ตอนที่ 1 นายแบบจำเป็น ตากล้องจำใจ?
เฟรน ดอม คีณ กลุ่มเพื่อนสนิทที่ร่วมหัวชนท้ายมาทำโปรเจคจบด้วยกัน งานนิทรรศการแสดงภาพถ่ายของพวกกำลังจะจัดแสดงพร้อม ๆ กันกับผลงานอื่น ๆ ของเพื่อนร่วมคณะ ในเวลาที่เหลืออีกไม่ถึงสองสัปดาห์ หลังจากที่ตรากตำกันมาร่วมสองเดือนงานของพวกเขาก็เรียบร้อยไปกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็น ใครว่างานถ่ายภาพง่ายก็ขอให้เปลี่ยนความคิดซะใหม่ ก็ไอ้ภาพนิ่งธรรมดาเนี่ยแหละที่ถ่ายออกมาให้สื่ออารมณ์ได้ยากจนคนถ่ายปวดหัว โดยเฉพาะงานพอร์ตเทรตที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้
จะถ่ายยังไงใครคนในภาพมีความรู้สึก...
"ไอ้ดอมเวลาถ่ายมึงระวังเรื่อง ISO ด้วยนะเว้ย เซ็ตไอ้ขจรศักดิ์เมื่อวันก่อน กูงมแทบตายแม่งนอยซ์ไปหมด”
คีณบ่นอุบระหว่างที่กำลังวุ่นวายจัดการเหล่าอุปกรณ์ที่อยู่ตรงหน้า ขจรศักดิ์ที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนมันคือหมาไทยแท้เจ้าที่ประจำคณะนิเทศนี่เอง งานถ่ายวันนี้ยึดเอาสตูดิโอเล็ก ๆ ของคณะเป็นโลเคชั่น จริง ๆ โปรเจคภาพถ่ายครั้งนี้ก็ไม่ได้สนใจสถานที่ซักเท่าไหร่ เพราะเน้นเอาอารมณ์ของคนและสัตว์ในภาพเป็นหลักซะมากกว่า พวกเขาแบ่งหน้าที่กันชัดเจน คีณจะรับหน้าที่เลือกและจัดการอีดิทภาพ ดอมก็เป็นตากล้องมือฉมังที่เคยได้รางวัลระดับประเทศ ส่วนเฟรนก็จะจัดการในส่วนของพรีเซนเทชั่นและวางคอนเซปงานทั้งหมด
"ทำเป็นบ่น กูก็เห็นมึงทำได้ทุกที” ดอมทำเหมือนไม่สนใจ วุ่นวายกับการหมุนเลนกล้องตัวโปรด
"ก็ไอ้เชี่ยเฟรนแม่งจับผิดกูทุกจุด เมื่อคืนกว่าจะได้นอน" นึกแล้วมันก็แค้นใจ ที่คนตรวจงานอย่างเฟรนจับผิดแม้กระทั่งจุดแสงเล็ก ๆ ที่คนทั่วไปก็มองแทบจะไม่เห็น
ป๊าป!!
"อ้าวว คุณคีณครับ คุณไม่ได้นอน ผมก็ไม่ได้นอนเหมือนคุณนะครับ" เฟรนฟาดม้วนกระดาษลงไปที่กลางหัวของผู้เป็นเพื่อนเบา ๆ ตราบใดที่งานไม่เสร็จและจัดเตรียมพรีเซนต์ให้เรียบร้อยเขาเองก็คงจะนอนไม่ลงเหมือนกัน
สามหนุ่มวุ่นวายกับการเตรียมอุปกรณ์จนทุกอย่างพร้อมสรรพ ด้วยสถานที่ที่เป็นระบบปิดควบคุมได้ทั้งหมดทำให้วันนี้ดูเหมือนอะไรก็ง่ายไปหมด ไม่งั้นก็เสี่ยงทั้งสภาพอากาศ แสง ลม หรือแม้กระทั่งคนที่ตามกรี๊ดสามหล่อตัวท็อปของนิเทศ โดยเฉพาะคีณ ที่ไม่ว่าจะหยิบจับทำอะไรก็สามารถเป็นประเด็นไปได้ซะทุกอย่าง
"แบบมึงเมื่อไหร่จะมาว่ะ" ดอมเอ่ยปากถามเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วแต่ดันขาดนายแบบที่เฟรนเป็นคนรับผิดชอบหามาให้เหมาะกับงานถ่ายชิ้นสุดท้ายนี้
"เดี๋ยวน้องเขาก็มามั้ง เห็นว่าเลิกเรียนห้าโมง"
"น้อง... ไหนมึงบอกเอาไอ้เท็นรุ่นเรา" คีณเอ่ยปากถามอย่างไม่แปลกใจนัก ก็ไอ้เฟรนเพื่อนเขาคนนี้ทำอะไรเคยปรึกษาใครซะที่ไหนล่ะ
"เห้ยไม่ได้ดิ กูคิดล่ะ ถ้าเราเอาคนกันเองในคณะงานเราแม่งจะไม่มีจุดพีคเลยว่ะ กูเลยคิดว่าน่าจะเป็นคนที่ดัง ๆ สาวกรี๊ดหน่อย ...วินาทีนี้ตอนคนนี้เท่านั้น" เฟรนกล่าวอย่างภาคภูมิใจในความคิดตัวเอง
"นี่ถ้ามึงคิดเอาไอ้เหี้ยคีณ กล้องกูเสียแน่ ๆ ครั้งก่อนที่มันไปถ่ายโฆษณาชาเขียว บริษัทเขาถึงกับถูกปิด...โธ่ ลูกพ่อ"
"เชี่ยดอม เดี๋ยวเจอตีน" คีณอดจะเสียงดังชี้นิ้วกลางใส่เพื่อนไม่ได้ ก็ไอ้ท่าทางโอบกอดกล้องอย่างหวงแหนนั่นมันน่าถีบให้ล้มคะมำซะเหลือเกิน
"กูไม่เอาไอ้คีณหรอกเชี่ยดอม ...แต่คนเนี้ยเด็ดกว่าเพื่อนเราอีก ...ยอดไลค์อันดับหนึ่งเพจคิ้วท์บอยเลยนะเว้ย" ชื่อของใครบางคนฉายชัดในหัวคีณ ดวงตาคมฉายแววคล้ายตกใจเล็ก ๆ แทบจะทันที เพื่อนพูดมาขนาดนี้แล้วทำไมเขาจะเดาไม่ออกว่าเป็นใคร ถ้าไม่ใช่...
"สวัสดีครับ" ร่างโปรงดันประตูแล้วแทรกตัวเข้ามาในห้อง ณนน ปี2 คณะวิทย์ตัวเป็น ๆ แม้คำพูดจาและน้ำเสียงจะเป็นมิตร รอยยิ้มที่ฉาบก็อาจทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ล้มตายไปได้เช่นกัน แต่ไฉนเลยแววตาของเขากลับนิ่งเหมือนไร้อารมณ์เมื่อทอดสายตาผ่านคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ...มันก็แปลกดีที่ใครคนนั้นก็เปลี่ยนสายตาให้นิ่งสงบในวินาทีที่สบตากัน
"น้องณนน มาพอดี พวกพี่กำลังรอเลย" เฟรนเข้าไปทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีพาณนนเข้ามานั่งเตรียมความพร้อมยังที่นั่งว่างของโซฟาเล็ก ๆ ส่วนใครอีกคนที่กลายเป็นคนนั่งข้าง ๆ ก็ลากนิ้วไปมาบนทัชแพดคอมพิวเตอร์ด้วยมือที่ออกจะเกร็ง ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ
"ขอโทษที่มาช้านะครับ"
"เฮ้ยไม่เป็นไร นั่นดอมเพื่อนพี่ ส่วนนี่ไอ้คีณ เดี๋ยวรอไอ้ดอมเตรียมกล้องอีกแปบนะ" เฟรนแนะนำเพื่อนตัวเองทีละคน ดอมพยักหน้าให้รุ่นน้องมารยาทดีที่กำลังยกมือไหว้ ส่วนคีณก็หันมายักคิ้วเบา ๆ ให้ณนนที่ตีสีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่ต้องการทำความรู้จักกับใครนัก
ในระหว่างที่ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วห้อง ดอมมัวแต่สนใจหน้ากล้องที่ดูจะยังไม่เรียบร้อย ด้านเฟรนก็เอาแต่ยืนกดดันผู้เป็นเพื่อนเพราะเกรงใจรุ่นน้องต่างคณะที่ไหว้วานให้มาถ่ายงานนี้ให้ฟรี ๆ ทั้งที่ปกติคนดังคนนี้สามารถเรียกเงินได้ในหลักหมื่น ด้านสองคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาก็ดูไม่มีท่าที่จะปฏิสัมพันธ์กันซักนิด ต่างฝ่ายต่างนั่งหายใจทิ้งในที่ของตัวเอง จะว่าไปนี่ก็เป็นภาพที่ควรบันทึกเก็บไว้ ระดับตัวท็อปของมหาลัยสองคนที่ควบตำแหน่งคนดังในโลกออนไลน์นั่งอยู่ด้วยกันแต่หันหน้าไปคนล่ะทาง... เผลอ ๆ ภาพนี้อาจจะสร้างข่าวเกาเหลาให้ชาวเน็ตหยิบมาเล่นซัก 3-4 วันก็ได้
"ณนนพร้อมมั้ย" เฟรนหันมาถามหลังดูท่าว่าดอมจะตั้งกล้องเสร็จเรียบร้อย
"เรียกผมว่านนเฉย ๆ ก็ได้ครับพี่" คนที่พึ่งเรียกตัวเองสั้น ๆ ว่านนยิ้มกว้างก่อนจะเดินไปหน้าเซ็ตอย่างรู้งาน คีณเหลือบมองแผ่นหลังนั่นเล็ก ๆ ก่อนจะทำเหมือนสนใจคอมพิวเตอร์ตรงหน้าตัวเอง
"โอเค งั้นเราเริ่มกันเลยนะ" ดอมผู้ใจร้อนตั้งท่าพร้อมจะกดชัตเตอร์ได้ทุกเมื่อ แต่นายแบบจำเป็นของเราก็ยังงง ๆ เกี่ยวกับงานวันนี้อยู่ดี ถึงจะได้รับสารมาว่าเป็นการถ่ายภาพง่าย ๆ ไม่มีพิธีรีตองก็เถอะ
"เดี๋ยวครับพี่ ...ผมต้องทำไง"
"ไม่ยาก พี่แค่ต้องการให้เราแสดงอารมณ์ให้มากที่สุด ...อารมณ์อะไรก็ได้ที่เราคิดว่าเราทำได้ดี ให้คนมองมองแล้วรู้ในทันทีว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่"
"...เอ่อ ครับ" ณนนตอบรับทั้ง ๆ ที่ในใจกำลังค้านหัวชนฝา ก็ไอ้แบบนี้ล่ะที่โคตรยาก ...แสดงอารมณ์อะไรก็ได้เนี่ยนะ แล้วจะให้ไอ้นนทำยังไงว่ะ ร้องไห้หรอ? แหกปากยิ้มหรอ?
ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นทันทีที่ณนนทำสมาธิพร้อมถ่าย เสียงชัตเตอร์รัวขึ้นเป็นจังหวะแล้วหยุดพักเพื่อเช็คภาพเป็นระยะ หลายภาพหลายอารมณ์เป็นที่พอใจของเฟรนและดอมแต่ถึงยังไงมันก็ยังดูขาดสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าอารมณ์ทางสายตา
"พี่อยากได้แบบแสดงออกไม่เยอะ แต่แววตามันแสดงอารมณ์อ่ะ" ดอมเสนอระหว่างที่กำลังเช็คภาพอย่างลวก ๆ เฟรนพยักหน้าเห็นด้วย คีณที่นั่งเหลือบตามองโดยไม่รู้ตัวจนแทบจะตาเหล่อยู่นานสองนานถึงกับต้องพูดอะไรออกมาบ้าง
"พวกมึงก็เอาแค่รูปเดียว จะเอาอะไรนักหนาวะ" น้ำเสียงเรียบ ๆ นั่นฟังผ่าน ๆ ก็เหมือนตั้งใจจะกวนตีนให้ได้ซักแผลที่ปาก ณนนมองผ่าน ๆ และพยายามไม่สนใจน้ำเสียงของคนที่คล้ายจะหาเรื่อง
"ไอ้คีณครับ มึงไม่ช่วยก็นั่งหุบปากไปเลยครับ" ดอมหันมาคาดโทษเพื่อนตัวเอง ส่วนเฟรนนั้นไม่พูดจาใด ๆ แต่เดินไปพับจอคอมพิวเตอร์พกพาในมือเพื่อนโดยที่อีกฝ่ายได้แต่อ้าปากหวอเถียงอะไรไม่ออก
"เอาแต่นั่งเล่นเกมปลูกผัก อย่าคิดว่ากูไม่เห็น มาช่วยกันดิวะ ...สัด" พยางค์สุดท้ายที่เฟรนพยายามเน้นนี่แซบไปถึงทรวง ก็ดูหน้ารุ่นน้องคนนั้นที่กำลังมองสิ เหมือนว่ากำลังเอือมระอาไม่มีผิด
"ช่วยไรวะ กะอิแค่รูปเดียว" คีณบ่นอุบเบา ๆ ให้ตัวเองได้ยินคนเดียว แต่ก็ยอมเดินมาหน้าเซ็ตแต่โดยดี เสียงชัตเตอร์เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง และดูเหมือนมันก็ยังไม่เป็นที่พอใจซักที
"ได้มั้ยครับพี่ ผมพยายามแล้วนะ" ณนนเองก็ดูจะเสียความมั่นใจไปอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องง่ายกับการแสดงอารมณ์บนใบหน้านิ่ง ๆ แล้วให้ใครก็ไม่รู้มาเดาว่ากำลังรู้สึกยังไง
"อีกทีนะ" ดอมว่า ก่อนที่จะตั้งสมาธิเข้าไปที่กล้องอีกครั้ง แต่ทันใดนั้นคนที่ตั้งใจอู้มานานอย่างคีณ ก็คว้าหมับเข้าที่กล้องสุดรักของเพื่อนสนิทจนเจ้าตัวแทบจะร้องกรี๊ดให้สาวแตกกันไปข้าง
"เชี่ยคีณ ไรเนี่ย"
"กูถ่ายเอง มึงมันไม่ได้เรื่อง" คีณว่า ทั้งเฟรนทั้งดอมทำหน้างง ๆ เพราะกิตติศัพท์การถ่ายรูปของคีณมัน...
"มึงได้ด็อกวิชาพอร์ทเทต" เฟรนกำลังจี้ใจดำคนที่กำลังจะตั้งท่าเท่ ๆ ถ่ายรูป แต่นั่นก็ทำให้เขายกยิ้มที่มุมปาก แล้วจ้องตาใครบางคนราวกับให้ตั้งใจฟังสิ่งที่เขาจะพูดต่อไปนี้
"ก็ที่กูได้ด็อก ...เพราะนายแบบกูเขาไม่ให้ความร่วมมือ"
"พ่องเถอะ จนทุกวันนี้กูยังไม่รู้เลยว่ามึงไปถ่ายใครมา ติดมาแต่ตีน ขา แขน แม้แต่หางคิ้วยังไม่โผล่มาในรูป อาจารย์ไม่ให้เอฟก็บุญล่ะสัด" ดอมร่ายยาวส่ายหัวแรง แต่ที่แรงกว่าจังหวะสายหัวของดอมก็คงจะเป็นหัวใจของใครบางคนตอนนี้
"ก็เคยสัญญาไว้ ว่าจะถ่ายเขาแค่คนเดียว" คีณยกกล้องขึ้นอยู่ระดับสายตา ดวงตาคมของเขาจ้องมองใครอีกคนผ่านเลนส์ก่อนจะรัวชัตเตอร์โดยไม่ให้สัญญาณใด ๆ ก่อนที่เสียงชัตเตอร์สุดท้ายจะจบลงคนที่ถูกถ่ายก็มองทะลุเข้าไปในเลนส์กล้องราวกับดวงตาสองคู่ได้จ้องมองกัน ช่วงเวลาไม่ถึงสามสิบวินาทีนี้ดอมกับเฟรนยืนมองเพื่อนตัวเองอย่างไม่เข้าใจและมั่นใจมากว่ารูปที่ออกมาคงใช้ไม่ได้แน่นอน
แต่พวกเขากำลังคิดผิด
"อ่ะ ...คืนนี้ส่งไฟล์ให้กูด้วย ง่วงว่ะ จะกลับไปนอน" คีณส่งกล้องคืนให้เพื่อนก่อนจะคว้าข้าวของตัวเองแล้วเดินออกไปโดยไม่มีคำล่ำลาใด ๆ
"เฮ้ยมึง กูว่าเวิร์คว่ะ... คือรูปมันไม่ได้สื่อแค่อารมณ์เดียวอ่ะ แล้วสายตาน้องนนแม่งชัดมาก มึงดูดิ"
"เชี่ยคีณแม่งฟลุ๊คสัด กดมั่ว ๆ เสือกได้เฉย"
ณนนยืนงงอยู่คนเดียวที่เห็นรุ่นพี่สองคนรุมทึ้งกล้องและตะลึงงันกับรูปที่พึ่งถูกบันทึกเมื่อครู่ ภาพของเด็กหนุ่มที่มีสีหน้าเรียบเฉยจ้องมองกล้องด้วยแววตาที่เป็นประกาย แม้ใบหน้าจะนิ่งสนิทแต่กลับมีแดงระเรื่อที่แก้มจาง ๆ จุดสำคัญของภาพน่าจะอยู่ที่ดวงตาที่อ่านความหมายได้มากมายเหลือเกิน คล้ายคนในภาพกำลังมีสุข กำลังอาย และคล้ายหัวใจของเขากำลังพองโตในเวลาเดียวกัน
"น้องนน รูปเมื่อกี้โคตรเจ๋ง ดีกว่าที่พี่คิดอีก เก่งมากว่ะไอ้น้อง" เฟรนออกปากชมณนนเปราะ เจ้าตัวได้แต่ยิ้มบาง ๆ เพราะรู้ตัวดีว่าไม่ได้ทำอะไรเลยซักนิด ไอ้คนที่ทำเดินปัดตูดออกไปนู่นแล้ว
ครืด เสียงสั่นเบา ๆ จากโทรศัพท์มือถือเรียกให้ณนนเช็คข้อความใหม่จากโปรแกรมแชท ข้อความที่ทำให้เขาเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงแทบไม่ทัน
'เขินอ่ะดิ
'