+
บุพเพวายร้าย(สอง)
20.70%
ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูจากด้านนอก ผมรีบเปิดประตูออกมาดู
จักร!?
“ เอ้านี่ ใส่ให้เรียบร้อย! อุตจาดตา” จักรบอกยื่นสื้อในมือให้ ผมยังงงๆ จักรเห็นไม่ทันใจเลยยัดเสื้อกางเกงใส่มือผมก่อนที่เดินลิ่วๆไปนั่งเก้าอี้ตัวเดิมแต่พอก้นแตะเก้าอี้เท่านั้นแหละ กลับลุกพรวดขึ้นแล้วเดินออกไปนอกห้อง
??
ผมมองเสื้อยืดในมือ ใจดีกับผมจังอย่างงงๆนะครับ ^^
**
**
ผมออกจากห้องน้ำ จักรก็ยังไม่กลับเข้ามาในห้อง ผมคิดว่าคงจะอยู่ข้างล่างนั่นแหละ ผมก็ลงมากินข้าวตามที่จักรบอกว่ามีกับข้าวอยู่ ลงมาด้านล่างจักรนอนดูโทรทัศน์ เอามือเท้าใบหน้า มืออีกข้างยื่นกดรีโมทไปเรื่อยๆ
“ ไม่มีใครอยู่เลยเหรอจักร?” ผมถามยังยืนอยู่ปลายบันได
“ แล้วเห็นใครอยู่ป่ะ?”
“ .....................” (ผม)
“ ไปซื้อของ” จักรพูดอีกไม่ได้หันมา ผมเลยเดินเข้าไปในครัว บนโต๊ะกลางห้องมีฝาชีสีเขียวครอบไว้ ผมเปิดดู มีผัดสารพัดผักยิ่งกว่าผัดรวมมิตร ผักที่ผมพอจะรู้ก็มีแครรอท คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง กระหล่ำหลี และน่าจะมีอย่างอื่นอีก อีก 2 อย่างเป็นหมูย่างเป็นไม้เล็กๆ 3 ไม้ และแกงจืดไข่ เต้าหู้
“.............” น่ากินครับถึงผมไม่หิวแบบนี้ก็ตาม ผมมองหาข้าว เห็นหม้อข้าวก็เปิดดู ข้าวเย็นหมดแล้ว
ผมตักข้าวใส่จานแล้วยกมานั่งกินบนโต๊ะ กินไปก็คิดไป ว่าทำไมจักรยังให้ผมอยู่กินข้าวต่อ หรือว่าต้องการอะไรกันแน่ แต่ว่าท่าทีน้องเขาก็เปลี่ยนไปมากในความรู้สึกของผม ถึงแม้จะพูดห้วน สายตาเหมือนโกรธผมอยู่ตลอดก็ตาม แต่ก็ไม่พูดจารุนแรงหรือด่าท่อผม
บางทีจักรอาจจะมองผมในแง่ดีบ้างแล้ว..
ถ้าเป็นแบบนั้นคงดี ผมจะดีกับจักรมากๆ ให้จักรเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดที่เลือกผม ...
ขณะที่ผมกำลังกิน จักรก็ดินเข้ามา ผมหันไปยิ้มแบบปิดปากสนิท เพราะข้าวเต็มปาก
“ กินเสร็จ ก็ช่วยออกไปจากบ้านกรูด้วย” จักบอก ข้าวในปากกลายเป็นขมกลืนไม่ลงคอ ผมรีบกินน้ำไล่ข้าวลงคอ ก่อนที่จะถาม
“ ทำไมล่ะจักร?”
“ ก็นี่บ้านกรู” จักรว่าเดินออกไป ผมลุกพรวดตามหลังไปติดๆและดึงแขนจักรไว้ไม่ให้เดินหนี
“ จักรเป็นอะไรของจักร รู้ไหม พี่ไม่รู้ต้องทำยังไง พี่ไม่เข้าใจจักรเลย” จักรหันมาจ้องหน้าผมก่อนที่ไล่สายตาลงมือผมที่จับมือจักรไว้ว่า ‘ให้ปล่อย’
“ ไม่ต้องทำอะไร มรึงเคยเป็นยังไงก็เป็นอย่างงั้น..”
“ จักร ให้โอกาสพี่เถอะ” ผมว่า ไม่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความมั่นใจเอาขนาดนี้ได้ยังไง อาจจะเป็นการถูกปฎิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ค่าของตัวเองมันลดลงและลดลง
“ .............” จักรหันหน้าไปมองอีกด้าน ไม่พูด
“ นะ”
“...................”
“ หรือจักรคิดว่าพี่แค่เล่นๆ มันไม่พอที่จะเชื่อได้เลยเหรอ กับสิ่งที่พี่ทำ”
“ เอาอันไหน........?” จักรหันกลับมา สบตากับผม ใบหน้าบ่งบอกว่ามีหลายสิ่งไม่เข้าใจ
เอาอันไหน?
“.......?........”(ผม)
“ เอาที่มรึงข่มเหงจิตใจ ร่างกายกรู หรืออะไร?” สายตานั้นนิ่งงั้น แต่หากมองภาพร่วมจะเห็นว่าดวงตาเริ่มมีสีแดง
“ ทุกอย่าง” เสียงผมแหบพร่า เพราะมันพูดได้ลำบากหลือเกิน เพราะหลายอย่างที่ทำกับจักร แม้จะรู้ว่ามันไม่ดีไม่ถูกไม่ควร ผมก็ทำทั้งที่ไตร่ตรองแล้ว
“ .................เวลากรูทำอะไรขัดใจ มรึงก็จะข่มขืนกรูอีกใช่ไหม?” เสียงแหบหาย
“ ขอโทษจักร ขอโทษ” ผมว่าน้ำตามันเหมือนจะรื้อขึ้นมาตามขอบตา
ผมผิด แต่อย่างงั้นก็คิดว่ามันช่วยไม่ได้ ผมยิ่งคิดแบบนั้นผมก็ยิ่งรู้สึกผิด!
“ มรึงบอกว่าไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับกรู มรึงไม่ต้องทำหรอก กรูไม่อยากได้ ..”
“ จักร?” ทำไมถึงผลักไสผมทุกอย่าง
“ กรูไม่ต้องการแบบนี้ ขอร้องเถอะอย่ามายุ่งกับกรู”
“ ..............” ผมรู้ว่ายากที่จะให้คนมารักเรา และถ้าคนนั้นยิ่งเกลียดเราแล้วด้วย
“ มรึงคงไม่รู้หรอกว่า ที่กรูให้มรึงอยู่ถึงตอนนี้มันมากกว่าที่กรูคิดไปแล้ว เพราะงั้นอย่าเข้ามาในชีวิตกรู อย่าทำให้กรูต้องเป็นแบบนี้ ให้กรูได้ใช้ชีวิตปกติ”
แล้วอะไรที่มันไม่ปกติ แค่ผมรักจักรแค่นี้เหรอที่บอกว่าไม่ปกติ
“ ทำไมจักร?”
“ อย่าถาม ถ้าอิ่มแล้วก็กลับไป” จักรว่าดึงแขนตัวเองกลับไป แต่ผมกลับดึงจักรเข้ามากอดแทน
“ จักร จักร จักรเห็นใจพี่บ้าง” น้องเขาดิ้น
“ มรึงเข้าใจไหม กรูกับมรึงเป็นผู้ชาย!!” “ ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจ!” ผมบอก จักรยิ่งดิ้นใหญ่ ผมยิ่งกอดแน่น จนในที่สุดจักรก็หมดแรงในวงแขนรัดแน่นของผม
จักรตัวอุ่นกว่าปกคิ ถ้าจะยังไม่หาย....
“ ...................”( ใบหน้าจักรซบอยู่แนบกับอกผม)
“ ฟังเสียงหัวใจพี่..ว่ามันรู้สึกยังไง”
“ ไม่อยากฟัง!” ตอยังนิ่งอยู่ ถ้าผมได้กอดจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆก็คงดี
“ ..........แต่พี่กอดจักรอยู่ ยังไงก็ได้ยินเสียง”
“ บังคับ!”
“รักนะ” ผมบอก ก้มลงมอง ใบหน้าที่แนบกับอก
“ ไม่อยากรู้!”
“ แต่ก็รู้แล้ว ช่วยรับไว้พิจารณาด้วย”
“ ไม่!” จักรตอบเอามือดันตัวผมออกไปอีกแล้ว แต่ผมกอดแน่นขนาดนี้ เรียวแรงผมก็มากกว่าเห็นๆทำไปก็เปล่าประโยชน์
“ นะครับ คนดี”
“ มรึงมันชั่ว ไม่เหมาะกับกรูที่เป็นคนดี!” พูดซ่ะผมเจ็บเลย
“ ....................”
“ ปล่อ
ยดิ!” “ อยากปล้ำคนพูดไม่รู้เรื่อง” ผมบอก จ้องหันมาจ้องผมตาเขม็งเอาเรื่อง
“ มรึงเอาเลย กรูจะได้ตายๆไปสักที!”
“ พี่แค่ล้อเล่นเอง” ผมบอกรู้สึกผิด เมื่อกี้ก็แค่พูดไปเฉยๆ
“ กรูไม่ชอบเรื่องล้อเล่นของมรึง”
“ พี่ไม่ทำหรอก ถ้าจักรไม่ยอม” ผมบอกคิดว่า จากนี้ถ้าจักรไม่ยอมผมไม่ทำ
“ พูดอย่างกะว่ากรูเคยยอมมรึง”
ยิ่งพูดยิ่งคุย เรื่องยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ผสมปนเปกันไปหมด จนไม่รู้ว่าเรื่องไหนมันคือเรื่องหลักกันแน่
“ ................” ผมเงียบ
จักรดิ้น ผมก็กอดแน่นเหมือนเดิม
“....................”
นานเป็น 10 นาที ที่ผมกอดจักรอยู่ และพอจักรคิดว่าผมเผลอก็ดิ้นนึกว่าจะหลุดแต่ผมไม่มีเผลอครับ เพราะคิดไว้อยู่แล้ว
ราวๆ 10 นาทีจาก 10 นาทีเดิมที่ผ่านไป
“ ปวดขา” จักรบอก
“ พี่ปวดแขน”
“ ปล่อยดิ!”
“ ไม่ปล่อย เดี๋ยวเมียหนี” ผมบอกตามความจริงที่คิด
“ ใครเมียมรึง!?”
“ กอดอยู่นี่ไง” เอาวะหน้าด้านได้เรื่อยๆ
“ กรูไม่ใช่เมียมรึง!”
“ ......................”ผมเงียบอีก
จนจักรพูดขึ้นเอง
“ ป ล่ อ ย ! กรูร้อน”“บอกใคร?” ผมถามทั้งที่จักรว่าผม
“
บอกมรึงนั่นแหละ!” “ พี่ไม่ได้ชื่อมรึง”
“ .............มรึง มรึง!? นั่นแหละ....”(จักรเอามือทุบอกไปด้วย)
“ .............”(ผม)
“ ปล่อยกรู!” “ พูดเพราะๆหน่อย ค รั บ ” ผมบอก แต่ดูเหมือนสั่งก็มันรู้สึกขัดใจไม่เสียหมด เพราะทุกอย่างมันไม่เป็นดังหวังดังใจ
“ ไม่!” “ งั้นก็ยืนอยู่แบบนี้แหละ ดูสิว่าใครจะหมดแรงก่อน”
“ เ ล ว” “ ................” ผมเงียบ
“ .................”(จักร)
“ ..............”(ผม)
“ พี่ปล่อยผมเถอะ” จักรเป็นฝ่ายพูดก่อน ผมโล่งใจครับ นึกว่า...เพราะผมก็เหนื่อย เมื่อยแล้วยืนกอดจักรแบบนี้เกือบชั่วโมงแล้ว
“ พี่อะไร?” ผมถามเสียงยาวแต่เสียงแข็งเพรารู้ว่าตัวเองได้เปรียบ
“ .................................พี่ชนะปล่อยผมเถอะ ผมเหนื่อย ร้อนด้วย”
“ ขอหอมทีหนึ่ง” ผมว่า จักรเอาตากลมๆมองขึ้นมาเขียวปั๊ด ผมยิ้ม
“ ได้คืบจะเอาศอก!” จักรบอก พอพูดจบผมก็เอาจมูกซุกแก้มนิ่มๆจักรทันที และจักรก็เอาหน้าซุกอกผมหนีทันทีเหมือนกัน
“
ป ล่อ ย โ ว้ ย! ยี้!! ” จักรร้อง
“ หอมจังแก้มเมียพี่” ผมว่าขณะกำลังตามแก้มเนียนที่หันซ้ายหันขวาหนี แต่หนีไปไหนไม่ได้
“ ปล่อย ไอ้เลว ไอ้ฉวยโอกาส ไอ้ หื่น ป ล่ อ ย ! ” ผมปล่อย
“..........” จักรผลักตัวผมเดินถอยห่างออกไปทันที!
“
มรึง! ออกไปจากบ้านกรู!!” จักรชี้หน้า(หน้าแดงเถือก ไม่รู้ว่าจะเกิดจากการเอาหน้าไถอกผมเมื่อกี้หรือเปล่า หรือว่าอย่างอื่น)
“ ไม่ออกจะกินนอนอยู่นี่แหละ” ผมบอกยักไหล่
เอาไงเอากันวะ จะทำอะไรก็ไม่ดีขึ้น
“ หน้าหน้าทน!” จักรบอกเอามือถูแก้มจนแดงแทบเป็นสีเลือด ทำเป็นรังเกลียด
หมั่นไส้โว้ย!! แต่อดทนไว้ ความรู้น้อยใจเก็บมันไว้ในอก
“ .............” ผมไม่พูดยักคิ้วข้างขวา พร้อมรอยยิ้มรับว่าผมมันไอ้หน้าด้าน มองว่าผมเลว ผมชั่ว เพิ่มอีก 1 กระทงคือหน้าด้าน แค่นี้เบาะๆครับ
!??? แต่ทว่า จักรก็เซถอยหลังที ด้านข้างทีครับ
ผมรีบเดินไปหา หรือว่าไข้จะกลับมาอีก เพราะจักรก็น่าจะยังไม่หายดี จักรที่อาการหนักขนาดนั้นไม่น่าจะหายในคืนเดียว แต่ด้วยทิฐิส่วนตัวคงทำเก่งไปงั้นแหละ
“ จักร!?” ผมว่าเดินเข้าไปหา
“ อย่าเข้ามาใกล้กรู!” จักรว่ายื่นแขนออกมากาง 5 นิ้ว
“ ลืมแล้วเหรอ พี่หน้าด้าน” ผมบอกแล้วอุ้มรวบขาลอยขึ้น(คิดเสียว่าอุ้มเขาหอล่วงหน้า)
“
ปล่อยกรู! มรึงนี่มัน” จักรพูด แต่สุดท้ายผมก็อุ้มขึ้นบันได้ เข้าไปห้องวางลงบนเตียงจนได้ ก่อนที่จะพูดว่า
“ นอนตรงนี้แหละ ลองลุกขึ้นสิ พี่จะปล้ำให้ลุกไม่ขึ้น”
“ เอะอะปล้ำ เอเอะก็ปล้ำ มรึงคิดเป็นเรื่องเดียวหรือไง!” จักรว่านอนนิ่งๆบนเตียง ท่าทางคำขู่ผมจะได้ผล เพราะจักรยอมฟัง
แต่ก็รู้ว่าไม่ชอบนั่นแหละถึงยกมาอ้าง
“ คิดเป็นเรื่องเดียวนี่แหละ ไม่เชื่อลองดู!” ผมบอก แต่ไม่ได้คิดอย่างที่พูดนะครับ แค่ขู่เฉยๆใครจะคิดแต่เรื่องบนเตียงอย่างเดียว ถึงจะหื่นแต่มีช่วงเวลา(บ้าง)ครับ^^
“ ไอ้--------------!” จักรพูดได้แค่นั้นครับ เพราะคงจะคิดหาคำว่าด่าผมไม่ออก เพราะคำไหนก็ด่ามาหมดแล้ว(มั้ง)
“ พี่ยังกินข้าวไม่อิ่ม เดี๋ยวลงไปกินข้าวต่อ พอพี่กลับขึ้นมา ถ้าไม่อยู่บนเตียง คงรู้นะพี่จะทำอะไร?” ผมบอก เลียริมฝีปาก จ้องจักรตั้งแต่หน้าจรดปลายเท้า จักรทำท่ารังเกลียดโดยไม่ปิดบัง
ผมเดินออกไปพร้อมเสียงหัวเราะหึๆในลำคอเป็นการขู่อีกทางหนึ่ง อยากทำเก่งดีนัก
“...............”
*** *** ***
อย่างที่ท่านknightofbabilon และท่านมิน[parynaw] ว่าเจ้าค่ะว่าตอนที่แล้วเป็น 19 แต่เจ้าหญิงลงเป็น20 ขอบคุณที่เน้อบอกกัน
มาดูแล้วนี่มันตอน 20 เองเหรอ ทำไมถึงช้าเช่นนี้
จิ้ม 0 +1 ท่านmimirin และท่านzombi
+1 หลายๆท่านเรื่อยๆด้วยเน้อ เท่าที่กดได้ T^T