คุณครับ...ได้(ฟัน)ผมแล้วก็มารักกันเถอะครับ บทที่ 59/60 พิเศษ UP 6/1/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณครับ...ได้(ฟัน)ผมแล้วก็มารักกันเถอะครับ บทที่ 59/60 พิเศษ UP 6/1/55  (อ่าน 806795 ครั้ง)

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
รอตอนใหม่อยู่น้า  สู้ๆๆๆๆ
+1กำลังใจ

-N-

  • บุคคลทั่วไป
คดียังค้าบอยู่แบบนี้ เจ้าของเรื่องหายไปหนายยยย

ออฟไลน์ ☥ŹeMî☠kändä☥

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ค้างมากมายขอรับ

รอลุ้นอยู่นะขอรับ  o13

เป็นกำลังใจให้เสมอ  :L2:

pisarui

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นมากมายก่ายกอง อยากรู้ว่าใครจะเป็นพระเอกกันแน่

เขียนได้น่าติดตามมาก แบบว่าอ่านแล้วติดหนึบกันเลยทีเดียว

ยังงัยจะรอตอนต่อนะ

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
โชคดีได้เน็ตฟรีใช้ เลยมาโพสตอนที่ 15 ใกล้แล้วครับ ใกล้แล้ว อีกหน่อยพออะไรชัดเจนก็จะติดเทอร์โบแล้วล่ะ


Guy Chapter 15

กายสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กอนจะเคาะประตูและเดินเข้าไปในสำนักงานของประธานบริษัท เจนจิรากำลังกดเครื่องคิดเลขอย่างตั้งใจด้วยมือขวา ส่วนมือซ้ายจดบันทึกผลที่ได้ เมื่อรู้สึกตัวว่ามีคนเดินเข้ามาในห้อง เลขานุการสาวเงยหน้าขึ้นแล้วชี้นิ้วไปที่ประตูห้องของเจ้านาย
“เชิญค่ะ นายกำลังรออยู่” เจนจิราพูดแล้วก้มหน้าลงทำงานตอ
กายเดินไปหยุดยืนอยู่หน้าห้องของท่านประธานและเคาะประตูเบาๆ แต่ไม่มีเสียงอนุญาตดังมาจากข้างใน กายจึงเคาะประตูอีกครั้งแต่ท่านประธานก็ยังเงียบเหมือนเดิม
“คุณกายคะ เคาะแล้วเปิดเข้าไปได้เลยค่ะ ไม่ต้องรอ” เจนจิราพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา กายหันไปมองหญิงสาวแล้วเปิดประตูช้าๆ พร้อมกับเสียงของเลขานุการท่านประธานพูดขึ้นมาว่า “สูดลมหายใจลึกๆ ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็จบ”
...ใจเย็นมาตั้งนานแล้ว ไม่เคยใจเย็นแบบนี้มาก่อน อุตส่าห์ทำตัวดีมาตลอด ถ้าเป็นที่ทำงานเดิมป่านนี้ไอ้กายได้เล่นงิ้วมันส์ไปแล้ว...
กายสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ อีกครั้งแล้วเดินเข้าไปในห้องช้าๆ พร่ำบอกตัวเองว่า ใจเย็น ใจเย็น ใจเย็น เหมือนกับที่คนสามคนซึ่งรู้จักท่านประธานดีได้เตือนเขา
ท่านประธานนั่งอยู่ที่โต๊ะ กำลังก้มหน้าเซ็นเอกสาร ขณะนี้ไม่ได้สวมสูท สวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว เนคไทผูกหลวมๆ แขนเสื้อทั้งสองข้างพับขึ้น ดูผ่อนคลาย แตกต่างไปจากที่เคยเห็น
แต่กายรู้ว่าท่านประธานไม่ได้ผ่อนคลาย หากคนสามคนเตือนเขาว่าให้ใจเย็นๆ แสดงว่าตอนนี้ท่านประธานกำลังอารมณ์ไม่ดี
...เขาตัวใหญ่มาก สูงใหญ่บึกบึน แม้อยู่ในใชุดทำงานแต่ก็รู้ได้ว่าเป็นคนที่เล่นกีฬาและดูแลร่างกายของตัวเองดีเป็นอย่างยิ่ง จมูกโด่งเป็นสันตรง คิ้วเข้ม ผิวขาวสะอาด มาดผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว...
กายยืนอยู่หน้าโต๊ะ แต่่ท่านประธานยังไม่เงยหน้าขึ้น ยังคงเซ็นเอกสารไปเรื่อยๆ แต่กายรู้ว่า 'คุณพฤศ' รู้ว่าคนที่ตัวเอง 'เชิญ' ให้มาพบนั้นยืนอยู่หน้าโต๊ะแล้ว
กายขยับตัวเล็กน้อยและทำเสียงกระแอมเบาๆ ในลำคอ ท่านประธานเงยหน้าขึ้นมานิดเดียวแล้วเลิกคิ้ว ก่อนจะหลุบตาลงต่ำ มองเก้าอี้หน้าโต๊ะ สื่อความหมายให้กายนั่งลง
...สายตาแบบนี้พูดว่า เอ๊ะ นายคนนี้ ยังไงกัน มาแล้วทำไมไม่รู้จักนั่งลงล่ะ...
กายแปลความหมายสายตาของท่านประธานพร้อมกับนั่งลงและนั่งอยู่เงียบๆ จนกระทั่งคนที่ 'สั่ง' ให้เขามาพบเซ็นเอกสารหมดแฟ้ม ท่านประธานวางปากกาแล้วหยิบกระดาษหนึ่งแผ่นยื่นมาวางตรงหน้ากายแล้วพูดเบาๆ ว่า
“ชิ้นนี้คุณใช้เวลาทำนานเท่าไหร่”
กายเอียงคอมองเพราะท่านประธานยื่นกระดาษตามแนวขวางแทนที่จะยื่นแนวตั้งให้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าอ่านได้ง่ายๆ แต่กายจำได้ว่าเป็นเอกสารชิ้นเมื่อวานจึงตอบว่า
“หนึ่งชั่วโมงครับ”
“หนึ่งชั่วโมงสำหรับเอกสารหนึ่งหน้ากระดาษ ฝีมือคุณก็ดีนะ” ท่านประธานชมแต่กายกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น เขาคิดว่าตัวเองโดนประชด
“ใช้ได้ สมกับที่เรียนมาสูง”
“ขอบคุณครับ” กายตอบเสียงสุภาพ พลางบอกตัวเองในใจว่า 'ใจเย็นๆ'
“ทำไมคุณอยากมาทำงานที่นี่” ท่านประธานเปลี่ยนเรื่องทันทีทันใด
“เพราะเป็นบริษัทที่มั่นคงและเงินเดือนดีกว่าที่เดิมครับ” กายตอบ แต่ในใจพูดว่า 'ก็เคยถามมาแล้ว จะมาถามอะไรอีก จะจับผิดหรือไง'
“แสดงว่าเงินสำคัญสำหรับคุณ”
“ครับ” กายพยักหน้า ความจริงตั้งใจจะตอบยาวกว่านี้ แต่ก็รีบเปลี่ยนใจ เพราะคำตอบที่เขาจะพูดอาจฟังดูเหมือนเป็นการแก้ตัวและมุ่งจะโต้เถียง
“คุณรู้จักใครที่นี่มาก่อนหรือเปล่า”
“ไม่ครับ”
“แสดงว่ามาสมัครงานโดยไม่มีเส้นสาย” ท่านประธานเลิกคิ้ว
“ครับ” กายตอบเบาๆ คราวนี้ไม่พยักหน้า
...นี่ไงที่คุณคเชนทร์ คุณการุณย์ และคุณเจนจิราเตือนว่าให้ใจเย็นๆ ท่านประธานกำลังหาเรื่องเรา...
“ผมไม่ชอบระบบเส้นสาย ผมชอบคนที่เก่งจริง ใช้ความสามารถของตัวเองจริงๆ ไม่คิดจะหาทางลัดทำอะไรหรือเพื่ออะไรที่ตัวเองต้องการ ที่พูดนี่ไม่ได้ว่าคุณ เพียงแต่อยากให้คุณรู้จุดยืนของผม”
“ครับ” กายตอบพร้อมกับท่องในใจว่า...ใจเย็น...ใจเย็น...เย็นเอาไว้โยมกาย...
“คุณมีแผนระยะกลางหรือแผนระยะยาวหรือเปล่า” ท่านประธานเปลี่ยนประเด็นอีกครั้ง
“แผนอะไรนะครับ” กายถามกลับเพราะต้องการความกระจ่าง
“แผนชีวิต” ท่านประธานวางศอกทั้งสองข้างลงบนโต๊ะ มือสองข้างประสานกัน โน้วตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย จ้องหน้ากายด้วยสายตาเรียบเฉย รอฟังคำตอบ
“แผนชีวิต” กายทวนคำ ยังนึกหาคำตอบเหมาะๆ ไม่ได้
“แผนสามปี แผนห้าปี แผนสิบปี คนเราก็ต้องมีแผนไม่ใช่หรือ แผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว สามปีต่อจากนี้อยากจะได้อะไร ชีวิตจะเป็นยังไงในอีกห้าปี หรือแผนระยะยาวก็เช่นซื้อบ้าน ลงทุนกองทุนอะไรซักอย่าง เตรียมตัวเองไว้สำหรับยี่สิบปี หรือสี่สิบปีข้างหน้า เราต้องรู้ว่าเราต้องการอะไร” ท่านประธานอธิบายแล้วถามเสียงหนักว่า “คุณต้องการอะไร คุณกาย”
...ต้องการเงิน...
กายตอบในใจ แต่ไม่กล้าพูดออกมาเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจผิดเพราะเท่าที่สังเกต ท่านประธานไม่ค่อยชอบหน้าเขาอยู่แล้ว หากยกเอาเรื่องเงินมาพูด เดี๋ยวจะถูกหาว่าเข้ามาทำงานในบริษัทเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ กอบโกย หรือแม้กระทั่งรวยทางลัด
...เพราะผมรักเด็กครับ ผมอยากทำงานเพื่อสังคม เพื่อประเทศชาติ เพื่ออุดมการณ์ เพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อทะนุบำรุงวัฒนธรรมประเพณีไทยให้คงไว้สืบไปเพื่อลูกเพื่อหลาน แต่ผมคงจะมีลูกไม่ได้หรอกเพราะผมคงไม่แต่งงาน ผมถึงได้มาทำงานที่บริษัทนายหน้าค้าอาวุธไงครับ...
กายตอบประชดในใจ แต่คำพูดง่ายๆ ออกมาจากว่า “ไม่มีครับ”
“ไม่มี” ท่านประธานเลิกคิ้ว “ผมนึกว่าคุณต้องการเก็บเงินไว้เยอะๆ หรือเงินก้อนใหญ่ๆ จะได้ซื้อสิ่งที่ตัวเองต้องการ”
“ผมมีสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วครับ อะไรที่อยากได้ก็ได้หมดแล้ว” กายตอบเสียงเรียบ
“ไม่อยากได้รถหรือ จะได้มาทำงานสะดวก ไม่ต้องยืนรอรถเมล์ ไม่ต้องให้ใครรับส่ง คนอื่นยังมีรถหลายคัน คุณคเชนทร์ก็มีสามคัน เอาไว้ขับให้เข้ากับอารมณ์...สปอร์ต โฟรวีลด์ และรถเก๋งหรูๆ”
...ใจเย็นๆ นะกาย...
คำเตือนดังขึ้นมา กายตอบในใจว่า เย็นที่สุดแล้วครับ ไม่เคยเย็นเป็นน้ำแข็งแบบนี้มาก่อน แต่จะเย็นได้นานแค่ไหนไม่รู้...
...บางทีคุณคเชนทร์อาจแบ่งให้ใช้ซักคัน ผมเองก็มีหลายคัน แต่ผมไม่แบ่งให้ใครหรอก อย่าได้หวังเลย...
กายคิดในใจว่า จริงๆ แล้วท่านประธานคงอยากจะพูดแบบนั้น เขารู้สึกโกรธจนหูอ้ื้อ รู้สึกว่าท่านประธานกำลังดูถูกเขาอย่างแนบเนียนที่สุด ท่านประธานกำลังพูดกับเขาว่า 'ประจบคุณคเชนทร์เข้าไว้ ทำตัวให้คุณคเชนทร์ชอบ ไม่แน่ อาจจะได้อะไรบ้าง'
...คุณมาทำงานที่นี่ทำไม...เงินสำคัญสำหรับคุณ...ไม่หาทางลัดเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ...คุณต้องการอะไรคุณกาย...
คำพูดก่อนหน้านี้ของท่านประธานดังขึ้นมาในหัวของกาย
...คุณคิดว่าผมต้องการจับคนรวยๆ ซักคนหรือไง...
กายอยากจะเถียงแต่เขาก็พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองและเตือนตัวเองว่า อุตส่าห์เปลี่ยนงานใหม่ เพื่อเงินเดือนที่สูงกว่าและเพ่ือความมั่นคงที่มากกว่าเดิม ตลอดมาพยายามทำงานอย่างดีที่สุด อยู่ดีๆ จะมาปล่อยให้มันพังไปง่ายๆ แบบนี้หรืออย่างไร
“ผมขับรถไม่เป็นครับ แล้วก็ไม่่คิดจะขับ ชินกับนั่งรถเมล์และนั่งแท็กซี่แล้วครับ ผมว่ามันก็สบายดี ตอนนี้ผมตื่นเช้ากว่าเดิม ออกจากบ้านเร็วขึ้น จะได้แน่ใจว่ามาทำงานทัน” กายอธิบายด้วยเสียงราบเรียบ
“ฝนตกล่ะ จะทำยังไง”
...ก็อ้อนให้คุณคเชนทร์ขับรถเก๋งหรูๆ ไปส่งสิครับ อ้อ ไม่ใช่ ฝนตก น้ำท่วมซอย ต้องให้คุณคเชนทร์เปลี่ยนเป็นโฟรวีลด์...
“ตากฝนครับ เย็นสบายดี” กายหัวเราะเบาๆ แล้วรีบพูดต่อ เพราะกลัวว่าท่านประธานจะเข้าใจว่าเขายอกย้อนกวนอารมณ์ “ผมชอบเดินตากฝน หน้าฝนทีไรเปียกทุกปีครับ ชินซะแล้ว”
“สรุปแล้ว คุณพอใจกับทุกอย่างที่คุณมีอยู่ ไม่ได้คิดจะต้องการอะไรมากกว่านี้”
“ก็ไม่เชิงครับ” กายตอบไปตามความจริง “ผมก็มองอนาคตอยู่บ้างเหมือนกัน เมื่อได้งานที่มั่นคง สวัสดิการดี มีเงินสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกับประกันสังคม แค่นี้ก็ดีมากพอแล้วครับ พออายุมากขึ้นก็ได้ใช้เงินจากกองทุนนี้”
“คนมักอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ มีเงินก้อนใหญ่ๆ ซักก้อน” ท่านประธานพูดประหนึ่งกำลังให้คำแนะนำที่ดีแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา หากแต่ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้กลับคิดว่า
...จะให้เรารับว่าอยากคบกับคนรวยๆ เพื่อผลประโยชน์ทางการเงินให้ได้งั้นหรือ เป็นอะไรของเขาเนี่ย ไปทำอะไรให้ตั้งแต่เมื่อไหร่ถึงไม่ชอบหน้าเรานัก...
“เมื่อเช้านี้มีคนชมคุณให้ผมฟัง เห็นได้ชัดว่าเขาชอบคุณมาก” ท่านประธานเปลี่ยนเรื่องอีกแล้วโดยไม่ให้กายได้ตั้งตัว “ชมคุณไม่ขาดปาก ถึงกับพูดทีเล่นทีจริงกับผมว่าอยากจะชวนคุณไปทำงานด้วย ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น คุณก็จะได้มีงานที่มั่นคงกว่าและเงินเดือนดีกว่าที่นี่เยอะ”
“ใครครับ” กายถาม
“George McQueen ซัพพลายเออร์จากออสเตรเลีย เขาบอกว่าคุณไปส่งที่โรงแรมและจัดการทุกอย่างให้จนเรียบร้อย”
“อ๋อ ครับ” กายนึกได้ “ตอนเลิกงาน ผมเห็นเขาที่ลอบบี้ เขาขอให้ผมช่วยเรื่องเปลี่ยนโรงแรม ผมกำลังจะไปแถวนั้นพอดี เลยช่วยเขาครับ ไม่ลำบากอะไรมากหรอกครับ”
“ช่วยเขาซื้อของให้ภรรยากับลูกๆ ด้วย” ท่านประธานพูดต่อ
“พอดีผมรู้จักร้านครับ” กายตอบ “แถวนั้นผมชำนาญ แล้วก็ไม่อยากให้เขาโดนหลอกให้ซื้อของราคาแพงๆ”
“ผมเคยบอกคุณใช่ไหมว่าให้ทำงานรับผิดชอบของตัวเองให้ดี อย่าให้บกพร่อง”
“เอ่อ ครับ” กายเลิกคิ้วเล็กน้อย ทำหน้าสงสัย
“เมื่อวานคุณเจนจิราก็อยู่เย็น” ทานประธานพูดเสียงเรียบ
“แต่พอดีคุณ George ถามผมว่า...”
“คุณเป็นนักแปล เป็นล่าม ประจำอยู่แผนกต่างประเทศ ไม่ใช่แผนกต้อนรับหรือมีหน้าที่เอนเตอร์เทนลูกค้า เราไม่มีแผนกนี้ แต่โดยปกติเลขานุการของผู้บริหารจะเป็นคนจัดการ ผมไม่อยากให้มีใครพูดว่า พนักงานบางทำให้ซัพพลายเออร์หรือแขกของบริษัทพอใจหรือชอบเป็นพิเศษ และอาจก้าวหน้ากว่าคนอื่นด้วยเหตุผลนี้ ผมต้องการให้พนักงานรับผิดชอบงานของตัวเองให้ดีก็พอโดยไม่ต้องให้ใครมาช่วยทำงาน” ท่านประธานพูดยาว น้ำเสียงและใบหน้าราบเรียบ
“ครับ” กายตอบสั้นๆ
“เชิญ” ท่านประธานอนุญาตให้กายออกจากห้อง
“ขอบคุณครับ” กายอยากจะยกมือไหว้ประชด แต่ก็อดใจเอาไว้ได้ เขาลุกขึ้นช้าๆ แล้วเลื่อนเก้าอี้กลับให้ชิดหน้าโต๊ะทำงานของท่านประธานเช่นเดิม จากนั้นจึงเดินตรงไปที่ประตูช้าๆ
กายรู้ว่าท่านประธานพฤศกำลังมองตามหลังเขาด้วยสายตาไร้อารมณ์เช่นเคย
...ต่างจากคนอื่น ส่วนมากมักจะมองตามเราด้วยสายตาหื่นกระหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผับหรือบาร์ หรือสถานที่เที่ยวกลางคืน...
...ระวังหน่อยนะท่านประธานพฤศ มาแหย่ให้โกรธ ระวังไอ้กายเลือดขึ้นหน้านะครับจะบอกให้...

แม้กายจะรู้สึกว่าโดนท่านประธาน 'หาเรื่อง' แต่เขาก็ยังคงอดทนต่อไป หลายวันที่ผ่านมาเขามาทำงานเช้ากว่าเวลาเข้างานทุกวัน โชคดีที่แต่ละวันผ่านไปอย่างไม่มีปัญหา และโชคดีที่ท่านประธานไม่ 'เชิญ' ให้เขาไปพบเพื่อฟังการ 'ปฐมนิเทศน์' เรื่องการเป็นพนักงานที่ดีอีก
งานแปลที่เขาได้รับมอบหมายให้ทำไม่มีอะไรยากเลย บางครั้งเมื่อทำงานเสร็จแล้วกายรู้สึกเบื่อเพราะต้องนั่งอยู่เฉยๆ รองานมอบหมายชิ้นต่อไปจากหัวหน้า ครั้นไปถามการุณย์ว่ามีอะไรให้เขาทำอีกหรือไม่ หัวหน้าของเขาก็เอาแต่ส่ายหน้า
...หรือว่าโดนแกล้งอีกแล้ว ตั้งแต่แปลคู่มือ F-35 ฉบับย่อเสร็จก็มีแต่งานง่ายๆ ซึ่งแทบไม่ต้องใช้สมองเลย...
...กำลังประชดเราหรือเปล่า ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถ หรือคิดว่าเรามีความสามารถอยู่แค่นี้ ทำอะไรยากกว่านี้ไม่ได้ ส่วนการุณย์ไม่น่าจะคิดแบบนั้น นี่คงจะเป็นคำสั่งจากท่านประธานแหงๆ...
ขณะที่กำลังนั่งคิดอยู่ การุณย์ก็เดินเข้ามาหาและสั่งงานกายด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเย แต่คราวนี้พูดยาวเป็นพิเศษจนกายแปลกใจ แต่เมื่อพูดจบ กายกลับขมวดคิ้ว ทำสีหน้าหนักใจ ต่างจากทุกครั้งที่รีบพยักหน้าตอบว่า 'ครับ'
“จะดีหรือครับคุณการุณย์”
การุณย์ถอนหายใจเบาๆ ให้กายเห็นเป็นครั้งแรก แล้วพูดว่า “ถ้าท่านถามก็บอกว่าผมมอบหมายงานให้ ถือซะว่าไปเป็นล่ามอย่างไม่เป็นทางการ Mr. Schroeder ต้องพบกันเจ้าหน้าที่จากลาว คนนั้นพูดฝรั่งเศส พอเสร็จแล้วคุณก็กลับบ้านไปได้เลย” การุณย์พูดเสร็จแล้วเดินจากไปทันทีไม่รอให้กายพูดต่อ
...เอาวะ เป็นไงเป็นกัน อย่างน้อยก็มีหัวหน้าการุณย์เป็นแบ๊คอัพว่าเขาไปช่วยเหลือ 'แขกของบริษัท' ไม่ใช่อยาก 'เสนอหน้า' ไปทำอะไรเกินหน้าที่รับผิดชอบ...

Mr. Schroeder จากฝรั่งเศสเป็นคนอารมณ์ดี มีลูกชายอายุเท่ากับกายและเรียนจบสาขาเดียวกัน ซ้ำยังมีนิสัยคล้ายๆ กันอีกด้วย กายให้เหตุผลกับตัวเองว่าเขาไม่ได้ทำอะไรมากมาย แต่ธรรมชาติของการเป็นมัคคุเทศก์ซึ่งเป็นงานให้บริการทำให้เขาช่วยเหลือและทำงานให้ Mr. Schroeder เต็มที่จนเป็นที่พอใจ
“อย่าทิปผมนะครับ ท่านประธานจะต้องฆ่าผมแน่ๆ” กายพูดเล่นกับ Mr. Schroeder และรีบเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังพร้อมกับพูดว่า “กรุณาอย่าไปชมผมให้ท่านประธานได้ยินนะครับ ผมแค่ทำเท่าที่ผมทำได้”
“โอเค” Mr. Schroeder ทำหน้างงๆ แล้วกล่าวขอบคุณกาย จากนั้นจึงเดินเข้าไปในลิฟท์พร้อมกับพนักงานยกกระเป๋าของโรงแรม The Atlantis Plaza
กายล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อกดดูเวลาแล้วยิ้มอย่างดีใจเมื่อเห็นว่าเป็นเวลายังไม่ถึงบ่ายสี่โมง ชายหนุ่มจึงคิดจะไปเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าหรูกลางเมืองก่อนจะกลับบ้าน และตั้งใจว่าจะเริ่มไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะใกล้บ้านเหมือนที่เคยทำและหยุดไประยะหนึ่ง
...ออกกำลังกายหนักๆ เพื่อให้หายเซ็ง จะได้นอนหลับสบาย ไม่ต้องหมกมุ่นกับเรื่องเสียตัวในคืนนั้นซึ่งจนป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แล้วก็ไม่ต้องมา 'นั่งฉุนนอนฉุน' ท่านประธานก่อนปิดไฟนอนแต่ละคืนอีกด้วย...
...คนอะไร หน้านิ่ง ท่าทางเคร่งขรึม แต่ปากร้าย คำพูดแต่ละคำเชือดเฉือนความรู้สึกคนอื่นมากๆ นี่ได้ซักครึ่งหนึ่งของคุณคเชนทร์ก็คงจะดี อย่างน้อยก็ไม่ต้องรู้สึกเกร็งและเครียด แต่ถ้าเหมือนคุณคเชนทร์ทุกอย่างก็ไม่ไหวเหมือนกัน นั่นก็ชอบทำให้คิดมากและคิดลึกอยู่บ่อยๆ...
กายคิดและสอดโทรศัพท์กลับลงไปในกระเป๋ากางเกง แต่เมื่อปล่อยมือ โทรศัพท์เครื่องเล็กกลับหล่นลงพื้นแตกกระจาย
“เฮ่ย ฉิบหายแล้ว โทรศัพท์ใหม่ของกู” กายโวยวายคนเดียวกแล้วสบถออกมาสองสามคำ รีบนั่งลงเก็บชิ้นส่วนของโทรศัพท์บนพื้นมารวมกัน แต่เมื่อรู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างๆ จึงเงยหน้าขึ้น สายตาไล่ไปตามขากางเกงสีเทาเข้มของผู้ชายซึ่งอยู่ข้างๆ และเมื่อเห็นใบหน้าก็ต้องอุทานออกมาเบาๆ
“คุณวรุจน์”
“พังแล้วล่ะครับ มัวแต่ใจลอย ทิ้งโทรศัพท์ของตัวเองเฉยเลย” วรุจน์พูดยิ้มๆ “แต่เดี๋ยวผมซื้อให้ใหม่”
“ไม่เป็นไรครับ ผมซื้อเองได้” กายปฏิเสธ ยังคงนั่งยองๆ อยู่ที่พื้น พยายามประกอบชิ้นส่วนโทรศัพท์ให้กลับเป็นเหมือนเดิม
“ถือซะว่าเป็นการขอบคุณที่ช่วยคุณปู่กับคุณย่าผม” วรุจน์ตอบแล้วทำหน้าน้อยใจ “คุณไม่ยอมมาทานดินเนอร์กับท่านเลย สองคนนั้นรอคุณอยู่ แล้วก็ผิดหวังมากที่ไม่ได้แสดงความขอบคุณ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่เห็นต้องทำอะไรเยอะขนาดนั้น ผมแค่ช่วยโทรศัพท์กลับมาโรงแรมให้ แค่พูดขอบคุณก็พอแล้ว” กายเลิกล้มความตั้งใจที่จะประกอบชิ้นส่วนโทรศัพท์แล้วลุกขึ้น ถามวรุจน์ว่า “คุณมาทำอะไรที่นี ไหนว่าคุณปู่กับคุณย่ากลับไปแล้วไง”
“ก็ใช่ กลับไปแล้ว” วรุจน์พยักหน้า
“แล้วทำไมคุณยังอยู่ที่โรงแรม” กายถาม “หรือว่ามารับรองคุณตากับคุณยาย”
“เปล่า” วรุจน์อมยิ้ม
“ความจริง คุณปู่กับคุณย่าคุณน่าจะพักที่บ้านคุณ ทำไม้ต้องปล่อยให้มาพักที่โรงแรม ถามจริงเถอะ เป็นปู่เป็นย่ากันจริงหรือเปล่า หรือว่าคุณล้อผมเล่น”
“บอกแล้วไงว่าเป็นปู่กับย่าบุญธรรม ผมจะโกหกคุณทำไม” วรุจน์อธิบาย
“แล้วคุณพ่อคุณแม่ของคุณล่ะครับ” กายไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ถึงถามถึงบิดามารดาของวรุจน์
“อยู่ที่อเมริกาครับ แต่ก็ไปๆ มา”
“ทำไมต้องไปๆ มาๆ ทำไมไม่อยู่ด้วยกันครับ”
“ผมเป็นลูกกำพร้า คุณพ่่อคุณแม่ผมเสีย แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ซึ่งเป็นคนอเมริกันเอาพบไปเลี้ยง ผมถึงมีปู่กับย่าเป็นฝรั่งไงล่ะ”
“อ๋อ” กายอึ้ง ไม่นึกว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ “ผมเสียใจด้วยครับ”
“มันนานมากแล้วล่ะ” วรุจน์หัวเราะเบาๆ “ตั้งแต่ผมเรียนอยู่ ม. 2”
“ครับ” กายพยักหน้า รู้สึกแปลกๆ ที่กำลังยืนคุยเรื่องที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวและละเอียดอ่อนกับวรุจน์อยู่กลางล๊อบบี้โรงแรม
“ทานข้าวหรือยังครับ” วรุจน์ทอดเสียงอ่อนโยน “ไปทานข้าวกับผมนะครับ ผมกำลังจะกลับพอดี วันนี้รู้สึกไม่อยากทำงาน แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่ ไม่ทำงานหรือ บริษัทคุณเขายอมปล่อยพนักงานก่อนเวลาด้วยหรือ”
“ผมเพิ่งทำงานเสร็จ” กายตอบเสียงเบา อยากจะอธิบายให้วรุจน์ฟังว่าเขามาที่นี่ทำไมแต่ก็เปลี่ยนใจถามคำถามวรุจน์แทน “คุณล่ะ มาทำอะไรที่โรงแรมหรูๆ แบบนี้”
“ทำงานสิครับ” วรุจน์ตอบแล้วยิ้มกว้าง พร้อมกับผายมือออกและประกาศว่า “ที่นี่โรงแรมผม”
“หือ” กายเลิกคิ้ว ทำหน้าแปลกใจ
“ผมบริหาร The Atlantis ต่อจากคุณพ่อกับคุณแม่ของผม” วรุจน์ตอบอย่างภาคภูมิใจ “ท่านยก The Atlatins chain ให้ผม แล้วตัวเองก็ดูแล Warner Asset อย่างเดียว”
“อ๋อ” กายไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เขารู้สึกอึ้งเพราะอยู่ในวงการท่องเที่ยวและรู้จักโรงแรมเครือ The Atlantis พอสมควร แต่ก็ไม่เคยรู้เลยว่าเป็นของวรุจน์ หรือถ้าจะพูดให้ถูก เป็นของพ่อแม่บุญธรรมของวรุจน์ ซึ่งท้ายที่สุดก็คงตกเป็นของวรุจน์ แต่บางดีอาจจะเป็นของวรุจน์อย่างสมบูรณ์แล้วก็ได้ เจ้าตัวถึงได้ทำท่าทางภาคภูมิใจนัก กายรู้ว่า 4-5 ปีที่ผ่านมา The Atlantis ประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากเปลี่ยนทีมงานผู้บริหาร นั่นหมายความว่าวรุจน์ทำงานเก่งมาก
...วรุจน์...ผู้ชายที่เราเคยสงสัยว่ามีอะไรกับเราคืนนั้น...คืนที่เราเสียตัวแบบไม่รู้เรื่องและจำอะไรแทบไม่ได้เลย...
...ผู้ชายที่เอาแต่พร่ำว่าเคยเห็นหน้าเขาที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก รู้สึกคุ้นเคยมาก พูดราวกับว่าเป็นเนื้อคู่กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน...
...ไม่ธรรมดานะนี่...รวยแบบไม่ธรรมดา และมีความคิดแบบไม่ธรรมดาอีกต่างหาก...
...ทำไมหลังๆ มานี่เจอแต่คนที่ไม่ธรรมดา...วรุจน์...คเชนทร์...เอ๊ะ ธฤตหายไปไหน อยู่เฉยๆ ก็เงียบไปเลย แล้วก็ท่านประธาน...
...เฮ่ย ท่านประธานไม่เกี่ยว...
...เชิงชายไง แม้จะรู้จักกันมานาน แต่พักหลังก็เริ่ม 'ไม่ธรรมดา' เข้าไปทุกที...
...แล้วคุณทหารอากาศเมฆคนนั้นล่ะ นั่นก็ไม่ค่อยธรรมดาเหมือนกัน เจอกันครั้งแรกก็รู้ว่าไม่ธรรมดา...
...หนึ่ง สอง สาว สี่ ห้า...เฮ่ย หาคนเลยหรือ ตายละหว่า ยุ่งแน่ๆ เลยกายเอ๊ย...

:::  End of Chapter 15 :::



katawoot

  • บุคคลทั่วไป
อ่านรวดเดียวเลยเชียร์ท่านประธาน ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งๆที่เป็นคนผิวขาวแต่ก็เชียร์ ฮ่าๆ
สนุกมากซับซ้อนดี อ่านแล้วตื่นเต้นแต่ก็แอบหัวเสียแทนกาย ว่าเมื่อไหร่จะรู้สักที
รอติดตามแล้วกันนะคะ
ปล. คชานนท์คือใคร อาจจะเป็นเคนนี่ก็ได้นะ ! และอาจจะเป็นคนเดียวกับท่านประธาน คุณพฤศ อาจจะเป็นแค่นามแฝง !(คิดไปเรื่อย)
คชานนท์คือใครงั้นหรือ ฮา ฮา ฮา ฮิ ฮิ หงุหงิ ถ้าเป็นตัวละครในนิยายนะ ขออย่างเดียว ขออย่าให้ได้ไปเจอคชานนท์เลย เพราะใครก็ตามที่ไปยุ่งกับคชานนท์ ชีวิตไม่ได้อยู่อย่างสงบสุขหรอก 555

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2010 16:37:23 โดย samsoon@doll »

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เพิ่งรู้เหรอกายว่ามีผู้ชายมายุ่งกะตัวเองตั้งเยอะ :z1:
แต่เค้าอยากรู้มากกว่าว่าใครคือผู้ชายในคืนนั้น แล้วถ้ารู้แล้วกายจะทำไงต่อไปล่ะ
แต่ท่านประธานไม่ไหวจะเคลียร์แล้วนะ กวนประสาทมากอะ ถ้าเค้าเจอแบบนั้น ปรี๊ดแตก (ในใจ) ยิ่งกว่านี้อีก :angry2:
ถ้าท่านประธานเป็นพระเอกนี่ช็อกอะ แบบชอบคนใจดีมากกว่า o22
+1 ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา  

ออฟไลน์ Cosine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ้างถึง
คชานนท์คือใครงั้นหรือ ฮา ฮา ฮา ฮิ ฮิ หงุหงิ ถ้าเป็นตัวละครในนิยายนะ ขออย่างเดียว ขออย่าให้ได้ไปเจอคชานนท์เลย เพราะใครก็ตามที่ไปยุ่งกับคชานนท์ ชีวิตไม่ได้อยู่อย่างสงบสุขหรอก 555
โอ้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องต่อเหรอคะ? ^^

ยุ่งกับผู้ชายตั้งห้าคนแหน่ะกาย ยิ่งอ่านดูเหมือนยิ่งมีเรื่อง
พี่ทหารคนนั้นยังไม่ค่อยจะมีบทบาทเท่าไหร่ แต่ขอเดาว่าต่อไปคงมีบทเยอะขึ้นและอาจจะทำให้กายวุ่นวาย (เดาไปเรื่อย)
ท่านประธานดูน่ากลัวๆไงไม่รู้ แต่ก็ยังคงเชียร์ต่อไป ฮี่ๆ เราเชื่อว่าท่านมีเหตุผล หึงอ่ะดิ ฮี่ๆ

ติดตามต่อไปแล้วกันค่ะ ^^


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2010 16:23:36 โดย Cosine »

Jinkle

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Nichdia

  • สักวันผมจะเจอ...
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
ลุ้นจนเกร็งไปหมดเลย แอบคิดถึงคเชนทร์ เบาเบา

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
นัดสวิงซักทีดิแล้วจะรู้ว่าใคร :jul3:

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ลุ้นจิงๆๆเลยเรื่องนี้คืนใครกันแน่ :m20:


 :pig4:

ออฟไลน์ honeymic

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
คิดไป คิดมาก็อยากให้คนคนนั้นเป็นท่านประธานจัง
ชอบผู้ชายเย็นชา หุหุ
 :pig4:

 

ออฟไลน์ ღiสุดขอบiღ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-3
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

อยากกางกงเล็บ! แล้วตะปบหน้าอิตาประธาน! เป็นอะไรมากมั้ยค่ะคุณ ชิชะ

เดี๋ยว~~ ปั๊ด เปลี่ยนใจไปเชียร์วรุจน์แทนซะนี่ ฮึมๆ

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0

moonoi_sert

  • บุคคลทั่วไป
 :m15:เฮ้อเจอประธานบริษัทแบบนี้ต่อให้เงินเยอะแค่ไหนก็ไม่ไหว :m15:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
นายกายเพิ่งจะรู้ตัว
เชียร์วรุจน์ น่าจะดี
+1

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ก็ต้องสู้ต่อไปนะกาย......

ส่วนเรื่องคืนนั้น...ก็ต้องรอต่อไป...สู้ๆ :sad4: :sad4: :sad4:

มาต่อเร็วๆนะคราบ....

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
สืบต่อไปนะน้องกาย จะรู้ก็ต่อเมื่อ พี่คนแต่งเค้าเฉลย
ว่าคนคนนั้นเป็นใคร ไม่งั้นนุ้งกายก็จง งง ต่อไปนะจ๊ะ  :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






@StaR@

  • บุคคลทั่วไป
คุณประธานเป็นอะไรมากมั้ย :beat:
หนุ่มที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับกาย
เยอะจริงอะไรจริงแต่คนไหนอ่ะที่เป็นตัวจริง
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้้นมากมาย :L2:

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ หลงไหลในม่านหมอก

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 548
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +298/-2
ไม่ได้เม้นท์ซะหลายตอน  แอบนิสัยไม่ดี  :z6:

ท่านประธานกวนจริงๆ

เอ๊ะ..พูดถึงคชานนท์ที่รัก  อย่าบอกนะว่าจะโผล่มาเรื่องนี้  อร๊ายยย กรี๊ดรอ อิอิ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
คิดไป คิดมาก็อยากให้คนคนนั้นเป็นท่านประธานจัง
ชอบผู้ชายเย็นชา หุหุ
 :pig4:

ความคิดเดียวกัน ฮ่าๆ
ปล. กายสืบต่อไป สู้ๆ

ออฟไลน์ หัวเเม่มือ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 804
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
ถ้ามีคชานนท์มาจะโดนอาวุธจ่อหัวไม่รู๔ตัวโฮะๆๆๆ

ออฟไลน์ iota

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
ดูแล้ววรุจน์นี่รักจริงหวังแต่งเลยนะ
กายไม่ลองเปิดใจให้หน่อยหรือ :m12:
ทหารอากาศ น.ต.เมฆก็น่าสน
ส่วนท่านประธานเป็นผู้ต้องสงสัยที่น่าจะเป็นที่สุดแล้วครับตอนนี้
ถึงจะเงียบขรึมไม่แสดงอะไรออกมามากแต่ดูแล้วเขากำลังทดสอบ
อะไรบางอย่างกับกาย ว่าจะเหมาะกับตำแหน่ง...ในอนาคตหรือเปล่า
อย่างว่าก็นักอ่านอย่างผมหลายใจเลยเชียร์หลายคน :m26:
+1 ครับ :L2:

ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
 :really2: เว่อร์อ่ะพี่นาย น้องนนท์แค่เป็นห่วง
กลัวคนอื่นมะมีความสุข เลยยุ่งจิ๊ดเดียวเอง

อย่านะ น้องนนท์ เค้าออกจะน่ารักเหอะ  :pigha2:

อ่านเสร็จมึนเข้าไปอีก แต่เชียร์ คเชน ตามเดิม  :a5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2010 18:52:48 โดย the_pooh9 »

-N-

  • บุคคลทั่วไป
ยกป้ายไฟเชียร์ท่านประธานต่อไป เจ้าชายเย็นชา อิอิ



ห้า รุม หนึ่ง กายตายๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ vascular

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
...ยังคงคลุมเครือ

bow55

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ยปวดหัวกะผุชายในสต๊อกจริงๆ

แต่เชียร์ท่านประธานสุดใจ อิอิ




 :impress2: :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด