Fiction : It's Real
Author : Yuri (Rella)
Pairing : J.Law&Kirio
Part : 2~* ... เมื่อแรกเจอ ... *~ ผมกับเขาเราอายุห่างกันเกือบ 10 ปี เขาเป็นนักเรียนไฮสคูลของโรงเรียนสอนดนตรีแห่งหนึ่ง ส่วนผมเป็นเจ้าของบริษัทถ่ายภาพ ชีวิตของผมผูกติดกับกล้องมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมเคยคิดว่าการถ่ายรูปมันคงเป็นสิ่งเดียวที่ผมเกิดมาแล้วทำได้ดีที่สุด ผมจำได้ว่าผมจับกล้องครั้งแรกตอนอายุ 10 ขวบ ตั้งแต่นั้นมาผมก็หลงเสน่ห์ในการมองสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวผมผ่านเลนส์กล้อง ผมชอบถ่ายรูปมากจนตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยผมก็เลือกที่จะเข้าคณะที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพโดยตรง พอจบออกมาผมก็เอาแต่เดินทางถ่ายรูปไปตามสถานที่ต่างๆ พ่อผมเคยถามผมว่า "ทำไมไม่เปิดร้านถ่ายรูปไปเลยล่ะ" คำถามของพ่อทำให้ผมคิดได้ว่าทำไมผมถึงไม่เอาสิ่งที่ผมชอบมาทำให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ ผมจึงตัดสินใจตั้งบริษัทเกี่ยวกับการถ่ายภาพขึ้นมา โชคดีหน่อยที่ฐานะทางบ้านของผมค่อนข้างดี ทำให้ผมสามารถตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาได้อย่างไม่ยากลำบากนัก แน่นอนว่าที่บริษัทนี้ตั้งขึ้นมาได้ก็เพราะเงินของพ่อผม แต่ผมก็สัญญากับพ่อไว้แล้วว่า ผมจะใช้คืนทั้งหมดเมื่อผมพร้อม.........
ถึงแม้ว่าผมจะมีบริษัทเป็นของตัวเองแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้ผูกชีวิตของผมติดไว้กับบริษัทตลอดเวลา ผมยังคงเที่ยวออกไปถ่ายรูปตามที่ต่างๆ อยู่บ่อยๆ แต่ถึงจะให้ผมนั่งเฝ้าอยู่บริษัทหรือสตูดิโอทั้งวันผมก็ยังต้องหยิบจับกล้องขึ้นมาถ่ายนู่นถ่ายนี่อยู่ดี วันไหนถ้าผมไม่ได้จับกล้อง นิ้วไม่ได้กดชัตเตอร์ ผมคงต้องขาดใจตายแน่ๆ...พวกเพื่อนๆ ของผมเคยถามผมว่าผมกับเขาเราเจอกันได้ยังไง ก็ในเมื่อวันๆ ผมเอาแต่ถ่ายรูป ผมก็บอกพวกเขาไปว่า ก็เพราะการถ่ายรูปเนี่ยแหละ ถึงทำให้ผมได้เจอกับเขา.........
ผมยังจำได้ดีวันแรกที่ผมเจอกับเขา...ผมเจอเขาครั้งแรกตอนเดือนเมษา วันนั้นผมออกไปถ่ายรูปแถบชานเมืองแต่มันก็ไม่ได้ไกลจากที่อยู่ผมสักเท่าไร ผมอยู่ที่นั่นจนเย็น พระอาทิตย์กำลังทำมุมสวยกับเส้นขอบฟ้า แสงอาทิตย์ยามเย็นมันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะยกกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์เก็บบรรยากาศรอบๆ เอาไว้ ผมชอบที่จะมองหาทำเลดีๆ ในการถ่ายรูปผ่านเลนส์กล้อง ผมเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ มองหามุมที่ได้แสงสวยๆ มาประกอบภาพ ตาของผมแทบจะไม่ออกห่างจากเลนส์กล้องเลย จนกระทั่งมีสิ่งๆ หนึ่งทำให้ผมต้องหยุดชะงักไป ผมละสายตาออกจากเลนส์กล้อง เพื่อมองให้แน่ชัดว่าสิ่งที่ผมเห็นผ่านเลนส์กล้องเมื่อครู่มีตัวตนอยู่จริง และมันก็จริง ผมไม่ได้ตาฝาด...ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นใครที่ทำให้ผมต้องตกอยู่ในภวังค์ได้มากขนาดนี้มาก่อน ใบหน้าเรียวเล็กกับดวงตาเรียวสวยที่กำลังทอดมองไปจนสุดทุ่งหญ้ากว้างแล้วยังริมฝีปากบางๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ฉายอยู่บนใบหน้าน่ารักนั้นอีก ทุกอย่างที่ผมเห็น ณ ตอนนั้นทำเอาผมแทบหยุดหายใจ ผมรีบเรียกสติตัวเองกลับคืนมาก่อนจะจัดการกดชัตเตอร์รัวถ่ายภาพเขาคนนั้นไม่หยุด ทุกท่วงท่า ทุกอิริยาบทที่ดูน่ารักของเขาคนนั้นถูกผมบันทึกไว้ในกล้องตัวโปรดของผมแทบทุกรายละเอียด ผมจับจ้องเขาผ่านเลนส์กล้องอยู่นานจนเขารู้ตัว จากที่หันด้านข้างให้ผมอยู่เขาก็หันควับมาทางผมทำเอาผมสะดุ้งนิดๆ แต่ถึงผมจะตกใจที่โดนเขาจับได้ว่าผมแอบถ่ายรูปเขาอยู่ แต่มือผมมันก็ยังทำหน้าที่อย่างดีกดชัตเตอร์ลงไปอีกครั้ง ผมเลยได้รูปหน้าตรงที่ดวงตาทั้งคู่ของเขากำลังจับจ้องมาที่ผมพอดี เขาเดินตรงมาหาผมทันทีที่ผมละสายตาออกจากกล้อง..........
"คุณถ่ายรูปผมเหรอฮะ"เขาเอ่ยถามผม ครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงเขาผมใจเต้นแรงมาก ตอนนั้นผมนึกว่าผมจะตายแล้วซะอีก ฮ่าฮ่าฮ่า...เอ้อ ผมลืมบอกไป นอกจากเขาจะน่าตาน่ารักแล้วเสียงของเขายังน่ารักอีกด้วยล่ะ
"เอ่อ...ใช่ คือฉันเห็นว่าแสงกำลังสวยน่ะเลยอยากถ่ายเก็บไว้"ผมพูดแก้ตัวออกไป ทั้งที่จริงๆแล้วต่อให้แสงไม่สวยแต่ถ้าเป็นเขา ผมมั่นใจว่าผมก็กดชัตเตอร์อยู่ดี
"อ๋อ อย่างนี้นี่เอง งั้นผมขอดูรูปที่คุณถ่ายหน่อยได้มั้ยฮะ"เสียงใสๆ ของเขาเอ่ยขออนุญาตผม
"ได้สิ"ผมพูดพร้อมกับยื่นกล้องตัวโปรดของผมให้กับเขา เขายื่นมือมารับไปพร้อมกับส่งรอยยิ้มสดใสมาให้ผม...ให้ตายเถอะ เห็นแล้วอยากถ่ายรูปเก็บไว้อีกจริงๆ
"ขอบคุณฮะ"เขาเอ่ยขอบคุณผมเสียงใส รอยยิ้มที่เหมือนเด็กที่กำลังได้ของเล่นชิ้นใหม่นั้นทำเอาอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
"ไม่เป็นไร เพราะนั่นเป็นรูปของนาย นายมีสิทธิ์ดู"
"ฮะ...เอ่อ ว่าแต่กดปุ่มนี้ใช่รึเปล่าฮะ"เขาเดินมายืนข้างๆ ผม ยื่นกล้องมาให้ผมดูว่าตัวเองกดปุ่มทำงานของกล้องถูกหรือไม่
"ต้องกดปุ่มนี้ก่อน แล้วค่อยกดปุ่มนี้นะ"ผมอธิบายเขา เขาก็พยักหน้าหงึกๆ รับฟัง ก่อนจะทำตามที่ผมบอก
"สวยจัง คุณถ่ายรูปสวยมากๆเลยนะฮะ ผมชอบ"ตาเรียวสวยทั้งคู่ของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่จอภาพบนกล้อง แต่ริมฝีปากบางกลับขยับเอ่ยชมผมไม่หยุด
"รูปทุกรูปถ้าองค์ประกอบไม่สวย รูปก็ออกมาสวยไม่ได้หรอกนะ"ผมพูดเป็นนัยๆ คือความจริงผมต้องการจะชมว่าเขาสวยนั่นแหละ แต่อยู่ๆ ไปบอกเขาโต้งๆ เขาคงจะตกใจน่าดู
"เก่งจัง ผมอยากถ่ายรูปได้สวยอย่างนี้บ้าง"เขายังอยู่ในอิริยาบทเดิม คือตาดูไปปากก็ขยับพูดไป แต่หูนี่คงไม่ได้ฟังที่ผมพูดเท่าไร
"ถ่ายรูปบ่อยๆ เดี๋ยวมันก็สวยเองนั่นแหละ"
"อ๋าาาา...ไม่จริงหรอก คุณน่ะต้องฝึกฝนมานานแล้วแน่ๆเลย"เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วเขาคงจะไม่เชื่อที่ผมพูดเมื่อกี้แน่ๆ
"ไม่หรอก ฉันก็แค่ชอบแล้วทำมันบ่อยๆ ก็เท่านั้น"ผมพูดพร้อมกับยิ้มให้เขานิดๆ
"....อย่างนี้นี่เอง...."เขาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะก้มลงไปสนใจรูปภาพในกล้องต่อ
".........ฉันสอนให้เอามั้ย"ผมเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจเอ่ยถามออกมา
"เอ๋?"เขาละสายตาจากจอภาพบนกล้องหันมามองหน้าผมแทบจะทันที ตามเรียวคู่สวยนั้นมองหน้าผมอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ผมพูดออกไปเมื่อครู่
"ทำไม? มองแบบนี้ไม่เชื่อที่ฉันพูดรึไงกัน"
"เปล่าฮะเปล่า...ผมแค่นึกไม่ถึงว่าคุณจะสอนผมถ่ายรูปก็เท่านั้นเอง"เขารีบส่ายหน้าไปมาปฏิเสธคำพูดของผม
"แล้วตกลงจะให้ฉันสอนมั้ยล่ะ"ผมย้อนถามเขาอีกครั้ง
"ให้สอนสิฮะ เรื่องอะไรจะปฏิเสธล่ะ...ว่าแต่ คุณบ้านอยู่แถวนี้เหรอฮะ"เขารีบตอบรับทันที คงกลัวผมจะเปลี่ยนใจล่ะมั้ง
"เปล่าหรอก ฉันแค่มาถ่ายรูปเล่นน่ะ ถามทำไมเหรอ"
"อ้าว ก็คุณบอกว่าจะสอนผมถ่ายรูป ถ้าคุณไม่ได้อยู่แถวนี้คุณจะมาสอนผมได้ยังไงกันล่ะฮะ"เขาตอบผมพร้อมกับยื่นกล้องส่งคืนมาให้กับผม
"ทำไมจะมาไม่ได้...วันนี้ฉันยังมาที่นี่ได้เลย แล้วทำไมวันอื่นๆ ฉันถึงจะมาไม่ได้ล่ะ"คำตอบของผมคงทำให้เขาพอใจไม่น้อย ใบหน้าน่ารักนั่นเริ่มมีรอยยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง
"จริงเหรอฮะ...แต่ว่าความจริงแล้วผมก็ไม่ได้อยู่แถวนี้หรอกฮะ แต่พอดีว่าช่วงนี้ปิดเทอมฤดูร้อนพ่อกับแม่เลยพาผมมาเยี่ยมคุณตาคุณยายน่ะฮะ"เขาพูดจบก็เงียบไป
"แล้วยังไงต่อล่ะ"ผมถามขึ้น เพราะคิดว่าเขายังต้องการพูดอะไรอีกแน่นอน
"ก็ ถึงยังไงผมก็ได้เรียนถ่ายรูปกับคุณแค่แป๊บเดียวน่ะสิฮะ"
"ปิดเทอมฤดูร้อนนี่มันนานแค่ไหนกัน ฉันลืมไปแล้วล่ะ"ผมถามเขาขึ้นมา
"เดือนนึงฮะ"
"เวลาตั้งเดือนนึง ฉันสอนนายให้ถ่ายรูปออกมาสวยได้อยู่แล้ว เชื่อมือฉันสิ"ผมพูดพร้อมส่งยิ้มไปให้เขา เขาก็ส่งยิ้มน่ารักตอบกลับผมมา ดูท่าว่าเขาจะร่าเริงขึ้นมาแล้วล่ะ
"งั้นคุณจะเริ่มสอนผมตอนไหนฮะ"เขารีบถามผมอย่างกระตือรือร้น
"ตอนนี้ก็ยังได้"ผมก็ตอบเขายิ้มๆ
"ตอนนี้เลยเหรอฮะ...คงไม่ได้หรอกฮะ ผมไม่ได้บอกที่บ้านเอาไว้"เขาพูดเสียงหงอยๆ
"พรุ่งนี้ก็ได้นี่ ไม่ต้องทำเสียงเศร้าแบบนั้นหรอกน่า"ผมเอ่ยปลอบเขา
"งั้นพรุ่งนี้กี่โมงดีฮะ ผมน่ะว่างทั้งวันอยู่แล้ว"เขาพูดเสียงสดใสกับรอยยิ้มเป็นประกายอีกครั้ง
"นายว่างทั้งวันแต่ฉันมีงานต้องทำนะ..."ผมแกล้งพูดเบรคเขาไว้ ดูเหมือนจะเห็นผลทันตา รอยยิ้มสดใสเมื่อครู่หุบฉับลงอย่างรวดเร็ว
"อ่าาาา~ จริงด้วยสิ คุณไม่ได้ปิดเทอมเหมือนผมนี่นา"มาอีกแล้ว เสียงหงอยๆ แบบนั้นมาอีกแล้ว
"ทำเสียงหดหู่แบบนั้นอีกแล้ว ฉันมีงานต้องทำแต่ตอนเย็นของทุกวันฉันว่างนะ เอาเป็นว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เรามาเจอกันที่นี้ตอน 4 โมงเย็น ตกลงมั้ย"ผมยื่นข้อเสนอให้เขาคิดพิจารณาดู
"ตกลงฮะ 4 โมงเย็นของทุกวัน เราจะมาเจอกันที่นี่"เขาตอบตกลงผมทันที แถมมีการทวนคำพูดผมอีกต่างหาก ทำอย่างกับว่านั้นเป็นคำสัญญาระหว่างผมกับเขายังไงยังงั้นเลยทีเดียว
"อืม ตกลงตามนั้นล่ะ"ผมก็ตอบรับเขาไปเพียงสั้นๆ
"งั้นผมไปก่อนนะฮะ พรุ่งนี้เจอกัน บ๊ายบายฮะ"เขาบอกลาผมก่อนจะหันหลังให้ผมวิ่งไปตามทางเดินตรงหน้า แต่ยังไม่ทันจะวิ่งไปถึงไหนอยู่ๆ เขาก็หันกลับมา
"เอ่อ...คือว่า ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย"เขาป้องปากตะโกนมาหาผม เสียงใสๆ ของเขาก้องกังวาลไปทั่วทั้งบริเวณนั้น
"เซี่ยเห่อ..."ผมก็ตะโกนตอบเขากลับไป เขาพยักหน้ารับก่อนจะตะโกนบอกชื่อตัวเองกลับมา
"คุณเรียกผมว่าลั่วลั่วก็แล้วกันนะฮะ ผมไปจริงๆล่ะนะ บ๊ายบายฮะ"บอกชื่อตัวเองเสร็จก็โบกไม้โบกมือร่ำลาผมอีกรอบก่อนจะหันหลังวิ่งกลับไปทางเดิม ผมยืนมองเขาที่วิ่งจากไปอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเขยื้อนไปไหน จนเขาหายลับตาไป ผมจึงพาตัวเองเดินกลับไปขึ้นรถที่จอดอยู่ตรงปากทางเข้าของทุ่งหญ้ากว้างแห่งนี้........
.
.
.
TBC~~TalK~
มาต่อแล้วเน้อ มาทีล่ะนิด 55+...ตอนนี้กำลังเค้นพาร์ทสเปเชี่ยลอยู่ หวังว่ามันจะจบในเร็ววัน เอิ๊กๆ
ดีใจน้าที่หลายคนชอบอ่า คริคริ...ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ เจอกันพาร์ทต่อไปน๊า~