บทบาทที่6
เมื่อคืนผมจำได้ว่าผมเผลอหลับไป ตอนที่กำลังนอนร้องไห้อยู่กับพื้นเเต่ทำไมพอตื่นเช้าขึ้นมาผมถึงได้นอนอยู่บนเตียง
"มองอะไร"ผมถามเเบบไม่พอใจเท่าไรนักเมื่อเห็นใครบางคนนอนจ้องอยู่เเบบนั้น พอผมลุกขึ้นนั่งผมรู้สึกปวดหัวตุบๆ
"นายไม่สบายนะ"นายไนท์ลุกตามบ้าง แล้วนั่งมองผมอยู่เเบบนั้น ผมหันหน้าไปอีกทาง เพราะสายตามันชอบมองเเต่ริมฝีปากเเละนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ทุกทีเลย
"หน้านายมันเเดงขึ้นอีกนะ ไหวไหมเนี่ย"นายไนท์เอามืออังหน้าฝากจนผมตกใจรีบปัดมือออก เเต่ดูเหมือนมันจะเเรงจนเหมือนเป็นตีมากกว่า
"หึ ยังไม่หายโกรธเรื่องเมื่อคืนอีกหรอไง"นายไนท์ยิ้มที่มุมปาก
"ไม่รุดิ่ ไม่รู้เหมือนกันอาจจะยังก็ได้"ผมหันหน้าไปทางอื่นเพราะยังไม่อยากเห็นหน้า คนที่กำลังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เรื่อยๆ
"นาย เอาหน้าออกไปไกลๆได้ไหมมองอยู่ได้โรคจิตหรือไง"ผมว่าหมอนั่นเพราะรู้สึกว่าตัวเองทำตัวไม่ถูก ยังไงก็ขอข่มไว้ก่อนเพื่อปกปิดอาการของตัวเอง
"อื้ม ก็ได้ๆ ว่าแต่ไหวไหมเนี่ย"
"ไหวน่ะไหวแน่ เเล้วจะเดินทางตอนไหนผมอยากรีบไปเร็วๆเพราะไม่อยากเห็นหน้าใครบางคน"ผมพูดเสร็จเเล้วลุกขึ้นยืน รู้สึกมันวูบๆจนเซ นี่เราไม่สบายจริงๆหรอเนี่ย
"ไหนบอกว่าไหว แบบนี้คงขึ้นเรือไม่ไหวเเน่ๆ"นายไนท์เข้ามาช่วยพยุงเเล้วบ่นผม ตอนนี้ผมเหมือนอยู่ในอ้อมกอดของเขาเลย
"ไหวก็ไหวสิเอ๊ะ"ผมว่าตะคอกเเล้วผลักออก รีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ทำไมหัวใจมันเต้นเเรงแบบนี้นะ นี่เราหน้าเเดงด้วยอ่ะ ไม่สบายหนักหรือไงเนี่ย ผมได้ยินเสียงหมอนั่นหัวเราะด้วยอ่ะ มันดูมีความสุขมากใช่ไหมที่เห็นผมเป็นแบบนี้
..............
ผมรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้บอกลาน้องดรีม นายไนท์บอกว่าไม่ต้องเพราะเดี๋ยวน้องดรีมร้องตาม แต่แค่ได้มองน้องดรีมก่อนเดินทางก็ยังดี โชคดีของผมที่ไม่เจอปรายในตอนเช้าเพราะมันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย นายไนท์ขับรถไปจอดที่โรงเเรงเพื่อเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน
"ไอ้บรีสกูฝากน้องดรีมด้วยนะ"นายไนท์พูดกับผู้ชายใส่สูทคนเดิมที่ผมเห็นตอนที่ไปเจอลูกค้ากับหมอนี่ คนๆนี้คือบรีสนี่เอง
"เออๆ อย่าห่วง กูเลี้ยงเด็กได้น่า ให้กูดูก็บ่อยจะห่วงอะไรนักหนาวะ"ผู้ชายผิวสีแทนหน้าตาออกเเนวคนใต้ พูดพร้อมทำท่าชิวๆ
"กูห่วงว่ามึงจะพาหนูดรีมเล่นแผลงๆมากกว่า"นายไนท์กอดอกเเละทำสีหน้าจริงจัง
"มึงเคยเห็นหรอ...."คุณบรีสพูดทำว่าหรอซะยาวเหมือนล้อเลียน
"เดี๋ยวกูไล่มึงออกเลยนิ"นายไนท์ขู่เเต่ดูเหมือนคุณบรีสจะไม่เกรงกลัวเลย
"อะคร้าบเจ้านาย ว่าเเต่เจ้านายคร้าบพาภรรยามาไม่เห็นจะเเนะนำผมเลย"คุณบรีสพูดน้ำเสียงเหมือนล้อเลียนจนผมรู้สึกอาย
"จำเป็นไหม ว่าเเต่มึงเหอะจะพากูไปได้หรือยัง"นายไนท์เริ่มทำน้ำเสียไม่พอใจ
"โถ่ นิดหน่อยก็ไม่ได้เนาะ ออๆ"ผมหัวเราะกับท่าทางขี้เล่นของคุณบรีส นายไนท์ได้เหล่เเล้วจู่ๆก็จูงมือผมขึ้นรถ
"คุณจะจับมือทำไม"ผมสะบัดเท่าไรก็ไม่หลุด ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ เเต่พอตัวเองสัมผัสหมอนี่ทีไรใจมันสั่นทุกที นายไนท์ไม่ตอบได้เเต่เงียบเเล้วหันไปทางนอกหน้าต่าง
"ไอ้คุณไนท์มันเป็นเเบบนี้แหละน้องซิน มันหวงของเป็นจงอาจหวงไข่โอ๊ย!"พี่บรีสรีบจับหัวตัวเองเมื่อโดนฝ่ามือของนายไนท์
"น้อยๆหน่อยมึง"โดนดุคุณบรีส
"โหยไรวะ เล่นอะไรพิเรนหลุดข้างทางขึ้นมาทำไง"คุณบรีสทำท่ากระฟัดกระเฟียด หลังจากนั้นก็เงียบไปคงไม่อยากเจ็บตัวอีก
"ขอบคุณนะครับคุณบรีส"ผมขอบคุณเมื่อมาถึงท่าเรือ
"เรียกพี่เถอะครับเราคนกันเอง น้องซินนี่น่ารักจังนะครับไม่เหมือนคนบางคน อุตส่าห์มาส่งไม่มีการขอบคุณ ไปนะครับน้องซิน"พี่บรีสรีบขึ้นรถทันทีที่พูดจบ คงกลัวว่าจะโดนคนตรงหน้าทำร้ายเอา เลยรีบชิ่งซะก่อน
"ถึงเเล้วก็ปล่อยสิ"ผมบอกให้เขาปล่อยมือซักที
"ใครบอกว่าถึงต้องเดินไปที่ท่าอีก"พูดเสร็จก็จูงมือผมเดินตาม ทำเหมือนผมเป็นเด็กๆไปได้นะ
ผมเห็นเรือหลายลำหลายรุ่นจอดอยู่เทียบท่าเรือ มีเด็กวัยรุ่นนั่งเฝ้าพอเห็นพวกผมก็วิ่งเข้ามาหา นายไนท์ควักเเบงค์ร้อยให้เด็ก เเล้วโยนกระเป๋าใส่เรือCrownline กระโดดลงเรือไป
"ยืนบื้อทำอะไรล่ะขึ้นมาสิ"ผมรู้สึกหวาดเสียวตอนลงเรือจริงๆเพราะเเรงสั่นไหวของทะเล เเถมเรือมันยังโคลงเคลงอีก
"ไวๆ ต้องให้ฉันอุ้มนายอีกไหม"ผมรีบลงเรือทันทีหมอนั่นยื่นมือมาช่วยรับ ผมรีบจับทันทีเพราะกลัวหล่น นายไนท์สตาร์ทเครื่องเเละออกตัวออกทะเลได้ไม่นานผมก็รู้สึกมึนและผะอืดผะอมทันที
"ไงล่ะอวดเก่งดีนัก เเค่นี้ก็ไม่ไหวซะเเล้ว"ถ้าไม่พูดหมอนี่จะดีมากเลย ผมปาดน้ำตาที่มันเริ่มปริ่มๆ
"อีก15นาทีก็ถึงฝั่งเเล้ว"ชินเเล้วสิพูดได้นิ่ ลอยหน้าลอยตารับลมเเต่ผมนี่สิจะเเย่ ตอนนี้ลมมันตีขึ้นจนอยากจะอาเจียนอยู่เเล้ว
ผมใช้ความอดทนใน15นาทีในที่สุดก็มาถึง นายไนท์จอดเทียบท่าเรือ มันเหมือนผมหลุดออกจากนรกก็ไม่ปาน รู้สึกดีใจอย่างเเรงที่ได้ขึ้นฝั่งซักที
เกาะเล็กๆที่ใช้เวลามาที่เพียงเเค่30นาทีผมรู้สึกตื่นเต้น ไม่เคยมาในที่ๆเเบบนี้เลย นายไนท์เดินนำผมขึ้นท่าเรือที่ทำเป็นสะพานไม้เเละทอดยาวออกสู่ทะเล
"นายมีบ้านบังกะโลที่นี่ด้วยหรอด้วยหรอ"ผมแปลกใจที่เห็นแบบนั้นบ้านพักหลังเล็กไม่ใหญ่มากหลายหลังเรียงยาว
"อืมบางทีเราจะเปิดเกาะให้นักท่องเที่ยวได้มาพักน่ะ ที่นี่มีอะไรตื่นตาอีกเยอะว่างๆเเล้วฉันจะพาดู"ผมเดินตามหมอนี่ไป ผมเห็นคนหลายคนอยู่ที่นี่ พอเขาเห็นพวกผมก็ยกมือไหว้บางคน อายุมากกว่าพอเห็นนายไนท์ก็รีบยกมือไหว้ไปตามๆกัน
"ถึงเเล้วที่พัก"ผมมองบ้านไม้ที่ชั้นล่างเป็นบ้านปูนชั้นบนเป็นบ้านไม้ผสม คล้ายๆกับบ้านอีกฟากหนึ่งของทะเล เเต่ดูเหมือนบ้านหลังนี้ชั้นล่างส่วนมากจะเป็นกระจกใส่สามารถเห็นทั้นด้านในเเละด้านนอก
"ไม่มีใครอยู่หรอ"ผมถามด้วยความสงสัยเมื่อรู้สึกว่าบ้านเงียบผิดปกติ
"พวกแม่บ้านก็อยู่บ้านเล็กกันหมดเเหละ ที่นี่ก็มีแต่นายกับฉันในตอนนี้"นายไนท์พูดเสร็จก็วางกระเป๋าเเล้วนั่งตรงโซฟากลางบ้าน
"แล้วใครมาทำความสะอาดที่นี่หละ มันดูสะอาดมากเลยนะ"ผมสำรวจบ้านรอบๆ ไม่มีแม้บ้านแต่ที่นี่กลับดูสะอาดสะอ้านดี
"ชาวบ้านที่อยู่บนเกาะน่ะ บางทีก็มาทำความสะอาดให้ ฉันไม่ได้ล็อกบ้าน"
"อ้าวแล้วนายไม่กลัวของหายหรือไง"
"ฉันมั่นใจคนของฉัน ฉันให้ที่เขาได้อาศัยทำมาหากิน ถ้าเขาทำแบบนั้น พวกเขาก็จบ"อื้ม นายใหญ่มากกก เลยสินะ
"สรุปผมต้องอยู่กับคุณแค่สองคนใช่ไหมเนี่ย"นายไนท์พยักหน้า ผมได้เเต่ชันคางด้วยความเซง
"ทำไมอยู่กับฉันมันน่าเบื่อนักหรือไง"พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิดๆ
"เปล๊า ก็เเค่บ้านมันเงียบ"ผมเเถไปเรื่อย ถ้าผมอยู่กับหมอนี่สองคนเเล้วผมควรจะทำตัวยังไงดีเนี่ย
"รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง" ผมพยักหน้าตอบ
"จะเก้าโมงละเดี๋ยวฉันออกไปข้างนอกเเปปเดี๋ยวมา พักผ่อนก่อนล่ะนาย"ว่าเเล้วก็ทำอะไรปุ๊บปั๊บ โดยที่ไม่รอให้ผมพูดเลย บ้านหลังนี้ให้ความรู้สึกดีก็จริง แต่มันเงียบเเละวังเวงมากจนรู้สึกขนลุก อย่างน้อยๆ ถ้าน้องดรีมอาศัยอยู่มันคงจะมีเสียงหัวเราะของน้องดรีมกลบเกลื่อนความเงียบนี้ได้บ้าง
"ไปนานชมัด"ผมบ่นเเล้วชะเง้อคอมอง หิวก็หิว แต่ไม่รู้จะหาอะไรกินได้ที่ไหน บ้านก็ไม่กล้าสำรวจเพราะความกลัวไม่เข้าเรื่อง ตอนนี้อยากให้หมอนั่นอยู่ด้วยแล้วสิ
"นั่งทำหน้าแบบนั้นอีกละ"เหอะพอบ่นถึงก็มาเลย
"อะ เอาของในนี้เทใส่ชาม จะได้ทานข้าวเช้ากัน"นายไนท์ยื่นถุงให้ผม
"อะไร นายใช้คนป่วยหรอ"ผมว่าเเบบน้อยใจ ทำท่าทางอิดออดนิดหน่อย นายไนท์เหมือนรู้ทัน ยิ้มเเล้วดึงถุงกลับ
"ป่วยงั้นหรอ"ผมพยักหน้า นายไนท์โน้มหน้าเข้ามาใกล้ จนผมเเทบตั้งตัวไม่ทัน
"งั้นฉันจูบนายซักทีดีไหม จะได้หายป่วย"ผมรีบส่ายหัวทันทีเเล้วดึงถุงที่ใส่อาหารมื้อเช้าในนั้น
"ฮะๆ มันเป็นมนต์ ฉันทำกับน้องดรีมออกจะบ่อย" ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก ผมรีบลุกทันทีเพราะ รู้สึกหน้าตัวเองมันร้อนผ่าว ขึ้นมาอีกเเล้ว
"ให้นายจูบก็บ้าเเล้ว ไม่เห็นต้องเเกล้งกันเลยบอกดีๆก็ได้"ผมเดินหนีด้วยความเขิน
"นายไปผิดทางน่ะ ห้องครัวอยู่ทางขวามือ" ผมรีบเลี้ยวไปทางขวามือทันที เพราะตอนเเรกจะเดินไปผิดทาง ผมได้ยินเสียงหัวเราะร่วนของหมอนั่น ซะลั่นบ้าน เห็นผมอายเเล้วมันสะใจมากใช่ไหมเนี่ย
..................
นายไนท์ยื่นยาที่อยู่ในเเก้วใส พร้อมกับน้ำเปล่าเต็มแก้วให้ผม หลังจากทานอาหารเสร็จ ก็ปาไปเกือบสิบโมงเเล้ว ผมรับยาเเละน้ำมาเเละทาน เพราะรู้สึกครั่นตัวขึ้นมาอีกเเล้ว
"วันนี้ยังไม่ต้องลุยงาน ยังพอมีเวลา พักผ่อนให้หายดีก่อนเเล้วกัน"นายไนท์พูดเสร็จก็จัดการเก็บจานไปล้าง โชคดีที่หมอนี่ไม่ใจดำใช้ผมล้างให้อีก
"แล้วคุณจะไปไหนล่ะ"ผมถามเพราะไม่อยากอยู่คนเดียวยังไม่ชินกับบ้านหลังนี้เลย
"ฉันจะออกไปฟาร์มซักแปปน่ะ"ผมรู้สึกใจฝ่อขึ้นมาทันที
"เดี๋ยวจะหาเด็กมาอยู่เป็นเพื่อนน่า"นายไนท์เหมือนรู้ใจรีบพูดขึ้นมาทันที ส่วนผมก็ใจชื้นขึ้นมาอีกนิด
"อย่าไปนานนะ"ผมเผลอบอกเสียงอ่อย นี่ผมบ้าไปแล้วหรือไงเนี่ยพูดอะไรออกไปนะ
"อืมเเล้วฉันจะรีบกลับมานะ สัญญาว่าจะกลับไวๆ ที่รัก"ผมเหวอกับประโยคสุดท้ายที่นายไนท์พูด
"ห้องนอนอยู่ชั้นสองขึ้นบรรไดไป ห้องซ้ายมือนะ ฉันไปละเดี๋ยวจะรีบกลับ"แล้วหมอนั่นก็ยิ้มให้ผม เป็นยิ้มที่ดูอบอุ่นใจพิลึก ถ้าหมอนี่ยิ้มแบบนี้ทุกครั้งก็ดีสิ ก็ยังดีกว่าที่ชอบยิ้มยียวนกวนประสาททุกครั้งที่เราเถียงกัน
.............
บ้านทั้งบ้านเงียบลงอีกครั้งเมื่อนายไนท์ออกไปแล้ว ผมรู้สึกหนักหัวเลยขึ้นชั้นบนเพื่อไปยังห้องพัก บ้านหลังนี้ช่างเงียบเหงา หรือเป็นที่ผมกันเเน่ ผมเปิดห้องเข้าไปด้านใน ด้านในห้องดูโล่งๆ ผมเดินเข้าหาที่นอนนุ่มๆทันที หน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่ผ้าม่านเปิดออกเล็กน้อย ตอนที่ผมมาฟ้ายังสดใสอยู่เเล้วเเต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันอึมครึมชอบกลอีกไม่นานฝนอาจจะตก เเล้วหมอนั่นจะเปียกฝนใหมนะ ผมกลิ้งไปบนที่นอน สายตาก็เหลือบไปเห็นรูปๆหนึ่ง เป็นรูปครอบครัวที่มีพ่อเเม่ลูก เเน่นอนนั่นคือนายไนท์เเละภรรยาของเขา ผู้หญิงที่กำลังอุ้มเด็กทารกน้อยเธอยิ้มละมัยให้กล้อง เป็นยิ้มที่บริสุทธิ์ หน้าตาของเธอช่างสวยอย่างที่ใครๆว่าจริงๆนายไนท์ยืนโอบไหล่ของเธอไว้และยิ้มแบบมีความสุขที่สุดในชีวิต.................ซักวันผมจะได้เห็นรอยยิ้มนั่นไหมนะ ผมจะมีโอกาศได้เห็นรอยยิ้มที่มีความสุขแบบนั้นไหม...............
ผมอยากเห็นผมอยากให้ผู้ชายคนนี้ยิ้มแบบนี้ให้กับผมบ้าง บางทีผมอาจต้องการใครซักคนที่เขาคนนั้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของผม แล้วคนๆอาจจะเป็น.............................ผมสลัดหัวไล่ความคิดทั้งหมดออกไปซะ รู้สึกว่าตัวเองจะเหลวไหลขึ้นทุกทีเเล้วสิน่า
"ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่บางทีผมอาจจะไม่ได้เจอกับพวกเขา................คุณคิดว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องของพรมลิขิตไหม"ผมถามแม่ของน้องดรีมที่อยู่ในรูป บางทีถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ผมอาจจะไม่ได้เเต่งงาน นายไนท์อาจจะไม่ได้เจอผม ผมเเละพวกเขาเราอาจจะไม่รู้จักกันเลย บางทีเราอาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าพวกเขามีตัวตนจริงๆ ส่วนผมก็อาจใช้ชีวิต เอื่อยเฉื่อยไปวันๆกับพวกเพื่อนซี้ที่พักหลังๆไม่ได้ติดต่อกันเลย
"เฮ้อ!" ผมถอนหายใจเเล้ววางรูปไว้เหมือนเดิม นายไนท์อาจจะยังคิดถึงเธออยู่ เมื่อก่อนพวกเขาคงจะรักกันมากสินะ ดูจากรูปนี้เเล้ว
"ใครก็ไม่มีทางมาแทนพี่มะปรางได้"คำพูดของปรายมันกลับมาวนเวียนอยู่ในหัวสมองของผมอีกแล้ว
"บางทีเราควรเชื่อใจตัวเองมากกว่าเชื่อคนอื่น" พ่อเคยสอนไว้
เชื่อใจตัวเองสิซินอย่าพยายามให้ใครมาเป่าหูเราได้ บางครั้งเรื่องบางเรื่องมันก็ต้องการระยะเวลาเพื่อหาคำตอบ บางทีเราอาจจะยังไม่ค้นพบตัวตนของเราจริงๆก็ได้
ผมข่มตาหลับ เพราะคิดมากจนหัวสมองเริ่มปวดขึ้นมาอีกครั้ง ฟ้าเริ่มมืดเเละเริ่มมีฝนโปรยปรายทำให้อากาศช่างเย็นเหลือเกิน ผ้าถูกกระชับจนเหมือนจะคลุมโปงอยู่เเล้ว ป่านนี้น้องดรีมจะเป็นยังบ้างนะ จะบ่นถึงผมไหม ทนอีกเจ็ดวันก็ได้กลับไปหาน้องดรีมเเล้วตอนนี้ก็ได้เเต่ทนเหงาไปก่อน
นอนเถอะซิน นายคิดซะจนหลับไม่ลงอีกแล้ว หวังว่าหมอนั่นจะกลับมาเร็วๆจริงๆอย่างที่สัญญาไว้เเล้วกัน......
...............