เข็มที่ 18 อีกห้องหนึ่งในห้องหนึ่งซึ่งอยู่อีกฟากของบ้าน
ถึงปากจะบอกว่าเตรียมใจเป็นเมียเขามาเป็นสิบปี แต่พอเอาเข้าจริงศรศรัณย์ก็นั่งอยู่บนขอบเตียงด้วยอาการตกประหม่า เพียงคนที่ใช้สถานะเพื่อนในวัยเด็กที่เพิ่งขอเปลี่ยนมาเป็นคนรักแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกเผยให้เห็นแผงอกว้างก็ใจสั่นจนต้องก้มหน้าหนีมองปลายเท้าตัวเอง มือไม้อยู่ไม่สุขไม่รู้จะกุมกันเองหรือจับผ้าปู แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียหน้าที่พูดท้าออกไปเขาก็คิดว่าอย่างน้อยเสื้อของตัวเองก็ควรถอดเอง
คิดได้ตามนั้นแล้วก็ยกมือขึ้นจับกระดุมเสื้อพยายามจะแกะออกจากรังแต่ไม่รู้ทำไมวันนี้มันถึงได้ถอดยากถอดเย็นเสียเหลือเกินทั้งที่เป็นเสื้อตัวที่ใส่ประจำแท้ๆ
“ทำอะไรอยู่”
“มันติดอะไรไม่รู้” ศรศรัณย์ทำเสียงขุ่นหน่อยๆ ใส่กระดุมเจ้ากรรม
“ให้ฉันถอดให้ดีกว่า”
“ฉันจะถอดเอง” ศรศรัณย์กล่าวอย่างดื้อดึง “นายน่ะถอดกางเกงแล้วนอนรอไปเลย”
“ถอดเสร็จแล้ว”
คำตอบนั้นทำให้คนที่กำลังสาระวนอยู่กับเสื้อช้อนสายตาขึ้นมอง แล้วพวงแก้มขาวนวลทั้งสองข้างก็ซับสีแดงเข้มจนถึงใบหูเพราะบัดนี้ธาราถอดทุกอย่างบนร่างกายออกหมดแล้วจริงๆ ร่างเปล่าเปลือยที่เพิ่งเคยได้เห็นหลังจากครั้งสุดท้ายก็ตอนอนุบาลที่ลงอ่างอาบน้ำด้วยกันนั่นแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
ก้อนเนื้อนุ่มนิ่มตรงแขน ขาและพุงไม่มีอีกต่อไปแล้ว เรือนร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสวยได้รูปชวนมองจนเขาอายที่จะเปิดของตัวเองให้เห็น โดยเฉพาะตรงแกนกลางลำตัวนั้นที่ผงาดใหญ่เกินกว่าที่จินตนาการไว้มากมายนัก จนเขาชักไม่แน่ใจว่าจะสอดใส่เข้ามาในตัวเขาได้จริงๆ
“ก็... ไป... นอน... รอ... สิ” ศรศรัณย์บอกตะกุกตะกัก
“นอนรอแล้วศรจะทำอะไร” ธาราก้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหู
ลมหายใจกลิ่นมัสก์ผสมกุหลาบป่าทั้งหวานและเซ็กซี่ทำเอาหัวใจอ่อนยวบแต่ยอดอกสีอ่อนกับแก่นกายที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้านั่นทำเอาศรศรัณย์ตาพร่าไปหมด
“เดี๋ยวฉันถอดเอง” ศรศรัณย์พึมพำราวกับเครื่องตอบรับอัตโนมัติ สมองมึนชาคิดอะไรไม่ออก ลมหายใจเริ่มติดขัดเมื่อธารานั่งลงเคียงข้างก่อนจะช้อนตัวเขาขึ้นไปนั่งบนตัก เขาสะดุ้งนิดๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ดุนดันอยู่ใต้สะโพก
ธาราเอื้อมมือทั้งสองข้างโอบรอบตัวร่างโปร่งมาช่วยแกะกระดุมเสื้อ เพียงไม่ถึงนาทีกระดุมทุกเม็ดก็หลุดออกจากรังง่ายดาย เขาค่อยๆ ลูบมือผ่านเข้าไปในสาบเสื้อสัมผัสผิวเนียนนุ่มเนิบช้าแล้วปลดเสื้อเชิ้ตลงมากองที่เอวเปิดเผยให้เห็นลำคอระหง และแผ่นหลังขาวเนียนตา เขารวบเสื้อออกโยนไปให้พ้นทางแล้วก้มหน้าลงใช้ปลายจมูกแตะเบาๆ ที่ข้างซอกคอก่อนจะจูบครั้งหนึ่ง
“นางฟ้าของฉันตัวหอมจังเลย”
“ไม่ต้องมาทำเป็นปากหวานหลอกให้ดีใจเลย”
“ฉันหลอกนายตรงไหน” ธาราถามแล้วเลื่อนไปจูบซอกคออีกข้าง
“นายเคยบอกว่าเหม็น ฉันจำได้” ศรศรัณย์พูดโกรธๆ คำปรามาสในครั้งนั้นยังฝังแน่นอยู่ในใจ
“ตอนนายอายุสิบหก” ธาราท้าวความ “ตอนที่นายฮีทครั้งแรกใช่ไหม”
“ใช่”
“เหม็นสิ” ธาราว่าพลางแลบลิ้นเลียไปตามลำคอขาว “เหม็นมากจนฉันต้องหนีออกจากบ้าน... เหม็นกลิ่นสาปราคะของตัวเองที่อยากจะร่วมรักกับนายใจจะขาดไงล่ะ”
ร่างโปร่งสะท้านเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตโดยเฉพาะบริเวณที่ปลายลิ้นสากนั้นกำลังลากไล้อยู่ กับตรงยอดอกที่มือใหญ่กำลังเค้นคลึงเล่นจนเป็นไตแข็ง แต่นั่นก็ไม่เท่ากับความร้อนตรงระหว่างขาที่ทวีมากขึ้นทุกที เขารู้สึกว่าร่างกายของตัวเองเริ่มชื้นแฉะทั้งที่ธารายังไม่ได้เฉียดมาใกล้เลยด้วยซ้ำ
“น... นายได้กลิ่นอะไรจากตัวฉันเหรอ”
“กลิ่นขนมอบใหม่” ธาราตอบ “หวานละมุนเหมือนขนมสายไหมนุ่มๆ ที่เราเคยกินด้วยกันตอนเด็ก... หอมจนฉันอยากเลียนายให้ละลายแล้วกลืนลงท้องไปให้หมด”
“ถ้างั้นวันนี้ก็กินให้หมดเลยนะ” ศรศรัณย์บอกอายๆ “อย่าให้เหลือเชียวนะ”
“ถือว่าศรอนุญาตแล้วนะ” ธาราจับตัวร่างโปร่งพลิกกลับมาให้คร่อมตัวเขาแบบหันหน้าเข้าหากันแล้วละเลงปลายลิ้นลงบนยอดอกสีชมพูที่ชูชันแทนปลายนิ้ว
“ธารา... อ๊ะ!” ศรศรัณย์ร่างเสียงดังจนสะดุด เขาต้องใช้สองแขนเกาะยึดศีรษะของอีกฝ่ายไว้แน่น
และในขณะที่กำลังลุ่มหลงกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ชายหนุ่มมอบให้ มือใหญ่ก็ปลดเปลื้องกางเกงชั้นนอกและชั้นในออกไปโดยไม่รู้ตัว มือข้างหนึ่งเลื่อนลงเค้นคลึงตรงส่วนหน้า
“ธารา” ร่างโปร่งครางในลำคอ เคยช่วยตัวเองมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งช่วงเวลาฮีท แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่ให้ความรู้สึกเสียวซ่านจนเกินบรรยายเท่าครั้งนี้
ปลายนิ้วชี้กับนิ้วกลางค่อยๆ ชำแรกเข้าสู่ช่องทางแคบที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสแม้แต่ตัวเอง ร่างโปร่งสะดุ้งผวาเกาะบ่ากว้างไว้แน่นด้วยความอึดอัดคับแน่นที่ไม่เคยเจอมาก่อน
“เจ็บก็บอกนะศร ฉันจะทำใช้ช้าลง”
“ไม่เลยธารา ฉันไม่เจ็บเลย”
“แล้วนายรู้สึกยังไงศร”
“รู้สึกดี... เข้ามาลึกอีกสิธาราฉันอยากได้ของนายมากกว่านี้”
“ได้เลยศร วันนี้ฉันจะให้นายจนกว่านายจะพอใจเลย” พูดจบก็รั้งใบหน้าขึ้นมาจูบ เขาถอนนิ้วออกจากช่องทางชื้นแฉะที่เตรียมพร้อมแล้วจับแก่นกายของตัวเองสอดเข้าไป
ความคับแน่นที่ต่างกันทำให้ร่างโปร่งบิดเร่าจนเขาต้องพักไว้ก่อนหลังจากที่ใส่เข้าไปได้แค่ครึ่งเดียว
“เปลี่ยนท่านะ นายจะได้เจ็บน้อยกว่านี้”
ศรศรัณย์พยักหน้า นัยน์ตาพร่ามัวไปหมด รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อีกฝ่ายดึงออกแล้วจับตัวเขาเหวี่ยงลงนอนราบคว่ำหน้าไปกับที่นอน มือใหญ่ช้อนใต้สะโพกยกขึ้นมาแล้วสอดกลับเข้าไปอีกครั้งซึ่งครั้งนี้สร้างความอึดอัดน้อยกว่า เขาเริ่มต้นขยับช้าๆ สร้างความคุ้นชินพร้อมกับจับส่วนหน้าขยับโยกไปมา พอผ่านช่วงเวลาของความเจ็บไปได้ ความรู้สึกเสียวซ่านก็เข้ามาแทนที่
“ยังเจ็บอยู่ไหมศร”
ร่างโปร่งใต้ร่างส่ายหน้า “ไม่เจ็บแล้ว”
“งั้นฉันจะขยับแรงขึ้นอีกนะ” พูดจบธาราก็คว้าใบหน้าสวยขึ้นมาจูบแลกลิ้นพร้อมๆ กับที่รัวสะโพกด้วยความเร็วและเน้นหนักขึ้น
เสียงผิวเนื้อที่ดังกระทบกันเป็นจังหวะรุนแรงพอๆ กับกลิ่นหอมหวานที่ผสมกันไม่รู้ว่ากลิ่นใครเป็นกลิ่นใครอวลไปทั่วห้อง
ธาราหยุดสะโพกแล้วจับตัวร่างโปร่งพลิกมาอยู่ในท่านอนหงาย จับสองขาแยกออกยกขึ้นพาดบ่าแล้วสอดตัวเองกลับเข้าไปอีกครั้งด้วยความรวดเร็วเพื่อไม่ให้ขาดช่วง
“ฉันอยากเห็นหน้านายตอนเสร็จ” เขาให้เหตุผล
“ฉันก็อยากเห็นหน้านายตอนเสร็จเหมือนกันธารา” ศรศรัณย์ตอบพร้อมกับคล้องแขนลงรอบคอร่างสูงไว้เป็นหลักยึด ตอนนี้ทั้งสะโพกและแผ่นหลังแทบจะอยู่ไม่ติดเตียงตามแรงที่ฝ่ายกระแทกกระทั้นเข้ามา
“ไม่เอาศร ไม่อยากให้นายเรียกชื่อแล้ว” ธาราบอกพลางลดความเร็วสะโพกลงแต่ว่ายังคงความเน้นหนักในจังหวะเนิบช้าไว้
“แล้วนายอยากให้ฉันเรียกว่าอะไร”
“ศรรู้อยู่แล้วนี่นาว่าจะต้องเรียกฉันว่าอะไร” ธาราว่าแล้วจูบหนักๆ ครั้งหนึ่ง “เรียกสิ ถ้าศรไม่เรียกฉันไม่ยอมให้นายเสร็จง่ายๆ นะ”
“นี่ใจคอจะแกล้งกันแม้แต่ตอนนี้เลยเหรอธารา”
“ฉันไม่ได้แกล้งนายสักหน่อย ฉันกำลังขอร้องต่างหาก เรียกให้ฟังให้ชื่นใจหน่อยได้ไหมจ๊ะเมียจ๋า”
“คนบ้า”
“ถ้าว่าบ้าฉันหยุดแล้วนะ” แล้วธาราก็หยุดจริงๆ ตามที่ปากว่า
“ธารา!” ศรศรัณย์พยายามจะตีมือลงบนหน้าอกกว้างแต่กลับถูกธาราคว้าเอาไปเสียได้
“นะจ๊ะเมียจ๋า ผัวอยากได้ยิน” เขาส่งเสียงอ้อนพลางแลบลิ้นนิ้วเรียวทีละนิ้ว... ทีละนิ้ว... ทั้งดูดทั้งอมจนเปียกแฉะไปหมด
“ธารา...” ศรศรัณย์สะท้านไปจนถึงปลายขาเมื่อร่างสูงแกล้งกระตุกสะโพกเบาๆ เป็นเชิงยั่วเย้า “ผ... ผัวจ๋าอย่าแกล้งเมียสิ รีบทำต่อได้แล้ว”
“สู้ตายเลยงานนี้” ธารากระซิบอย่างลิงโลดแล้วเริ่มขยับสะโพกอีกครั้งด้วยความแรงและเร็วที่มากกว่าเดิม “อย่าเพิ่งไปนะจ๊ะเมียจ๋ารอผัวด้วย”
ศรศรัณย์กัดฟันแน่น นัยน์ตาปริบปรอบเหมือนเห็นสวนสวรรค์ลอยอยู่ตรงหน้า สวนที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบป่าชูช่อบานสะพรั่ง ร่างสูงในอ้อมแขนขยับส่งอีกครั้งร่างกายเกร็งถึงขีดสุดพร้อมกับที่สารแห่งความสุขไหลอาบไปทั่วร่างของทั้งสองคนพร้อมๆ กัน และมันเป็นเซ็กซ์ที่ดีที่สุดของทั้งคู่นับตั้งแต่เกิดมา
ธาราหอบหายใจ เขากระชับอ้อมแขนจูบคนในอ้อมกอดและเตรียมจะผละออกเพื่อเช็ดทำความสะอาดให้ แต่ศรศรัณย์กลับใช้สองขายึดสะโพกเขาไว้ให้ยังสอดคาไว้อยู่อย่างนั้น
“มีน้อยไม่ใช่เหรอ... เสียดายของ”
ได้ยินดังนั้นธาราก็อดจะก้มลงจูบอีกครั้งอย่างแสนรักไม่ได้ ทั้งสองนอนกอดกันอยู่ในท่านั้นอีกหลายนาที เขาจึงเอ่ยถาม “นายคิดว่าเราจะมีโอกาสมีลูกกันได้จริงๆ อย่างที่คุณรินบอกไหม”
ศรศรัณย์ส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้ แต่ถึงไม่มีฉันก็ไม่โทษนายอยู่แล้ว”
“โทษได้สิ ก็มันความผิดฉันนี่นา” ธาราบอกอย่างรู้สึกผิดในความไร้น้ำยาของตัวเองพลางใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเบาๆ ไปบนแก้มใส
ศรศรัณย์กวาดตามองคนที่จู่ๆ ก็ก้มหน้าหลบสายตาเขา จะว่าไปเขาก็ไม่แปลกใจเลยที่ธาราปากแข็งมาตลอด กัอัลฟาที่เพรียบพร้อมทุกอย่างทั้งรูปร่างหน้าตาและมันสมอง แต่กลับไร้น้ำยาที่จะสืบสกุลได้มันช่างเป็นเรื่องน่าขายหน้านักสำหรับธารา เขาเงยหน้าขึ้นจูบที่แก้มสากครั้งหนึ่งเป็นการเรียกให้หันมาหา “เมื่อกี้คุณรินบอกเราว่าไงนะธารา”
“บอกให้ทำ ทำ ทำแล้วก็ทำ”
ศรศรัณย์พยักหน้า “อีกรอบไหมล่ะ... หรือว่านอกจากจะเป็นหมันแล้วยังอึดไม่พออีก”
ตาคมที่หมองหม่นจนถึงเมื่อครู่พราวระยับขึ้นทันที “อย่ามาดูถูกกันนะศร เดี๋ยวเอาให้ลุกไม่ขึ้นเลยคอยดูสิ”
“ก็เข้ามาสิ กลัวที่ไหนกันล่ะ” ศรศรัณย์ยิ้มยั่ว
ธาราก้มหน้าลงฉกกลีบปากหวานกลับไปครอบครองพร้อมกับเลื่อนมือลงเค้นคลึงส่วนอ่อนไหวด้านล่าง และเพียงแค่อึดใจทั้งสองก็พร้อมจะเริ่มปฏิบัติการทำลูกอีกครั้ง
...คอยดูนะเจ้าริน ฉันจะให้นายแซงหน้าไปก่อนก็ได้ แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้นายแน่ๆ ...
***************************
ฝากติดตาม แชท #เชื้อดื้อรัก ด้วยนะคะ ไปเอาใจช่วยเจ้ารินเต๊าะหมอรินกัน
https://www.readawrite.com/a/d86b591a6c46b1aadcb3eb88b98b56bd