วงล้อที่สามสิบสอง
“ถ้าเดิมพันเป็นเด็กคนนั้น ผมคงต้อง..
ยอม”
“
อย่ายอมนะครับ!” เด็กคนนั้นที่อรรควัสและคุณชายเสิ่นพูดถึง บัดนี้เจ้าตัวกลับโพล่งขึ้นเสียงดังมาท่ามกลางคนในชั้นวีไอพี เรียกสายตาจากแขกผู้มีเกียรติทุกคู่ให้หันไปสนใจเจ้าของเสียงกันเป็นจุดเดียว
ภาสกรกระหืดกระหอบวิ่งมาตลอดโดยไม่หยุดพัก พอพูดจบเขาถึงกับหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย อรรควัสเกือบจะลุกขึ้นไปหาอีกฝ่าย ถ้าหากไม่ได้ยินเสียงของพนักงานแจกไพ่เตือนสติเอาไว้ได้ทัน
ระหว่างการแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันไม่อนุญาตให้ลุกไปไหนได้ทั้งนั้น หากลุกขึ้นออกจากโต๊ะถือว่าสละสิทธิ์และเป็นฝ่ายแพ้ในเกมนั้นทันที
พอเป็นเรื่องของภาสกรแล้ว บอสที่เก็บอาการได้เป็นอย่างดีในทุกสถานการณ์มักจะลืมตัวโดยไม่รู้ตัว
“มาพอดีเลย” คุณชายเสิ่นยิ้มเย็นเมื่อเห็นว่าใครที่เข้ามาขัดจังหวะการแข่งขัน
“อย่ายอมแพ้นะครับคุณอรรค” ภาสกรไม่ได้สนใจผู้คนรอบข้าง เขาเดินเข้าไปใกล้บอสใหญ่และพูดมันซ้ำอีกครั้ง “อย่าให้ผมต้องเป็นตัวถ่วงของคุณ”
“แต่ว่าเดิมพันนี้ฉัน..” อรรควัสมีสีหน้าลำบากใจ ซึ่งเห็นได้ไม่บ่อยนักสำหรับคนอย่างเขา
“พายขอร้อง”
“ไม่ได้ ฉันจะทำแบบนั้นไม่ได้”
“ตกลงว่าคุณอรรคจะยอมแพ้ใช่ไหมครับ” คุณชายเสิ่นทวนคำพูดของอีกฝ่ายที่พูดไปก่อนหน้านี้
“ไม่ยอมแพ้ครับ” ภาสกรถือวิสาสะตอบแทน
“เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา”
“รู้สิครับ”
“ฉันต้องเปิดไพ่อีกสองใบในขณะที่ฉันมีเพียงคู่เจ็ดเพียงคู่เดียว ถ้าหากจะเอาชนะคุณชายเสิ่นได้ฉันจะต้องมีไพ่อะไรในมือ” อรรควัสพยายามเกริ่นถึงสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่
“พายทราบดีครับ ไพ่ที่เหลืออยู่ต้องเป็นเลขเจ็ดอีกสองใบ แปลว่าคุณต้องมีเจ็ดทั้งหมดสี่ใบในมือถึงจะเอาชนะได้”
“นั่นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย” บอสใหญ่พูดเสียงเครียด
“คุณเป็นคนดวงดี โชคดี คุณเป็นคนเก่ง พายเชื่อว่าคุณจะเอาชนะได้ครับ” ภาสกรยังเชื่อใจอีกฝ่ายไม่ลดละ
“รู้ไหมถ้าเกมนี้ฉันแพ้ จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ”
“คุณจะไม่ทำให้พายต้องไปเผชิญเรื่องพวกนั้นใช่ไหมครับ” ภาสกรมองอรรควัสอย่างไว้เนื้อเชื่อใจว่าคนตรงหน้าจะปกป้องเขาได้อย่างไร้ข้อกังขา
“ว่าอย่างไรคุณอรรค จะยอมแพ้หรือไม่ อย่าลืมนะว่าคุณมีแค่คู่เจ็ด ส่วนผมน่ะลอยลำมีตองควีนชนะคุณเห็น ๆ แล้วในเวลานี้” คุณชายเสิ่นพูดอย่างเป็นต่อ
อรรควัสสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ “ตกลง ผมยอม..”
“คุณอรรค!” ภาสกรเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความตกใจ พลายส่ายหน้า วิงวอนไม่ให้อรรควัสยอมแพ้
“ผมยอมรับข้อเดิมพันของคุณครับคุณชายเสิ่น” เมื่อบอสหนุ่มพูดจบก็ทำให้ภาสกรหายใจโล่งขึ้นมาบ้าง แต่แล้วใจเขาก็เต้นรัวไม่หยุดอีกครั้งเมื่อถึงเวลาเปิดไพ่ที่เหลือ
“ดี งั้นเรามาเปิดไพ่พร้อมกันเถอะครับ”
ภาสกรรับรู้ได้เลยว่าทุกคนที่มาดูการแข่งขันของคู่นี้นั้นต่างพากันกลั้นหายใจเพราะตื่นเต้นและลุ้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น มันเป็นเรื่องยากมากที่อรรควัสจะเอาชนะได้ สิ้นเสียงนับเลขถอยหลังจนเหลือหนึ่ง คนที่นั่งตรงมุมโต๊ะทั้งสองฝ่ายก็หงายไพ่โดยพร้อมเพรียงกัน
เสียงฮือฮาดังจากทุกสารทิศไม่เว้นแม้แต่ภาสกรที่ยกมือปิดปากก่อนจะทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างคนหมดแรง น้ำตาไหลออกมาสายยาวอย่างห้ามไม่อยู่และเพราะเจ้าตัวคงเหนื่อยมากเกินไป ภาพตรงหน้าจึงดับวูบไป ไม่ทันได้เห็นว่าหลังจากเปิดไพ่แล้วมีใครคนหนึ่งวิ่งมาที่โต๊ะการแข่งขัน
ภาสกรตื่นขึ้นมาอีกครั้งในห้องที่คุ้นเคย ห้องที่เขาอาศัยอยู่กับบอสหนุ่มเจ้าของคาสิโน พอทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เขาก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งเงียบ ๆ กระทั่งได้ยินเสียงคุ้นหูเอ่ยขึ้นไม่ไกล
“ตื่นขึ้นมาทำไมก็กลายเป็นเด็กขี้แยเลยเชียว ไม่เหมือนตอนที่ไปห้ามฉันยอมแพ้ตอนที่อยู่บนชั้นวีไอพีเลย” ภาสกรหันไปตามเสียงพูดก่อนจะเห็นว่าคนพูดยืนอยู่ปลายเตียง ในมืออีกฝ่ายมีผ้าขนหนูถืออยู่
“คุณอรรค”
“หยุดร้องไห้ได้แล้ว” อีกฝ่ายพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะนั่งที่ข้างกายภาสกรแล้วใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กนั่นเช็ดหน้าเช็ดตาให้คนขี้แย
“ขอบคุณครับ แต่พายเช็ดเองได้”
“ไม่เป็นไร มองไม่เห็นรู้เหรอว่าหน้าเลอะแค่ไหนแล้ว”
“พายหลับไปนานไหมครับ”
“สักชั่วโมงหนึ่งได้”
“ขอโทษนะครับ” ภาสกรจับมืออีกฝ่ายที่กำลังเช็ดหน้าเช็ดตาให้
“ไม่มีอะไรต้องขอโทษสักหน่อย”
“เล่าเหตุการณ์ให้พายฟังหน่อยสิครับ หลังจากที่เปิดไพ่แล้วเป็นอย่างไรต่อ”
“ฉันยังดวงดี เธอเลยไม่ได้ถูกส่งตัวไปกับคุณชายเสิ่น”
“พายทราบแล้วครับ และดีใจมากด้วยตอนที่เห็นคุณเปิดไพ่ออกมาเป็นเลขเจ็ดอีกสองใบ” ภาสกรแนบหน้าลงที่มือข้างที่เปิดไพ่นั้น เขาอธิบายเป็นความรู้สึกออกมาไม่ได้เลยว่าวินาทีนั้นเขาดีใจแค่ไหน “คุณจัดการกับคุณชายเสิ่นอย่างไรครับ”
“เรื่องไหนล่ะ”
“คุณตัดมือเขาเหมือนที่เขาขอตัดมือคุณอรรคหรือเปล่า”
“รู้เดิมพันนี้ด้วยเหรอ”
“ครับ คุณได้ทำหรือเปล่าครับ”
“ไม่ได้ทำ ฉันแค่หักแขนเขาแทนและก็ให้เขาออกไปจากมาเก๊าพรุ่งนี้เช้าและจะไม่กลับมาอีก”
“คุณอลันไปด้วยไหมครับ”
“เปล่า แค่คุณชายเสิ่นคนเดียว สำหรับอลันและเพื่อนของเธอ ฉันคงต้องส่งต่อให้ทางการไปจัดการเพราะเขาสมรู้ร่วมคิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด” อรรควัสไม่ได้อธิบายต่อว่าสาเหตุที่คุณชายเสิ่นรอดพ้นไม่ถูกจับก็เพราะอิทธิพลของที่บ้านเจ้าตัว ต่อให้ถูกจับสุดท้ายก็ถูกปล่อยออกมาได้อยู่ดี
“เพื่อนของพาย? นนหรือครับเป็นไปไม่ได้” ภาสกรยังมั่นใจว่าคนที่สมรู้ร่วมคิดกับคุณชายเสิ่นต้องไม่ใช่นวพลหรือแอนดี้
“ไม่ใช่นวพล เธอต้องคิดไม่ถึงแน่ ๆ”
“ใครครับ ผมไปหาเขาได้ไหม”
“ฉันจะพาเธอไปพบพวกเขาก่อนจะส่งไปให้ทางการ”
“ขอบคุณครับ”
“ส่วนเรื่องนวพล ฉันให้เขากลับมาทำงานตามปกติแล้ว”
“นนคงดีใจ”
“ฉันยังไม่ได้ดุเธอ” จู่ ๆ บอสใหญ่ก็เปลี่ยนเรื่องกะทันหัน
“ครับ?”
“อยู่ดี ๆ ทำไมถึงผลุนผลันเข้าไปได้ หืม”
“ขอโทษครับ แต่ตอนที่ได้ยินว่าคุณจะยอมแพ้ ผมยอมไม่ได้จริง ๆ”
“รู้ไหมที่ฉันทำก็เพราะตัวเธอทั้งนั้น” อรรควัสบอกอีกฝ่ายอย่างอ่อนใจ
“แต่นั่นแปลว่าคุณจะต้องเสียทั้งคาสิโนทั้งแขนเลยนะครับ พายรับผิดชอบไม่ไหวหรอก” ภาสกรบอกออกมาจากใจ
“แล้วฉันล่ะ ถ้าหากเกมนี้ฉันแพ้ อย่างมากฉันก็แค่เสียคาสิโนกับแขนข้างหนึ่ง แต่มันเทียบไม่ได้เลยถ้าฉันต้องเสียเธอไป”
“พายรู้ว่าคุณจะไม่ยอมให้พายเป็นอันตราย” ภาสกรบอกด้วยความมั่นใจ
“พาย..คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีก ฉันกับเธออาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนอย่างคราวนี้”
“...”
“ถือว่าฉันขอร้อง” อรรควัสย้ำ เขาไม่ประสงค์ให้ภาสกรทำอย่างวันนี้ ไม่รู้ว่าช่วงวันสองวันที่ผ่านมา เขาใจหายใจคว่ำไปแล้วกี่ครั้ง
“พายก็แค่ไม่อยากเป็นตัวถ่วงให้คุณ”
“พาย..” อรรควัสเรียกอีกฝ่ายเสียงหนัก ภาสกรไม่ได้เป็นอย่างที่เจ้าตัวพูดถึงตัวเองเลย
“จะไม่ทำอีกแล้วครับ แต่คุณอรรคต้องรับปากพายอย่างหนึ่งว่าจะไม่รับเดิมพันแบบนี้อีกได้ไหมครับ”
“ได้สิ ปกติก็ไม่มีใครลงเดิมพันแบบนี้หรอก แต่คุณชายเสิ่นเขาตั้งใจมาหาเรื่องฉันอยู่แล้ว”
“ครับ ผมไม่อยากให้คุณเป็นอันตราย ตัวคุณ ร่างกายคุณ โดยเฉพาะมือขวาคุณมีค่ามากนะครับ”
“ไปหัดพูดเอาใจฉันเป็นตั้งแต่ตอนไหน”
“พายเคยเห็นคุณไปนั่งวาดรูปที่ซากประตูโบสถ์ครั้งหนึ่ง”
“อืม..ตอนนั้นเธอวิ่งหนีฉันทำไม”
“คุณอรรคเห็นพายด้วยเหรอ”
“ฉันมองเธออยู่ตลอดทำไมจะไม่เห็น ตอนนั้นวิ่งหนีทำไม”
“ก็..พายกลัวคุณนี่ครับ คนอะไรดุเก่งที่สุด”
“ถ้าไม่ดุเธอ ฉันกลัวจะอดใจไม่ไหวแล้วจับเธอมากอดแบบนี้น่ะสิ” ไม่พูดเปล่า บอสใหญ่พิสูจน์ให้อีกฝ่ายได้เห็นด้วย
“คุณอรรคชอบวาดรูปมากเลยใช่ไหมครับ” ภาสกรมองมือที่กอดเขาไว้แล้วพลันนึกขึ้นได้
“ฉันชอบวาดรูปมาก แต่ไม่ชอบมันมากเท่ากับเธอหรอก” คำพูดตรง ๆ ของอีกฝ่ายทำให้ภาสกรหน้าแดงเห่อร้อนขึ้นโดยไม่รู้ตัว ไม่นึกว่าจู่ ๆ อีกฝ่ายจะกล้าพูดออกมาโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“...”
“เพราะฉะนั้นเกมในวันนี้ ฉันถึงยอมเสียมือขวามากกว่าจะยอมเสียเธอไป”
“พายรักคุณอรรคนะครับ ขอบคุณที่ปกป้องพายเสมอ” ภาสกรทำใจกล้ายืดตัวขึ้นไปจูบแก้มอีกฝ่ายเพื่อเป็นการขอบคุณ
แต่มือมันคนละชั้นกันจังหวะที่เขาถอยออกมาใบหน้ากลับถูกประคองไว้ด้วยมือทั้งสองข้างของอีกฝ่าย อรรควัสป้อนจูบให้ภาสกรกลับคืน บอสใหญ่จูบคนในอ้อมกอดบ่อยครั้งแต่ไม่เท่าครั้งนี้ มันเต็มไปด้วยความโล่งใจที่เขายังได้กกกอดร่างกายคนรักอยู่ จูบนี้แสนยาวนานให้สมกับเหตุการณ์อกสั่นขวัญแขวน กระทั่งภาสกรเริ่มหายใจไม่ทัน เขาถึงได้ถอนจูบออกมา ก่อนจะย้ำ ๆ ที่ริมฝีปากแดงอีกสามสามทีจึงตัดใจออกมาได้ในที่สุด
“ฉันอยากจะนอนกอดเธอต่ออีกนิด แต่น่าเสียดายที่ฉันนัดตำรวจเข้ามาจัดการคดียาเสพติดของคาสิโน”
“เรื่องงานต้องมาก่อนครับ” ภาสกรบอกอย่างเข้าใจ
“เย็นนี้ฉันจะกลับมากินข้าวกับเธอ หลังจากนั้นจะอยู่กับเธอจนถึงเช้า”
“คะ..ครับ” ภาสกรก้มหน้าลงเล็กน้อยเข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร
วันรุ่งขึ้นอรรควัสทำตามที่รับปากไว้กับภาสกรคือพาเจ้าตัวไปพบกับคนที่ใส่ร้ายเขาให้ต้องถูกไล่ออกจากคาสิโนไปครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ เขาได้มีโอกาสไปพบอลันก่อนเป็นคนแรก
“คุณอลันสบายดีไหมครับ”
“ผมสบายดี เรื่องนั้นขอโทษนะ ผมไม่คิดว่าคนที่ถูกใส่ร้ายจะเป็นพาย” เมื่อเจอหน้ากันอลันก็เอ่ยขอโทษออกมาเป็นคำแรก สีหน้าของอลันดูไม่ค่อยสบายใจนัก
“ไม่เป็นไรครับ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว”
“ผมขอโทษอีกครั้ง แต่ผมไม่เคยคิดร้ายกับพายเลย”
“ผมรู้ครับ ถ้าคุณอลันคิดไม่ดีกับผม บอสคงไม่ให้ผมกลับไปส่งอาหารให้คุณอีก”
“ขอบคุณที่เข้าใจ และผมก็ดีใจนะที่คุณอรรคดีกับพาย”
“เอ่อ..ครับ” เขาไม่รู้จะตอบอะไรเลยเกาท้ายทอยแก้เก้อ พอถูกตรง ๆ ก็อดรู้สึกไม่ได้เหมือนแย่งอรรควัสมาจาก อลันอย่างไรอย่างนั้น
“ไม่ต้องเขินหรอก คุณอรรคเขาไม่เคยปฏิบัติกับใครแบบนี้ ถ้าเขาไม่เอ็นดูหรือพอใจพายแต่แรก เขาไม่ยอมอนุญาตให้พายออกไปข้างนอกกับผมหรอก มันไม่ใช่นิสัยของเขาเลย”
“อ่า..เหรอครับ”
“อืม ผมรู้สึกว่าคุณอรรคแปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้ทักอะไร”
“ตอนที่เราออกไปข้างนอกด้วยกันตอนนั้นที่คุณอลันบอกว่าอยากไปเที่ยวบ้านเกิดของบอส นั่นเป็นความจริงหรือเปล่าครับ”
“เป็นความจริง ตอนนั้นน่ะผมเริ่มคิดมาสักพักแล้วว่าอยากจะถอนตัวจากงานนี้ ตั้งแต่อยู่กับคุณอรรคมา ผมค้นพบว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง ไม่เคยเอาเปรียบใครและไม่เคยคิดทำร้ายใครก่อน แต่ผมก็ถอนตัวไม่ได้ ผมกลัวตาย ไม่อยากถูกคุณชายเสิ่นฆ่าทิ้ง เลยไม่กล้าถอยออกมา”
“คิดไหมครับว่าถ้าบอกบอสแล้วเขาจะช่วยคุณ”
“เคยคิด แต่คุณอรรคไม่เลี้ยงคนหักหลังเขาหรอกพาย”
“ผมเคยชอบคุณอลันนะครับ” ไม่มีเหตุผลแต่ภาสกรแค่อยากสารภาพความรู้สึกที่เคยมีต่ออีกฝ่าย
“ผมรู้”
“คุณอลันรู้เหรอครับ”
“อืม ไม่งั้นคุณอรรคเขาคงไม่ทำท่าทางไม่พอใจมากขนาดนั้นเวลาที่เห็นผมชวนคุณคุยเกินความจำเป็น” อลันพูดจบก็หัวเราะ แต่มันไม่ใช่เสียงหัวเราะที่ออกมาเต็มเสียง มันฟังดูแห้งเหี่ยวเสียเหลือเกิน
“อะไรนะครับ?”
“ผมน่ะถูกส่งมาให้จับตามองคุณอรรค คอยสังเกตพฤติกรรมต่าง ๆ ของเขาแล้วส่งข่าวที่ได้มาให้กับคุณชายเสิ่น แล้วผมจะไม่เห็นได้อย่างไรว่าคุณอรรคมีสีหน้าอย่างไรเวลาที่เห็นคุณอยู่กับผม”
“แต่ผมไม่เห็นเลย”
“คุณอรรคอ่านยาก ถ้าไม่ใช่ว่าผมต้องศึกษาคน ๆ นี้มานานก็คงดูไม่ออกหรอกครับ”
“อ่า..ครับ”
“พาย” อลันเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมขอโทษที่ทำให้คุณลำบาก”
“เอ่อ..” ภาสกรไม่รู้จะตอบอย่างไร จะบอกว่าไม่เป็นไร ก็ไม่ใช่ หรือจะบอกอีกฝ่ายว่าเขาโกรธมากก็ไม่ใช่นิสัยเจ้าตัวอีก จึงทำเพียงแค่เงียบไว้ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
“ถ้าผมมีโอกาสจะมาชดใช้ความผิดให้คุณทีหลังนะ” อลันแย้มยิ้มถึงจะเป็นยิ้มที่เฝื่อนฝาดเต็มที
“ไม่เป็นไรครับ คุณอลันดูแลตัวเองด้วยนะครับ”
“ขอบใจนะ คุณก็เหมือนกัน”
เมื่อคุยกับอลันเสร็จ อีกฝ่ายก็ถูกพาตัวออกไปก่อนที่จะมีบุคคลใหม่เข้ามานั่งแทนที่อลัน ผู้มาใหม่ทำให้ภาสกรนั้นตกใจตาเบิกกว้างแต่เพียงครู่เดียว ม่านตาที่ขยายใหญ่ก็หดกลับคืนภาวะปกติ
“ไง” อีกฝ่ายทักทายภาสกรเหมือนกับว่าทุกอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“จะ..เจ ทำไมถึงเป็นแก”
“แปลกใจมากไหม”
“อืม เราคิดว่าแกคือเพื่อนเรา เพื่อนนน”
“ใช่ เราก็คิดว่าเราคือเพื่อนแกหรือเพื่อนไอ้นน”
“แล้วทำไมแกถึงทำแบบนี้” ภาสกรถามอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ
“ง่ายมาก..เราจำเป็นต้องใช้เงิน คุณชายเสิ่นให้เราทำงานนี้ ให้เราทำลายชื่อเสียงคาสิโนของบอสและจับตัวแกไปเพื่อให้บอสยอมแพ้”
“ใช้เงิน? ทำไม” ภาสกรยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ
“ที่นี่มีกฎว่าห้ามพนักงานเล่นการพนันที่คาสิโนใช่ไหม”
“อืม”
“เมื่อเล่นที่นี่ไม่ได้ เราเลยไปที่คาสิโนคุณชายเสิ่น แต่ก็นะ..” เจษฎายักไหล่ “การพนันไม่เคยทำให้ใครรวยขึ้นมาได้ เราเป็นหนี้พนันที่นั่น คุณชายเสิ่นเลยเสนอข้อแลกเปลี่ยนให้เราทำเรื่องพวกนี้ เพื่อแลกกับหนี้ที่เราติดค้างเขาไว้”
“แล้วทำไมต้องเป็นเรา..” ภาสกรถามเสียงเบา เขาไม่อยากจะคิดว่าคนที่ใส่ร้ายเขาคือเพื่อนคนหนึ่งที่เขาไม่เคยนึกถึง
“เพราะแกมันซื่อไงพาย หลอกง่ายเป็นที่สุด ซ้ำยังไม่ค่อยระแวดระวัง แกคงจำไม่ได้วันนั้นเราเข้าไปคุยกับแกแล้วก็ทำท่าทีช่วยแกประคองถาดให้ตรงแต่จริง ๆ แล้วเราแอบเอายาแปะไว้ใต้ถาดนั่น”
“เราไม่เคยสงสัยแกเลย”
“เรารู้ว่าแกไม่มีทางสงสัยเราหรือใครที่แกรู้จักหรอก แกมันใจดีเกินไป”
“แกรู้ไหมว่าสิ่งที่แกทำมันทำให้เราเดือดร้อนทุกข์ใจแค่ไหน” ภาสกรนึกฉุนที่อีกฝ่าบอกเล่าอย่างสบายใจราวกับมันเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
“แล้วอย่างไรล่ะ แต่ตอนนี้ชีวิตแกก็ดีมีความสุขไม่ใช่เหรอ แกควรจะขอบคุณเราด้วยซ้ำที่เรื่องนั้นทำให้แกได้ลงเอยกับบอสได้”
“คนละเรื่องแล้วเจ ผิดก็ส่วนผิด สิ่งที่แกทำมันไม่ถูกต้อง” ภาสกรเตือนสติ
“เราเคยพูดเหรอว่ามันถูกต้อง มันผิดสิ ผิดอยู่แล้ว เรารู้มาตั้งแต่ต้น แต่จะทำให้เราทำอย่างไร เราต้องใช้หนี้ ถ้าเราไม่ทำ มันก็ต้องฆ่าเรา แกเข้าใจหรือเปล่า”
“แทนที่แกจะถามเราว่าเข้าใจหรือเปล่า ทำไมแกถึงไม่ขอโทษเราแทน”
“พาย” เจษฎายิ้มเยาะ “จนถึงตอนนี้แกยังทำตัวเป็นคนดีอยู่อีกอย่างนั้นเหรอ ในใจแกคงอยากด่าเราใช่ไหม เอาสิ เอาเลย”
“ด่าแกไปแล้วได้อะไร เราแค่ผิดหวังเท่านั้นที่เชื่อใจคนผิด”
“ให้การกระทำของเรามันสอนแกก็แล้วกันว่าอย่าไว้ใจหรือเชื่อใจใครง่าย ๆ อีก” เจษฎาพูดจบแล้วลุกขึ้นยืนทันที
“เดี๋ยวก่อน”
“มีอะไร”
“เราสงสัยอย่างหนึ่ง แกเอาโทรศัพท์มือถือของนนมาส่งข้อความให้เราออกไปในคืนวันนั้นใช่ไหม”
“ใช่” เจษฏาหันกลับมามองอีกฝ่ายเต็มตา
“แกรู้ได้ไงว่าเรากลับมาที่คาสิโนแล้ว”
“แกนัดนนออกไปตอนวันหยุด เราไปกับนนด้วย แกจำได้ไหม”
“แต่นนบอกแกกลับไปแล้ว”
“อืม จริง ๆ เรายังไม่กลับหรอกเพราะเราเห็นว่าแกส่งข้อความมานัดนน”
“แกเห็นข้อความนั้นได้ไง”
“ไม่เห็นยาก แกก็รู้ว่านนมันชอบเล่นโทรศัพท์เวลามันกินข้าว”
“อืม”
“ก็แค่มันบังเอิญพอดี นนมันวางโทรศัพท์ไว้แล้วลุกไปเอาข้าวเพิ่ม เราก็เลยเห็นข้อความนี้ พอต่อมาเราก็อาศัยจังหวะนี้บอกให้แกออกไป เสร็จแล้วก็ลบข้อความทิ้ง มันก็เท่านั้นเอง”
“แกพยายามมากเลยนะเจ” ภาสกรบอกด้วยความรู้สึกผิดหวังในตัวคนอธิบาย
“ขอบใจ..ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เราไปนะ” ก่อนจะออกจากห้องเขาเปล่งคำออกมาสองพยางค์เบา ๆ กับตัวเอง ไร้คนได้ยิน
‘ขอโทษ’ ไม่รู้คำนี้เจษฎาอยากบอกใคร บอกเจ้าตัวหรือคนในห้องที่กำลังร้องไห้เงียบ ๆ กับความเสียใจเพราะเพื่อนคนหนึ่ง
========================================
สุขสันต์วันวาเลนไทน์ล่วงหน้านะคะ *ปาหัวใจและดอกไม้รัว ๆ
HASHTAG #พนันท้ารัก ค่ะ