[แจ้งข่าวP31]Out of order ขออภัยในความไม่สะดวก24จบP28:17/6/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ้งข่าวP31]Out of order ขออภัยในความไม่สะดวก24จบP28:17/6/55  (อ่าน 318493 ครั้ง)

fOnfOn :D

  • บุคคลทั่วไป
อร๊ายยยยยยยยยยยยย

ไม่ไหวแล้วน่ารักทั้งสองคนเลย  พี่นิตก็นะ เป็นลมบ่อยไปมั๊ยค่ะ  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
มีความรักตอนแก่ก็ต้องเป็นอย่างนี้แหละน๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป


 

   นักเขียนของเราโดนรุกหนักซะแล้ว
   คนแก่สร้างภูมิต้านทานไม่ทันเลยนะ!!





RanJeri

  • บุคคลทั่วไป
คุณพนิตต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้น่ะ   :impress2:
เพราะน้องโจมือไวไวมั่กๆ :laugh:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
กว่าเรื่องนี้จะจบ พี่นิต จะเป็นหัวใจวายก่อนหรือเปล่านะ 555555  โจ สู้ๆ พยายามเข้านะ

ออฟไลน์ 1st prince

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ่านแล้วหุบยิ้มไม่ได้ ดึกแล้วคืนนี้คงนอนหลับฝันดีแน่เลย

ออฟไลน์ Pepor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-3
พี่นิตฮา+น่ารักจริงๆ  :-[

ดีใจจังที่โจรุกบ้างแล้ว พี่นิตก็ใจอ่อนเร็วๆนะ

zomtum

  • บุคคลทั่วไป
โว้ว ว ว ววพี่นิต อ่ า าา  :-[ :-[ :-[

อิอิ น่ารักๆๆๆ เป็นลมบ่อยๆๆเด๋วให้โจ มัดมือชกเลยนี่ 555

 o13 o13

ออฟไลน์ @Iriz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-2
อ่านแล้วเขิน  :-[
น่ารักทั้งคู่เลยอ่ะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ชินจัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :serius2:

ง่า นึกว่าตอนใหม่มาแล้ว

กระซิกๆ   :o12:

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
**สุดท้ายก็มาลงเรื่องนี้ต่ออีกจนได้... ทั้งๆ ที่ผีเสื้อดองมาจะสองเดือนแล้ว

ไอ้ที่เคยบอกว่าจะได้อ่านกันก่อนปีใหม่ อาจจะต้องคิดอีกที (โดนตบ :beat:)

เอาว่าอ่านพี่นิตน้องโจ(?)ไปก่อนแล้วกันน๊า
----------------------------------------------------

Out of order. ขออภัยในความไม่สะดวก ตอนที่12

   สุภาพงษ์เป็นคนหน้าตาดี หน้าตาดีมากจริงๆ มากเสียจนผมชักกลัวใจตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เขาสบตาผม หรือหันมายิ้มให้ หัวใจผมมันพาลจะกระเด้งออกมาทุกที
   เผอิญว่าตอนนี้เขากำลังทำทั้งสองอย่างที่ว่ามานั้นอยู่ด้วยน่ะสิ
   ผมกับสุภาพงษ์หันกลับมาทานอาหารเช้ากันต่อ หลังจากเจอเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่พาลจะทำให้ผมเกือบเป็นลมเป็นแล้งไปกลางคัน พอหอมแก้มผม ทำผมเอาหน้าซุกกับพนักพิงโซฟาได้สำเร็จแล้ว สุภาพงษ์ก็ตั้งหน้าตั้งตาทานข้าวผัดที่ผมทำให้ แล้วเหลือบมองผมเป็นระยะ ผมเห็นหรอกนะว่าเขาแอบยิ้มอยู่ด้วยน่ะ เพราะผมเองก็เหลือบมองเขาอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน
   ให้ตายสิ ผมกับเขาจะเหลือบมองกันไปกันมาทำไมนะ!
   “โจ” ในที่สุด ผมก็ทนกับอาการเหลือบมองกันไปมองกันมาไม่ไหว หันหน้าไปหาเขา แล้วถามขึ้น “พี่ถามจริงๆ เถอะ โจเคยจีบใครมาก่อนหน้านี้รึเปล่า?”
   สุภาพงษ์กะพริบตา หน้าแดงนิดๆ “ทำไมหรือครับ? ผมทำอะไรไม่เหมาะเหรอ?”
   ผมล่ะอยากจะพูดออกไปจริงๆ ว่า ทุกอย่างที่ทำน่ะแหละ ติดแต่สีหน้าเอาจริงเอาจังของเขากับแก้มแดงๆ ทำเอาผมพูดไม่ออก เลยต้องหาคำพูดอะไรที่พอจะพูดออกมาได้แทน “ก็ไม่เชิงหรอก พี่แค่สงสัยน่ะ.. กับนายกั้ง ไม่ได้จีบหรือไง?”
   สุภาพงษ์ดูจะอึ้งๆ ไปหน่อยเมื่อได้ยินชื่อคุณากร สักพักเขาก็ตอบผม “เอ่อ... ก็ไม่เชิงหรอกครับ พอดีเขาชอบงานของพี่นิตเหมือนกัน ก็เลยพอจะคุยกันได้อยู่”
   ผมเลิกคิ้วขึ้นทันที “งั้นที่ว่าเขาเป็นแฟนผลงานพี่ก็ไม่ได้โกหกสินะ”
   อีกฝ่ายพยักหน้า “ครับ เขาเป็นแฟนผลงานพี่นิตตัวยงเหมือนกัน เขาดู... เอ่อ... ทำให้ผมนึกถึงพี่นิตตอนสมัยหนุ่มๆ นิดหนึ่งด้วยน่ะ ผมเลย....” สุภาพงษ์หยุดไปหน่อยหนึ่ง แล้วช้อนตามองผมอีกครั้ง “แต่พอเจอพี่ ผมเลยรู้ว่า ผมชอบพี่”
   “.....................” เอาล่ะ ผมควรจะบอกตัวเองให้เรียนรู้เอาไว้ได้แล้วว่า อย่าได้ถามอะไรนายคนนี้ เพราะถามเรื่องอะไรไป สุดท้ายมันจะวกมาตรงนี้ทุกที ผมแค่อยากคุยเรื่องเขาน่ะ ไม่ได้อยากถามเรื่องตัวเอง เขาช่วยตอบให้มันพ้นๆ จากนี้ไม่ได้แล้วหรือไงนะ
   “โจ... พี่แค่ถามเฉยๆ โจไม่ต้องวกมาเรื่องนี้ก็ได้” ผมว่า คราวนี้สุภาพงษ์หลบตาลงหน่อยหนึ่ง เหมือนว่าจะหน้าสลดลงล่ะ “ขอโทษครับ”
   ผมมองหน้าเขา แล้วพูดขึ้นต่อ “ก่อนหน้านี้ก็อยู่ที่นี่กับนายกั้งด้วยสิ เห็นเขามีกุญแจห้องด้วยนี่”
   “ครับ..”
   “แล้วไปเลิกกันตอนไหนล่ะ อย่าบอกนะว่าตอนเจอพี่น่ะ?”
   คราวนี้สุภาพงษ์เงียบไปเลย ผมเองก็ชักรู้สึกไม่ค่อยดี เหมือนเป็นต้นเหตุให้คนเลิกกัน แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เลยหันไปหาจานชามที่วางอยู่บนโต๊ะ กะว่าเก็บไปล้างคงพอจะนึกอะไรออก
   พอเห็นผมเริ่มเก็บจาน สุภาพงษ์ก็อ้าปากออกทันที “ผมล้างให้ครับ” ว่าแล้วเขาก็รีบเก็บจานชามพวกนั้นทั้งหมดไปล้างทันที ทิ้งให้ผมนั่งอึ้งๆ หาอะไรทำไม่ได้อยู่คนเดียว สุดท้ายก็เลยได้แต่นั่งมองเขาล้างจานเงียบๆ
   อืม... เขาหน้าตาดีจริงๆ นะเนี่ย ดีจนน่าโมโหเลยล่ะ
   ผมมองผู้ชายที่หน้าตาอย่างกับพระเอกหนังยืนล้างจานอยู่ในฉากเก่าเหมือนเมื่อสองวันก่อน แล้วก็นึกอายตัวเองขึ้นมาที่คอยแต่จ้องเอาๆ อยู่ได้ ดีนะที่เขามัวแต่มองจานอยู่ เลยไม่ได้สังเกตเห็นสายตาผม แต่ผมกลัวจะถูกเขาจับได้อีก เลยพยายามหาอย่างอื่นมองแทน มองไปมองมาก็เห็นรูปถ่ายบนชั้นโชว์เลยนึกขึ้นได้
   “โจ... ในรูปนี่ แม่กับน้าใช่มั้ย? ตอนนี้เป็นไงบ้างล่ะ ย้ายไปอยู่ไหนแล้ว” ผมถาม สุภาพงษ์เงยหน้าขึ้นมอง แล้วตอบเสียงเรียบๆ “แม่ผมเสียไปแล้วน่ะครับ น้าเลยย้ายไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด”
   “.......................” ผมอึ้งไปอีก เพราะขาดการติดต่อไปนาน ก็เลยไม่รู้ว่าแม่ของเขาเสียไปแล้ว ได้ยินเสียงตัวเองพูดออกไป “เหรอ... เสียใจด้วยนะ”
   “ไม่เป็นไรหรอกครั้ง แม่เขาเสียไปตั้งหลายปีแล้ว ผมทำใจได้นานแล้วล่ะ” สุภาพงษ์ตอบผม ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลยได้แต่ยิ้มให้เขาไป แล้วก็ได้รอยยิ้มเขาตอบกลับมาอีกจนได้ แม้จะแทบมองไม่ออกว่ายิ้มเลยก็เถอะ
   เฮ่อ.... เขาน่ะ แค่ยกมุมปากขึ้นนิดๆ แท้ๆ แต่ผมนี่สิ ปากมันพาลจะฉีกยิ้มตอบกลับไปท่าเดียวเลย แบบนี้ปล่อยไว้ไม่ดีแน่
   ผมรีบชักมุมปากลง เปลี่ยนเป็นตีหน้าขรึม แล้วถามเขาเสียงเรียบๆ บ้าง “พี่ถามจริงๆ เถอะ โจยิ้มได้แค่นั้นหรือไงน่ะ”
   สุภาพงษ์ทำหน้าอึ้งๆ ตอบผมตะกุกตะกัก “ผมยิ้มไม่เก่งน่ะ”
   ผมนึกสะใจที่เห็นเขาทำหน้าแบบนั้น เขาทำผมใจเต้นมามากพอแล้ว ได้เวลาผมเอาคืนบ้างล่ะ ขณะที่นึกกระหยิ่มใจ สุภาพงษ์ก็พูดขึ้นต่อ “พี่นิตชอบคนยิ้มเก่งๆ หรือ?”
   ผมยังไม่ทันตอบ ก็เห็นเขาเม้มปากนิดๆ จากนั้นก็ค่อยๆ ยิ้มกว้างขึ้นมา
   โอ๊ย ผมไม่ได้ชอบคนยิ้มเก่ง ไม่ได้ชอบเลยสักนิด เพราะงั้น... หยุดยิ้มได้แล้วล่ะ
   “พี่นิต...” สุภาพงษ์หยุดยิ้มแล้วเรียกผม ก่อนที่ผมจะมีอันหน้ามืดลมจับไปอีกรอบ น่าอายจริงๆ แค่เห็นเขายิ้ม ใจผมก็เต้นตึกๆ จะยิ้มตอบก็ไม่กล้า พยายามจะตีหน้าตาย เลือดลมมันก็แล่นขึ้นมาจุก ทำท่าจะหน้ามืดให้ได้ทุกที ขณะที่นึกโล่งใจที่เขาหยุดยิ้ม สุภาพงษ์ก็พูดขึ้นต่อ “ผมจะพยายามหัดยิ้มนะ พี่นิตจะได้.... ชอบผมบ้าง”
   “.................” ผมเข้าใจคำว่าอายจนอยากจะเอาหน้ามุดดินก็เพราะเขานี่แหละ แต่ตอนนี้ผมอยู่บนคอนโดฯ ไม่มีดินให้ผมมุดหรอก ที่ใกล้ที่สุดคือโซฟาที่มีหมอนอิงวางอยู่ มองแล้วอยากเอาหน้าเข้าไปซุกจริงๆ แต่ว่าขืนทำลงไปมีหวัง ยิ่งน่าอายกว่าเดิมแน่
   ในเมื่อเลือกอะไรไม่ได้สักอย่าง ผมเลยหันหน้าไปมองหน้าต่างเสียเลย ด้านนอกยังแดดดีอยู่ คงสักบ่ายได้แล้ว..... อืม... นี่ผมต้องอยู่กับเขาจนกระทั่งถึงพรุ่งนี้เช้าหรือนี่... นี่มันเพิ่งบ่ายเองนะ....!!
   “โจ พี่ว่าจะกลับบ้านก่อนน่ะ เดี๋ยวค่ำๆ ค่อยแวะมาอีกที” ผมหันไปพูดกับเขา ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่อยู่กับมนุษย์ที่ดึงดูดสายตาผมขนาดนี้สองต่อสองจนถึงคืนนี้เด็ดขาด นึกดูสิ เหลืออีกกี่ชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานอน ที่ผมสัญญาคือสัญญาว่าจะค้างเป็นเพื่อนเขา ไม่ได้สัญญาว่าจะอยู่กับเขาสองต่อสองทั้งวันเสียหน่อย ไม่ไหวล่ะ ถ้าต้องอยู่กับเขา ได้เห็นรอยยิ้มที่เขาหันมายิ้มให้ผมตลอด ผมว่าผมต้องความดันขึ้นจนเป็นเรื่องแน่ๆ ขอผมกลับไปสงบสติอารมณ์ที่บ้านสักพักก็แล้วกัน ไม่แน่นะ ผมกลับแล้ว เขาอาจจะเกรงใจไม่อยากให้ผมมาค้างก็ได้ ดีเหมือนกัน ผมจะได้ไม่ฝันแปลกๆ
   สุภาพงษ์หน้าเจื่อนลงทันที เขาตะกุกตะกักพูดขึ้นอีก “พี่นิต... ผมทำอะไรไม่ถูกใจอีกหรือครับ บอกผมเถอะครับ ผมจะได้แก้ไข”
   ผมอ้าปาก แต่ไม่ได้พูดอะไร จะบอกว่าเพราะเขาเอาแต่ยิ้มให้ผมก็ใช่ที่ เขาก็แค่ยิ้มน่ะ แต่ผมออกอาการของผมเอง โทษเขาได้ยังไง พอเห็นผมเงียบ สุภาพงษ์ยิ่งหน้าซีดกว่าเดิม “ผะ... ผมขอโทษ ผมจะไม่เซ้าซี้พี่นิตแล้วล่ะ”
   เห็นเขาหน้าซีดแบบนี้ ผมก็นึกสงสารอยู่นะ เอาเข้าจริงมันก็ไม่ใช่ความผิดของเขาเลย ผมแค่บอกว่าอยากกลับบ้าน เขาคงคิดว่าผมโกรธอีกแล้ว ผมควรอธิบายให้เขาฟังว่ายังไงดี
   ขณะที่ผมนึกคำพูดอยู่ สุภาพงษ์ก็พูดขึ้นอีก “พี่นิตจะดูโทรทัศน์มั้ย? มีช่องหนังกับสารคดีอยู่นะครับ เดี๋ยวผมเปิดให้แล้วกันนะ”
   ผมพยักหน้าไป เพราะนึกหาคำพูดคั่นเวลาอยู่พอดี สุภาพงษ์กุลีกุจอมาเปิดโทรทัศน์ให้ พอดีผมเห็นช่องหนึ่งฉายภาพยนตร์เก่าที่เคยนึกอยากดู เลยบอกเขาไป จากนั้นเราก็นั่งลงบนโซฟาคนละฝั่ง เขาไม่ขยับเข้ามาเบียดผมเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ดีเหมือนกัน ผมจะได้มีสมาธิกับภาพยนตร์
   เรื่องที่ฉายอยู่เป็นเรื่องของผู้ชายที่เผอิญมีแฟนเป็นโรคความจำเสื่อม พอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นก็จำอะไรไม่ได้เลย ที่น่าสนใจคือวิธีที่พระเอกงัดมาใช้จีบนางเอกในทุกวันที่ตื่นมานี่แหละ ผมดูไปเพลินๆ หันมาอีกทีก็เห็นสุภาพงษ์นั่งยิ้มให้จออยู่ข้างๆ สงสัยเขาจะชอบเหมือนกันล่ะมั้ง พอจบเรื่อง ผมก็หันไปคุยกับเขา “สนุกดีนะ โจเคยดูหรือยังน่ะ?”
   “เคยดูแล้วครับ” เขาตอบผม แล้วยิ้มนิดๆ “ผมชอบนะ”
   “อืม.. พี่ก็ชอบ” ผมว่า แล้วยิ้มตอบเขา สุภาพงษ์ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิด แหม... เขาหล่อกว่าพระเอกหนังรักเมื่อตะกี้เยอะอยู่แล้ว ยิ้มอีกยิ่งน่ามองขึ้นจมเลย
   ผมเผลอยิ้มตอบเขาอีก แถมคงมองเขาตาเยิ้มด้วยล่ะมั้ง สงสัยเพราะอารมณ์ภาพยนตร์มันพาไปแน่ๆ สุภาพงษ์ขยับเข้ามาใกล้ เขายิ้มกว้างจนตาหยี น่ารักจริงๆ ผมเห็นทั้งปลายจมูกโด่งๆ ขนตายาวสวยของเขา รวมถึงดวงตาสีดำสนิทที่จ้องตรงมาด้วยล่ะ อืม.. ผมว่ามันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วนะ
   !!
   มันเกิดขึ้นชั่วเสี้ยววินาทีจริงๆ ผมรู้สึกหัวใจตัวเองเต้นดังตึก ตอนที่ริมฝีปากเขาแตะริมฝีปากผมเบาๆ แล้วก็เต้นถี่ขึ้นหลังจากนั้น ทั้งๆ ที่ช่วงเวลาการสัมผัสมันสั้นมากแท้ๆ
   สุภาพงษ์เม้มปากนิดๆ แก้มงี้แดงเห่อเชียว แต่ผมสิ ท่าทางแย่กว่า เพราะใจเต้นๆ ตึกๆ จนน่ากลัวเลยล่ะ สักพักก็ได้ยินเสียงเขาพูดขึ้น “พี่นิต... ชอบผมสักนิดนะ ผมอยากจีบพี่ อยากได้พี่เป็นแฟนน่ะ”
   โอ๊ย บ้าจริงๆ เลย! ดินก็ไม่มีให้ผมมุดแล้ว หมอนก็ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ที่อยู่ตรงหน้าผมมีแต่อกแน่นๆ ของเขาเท่านั้นแหละ ผมควรจะทำยังไงดี จะเป็นลมอีกก็คงไม่ไหวแล้ว เล่นมุกเดิมซ้ำๆ มันก็....
   !!!
   สุภาพงษ์ท่าทางจะตกใจ เพราะตัวเขาผงะไปหน่อยหนึ่ง ตอนที่ผมกระแทกศีรษะเข้าใส่หน้าอกเขา ก็ผมไม่รู้จะทำยังไงนี่นา เอาหน้าซุกอกเขาแล้ว ผมจึงแค่นเสียงออกมา “ห้ามเข้าใจผิดนะ พี่แค่เมื่อยคอเฉยๆ”
   ผู้ชายอกแน่นๆ ตรงหน้าผมชะงักไปพัก สุดท้ายก็ส่งเสียงออกมาเบาๆ “ครับ” จากนั้นก็ยกมือขึ้นมา โอบบ่าผมไว้เบาๆ
   ผมไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจอย่างที่ผมอยากให้เขาใจรึเปล่า แต่ผมไปต่อไม่เป็นแล้วจริงๆ ได้แต่ซบหน้านิ่งๆ กับอกเขาแบบนั้น แล้วหลับตาลง นึกถอนใจกับตัวเอง
   นี่ถ้าผมกับเขาอายุสักยี่สิบพอๆ กัน เจอกันในช่วงเวลาที่ผมยังละอ่อน ยังมีความฝันเพ้อๆ อยู่ ผมคงพอจะตอบรับคำขอของเขาได้หรอก.....
   แต่ว่า.... เรื่องบางเรื่องผมมีบทเรียนมาแล้ว......
   ผม...................
-----------------------------------------
   อกของสุภาพงษ์ทั้งกว้างทั้งใหญ่ แถมอุ่นดีจริงๆ ผมกะว่าจะซุกหน้าหนีอายสักครู่จะผละออก ดันเคลิ้ม ซุกเพลินจนรู้ตัวอีกทีก็นอนอิงเขาไปแล้ว สุภาพงษ์เองก็โอบผมไว้ซะแน่นหนา อย่างกับไม่อยากให้ผมลุกขึ้นเลย ที่จริงแล้ว ซุกอกเขาแบบนี้ผมก็รู้สึกดีอยู่ แต่ซุกไปนานๆ ต่อมอายของผมก็เริ่มกลับมาทำงานแล้วเหมือนกัน ขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้เดี๋ยวเขาจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ผมคงต้องรีบหาข้ออ้างผละออกแล้วล่ะ
   “โจ....”
   “ครับ?”
   “โจไม่ไปทำงานแบบนี้ แล้วต้นฉบับพี่ล่ะ?”
   สุภาพงษ์ชะงักไปหน่อยหนึ่ง ผมนึกในใจว่า ท่าทางเขาจะลืมซะละมั้ง ว่าต้นฉบับผมอยู่กับตัวเขาน่ะ หนังสือเหลืออีกสองวันจะปิดเล่มแล้ว เขาลืมแบบนี้ จะมาโทษผมว่าส่งเลทไม่ได้หรอกนะ
   ระหว่างที่ผมกำลังนึกติงความเลินเล่อของเขาอยู่ สุภาพงษ์ก็พูดออกมา “แฟกซ์ไปที่ออฟฟิศตั้งแต่วันที่พี่กลับบ้านแล้วล่ะครับ... อืม ผมว่าจะพูดเรื่องต้นฉบับกับพี่พอดี”
   ความจริงผมตั้งใจว่าจะเอาเรื่องต้นฉบับมาเป็นข้ออ้างให้เขาลุกก่อน แต่พอฟังมาถึงตรงนี้แล้ว กลายเป็นผมนี่แหละที่ต้องลุกก่อน
   “เรื่องอะไรล่ะ?” ผมว่า แล้วลุกพรวดขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจแขนเขาที่กอดอยู่ อืม... เกือบลืมไปเลยว่าเขาเป็นบรรณาธิการผม เป็นนายจ้างผม ถึงจะน่าชื่นชมที่เขารับผิดชอบงาน แต่ระหว่างเขากับผม มันก็คือความเป็นนายจ้างลูกจ้างนั่นแหละ ถ้าเขาเกิดไม่อยากจ้างผมต่อ หรือผมเกิดอยากเปลี่ยนสำนักพิมพ์ เรื่องของเรามันก็คงจบล่ะมั้ง
   เฮ่อ.....
   “พี่นิต?” เขาเรียกผม ผมผงกศีรษะหน่อยๆ แล้วกลับนั่งตรงโซฟา สูดหายใจอีกเฮือก แล้วหันไปมองหน้าเขา “ต้นฉบับพี่มีปัญหาใช่มั้ย?”
“ก็ไม่เชิงหรอกครับ” สุภาพงษ์ตอบด้วยสีหน้าลำบากใจ ผมมองแล้วก็ถอนหายใจอีก “ไม่เป็นไรหรอก พูดมาเถอะ จะได้แก้ทัน ยังไงก็เหลือสัญญาอีกไม่กี่เดือนแล้วนี่”
ผู้ชายตรงหน้าผมเม้มปากหน่อยๆ “ผมจะคุยเรื่องสัญญานี่แหละครับ”
ผมตีหน้านิ่งฟังเขา เอาล่ะ มันคงถึงเวลาจะต้องคุยเรื่องนี้สักทีแล้ว ดีเหมือนกัน ผมก็เล็งๆ อยู่ว่าจะย้ายสำนักพิมพ์ เพราะพักนี้บรรณาธิการคนนี้ของผมชักทำอะไรล่วงละเมิดอาณาเขตส่วนตัวผมเยอะเกินไปแล้ว ทำเอาผมใจสั่นไปหมด ไม่แน่ว่าปล่อยไปเรื่อยๆ ผมคงได้เขียนนิยายเรื่องเขาเข้าสักวัน
สุภาพงษ์เงียบไปอีกพัก ก็พูดขึ้นต่อ “สัญญาเดิมพี่นิตเซ็นว่าจะเขียนเรื่องให้ผมหนึ่งปี หรือไม่ก็จบเรื่องก่อน แต่ว่านี่มันก็เก้าเดือนแล้ว ผมยังไม่เห็นวี่แววว่าจะจบสักเรื่อง ก็เลยว่าจะเซ็นสัญญาต่อ”
ผมพูดตอบเขาไป “ไม่เป็นไรหรอก อีกสามเดือนพี่จบทัน วางโครงไว้หมดแล้วล่ะ เหลือแต่เก็บรายละเอียด พี่อาจจะเขียนแถมให้หน่อย ไม่เป็นไรหรอก”
สุภาพงษ์มองผม ถามด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมอยากเซ็นต่อ จะได้รึเปล่าครับ”
“............” ผมอึ้งกับสีหน้าจริงจังที่เห็นประจำของเขาอยู่พัก แล้วพูดตอบไป “พี่ยังคิดเรื่องอื่นไม่ออกเลย พักไว้ก่อนแล้วกัน”
ผมคิดไม่ออกจริงๆ นะ เพราะเห็นหน้าเขานี่แหละ สุภาพงษ์มีสีหน้าลำบากใจขึ้นมาหน่อยหนึ่ง “ไม่เป็นไรหรอกครับ เขียนเรื่องเดิมต่อก็ได้ ผมอยากให้พี่เขียนต่อ”
“แต่มันจะจบแล้วนะ”
เขาเงียบไปอีก ก่อนจะสูดหายใจลึกบ้าง “ไม่เป็นไรครับ เซ็นกับผมเถอะ พี่เขียนเรื่องอื่นต่อก็ได้”
ผมหัวเราะออกมา “นี่โจไม่กะจะให้พี่ไปเขียนให้ที่อื่นเลยหรือไง”
เขาพยักหน้าทันที แล้วตอบผมด้วยสีหน้าจริงจังอย่างที่สุด “ผมอยากให้พี่เขียนให้ผมคนเดียว”
   ผมมองเขาอึ้งๆ สุภาพงษ์ทำท่าเหมือนคิดขึ้นได้ว่าพูดอะไรไม่สมควรออกไป เลยรีบพูดต่อ “ขอโทษนะครับ คือ... ผมอยากเป็นคนแรกที่ได้อ่านงานพี่.. ผมอยากเป็นคนพิเศษของพี่บ้าง...”
   ให้ตายสิ นี่ขนาดคุยกันเรื่องงาน เขายังวกกลับมาเรื่องนี้ได้ ผมว่าเขาอาจจะไม่พูดมาก แต่พูดเก่งคงใช่เลยล่ะ ไม่งั้นคงไม่อัดผมจุกทุกครั้งแบบนี้หรอก
   “นะครับ.. พี่นิต..”
   ผมรีบโบกมือก่อนที่ตัวเองจะเผลอพยักหน้าออกไปง่ายๆ “ขอพี่คิดก่อนแล้วกัน ไว้เดี๋ยวใกล้ๆ พี่จะบอกอีกที”
   ดีแล้วล่ะที่ผมตอบแล้วไม่หันไปมองหน้าเขา เพราะแค่เหลือบดูก็ยังเห็นเลยว่าเขายิ้มอยู่ ยิ้มเยอะซะด้วยนะ กำลังหัดยิ้มอยู่ล่ะสิ
   สงสัยผมคงต้องรีบหัดทำหน้าตายบ้างแล้วล่ะ
-------------------------------------------------
   ในที่สุด หลังจากทานอาหารเย็น และใช้เวลาไปกับโทรทัศน์จนถึงสี่ทุ่ม ก็ได้เวลานอนสักที ไอ้ผมน่ะ ยังสนุกค้างกับรายการเกมโชว์ญี่ปุ่นที่เรียกเสียงหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็งอยู่เลย พอปิดโทรทัศน์แล้วก็เลยเผลอคุยกับสุภาพงษ์ยาวมาจนถึงเตียงนอน กระทั่งหัวถึงหมอนแล้วยังคุยกันอยู่เลย ส่วนใหญ่เป็นผมพูดอยู่คนเดียวด้วยน่ะ เพราะสุภาพงษ์เอาแต่พยักหน้า แล้วยิ้มบ้างตอบบ้าง อืม... เขาพูดน้อย พูดไม่เก่ง แต่เก่งเรื่องพูดให้ผมจุกล่ะมั้งเนี่ย
   เอาล่ะ ผมยอมพูดคนเดียว ดีกว่าถูกเขาพูดหรือทำอะไรให้จุก เดี๋ยวผมจะชวนคุยจนเขาหลับเลย จะได้เป็นหลักประกันว่า คืนนี้ผมจะไม่ฝันแปลกๆ อีก
   สุภาพงษ์นอนแล้วก็ขยับเข้ามา เอาศีรษะมาเกยไว้ข้างๆ ไหล่ผม ทำแบบนี้แล้วดูเขาเหมือนเด็กๆ เลย แต่ผมก็ยังอุตส่าห์นึกห่วงว่าขาเขาจะพ้นขอบเตียงไปรึเปล่า เลยหันไปถาม “โจขยับขึ้นมาอีกก็ได้ ขาจะได้ไม่เลยเตียง”
   “ไม่เป็นไรหรอกครับ มันพอดีน่ะ” เขาตอบ ผมมองเขาแล้วก็อดพูดต่อไม่ได้อีก “โจนอนแบบนี้ เหมือนกับเด็กๆ เลย พี่ต้องเล่านิทานกล่อมด้วยมั้ยเนี่ย?”
   ผมน่ะแค่จะแซวเขาเล่น แต่เขาสิ พยักหน้า แล้วพูดกับผมด้วยสายตาจริงๆ จังๆ อีกแล้ว “ครับ พี่นิตเล่าเถอะ ผมอยากฟัง”
   ผมอึ้งไปหน่อยหนึ่ง เพราะนึกไม่ถึงว่าต้องมาเล่านิทานให้คนอายุสามสิบสี่ฟัง เขาซุกหน้าเข้ามาอีก แล้วยื่นมือมาจับมือผมไว้ “เล่าเรื่องพ่อกระแตต่อก็ได้ครับ ผมอ่านแล้วค้างอยู่เลย”
   ผมมองเขา สุดท้ายก็ตัดสินใจเล่าเรื่องพ่อกระแตที่คิดเอาไว้แล้วบ้างนิดหน่อยในหัวไป สุภาพงษ์ฟังแล้วก็พยักหน้าบ้าง ถามผมบ้าง ถามตรงจุดที่ผมคิดไม่ออกนั่นแหละ เล่าไปได้สักพัก ก็กลายเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดในการเขียนเรื่องไป สุดท้ายผมเลยได้รายละเอียดเรื่องเพิ่ม แล้วเลยเล่าต่อ เล่าไปจนเกือบเที่ยงคืนได้ล่ะมั้ง ผมรู้สึกว่าเขาเงียบไปนาน ก้มลงมองก็เห็นว่าเขาหลับไปเสียแล้ว เออ ในที่สุดเขาก็หลับไปจนได้
   ผมมองแพขนตายาวของเขา มองสันจมูกโด่งๆ นั้นอยู่พัก แล้วอดไม่ได้ ต้องขยับหน้าเข้าไปใกล้ แล้วจูบหน้าผากเขาเบาๆ ทีหนึ่ง
   เอาน่า ทีเขายังจูบผมตอนเผลอเลย ผมแค่จูบหน้าผากเขาคงไม่น่าเกลียดอะไรหรอก
---------------------------------------------------------
*** กรี๊ด เราว่า ในที่สุด ดอกรักในใจของพี่นิตก็พอจะเริ่มงอกบ้างแล้วล่ะมั้งงงง

นั่งเขียนเรื่องนี้ไป ฟังเพลง "อยากเรียกว่าแฟน"ของบี้ไป ยิ่งกว่าตอน In love กับแฟนอีก (อ้อ แน่นอน ฉันinกับนิยายมากกว่ามาแต่ไหนแต่ไร)

เขียนไปแล้วเขิน+สงสารโจอยู่คนเดียว โอ๊ยยย อาการหนักจริงๆ นะเนี่ย ฮ่าๆๆ

(ส่วนพี่นิต ต้องฟังเพลงหยุด ของบัวชมพูนะคะ จะตรงมากมาย ฮ่าๆ)

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
ตอนแรกว่าจะสงสารพี่นิตที่โดนรอยยิ้มแล้วหัวใจทำงานหนัก แต่ตอนนี้อิจฉาพี่นิตแทนล่ะแอบจุ๊บเหม่งน้องโจได้ไง ^^ น่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ misso

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
โอย พี่นิต ขนาดนี้แล้วยังจะปากแข็งอยู่เรอะ

และแล้วดอกไม้ก็ผลิบาน :L1:

ดีจังได้อ่านก่อนนอน มีความสุขละ :กอด1:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
หวานนนนนมากกกกกพี่นิต โจลุยเต็มสูบ

ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
น้องโจค่ะ พี่นิตไม่เล่นด้วย
หันมา ซบ อก ป้านี่มา ป้าชอบ
ป้านอ่านแล้วป้าอยากลากน้องโจกลับบ้าน เอิกๆๆๆๆๆๆ

alterlyx

  • บุคคลทั่วไป
เพี๊ยงงงงงงงง สุภาพงษ์รู้สึกตัว!!  :o8:

ออฟไลน์ Cc-kun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ในที่สุดๆๆๆ

อ้ายยย

เขินพี่นิตอ่ะ

จุ้บแล้ววว

อยากให้ลุงเป็นรุกมั่งเรื่องที่แล้วลุงเป็นรับแล้ว จะได้สลับๆกัน อิอิ

รอผีเสื้ออยุ่นะคะ

ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
กรี๊ดดดด คุณพนิตเริ่มหลงโจหนักขึ้นแล้วว
มีจุ๊บก่อนนอนด้วย อ้ากกเขินน ก่อนหน้านี้โจก้ขโมยจูบคุณพนิตไปแล้วด้วย อ้ากกเขิน10เท่า
คือคู่นี้ทำอะไรนิดหน่อยเราก็กรี๊ดแล้ว คลั่งและลุ้นไปกับคู่นี้มากฮ่าๆ  :m3:

ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
อ้ากกกกกกกกกกก....เขิน :o8:
ยิ้มแก้มจะแตกแล้ว ...นะ น่ารักอ่ะโจ -////-

ประเด็นคือ...คืนนี้พี่นิตจะฝันอะไร? (ฮา)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
คืนนี้หรือใกล้รุ่ง พี่นิตจะฝันอะไรแปลกๆเสียวๆอีกมั้ยหนอ ฮิฮิ

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
อ่านตอนนี้แล้วแบบ แอบอุดปากกรี๊ดกร๊าดอยู่คนเดียว
มันน่ารักมากค่ะ โจก็นะ มันให้อารมณ์สาวน้อยมากเลยแต่ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่น่ะ
ชอบโจแบบนี้จังเลย  ทำเองเขินเอง
><

พี่นิตทำอะไรน่ะ เห็นนะ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
*** กรี๊ด เราว่า ในที่สุด ดอกรักในใจของพี่นิตก็พอจะเริ่มงอกบ้างแล้วล่ะมั้งงงง

อิฉันว่ามันงอกนานจนผลิดอกจะเริ่มบานแล้วแหละค่ะ
แต่แกปลูกแอบๆไว้ที่สวนหลังบ้านในมุมลี้ลับนิดนึง ก็แกเขินไง มาเริ่มปลูกเอาปูนนี้
แล้วตอนนี้มันแอบไม่อยู่แล้วไง เพราะต้นรักได้เติบโตสูงพ้นรั้วออกมาแล้วให้เห็นแล้ว :impress2:

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
คุณโจรุกหนักแล้ว :laugh:
คุณนิตต้องเป็นลมบ่อยๆแน่เลย ต้องพกยาดมไว้นะ o18

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
อร๊ายยยยยยยยยยยย    :-[   :-[

พี่นิตเริ่มกล้าขึ้นมานิดหนึ่งแล้วด้วยการจูบหน้าผากคุณ บ.ก. 

ไม่รู้ว่า บ.ก. แกล้งหลับหรือเปล่า ถ้าแกล้งหลับคงยิ้มถูกใจที่พี่นิตจูบหน้าผากราตรีสวัสดิ์แน่  คริคริ   :o8:   :o8:


RanJeri

  • บุคคลทั่วไป
คืบหน้าไปอีกนิดเพราะพี่นิตรุกเอง :laugh:
ถ้าโจรู้?? คงปลื้มหน้าดู :impress2:

- คราส -

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
แหมคุณพนิตช่างกล้าทำนะ (แอบหวานแบบซึนๆ นะเนี่ย)

A_ay

  • บุคคลทั่วไป
ยิ้มแก้มตุ่ยตลอดเลย

รู้สึกตื่นเต้นแบบพี่นิตทุกครั้งเล้ยยย


อ๊ายย
เขินนน

ออฟไลน์ ooopimmyooo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เขิลลลลลล  ><'

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด