ตอนที่ 36
ไม่ไว้ใจ...ไม่ไว้ใจจริงๆ ใครกำลังมองอยู่นะ
ระหว่างที่ร่างบางกำลังเดินเล่นอยู่ในไร่องุ่นก็รู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมาที่เขาเสมอ และมันไม่ใช่สายตาของพ่อเลี้ยงแน่ๆ เพราะเจ้าของไร่ทำงานอยู่ที่โรงคัดล้างส้ม ซึ่งมันอยู่ท้ายๆ ไร่โน่น
“ทำไมรู้สึกเหมือมีคนจ้อง”
ศตคุณพยายามมองไปทั่วๆ ก็ไม่เจอใครกำลังมองเขาอยู่เลย เจอแค่คนงานที่กำลังทำงานอยู่อย่างตั้งใจเท่านั้น หรือไม่ก็หลบสายตาของเขาทัน
“พี่คำปัน!!” ศตคุณเรียกพี่คนงานที่ตนสนิทด้วยเสียงดัง ทำเอาคนที่กำลังแอบเล่นโทรศัพท์อยู่หันมามองอย่าตกใจ
“น้องหมู!!! เห้ยๆ พี่เปล่าเล่นโทรศัพท์เลยนะ นี่ตั้งใจทำงานมากบอก ดูสิ ไม่มีหญ้าเลยนะครับ”
“จะรีบแก้ตัวทำไมเนี่ย ผมไม่เห็นสักหน่อยว่าพี่เล่นโทรศัพท์อยู่ ทักทายเฉยๆ”
“ฮ่าๆ พี่นี่โง๊โง่เนอะ ว่าแต่วันนี้มาค้างไร่เหรอจ้ะคนสวย”
ชินแล้วล่ะกับคำชมว่าสวยเนี่ย บางทีศตคุณก็ยอมรับในสรีระที่ตนได้รับมาจากพ่อแม่แล้วล่ะนะ
“ใช่แล้วครับ ว่าแต่สบายดีนะครับ ได้ข่าวว่าโดนเมียให้นอนนอกบ้านมาหลายวันแล้ว”
“โถ่!! จะตอกย้ำให้พี่เจ็บกระดองใจทำไมครับ” คำปันทำสีหน้าเศร้าสลด
“ฮ่าๆ ว่าแต่...ที่นี่ได้รับคนงานเข้ามาใหม่หรือเปล่าครับ” ศตคุณเริ่มถาม เพราะการที่ตนเองรู้สึกว่ามีใครจ้องอยู่มันไม่ใช่ความรู้สึกที่คิดไปเองแน่ๆ
“มีนะ...รับมาสองคนได้ เห็นว่าเป็นคนต่างจังหวัดด้วย ไปหางานในกรุงเทพไม่ได้ก็เลยลองมาที่นี่ดู”
แปลก...ที่นี่ก็ไม่ได้ประกาศรับสมัครคนงานแล้วพวกเขารู้มาจากไหนกัน...ศตคุณได้แต่คิดอยู่ข้างใน
“มีคนลาออกเหรอครับ”
“จะไปมีได้ยังไงล่ะครับ เงินดี สวัสดิการดีแบบที่นี่ไม่มีอีกแล้ว”
“อ้าว? แล้วได้ถามประวัติก่อนรับไหมครับ”
“หืม...ก็ถามปกตินะ ทำไหมเหรอครับน้องหมู” คำปันสงสัย แต่ร่างบางก็ยิ้มให้พร้อมกับโบกมือไปมา
“ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“ก็เห็นทำท่าคิดอะไรอยู่ บอกพี่ได้นะ”
“ฮ่าๆ เกรงใจครับพี่คำปัน ว่าแต่คนงานใหม่เนี่ยพักอยู่ที่ไร่ใช่ไหมครับ?”
“ใช่ครับ...พักอยู่กับคนงานที่ไม่มีบ้านอยู่นั่นแหละ”
อ่า...ระแวงเกินไปไหมไอ้หมู...
“อ๋อ...เขาทำงานในไร่องุ่นหรือส้มล่ะครับ”
“ให้แยกกันไปนะครับ”
“หือ...เขามาด้วยกันเหรอครับพี่คำปัน”
“ครับ เป็นเพื่อนกัน”
ยิ่งทำให้ระแวงเข้าไปใหญ่เลย
“โอเคครับ พี่คำปันอย่าไปบอกใครนะครับว่าผมมาถามเกี่ยวกับคนงานใหม่ เดี๋ยวพวกเขาจะคิดมากที่ผมสงสัยในตัวพวกเขาน่ะ” ศตคุณขอ ซึ่งคำปันก็ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่
“ได้จ้า!!! น้องหมูขออะไร พี่จัดให้หมดเลย”
“พี่คำปันยังน่ารักเหมือนเดิมเลย”
“ถ้าพี่น่ารักก็ขึ้นเงินเดือนให้พี่สิ”
“ทำได้ที่ไหนกันล่ะครับ ผมไม่ใช่พ่อเลี้ยงสักหน่อย”
“ไม่ใช่ก็เหมือนใช่นั่นแหละ ก็น้องหมูเป็น...”
“พอๆ พอเลยครับ ไม่ต้องพูด ไม่ต้องแซวกันเลย ถ้าพี่คำปันพูดแซวออกมา ผมจะไม่คุยด้วยอีกเลยนะครับ” ร่างบางรีบขัดตอนที่คำปันกำลังพูดและขู่ออกไปอย่างไม่จริงจังมากนัก แต่ก็ทำเอาคนอายุมากกว่าหัวเราะออกมาเสียงดัง พร้อมกับตกลงว่าจะไม่แซวอีก
แหม...ใครจะกล้าขัดใจน้องหมูกันล่ะ
“พี่คำปันครับ” ศตคุณเรียกปรับเปลี่ยนเป็นสีหน้าและน้ำเสียงจริงจังจนคนที่หัวเราะอยู่หยุดแล้วตั้งใจฟังที่ศตคุณพูดอย่างตั้งใจ
“ครับ?”
“พรุ่งนี้ผม พ่อเลี้ยง และเขตจะไปงานวันเกิดของพ่อเลี้ยงมนัสที่ไร่สมรชัย ผมรู้สึกแปลกๆ ก็เลยอยากจะขอให้พี่คำปันช่วยจัดเวรและกำลังคนเฝ้ารอบๆ ไร่หน่อยได้ไหมครับ ขอเป็นคนงานเก่าๆ นะครับ คนงานใหม่ให้เขาทำงานในไร่อย่างเดียวพอ ถ้าหากว่ามีใครทำลับๆ ล่อๆ แถวไร่ให้รีบบอกผมหรือว่าพ่อเลี้ยงทันทีเลยนะครับ”
“จริงๆ ช่วงนี้พี่ก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีคนภายนอกอยู่ในไรของเรานะ แต่ว่าพี่เองก็จำหน้าคนงานได้ไม่หมดเท่าไหร่นักต้องให้ฝั่งไร่ส้มช่วยด้วย”
“พี่คำปันช่วยจัดการให้หน่อยได้ไหมครับ”
“ได้สิครับน้องหมู...ที่นี่ก็เหมือนบ้านพี่ ให้ที่ทำมาหากินพี่ พี่ไม่มีทางปล่อยให้ที่นี่เป็นอะไรหรอก”
“ถ้าพ่อเลี้ยงได้ยินคงจะปลื้มใจน่าดูเลยนะครับ”
“แล้วนี่มาเดินเล่นเหรอหมู...ไม่ไปกับพ่อเลี้ยงล่ะ”
“ไม่เอาหรอกครับ พ่อเลี้ยงทำงาน ไม่อยากรบกวน”
“รบกวนอะไรกัน พี่ว่ายิ่งกว่าเติมใจเสียอีก ถามตรงๆ นะ ตอบแบบจริงๆ ด้วย” คำปันขอ ซึ่งศตคุณก็พยักหน้ารับน้อยๆ
“ครับ?”
“กับพ่อเลี้ยงน่ะ...คบกันอยู่จริงๆ ใช่ไหม เป็นแฟนกัน เป็นคนรักกันใช่ไหม”
คำถามนี้สร้างความอึดอัดใจให้กับศตคุณเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาไม่เคยป่าวประกาศว่าเป็นอะไรกัน แต่ก็แสดงออกบ่อยๆ ว่าเป็นมากกว่าเพื่อนของลูกชายพ่อเลี้ยง และพ่อเลี้ยงเองก็เคยประกาศออกไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หลายๆ คนก็เลยไม่มั่นใจว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
ใบหน้าสวยแดงซ่าน หลบสายตาคำปันเป็นพัลวัน เห็นแบบนั้น คนงานหนุ่มก็ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างดีใจ ไม่จำเป็นต้องตอบอะไร เพราะคำตอบมันออกมาทางสีหน้าและท่าทางหมดแล้ว
“น้องหมู...คือว่าที่แม่เลี้ยงของที่นี่ใช่ไหม?”
“ไม่รู้...พี่คำปันไปถามพ่อเลี้ยงเองก็แล้ว ผมขอตัวก่อนดีกว่า” ร่างบางพูดจบก็เดินออกจากตรงนั้นด้วยความรวดเร็ว จนคำปันหัวเราะลั่นอีกครั้ง ทำเอาคนงานทุกคนหันมามองที่ศตคุณเป็นตาเดียวพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ มองคนรักของพ่อเลี้ยงที่กำลังเดินออกจากไร่ไป...
“พี่น้ำปิง...”
“จ๋า...มีอะไรคะน้องหมู” สาวใช้ที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่ขานรับคำเรียกของศตคุณอย่างไพเราะด้วยรอยยิ้มที่เอ็นดูในความน่ารัก
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”
“ไม่มีเลยค่า”
“น่าเบื่อจัง” ร่างบางบ่นออกมา
“ไปดูไวน์สิคะ ถ้าเบื่อขนาดนั้น”
“จริงสิ ผมลืมไปได้ไงเนี่ยว่ามีไวน์ที่ทำค้างเอาไว้อยู่”
“พี่ว่ารสชาติดีมากเลยนะ เมื่อวานไปชิมมาแล้ว ใส่ขวดขายได้แล้วล่ะ จริงสิ...ช่วงนี้พ่อเลี้ยงกำลังเคลียร์พื้นที่ทุ่งหญ้าว่างๆ อยู่นะ จะเอาไว้สร้างโรงต้มไวน์แล้วก็บ่มไวน์น่ะ ว่าแต่น้องหมูจะตั้งชื่อยี่ห้อไวน์ว่ายังไงเหรอคะ” สาวใช้คนสวยถามอย่างตื่นเต้น
“ถามอะไรผมล่ะครับ ต้องถามพ่อเลี้ยงสิ”
“แต่พ่อเลี้ยงบอกว่ามันเป็นสินค้าของน้องหมู น้องหมูก็ต้องเป็นคนตั้งเอง”
“อย่างนั้นเหรอครับ?”
ไม่เห็นจะพูดอะไรเลยนี่นา...หรือว่าจะลืมนะ?
“จ้ะ สรุปว่าจะใช้ชื่อว่าอะไรหรือคะ”
“ยังคิดไม่ออกเลยครับ ถ้าคิดออกยังไงผมจะบอกพี่น้ำปิงแน่ๆ”
“จ้า...พี่เองก็ตื่นเต้นเพราะมีส่วนช่วยด้วย”
“ต้องขอบคุณพี่น้ำปิงมากๆ เลยนะครับที่ทำให้มันสำเร็จขึ้นมาได้ ถ้าเกิดว่าโรงบ่มไวน์สร้างเสร็จเมื่อไหร่ จะขอพ่อเลี้ยงให้พี่น้ำปิงไปทำในส่วนนั้นนะครับ”
“จริงเหรอคะ! ขอบคุณนะน้องหมู พี่อยากทำงานที่ไม่ใช่งานบ้านแบบนี้มานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที”
“ยังไงพี่น้ำปิงก็ต้องได้ทำครับ เพราะพี่เป็นส่วนหนึ่งของไวน์ที่ผมทำ”
“ขอบคุณที่ให้โอกาสพี่นะคะ”
“ไม่หรอกครับ...ยังไงผมก็ต้องขอพ่อเลี้ยงอีกทีหนึ่งอยู่ดี”
“นั่นแหละค่ะ ยังไงน้องหมูก็ทำสำเร็จ”
“ครับ”
ศตคุณยิ้มหวานไปให้ ก่อนจะขอตัวออกจากบ้านไปเพราะดูท่าแล้วคงไม่มีอะไรให้ทำแน่ๆ เลยไปเดินส่วนอื่นๆ ดีกว่า...คนงานทุกคนที่นี่เอ็นดูร่างบางและก็ยอมรับที่ศตคุณเป็นคนสำคัญของพ่อเลี้ยง
ไม่มีใครมองเห็นถึงความไม่เหมาะสมเลยสักนิด
ถึงแม้ว่าศตคุณจะเด็กกว่าสิบสามปี แต่ถ้าตัดอายุออกแล้วเอาความสามารถและความฉลาดก็ถือว่าคุณสมบัตินี้คือสิ่งที่เหมาะสมกับคนที่จะยืนข้างๆ พ่อเลี้ยงที่สุดแล้ว...
ในที่สุดแล้วเมื่อศตคุณไม่มีที่ไป ร่างบางก็เลยเลือกที่จะไปหาพ่อเลี้ยงอาทิตย์แทน แอบยืนมองคนตัวใหญ่ทำงานอยู่ห่างๆ เห็นสีหน้าจริงจังตอนทำงาน ท่าทางตอนที่ชี้สั่งคนงาน และตอนที่ลงมือทำมันด้วยตัวเอง เป็นเจ้านายที่ทุ่มเทกับงานจริงๆ
“พ่อเลี้ยงครับ” คนงานที่เห็นศตคุณยืนมองอยู่ห่างก็สะกิดเรียกเจ้านายทันที
“ว่า?”
“น้องหมูครับ”
“ทำไม”
“ยืนมองพ่อเลี้ยงอยู่ตรงนั้นน่ะครับ” ร่างบางที่ถูกชี้สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะสบตาแล้วยิ้มหวานให้กับพ่อเลี้ยงที่หันมามองนิดๆ แต่ก็ไม่เดินไปหาร่างสูงอยู่ดี พ่อเลี้ยงก็เลยหันมาสนใจงานตรงหน้าพร้อมกับหัวเราะในลำคอน้อยๆ
ถ้าไม่อยากเข้ามาหา เขาก็ไม่บังคับหรอก ยืนอยู่ตรงนั้นก็ได้รับกำลังใจเต็มเปี่ยมแล้ว
“หึหึ”
“แหม...กำลังใจดีนะครับพ่อเลี้ยง”
“แน่นอนสิวะ...”
“ฮิ้ววว!!” คนงานที่อยู่แถวนั้นแซวเป็นเสียงเดียวกันลั่นไปทั่วทั้งโรงคัดส้ม แต่คนเป็นนายก็ไม่ได้โกรธหรือสะทกสะท้านอะไร คนอายคือคนที่ไม่ยอมเดินมาหากันต่างหาก
ก็เข้าใจอยู่ว่าทำไมไม่กล้าเข้ามาหา
พวกคนงานของเขาแต่ละคนมีแต่ปากหมาๆ ทั้งนั้น ต่อให้เป็นคนรักของพ่อเลี้ยงก็แซวไม่ยั้ง ไม่มีความเกรงใจอะไรหรอก ถ้ามันไม่เป็นการล่วงเกินมากจนเกินไป พ่อเลี้ยงก็ไม่ว่าอะไร คนงานทุกคนก็รู้ขอบเขตดีว่าเล่นกับผู้เป็นนายได้ถึงเส้นไหน อะไรเล่นได้ อะไรเล่นไม่ได้
“แซวมากๆ เดี๋ยวหมูก็ไม่เข้ามาหากูหรอก”
“ไม่มาดีแล้วครับพ่อเลี้ยง”
“ใช่ๆ”
“อะไรของพวกมึงเนี่ย” พ่อเลี้ยงบ่น
“ก็พวกเราอิจฉานี่ครับ”
“ฮ่าๆ”
เสียงหัวเราะดังลั่นไปทั่วทั้งบริเวณยิ่งทำเอาร่างเล็กไม่กล้าเดินเข้าไปอีก ไหนจะมีคนงานบางส่วนที่ก็ต่างมองมายังเขาสลับกับหันไปมองพ่อเลี้ยงที่เอาแต่ตรวจเช็คส้มที่กำลังคัดอยู่
“พอๆ ดูหน้าแฟนกูด้วย เครียดแล้วมั้งนั่น”
ทุกคนหยุดแซวตามคำสั่งของพ่อเลี้ยงแล้วตั้งใจทำงานต่อ แต่ใบหน้าของคนงานยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ศตคุณเห็นสถานการณ์ปลอดภัยแล้วก็ก้าวเท้าเดินไปหาคนรัก คนงานบางคนมองแล้วยิ้มให้กับศตคุณอย่างเป็นมิตร ซึ่งร่างบางก็ยิ้มหวานไปให้ คนงานคนนั้นก็นิ่งค้างเพราะโดนโจมตีจากความสวยของศตคุณ
พ่อเลี้ยงต้องเคลียร์พวกพี่ๆ ให้เขาแน่เลย
“ตอนชวนมาไม่ยอมมา ทำไมตอนนี้ถึงมาหาได้ล่ะ” ร่างสูงถามคนรักทันทีที่เจ้าของกลิ่นตัวหอมเดินมาชิดกับตัวของเขาโดยที่ไม่ต้องหันไปมองเลยว่าใครมายืนอยู่ข้างๆ
“ก็ผมเบื่อนี่ครับ”
“ก็แล้วทำไมไม่ไปช่วยแม่จันทน์ทำขนมล่ะ”
“ผมไปแล้วครับ ท่านทำเสร็จพอดีเลย”
“หึหึ ก็เลยมาหาฉันงั้นสิ”
“ครับ...ไม่ได้เหรอ” ร่างบางทำหน้าหงอยๆ แต่คนงานที่อยู่แถวนั้นก็ร้องครวญครางในใจอย่างใจละลายกับการทำลายล้างของศตคุณ เพราะมันดูน่ารักมาก...
ไม่คิดว่าผู้ชายจะทำให้คนใจสั่นได้มากขนาดนี้มาก่อน
“ใครว่าล่ะ...ฉันไม่ได้ว่าอะไรนายเลย”
“แล้วนี่ส้มล็อตนี้ส่งไปไหนเหรอครับ” ร่างบางถาม มองส้มที่กำลังคัดแล้วก็ลงเครื่องล้าง ทำให้แห้งแล้วบรรจุลงลัง แอบมองในกระดาษเอกสารในมือของพ่อเลี้ยงแต่ก็ไม่เห็นรายละเอียดมากนัก
“โรงงานของคุณน้ำฟ้าน่ะ”
กึก!!
คนตัวเล็กชะงัก ใบหน้าเรียบนิ่งขึ้นมาจนพ่อเลี้ยงสังเกตเห็นได้ชัด ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วส่ายหน้าเบาๆกับปฏิกิริยานั่นเวลาได้ยินชื่อผู้หญิงคนนี้หลุดออกจากปากของเขา
หึงสิ...หวงสิ...เพราะนายจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ฉันคิดถึงคนอื่นได้
“เยอะนะครับ”
ศตคุณกลัวว่าจะมีพิรุธเลยพูดออกมาเบาๆ
“อืม...ก็เยอะนะ”
“พ่อเลี้ยงต้องไปส่งเองไหมครับ”
“ไปเองหรือเปล่านะ...”
ขวับ!!
ร่างบางหันมองร่างสูงตาขวางเลย พ่อเลี้ยงบอกว่าไม่ชอบเด็กเพราะเด็กเอาแต่ใจ งี่เง่าและขี้หวง แต่กลับชอบแกล้งให้ศตคุณมีอาการเหล่านั้นเอง...
“ยังไงกันแน่ครับ”
แต่ศตคุณก็คือศตคุณ แม้ว่าจะมีอาการไม่พอใจออกมาแต่ก็ไม่โวยวาย และใจเย็นมากๆ อีกด้วย ซึ่งมันทำให้พ่อเลี้ยงทั้งชอบและไม่ชอบ
เขาอยากให้ศตคุณแสดงความเป็นเจ้าของมากกว่านี้...ในขณะเดียวกันก็ชอบที่ศตคุณควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี...ถ้าไม่อยากให้คนอื่นเห็น ก็แสดงตอนอยู่ด้วยกันตามลำพังก็ได้
“ยิ้มอะไรครับ” เริ่มจะไม่พอใจที่เห็นว่าใบหน้ากำลังยิ้มอย่างมีความสุขและเหมือนจะคิดอะไรอยู่ด้วย
อย่าบอกว่าคิดถึงคุณน้ำฟ้านะ
“ยิ้มไม่ได้เหรอ...ก็คิดถึงหมูอยู่น่ะสิ” ประโยคสุดท้ายร่างสูงก้มลงไปกระซิบข้างหูเบาๆ ให้ยินกันแค่สองคน เล่นทำเอาคนงานที่อยู่แถวนั้นส่งเสียงแซวออกมาอย่างอดไม่ได้
“ฮิ้วววว!!!”
ก็เล่นมาหวานใส่แบบนี้ ใครจะไม่อิจฉากันล่ะ…
โอ้ย!!! อายจะตายแล้ว...
===================
แวะมาลงจ้า ช้าไปนิด เพราะทำงานเพลินไปหน่อย แต่ก็เด้งตัวเองได้ทัน
แหะๆ มาวันใหม่เลย ไม่ถือสาเนาะ ยูกิจะได้ไปนอนพรุ่งนี้ต้องเรียนเช้า ^_^
ฝันดีจ้าาาา
มีอะไรสามารถไปพูดคุยกับยูกิได้ที่แฟนเพจเลยนะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki/