมองขวา มองหน้ามองหลัง มองสำรวจไปทั่วบริเวณ

“ถนนแถวนี้ ก็ไม่คุ้นเสียด้วยสิ” จิ๊กโก๋ พูดกับตัวเอง และเป็นที่มันเองนั่นแหละ ที่เลี้ยวไม่ทันตรงแยกไฟแดงที่แล้ว มันถึงต้องขี่มอเตอร์ไซค์ตรงมาเรื่อย ๆเพื่อจะหาที่กลับรถ แต่เจ้ากรรม รถของมันมาซี้แหง็กอยู่ตรงนี้เสียก่อน “โรงเรียนหรืออะไรวะเนี่ย หรูฉิบหาย” จิ๊กโก๋ที่ยังนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์อยู่ ชะโงกมองข้ามรั้วที่ปลูกต้นไม้ขนานกับถนน ยาวไปตลอดทั้งทาง

ยังไม่ทันที่จิ๊กโก๋จะได้รับคำตอบกับข้อสงสัยของตัวเอง ตรงช่องว่างระหว่างรั้วต้นไม้นั้น ก็มีร่างเล็ก ๆร่างหนึ่ง พยายามแทรกตัวออกมา เจ้าของใบหน้าที่เหยเกมองมาทางจิ๊กโก๋แบบตกใจอยู่เหมือนกัน ที่อยู่ ๆก็มีคนมานั่งมองจากริมถนน แต่ก็ดูจะรีบร้อนพยายามจะพาตัวเองออกจากรั้วต้นไม้นั้นให้ได้มากกว่า

“อ้าว เฮ้ย อะไรกันวะเนี่ย” ไอจิ๊กโก๋ร้องออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นเด็กหนุ่มวัยใกล้เคียงกันกับเขา แทรกตัวออกมาจากพุ่มไม้นั้นได้สำเร็จ “แล้วทำไมไม่เดินออกมาจากประตูดี ๆ” มันถามเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มนั้น ที่ตอนนี้มองมาทางมันอย่างลังเลอะไรบางอย่าง “อ้าวไอ้เด็กนี่ ถามไม่ตอบ รวยแล้วหยิ่งหรือไง” จิ๊กโก๋มั่นใจว่า เสียงของมันดังมากพอ ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะไม่ได้ยินที่มันถามออกไป

“อะไร” มันถามอีกฝ่ายออกไป เมื่อเห็นว่า เด็กบ้านรวยนั่นเดินมาหยุดยืนอยู่ที่ข้างรถของมัน “หนีโรงเรียนหรือไง” มันถามออกไป มองเห็นอีกฝ่ายหันหน้ากลับไปมองที่รั้วพุ่มไม้นั้น เหมือนกับกลัวว่า จะมีใครตามมาจนเจอ “ทำไม” จิ๊กโก๋ถามออกไปอีกครั้ง เมื่อเด็กหนุ่มที่ตัวเล็กกว่ามันหันมาสบตา เหมือนกับอยากจะขอร้องให้มันช่วยอะไรบางอย่าง

“รถมันเสีย” จิ๊กโก๋ก็พอจะเข้าใจแหละ ว่าอีกฝ่ายที่ชี้นิ้วมาที่มอเตอร์ไซค์ของมัน พยายามจะหมายความว่าอย่างไร “รถกูมันดับเมื่อกี้นี่เอง ก่อนหน้าที่มึงจะโผล่ออกมาจากรั้วนี่แหละ” พูดไปขนาดนี้ แต่เด็กบ้านรวยที่ไอ้จิ๊กโก๋ไปเรียกเขาแบบนั้น ก็พยักหน้าเร็ว ๆทำหน้าอ้อนวอน ขอให้มันช่วยพาเขาออกไปจากตรงนี้ก่อน ไปตอนนี้เลย

“รถมันเสีย” ไอ้จิ๊กโก๋ทำเสียงดุข่ม เมื่อดูว่าอีกฝ่ายจะพูดไม่ฟัง “ก็บอกว่า” ไอ้จิ๊กโก๋อยากจะขึ้นเสียงใส่อีกฝ่ายอีกรอบ เมื่อเด็กบ้านรวยหน้าตาชวนมองนั่น คะยั้นคะยอให้จิ๊กโก๋สตาร์ทรถ แล้วพาออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว “อ้าว เฮ้ย” จิ๊กโก๋เสียงหลงไม่น้อย เมื่ออยู่ ๆหลังจากที่เขากระทืบเท้าลองสตาร์ทรถ เสียงเครื่องยนต์มันก็กลับคำรามดังขึ้นมาอีกครั้ง

“ติดได้ไงวะ แล้วมึงจะไปไหน ให้กูพาไปไหน” ไอ้จิ๊กโก๋ถามออกไป มองดูเด็กบ้านรวยเก้ ๆ กัง ๆมองดูเบาะซ้อนท้ายรถของไอ้จิ๊กโก๋ ว่าจะขึ้นนั่งยังไงดี “อย่าบอกนะ ว่าไม่เคยนั่งซ้อนท้ายมาก่อนเนี่ย” เด็กบ้านรวยปราดสายตาจากริมฝีปากของไอ้จิ๊กโก๋ ขึ้นมาสบตากับมัน ก่อนจะส่ายหน้าเป็นคำตอบ “อ้ะงั้นมึงใส่นี่ก่อน” จิ๊กโก๋เอาหมวกกันน็อคที่แขวนไว้ที่แฮนด์จับมอเตอร์ไซค์ มาใส่ให้กับอีกฝ่าย

“เดี๋ยวลูกเขาเป็นอะไรไป กูทำคืนให้ได้ไม่เหมือนเดิม” เด็กบ้านรวยมองไปที่ใบหน้าของไอ้จิ๊กโก๋ ที่มันดูตั้งใจจะใส่หมวกกันน็อคให้อีกฝ่ายอย่างตั้งใจ “แล้วตกลงจะไปไหน” มันถามอีกฝ่ายอีกครั้ง เมื่อมีเสียงผู้ชายสองสามคนดังถามกันลอดรั้วมาว่า เห็นคนที่กำลังตามหาบ้างมั้ย เด็กบ้านรวยพยักพเยิดหน้า เหมือนกับจะบอกกับไอ้จิ๊กโก๋ว่า ไปไหนก็ได้ ขอให้ไปก่อนเถอะ

“มึงพูดเองนะ ไอ้ลูกคุณหนู” ไอ้จิ๊กโก๋ว่าแบบนั้น เมื่อฉุดแขนให้ลูกคุณหนูของมัน ขึ้นมานั่งคร่อมซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของมันได้เแล้ว “เดี๋ยวกูซิ่งให้ มึงจับดี ๆก็แล้วกัน” ไอ้จิ๊กโก๋บิดเร่งเครื่องพามอเตอร์ไซค์ออกไปจากตรงนั้น มันเลี้ยวสองสามเลี้ยว ก่อนที่จะพาทั้งตัวมันและลูกคุณหนู เข้าสู่เส้นทางถนนที่มันรู้จักและคุ้นเคย

เย็นจนเกือบจะค่ำแล้ว คุณหนูของบ้านก็ยังกลับมาไม่ถึง คนที่ดูจะกระวนกระวายใจมากที่สุด ก็คงจะเป็นนมอ่อน ผู้ที่เลี้ยงดูคุณหนูมาตั้งแต่เล็ก ที่เดี๋ยวก็ผุดลุกผุดนั่ง ชะโงกหน้าผลุบโผล่ไปที่ด้านหน้าของบ้าน ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงรถคันไหนขับผ่านไปมา นมอ่อนมองเข้าไปในตัวบ้านหลังใหญ่ คุณท่านกับคุณผู้หญิงนั่งรอลูกชายคนเดียวอยู่ในบ้าน ไม่ยอมขึ้นไปพักผ่อนที่ขั้นบนเช่นกัน มาตั้งแต่คนรถรายงานว่า คุณหนูแอบหนีออกไปจากโรงเรียนพิเศษ

“คุณหนู นั่นคุณหนูมาแล้ว” เสียงคนสวนที่เห็นเด็กหนุ่มเดินผ่านประตูรั้วบ้านเข้ามา ร้องบอก “คุณหนู คุณหนูของนมอ่อน หายไปไหนมาคะ แล้วนี่เป็นอะไรมั้ย เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” คุณหนูของนมอ่อนหัวเราะออกมาเบา ๆเมื่อถูกนมอ่อนจับพลิกตัวไปมา มองหาร่องรอยบาดแผล ด้วยความเป็นห่วง “คุณพ่อกับคุณแม่เป็นห่วงคุณหนูมากเลยนะคะ” จากตรงนั้น รอยยิ้มของคุณหนูก็พลันหายไป

“ทำแบบนี้ คิดหรือว่าพ่อกับแม่จะยอมใจอ่อน” ทันทีที่คุณท่านเห็นลูกชายคนเดียวเดินเข้าบ้านมากับนมอ่อน ด้วยความโมโหก็เอ่ยปากเอ็ดตะโรลูกชายออกไป “คุณคะ ใจเย็น ๆก่อน พูดกับลูกดี ๆ” เสียงคุณผู้หญิงปรามผู้เป็นสามีของเธอ ก่อนจะทำท่าทางบอกให้นมอ่อนพาคุณหนูขึ้นห้องนอนไป “คุณก็เลิกให้ท้ายลูกเสียที” คุณท่านหันไปบ่นผู้เป็นภรรยา

“ไป ๆนมอ่อน พาคุณหนูของเธอไปให้พ้นหน้าฉันก่อนไป” ก่อนจะโบกมือโบกไม้ บอกให้นมอ่อนที่ตามใจคุณหนูของบ้านกว่าใคร ให้พาขึ้นชั้นบนไป นมอ่อนกุลีกุจอ ดุนหลังคุณหนูผู้เป็นที่รักของทุกคนในบ้าน ที่ยืนหน้าคว่ำงอง้ำอยู่ ให้เดินขึ้นห้อง พอเข้าห้องนอนมาได้ คุณหนูของบ้านก็หันมายิ้มแฉ่งกับนมอ่อน “อย่ามายิ้มเชียวนะคะ ทำแบบนี้ น่าจะโดนทำโทษนัก” พูดจาขึงขังไปอย่างนั้นเอง ยังไงนมอ่อนก็ทำคุณหนูของเธอไม่ลง

“อะไรนะคะ” นมอ่อนถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่ก็ยิ้มตามรอยยิ้มกว้างของคุณหนู ที่ใช้ภาษามือบอกกับนมอ่อนว่า “วันนี้สนุกมากเลยหรือคะ” คุณหนูพยักหน้าเร็ว ๆยืนยันคำพูดที่เพิ่งบอกกับนมอ่อนไป “ว่าแต่ คุณหนูไปทำอะไรมาคะเนี่ย” พูดพลางจับมือของคุณหนูขึ้นมาดู “ตายแล้ว คุณหนู อะไรติดมือมาคะเนี่ย” คุณหนูยิ้มเขิน ๆให้กับนมอ่อน “ข้าวเหนียว” แววตาของคุณหนูของนมอ่อน กระหวัดนึกถึงเด็กหนุ่มที่โตกว่าเขานิดหน่อย สอนให้ใช้มือเปล่าปั้นข้าวเหนียวกิน เมื่อมื้อเที่ยงวันนี้

ไอ้จิ๊กโก๋จอดรถมอเตอร์ไซค์ของมัน ห่างจากบ้านของลูกคุณหนูของเขาออกมา มันนั่งรอ มองจนคุณหนูเดินเข้าบ้านไป มันถึงได้กลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก เมื่อรู้ตัวว่า หัวใจของมันเต้นเร็วและแรงจนผิดปกติ จิ๊กโก๋ไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เพราะว่าไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อน และไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น จิ๊กโก๋หยิบเอาหมวกกันน็อคขึ้นมาใส่ กลิ่นหอมอ่อน ๆที่ไม่รู้ว่าจะเป็นกลิ่นแชมพู หรือว่าน้ำหอมจากตัวของลูกคุณหนูกันแน่ ยังติดอยู่ ลอยอ้อยอิ่งอยู่ตรงหน้าของมัน

“มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ย ไอ้จิ๊กโก๋” ถามตัวเองออกไปอีกครั้ง ก่อนจะออกรถมาจากตรงนั้น ขับมาเรื่อย ๆตามทาง ก็ได้แต่คิดทบทวนว่า ไปทำอะไรมาบ้างในวันนี้ ตั้งแต่ขับรถพาลูกคุณหนูหนีโรงเรียนมาด้วยกัน จิ๊กโก๋ขี่รถมาเรื่อย ๆโดยไม่บีบแตรใส่ใครเลยสักครั้ง อย่างที่เคยชอบทำเป็นนิสัยมาตลอด แถมพอจอดรถที่หน้าห้องเช่ารังหนูของมัน จิ๊กโก๋ก็เห็นรอยยิ้มกว้าง อารมณ์ดี ยิ้มไม่หุบของตัวเอง ในกระจกมองข้างรถเสียอย่างนั้น

***************************************

คำแปลเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ โดย Jay J

Is this Love? - Tom Issara feat. SaintSup

https://www.youtube.com/watch?v=nUuvdC61QeA


โปรดเถอะฟ้า บอกฉันที

Come on, heaven! Tell me this

ไอ้แบบนี้ ใช่หรือเปล่า

This kinda thing, is really it?

ที่เขาเรียกกันว่ารัก

The thing they call it love

(Is this love and if this is love)

ยังไม่เคยได้รู้จัก

I’ve never known it

มันคือรักใช่ไหม

Is it really called love?


ที่หวั่นไหว ไม่รู้ตัว

It makes heart flutter, rush fever

ใจสั่นรัว นี่มันจริงใช่ไหม

Shaking my heart to the core, is it really?

ที่ใครเรียกกันว่ารัก

Everybody calls it love

(Is this love and if this is love)

ช่วยบอกกันให้รู้หน่อย

Please let me know about it

อย่างน้อยฉันจะได้รักเธอได้ทัน

At least, help me fall in love in no time


ยังไม่เคยจะทันได้ตั้งตัว

I am caught off guard

ใจมันยังไม่ชัวร์เรื่องความรัก

My heart is never sure about love

ยังไม่เคยจะทันได้รู้จัก

No one ever introduces me to it

รักจริงจริงเป็นอย่างไร

What real love will be like


จนวันหนึ่งที่เธอเดินเข้ามา

Until one day you showed up

ใจที่มันเย็นชาก็เปลี่ยนไป

The cold heart day then got changed

มันก็ยังคงไม่เข้าใจ

But it’s still difficult to understand

มันเป็นอะไรนะหัวใจ

What is going on with my heart?

ไม่เคยจะรู้ เพราะอะไร

Never have come across it, why?

ยังอยากจะรู้

I want to know


โปรดเถอะฟ้า บอกฉันที

Come on, heaven! Tell me this

ไอ้แบบนี้ ใช่หรือเปล่า

This kinda thing, is really it?

ที่เขาเรียกกันว่ารัก

The thing they call it love

(Is this love and if this is love)

ยังไม่เคยได้รู้จัก

I’ve never known it

มันคือรักใช่ไหม

Is it really called love?


ที่หวั่นไหว ไม่รู้ตัว

It makes heart flutter, rush fever

ใจสั่นรัว นี่มันจริงใช่ไหม

Shaking my heart to the core, is it really?

ที่ใครเรียกกันว่ารัก

Everybody calls it love

(Is this love and if this is love)

ช่วยบอกกันให้รู้หน่อย

Please let me know about it

อย่างน้อยฉันจะได้รักเธอได้ทัน

At least, help me fall in love in no time


(I just wanna know it is call love)

(I just wanna know I'm a fall in love)


อยากรู้ว่าฟ้า จะมีเวลาบ้างไหม

Wanna know if heaven has some time

ช่วยตอบคำถามที่ยังสงสัย

Give me an answer that I’ m wondering

ที่ฉันและเธอต้องมาเจอ ก็มันยังไม่เข้าใจ

You and I, now since we’ve met

ก็มันยังไม่เข้าใจ

Yet still don’t understand

ว่าเป็นเพราะ เหตุเพราะ มันเพราะอะไร

Why? Because why? Why is that, really?


ไม่เหมือนในวิชา ที่เคยได้เรียนเรียนมา

None of it in the classroom, no teacher teaches it

ไม่มีในตำราที่ครูเคยสอนมา

No textbook from any masters writing it

ถามเพื่อนพ่อแม่ ก็จนเขาเอือมระอา

Asking parents and friends, they’re fed up with me already



Have you ever been this feeling

Have you got idea of this feeling

Tell me some more about this feeling

Have you got idea a better way give me some more


โปรดเถอะฟ้า บอกฉันที

Come on, heaven! Tell me this

ไอ้แบบนี้ ใช่หรือเปล่า

This kinda thing, is really it?

ที่เขาเรียกกันว่ารัก

The thing they call it love

(Is this love and if this is love)

ยังไม่เคยได้รู้จัก

I’ ve never known it

มันคือรักใช่ไหม

Is it really called love?


ที่หวั่นไหว ไม่รู้ตัว

It makes heart flutter, rush fever

ใจสั่นรัว นี่มันจริงใช่ไหม

Shaking my heart to the core, is it really?

ที่ใครเรียกกันว่ารัก

Everybody calls it love

(Is this love and if this is love)

ช่วยบอกกันให้รู้หน่อย

Please let me know about it

อย่างน้อยฉันจะได้รักเธอได้ทัน

At least, help me fall in love in no time


อย่างนี้มันจริงใช่ไหม

Is it really happening now?

ช่วยบอกกันให้รู้หน่อย

Just let me know all about it

อย่างน้อยฉันจะได้รักเธอได้ทัน

That I’ll fall in love with you right now
2
คิดถึงเรื่องนี้นะคะ  :mew2:
3
พูดคุยทั่วไป / ร้านพวงหรีดออนไลน์
« กระทู้ล่าสุด โดย สไตล์หรีด เมื่อ 27-05-2024 21:22:03  »
ร้านพวงหรีดออนไลน์ดอกไม้แสดงความอาลัยเป็นสื่อกลางในการสื่อความหมายแทนใจ  ส่งต่อความรัก ความเคารพ และความอาลัย  การเลือกดอกไม้ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถแสดงความรู้สึกได้อย่างลึกซึ้งและจริงใจ  พิจารณาความสัมพันธ์กับผู้เสียชีวิตร้านพวงหรีดออนไลน์ดอกไม้สีขาว เหมาะสำหรับการแสดงความอาลัยให้กับทุกคน  ในขณะที่ดอกไม้สีอื่นๆ อาจมีความหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น ดอกกุหลาบสีแดง สื่อถึงความรัก  ดอกลิลลี่สีชมพู สื่อถึงความอ่อนโยน  เป็นต้น
4
พูดคุยทั่วไป / ร้านพวงหรีดวัดพระศรีมหาธาตุ
« กระทู้ล่าสุด โดย สไตล์หรีด เมื่อ 27-05-2024 21:16:14  »
ร้านพวงหรีดวัดพระศรีมหาธาตุ พิจารณาความสัมพันธ์กับผู้เสียชีวิตดอกไม้สีขาว เหมาะสำหรับการแสดงความอาลัยให้กับทุกคน ร้านพวงหรีดวัดพระศรีมหาธาตุ ในขณะที่ดอกไม้สีอื่นๆ อาจมีความหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น ดอกกุหลาบสีแดง สื่อถึงความรัก  ดอกลิลลี่สีชมพู สื่อถึงความอ่อนโยน  เป็นต้น
พิจารณาความชอบของผู้เสียชีวิตหากทราบว่าผู้เสียชีวิตชื่นชอบดอกไม้อะไรเป็นพิเศษ  การเลือกดอกไม้นั้นมาแสดงความอาลัย ก็ถือเป็นการแสดงความรักและความเคารพอีกทางหนึ่ง
พิจารณาสถานที่จัดงาน:หากงานจัดในสถานที่ปิด อาจเลือกดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ  แต่หากจัดงานกลางแจ้ง ควรเลือกดอกไม้ที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศ
พิจารณางบประมาณ:ดอกไม้แสดงความอาลัยมีราคาที่หลากหลาย  เลือกดอกไม้ที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ
5
พูดคุยทั่วไป / พวงหรีดปทุมธานี
« กระทู้ล่าสุด โดย สไตล์หรีด เมื่อ 27-05-2024 21:10:10  »
พวงหรีดปทุมธานีการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก พวงหรีดปทุมธานี การเลือกดอกไม้แสดงความอาลัยจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง  ไม่เพียงเพื่อความสวยงาม แต่ยังเป็นการสื่อความหมายแทนใจ ส่งต่อความรัก ความเคารพ และความอาลัย 

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของดอกไม้แสดงความอาลัย  เรียนรู้ความหมายเบื้องหลังดอกไม้นานาพันธุ์  พร้อมคำแนะนำในการเลือกดอกไม้ที่เหมาะสม  เพื่อให้คุณสามารถแสดงความอาลัยได้อย่างลึกซึ้งและจริงใจ
6
พูดคุยทั่วไป / พวงหรีดปทุมธานี
« กระทู้ล่าสุด โดย สไตล์หรีด เมื่อ 27-05-2024 21:09:29  »
พวงหรีดปทุมธานีวัดพระศรีมหาธาตุบทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของดอกไม้แสดงความอาลัย  พวงหรีดปทุมธานี พวงหรีดปทุมธานี เรียนรู้ความหมายเบื้องหลังดอกไม้นานาพันธุ์  พร้อมคำแนะนำในการเลือกดอกไม้ที่เหมาะสม  เพื่อให้คุณสามารถแสดงความอาลัยได้อย่างลึกซึ้งและจริงใจ พิจารณาความสัมพันธ์กับผู้เสียชีวิต: ดอกไม้สีขาว เหมาะสำหรับการแสดงความอาลัยให้กับทุกคน  ในขณะที่ดอกไม้สีอื่นๆ อาจมีความหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น ดอกกุหลาบสีแดง สื่อถึงความรัก  ดอกลิลลี่สีชมพู สื่อถึงความอ่อนโยน  เป็นต้น
พิจารณาความชอบของผู้เสียชีวิต:หากทราบว่าผู้เสียชีวิตชื่นชอบดอกไม้อะไรเป็นพิเศษ  การเลือกดอกไม้นั้นมาแสดงความอาลัย ก็ถือเป็นการแสดงความรักและความเคารพอีกทางหนึ่ง
พิจารณาสถานที่จัดงาน: หากงานจัดในสถานที่ปิด อาจเลือกดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ  แต่หากจัดงานกลางแจ้ง ควรเลือกดอกไม้ที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศ
พิจารณางบประมาณ:ดอกไม้แสดงความอาลัยมีราคาที่หลากหลาย  เลือกดอกไม้ที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ
7
พูดคุยทั่วไป / พวงหรีด
« กระทู้ล่าสุด โดย สไตล์หรีด เมื่อ 27-05-2024 21:01:38  »
พวงหรีด นอกจากมีผลงานโดดเด่น  ยังเป็นบุคคลที่น่าเคารพรัก  พวงหรีด เป็นที่รู้จักของ ในฐานะที่เป็น ด้วยความเป็นผู้มี ส่งผลให้เป็นที่รักของทั้งครอบครัว  เพื่อน  และลูกน้อง การจากไปของนับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของสังคมไทย  ได้สร้างคุณูปการต่อสังคมอย่างมากมาย  ผลงานของ จะยังคงประโยชน์และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนรุ่นหลังต่อไป
8
พูดคุยทั่วไป / ร้านพวงหรีด
« กระทู้ล่าสุด โดย สไตล์หรีด เมื่อ 27-05-2024 20:55:43  »
ร้านพวงหรีด นอกจากการเขียนข้อความแสดงความอาลัย ร้านพวงหรีด เรายังสามารถแสดงความเคารพและความรักต่อผู้วายชนม์  ได้ด้วยวิธีอื่นๆ  เช่น
ส่งดอกไม้หรือนำพวงหรีดไปร่วมงานศพ บริจาคเงินให้กับมูลนิธิหรือองค์กรการกุศลในนามของผู้วายชนม์ เขียนบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับผู้วายชนม์  ปลูกต้นไม้เพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน
9
Boy's love story / Re: อริทางคับแคบ (Pretending) - No.11 Obsessed (27/05/24)
« กระทู้ล่าสุด โดย Nattie69 เมื่อ 27-05-2024 20:26:22  »
 :katai4: :katai2-1:
10
Boy's love story / Re: อริทางคับแคบ (Pretending) - No.11 Obsessed (27/05/24)
« กระทู้ล่าสุด โดย Shonennihon เมื่อ 27-05-2024 16:21:54  »
ผมวางมือทั้งสองข้างกุมศรีษะไว้ทั้งสองข้างระหว่างอ่านทบทวนร่างโปรเจ็คที่เสร็จสิ้นเป็นครั้งสุดท้ายอย่างตั้งใจ

ในที่สุดก็สมบูรณ์แบบ ผมคิดในใจแบบนั้น พลางผ่อนลมหายใจและเหยียดยืดร่างกายที่แสนอ่อนล้าอย่างสุดกำลัง ผมยืดค้างไว้แบบนั้นอยู่พักใหญ่เพราะรู้สึกปวดตึงไปทั้งร่างกายด้านบน คอ บ่า ไหล่ นิ้ว รู้สึกได้ยินเสียงกล้ามเนื้อเบียดกันดังลั่น ผมหลับปี๋ ร้องครางด้วยความเจ็บปวดหน่วงๆ ไปทั้งร่าง

จุ๊บ!!

สัมผัสอันแผ่วเบาบรรจงบรรจบลงที่ริมฝีปากผม ความอบอุ่นแบบนี้ผมจำได้ดีเพราะเป็นความอบอุ่นที่สัมผัสได้ทุกเช้าช่วงนี้

“ทำอะไรเนี่ย ยังไม่เลิกงานเลย” ผมผลักอีกฝ่ายเบาๆ

“แปลว่า เลิกงานแล้วทำได้!!” คอปเตอร์ยิ้มอย่างยียวน

“ไม่ได้โว้ย!! ที่นี่มันที่ทำงานนะ!!”

“ก็ตัวเองบอกเองนี่นา!!”

“อย่ามากวนบาทา ดีนะที่อารมณ์ดี ไม่งั้นนายโดนดีแน่!!”

“อยากโดนจังเลย ขอเลยได้ไหม!!” ทำหน้าตาท้าทายใส่ผมอย่างไม่เกรงกลัวว่าผมจะโกรธ

ความผิดผมเองล่ะครับ ที่ช่วงนี้ ผมหลงมันไปหน่อย เวลาอยู่ด้วยกันสองคน คอปเตอร์เวลาใส่เสื้อผ้าหลวมๆ กางเกงขาสั้นของผมที่มันรัดตึงไปหมด ทำให้ผมอดที่จะหมั่นเขี้ยวเขาไม่ได้ สุดท้ายผมต้องเผลอไปกอดไปฟัดเขาทุกครั้ง

แต่แทนที่เขาจะรำคาญ เขากลับยิ้มตอนรับผมที่ทำแบบนั้น และสุดท้ายก็เป็นผมที่โดนกดลงไปเบื้องล่างด้วยร่างกายอันเปลื่อยเปล่าด้านบน แล้วที่เหลือคงไม่ต้องบอกนะครับว่าผมโดนอะไรบ้าง

ผ่านมาหลายวันแล้วนับจากวันที่เราเปิดตัวกับหลายคนโดยเฉพาะกับพี่ร็อคเก็ต (ที่ตอนนี้ไม่ค่อยได้เจอหน้าเลย เหมือนพยายามหลบหน้าผม)  ผมกับคอปเตอร์ก็ทำแบบนี้กันทุกคืนเลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าผมไปหลงอะไรเขานักหนา

หลายครั้งช่วงนี้ผมก็เลยจะเห็นมันชอบท้าทายผมแบบนี้ แต่แปลก ลึกๆ ผมกลับชอบใจ และเผลออมยิ้มกับพฤติกรรมตรงหน้า

“พอเถอะนะ เสียงดังไปกว่านี้เดี๋ยวโดนต่อว่า เรายังอยากจบจากที่นี่อย่างประทับใจอยู่นะ” คิ้วของผมแม้จะขมวดเป็นปม แต่ปากกับอมยิ้มอ่อน ๆ จนอีกฝ่ายสังเกตได้และยิ้มตาม

สุดท้ายเขาก็มาหอมศรีษะผมหนี่งฟอดก่อนที่จะย้ายร่างตัวเองไปกระแทกนั่งข้าง ๆ ผม แล้วทำตัวว่างต่อไป พลางบ่นงุบงิบว่า

“ก็ลองเดินมาว่าดูสิ หากพวกนั้นกล้านะ!!”

ผมได้แต่สั่นหน้ากับความเป็นเด็กยักษ์ของอีกฝ่าย

“สุดสัปดาห์นี้ไปเที่ยวกันไหม?” คอปเตอร์โพล่งถามขึ้นหลังจากคลิกๆ เม้าส์ไปมา

“ก็ต้องดูว่าผลประเมินพรุ่งนี้เป็นไง ต้องเอาร่างโปรเจ็คให้อาจารย์ดูวันนี้ด้วย หากผลออกมาไม่ดีก็ไม่มีอารมณ์ไปเที่ยวไหนหรอกนะ!!” ผมพูดจบก็ผ่อนลมหายใจออกยาว

“มันจะไม่ออกมาไม่ดีได้อย่างไรล่ะ เรากับวินตรวจแก้กันตั้งหลายรอบ ยังไงก็ผ่าน!!”

“จ้า ขอบใจสำหรับกำลังใจนะ” ผมยิ้มตอบกลับไปให้อีกฝ่าย ที่ทำหน้าแดงตอบกลับมา

“มีที่ๆ อยากไปไหม?” คอปเตอร์เค้นกระแอมในลำคอก่อนจะพูดถาม

“อยากไปทะเล แต่ก็กลัวแม่เป็นห่วง คือเราว่ายน้ำไม่ค่อยเก่งน่ะ ตอนเป็นเด็กเคยเจอประสบการณ์ที่มันไม่ดีเท่าไหร่?” พูดจบคอปเตอร์ก็คว้ามือผมไปกุมไว้เสียแน่น

“ขอโทษนะ” เสียงอันอ่อนโยนของคอปเตอร์เอ่ยขึ้นพลางนวดคลึงมือของผมอย่างปลอบประโลม

ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าสาเหตุของประสบการณ์ที่ไม่ดีของผมส่วนหนึ่งก็เกิดจากคนตรงนี้

แปลกนะที่ผมกลับรู้สึกว่าคนที่อยู่ข้างๆ ผม ตรงนี้กับเด็กคนนั้นในอดีตดูเป็นคนละคนกัน

“ไม่เป็นไร” ผมพูดด้วยเสียงอันสั่นเทา เพราะไปดึงภาพในตอนนั้นแทรกเข้ามาให้สมองอย่างไม่ทันตั้งตัว

ภาพในชั่วโมงว่ายนำ้ของโรงเรียน ผมถูกผลักลงไปในน้ำทั้งที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มนักเรียนที่ว่ายน้ำไม่เป็น กลุ่มนักเรียนเกเรที่ชอบทำให้กลุ่มที่กำลังด้อยกว่ากลายเป็นตัวตลก

มันเกิดขึ้นช่วงที่อาจารย์สอนว่ายน้ำกำลังไปเตรียมอุปกรณ์เพิ่มเติมเพราะนักเรียนที่ว่ายน้ำไม่เป็นมากกว่าที่คิด และมีพวกที่เตรียมชุดว่ายน้ำมาไม่ถูกระเบียบ จึงต้องไปเบิกมาเพิ่ม

กลุ่มเด็กนักเรียนที่ว่ายน้ำไม่เป็นเกาะกลุ่มกันบริเวณใกล้ขอบสระด้วยความตื่นเต้นจากการได้ลงเรียนชั่วโมงแรก กลุ่มเด็กเกเรแทรกตัวเข้ามาหาผมและพวกพ้องในกลุ่มเดียวกันอีกสองสามคน ผมถูกลากคอไปติดขอบสระอย่างไม่ทันตั้งตัวและถูกผลักลงไปในสระอย่างจงใจแบบไม่ให้ตั้งตัว

ผมหวีดร้องเสียงหลง ภาพผู้คนที่รายล้อมอยู่บริเวณขอบสระไกลห่างและสูงขึ้น และถูกแทนที่ด้วยภาพเบลอทับซ้อนด้วยคลื่นฟองน้ำ เสียงแผ่นน้ำปะทะแผ่นหลังดังไปในโสตประสาท ร่างกายถูกพันธนาการด้วยแรงบีบอัดของน้ำแทนที่อากาศโดยรอบ แข้งขาหนักอึ้งและเหมือนถูกน้ำหนักของน้ำกดทับให้จมลงเรื่อย ๆ

ผมพยายามตะเกียดตะกายเพื่อที่จะถีบตัวเองขึ้นสู่ผิวน้ำ หลังจากพอที่จะตั้งสติได้ ลมหายใจหนึ่งเฮือกที่สูดเมื่อจมูกพ้นผิวน้ำแล้วผมก็ถูกใครคนหนึ่งผลักให้ออกห่างจากขอบสระมากขึ้น แต่โชคยังดีที่ขาของไอ้คนที่ผลักผมนั่นกางออกทำให้ผมพอที่จะยันให้ตัวเองผุดขึ้นมาหายใจได้เป็นพักๆ แต่นานเข้าผมก็เริ่มหมดแรง

ผมพยายามพาตัวเองเข้าฝั่งในช่วงที่ตอนนี้ทุกอย่างดูชุนมุนไปหมด แต่ด้วยความไม่รู้วิธี แทนที่จะดึงตัวเองขึ้นแต่กับดิ่งถ่วงลงอย่างช้าๆ ลึกมากขึ้นกว่าเดิม ภาพผิวน้ำที่พริ้วไหวเป็นระรอกคลื่นเริ่มเบลอมากขึ้น ไม่ช้าแรงของผมก็เริ่มหมดลง เสียงฮือฮาต่างๆ รอบสระเริ่มค่อยๆ ถอยห่างอออกไปและเริ่มที่จะเบาลง ผมมองเห็นผิวน้ำที่ห่างออกไปจากมือที่พยายามเหยียดจนสุดความยาว ผมจำไม่ได้ว่าสระนั้นลึกเท่าไหร่ แต่ความรู้สึกในการดิ่งลงช้าๆ และค่อยๆ หมดแรง มันช่างยาวนานมาก


ภาพความทรงจำในหัวไหลย้อนกลับอย่างรวดเร็วเป็นฉาก ภาพล่าสุดคือการที่ผมหลุดหัวเราะกับการใส่ชุดที่ไม่ถูกระเบียบของพวกนักเลง อาจารย์ก็สั่งให้ใส่กางเกงว่ายน้ำแค่พวกนั้นกลับใส่เหมือนกับกางเกงชายหาดมากกว่า สุดท้ายอาจารย์จึงต้องไปหยิบชุดที่รุ่นพี่บริจาคไว้ให้เป็นกางเกงสำรอง นั่นเป็นเหตุที่ผมต้องดิ่งลงมาจุดนี้ ไม่ช้าภาพของแม่ก็วูบเข้ามาในสมอง รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ตอบแทนพระคุณท่านเลย

ในขณะที่สติเริ่มเลือนลาง ผมถูกมือหยาบมือหนึ่งดึงขึ้นสู่ผิวน้ำ ผมรีบสำรอกน้ำออกมาเพื่อให้อากาศเข้าไปแทนที่ ผมถูกลากให้ลอยคอไปจนถึงขอบสระ หลังจากนั้นภาพก็ตัดไปเลย

รู้ตัวอีกทีตัวเองก็ตื่นมาให้ห้องพยาบาลกับอีกสองสามคนที่ถูกผลักลงไป ซึ่งมีเพื่อนสนิทอย่างไตเติ้ลรวมอยู่ด้วยผมยังจำแววตาที่เครียดแค้นของไอ้ไตเติ้ลได้อย่างดี มันดูน่ากลัวแม้กระทั้งผมที่สนิทกับมันที่สุดยังไม่กล้าไปทัก

ภาพตัดมาที่ปัจจุบันที่ผมถูกคอปเตอร์โอบกอดอย่างทะนุถนอมและปากพร่ำคำขอโทษผมซ้ำ ๆ

ถึงแม้จะเลือนลางแค่ผมก็จำได้ว่าคนที่ลงไปผลักผมในสระน้ำไม่ให้เข้าใกล้ฝั่งขอบสระก็คือไอ้คนที่กอดผมอยู่นี้แหละ แต่ตอนนี้ผมก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงลงไปในสระด้วยตนเอง เพราะเขาแอบใช้เท้าของตนเองช่วยพยุงผมไว้ไม่ให้จมนั่นเอง

ในระหว่างที่กอดผมไว้ คอปเตอร์บอกผมว่าเขาเป็นคนลงไปช่วยผมเองเพราะไอ้พวกนักเลงที่กลัวความผิดต่างหนีออกจากชั่วโมงเรียนไปหมดแล้วเพราะกลัวความผิด แต่ที่เขาลงมาช่วยช้าเพราะความฝืนที่จะใช้ขาเดียวพยุงร่างกายผมไว้นั่นทำให้เป็นตะคริว กว่าจะดีขึ้นเลยดำลงไปช่วยช้า เกือบจะช้าเกินไป ทำให้วันนั้นเขาจึงตั้งปณิธานว่าจะช่วยเหลือผมให้มากกว่านี้ มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็สายเกินไป  ผมถูกแม่สั่งให้ย้ายโรงเรียนเสียก่อน

“ไม่เป็นไร ตอนนี้ผมว่ายน้ำเป็นแล้ว พอที่จะดูแลตัวเองได้ เพียงแต่แม่ยังเป็นห่วงอยู่น่ะ” ผมอยากให้อีกฝ่ายสบายใจขึ้นมาบ้างเพราะผมวันนี้ก็เอาชนะความกลัวน้ำไปได้เยอะมากแล้ว เพราะก่อนเรียนจบมัธยมปลาย ผมเคยแอบแม่หนีไปเล่นสวนน้ำกับเพื่อนมาแล้ว เพื่อพิชิตความกลัวของตนเอง เพื่อเป็นคนใหม่ เหมือนที่ไอ้ไตเติ้ลมันบอกผมทุกวัน แม้จะอยู่กันคนละโรงเรียนก็ตาม

“เรายังรู้สึกผิดอยู่ดี งั้นเปลี่ยนเป็นภูเขาก็ได้!!”

“ไม่เอา!! ผมเบื่อแล้ว ตั้งแต่วันนั้น แม่ก็ไม่พาไปทะเล ห้วย หนอง คลองบึงเลย!!”

คอปเตอร์เงียบลงไปจากเดิม สีหน้าแสดงความสำนึกผิด ที่แม้แต่ผมยังรู้สึกได้ เขากำมือแน่นและพยายามเค้นยิ้มตอบกลับมา

“เฮ้อ ว่าแต่ เรายังงงๆ อยู่นะ เรายังจำสีหน้าของไอ้เติ้ล วันนั้นได้ มันน่ากลัวมากนะ ทำไมถึงไปลงเอยกับศรัณย์ได้” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง

“เรื่องนี้ เราว่านายไปถามเติ้ลเองดีกว่า”

เป็นอีกครั้งที่ผมยังไม่ได้รับการแจ้งแถลงไขใดๆ กับเรื่องของสองคนนี้ที่มาลงเอยกันได้ยังไง ทั้งๆ ที่ ไอ้เติ้ลมันเกลียดไอ้เข้มนั่นขนาดนั้น!!

แต่ช่างเถอะสักวันผมก็ต้องได้รู้จากปากมันเองให้ได้!

…………
หน้า: [1] 2 3 4 5 ... 10
สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด