คุณครับ...ได้(ฟัน)ผมแล้วก็มารักกันเถอะครับ บทที่ 59/60 พิเศษ UP 6/1/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณครับ...ได้(ฟัน)ผมแล้วก็มารักกันเถอะครับ บทที่ 59/60 พิเศษ UP 6/1/55  (อ่าน 805519 ครั้ง)

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ Pamphlet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 529
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
มาต่อตอนต่อไปเร็วๆนะคะ...อยากอ่านต่อแล้วววว  :L2:

sakuracity

  • บุคคลทั่วไป
บ้านน้ำท่วมป่าวคับคุณคฑา??? สู้ๆนะ  มาต่อเร็วๆนะครับกำลังหนุกมากๆ

DasHimmel

  • บุคคลทั่วไป
เชิงชายน่าสงสารที่สุด ไม่อยากให้ป่วยแบบนี้เลยอ่า TT
เบนนี่ก็มาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว แถมเอาแม่มาอีก!!
สับสนว้าวุ่นใจแทนกาย - - ตอนนี้แต่ละคนก็รุกซะ
คเชนทร์ก็ตัดออกไปแล้ว พฤศแน่ๆเลย ใช่มั้ยคะ???
แล้วเจนจิราเป็นสายให้วรุจน์รึป่าวเนี่ย รอลุ้นต่อค่า :)

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
เจนจิรางั้นเหรอ หวังว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่ใช่สปายนะเพราะถ้าใช้หละวุ่นแน่
เฮ้อ  อ่านตอนนี้แล้วสงสารกายแหะ  สับรางไปสับรางมาระวังรถไฟชนกันเองนะ
แม่ของเบนนี่ก็ประหลาดสุดยอด  ลูกชายชอบผู้ชายดันไม่ว่าอะไรซะงั้น  นึกว่าจะตัดคู่แข่งได้อีกหนึ่งซะอีก
อยากให้กายใช้หัวใจเลือกคนที่คู่ควรแทนใช้สมองเลือกจัง
ยังไงก็เชียร์ท่านประธานต่อไป
:กอด1:

ออฟไลน์ kingkakingka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มาต่อไวๆนะค่ะ :pig4: :pig4:

แต่เจนจิราเป็นไส้เหรอ??

ออฟไลน์ kazhiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-2

theman92

  • บุคคลทั่วไป
สนุกกกที่สุดดดดดดดดดด
รอๆๆๆๆไรเตอร์ๆๆๆ
เมื่อไหร่จะลงซักทีคับ
ลงช้าอย่างนี้ต้องลงโทษเอามาลงเยอะๆนะคับ
55
สงสารนายเอกโคตรรร

ออฟไลน์ patchybelle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ในที่สุดก็ตามทัน
เราชอบคเชนท์แต่เชียร์ท่านประธานอ่ะ

ยังมึนอยู่

เจนจิรา?

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
อ่านรวดจนตาแฉะเลยค่ะ ชอบมาก คุณคฑา หลอกล่อคนอ่านตลอด พอคิดว่าคนนี้ใฝ่ ดันพลิกเสียอีก แถมยังมีปม มีปัญหาให่คนอ่านมาลุ้นด้วย

มีคนมารุมรักขนาดนี้ แถมยังรุกซะขนาดนี้ กายคงประสาทกินแล้วนะคะนี่ อยากเลือกแต่เลือกใครไม่ได้เลย แต่ถ้าปล่อยคาราคาซังทุกคนก็ต้องเจ็บ

สงสารนายเอก แต่ก็สงสารหนุ่มๆ โดยเฉพาะเคนนี่(รูสึกสงสารเป็นพิเศษT T) แต่เชียร์คุณรุจน์นะ (อ่านมา42 ตอนยังเดาไม่ได้เลยใครเป็นพระเอก ล้ำลึกกว่าเรื่องสถาปนิกเยอะเลยค่ะ)

รอตอนต่อไปค่ะ

ปอลิง ไม่ใช่สุดท้ายตัดปัญหาด้วยการให้กายตายหรอกนะ - -

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ oilzii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0

ออฟไลน์ +S+

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
พี่วุธ หายไปไหนเเล้วค๊าบบบบบ ถ้าที่บ้านน้ำไม่ท่วมมาเเต่งต่อด้วยค๊าบบบบ T^T

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
แอบอยากเดาเลยขออีกเม้นเน่อ  555

คนที่กดนายเอกของเราเป็นพฤศใช่ป่ะ สมมติแบบสั่ว รอยสักมังกรเป็นรูปเลขแปด อาจบอกถึงเดือนเกิดก็ได้ พฤศอาจย่อมาจากพฤศจิกายนก็เป็นได้ แล้วตามปฏิทินอะไรสักอย่าง เค้าให้เมษาเป็นเดือน1 ดังนั้นเดือน พ.ย. จฑทเป็นเดือนที่8 คล้แงกับรอยสักพอดี

ทฤษฎีบ้านไหนไม่รู้แต่อยากเดาอ่ะ 555

รอตอนใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ Theodore

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ emmybblood

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
หวังว่าคุณคฑาและครอบครัวจะไม่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้องน้ำนะจ๊ะ

ยังไงก็ส่งข่าวหน่อยน้า คนอ่านที่รักเป็นห่วง

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4
กลับมาเถิด ที่รักกกกกกกก
กลับมาหา ช้านนนนนน
เมื่อไหร่จะกลับมา

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

mixmix

  • บุคคลทั่วไป
ประกาศตามหาตัวผู้เขียนค่า หายไปหลายวันแล้วน๊า หรือโดนน้องน้ำลักพาตัวไปแล้ว  o22

nueng_w

  • บุคคลทั่วไป
กลับมาได้แล้วนะครับ......คึดถึ......ง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
สัปดาห์ที่ผ่านมาใช้เวลาว่างนั่งอ่าน(ยืนบ้าง55)เรื่องนี้จนทันตอนปัจจุบัน
สนุกมากค่ะ เนื้อเรื่องน่าติดตาม ปวดหัวตามกายด้วย เป็นเราก็ไม่รู้จะเลือกใครเนอะ555
ขอเดา(ค่อนข้างมั่นใจ) ว่าผู้ชายคนนั้นต้องเป็นท่านประธาน  ชัวร์!
ทุกอย่างมันชี้ไปที่คนนี้อ่ะ ตงิดใจตั้งแต่ให้ไปตรวจสุขภาพเร็วกว่ากำหนดแล้ว
มันคงกลัวเอดส์เหมือนกัน555
ต้นเหตุจริงๆ น่าจะเป็นเพราะวรุจน์ให้ซัมเมอร์จัดฉากทำลายชื่อเสียงท่านประธาน แก้แค้นให้น้องชาย
วางยาทั้งสองคน แต่เราไม่แน่ใจว่าไอ้ซัมเมอร์มันพลาดหรือตั้งใจให้เป็นกาย
แต่กายก็ซวยไป กลายเป็นเครื่องมือแก้แค้นให้คนพวกนี้
ท่านประธานก็นึกว่ากายเป็นคนของฝั่งโน้นอีก ซวยจริงๆ
แต่โลกมันจะกลมอะไรขนาดนั้น ทุกคนที่เคยเกี่ยวข้องกับอรัญกลับต้องมาเกี่ยวพันกับกายอีกครั้ง
กายคงมีอะไรคล้ายอรัญมากแน่ๆ เลยดึงดูดคนพวกนี้เข้ามา ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย :เฮ้อ:
แต่ที่เราคาใจ ใครคือไอ้แมน ที่ปล่อยภาพกายในเฟส ไม่คิดว่าวรุจน์จะทำได้
เราสงสัยไอ้ลูกคุณหนูที่เป็นแฟนเก่าคเชนทร์ แต่ไม่เข้าใจว่ามันจะได้รูปไปได้ยังไง
ติดตามนะคะ

RanJeri

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeysad: :monkeysad: ร๊อ รอ กายเมื่อไรจะมาเน้อ

filmybutter

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงคุณจังเลย กาย

nueng_w

  • บุคคลทั่วไป
อื้บๆ
เจ้สองใช่ไหมคับ......ช่วยบอกคนเขียน มาต่อเร็วน่อยนะครับ คิดถึงจะแย้แล้ว

ออฟไลน์ LittlePrince

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ข้อควรระวังถึงข้อความข้างบน

อย่าพยายามเดามากเดี๋ยวจะเกิดภัยพิบัติกับเนื้อเรื่อง
ถ้าเดาก็อย่าให้แม่นมาก

ด้วยความหวังดี คริๆ

mixmix

  • บุคคลทั่วไป
ข้อควรระวังถึงข้อความข้างบน

อย่าพยายามเดามากเดี๋ยวจะเกิดภัยพิบัติกับเนื้อเรื่อง
ถ้าเดาก็อย่าให้แม่นมาก

ด้วยความหวังดี คริๆ

เห็นด้วยค่ะ เพราะมีคนเดาถูกเลยเปลี่ยนเนื้อเรื่องกันมาทีแล้วเรื่องนี้ 555+  :laugh:

ออฟไลน์ Theodore

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ความคิดถึงช่วยผลักดัน...

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
โทดทีที่ให้รอนานนะครับ สุขสันต์วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำในครองล้นตลิ่ง พวกเราทั้งหลายชายหญิง (เกย์ด้วย) สนุกกันจริงวันลอยกระทง
...เขียนนิยายเรื่องนี้ขอสารภาพว่าเหนื่อยและปวดหัวจริงๆ เรื่องต่อไปจะให้ตัวละครน้อยกว่านี้เยอะๆ ...


Guy Chapter 43

ท่าทางวรุจน์ดูเหนื่อยอ่อน ร่างสูงใหญ่นั่งเอนตัวอยู่บนเตียง มีหนังสือพิมพ์หลายฉบับวางอยู่รอบๆ เหนือโต๊ะหัวเตียงมีรูปภาพขนาดใหญ่ในกรอบไม้สีน้ำตาลเข้มแขนอยู่บนผนัง เป็นรูปวรุจน์ยืนอยู่กับชายหญิงชาวตะวันตกสี่คนซึ่งกายจำได้ว่าสองในสี่คนนั้นคือปู่กับย่าบุญธรรมของวรุจน์ที่เขาเคยพบ
“คุณกาย” วรุจน์พูด ยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อเห็นกายเดินเข้าไปในห้อง
“ดีขึ้นหรือเปล่าครับ” กายถาม
“ครับ ดีขึ้น” วรุจน์พยักหน้าแล้วพูดต่อว่า “คุณหายไปเลย ตั้งแต่ที่คุณมาเยี่ยมผมวันนั้นคุณก็หายไป”
“ผมมีเรื่องยุ่งๆ ครับ” กายตอบ
“แปลกนะ คนที่เป็นเพื่อนสนิทกันน่าจะมาเยี่ยมกันบ่อยๆ” วรุจน์เน้นเสียงที่คำว่าเพื่อนสนิท กายรู้ได้ทันทีว่านั่นเป็นน้ำเสียงประชด
“เพื่อนผมเข้าโรงพยาบาลเหมือนกันกัน เป็นลูคีเมีย”
“เพื่อนชื่ออะไร” วรุจน์ถาม
“เชิงชายครับ” กายตอบ
“แล้วอาการดีขึ้นหรือยังครับ ถึงมาเยี่ยมผมได้”
“กลับไปอยู่ที่บ้านแล้วครับ” กายตอบเบาๆ พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้วรุจน์
“มานั่งข้างผมสิคับ” วรุจน์วางมือลงบนเตียง ตบเบาๆ ที่ด้านขวาของตัวเอง พยักหน้าให้กายเดินเข้าใกล้
“คุณดูดีขึ้นมาก” กายพูด ยืนอยู่ใกล้วรุจน์ แต่ยังไม่นั่งลงบนขอบเตียงตามที่วรุจน์ต้องการ
“หมอเก่งและยาดี” วรุจน์ยิ้มบางๆ ยื่นมือมาจับมือของกายแล้วดึงเข้ามาหาตัว “ว่าแต่คุณเถอะครับ จะช่วยรักษาผมได้หรือเปล่า”
“ผมไม่ใช่หมอ”
“ผมสูญเสียความทรงจำ อาการนี้ต้องการมากยิ่งกว่าหมอ คุณอยากให้ผมจำได้หรือเปล่ากาย คนที่เพื่อนพิเศษกันขนาดนั่งกุมมือผมตอนที่ผมนอนเจ็บอยู่ข้างถนนอยากให้ผมได้ความจำทั้งหมดกลับมาหรือเปล่า”
“อยากสิครับ”
“คุณไปทำอะไรกับผมที่นั่น”
“ผมก็บอกคุณไปแล้ว” กายตอบ
“ผมโดนรถชนยังไง เล่าให้ฟังอีกทีซิ แล้วทำไมคุณไม่พูดถึงเรื่องนี้เลยตอนที่มาเยี่ยมผมครั้งแรกทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ ตอนนั้น เรื่องที่คุณเล่าฟังดูเหมือนว่าคุณกับผมค่อนข้างห่างกัน” วรุจน์ถามเสียงเข้มขั้นเป็นลำดับและกายรู้สึกว่ามือของวรุจน์กำข้อมือเขาแน่นขึ้น
“ผมไม่แน่ใจว่าคุณจะรับได้แค่ไหน”
“จริงหรือ” วรุจน์เลิกคิ้ว “งั้นตอนนี้ผมดีขึ้นมากแล้ว รับได้ทุกอย่างและทุกเรื่อง ไหนบอกผมอีกทีซิว่าคุณเป็นใคร เกี่ยวข้องกับผมยังไง หรือพูดอีกอย่าง เรามีความสัมพันธ์กันพิเศษขนาดไหน คราวนี้พูดให้ละเอียด”

ธฤตหยิบภาพถ่ายของกายขึ้นมาดูอยู่เป็นเวลานานแล้ววางลงบนโต๊ะทำงาน เขาไม่ได้เจอกับกายค่อนข้างนานแล้ว ธฤตเคยบอกตัวเองว่าจะตัดใจจากชายหนุ่มคนนี้แต่ก็ทำไม่ได้
ยิ่งพยายามตัดใจ เขากลับยิ่งคิดถึงกายมากขึ้น และเมื่อกายกำลังตกเป็นข่าวและมีปัญหา เขาก็ยิ่งอยากช่วยและปกป้อง
...ความรู้สึกแบบนี้ไม่เรียกว่าความรักแล้วจะเรียกว่าอะไร...
ธฤตไม่ต้องการให้กายเป็นคนที่อยู่ตรงกลางระหว่่างวรุจน์กับพฤศหากสองคนนั้นจะแก้แค้นกัน และถึงแม้วรุจน์จะสูญเสียความจำ แต่ธฤตก็เชื่อว่่า อีกไม่นาน วรุจน์ก็จะกลับมาเป็นปกติ
แต่ถึงแม้จะไม่ได้ความจำเดิมกลับมาทั้งหมด ธฤตก็รู้ว่าคงมีคนเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้วรุจน์ฟัง
เล่าให้ฟังว่าพ่อแม่และน้องชายของวรุจน์ตายอย่างไร
...แรงแค้นของวรุจน์มีมากยิ่งนัก คนที่สูญเสียครอบครัวอย่างวรุจน์ย่อมไม่มีทางลืมความแค้นนั้นได้ แม้จะถูกรถชนและสูญเสียความจำไปก็ตาม แต่ทว่า เขากลับยิ่งคิดว่า เมื่อวรุจน์หายดี หรือ คนรอบข้างได้เล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังจนถึงระดับที่ใกล้จะเหมือนเมื่อก่อน วรุจน์ก็คงจะยิ่งแค้นมากกว่าเดิมเพราะอาจจะคิดว่าที่ตัวเองถูกรถชนคราวนี้คือการแก้แค้นจากฝ่ายตรงข้าม...
...และเขาก็รู้ว่าพฤศเองก็ไม่ใช่ช่อย พฤศบอกว่าเรื่องของอรัญจบไปแล้ว แต่จริงอย่างที่ว่าหรือเปล่าก็ไม่รู้ พฤศเป็นคนที่ไม่ยอมรับอะไรง่าย หัวดื้อและรั้น มีอคติและขี้หวาดระแวง...
ธฤตถอนหายใจยาว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรศัพท์ไปนัดกับพฤศ คืนวันพรุ่งนี้เป็นงานฉลองสมรสของญาติคนหนึ่งซึ่งเขาแน่ใจว่าพฤศจะไปร่วมงาน เขาต้องการคุยกับพฤศเกี่ยวกับเรื่องนี้
 
พฤศตีหน้าเคร่ง มองธฤตด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนจะหันไปทางอื่น ธฤตเป็นฝ่ายพูดเสียเป็นส่วนมาก น้ำเสียงเนิบนาบ พฤศแสดงอาการหงุดหงิดอยู่บ่อยครั้งแต่ธฤตทำเป็นไม่สนใจ
“ตกลงนายต้องการอะไร ธฤต” พฤศหมดความอดทน “รวบรัดตัดตอนซะที”
“เราอยากขอให้นายเลิกเกี่ยวข้องกับกายและเชิงชาย”
“สองคนนี้มาเกี่ยวอะไรกับเรื่องของอรัญ” พฤศเลิกคิ้ว “แต่ความจริงแล้ว เราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับกายและนายเชิงชายอะไรนั่น”
“ก็ดีแล้ว” ธฤตพยักหน้า “สัญญาได้ไหมพฤศ”
“ไม่สัญญา” พฤศสวนกลับ “มันไม่ได้มีความสำคัญอะไรที่ต้องมาสัญญา ส่วนเรื่องของอรัญ นายเลิกพูดได้แล้ว ผ่านไปจะสิบปี นายก็ไม่เคยจะมาพูดอะไรกับเราเรื่องนี้ อยู่ดีๆ ก็มาพูด เราไม่อยากฟัง”
“เราอยากให้นายไปเยี่ยมอรัญบ้าง”
“ทำไมต้องไป”
“ถ้านายให้อภัยอรัญแล้ว นายก็ต้องไปเยี่ยมหลุมฝังศพของอรัญได้”
“เลิกมายุ่งกับเราได้แล้ว ธฤต” พฤศเค้นเสียง ทำท่าจะเดินหนี “คนตายไปแล้วก็ให้ตายไป”
“นั่นสิ คนตายไปแล้ว นายก็น่าจะให้อภัยกันได้ และไม่เว้นแม้แต่คนเป็น ก็ควรจะให้อภัย เราไม่อยากให้เป็นเวรเป็นกรรมต่อกัน”
“เป็นเวรเป็นกรรมต่อใคร ที่นายพูดนี่ คงไม่ได้หมายถึงอรัญคนเดียวใช่ไหม” พฤศหรี่ตา มองธฤตด้วยสายตาเคลือบแคลง
“วรุจน์สูญเสียความจำ เรายิ่งคิดว่านายควรจะให้อภัยอรัญ และจบเรื่องนี้ไปซะ”
“อย่าบอกนะว่านายสงสัยว่าเราสั่งคนให้ขับรถชนวรุจน์” พฤศพูดเสียงกร้าว
“เปล่า” ธฤตส่ายหน้า
“ใช่ อย่างที่นายพูด วรุจน์สูญเสียความจำ เรื่องมันก็จบแล้วไง” พฤศเหยียดปาก “แต่เราว่าไม่หรอก ธฤต ถ้าจะพูดเรื่องให้อภัยกัน หยุดเวรหยุดกรรมอะไรเนี่ย ไปพูดกับทางโน้นน่าจะดีกว่านะ แล้วขอเตือนนะว่า ไม่ต้องมาทำตัวเป็นพระมาเทศน์ แล้วก็ไม่ต้องมาทำตัวเป็นสารวัตรสืบสวนสอบสวนหรอก”
“เราไม่เคยคิดจะทำยังงั้น เราแค่ต้องการให้ทุกคนอยู่อย่างมีความสุข”
“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง” พฤศยิ้มเหยียด มองตาของธฤตแล้วกล่าวชื่อหนึ่งออกมาสั้นๆ ว่า “กาย...”
“เราไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย พูดจริงๆ นะพฤศ เราห่วงว่าเรื่องระหว่างนายกับวรุจน์จะไม่จบง่ายๆ”
“บอกแล้วไง ว่าคนที่จะไม่จบคือวรุจต์โน่น” พฤศพูดสวนกลับด้วยเสียงเข้ม แววตาแข็งกร้าว “นายอย่่าคิดว่าเราจะทำอะไรแย่ๆ นะธฤต คนอย่างพฤศ ไม่ทำอะไรใครก่อนหรอก”
ธฤตถอนหายใจยาว พยายามตัดสินใจว่าจะสรุปการสนทนาครั้งนี้อย่างไรดี หรือจะคุยต่ออีก 'มาก' แค่ไหน เขารู้ว่าพฤศกำลังจะหมดความอดทน
“นายคงวิตกกังวลว่า เพราะบริษัทของเรามีข่าวรั่ว เราก็คงสงสัยว่าใครเป็นสายให้วรุจน์ ซึ่งจ้องจะทำลายบริษัทของเรา และคนที่เป็นสายก็คงเป็นกายเพราะกายรู้จักกับวรุจน์ และเมื่อเราจับได้ กายก็จะถูกกำจัด เหมือนที่เราทำกับอรัญ แต่ก่อนอื่น เราขอสั่งสอนวรุจน์ก่อนด้วยการขับรถชนวรุจน์”
“เราไม่ได้หมายความว่ายังงั้น”
“ธฤต” พฤศถอนหายใจ “เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ เรื่องมันเกิดขึ้นยังไงก็ให้มันอยู่อย่างนั้น วรุจน์โชคร้ายหน่อยที่สูญเสียพ่อแม่และน้องจากอุบัติเหตุ และตัวเองก็โดนรถชนด้วย” พฤศนิ่งไปครู่หนึ่ง มองตาธฤตนิ่ง แล้วพูดเสียงเย็นว่า “แต่อย่ามาสงสัยว่าเราจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เราเคยขับรถชนคนตายแล้วคนอื่นรับแทนก็จริงๆ นั่นเป็นรอยด่างครั้งเดียวในชีวิต แต่คนอย่างน้องชายของนาย ไม่ทำอะไรแบบนั้นอีกแน่ หยุดมองน้องคนละแม่ของตัวเองในด้านลบได้แล้ว”

กายฟุบหน้าลงบนโต๊ะ รู้สึกเหนื่อยและปวดตามาก เขาเร่งทำงานชิ้นแล้วชิ้นเล่าแต่งานชิ้นใหม่ก็ยังมีมาอยู่ไม่ขาดทั้งที่ใกล้จะถึงวันทำงานวันสุดท้ายเข้าไปทุกที
“ไม่แฟร์เลย” กายบ่นเสียงอู้อี้แล้วโขกหน้าผากลงกับโต๊ะ “It is not fair”
กายทิ้งแขนลงข้างตัว นิ่งไปครู่ใหญ่แล้วเงยหน้าขึ้น เปลี่ยนเป็นเอาคางกระแทกพื้นโต๊ะเบาๆ ตามองไปยังพาร์ติชันหน้าโต๊ะทำงาน ปากเป่ากระดาษซึ่งวางอยู่ตรงหน้าแรงๆ จนกระดาษหล่นลงจากโต๊ะ จากนั้นเอียงแก้มแนบลงกับดิกชันนารีซึ่งเปิดค้างเอาไว้ และพึมพำต่อ
“French wire-guided torpedo with active/passive homing to a range of 20 km...ตอร์ปีโดอะไรวะต้องใช้สายนำทาง น่าจะเป็น wireless นี่หว่า งี่เง่าจริงๆ ทำไมต้องมาแปลอะไรแบบนี้ตอนใกล้จะเลิกงาน เฮ้อ...” กายถอนหายใจเฮือกใหญ่
“คุณทำงานแบบนี้หรือกาย” เสียงหนึ่งดังขึ้น
“Travel 40 knots เอ มันเร็วขนาดไหนวะ” กายยังคงพึมพำต่อ เกลือกลิ้งหน้าของตัวเองกับดิกชันนารี่
“ดูๆ ไปก็น่ารักเหมือนกันนะ”
“...carries a 250 kg warhead ระเบิดตั้ง 250 กิโล จะฆ่าจะแกงกันไปถึงไหน ระเบิดหนักแต่ครึ่งโลก็ตายกันเป็นเบือแล้ว”
“กาย”
“หือ”
“กาย” เสียงที่เรียงดังขึ้นมากกว่าเดิม
“คุณคเชนทร์” กายสะดุ้ง เงยหน้ามองคนที่เอาคางเกยพาร์ติชันมองเขาอยู่ด้วยสายตาขบขัน
“ทำงานจนเพี๊ยน” คเชนทร์อมยิ้ม แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
“คุณหายไปไหนมา” กายพูดเสียงเรียบ ยืดตัวขึ้นนั่งตัวตรง มือจัดกระดาษที่วางกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะให้เป็นระเบียบ
“ผมก็ทำงาน” คเชนทร์ตอบ
“งานยุ่ง” กายตวัดเสียง
“ก็ยุ่งสิครับ ทำงานบริษัทเดียวกันก็น่าจะรู้ว่ามันยุงขนาดไหน ยิ่งมีข่าวหนักๆ หลายเรื่องก็ยิ่งยุ่ง คุณก็น่่าจะรู้ เวลาเกิดปัญหาอะไรแบบนี้ เขาให้ผมเป็นทัพหน้าแก้ไข้ปัญหาทุกครั้งไป ไหนจะล๊อบบี้ ครม. ไหนจะเคลียร์ผู้ใหญ่ในกลาโหมทั้งไทยและสหรัฐฯ เห็นใจผมบ้สง นั่นคือเหตุผลที่ผมหายหน้าไปล่ะ คิดถึงคุณก็คิดถึง”
“หรือครับ” กายหยิบปากกา เขียนคำศัพท์อย่างตั้งใจ
“คุณโกรธอะไรผมหรือกาย”
“เปล่านี่ครับ”
“คุณงอนที่ผมหายหน้าไป”
“เปล่าครับ”
“จริงๆ ด้วย คุณงอน” คเชนทร์อุทานแล้วหัวเราะเบาๆ เดิมอ้อมพาร์ติชั่นมายืนอยู่ข้างๆ กายแล้วก้มหน้าลงเพื่อมองหน้าชายหนุ่มที่เอาแต่ก้มหน้าทำงาน
“คุณคเชนทร์” กายทำเสียงหงุดหงิด “เดี๋ยวใครมาเห็น”
“คุณอยากให้ผมง้อ”
“ผมไม่ได้งอน ผมแค่ต้องรีบทำงาน นี่ขนาดใกล้ถึงวันจะออก ยังมีกะใจโยนงานมาให้ผมทำเพิ่ม”
“ผมจะคุยกับพฤศให้”
“ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง ไม่ต้อง” กายรีบเงยหน้าขึ้น วางปากกา โบกมือห้ามคเชนทร์
“เป็นเอามาก” คเชนทร์ส่ายหน้า “ผมว่าดีแล้วล่ะที่คุณลาออก ถ้าพูดถึงพฤศแล้วคุณออกอาการขนาดนี้ผมก็ไม่คิดจะห้ามคุณแล้ว”
“ผมขอทำงานต่อนะครับ” กายก้มหน้าและสนใจกับงานของตัวเอง “อีกไม่กี่วันก็ถึงงานแอร์โชว์แล้ว ผมต้องเร่งงานพวกนี้ให้เสร็จ”
“งาน Thunderbold Air Show” คเชนทร์พูด
“นั่นล่ะคับ”
“งั้นผมไม่กวนแล้วล่ะ” คเชนทร์ขยับตัวออกห่าง และพูดกับกายเบาๆ ก่อนจะเดินจากไปว่า “เดี๋ยวจะหาโอกาสเหมาะๆ มาง้อ”
“บ้า...” กายพูดเสียงเบามาก และเมื่อคเชนทร์เดินไปถึงหน้าประตูห้องของการุณย์จึงพูดต่อว่า “อยากจะต่อยซักหมัดจังเลย จะมาง้อทำไม คนเขาไม่ได้งอนอะไรนี่นา”
...จริงสินะ ทำไมเราต้องงอนคเชนทร์ แค่ไม่รับโทรศัพท์ ไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่ ถ้างอนก็หมายความว่ามีใจให้คเชนทร์นะสิ...

การแสดงบินผาดโผนของเครื่องบิน F-35 ซึ่งเป็นการแสดงสำคัญของงาน Thunderbolt Air Showจะเริ่มขึ้นภายในหนึ่งชั่วโมงที่จะถึงนี้ กายนั่งอย่างเบื่อหน่ายอยู่ในเต้นท์ภายในบริเวณที่นั่งของแขกวีไอพี เขาควรจะเป็นล่ามแปลการสนทนาต่างๆ แต่แขกวีไอพีต่างก็พูดภาษาอังกฤษกันได้หมดจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแปลอะไรทั้งสิ้น
นักบินของกองทัพสหรัฐอเมริกา10 นายที่จะแสดงการบินเดินเข้าแถวมายืนอยู่หน้าเต้นท์เพื่อให้พิธีกรแนะนำตัว กายมองผ่านๆ แต่เมื่อพิธีกรแนะนำตัวนักบินชาวต่างประเทศคนสุดท้ายเสร็จก็ประกาศด้วยเสียงตื่นเต้นว่าในการแสดงครั้งนี้จะมีนักบินของกองทัพอากาศไทยร่วมด้วยสองนาย
กายไม่แปลกใจ หนึ่งในนั้นต้องเป็นนาวาอากาศตรีเมฆ สิ้นเสียงประกาศชื่อ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สองคนก็เดินเข้ามาต่อแถวนักบินที่ยืนอยู่ก่อน นักบินคนแรกคือนาวาอากาศเอกทศพล หนุ่มใหญ่อายุประมาณสี่สิบปี ไม่เกินสี่สิบห้าปี นักบินคนที่สองคือนาวาอากาศตรีเมฆ ลูกชายคนเล็กของรองผู้บัญชาการทหารอากาศ
แวบหนึ่ง กายเห็นเมฆขยิบตา อาจไม่มีใครสังเกตเพราะแสงแดดจ้า แต่กายรู้ว่าเมฆขยิบตาให้เขาเพราะสายตาประสานกันพอดี เท่านั้นยังไม่พอ เมฆยังขยับปากช้าๆ คราวนี้ก็เช่นกัน อาจไม่มีใครสังเกต แต่กายรู้ว่าเมฆแอบส่งจูบให้
เมฆอมยิ้มมุมปาก สายตาระยิบระยับทั้งที่ควรจะทำหน้าหน้านิ่งเฉยเหมือนนักบินทั้ง 11 นาย หลังจากนั้นไม่นาน นักบินทั้งหมดก็เดินอย่างสง่าผ่าเผยออกไปยังลานจอดเครื่องบิน กายสังเกตเห็นอีกครั้งว่าเมฆขยิบตา และพันอากาศเอกทศพลซึ่งกำลังหมุนตัวไปทางขวาปรายตามามองเห็นเข้าพอดีจึงขมวดคิ้วใส่เมฆและทำหน้าดุ

เมฆผิวปากเบาๆ เป็นจังหวะขณะที่เดินไปยังเครื่องบิน F-35 ที่จอดเรียงรายตระหง่านอยู่ไม่ใกล แม้นักบินทั้งหมดจะเดินห่างกันพอสมควรแต่คนที่เดินนำหน้าเมฆกลับได้ยินเสียงผิวปากของนายทหารรุ่นน้อง
“เมฆ อย่าซ่าส์โชว์ให้มากนักนะ จะให้เขาประทับใจหรือไง” เสียงของพันอากาศเอกทศพลดังขึ้น
“ประชาชนมาชมเยอะ ผมก็ต้องเต็มเหนี่ยวไปเลยสิพี่” เมฆตอบ
“ประชาชนวีไอพีล่ะสิ” ทศพลเบ้ปากเล็กน้อย
“พี่รู้หรือว่าคนไหน” เมฆถาม
“แล้วคิดว่าไง” ทศพลย้อนถาม
“สายตาระดับพี่ ผมคงปฏิเสธไม่ได้” เมฆยอมรับ “แต่คนนี้รักจริงหวังแต่ง”
“ขอให้ได้มีโอกาสเถอะ”
“มีแน่” เมฆตอบแล้วหัวเราะในลำคอเบาๆ “ขอแต่อย่าให้มีใครไปเป่าหูเสด็จพ่อก็แล้วกัน”
“ใครจะไปทำแบบนั้น”
“ผมเพิ่งรู้เมื่อเช้า พ่อตกลงจะไม่ย้ายผมไปประจำการอยู่ที่ภาคใต้แล้ว คราวนี้ผมก็จะได้อยู่ใกล้คนที่ผมรัก” เมฆพูด
“รัก” ทศพลอุทานเบาๆ
“ใช่คร้าบคุณพี่ น้องพี่กำลังมีความรัก ท้องฟ้าวันนี้ไม่ได้เป็นสีครามอย่างที่พี่เห็นหรอก แต่เป็นสีชมพู” เมฆหัวเราะเบาๆ แล้วเริ่งเดินให้ทันนายทหารรุ่นพี่

จากการนั่งคอยอย่างเบื่อหนายเป็นเวลาหลายชั่วโมง เมื่อเครื่องบิน F-35 ลำแรกทะยานขึ้นสู่ฟ้า การแสดงการบินผาดโผนก็ทำให้กายลุกขึ้นยืนและเดินออกไปนอกเต้นท์เหมือนแขกวีไอพีคนอื่นๆ เพื่อเพ่งตามองไปยังท้องฟ้าอันสดใส เขาเคยเห็นเมฆทดลองขับเครื่องบินนี้แล้ว แต่ครั้งนั้นเป็นเสมือนการฝึก เมฆมีนักบินของบริษัทนั่งคู่ไปด้วยและการทดลองขับก็เป็นการทำความคุ้นเคยกับเครื่องมากกว่าจึงเป็นการขับแบบธรรมดา แต่คราวนี้เป็นการแสดงการบินผาดโผน กายไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าเมฆและนักบินชาวไทยอีกคนหนึ่งจะขับเครื่องบิน F-35 ได้ยอดเยี่ยมเช่นนี้เพราะเขาทราบว่าเมฆแค่ไปทดลองขับเครื่องบินแค่ไม่กี่วันเท่านั้น ส่วนนักบินที่อายุมากกว่านั้นไม่ได้ไปทดลองขับด้วย แต่ทั้งสองนายกลับแสดงการบินกับนักบินของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
กายไม่รู้ว่าเมฆขับเครื่องบินลำใดจึงได้แต่แหงนหน้ามองอย่างตื่นตาตื่นใจ ทันใดนั้นกลับมีเสียงทุ้มหนักเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหู
“คนของคุณขับลำที่มีตัวเลข TH2 ถ้าคุณมองตามทัน”
“คุณคเชนทร์” กายอุทานเมื่อหันไปมองเจ้าของเสียงนั้น คเชนทร์ทำหน้ายิ้มๆ แต่กายมองเห็นแววตาค่อนข้างขุ่นมัว
...หึงงั้นหรือ...
“TH2” กายพึมพำ “TH คงหมายถึง Thailandนี่กองทัพฯ ซื้อแน่นอนแล้วใช่ไหมครับ” กายทำเป็นไม่สนใจที่คเชนทร์พูดกระทบว่า 'คนของคุณ'
“จ่ายสด งดเชื่อ ไม่เบื่อทวง” คเชนทร์ยักไหล่ “ถ้าต้องการ confirmation ต้องถามท่านประธาน แต่คุณรู้ไหมกาย ผมว่าที่กองทัพฯ ซื้อก็เพราะลูกชายรอง ผบ. ทอ. ว่่าที่ ผบ. คนต่อไปอยากได้ของเล่นชิ้นใหม่”
“คุณก็พูดเกินไป” กายหัวเราะ แสร้งทำเป็นขำ ทั้งที่เริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศชักจะอึดอัด ยิ่งปรายตามองไปด้านซ้ายเห็นสายตาดุๆ ของพฤศมองมาก็ยิ่งอึดอัด
แต่ยังไม่ทันที่จะได้คุยหรือคิดอะไรต่อไป กายก็สะดุ้งสุดตัว อ้าปากค้าง และอุทานพร้อมๆ กับคนที่อยู่รอบๆ เมื่อเสียงระเบิดดังกึกก้อง เปลวไฟและควันพวยพุ่งออกมาจากเครื่องบินลำหนึ่งซึ่งกำลังทำการบินแนวดิ่งตรงขึ้นไปฟ้า เครื่องบินเสียสมดุลและดิ่งหัวลง หมุนวนตกลงมาเหมือนสว่านมหึมา ฝูงชนที่กำลังชมการแสดงพากันวิ่งแตกตื่น  บางกลุ่มพากันชี้ไม้ชี้มือขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับส่งเสียงร้องฟังไม่สรรพ
...เมฆ!...
ชื่อของเมฆแวบเข้ามาในหัวของกาย
พิธีกรพยายามประกาศให้ผู้ชมถอยออกไปให้ชิดกับแนวรั้วที่ห่างจากรันเวย์สนามบินให้มากที่สุดแต่อย่าออกนอกสถานที่ พร้อมขอร้องให้ทุกคนอยู่ในความสงบ กายคิดว่าเพราะคงกลัวว่าจะมีการเบียดเสียดกันที่ประตูทางออกซึ่งอาจจะทำให้เกิดการเหยียบกันตาย
กายไม่รู้ว่านักบินดีดตัวออกมาได้ทันหรือไม่เมื่อเครื่องบินตกลงกระแทกพื้นรันเวย์ห่างออกไปราวห้าร้อยเมตร เพราะทันทีที่เสียงระเบิดดังกึกก้องทุกคนในสถานที่แห่งนั้นต่างก็หมอบตัวลงกับพื้นโดยไม่ต้องรอให้พิธีกรประกาศเตือน
เสียงไซเรนของรถหน่วยพยาบาลและหน่วยรักษาความปลอดภัยดังขึ้น กายมองออกไปเห็นรถดับเพลิงและรถพยาบาลวิ่งออกมาจากทางด้านเหนือของรันเวย์
แขนขวาของคเชนทร์วางโอบอยู่บนไหล่ซ้ายของกาย ข้อมือวางอยู่ท้ายทอย มือกุมศรีษะกายเพื่อแสดงการปกป้อง ไม่ถึงนาทีเกือบทุกคนรอบเต้นท์แขกวีไอพีก็ลุกขึ้น กายเผลอตัวปรายตาไปมองด้านซ้าย เห็นสายตาพฤศมองมาอย่างดุๆ เช่นเคย และคราวนี้ดุมากกว่าเดิม
...แต่มีแววตาบางอย่างแฝงอยู่ในสายตาไม่พอใจ...
...มันหมายความว่ายังไง...

::: End of Chapter 43 :::

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
เห็นด้วยค่ะ เพราะมีคนเดาถูกเลยเปลี่ยนเนื้อเรื่องกันมาทีแล้วเรื่องนี้ 555+  :laugh:
ขี้ตู่ ใครว่า เค้าเขียนเรื่องนี้ด้วยลายมือใกล้จะจบเรื่องแล้วน๊า ที่หายไปเพราะเขียนต่อใกล้จะจบแล้วจ้า
ที่บ้านที่อยู่ตอนนี้น้ำไม่ท่วมหรอกครับ มีแต่ท่วมปาก ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ (แต่บ้านเก่าที่กรุงเทพฯ ได้ยินมาว่าท่วมถึงอก)

ขอแสดงความยินดีกับนักเขียนทุกท่านที่ได้รับรางวัลเซ็งเป็ดอวอร์ดนะครับ
สุขสันต์วันลอยกระทงนะครับ คนที่โดนน้ำท่วมก็ขอให้ สู้ๆ นะครับ

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
มาวันลอบกระทงพอดีเลยนะครับ
ใครขับกันล่ะนั่น อยากรู้แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2011 19:25:53 โดย m_pop91 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด