17th Monday : มุมมองของคนที่รักวันจันทร์ (คุณเมฆเล่าบ้าง) -- 100%
#เรื่องของคนที่เกลียดวันจันทร์
วันจันทร์นี้ผมเข้าออฟฟิศครับ เมื่อเคลียร์เอกสารตัวเองเสร็จก็จะหาเรื่องมาหาไอ้แว่นกฤติเพื่อเจอกับน้องแก้มกลมอีกครั้ง ตอนที่กำลังจะเดินเข้าออฟฟิศดันป๊ะกับน้องแทนใจที่เดินถือกระเป๋าตังกับโทรศัพท์ออกมาพอดี โชคดีแฮะ
“แทนใจ”
“อ้าว คุณเมฆ สวัสดีครับ”
น้องผมยกมือไหว้ผมแบบงงๆ ซึ่งผมก็รับไหว้ด้วยความเต็มใจ หน้าตาน้องดูง่วงมากเลยครับ เหมือนถูกปลุกมาทำงานตั้งแต่ตีสี่ ซึ่งตรงข้ามกับผม ความจริงก็ง่วงนะ แต่กำลังทำหน้าตาสดชื่นอยู่ครับ
“นี่จะไปไหนน่ะเรา?”
“ซื้อกาแฟครับ”
“พอดีเลย ผมก็จะซื้อกาแฟ”
น้องถือกระเป๋าเงินออกมาด้วยนี่ผมก็หมดสิทธิ์เลี้ยงแล้วดิ … แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยหาเรื่องเลี้ยงทีหลัง น้องไม่ค่อยทันคนเท่าไหร่หรอกครับผมรู้
ตอนนี้เด็กแก้มกลมของผมมองผมด้วยสายตาชื่นชมอยู่ครับ เหมือนกับมองไอดอลอะไรทำนองนั้น อยากรู้จังว่าน้องคิดอะไรอยู่ จะคิดว่าผมหล่อหรือเปล่านะ---
“ก่อนเป็นโปรเจคฯ คุณเมฆเป็นช่างอะไรมาก่อนเหรอครับ?”
อ่าว ไม่ใช่แฮะ
หน้าแตกเล็กน้อย แต่ความสามารถในการคีพคูลยังคงอยู่
“บอกให้เลิกเรียกคุณไง”
“แต่ผม--”
“ถ้าคุณไม่เลิกเรียกแบบนี้ ไว้ผมจะเรียกคุณว่าพี่แทนใจบ้างนะ”
“แต่คุณไม่ได้เป็นพี่ผมนี่”
“แล้วคุณรู้ได้ไง”
“ก็หน้าคุณ…ดูมีวุฒิภาวะอะครับ”
“แล้วแทนใจไม่มีเหรอครับ?”
“หือ? ครับ??”
“วุฒิภาวะน่ะ”
“คุณ?!”
ยืนยันอีกครั้ง ว่าเด็กผู้ชายยิ่งชอบยิ่งแกล้งคือเรื่องจริง หน้าตาน้องเขาตอนที่กำลังงงแล้วอยู่ๆก็เปลี่ยนเป็นเหมือนกับจะโมโห แต่ก็ยังงงอยู่มันตลกดี ผมอยากเห็นอะไรแบบนี้อีกอย่างที่บอก เลยแกล้งเดินหนีออกมาก่อนให้อีกคนเดินตามเพื่อจะดูปฏิกิริยา
“คุณว่าผมทำไม”
“หน้าคุณตลกดี”
ผมพูดเรื่องจริง หน้าน้องเขาตลกจริงๆ … แล้วก็น่ารักด้วยเหมือนกัน
แล้วผมก็หาเรื่องเลี้ยงกาแฟเขาด้วยความสามารถเดียวกับการมัดมือชกลูกค้าและพวกช่างเข้าใหม่หลายๆคนที่ไม่ยอมทำตามที่ผมต้องการ ซึ่งน้องยังงงๆอยู่ผมเลยตะล่อมหาทางชวนไปกินข้าวเย็นด้วยกัน ถ้าเป็นคนปกติน่าจะรู้ได้แล้วแหละว่าผมกำลังเข้าหา แต่นี่คือน้องแก้มกลมไง
“คุณเลิกงานแล้วไปเลี้ยงกาแฟผมไหม? ที่ห้างแถวนี้เป็นไง?
“แล้วคุณไม่ต้องกลับบ้านกลับช่องเหรอครับ?”
ดีนะมากันสองคน ถ้ามีไอ้แว่นกฤติ หรือไอ้เชี่ยเบิร์ดอยู่แถวนี้ผมโดนหัวเราะสมน้ำหน้าใส่แน่นอน
เอาวะวันนี้ไม่สำเร็จ เดี๋ยวครั้งหน้าลองใหม่ก็ได้ ผมชอบน้องเขาและอยากรู้จักมากขึ้นกว่านี้
เกมนี้ผมต้องชนะ
.
.
.
“พี่เมฆ ว่าไงคะ?”
ผมโทรไปที่ operator ของบริษัทซึ่งแทบจะไม่เคยโทรเลยครับเพราะผมไม่มีเรื่องต้องติดต่อด้วยหนึ่ง สองคือน้องเขาชอบชวนคุยอะไรก็ไม่รู้ ผมขี้เกียจคุยด้วย
“สวัสดีครับ ขอเบอร์ต่อของคุณแทนใจหน่อยครับ”
“ให้แนนโอนสายให้---”
“รบกวนขอเบอร์ด้วยครับ”
“อ่าค่ะ” น้อง operator เงียบไปสักพัก ก่อนจะกลับมาพร้อมเบอร์ต่อโต๊ะน้อง “56517 ค่ะ”
“โอเค ขอบคุณมากครับ”
ผมวางสายทันทีโดยไม่รอให้เขาพูดต่อ เมื่อได้เบอร์แล้วผมก็จัดการโทรไปขอยืม USB โง่ๆเพราะอยากได้ยินเสียงน้องเขาตามสายโทรศัพท์แค่นั้นแหละ ซึ่งแน่นอนว่าผมจดเบอร์ต่อน้องเอาไว้เรียบร้อย เผื่อมีอะไรจะได้โทรหาได้ง่ายๆ
แล้วโอกาสก็มาถึงในสัปดาห์ถัดไป วันจันทร์ในตอนเช้าหลังจากที่ผมเคลียร์ธุระปะปังของตัวเองเสร็จ ผมไม่รอช้าที่จะโทรไปหาเด็กแก้มกลมของผมทันที
“นี่ผมเอง”
“ผมไหนครับ?”
“ผมเมฆไง ทำไมไม่รู้ชื่อผมเนี่ยคุณ ผมจะเอา USB ไปคืนน่ะ”
จะบอกว่าโทรไปจีบก็ดูเสี่ยวไปหน่อย วิธีแบบนี้แหละที่เหมาะกับการตะล่อมกระต่ายมาไว้ที่บ้านที่สุดแล้ว
“นี่คุณอยู่ที่โต๊ะใช่มั้ย?”
“คุณเมฆโทรเข้ามาเบอร์โต๊ะนะครับ ผมว่าก็น่าจะเดาได้ไม่ยาก”
“กวนผมอีกแล้วนะคุณ แป๊บนึง เดี๋ยวผมจะลงไปดีดหน้าผาก ห้ามหนี ”
เมื่อลงไปก็เห็นว่าน้องกำลังเล่นกับคนที่แผนกอย่างสนิทสนม ความจริงผมไม่ค่อยชอบหรอกครับที่มีคนอื่นมาดึงแก้มลูบหัวแทนใจแบบนี้ คนที่ทำแบบนี้ควรจะเป็นผมไม่ใช่หรือไง
ตอนนี้ยังไม่มีสิทธิ์หวงอะไร เอาไว้รอผมได้แทนใจมาเป็นของตัวเองก่อน จะไล่ตัดมือทิ้งให้หมด เริ่มต้นที่เพื่อนเตี้ยๆของน้องก่อนเลย ดึงแก้มแทนใจแรงขนาดนั้นได้ไง แก้มน้องแดงเลยเนี่ย
แต่แม่งเอ๊ย น้องแก้มแดงแล้วน่ารักฉิบหาย จะดีแค่ไหนถ้าเขาทำแก้มแดงๆแบบนี้ตอนที่อยู่ด้วยกันสองคนวะ?
.
.
.
“ผมจริงจังกับแทนใจนะ”
ผมพูดกับไอ้แว่นกฤติตอนที่เรามาทานข้าวเย็นด้วยกัน ตอนแรกมันก็จะไม่มาหรอก แต่พอเอาเรื่องแทนใจมาอ้าง เท่านั้นแหละรีบเคลียร์งานมากับผมเลย นี่แหละคือพลังของลูกรักแผนก
เท่าที่สังเกตมาแทนใจดูเหมือนเป็นลูกของแผนกจริงๆ ทุกคนโอ๋เจ้าตัวแบบที่น้องเขาก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร อ๊องไปอ๊องมาวันๆ ยิ่งแบบนี้ผมคิดว่าคนอื่นเลยยิ่งโอ๋
รวมถึงผมด้วยเช่นกัน
“แล้วมาบอกผมทำไม?”
“ขอแม่ของน้องก่อนไง”
“คุณเคยตายมั้ย?”
ผมหัวเราะเมื่อไอ้แว่นมันด่าแบบไม่จริงจัง แต่สุดท้ายก็ยอมช่วยให้ข้อมูลสำคัญๆของน้องอย่างเช่นพวก Facebook เบอร์ แล้วก็ที่อยู่น้องกับผมอยู่ดี
ตอนแรกมันก็จะไม่ให้หรอก แต่ผมจริงจังไง อีกอย่างคือ ผมเองก็กุมความลับมันไว้หลายเรื่องเหมือนกัน เป็นเพื่อนกับไอ้แว่นนี่คือเหมือนเราทำสัญญาซาตานกันครับ
------- Monday In Love --------
วันนี้แหละโอกาสของผม!
ผมหมายมั่นปั้นมือกับตัวเองอีกครั้งเมื่อไปเค้นคอเอาที่อยู่แทนใจจากไอ้แว่นกฤติมาได้ วันนี้ผมว่าผมจะไปรับน้องครับ ทำเนียนๆแบบบังเอิญมาเจออะไรอย่างงี้แล้วให้ติดรถไปด้วยกัน เผื่อจะได้รู้จักน้องมากขึ้นด้วย
ว่าแต่เอาอะไรไปเป็นข้ออ้างดี?
ผมรู้มาจากการคุยกันว่าน้องนั่งรถเมล์มาทำงานเอง เลยไปจอดรถไว้ในโครงการ Community mall ใกล้ๆกับป้ายรถเมล์แล้วก็ BTS แล้วเดินไปซื้อโจ๊กหม้อดินเจ้าดังมาสองถุง เพราะเดาว่าแทนใจคงยังไม่ได้กินอะไรแน่นอน
นี่ผมดีขนาดนี้แล้วนะ เมื่อไหร่น้องจะชอบผมสักทีวะเนี่ย
เอาจริงมานี่คือวัดดวงล้วนๆ ถ้าไม่เจอน้องก็ถือว่าครั้งนี้เฟลไป ไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยไปหาเรื่องเลี้ยงกาแฟตอนสายๆเอาก็ได้
วันนี้โชคน่าจะเข้าข้างผม
ผมยิ้มเมื่อเห็นเป้าหมายเดินรีบๆมายืนหน้าบึ้งอยู่ที่ป้ายรถเมล์ น้องสะดุ้งตกใจเหมือนเห็นผีเมื่อผมเดินไปทัก แล้วทำทีว่ามาซื้อโจ๊ก ถ้าเป็นคนปกติต้องคิดแล้วแหละครับว่ามันแปลกๆ แต่นี่คือแทนใจ น้องดูไม่สงสัยอะไรแล้วขึ้นรถไปกับผมง่ายๆ
โห หลอกไปขายท่าจะได้หลายตัง แก้มเยอะแบบนี้ชั่งแล้วน่าจะหลายโลฯอยู่
น่าแปลกใจที่น้องสามารถอยู่มาบนโลกจนโตขนาดนี้ด้วยความคิดเด็กๆแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเขาเป็นเด็กนะครับ แต่เขาเหมือนเด็ก ในด้านความคิดหลายๆเรื่อง คล้ายกับว่าที่บ้านเลี้ยงมาอย่างดี เลี้ยงเพาะในเรือนกระจก ไม่ให้เจอกับไรฝุ่นหรือมลภาวะทางความคิดและความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย แทนใจถึงได้โตมาเป็นเด็กที่น่ารักแล้วก็มองโลกในแง่ดีขนาดนี้
ถึงแม้จะน่าเหนื่อยใจไปหน่อยในบางทีที่น้องเหมือนกับจะสื่อสารไม่รู้เรื่องก็ตาม
เอาเถอะ น่ารักทำอะไรก็ไม่ผิด คุณจะเถียงเหรอ? เถียงสิ ผมก็ปล่อยคุณไว้แบบนั้นแหละ ไม่ได้ชื่อแทนใจผมไม่เสียเวลาสนใจนะ
.
.
.
.
ผ่านมาเป็นเดือนแล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า
ความมองโลกในแง่ดีของน้องเริ่มทำให้ผมไม่มั่นใจว่าจะชนะเกมนี้อย่างที่หมายมั่นปั้นมือไว้จริงๆหรือเปล่า
แต่ก็แค่ไม่แน่ใจนะ เลิกจีบเหรอ? ไม่หรอกครับ ปล่อยไปก็แย่แล้ว น่ารักขนาดนั้น
ตั้งแต่ผมออกตัวจีบแทนใจ (แบบที่เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่องจนถึงทุกวันนี้) สรรหาสารพัดเรื่องเพื่อที่จะลงไปเจอหน้าเขาในวันจันทร์ ทั้งยืม USB (ที่มีอยู่เต็มลิ้นชัก) ทำเป็นติดกาแฟ ทำบ้าบออะไรแบบที่ไอ้เบิร์ดมันแซวแล้วแซวอีกผมก็ไม่สนใจ แซวกับผมอะได้ ถ้าไปแซวต่อหน้าแทนใจเมื่อไหร่ผมเอามันตายแน่
ยิ่งพอรู้ว่าผมชอบน้องแทนใจ ไอ้แว่นนี่มาเลยครับ เริ่มต้นกวนโมโหผมอย่างง่ายๆด้วยการเข้าไปเกาะแกะแทนใจต่อหน้าผม บอกเลยว่าวิธีเด็กๆ (แต่มันก็ทำให้ผมหงุดหงิดนั่นแหละ) แต่ยังดีที่มันยอมบอกข้อมูลน้องที่ผมอยากรู้ อย่างพวก Facebook หรือที่อยู่คอนโดฯ ผมเลยไปรับน้องได้ในวันที่รถติด
ที่บอกว่าเด็กผู้ชายยิ่งชอบยิ่งแกล้งคือเรื่องจริง
กับแทนใจผมชอบแกล้งเขา น้องเป็นคนที่ฟังอะไรแล้วเหมือนจะเชื่อทันทีแม้ว่าสิ่งนั้นจะดูไม่น่าเชื่อขนาดไหนก็ตาม ซึ่งนั่นทำให้ผมสนุกมากเวลาที่ได้พูดอะไรตลกๆ แล้วเขาทำหน้าเออออห่อหมกแป๊บนึง แล้วเปลี่ยนเป็นตาโตตกใจ เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าโดนหลอก
น่ารัก
น่ารัก จนอยากจะจับยัดเข้าปาก เอาใส่กรงไว้ที่บ้าน อยากเลี้ยงเอาไว้ในห้องนอน
ผมอยากเห็นสีหน้าท่าทางหลากหลายจากเขา ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งอดใจไม่ไหวที่จะได้รู้จัก แทนใจเป็นคนน่ารัก น่ารักจนผมอยากจะกว้านซื้อพจนานุกรมทุกเล่มมาเปลี่ยนคำว่าน่ารักเป็นคำว่าแทนใจให้หมด
น่ารัก น่ารักเกินไป
โดยเฉพาะตอนที่ Company Outing มาถึง ผมนี่ตั้งตาคอยตั้งแต่ได้คุยกับแทนใจแล้วครับ เพราะว่าเขาต้องไปแน่นอน (แผนกไอ้แว่นมีประชุม ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีของผม) ความจริงผมไม่เคยสนุกกับมันเท่าไหร่หรอก ออกแนวไปก็ได้ไม่ไปก็ดี แต่เพราะปีนี้มีกระต่ายไปด้วยนี่แหละ ผมเลยหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องไปให้ได้
“ปกติผมเบื่อนะการออกเอาท์ติ้งน่ะ ไม่สิ ไม่เชิงเบื่อแต่ไม่ได้รู้สึกอะไร คิดซะว่าไปเที่ยวแบบทำงาน… แต่ปีนี้ดู น่าสนุก”
ใช่ครับ น่าสนุก ยิ่งเห็นอีกคนทำหน้าซีดเหมือนสัมผัสได้ว่าเรื่องสนุกของผมมีเขารวมอยู่ในนั้นผมยิ่งรู้สึก… ดี
ถึงแม้ผมจะน้อยใจเขาเล็กน้อยที่เขาเรียกไอ้ปกป้องอะไรนั่นว่าพี่ทั้งที่เรียกไอ้คุณปกป้องอะไรนั่นว่าพี่ป้องๆ มันน่าหงุดหงิด แต่ทุกอย่างทดแทนได้ด้วยการง้อของน้องแทนใจครับ
น่ารัก น่ารักมาก น่ารักอย่างสิ้นเปลืองมากๆ
ตอนที่เราดีกันแล้ว แล้วน้องเขาอ้อนผมนี่ผมแทบจะไปยืนตะโกนว่าแทนใจน่ารักบนตึกใบหยกเลยครับ ถึงแม้มันจะเป็นแค่การฟ้องแบบเด็กๆตอนที่โดนซุกซนแกล้งก็เถอะ
“คุณเมฆ ช่วยด้วย ซุกซนแกล้งผมมมม”
พูดธรรมดาก็ไม่ได้นะต้องดึงเสื้อผมไปด้วย โคตรของโคตรแห่งความน่ารัก ในใจผมนี่กู่ร้องดังมาก แต่สุดท้ายแล้วผมทำแค่ลูบหัวปลอบน้องเขาเฉยๆครับ
ผมคิดว่าทริปนี้คงไม่มีอะไรแล้วจนกระทั่งน้องมาเคาะห้องผมเพราะกลัวผี
แค่มาเคาะห้องคนเราต้องน่ารักขนาดนี้เลยเหรอ?
น้องมาในชุดนอนลายทางของตัวเอง พร้อมกับกอดหมอนมาด้วยหนึ่งใบ เอาหน้าซุกหมอนใบใหญ่ของตัวเองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ พลางช้อนตามองผมอ้อนๆ
“ขอซุกหน่อย”
“ครับ?”
“ผมซุกอยู่กับคุณหน่อยได้มั้ย ขออยู่ที่ห้องคุณแป๊บนึงนะครับ ผม… ผมกลัวผี”
แม่งโคตรน่ารัก
น่ารักเว๊ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ผมคงนิ่งไปนานน้องเลยเหลือบตาขึ้นมามองอีกครั้ง พร้อมอธิบายอู้อี้ๆกับหมอนใบใหญ่ที่แบกมาด้วยอีกรอบ
“แค่แป๊บเดียวก็พอครับ ซุกซนมันไปสิงเล่นไพ่อยู่ห้องพวกไอที เดี๋ยวถ้าซุกซนเล่นเสร็จกลับห้องผมจะรีบกลับเลย ไม่รบกวนคุณเมฆนาน ขออยู่ด้วยแป๊บเดียวจริงๆ ไม่กี่วินาทีจับเวลาเลยก็ได้ เดี๋ยวผมเลี้ยงกาแฟคุณเลยก็ได้ ให้ผมอยู่ด้วยนะครับ”
“ใจเย็นๆ ไม่ต้องทำหน้าจะร้องไห้ขนาดนั้นก็ได้ เข้ามาก่อนสิ”
ผมเปิดประตูท้องที่กวาดล้างไอ้เบิร์ดไปแล้ว ผมพร้อมที่จะให้แทนใจอยู่ที่นี่จนถึงพรุ่งนี้เลยครับ ถ้าน้องยอมน่ะนะ แต่แทนใจเหมือนจะยังเกร็งๆ น้องมาถึงก็จุ้มปุ๊กบนโซฟา แล้วกดโทรศัพท์ยิกๆ ไม่ขยับเลย จนผมกลัวว่าน้องจะเกร็งจนปวดตัว เลยชวนน้องลงมานั่งบนเตียง
บริสุทธิ์ใจนะครับ ฝากไว้เผื่อใครคิดมาก
“ทำตัวกลมอยู่บนโซฟาน่ะ เมื่อยมั้ย?” ผมตบที่เตียงข้างตัวเพราะมันน่าจะนั่งสบายกว่า
“มานั่งนี่ดีกว่า”
“ไม่เอาอะ”
“กลัวเหรอ?”
ผมหมายถึง น้องเขากลัวผมจะทำอะไรเหรอ? แต่เหมือนเขาจะตีความหมายผิดเป็นกลัวผี โอ๊ย เอาตามตรงผมลืมเรื่องผีสางอะไรนั่นตั้งแต่ออกจากห้องซุกซนแล้ว แต่เหมือนน้องจะยังไม่ลืม ก็ขอบคุณผีเด็กอะไรนั่นที่ทำให้แทนใจกลัวจนมาขอซุกผมอะนะ
ยกความดีความชอบให้ อยากกินอะไรกระซิบไว้ได้เดี๋ยวทำบุญไปให้ถ้าผีพุทธ ถ้าไม่พุทธก็เรื่องของผีแล้วครับ หากินเอาเองละกัน ไม่ได้ชื่อแทนใจไม่มีบริการเลี้ยงอาหารนะบอกก่อน
“ไม่ได้หมายถึงผี หมายถึง… กลัวพี่เหรอ?”
น้องเหมือนจะนิ่งไปเมื่อผมถาม แต่สักพักเหมือนจะรู้สึกตัว แล้วก็แย้งขึ้นมาอย่างน่ารัก
“ผมไม่ได้กลัวพี่ ผมจำได้! แล้วผมก็จะไม่ลืมด้วย!”
“...”
“ผมแค่… ผมไม่รู้ว่าควรจะต้องทำยังไง”
“…”
“ผมแค่ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ผมไม่เคยมีแฟน ไม่เคยอยู่ในความสัมพันธ์แบบคนรักหรือคู่นอนกับใคร ไม่เคยทำแบบนี้ ไม่เคยรู้สึกแบบนี้ เมื่อคืนเป็นครั้งแรกของผมที่ได้ชูวับชูวับกับคนอื่น”
ชูวับแปลว่าอะไรวะ? น้องร้องเพลงเหรอ? แล้วผมไปร้องอะไรกับน้องเขาตอนไหน?
ผมเลือกที่จะไม่สนใจแทนใจกับภาษาไทยของน้อง เพราะมัวแต่มองเด็กที่ก้มหน้าก้มตาพูดนั่นนี่งุ้งงิ้งอยู่ครับ น้องเอาหน้าซุกหมอนไปด้วย น่าจะเพราะกำลังซ่อนหน้าแดงแจ๋ของตัวเอง น่ารัก!!!! น่ารักจนอยากกลืนเข้าไปทั้งตัวเลย
หลังจากนั้นแทนใจก็พูดอะไรงุ้งงิ้งยืดยาวจนผมฟังไม่ทัน น้องพูดจนผมกลัวว่าจะเหนื่อยก่อนเลยช้อนแทนใจมาทั้งก้อนเลยครับ พอดีมือเลยแฮะ หิ้วสบายมาก
“คุณเมฆ ผมเดินเองได้”
“พี่แบกได้ครับ พี่แข็งแรง ถึงแก้มเราจะหนักก็เถอะ”
น้องไม่ได้พูดอะไรอาจจะเพราะกำลังงงอยู่ เมื่อกี้ท่าทางจะปล่อยออกมาหมดแม็กแล้วครับ มาหมดทุกอย่าง ลูกค้า ภาษี อะไรที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผีก็มา แต่น่ารักครับ คนน่ารักจะพูดอะไรผมก็ว่าน่ารักทั้งนั้น จะด่าการเมืองแค่ไหนผมก็มองว่าน่าเอ็นดูอยู่ดี
“ตกลง… คุณโกรธอะไรผมเหรอเมื่อวาน”
ผมเงียบเมื่อคำถามแบบนี้วนกลับมาอีกครั้งจนได้ ไม่ใช่ว่าผมตั้งใจจะปิดน้องหรืออะไร แต่ผมเป็นคนพูดเรื่องปัญหาของตัวเองไม่เก่งเลย ไม่เลยสักนิด อีกอย่างคือ ผมคิดว่ามันออกจะงี่เง่าเล็กน้อยเมื่อน้อยใจอะไรไร้สาระอย่างการที่เขาเรียกคนอื่นว่าพี่ แต่ไม่ยอมเรียกผมแบบนั้น
น้องจะล้อผมมั้ยวะ?
แต่แทนใจก็ยังคงเป็นแทนใจ น้องไม่ได้ว่าอะไร แต่พูดด้วยความน่ารักจนผมรู้สึกว่าผมอยากที่จะเป็นเจ้าของน้องเขา ให้แทนใจเป็นแค่ของผมเท่านั้น ไม่อยากรออะไรอีกแล้ว
“พี่ชอบเรา พี่อยากคบกับเรา อยากเป็นแฟน อยากเป็นคนรักของเรา”
พูดออกไปแล้ว
ผลตอบรับไม่ต่างจากที่คิดเท่าไหร่นัก น้องทำหน้างง แก้มกลมๆคงต้องแดงแปร๊ดแน่นอน เพราะเจ้าตัวเล่นติดอ่างเหมือนกับไม่รู้ว่าควรจะต้องตอบอะไร ผมว่านี่อาจจะเกินลิมิตแทนใจในวันนี้ไปแล้วก็ได้ละมั้ง
“ผม … อ่า … ผม”
“เราไม่ต้องตอบพี่ตอนนี้ ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น วันนี้ก็นอนไปก่อน แล้วเดี๋ยววันจันทร์ก็ไปกินกาแฟกันเหมือนเดิม โอเคมั้ย?”
“ครับ”
“เด็กดี”
เป็นเด็กดีของพี่คนเดียวนะครับ
เพราะถึงแม้น้องอยากจะไปเป็นเด็กดีของคนอื่น ผมก็ไม่ยอมแน่นอน
บอกแล้วว่าในเกมนี้ ผมจะต้องชนะเท่านั้น
.
.
.
ถึงแม้ว่าน้องไม่ได้ตอบรับความรู้สึกผมในทันที แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด
ผมพยายามแทรกซึมตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตแทนใจ ซึ่งทำสำเร็จ เพราะหลังจากกลับจาก Company Outing แล้ว ผมกับแทนใจสนิทกันขึ้นไปอีกขั้น การที่น้องเขายอมโอนอ่อนแล้วก็ไม่ได้รังเกียจสัมผัสของผมนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีหวัง
และผมคิดว่าผมน่าจะชนะในเกมนี้
ผมมั่นใจขึ้นอีกครั้งเมื่อแทนใจเขินผม คนไม่รู้สึกอะไรจะเขินกันทำไมล่ะจริงไหม? ไม่จริงเหรอ? เรื่องของคุณ ผมว่ามันจริงก็คือมันจริงสำหรับผม
“ทำไมคุณชอบชวนผมลงมาทานกาแฟวันจันทร์ทุกที”
ผมนึกเรื่องที่แทนใจเคยถามในวันจันทร์หนึ่งที่พวกเราลงมาทานกาแฟด้านล่างกันสองคนเหมือนปกติ ตอนนั้นผมตอบแทนใจไปอย่างหล่อๆว่า
“เพราะผมเข้าออฟฟิศแค่วันจันทร์วันเดียวไง”
นั่นเป็นความจริงครับ ผมเข้าออฟฟิศแค่วันเดียว มีโอกาสทำคะแนนแค่วันเดียวเท่านั้น ใช้มุกเด็กน้อยขอเลี้ยงกาแฟอีกคนเพื่อให้ได้เจอกันบ่อยๆ แล้วมันก็สำเร็จ ต้องขอบคุณวันจันทร์และร้านกาแฟที่ทำให้ผมมีโอกาสได้เข้าใกล้แทนใจจนเขามาเป็นของผมเหมือนอย่างตอนนี้
ผมโคตรรักวันจันทร์เลยว่ะ
แต่รักแทนใจมากกว่านะ ไม่อยากรู้เหรอ? อ๋อ เรื่องของคุณ
.
.
.
Rrrr
โทรศัพท์มือถือแฟนผมดังขึ้นมาขัดความคิดของผมที่มีต่อคนข้างๆ
ผมเหลือบมองหน้าจอนิดหน่อย ชื่อที่ขึ้นมาทำให้ผมขมวดคิ้ว แต่เรื่องส่วนตัวน้อง ผมจะไม่ถือวิสาสะรับสายแทน
ตอนแรกผมกะจะกดตัดสายเพราะว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของอีกคน แต่การงึมงำอ้อนๆว่า ‘คุณพี่เมฆรับให้หน่อย รับโทรศัพท์ผมให้หน่อยนะครับ รับให้หน่อยน้า’ ของอีกฝ่ายน่าเอ็นดูจนปฏิเสธไม่ได้ ถึงแม้ว่าผมจะไม่อยากยุ่งกับไอ้เด็กติดพี่นี่เท่าไหร่ก็ตาม
“สวัสดีครับ แทนใจนอนอยู่ มีอะไรก็ฝากไว้ก่อนละกันนะครับ”
“...” ปลายสายเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามสั้นๆ “นั่นใคร?”
“เมฆ แฟนแทนใจ”
บอกแล้วว่าในเกมนี้ ผมต้องชนะเท่านั้น
-------- TBC --------
ขอโทษที่มาแค่นิดๆนะคะ ไม่มีอะไรแก้ตัว
ช่วงนี้ชีวิตพังมาก งานรุมเร้า เงินควรรุมรักเราแบบนี้บ้าง ;_________;
ใครอยากได้แทนใจเป็นเล่มเริ่มหยอดกระปุกกันได้แล้วนะคะ เร็วๆนี้น่าจะมีข่าวดี แฮ่ XD
Babybaphomet
ปล เสียดายลุงป้--- โฆษณาช้าไปหน่อย ไม่งั้นจะให้ตอนนี้ชื่อว่า #มุมน่ารักของลุงเมฆ
ปลล ถ้าติดคุกกี้ขอแค่ wifi เราก็ต่อนิยายได้ค่ะ