Chapter 23
เย็นวันต่อมานารินทร์ถูกวายุพาตัวกลับมาจากมหาวิทยาลัยเพื่อเตรียมตัวไปงานวันเกิดของมีมี่ โดยที่วายุขอนารินทร์อาบน้ำแต่งตัวที่บ้านวารีรินทร์ด้วย ซึ่งนารินทร์ก็ไม่เห็นว่าจะเสียหายอะไร แต่ก็ต้องห้ามพี่ดำแทบตายเพราะเมื่อวายุก้าวขาเข้ามาในบ้านพี่ดำก็เตรียมตั้งท่าขู่วายุทันที นารินทร์ต้องเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่าพี่ดำจะยอม
“พี่วายุ เสร็จหรือยัง” นารินทร์ตระโกนถามเพราะว่าวายุเข้าไปอาบน้ำนานมาก นารินทร์จึงได้แต่คิดในใจว่ารู้อย่างนี้น่าจะอาบก่อนเสียให้หมดเรื่องหมดราว
“เสร็จแล้วครับ” วายุที่เดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวพันไว้เฉพาะส่วนล่างและเผยโชว์ไหล่กว้างกับหน้าอกที่ใหญ่แน่นพร้อมกับหน้าท้องที่เป็นลูกคลื่นเรียงตัวกันอย่างสวยงาม ซึ่งเรียกเลือดจากหน้านารินทร์ได้ไม่น้อยยิ่งในตอนนี้ที่มีหยดน้ำบางส่วนเกาะอยู่ตามตัว ยิ่งทำให้วายุดูเซ็กซี่มากขึ้นไปอีก
“เสร็จแล้วก็หลบไปสิ นาจะอาบบ้าง” นารินทร์พูดเสียงเหวี่ยงแก้อาการเขินของตัวเอง วายุที่เห็นท่าทางของนารินทร์ก็อดยิ้มไม่ได้…เมื่อนารินทร์เข้าห้องน้ำจัดการตัวเองอยู่นั้น วายุก็จัดการแต่งเนื้อแต่งตัวด้วยความรวดเร็ว แล้วนั่งรอนารินทร์ที่กำลังอาบน้ำอยู่
“แกร๊ก…” นารินทร์เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าพันส่วนล่างไว้เหมือนวายุ เพราะด้วยความเคยชินทำให้นารินทร์เผลอลืมไปว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียว ส่วนวายุที่เห็นภาพตรงหน้าก็กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ผิวกายที่แสนจะขาวเนียนน่าสัมผัสของนารินทร์บวกกับรูปร่างเล็กเพรียวบางที่ดูแล้วน่าทะนุถนอม…นารินทร์ได้แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทาครีมตามร่างกายและแต่งตัวตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือสายตาของวายุ
“มองอะไรพี่วายุ” นารินทร์เห็นว่าวายุมองเค้านานเกินไปแล้ว มีอะไรติดตัวเค้าอยู่หรือเปล่า
“ปะ…เปล่า พี่ไปรอข้างนอกนะ” นารินทร์พยักหน้าวายุก็เดินออกไป…จากนั้นไม่นานนารินทร์ก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าวายุด้วยชุดแบบสบายๆที่เลือกด้วยตัวเอง
“ไปเปลี่ยนได้ไหม” วายุถามด้วยสีหน้าบึ้งๆ เพราะนารินทร์ของเค้าในตอนนี้…น่ารักเหลือเกิน วายุไม่อยากให้ใครเห็นนารินทร์ในชุดนี้เลย
“ไม่เอา ขี้เกียจแล้ว…จะทุ่มแล้วไปกันสักทีเถอะ เดี๋ยวคุณพี่มีมี่เค้าจะรอนานเอานะ” วายุรู้สึกแปลกๆกับน้ำเสียงของนารินทร์ที่พูดถึงมีมี่ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรจึงพานารินทร์ปิดบ้านให้เรียบร้อยก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานวันเกิดของมีมี่…บ้านของเธอนั่นเอง
“คงต้องจอดรถหน้าบ้านแล้วอ่ะนะ…พวกเรามาช้าไป” วายุว่าอย่างนั้นเพราะรถจอดเต็มหน้าบ้านของมีมี่ไปหมดแล้วทำให้รถของวายุต้องจอดถัดจากหน้าบ้านของมีมี่ไปอีก ซึ่งนารินทร์ก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรเพราะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้…วายุเดินเข้ามาในงานพร้อมกับกล่องของขวัญเล็กๆน้อยๆพร้อมกับจูงมือนารินทร์มาด้วย วันนี้วายุมาในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนจนถึงศอกสวมทับด้วยเสื้อกั๊กสีดำ กางเกงยีนขายาวและรองเท้าผ้าใบธรรมดาสีขาว ส่วนนารินทร์มาในชุดเสื้อเชิ้ตเหมือนกันแต่เป็นสีฟ้าสกรีนรูปหมีอยู่ข้างหลังและกระเป๋าข้างหน้า สวมกางเกงขาเดฟสีดำและรองเท้าผ้าใบสีฟ้าเหมือนเสื้อ ทำให้ทั้งสองคนเรียกสายตาจากแขกในงานได้ไม่น้อยแม้ว่าชุดที่ทั้งสองคนใส่มาจะพื้นๆธรรมดาทั่วไป
“พี่วายุ ขอบคุณนะคะที่มางานวันเกิดของมีมี่…เดี๋ยวไปไหว้พ่อไหว้แม่มีมี่ก่อนนะคะ” มีมี่มองนารินทร์ด้วยสายตาดูถกเหยียดหยามและรังเกียจ แต่นารินทร์ก็ไม่หวั่นอยู่แล้ว…ลองเดินตามเกมของยายมีมี่หน่อยจะเป็นอะไรไป นารินทร์สะบัดมือออกจากวายุและเดินตรงไปหาอะไรลงท้องเสียหน่อยแต่ก็ถูกเสียงของวายุดึงตัวเองไว้เสียก่อน
“นารินทร์ ไปกับพี่สิ”
“ไม่เอาอ่ะ พี่วายุไปเลยนาอยากหาอะไรกินสักหน่อย…ไปเร็วๆสิ อย่าให้พี่มีมี่เค้ารอนาน” วายุจึงยอมเดินตามมีมี่ไปอย่างว่าง่าย และจังหวะนั้นเองมีมี่ก็ขยิบตาส่งซิกให้กับเพื่อนๆของเธอลงมือจัดการนารินทร์ให้อยู่ห่างวายุทันที
“แล้วแกจะรู้สึก” มีมี่ยิ้มอย่างร่าเริงแล้วพาวายุไปไหว้พ่อไหว้แม่จนครบวงศาคณาญาติของเธอ แล้วก็ควงวายุเดินคุยกับเพื่อนของเธอหน้าตาเฉย โดยที่วายุไม่ได้เต็มใจสักนิดเดียว ส่วนนารินทร์ที่ยืนมองอยู่ก็ส่งสายให้วายุเชิงบอกว่าให้ยอมๆไปวายุจึงต้องปั้นหน้ายิ้มให้กับเพื่อนๆของมีมี่อย่างฝืนๆ
“น้องคะลองชิมนี่สิคะ…ว้ายยยยย ขอโทษค่ะ เปียกหมดเลยเดี๋ยวพี่พาไปล้างตัวนะคะ” นารินทร์พยายามสะกดอารมณ์ให้เย็นลงไว้ หลังจากมีผู้หญิงที่นารินทร์คาดว่าจะเป็นเพื่อนกับมีมี่จงใจสาดไวน์ใส่นารินทร์อย่างตั้งใจ แต่เสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่ได้ตั้งใจ
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้เปียกมาก” นารินทร์ปฏิเสธความหวังดีจอมปลอม ถึงจะบอกว่าไม่เปียกมากแต่มันก็ทั้งหน้าทั้งเสื้อจนเกือบจะลามไปถึงกางเกง
“น้องแน่ใจนะ”
“ครับ แน่ใจสิครับ” นารินทร์ยกยิ้มฝืนๆให้แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการกับสภาพตัวเอง แต่ในขณะที่นารินทร์กำลังยืนส่องกระจกอยู่นั้น ก็มีผู้เข้ามาใหม่เกือบสิบคนมีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ดูด้วยสายตานารินทร์ก็พอจะเดาออกว่า คนพวกนั้นไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อย เพราะด้วยลักษณะท่าทางของพวกเค้าและการพูดจีบปากจีบคอแบบนั้นอีก แต่นารินทร์ก็ไม่ได้สนใจเพราะถือว่าไม่ใช่เรื่องของตน
“นี่ๆแก เคยได้ยินข่าวบ้างไหม ว่าตอนนี้พี่วายุกำลังคั่วกับรุ่นน้องคนหนึ่งอยู่น่ะ แถมเป็นผู้ชายด้วยนะ”
“จริงหรอแก แต่ฉันว่าก็คงจะมาแบบเดิมแหละมั้ง สักพักเดี๋ยวเด็กนั่นก็คงจะโดนสลัดทิ้ง” ผู้หญิงคนหนึ่งจงใจพูดกระแทกใส่หน้านารินทร์อย่างจัง แต่นารินทร์ก็ยังคงนิ่งและสงบราวกับพวกเธอเป็นธาตุอากาศที่ไม่อาจจับต้องได้ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนที่มาหาเรื่องนารินทร์อย่างมาก
“น้องมีความเห็นว่าไงกับเรื่องนี้บ้างไหมคะ” ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มถามนารินทร์ขึ้น
“ไม่มีครับ” นารินทร์หันไปยิ้มตอบอย่างเยือกเย็น เพราะตอนนี้ในใจของนารินทร์กำลังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟกับคำพูดของต่างๆที่หลุดออกมาจากปากของพวกขยะที่ยืนล้อมเค้าอยู่
“ค่ะ แต่พี่อยากจะตบไอ้เด็กคนนั้นให้หมอไม่รับเย็บเลยล่ะค่ะ” นารินทร์ที่จัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงหันหน้าไปเผชิญกับกลุ่มบุคคลที่ไม่รู้ว่ากำลังจะเจอกับอะไร
“พี่อยากจะพูดอะไร ก็พูดมาเลยดีกว่าครับ…หรือถ้าอยากจะตบล่ะก็…จะรออะไรอีก” นารินทร์ยิ้มอย่างยั่วโมโห และมันก็ได้ผลเพราะมันทำให้รุ่นพี่กลุ่มนั้นแทบพ่นไฟเพราะความมึนของนารินทร์
“แกอย่าท้าฉันนะ!!!…มีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับพี่วายุของเพื่อนฉัน มีมี่น่ะเค้ามาก่อน สวย รวย และฉลาด ไม่ได้ดูเป็นเด็กกะโปโลอย่างแกสักนิดเดียว”
“งั้นหรอครับ กล้าพูดดีนะครับ พี่วายุของมีมี่…อยากจะหัวเราะให้กระเพาะครากซะเหลือเกิน”
“เพี๊ยะ!!! เพี๊ยะ!!!” สิ้นเสียงของนารินทร์ ฝ่ามือของหญิงสาวก็ตบลงไปที่ใบหน้าของนารินทร์สองทีจนเกิดรอยแดงเป็นรูปนิ้วทั้งห้านิ้ว คนทั้งสิบกว่าคนยืนมองด้วยความสะใจ โดยหารู้ไม่ว่าความอดทนของนารินทร์ได้ขาดผึงลงเรียบร้อยแล้ว และสิ่งที่กำลังตามมานั้นน่ากลัวเกินกว่าคนธรรมดาอย่างพวกเค้าจะต่อกรได้
“หึ…สำหรับความปากดีของแก!!!” นารินทร์ยกยิ้มขึ้นอย่างเย็นชาและจ้องหน้าคนทั้งกลุ่มด้วยสายตาที่แสนจะน่ากลัว ทำให้ในห้องน้ำรู้สึกหวั่นๆกับสายตาคู่นั้น แต่ก็เพราะด้วยจำนวนคนที่มากกว่าจึงคิดว่ายังเสีย นารินทร์ก็ไม่มีทางทำอะไรได้มาก…แต่พวกเค้าคิดผิด
“คุณรู้อะไรไหม…ว่าพวกคุณทำแบบนี้ไม่ฉลาดเลยสักนิดเดียว…ปัง!!! …ปัง!!! …ปัง!!! …ปัง!!! …ปัง!!!” ประตูห้องน้ำทั้งหมดอยู่ๆก็กระชากปิดเอง รวมทั้งประตูใหญ่ของห้องน้ำด้วย ฟ้าเริ่มส่งเสียงคำรามอย่างกู่ก้อง แต่คนที่อยู่ในงานก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ต่างกับวายุที่รู้สึกถึงความผิดปกตินี้…นารินทร์
“อ๊ายยยยยย กรี๊ดดดดดดด อะไร!!! แกทำอะไร!!!” นารินทร์จ้องมองพวกนั้นจนตาค้างกันเป็นแทบ เพราะด้วยอำนาจทางสายตาของนารินทร์ที่กำลังเปล่งแสงสีแดงออกมาอย่างชัดเจน พร้อมกับจำนวนงูมากมายที่เลื้อยอยู่ในห้องน้ำส่งเสียงขู่อย่างดุร้าย
“กลัวหรอครับ…ทีเวลาทำคนอื่น ทำไมไม่เห็นจะกลัวบ้าง!!!” นารินทร์พูดกดเสียงต่ำอย่างน่ากลัว ทำเอาบางคนนั้นกลุ่มนั้นทนไม่ไหวปลดปล่อยน้ำปัสสาวะคากางเกง นารินทร์ที่กำลังสนุกกับอาการหวาดกลัวของคนเหล่านั้น ก็ถูกเสียงของใครขัดเอาไว้เสียก่อน
“นารินทร์!!!...นารินทร์อยู่ในนั้นใช่ไหม เปิดประตูให้พี่เดี๋ยวนี้นะ!!!” วายุที่วิ่งกระหืดกระหอบมาหานารินทร์พูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจ ถึงแม้จะรู้ว่าบุคคลในงานนี้ทำอะไรนารินทร์ไม่ได้ก็ตามแต่วายุก็ยังคงเป็นห่วงอยู่ดี
“ชิ ดันมาเร็วซะได้ รอดตัวไปนะพวกคุณ” นารินทร์ทำหน้าเบื่อใส่แล้วเดินไปเปิดประตูห้องน้ำ ทันทีที่ประตูเปิดออกวายุก็เข้ามาดูอย่างร้อนรน และมันก็เป็นไปตามคาด…งูเงี้ยวเขี้ยวขอมากมายขนาดนี้ไม่มีทางเป็นฝีมือใครไปได้นอกจากนารินทร์ วายุจ้องหน้านารินทร์เป็นเชิงเตือนว่าทำเกินไป แต่นารินทร์กลับสะบัดหน้าหนีอย่างไม่สนใจ
“พวกฝ้ายเดินออกมานี่” วายุฉุดกระชากคนเหล่านั้นออกมาจากห้องน้ำด้วยความยากลำบากนิดหน่อย เพราะพวกนั้นตัวแข็งเหมือนถูกสาปไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวายุเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็หันมาจัดการเคลียร์คนของตัวเองบ้าง แต่เมื่อเห็นรอยบนหน้าของนารินทร์ก็ทำให้วายุแทบจะระเบิดอารมณ์โกรธออกมา
“ใครเป็นคนตบนารินทร์!!!” วายุตระโกนถามอย่างเลือดขึ้นหน้า ซึ่งนารินทร์ก็ห้ามปรามไว้เพราะตัวเองจัดการด้วยตัวเองไปแล้ว แต่วายุก็ยังไม่ยอม
“กูถามว่าใคร!!!...ถ้ากูรู้เองทีหลัง…กูเอาตาย!!!” เสียงก้องกังวานของวายุทำให้เกิดลมกรรโชกแรง ต้นไม้พัดปลิวจนแทบจะโค่นล้มลง น้ำในสระกระพือสั่นไหวอย่างเชี่ยวกราก ทำให้ปาร์ตี้วันเกิดของมีมี่หมดสนุกทันที ต่างคนต่างขอตัวกลับบ้านเพราะขนลุกกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยฝีมือวายุ
“เฮ้อ…พี่วายุบ้า” นารินทร์พูดอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเดินนำออกไปที่รถซึ่งวายุก็ได้แต่วิ่งตามไปง้อคนรักของตัวเองด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ้างเหตุผลร้อยแปดพันเก้า ต่างกับก่อนหน้านี้ลิบลับที่คำรามกึกก้องไปทั่วนภาเพื่อถามหาตัวคนที่บังอาจทำให้นารินทร์มีรอยแดงบนหน้า…วายุพานารินทร์ไปส่งบ้านและกลับบ้านของตัวเองทันที โดยที่ไม่ได้รับรู้เลยว่าภัยใหญ่กำลังจะมาถึงตัวของวายุในอีกไม่ช้า