เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 23
“ เอาละ จะเริ่มหาแล้วนะ " เสียงที่ตะโกนออกไปตอนที่ผมกำลังหันหลังแล้วปิดตาอยู่ที่ประตูห้องของตัวเอง " พร้อมรึยังงง "
“ ยังไม่พร้อมมมม " เสียงที่ตอบกลับดังออกมา ผมก็หลุดยิ้ม
มันเป็นกิจกรรมวันเสาร์อาทิตย์ของเรา ในขณะที่เด็กคนอื่นอาจจะต้องไปเรียนพิเศษดนตรี หรือว่าวิชาการ แต่สำหรับหัวหอมผมกลับให้มันแค่เล่นสนุกสนานอยู่บ้านแบบนี้น่าจะดีกว่า พักผ่อนจากการเรียนหนักๆทั้งอาทิตย์ แล้วใช้จิตนาการของตัวเองจากการเล่นเกมส์ต่างๆ หลุดออกจากหน้าทีวีที่มันเอาแต่นั่งดูทุกวัน เปลี่ยนมาเล่นด้วยกันในบ้านเพื่อให้มันรู้สึกว่า นอกจากการ์ตูนก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่สนุกกว่าการนั่งดูการ์ตูนคนเดียวเสียอีก อย่างที่เรากำลังเล่นอยู่ตอนนี้ก็ด้วย ' การเล่นซ่อนหา '
“ งั้นจะนับหนึ่งถึงสิบนะ "
“ พร้อมแล้วครับ! ” เสียงที่ตะโกนมาผมก็หันหลังกลับมามองไปรอบๆ มองผ่านไอ้ภาพที่กำลังนั่งทำรายงานอยู่ที่โต๊ะหน้าทีวี ผมเดินหาเจ้าตัวเล็กไปเรื่อย ก่อนจะหยุดอยู่ที่ผ้าม่านตรงกระจกสูงของห้อง ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะยิ้มกว้างด้วยความเอ็นดูอย่างไร้สาเหตุ
เราเล่นซ่อนหากัน หัวหอมเป็นคนแอบแล้วมันก็มาแอบที่หลังผ้าม่าน มันที่มันอุตส่าห์แทรกตัวเองสอดเข้าไปในผ้าม่านบางๆนั้นเพราะคิดว่าผมต้องไม่เห็นแน่นอน แต่กลับไม่รู้เลยว่า ขาตัวมันเองที่โผล่ออกมาเต็มๆอยู่ที่พื้นนั่นแหละ
" ไม่ได้เนียนเลย " ไอ้ภาพสถบออกมา ก่อนจะยกมือถือขึ้นถ่ายรูป ส่วนผมก็แสดงแอคติ้งออกไปอย่างผู้เชี่ยวชาญ
" หัวหอมอยู่ไหนน้า มองไม่เห็นเลย ตายแล้ว จะหาเจอมั้ยเนี้ย หัวหอม อยู่ไหนเอ่ยยย อยู่ไหนกันน้า " หลุดยิ้มเอ็นดูกับมือเล็กๆที่เอาแต่ปิดปากตัวเอง ก่อนที่มันจะเอียงหน้าโผล่ออกมาจากผ้าม่านแล้วกระโดดมากอดผมไว้
" อาขม! อยู่นี่! “ มันว่าก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความสุข " กาลิคอยู่นี่ครับ อาขม "
" อ้าว อยู่นี่เองเหรอ ไม่รู้เลยนะเนี้ย เมื่อกี้ไปซ่อนตรงไหน "
" ตรงนี้ครับ ตรงนี้ " มันบอกแบบกระตือรือร้น ชี้ไปที่ผ้าม่านที่ตัวเองซ่อนตัวเมื่อครู่ " อาขม อาขมมองกาลิคไม่เห็นเลยแหละใช่มั้ย "
" ใช่แล้วมองไม่เห็นเลย เก่งจังนะ " ลูบหัวก่อนจะดึงเข้ามากอดอีกคนก็เอียงหน้าถาม
" กาลิคจะเล่นอีก " มันว่า ผมก็พยักหน้ารับ
" งั้นเล่นกันอีกรอบนะ "
“ ครับ " เดินไปกลับไปที่ประตูห้องตัวเองไอ้ภาพก็เอ่ยถาม
“ นี่ถามจริงๆ ไม่เห็นจริงๆอะ "
“ เห็นสิวะ " ผมบอกเบาๆ อีกคนก็หลุดยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมา กลับไปยืนที่เดิมผมตะโกนบอก " เอาละนะ จะนับแล้วนะ เอ้า หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ จะหาแล้วนะ " ทุกอย่างเงียบผมก็หันกลับมา ก่อนจะนิ่งค้างไปกับที่ซ่อนใหม่ของหัวหอมที่ตอนนี้อัพเลเวลขึ้นมาแล้ว
ไอ้ตัวเล็กเอาหมอนมาบังหน้าตัวเองก่อนจะไปนั่งหลบมุมอยู่ที่ห้อง หมอนที่บังได้แค่หน้าแต่ตรงตัวก็เห็นโคตรจะชัดเหมือนเดิม
“ นี่มันคงคิดแค่ว่าตัวเองไม่เห็นคนอื่น แล้วคนอื่นจะไม่เห็นตัวเองถูกมั้ย " ผมบอกแบบนั้น ไอ้ภาพมันก็หัวเราะ
“ ไอ้กาลิคเอ้ย " หลุดหัวเราะกันออกมาสองคน ผมเดินเข้าไปหามันก่อนจะดึงหมอนขึ้นมา
“ จับได้แล้ว "
“ งื้อออออ ทำไมอาขมเห็นน ไม่เอา อาขมต้องไม่เห็น " ยังจะถามอีก พ่อคุณ
“ ทำไมเป็นแบบนั้นละ ต้องเห็นบ้างสิ ก็อาขมเห็นนี่น่า " บอกแบบนั้น หัวหอมก็หน้ามุ่ยลง " ทำไมทำหน้าแบบนั้น "
“ ก็กาลิคอยากจะชนะ อยากให้อาขมไม่เห็น "
“ ได้ไง คนเราเล่นเกมส์ ก็ต้องมีแพ้มีชนะ เราไม่ได้ชนะตลอดหรอกนะ " ลูบหัวบอกมัน ผมเดินเอาหมอนมาตั้งที่โซฟาก่อนจะนั่งลง หัวหอมก็เดินมาแทรกตัวตรงระหว่างขาของผม มันก้มลงซุกหน้าที่ตัก
“ แล้วทำยังไงกาลิคถึงจะชนะตลอด กาลิคอยากจะชนะตลอดเลย "
“ อยากจะชนะตลอดก็ต้องเก่ง แต่ว่านะ คนเราอะไม่ต้องชนะตลอดก็ได้ ชนะบ้าง แพ้บ้าง มันธรรมดานะ มันต้องมีบ้างแหละ ที่เพื่อนเก่งกว่า แล้วบางทีเราก็เก่งกว่าเพื่อน "
“ เหรอครับ " มันถามเสียงหงอยๆ ผมก็ยิ้ม
“ อื้ม แล้วจะเศร้าทำไม การเล่มเกมส์น่ะ มันคือการสอนเราคนเล่นให้ รู้แพ้ รู้ชนะ ตังหาก ยอมรับว่านี่แพ้แล้วนะ แล้วก็ยอมรับว่า ชนะแล้วนะ พอใจกับความชนะของตัวเองแล้วก็ไม่ถมทับความพ่ายแพ้ของเพื่อนด้วย "
“ จะไม่มีใครชนะตลอดไปเหรอครับ "
“ อื้ม ใช่แล้ว "
“ แล้วจะไม่มีใครแพ้ตลอดไปด้วยใช่มั้ยครับ "
“ ถูกต้อง " ผมบอกก่อนจะดึงมาขึ้นมานั่งบนตัก อารมณ์ร้อนๆข้างนอกของเที่ยงวันแค่มองออกไปก็รู้สึกร้อนแล้ว แม้ว่าข้างในนี้จะเย็นก็เยอะ ลูบหน้าของอีกฝ่ายที่มีแต่เหงื่อเต็มหน้าไปหมดเช็ดหน้ามันด้วยฝ่ามือเบาๆก่อนจะดึงให้ขึ้นมานอนบนตัก " ง่วงมั้ย นอนกันดีกว่า "
“ อาขม กาลิคจะได้ไปบ้านคุณปู่คุณย่ามั้ย "
“ ได้ไปสิ แต่รออาภาพทำการบ้านให้เสร็จก่อนนะ " ผมบอกมันอีกคนก็พยักหน้ารับก่อนจะหันไปบอกร่างสูงที่นั่งอยู่บนพื้น มือเล็กคว้าที่เสื้อของภาพมันเขย่า
“ อาภาพ รีบทำการบ้านให้เสร็จนะ กาลิคทำเสร็จแล้วละ "
“ ครับผม จะรีบทำให้เสร็จนะ หรือว่ากาลิคมาช่วยอาภาพดี " ร่างสุูหันมาถามอีกคนก็ตาโตขึ้น มันพยักหน้ารับ
“ กาลิคช่วยได้นะ กาลิคเก่ง กาลิคทำการบ้านของคุณครูถูกทุกข้อเลย "
“ เหรอ "
“ แล้วอาภาพจะให้กาลิคทำอะไร ลากเส้นมั้ย หรือว่า ระบายสี จับคู่ก็ทำได้นะ " ผมหลุดยิ้มออกมาตอนที่อีกคนบอก ท่าทางนำเสนอของมัน ดูจริงจังและมุ่งมั่นมากๆ ชวนให้ไอ้ภาพที่ยิ้มกว้างหุบยิ้มทันที
" นี่ถามจริง คิดว่าหัวหอมจะช่วยมึงได้จริงๆเหรอ " ผมถามอีกคนก็ถอนหายใจ
" กาลิคทำได้นะอาขม กาลิคทำได้ " มันตบอกตัวเองด้วยความมั่นใจ แต่ไอ้ภาพก็แค่ยื่นมือมาลูบหัวมัน
" เอ่อ.. ไม่เป็นไร ถ้าทำได้แค่ลากเส้น ระบายสี งั้นก็ขอบใจนะ อาภาพทำเองดีกว่า "
“ แต่กาลิคทำได้นะ " คนที่อยากจะช่วยเสียงอ่อนลง น่าสงสารที่สุด มันคงอยากจะช่วยจริงๆ ใบหน้าน่ารักหันมามองหน้าผมที่ทำให้ผิดหวังอยู่หน่อยๆ " อาขม..”
“ หัวหอมยังเด็ก ทำไม่ได้หรอก อันนั้นมันการบ้านของผู้ใหญ่เค้า ดูสิ เห็นมั้ย มีแต่ภาษาอังกฤษยากๆทั้งนั้นเลย " ผมหยิบกระดาษรายงานของอีกคนขึ้นมาให้มันดู
“ แต่กาลิคอยากจะช่วยอาภาพ อยากจะให้อาภาพทำการบ้านเสร็จไวๆ" มันบอกเสียงอ่อนผมก็แล้วกระซิบมัน
“ ไปหอมแก้มอาภาพสิ แล้วก็กอด บอกอาภาพว่า กาลิคจะให้กำลังใจนะ แค่นั้น อาภาพก็ทำได้เร็วแล้วละ "
“ แบบนั้นก็ช่วยเหรอฮะ " มันเงยหน้าขึ้นมาถาม ผมก็พยักหน้ารับ
“ ฮ่ะ! เค้าเรียกว่าช่วยให้กำลังใจไง "
“ งั้นกาลิคจะทำฮ่ะ " ไอ้ตัวเล็กว่าแบบนั้นก่อนจะดึงตัวเองลงจากตักผม แล้วกอดไอ้ภาพไว้จากด้านหลัง มันหอมแก้มอีกคนไปเต็มฟอด มือน้อยๆนั่นก็ลูบหลัง " โอ๋ๆ กาลิคให้กำลังใจนะ อาภาพจะได้ทำงานเสร็จไวๆ "
“ โอ๊ยยย ชื่นใจจัง ไหนมากอดหน่อย " ภาพดึงมันเข้าไปกอดหอมแก้มซ้ายขวาจนหนำใจ
เสียงหัวเราะมความสุขของมันชวนให้ผมยิ้มตาม ตั้งแต่มีกาลิคเข้ามาผมมองว่าทุกอย่างมันก็ดูความสุขไปหมด ทั้งๆที่สิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่อยากทำเลยสักนิด ไม่ใช่การดูหนังเรื่องโปรด ไม่ใช่การได้ไปซื้อของ หรือกินของอร่อยๆ มันแค่การอยู่บ้านนิ่งๆ ทำการบ้านให้เสร็จ สอนกาลิควาดรูป เราเล่นของเล่นกัน ซ่อนแอบ บางทีก็ทำขนมที่ไม่อร่อยแต่เรากลับมีความสุข
เมื่อก่อนความสุขของผมมักขึ้นอยู่กับการกระทำ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความสุขของผม จะขึ้นอยู่กับตัวบุคคลซะแล้ว จนบางทีก็รู้สึกว่าที่เราเป็นกันอยู่นี้ก็เหมือนครอบครัวอย่างน่าประหลาด และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเรื่องที่ว่า หัวหอมเป็นลูกใครก็ไม่ได้อยู่ในหัวของเราแล้ว
“ งื้อออ อาภาพหอมกาลิค งื้ออ " เด็กน้อยว่าเสียงงอแงที่โดนหอมแรงๆ ผมเอื้อมมือไปดึงหัวหอมขึ้นจากตักไอ้ภาพแต่อีกคนก็ยังจับไว้แน่น
“ ร้อนวะ ลงไปหาอะไรเย็นๆกินกันที่ห้างดีกว่า หรือว่าเซเว่นดีมั้ย "
“ อาขม กาลิคไปด้วย " มันว่าพลางดิ้นให้หลุดจากอีกคนแต่ไอ้ภาพก็ยังกอดมันไว้แน่นไม่ยอมปล่อย " งื้ออ กาลิคจะไปด้วย จะไปกับอาขม อาขมม งื้ออ "
“ ก็ไปสิ งอแงทำไมละนั่น " ปล่อยมือจากเจ้าตัวเล็กที่อีกคนไม่ยอมปล่อยสักที ผมเดินเข้าห้องไปหยิบกระเป๋าตังค์กับหมวกทั้งของผมแล้วก็ของกาลิคแต่ดูเหมือนว่าคนที่กอดมันไว้ก็ไม่มีทีท่าจะปล่อยไปไหน จนในที่สุดกาลิคมันก็เริ่มร้องไห้ออกมา
“ อาภาพ ปล่อย อึก ฮือๆ กาลิคจะไปกับอาขม อาขม อาขมช่วยกาลิคด้วย "
“ ไม่ให้ไปอยู่นี่แหละ อยู่เป็นเพื่อนอาภาพ " อีกคนบอกก่อนจะรัดมันไว้แน่น
“ ไม่อาววววว จะไป จะไปกับอาขม อาขมม อึก ฮือๆ "
“ โอยยยย นี่มึงจะแกล้งมันให้ร้องไห้ทำไมวะ โรคจิตจริง " ผมบอกตอนที่ดึงมือเล็กๆขึ้นมาจากตักไอ้ภาพแต่มือหนาก็ยังรั้งไว้
“ จุ๊บก่อน เดี๋ยวให้ไป " กาลิคหันไปจุ๊บอีกคนตามคำสั่งก่อนจะถูกปล่อยตัวมา ผมก้มลงเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่ายที่ก็งอแงเหลือเกิน
“ นี่ก็ขี้แงจริงๆ อาภาพแกล้งนิดเดียวก็ไม่ได้ " ว่าแบบนั้นมันที่กอดขาผมไว้แน่นแล้วทำหน้ามุ่ยลง
“ ก็กาลิคกลัว อึก ไม่ไป อึก ไปกับอาขม "
" ได้ไปสิ ทำไมจะไม่ได้ไปละ อาแกล้งเอง ไม่เป็นไรนะ " ใส่หมวกให้เรียบร้อยผมคว้ามือมันจูงไว้ก่อนจะถามเอ่ยถามอีกคนที่นั่งทำรายงานอยู่ “ มึงเอาไรมั้ย "
“ เอาไอติมแล้วขนม อะไรก็ได้มาละกัน อะไรน่ากินก็ซื้อๆมา " มันว่าผมก็พยักหน้ารับ
“ งั้นเราก็ไปกัน "
“ อาภาพ กาลิคไปก่อนนะ แล้วจะซื้อขนมมาฝากนะ " มือเล็กโบกบ๊ายบาย เราเดินออกไปจากห้อง ลงมาที่ชั้นล่างตอนที่กำลังเดินผ่านหน้าเค้าเตอร์พนักงานพี่เค้าก็เรียกผมไว้
“ น้องขมค่ะ น้องขม "
“ ครับผม " หันไปมองเธอที่กวักมือเรียกผมมาใกล้ๆ
“ พี่ของฝากของไปให้น้องภาพหน่อยได้มั้ยคะ " เธอถามผมก็พยักหน้ารับ
“ ได้ครับ แต่เดี๋ยวผมกลับเข้ามาเอาได้มั้ย พอดีจะออกไปซื้อของที่ห้างก่อน เดี๋ยวมานะครับ " ไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรอก แต่ขี้เกียจเดินหิ้วไปมา ยังไงก็ต้องกลับมาอยู่แล้วค่อยเอาตอนนั้นก็แล้วกัน
เดินเข้ามาในห้าง ลมเย็นๆที่พัดเข้ามาโต้ที่ใบหน้าผมสูดลมหายใจเข้าปอดไปก่อนจะกระชับมือของเด็กน้อยไว้ " กินไอติมกันดีกว่า " ผมบอกก่อนจะเดินไปข้างในฝั่งของซูปเปอร์ เปิดตู้แช่ที่ขายไอติม หยิบไอติมแบบเป็นถ้วยใหญ่รสไมโลขึ้นมาสามถ้วย พร้อมกับรสช็อคโกเล็ตแบบอื่นๆ เพราะที่บ้านมีแต่คนชอบกินไอติมรสนี้กันทั้งนั้น
“ อาขม อาขมต้องซื้อขนมให้อาภาพด้วย "
“ อ่า ใช่แล้ว " พยักหน้ารับมัน หัวหอมก็วิ่งไปเอาตะกร้าหิ้วมาให้ " อาขมใส่นี้ "
“ ขอบคุณครับ " ขยี้หัวมันเบาๆ เราเดินมาที่ชั้นขายขนมหยิบเลย์รสสีเหลือง สีเขียว แบบที่มันชอบใส่ตะกร้า หัวหอมก็หันมาถามผม
“ อาขม เราจะไปที่ร้านขนมที่เราซื้อบ่อยๆมั้ยครับ " มันคงหมายถึงร้านขายขนมจากญี่ปุ่นที่เราพามันไปแวะทุกครั้งเพื่อซื้อขนมจากร้านนั้น ผมทำท่าคิด
“ ไปดีไม่ไปดีน้าา ไม่รู้มีใครอยากจะกินอะไรรึเปล่า "
“ มี~ มีกาลิคไง กาลิคอยากจะกินขนมที่ร้านนั้น กาลิคอยากจะกินฮะ " มือเล็กๆเอื้อมมากอดตัวผมไว้ก่อนจะซบหน้าอ้อน ขยี้หัวด้วยความหมั่นเขี้ยวกับความช่างอ้อนเสียเหลือเกินของมัน "
“ งั้นเราซื้อแค่นี้ ที่เหลือไปซื้อร้านนู้นแล้วกัน " เดินเอาของไปจ่ายเงินเรียบร้อย เราเดินจากฝั่งชูปเปอร์ออกมาที่หน้าร้าน หัวหอมก็เขย่ามือที่ผมจูงมันอยู่
“ อาขมฮะ "
“ ครับ ว่าไง "
“ วันนี้กาลิคซื้อได้กี่กล่องฮะ "
“ สองแล้วกัน สำหรับวันนี้กล่องนึง พรุ่งนี้กล่องนึง โอเคมั้ย " มันพยักหน้ารับตามที่ผมบอก ก่อนจะเงยหน้ามาพูดต่อ
“ แต่ว่า แต่ว่านะฮะ กาลิคต้องไปบ้านคุณปู่คุณย่าถ้าเอาไปแค่กล่องเดียวมันจะไม่พอนะ เพราะว่ามี มีคุณปู่ คุณย่า น้าแก้วแล้วก็น้าขวัญด้วย กาลิคเวลากินขนมก็ต้องแบ่งคนอื่นๆ อาขมสอนว่าอย่าขี้เหนียวให้แบ่งกัน แล้วคุณปู่ คุณย่า น้าแก้ว น้าขวัญ เค้าก็ตัวใหญ่ๆ เค้าก็ต้องกินเยอะ กาลิคจะได้กินนิดเดียวนะ อาขม " คือที่พูดมาสรุปว่าจะให้ซื้อมากกว่าสองกล่องใช่มั้ยไอ้ตัวแสบ ผมส่ายหน้าไปมากับความช่างพูดช่างจาของมัน
“ เค้าไม่กินขนมของหัวหอมหรอก " ผมบอก มันก็ทำตาโตก่อนจะส่ายหน้า
“ อาภาพยังกินเลย อาภาพชอบมากินขนมของกาลิคบ่อยๆ " มันเถียงผมก็ถอนหายใจออกมา
“ งั้นให้ซื้อ สามกล่องแล้วกัน " ผมบอกอีกคนก็พยักหน้ารับ " ไม่ต่อรองแล้วนะ "
“ ครับผม " มันพยักหน้ารับแบบยิ้มกว้างก่อนจะวิ่งไปที่ร้านทันที กาลิคหยิบขนมที่ส่วนใหญ่มันก็กินเหมือนเดิม พวกมันฝรั่งแท่งรสแปลกๆ แล้วก็ขนมเป็นชิ้นๆ " อาขม เอาสามชิ้นนี้ " มันยื่นมาให้ดูผมก็พยักหน้ารับ เดินไปหยิบเยลลี่ที่ชอบอีกสามซอง เจ้าของร้านก็คิดเงินให้
“ นี่ครับสุดหล่อ " ถุงหิ้วที่มันเอื้อมไปรับไว้ก่อนจะบอก
“ ขอบคุณครับ " มองหัวหอมที่เดินออกมาจากร้าน มันเดินมาคว้ามือผมก่อนที่เราจะเดินออกไปพร้อมกัน กลับมาที่คอนโดผมไม่ลืมแวะที่เค้าเตอร์ด้านหน้าที่ก่อนหน้านี้พี่เค้าบอกเอาไว้
“ นี่ค่ะ น้องขม " เธอยื่นให้ผมก่อนจะเปิดแฟ้มให้เซ็น " ช่วยเซ็นชื่อรับของตรงนี้ด้วยนะคะ "
“ ครับผม " จัดการเซ็นชื่อเรียบร้อย ซองสีน้ำตาลขนาดเอสี่ก็ถูกส่งมาให้ ข้างหน้าไม่เขียนอะไรทั้งนั้นเหมือนจะไม่ใช่จดหมายสำคัญอะไร เว้นแต่ชื่อห้องว่าเป็นของเรา " ขอบคุณมากนะครับ "
“ ค่ะ " เธอตอบรับผมก็พลิกซองกระดาษด้วยความงงก่อนจะเดินเข้ามาในลิฟต์
“ เอกสารอะไรของมันวะ "
เดินกลับเข้ามาในคอนโดตัวเอง ผมวางถุงของทั้งหมดไว้บนโต๊ะในครัว จัดการเอาไอติมไปแช่ไว้ในห้องแช่แข็งก่อนยื่นถุงขนมให้ไอ้ภาพที่ก็รับไว้พร้อมกับซองเอกสาร
“ นี่อะไร "
“ ไม่รู้สิ พี่ที่เค้าเตอร์ข้างล่าง ฝากกูมาให้มึง " ไอ้ภาพนิ่งคิด ก่อนจะเบิกตานิดหน่อยตอนที่ดึงมาวางไว้ข้างตัว ท่าทางที่ชวนให้ผมสงสัย " อะไรวะ "
“ ไม่มีอะไรหรอก " จ้องหน้ามันที่พูดคำนั้น ไอ้ภาพเองก็สบตาผม ท่าทางที่ดูลำบากใจของมัน
“ ไม่อยากจะบอกก็ไม่ต้องบอก "
“ งอนกูอีกละ " มันว่าก่อนจะเอ่ยยิ้มๆ
“ ไม่ได้งอน งอนเหี้ยอะไร ไร้สาระ " เดินเข้าไปที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง หัวหอมที่กำลังเลือกขนมของตัวเองอยู่ มันหยิบขึ้นมากล่องนึง
“ กาลิคจะกินกล่องนี้ก่อน "
“ โอเค เอาไปเลย ส่วนอีกสองกล่องนี้ไปกินที่บ้านคุณปู่คุณย่านะ "
“ ครับผม " มันวิ่งไปนั่งกินข้างๆภาพที่กำลังทำรายงานของตัวเองอยู่ แกะขนมกินพร้อมกันหัวหอมที่หันไปหาภาพ
“ ดูการ์ตูนกันมั้ยกาลิค "
“ ดู~ ดูครับ! " มันพยักหน้ารับทีวีก็ถูกเปิด ผมหยิบไอติมจากตู้เย็นพร้อมกับช้อนไปนั่งลงอีกฝั่ง การ์ตูนที่เริ่มฉายหัวหอมก็พูดขึ้น “ อาภาพ กาลิคขอกินขนมด้วยได้มั้ย อาขมสอนว่าเราต้องแบ่งบันกันนะ "
“ ไม่มีปัญหา " ไอ้ภาพยื่นถุงขนมไปให้ มันก็หยิบขนมสองสามชิ้นใส่ปากของตัวเอง " งั้นเอาขนมของกาลิคมาแบ่งบันอาภาพหน่อย " แต่พอเป็นของตัวเองทุกอย่างกลับนิ่ง หัวหอมที่ทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของไอ้ภาพชวนให้ผมอมยิ้ม
“ หัวหอม อาภาพบอกว่าแบ่งบันขนมให้อาภาพหน่อย "
“ เราต้องแบ่งบันกันนะ " ภาพบอกอีกคนก็ก้มลงมองดูขนมของตัวเอง
“ แต่ แต่ว่า ขนมของกาลิคน้อย แบ่งไม่ได้หรอกนะ ของอาภาพเยอะแบ่งได้ " มันว่าแบบนั้นผมก็ส่ายหน้าไปมากับความหัวหมอของมัน
“ แบบนี้ก็มีด้วยเว้ย นี่ใครสอน "
“ กูไม่ได้สอนนะ " ผมพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองเด็กตัวเล็กที่ยังคงหวงขนมอยู่ข้างๆ " หัวหอม หัวหอมต้องแบ่งบันนะ อาภาพให้กินขนมของอาภาพแล้ว หัวหอมก็ต้องให้กินขนมของตัวเองได้สิ "
“ แต่ว่า แต่ขนมของกาลิคมันน้อย~ " อีกคนเถียงผมก็ก้มลงมองดู ก็ยอมรับว่าน้อยจริงๆนั่นแหละ " กาลิคกลัวอาภาพกินของกาลิคหมด "
“ ถ้ากลัวว่าคนอื่นจะกินของตัวเองหมด ก็ไม่ควรจะไปขอกินขนมของเพื่อนแล้วบอกว่า ต้องแบ่งบันกันนะ เพราะตัวเองยังไม่แบ่งเลย " ผมบอกก่อนจะยกถ้วยไอติมออกห่างจากมัน " นี่ก็ไอติมของอาขม อาขมไม่แบ่งบันให้หรอกนะ " มันหน้ามุ่ยลงตอนที่ผมบอกแบบนั้น " หัวหอมรู้มั้ยว่าทำไมคนเราต้องแบ่งบันกัน ก็เพราะว่าเราจะได้กินขนมเยอะขึ้นไง ดูนี่นะ ภาพเอามาแลกกัน "
“ อะ " ภาพยื่นถุงขนมให้ผม ผมเองก็ยื่นไอติมให้มัน
“ เห็นมั้ย ได้กินทั้งขนม แล้วก็ได้กินทั้งไอติม ส่วนคนที่ไม่แบ่งปันคนอื่น ก็เหมือนอย่างหัวหอมนั่นแหละ ก็ได้แค่กินขนมของตัวเองแค่อย่างเดียว นี่ถ้าแบ่งบันนะ จะได้กินขนมตั้งสามอย่าง ได้กินไอติมของอาขม ได้กินขนมของอาภาพ แล้วก็ของตัวเองด้วย นี่แหละข้อดีของการแบ่งบันให้กันแหละ "
“ แล้วคราวนี้จะเปลี่ยนใจ มาแบ่งบันขนมกันกินเปล่า " ไอ้ภาพยิ้มถามมันอีกคนก็ก้มหน้ารับ
“ กาลิคจะแบ่งบันขนมให้อาภาพ กับอาขมฮะ " มันว่าก่อนจะดึงตัวเองมานั่งใกล้ผม ถุงขนมของมันยื่นให้ผม " แบ่งบันกันนะ "
“ ดีมาก " ลูบหัวมันเบาๆ ตอนที่หยิบขนมของมันขึ้นมากินชิ้นนึง ผมก็ยื่นถุงขนมที่ตัวเองถือให้มัน " แล้วไม่ใช่แค่กับอาภาพแล้วก็อาขมนะ กับคนอื่นเราก็ต้องรู้จักแบ่งบันนะรู้มั้ย "
“ แต่การแบ่งบันก็ไม่ใช่ว่า เราอยากจะกินของคนอื่นแล้วถึงจะแบ่งบันให้เค้านะ " ไอ้ภาพบอก " การแบ่งบันน่ะคือ ถ้าเรามีขนมอยู่ชิ้นนึง แล้วเพื่อนเราไม่มี แล้วเพื่อนก็อยากจะกิน เราก็แบ่งขนมชิ้นนึงของเราให้เพื่อนได้ "
“ ถ้าเพื่อนอยากจะกินขนมของกาลิคแต่ว่า เพื่อนไม่มีขนม กาลิคก็จะแบ่งให้เพื่อนครับ แล้วก็ถ้าเกิดว่าเพื่อนลำบากกาลิคก็จะแบ่งให้ด้วย " หัวหอมบอก
“ แล้วการแบ่งบันนั้น คือการให้ โดยที่เราไม่เดือดร้อนนะ " ภาพอธิบาย
“ เดือดร้อนคืออะไรเหรออาภาพ " มันเอ่ยถาม ผมก็อธิบายต่อ
“ ก็คือ สมมุติกาลิคมีขนมอยู่ชิ้นนึง รินเน่อยากจะกิน เจ้านายก็อยากจะกิน ถ้าแบ่งให้ทั้งสองคน กาลิคที่เป็นเจ้าของเองก็จะไม่ได้กินถูกมั้ยละ ถ้าแบ่งให้แบบนั้นเราจะเดือดร้อนเพราะไม่ได้กินมันแบบนั้นเราก็ค่อยแบ่งบันคราวหน้าก็แล้วกันนะ " คนฟังพยักหน้ารับหงึกหงักผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเข้าใจในสิ่งที่ผมอธิบายไปมั้ย แต่เอาเป็นว่าให้มันเข้าใจพื้นฐานของการแบ่งบันนั่นก็ดีแล้ว ผมไม่อยากจะให้มันเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ก็ไม่อยากจะให้มันเป็นคนที่ถูกเอาเปรียบด้วย แบบนั้นก็ต้องสอนไปเรื่อยๆแล้วละนะ " เดี๋ยวกินขนมเสร็จแล้ว ไปล้างมือให้เรียบร้อยเตรียมตัวไปบ้านคุณปู่คุณย่าได้แล้วนะ "
“ ครับ " หัวหอมพยักหน้ารับ เรานั่งกินขนมกันจนอิ่มเด็กน้อยก็วิ่งไปล้างมือตามคำสั่ง ภาพหันไปทำรายงานที่ใกล้เสร็จแล้ว ส่วนผมก็จัดการเก็บขนมที่เหลือแล้วตอนนั้นไอ้ภาพก็พูดขึ้น
“ เอกสารที่เค้าเตอร์ฝากมาน่ะ เป็นภาพวงจรปิดที่กูให้เค้าตรวจดูว่าใครเป็นคนมาส่งกาลิค แต่กูก็ขอไปตั้งนานแล้วนะ นานจนลืมไปแล้วว่าเคยไปขอไว้ " มือที่กำลังเก็บของชะงักไป ผมที่หันไปมองมันภาพทำได้แค่พลิกซองไปแต่ก็มาไม่ได้เปิดดู
“ เหรอ "
“ อื้ม " มันก็พยักหน้ารับ
“ มึงรู้มั้ยเหมือนตอนนี้กูจะลืมไปแล้วละ ว่าหัวหอมมันไม่ใช่ลูกกู " ผมยิ้มให้ภาพที่ก็มองหน้าผม หลุดหัวเราะออกมาทั้งๆในใจกลับเศร้ามากอย่างบอกไม่ถูก " กูมีความสุขที่มันอยู่ด้วยจนกูชิน จนกลายเป็นว่ากูคิดว่าหัวหอมมันเป็นลูกกูกับมึงไปแล้ว แต่กูก็คงลืมไปว่าเราเป็นผู้ชายทั้งคู่จะมีลูกด้วยกันได้ไงวะ แต่ก็ชินที่มีมันอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวแบบนี้จริงๆวะ "
“ อื้ม.. กูก็ชินแล้วเหมือนกันที่มันอยู่ " ภาพพูดเบาๆเราที่มองหน้ากันตอนนั้น ภาพเก็บเอกสารสอดไว้ใต้หนังสือของตัวเองตามเดิม ราวกับว่ามันเองตอนนี้ก็ไม่คิดอยากจะหาคำตอบอะไรทั้งนั้นเกี่ยวกับหัวหอมแล้ว
จากที่เคยกลัวว่ามันเป็นลูกใคร ตอนนี้ไม่กลัวอะไรแบบนั้นแบบ จากที่เคยมองว่า อีกสามเดือนถ้าแม่หัวหอมมารับมันกลับไปนั้นก็จบ จากที่เคยมองว่านั่นเป็นความหวัง แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นความกลัว กลัวว่าเธอจะมารับมันกลับไป กลัวว่าเด็กคนนี้จะหายไปจากพวกผม และผมก็ได้แต่ภาวนาว่า อย่าเป็นแบบนั้นเลย
...........................................................
สมเป็นตอนของวันอาทิตย์ สดใส มีความลุ้นนิดนึงให้ต่อไปถึงวันศุกร์หน้า
มีคนถามว่า ไม่มีเรื่องความคืบหน้าแม่หัวหอมเลยเหรอ มีแล้วนี่ไง วิ้ววววว
นิยาย เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู เป็นนิยายที่แบ่งออกเป็นสามพาสใหญ่ๆนะคะ
พาสแรกคือ พาสที่ตามหาว่าใครเป็นพ่อของเด็ก พาสที่ภาพกับขมปรับตัวเข้าหากันเพื่อเลี้ยงเด็ก พอจบพาสนี้นิยายก็จะจบเลย เพราะหนมรู้สึกว่า มันก็จบตามชื่อเรื่องแล้ว " เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู แล้วมึงเป็นลูกใครวะ " พอรู้ตัวพ่อแล้วก็จบไป
ส่วนพาสสอง จะเป็นเรื่องราวความรักของภาพขม และ พาสสามก็จะเป็นเรื่องของครอบครัวพ่อแม่ลูกสุขสันต์ คิดโครงสร้างมันไว้ประมานนี้ อยากจะให้เป็นนิยายที่อ่านแล้ว ยิ้มไป ไม่มีเบื่อ หัวหอมน่ารัก ฝ่ายพ่อฝ่ายแม่ก็น่าเอ็นดูงี้
ยังไง ฝากติดตามกันด้วยนะค่าาา ทุกคนนนน
โอเคค สุดท้ายนี้หนมของฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
แล้วก็ฝากแชร์ ฝากไลค์ในเพจหนมมี่ผู้ใสซื่อด้วย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า