ความลับของพ่อเลี้ยงและความสัมพันธ์ 'ของเรา'
"...."
(ว่าไง)
"ป๊าเป็นยังไงบ้าง"
(ฟื้นแล้ว คุณหนูอยู่ไหน โอเคไหม)
"พ่อเลี้ยง.."
(ครับ?)
"มาเจอหนูหน่อยได้ไหม"
"ที่สวนหลังเรือนขาวนะ"
(อืม)
อากาศเย็นๆของเดือนธันวาคมพัดผ่านโอบล้อมชายหนุ่มไว้ ไหล่ผายกว้างที่เจ้าตัวภูมิใจหนักหนากำลังห่อเล็กลงจนดูน่าเห็นใจ พ่อเลี้ยงโอบจันทร์หยุดยืนมองคุณหนูของไร่จากทางด้านหลังที่กำลังนั่งห่อไหล่อยู่บนโต๊ะไม้แข็งแรงอย่างนึกเห็นใจ พ่อเลี้ยงย่ำเท้าลงบนผืนหญ้าเสียงเบาหากแต่อีกคนกลับได้ยินอย่างชัดเจนเมื่อรอบข้างเงียบสนิท
ใบหน้าคมผินมามองพ่อเลี้ยงแล้วระบายยิ้มให้ หากแต่เขารู้ดีว่ายิ้มนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด พ่อเลี้ยงค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งข้างๆแล้วเอื้อมมือไปลูบหลังมืออีกคนที่กุมมือประสานกันแน่นบนตักของเจ้าตัว ฝ่ามือขาวสั่นระริกจนเขาต้องบีบเบาๆให้เจ้าตัวผ่อนคลายความเครียดเกร็งลง
"พ่อเลี้ยง...หนูว่าหนูจะแต่งงานกับลลิลแหละ" สิ้นคำพูดพ่อเลี้ยงโอบจันทร์นิ่งค้างไป กว่าจะรู้สึกตัวได้ก็เห็นว่าคุณหนูโอบลมจ้องหน้ามองตัวเขาอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
"ทะ..ทำไมละ" ราวกับมีก้อนแห่งความหนักหน่วงใจถ่วงไว้ที่ลำคอ ลมหายใจขาดห้วงเมื่อมองใบหน้าของคนข้างกายกลับเต็มไปด้วยความแน่วแน่ ไหนตอนแรกตัวเองคัดค้านเสียขนาดนั้น
"อยากให้ป๊าสบายใจ"
"แล้วความรู้สึกของหนูละ หนูสบายใจหรือ" คุณหนูของไร่เสหลบสายตาออกจากนัยน์ตาสวยที่มองมาอย่างมีคำถาม ดวงตาคมเข้มเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีดำทึบ หากแต่ต้องระบายยิ้มออกมายามที่มองเห็นดวงดาวหลากหลายดวงส่องแสงพราวระยับหยอกล้อกัน
พ่อเลี้ยงไม่เคยรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องมากขนาดนี้มาก่อน ฝ่ามือเย็นเฉียบเผลอเอื้อมไปดึงรั้งเสื้ออีกฝ่ายเบาๆ หากแต่อีกคนก็ไม่ได้รับรู้ถึงฝ่ามือชื้นเหงื่อคู่นี้เลย ยังคงจดจ้องท้องฟ้าราวกับจะปล่อยใจไปกับความเวิ้งว้างนั้น หากแต่ได้ทิ้งความหนักอึ้งในจิตใจไว้ให้คนข้างหลังโดยไม่รู้ตัว
"ตอนไปเข้าค่าย เพื่อนหนูชอบถามว่าทำไมหนูถึงชอบมองดาว"
"หนูตอบมันไปว่าไม่มีก็อะไรหนิ แต่ตอนนี้หนูรู้แล้วว่าทำไมหนูถึงชอบมอง"
"เพราะหนูชอบคิดอยู่เสมอว่า...."
"ต้องมีสักวันแหละ ที่หนูและดาวจะเข้าใกล้กันได้มากกว่านี้" ประโยคสุดท้ายคุณหนูโอบลมผินหน้ามาจ้องมองพ่อเลี้ยงของตนเอง ความรู้สึกมากมายที่กักเก็บเอาไว้ แทบล้นทะลักออกมาจนเผยให้พ่อเลี้ยงรู้จนหมดสิ้น ในเวลานี้จิตใจของคุณหนูบอบบางเหลือเกิน เพียงแค่มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใย เขาก็แทบไม่อยากอดทนต่อความรู้สึกมากมายที่มีในใจนี้
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ริมฝีปากชื้นกดจูบลงที่กลีบปากสีอ่อนระเรื่อ เคล้นคลึงบดเบียดราวกับจะถ่ายเทความอึดอัดใจไปให้อีกคน ปลายนิ้วอุ่นร้อนสอดเข้าไปในเสื้อ บรรจงลูบไล้แผ่นหลังเนียนแผ่วเบา ปลายลิ้นชื้นลูบไล้ริมฝีปากก่อนที่จะดุนให้อีกคนเผยอกลีบปากขึ้น สอดสัมผัสกับปลายลิ้นอีกคนที่หลบหลีกเขานั้นให้ได้เข้าใกล้ชิดกัน
ในคราแรกพ่อเลี้ยงโอบจันทร์นั่งนิ่งค้างแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด ทำให้โอบลมย่ามใจและเริ่มส่งมือไปเคล้นคลึงยอดอก เสียงครางฮือในลำคอทำให้คุณหนูเลิกบดริมฝีปากกับพ่อเลี้ยง แต่เจ้าตัวหันมากดจูบที่หน้าผากและไล่ลงมาที่ขมับแทน มืออีกข้างดันให้พ่อเลี้ยงนอนราบไปตามแนวเก้าอี้ ก่อนที่จะใช้ฝ่ามือเลิกเสื้อเชิ้ตขึ้นจนเห็นหน้าอกขาวนวล
ลิ้นอุ่นชื้นแตะแต้มลงบนผิวผะแผ่ว มือข้างขวาบดขยี้ยอดอกจนแข็งขืนขึ้นสู้มือ ส่วนมืออีกข้างก็บีบมือพ่อเลี้ยงไว้ให้เจ้าตัวผ่อนคลาย ไม่มีการห้ามปรามใดๆ ทั้งสองเลือกที่จะทำตามใจตนเองทั้งสิ้น
คุณหนูมีความลับที่ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยออกไปให้อีกฝ่ายรับรู้
และพ่อเลี้ยงก็เช่นกัน ลิ้นชื้นแฉะไล้เลียตามแอ่งสะดือก่อนที่มือจะเลื่อนลงมาปลดกระดุมออก จนเผยให้เห็นเรือนร่างที่เขาไม่เคยได้เห็นมาจากไหนแม้จะอยู่ด้วยกันมานานก็ตาม เพราะพ่อเลี้ยงมักจะแต่งตัวเรียบร้อยมิดชิดอยู่เสมอ เมื่อยกหน้าขึ้นมองพ่อเลี้ยงก็เห็นได้ว่าเจ้าตัวหลับตาลงและน้ำตาไหลรินลงมาที่หางตา คุณหนูโอบจันทร์ชะงักค้างและมองไปตามตัวพ่อเลี้ยงก็เห็นได้ว่าพ่อเลี้ยงบอบช้ำจากริมฝีปากตนเองมากขนาดไหน
คุณหนูระงับใจถอดถอนหายใจหนักๆอย่างสงบสติอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ก่อนที่จะเอื้อมมือสั่นๆไปติดกระดุมให้คุณพ่อเลี้ยง หากแต่ต้องชะงักเมื่อพ่อเลี้ยงจับแขนของเขาไว้เป็นการห้ามปราม ฝ่ามือของพ่อเลี้ยงเย็นเฉียบจนเขาสัมผัสได้ และก็ต้องนิ่งค้างไปเมื่อพ่อเลี้ยงสอดแขนเข้ามาคล้องคอเขาไว้เสียเอง
"ทำต่อสิ" น้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรงดังขึ้นเผ่าเบาที่ข้างหู พ่อเลี้ยงยิ้มจางๆให้ก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้้ง ฝ่ามือลูบไล้สอดเข้าไปใต้กลุ่มผมของเขาเบาๆเป็นการอนุญาติให้เขาทำตามใจตัวเอง ริมฝีปากชื้นของเขากดจูบซับน้ำตาที่ไหลลงมาจากหน่วยตาที่ปิดตัวลงหากแต่ริมฝีปากกลับยกยิ้มอย่างสุขใจ
มอบรอยยิ้มให้ทั้งๆที่น้ำตายังคงรินไหลลงมา
ฝ่ามือร้อนสอดเข้าไปในกางเกงผ้ายืดของอีกคนแล้วกอบกุมส่วนอ่อนไหวไว้ภายในอุ้งมือ พ่อเลี้ยงครางฮือจนเขาต้องแนบริมฝีปากตัวเองกับริมฝีปากของพ่อเลี้ยงไว้ เพราะพ่อเลี้ยงกำลังเผลอขบริมฝีปากตนเองจนห้อเลือดชัดเจน
ปลายนิ้วมือลูบไล้ริมฝีปากช้ำเบาๆในขณะที่เริ่มแทรกขาตัวเองไว้ให้ขาของพ่อเลี้ยงอ้าออกกว้าง ส่งปลายนิ้วร้อนไปลูบไล้รอยจีบพับเบาๆจนพ่อเลี้ยงต้องหุบขาเข้ากันโดยอัตโนมัติแต่ก็ไม่สามารถหุบได้เพราะตัวเขาที่แทรกไว้หว่างขา คุณหนูค่อยๆไล่จูบไปตามใบหูและซอกคอขาว ลมหายใจร้อนๆเป่ารินรดมากพอที่จะทำให้พ่อเลี้ยงครางเสียงสั่นในลำคอได้
ฝ่ามือขยับรูดรั้งส่วนอ่อนไหวจนสิ่งที่เคยนอนแน่นิ่งกลับตื่นขึ้นมา คุณหนูเอื้อมมือไปหยิบถุงยางอนามัยที่ถูกสอดเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงก่อนที่จะใช้ปากกัดและฉีกออกด้วยมือเพียงข้างเดียว เพราะมืออีกข้างยังคงสาละวนอยู่กับหน้าอกขาวๆ น้ำหล่อลื่นที่มากับถุงยางถูกส่วมใส่ลงที่นิ้ว ก่อนที่เจ้าตัวดีจะค่อยๆส่งนิ้วเข้าไปในโพรงนุ่มหยุ่น
"ฮื่ออ" ปลายนิ้วหยุดชะงักการสอดใส่เมื่อพ่อเลี้ยงร้องครางต่อต้าน ปลายนิ้วที่สวมด้วยถุงยางอนามัยค่อยๆไล้วนรอบรอยจีบพับก่อนที่จะค่อยๆกดเข้าและกดออกเป็นการขออนุญาติ ดวงตาสวยยังคงจ้องมองใบหน้าที่ขึ้นสี่ระเรื่อจากอุณหภูมิในร่างกายที่สูงขึ้นอย่างไม่อาจละสายตาได้
คนตัวใหญ่กว่าถอดเสื้อออกมา โอบลมอุ้มพ่อเลี้ยงขึ้นจนหลังลอยเหนือเนื้อไม้ แล้วรีบหยิบเสื้อตัวเองไปวางพาดไว้ไม่ให้พ่อเลี้ยงโอบจันทร์รู้สึกระคายผิวหลังยามที่ถูกวางระนาบลง
"พ่อเลี้ยงอย่าโกรธหนูเลยนะครับ" นิ้วเรียวยาวสอดใส่จนสุดปลายนิ้วก่อนที่จะค่อยๆขยับเข้าออกเชื่องช้า ลมหายใจผ่อนเข้าออกยาวๆของพ่อเลี้ยงบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวกำลังผ่อนคลายตนเอง นิ้วเรียวสวยยกขึ้นโอบกอดแผ่นหลังกว้าง จิกลงบ้างยามที่เจ้าคนตัวดีงอนิ้วตัวเองจนครูดกับผนังเนื้อนิ่ม
ถุงยางอนามัยซองใหม่ถูกกัดแกะและสวมใส่ที่ส่วนอ่อนไหวใหญ่โตขึงขัง ส่วนหัวถูไถกับช่องทางเบาๆก่อนที่จะค่อยๆกดตัวเข้าไป โอบลมแลบลิ้นไล้เลียริมฝีปากตัวเองเบาๆเมื่อแกนกายกำลังถูกความอุ่นร้อนโอบอุ้มไว้ พ่อเลี้ยงส่ายหัวพรืดจนคุณหนูโอบลมต้องก้มตัวลงไปตวัดปลายลิ้นที่ยอดอกเป็นการเบนบ่ายความสนใจ พ่อเลี้ยงสอดนิ้วมือเข้าไปขยุ้มเส้นผมของคนด้านบนแรงๆเป็นการระบายความเจ็บเสียด
สะโพกสอบค่อยๆขยับเข้าออกเบาๆ ร่างกายเกร็งขึงจนเส้นเลือดตามท้องแขนและซิกแพคเป็นลอนเผยรูปขึ้นแจ่มชัด หยาดเหงื่อไคลไหลย้อยลงมาตามร่างกายสมบูรณ์แบบ โอบจันทร์เอื้อมมือไปจับกล้ามแขนได้รูปไว้แน่นพลางซุกหน้าลงซบอย่างอ่อนแรง สะโพกสอบขยับเข้าออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ฝ่ามือขาวจับขาข้างหนึ่งของพ่อเลี้ยงตัวเองขึ้นพาดบ่าเพื่อให้สอดใส่ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นอย่างหยาบโลนตามจังหวะสม่ำเสมอ สองมือขาวจับสองขาของพ่อเลี้ยงให้แยกออกกว้างบ้าง ขึ้นพาดบ่าบ้าง ตามอำเภอใจ ริมฝีปากกดจูบไปตามข้อเท้าด้านในไล่ลงมายันน่องปลี
ยามที่เหมือนตัวเองจะใกล้ถึงฝั่งฝันคุณหนูโอบลมกลับค่อยๆผ่อนแรงลงแล้วสาวเอวเข้าออกช้าๆ สวนสะโพกกลับไปเน้นๆจนได้ยินเสียงพ่อเลี้ยงร้องดังอั้กเพราะความจุก คนเด็กกว่าพลิกตัวพ่อเลี้ยงให้อยู่ในท่าคลานและโอบจันทร์ก็ทำตามอย่างว่าง่าย สองมือวางลงบนบั้นเอวขยุ้มแรงๆแล้วเริ่มขยับสะโพกอีกครั้ง
สาวสะโพกเข้าออกสุดความยาวจนลึกล้ำสัมผัสได้ถึงช่วงสะโพกที่แนบชิดกับบั้นท้ายกลมกลึง คุณหนูโน้มตัวลงไปไล่จูบที่ท้ายทอยของพ่อเลี้ยงไล่เรื่อยลงมาที่แผ่นหลังขาวสะอาด ยกหน้าขึ้นมาก็เจอกับเอวโค้งเว้าสวยในแบบผู้ชายที่ยั่วยวนตาเหลือเกินในความคิด
พ่อเลี้ยงไม่ใช่คนผอมบางหากแต่เป็นคนมีเนื้อหนัง ยามที่จับบีบเค้นนั้นก็เต็มไม้เต็มมือจนอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปฟัดเนื้อนิ่มนั่นอีกรอบ สะโพกสอบสวนแรงขึ้นเมื่อใกล้ถึงฝั่งฝันอีกครั้ง เสียงครางในลำคอของพ่อเลี้ยงถูกเปล่งออกมาเพราะคุณหนูเอื้อมมือไปสาวรั้งให้ พ่อเลี้ยงถูกพลิกตัวให้มาสบสายตาคมอีกครั้งโดยที่ขาทั้งสองข้างพาดบ่ากว้างทั้งคู่ โอบลมโน้มตัวลงมาทำให้ใบหน้าอยู่ใกล้กับพ่อเลี้ยงจนห่างกันเพียง 1 ฝ่ามือเท่านั้น และส่งยิ้มจางๆไปให้คนใต้ร่าง
"ขอบคุณที่ดูแลผมตลอดมานานครับ" สองมือของคุณหนูสอดประสานกันเหนือหัวพ่อเลี้ยง โน้มใบหน้าลงมาจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากเนียนชื้นเหงื่อ ก่อนที่เสียงครางอื้ออึงจะถูกเปล่งออกมาพร้อมๆกับความอุ่นร้อนที่ถูกอัดฉีดลงไปในถุงยางอนามัย เอวสอบค่อยๆผ่อนแรงขยับรูดรั้งจนหยุดนิ่ง ปลายจมูกโด่งคลอเคลียอ้อร้อกับปลายจมูกอีกคน
พ่อเลี้ยงที่กำลังเคลิ้มก็ต้องกระพริบตาขึ้นเมื่อรับรู้ได้ถึงหยาดหยดน้ำตาจากคนข้างบนที่ทาบทับตัวเองไว้ ส่งมือไปซับน้ำตาให้พร้อมกับรอยยิ้มเพื่อบรรเทาความรู้สึกผิดที่ตีตื้นขึ้นมาจุกที่อกของคุณหนู
"รักลูกชายเราหรือ"
"ระ..รู้เหรอครับ"
"รู้ซิ ก็แม่ของคุณโอบลมคือคุณแม่บุญชูของพ่อเลี้ยงไม่ใช่หรือ" แม้ว่าโอบลมจะเกิดมาจากคนที่คุณพ่อเลี้ยงรักมาก แต่ก็ไม่น่าแปลกใจหากพ่อเลี้ยงจะรู้สึกรักโอบลมเช่นกัน หากแต่มันเกินเลยกันไปเสียหน่อย และคุณโอบศักดิ์รู้ดีว่าคุณพ่อเลี้ยงคนนี้รักลูกชายของเขามากเกินไปเสียแล้ว
"เราขอโทษนะ ที่เราจะพรากคนรักของพ่อเลี้ยงอีกคนมาอีกแล้ว แต่เรามีลูกชายเพียงคนเดียว ปล่อยลูกชายเราไปเถิดนะ"
"อย่าให้ความรักที่บิดเบี้ยวของพ่อเลี้ยงมาทำให้ลูกชายเราเปลี่ยนไปเลย" คนเป็นพ่อรักลูกมากจนไม่อยากให้ลูกชายตนเองชอบพอกับคนที่จะไม่สามารถสืบทายาทได้ แม้ว่าคนนั้นจะเป็นพ่อเลี้ยงโอบจันทร์ก็ตาม
"คุณเห็นแก่ตัวเสมอเลยนะครับคุณโอบศักดิ์"
"ตอนที่คุณแม่บุญชูตั้งครรภ์ คุณโอบศักดิ์ก็พูดแบบนี้กับผมเหมือนกัน ลืมไปแล้วหรือครับว่าที่คุณแม่บุณชูเสียก็เพราะใคร ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมเลี้ยงเขามาแบบคนปกติ ไม่ได้ไปพูดกรอกหูให้เขาชอบพอกับผู้ชายเหมือนกันสักหน่อย"
"ให้ลูกชายคุณเลือกเองเถอะครับ ยังไงผมก็เลี้ยงดูเขามากับมือ
"ผมจะพยายามทำตัวเป็นปกติ แต่ถ้าเกิดว่าคุณโอบลมเข้าหาผมก่อน....ผมจะไม่ปล่อยเขาไปนะครับ"
"ถึงลูกชายเราจะชอบผู้ชาย แต่เขาจะไปคิดกับพ่อเลี้ยงในเชิงนั้นได้อย่างไรกัน"
บทสนทนาที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่วันนั้นจำได้ว่าถึงจะพูดกับคุณโอบศักดิ์ไปแบบนั้น แต่ลึกๆแล้วเขาก็รู้ตัวดีว่าความรักที่บิดเบี้ยวของตนเองคงไม่อาจส่งผลถึงอีกคนหรอก ยิ่งเจอกับคำพูดลอยๆของคุณหนูว่าจะแต่งงานกับหนูลลิล ก็เหมือนกับโลกทั้งใบกำลังมืดมัวลง แต่มาวันนี้ที่เจอการกระทำอันแสนอุกอาจของคุณโอบลม ที่อาจจะทำให้เขาตกใจและตะลึงไปบ้าง หากแต่มันก็ทำให้ความหวังที่ริบหรี่เกินทนของเขาสว่างไสวขึ้นมา
ครั้งเมื่อนานมาแล้วเด็กชายโอบจันทร์เป็นเด็กกำพร้า และถูกเลี้ยงดูมาด้วยคุณแม่บุญชู หัวหน้าแม่บ้านของไร่ คุณแม่สวย ใจดี เลี้ยงดูเขามา ตอนเด็กเขารู้แค่ว่าคุณแม่บุญชูจะมีน้อง อุ้มครรภ์จนครบ 9 เดือน คุณแม่ก็เสียชีวิตลง เด็กในท้องของคุณแม่ถูกส่งทอดมาถึงพ่อเลี้ยงโอบจันทร์ เขาไม่รู้เลย ไม่เคยรู้เลยว่าเด็กที่ออกมานั้นจะเป็นลูกชู้ของคุณโอบศักดิ์กับคุณแม่บุญชู เพียงเพราะว่าภรรยาตนเองเป็นหมัน คุณโอบศักดิ์เลยเลือกที่จะมาสมสู่กับคุณแม่แทน
เติบโตขึ้นมาเขาถึงได้รู้ว่าที่คุณแม่บุญชูเสีย เพราะภรรยาของคุณโอบศักดิ์สั่งเก็บเพราะความแค้นเคืองกับการกระทำอันน่ารังเกียจ โดยที่คุณโอบศักดิ์ไม่สามารถทำอะไรได้แม้แต่น้อย และภรรยาที่เคยเป็นที่รักก็ต้องเข้าคุกรับโทษตนเองไป
ไม่ได้มีเพียงแค่เขาหรอกที่สูญเสีย ทุกๆคนก็สูญเสียกันมาด้วยกันทั้งนั้น จากคนที่สวย อ่อนหวานก็ต้องมีจิตใจที่มืดดำเพราะความแค้นเคือง จะให้เขาโกรธเคืองคุณโอบศักดิ์ก็ไม่ได้อย่างใจคิด เพราะเขาก็มีบุญคุณกับตัวพ่อเลี้ยงเหลือเกิน สัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่ให้ความพยาบาทนั่นมากลืนกินจิตใจ ทุกคนในไร่เลือกที่จะเก็บเรื่องราวขมขื่นไว้ในใจแล้วเลี้ยงดูคุณหนูของไร่ออกมาให้มีความสุขที่สุด
ถึงแม้ว่าความรักที่เติบโตขึ้นมานั้นจะผิดรูปแบบไปบ้าง แต่อย่างไรเสียความรักก็ยังคือความรัก
เห็นไหมครับคุณโอบศักดิ์ ไม่ได้มีแค่ผมสักหน่อยที่มีความรักที่บิดเบี้ยว
ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างธรรมชาติ ค่อยๆให้ความรักความห่วงใย แทรกซึมลงไปในจิตใจที่บอบช้ำ
เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง
ร่างกายอ่อนแรงของเขาถูกอีกคนช้อนอุ้มขึ้น เสื้อเชิ้ตยับยู่ยี้ถูกนำมาคลุมร่างกายตนเองเอาไว้ แผ่นอกเปลือยเปล่าของพ่อเลี้ยงและคุณโอบลมสัมผัสกันแนบแน่นเมื่อคนตัวใหญ่กว่าโอบอุ้มเขาไว้ ใบหน้านวลเนียนซบลงที่บ่าเปลือยเปล่าอย่างอ่อนแรง รอยยิ้มจางๆถูกลอบมอบให้อีกคนที่ตั้งอกตั้งใจอุ้มเขาขึ้นบันไดไปยังห้องนอน
"พ่อเลี้ยงรักหนูนะ"
"ผมก็รักพ่อเลี้ยง"
"ยังจะแต่งงานกับลลิลอีกไหม"
"ไม่แล้วครับ"
เสียงหายใจเข้าฟูดใหญ่ดังขึ้นที่กลางกระหม่อมเมื่อโดนคนที่อุ้มลักลอบสูดหายใจแรงๆ แม้จะอยากต่อว่าไปบ้างที่อีกคนแอบขยุ้มบั้นท้ายเขา แต่ก็จะทำเป็นไม่รู้สึกอะไรละกันนะ....ตามใจเขาบ้างสักหน่อย
โอบจันทร์ถูกวางลงบนเตียงนุ่มเบาๆพร้อมๆกับดอกไม้ช้ำในกำมือที่ร่วงโรยลงบนพื้น
เขาว่ากันว่าหากเราชอบดอกไม้เราจะเด็ดดอกไม้มาชื่นชมความงามของมัน
แต่ถ้าหากเรารักดอกไม้เราจะหมั่นดูแล รดน้ำให้ดอกไม้สวยงามขึ้น
แล้วดอกไม้ในมือของพ่อเลี้ยงโอบจันทร์ที่บอบช้ำนี้หละ
ไม่มีอะไรสลักสำคัญ หรือตรรกะตายตัว เพียงแค่การเริ่มต้นกับดอกไม้ดอกใหม่ ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเสียหน่อย
ถ้าดอกเก่าผิดพลาดและบอบช้ำ แค่จำไว้เป็นบทเรียนแล้วดูแลดอกใหม่ให้งดงามดั่งเดิมก็พอ
โปรดติดตามตอนจบ
พบเจอคนผิดนัดหนึ่งอัตราค่ะ มาช้าดีกว่าไม่มาเนอะ คงไม่งงกับแผนผังความสัมพันธ์กันใช่หรือไม่ ตอนหน้าก็ตอนจบแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ