Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 36
เปิดเผย!!!
“หมอเงินคะ ไปกินข้าวกับหวานไหมคะ”
หมอเงินเงยหน้าขึ้นมองคนที่ถาม ปิดแฟ้มเอกสารที่พยาบาลเอามาให้ตรวจดูก่อนจะพูดกับพยาบาลคนนั้นเกี่ยวกับรายละเอียดของเอกสารอีกเล็กน้อย
“อย่าลืมสรุปข้อมูลคนไข้มาให้ด้วยนะครับ”
“ค่ะ ขอตัวนะคะ”
“ครับ”
ร่างสูงโปร่งหันมามองหน้าหมอหวานที่กำลังยืนยิ้มหวานให้กับตน แววตาคาดหวังกับคำตอบสุดๆ จนคนขี้ใจอ่อนอย่างเขาได้แต่ถอนหายใจเบาๆ จะปฏิเสธบ่อยๆ ก็คงจะไม่ดีแน่ ยังไงก็เพื่อนร่วมงานกัน อย่าให้มีอะไรมาทำให้มองหน้ากันไม่ติดจะดีกว่า
“ว่าไงคะหมอเงิน”
“ตกลงครับคุณหวาน ว่าแต่ชวนคนอื่นๆ ไปด้วยกันดีไหมครับ”
หญิงสาวได้แต่ยิ้มอ่อนๆ ไม่แสดงความคิดเห็นอะไรออกมา ซึ่งอาการนี้คิดได้อย่างเดียวคือหมอหวานต้องการไปกับหมอเงินแค่ตามลำพังเท่านั้น
“เดี๋ยวผมจะลองชวนคนอื่นๆ ไปด้วย”
“หวานขอไปกับหมอเงินแค่สองคนได้ไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยขอเสียงหวาน ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นไม่มีทางที่จะไม่รู้สึกอะไรกับเธอ แต่ไม่ใช่กับหมอเงิน...
คนที่อยู่ในใจมาตลอดเกือบสิบปีของหมอเงินมีแค่ขรรค์ แม้จะมีคนเข้ามาหาเขามากมายแค่ไหน หัวใจของเงินก็ซื่อสัตย์และมั่นคงอยู่ที่ขรรค์คนเดียว
“ผมคิดว่า มันอาจจะดูไม่ดีได้นะครับ คุณหวานจะเสียหายเอา” โดยพื้นเพของคนที่เป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง หมอเงินรู้สึกแบบนั้นตามที่พูดจริงๆ นอกจากจะไม่อยากให้คนรักของตัวเองไม่สบายใจแล้ว เขาก็ไม่อยากให้หญิงสาวต้องถูกเข้าใจผิดหรือถูกนำไปพูดในทางที่ไม่ดี
ยิ่งถ้าเขาเป็นต้นเหตุ หมอเงินก็ยิ่งไม่ชอบ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หวานไม่ถือ หวานมีเรื่องจะคุยกับหมอเงินน่ะค่ะ แต่ถ้าหวานทำให้หมอเงินลำบากใจ ก็ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวทำหน้าเสียความรู้สึกจนร่างสูงโปร่งถึงกับใจอ่อน
“ไม่ลำบากใจหรอกครับ ไปกันสองคนก็ได้ครับ”
“ขอบคุณนะคะ ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยไหมคะ” เธอยิ้มกว้างออกมาอย่างทันทีที่ได้คำตอบจากหมอเงิน หมอสุดหล่อได้แต่ยิ้มบางๆ ออกไปตามมารยาท
ถามว่าอยากไปไหม ก็ไม่ได้อยากไปหรอก...
“ครับ คุณหวานเลือกร้านได้เลยนะครับอยากไปที่ทานร้านไหน”
“งั้นไปร้าน...กันนะคะ อาหารอร่อย บรรยากาศดีด้วยค่ะ ที่สำคัญไม่ไกลจากโรงพยาบาลเท่าไหร่ค่ะ หมอเงินได้เอารถมาไหมคะ”
“เอามาครับ”
“ถ้าอย่างนั้นไปรถของหมอเงินนะคะ เดี๋ยวหวานจะบอกทางให้เอง”
“ได้ครับ”
หญิงสาวเดินเคียงข้างไปกับหมอเงินที่ใครๆ ก็ต่างตกหลุมรักในรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนโยนของชายหนุ่ม เธอเดินเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ ปากก็ยิ้มกว้าง ทุกคนต่างก็พากันมองในความเหมาะสมของทั้งคู่ คนหนึ่งหล่อ คนหนึ่งสวย ไหนจะหน้าที่การงานที่เพียบพร้อมของทั้งคู่อีก...
บางคนจึงคิดว่า หากสองคนนี้เป็นคนรักกันคงจะเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบที่สุด...
“สั่งได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”
“ขอบคุณค่ะ”
ร่างโปร่งนั่งอ่านเมนูผ่านๆ ก่อนจะสั่งที่อยากจะทานมา ส่วนหญิงสาวเองก็สั่งอาหารไปสองสามอย่าง ช่วงที่รออาหารหมอหวานก็มักจะมีคำถามเข้ามาถามอยู่เสมอๆ ทำให้หมอเงินต้องตอบกลับไปตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวของเขา บ้างเธอก็เล่าชีวิตของตัวเองให้ฟัง ซึ่งเงินก็ทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดีอย่างเดียว
“แล้วช่วงที่หมอเงินเรียนเป็นยังไงบ้างคะ”
“ก็เหนื่อยครับ แทบจะไม่มีเวลาว่างเลย”
“เหมือนกันเลยค่ะ กว่าจะจบมาได้ทำเอาหวานลำบากสุดๆ เลยล่ะค่ะ เห็นเพื่อนคณะอื่นๆ มีเวลาไปเที่ยวหวานก็ได้แต่อิจฉา เป็นเหมือนกันไหมคะ”
“ครับ” ก็ได้แต่เออออไปกับหญิงสาวด้วยรอยยิ้มเบาๆ นั่งฟังหมอหวานพูดต่อไปทั้งที่ใจก็นึกรำคาญเอามามากๆ แต่ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้
จนกระทั่งรับประทานอาหารเสร็จ ทั่งสองคนก็เดินดูของด้านนอกเป็นการย่อยอาหารที่เพิ่งจะทาน โดยที่หมอหวานก็พาเดินเข้าไปดูนั่น ดูนี่ไม่คิดจะสนใจเวลาเลยว่าจะต้องเข้าไปทำงานต่อ
“หมอเงินคะ คิดว่าระหว่างอันนี้กับอันนี้อันไหนสวยกว่าคะ” เธอหยิบกิฟต์ติดผมมาเทียบด้วยมือทั้งสองข้าง ถามความเห็นของหมอหนุ่มอย่างสนุกสนาน ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้ชายที่มาด้วยเลยสักนิด
แล้วที่บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยก็ไม่เห็นมี...เอาแต่ถาม เอาแต่พูดอยู่คนเดียวเลย
“สวยทั้งสองเลยครับ”
“ว้า...ทำไมให้คำตอบแบบนี้ล่ะคะ หวานให้หมอเงินช่วยหวานเลือกนะคะ” เธอทำแก้มป่องอย่างน่ารัก หน้าเง้างอดเป็นเด็กๆ หวังให้หมอเงินเอาใจ
“ก็มันสวยทั้งสองจริงๆ นะครับ คุณหวานก็เอาไปทั้งสองเลยถ้าคุณหวานเลือกไม่ได้ ผมเลือกของแบบนี้ไม่เป็นด้วยน่ะครับ” เงินพูดยิ้มๆ
“นั่นสินะคะ แต่ว่า...หวานอยากซื้อแค่อันเดียวนี่คะ หมอเงินช่วยหวานคิดหน่อยสิคะ นะคะ” ขอร้องเสียงออดอ้อนจนแม่ค้ายิ้มให้อย่างเอ็นดู เพราะคิดว่าเราเป็นคู่รักกัน
ถ้าขรรค์อยู่ตรงนี้บอกเลยว่าเงินจะไม่ปล่อยให้ใครมาเข้าใจผิดแน่ๆ แต่ที่นี่มีเพียงคนที่เขาไม่รู้จัก ฉะนั้นก็ไม่มีอะไรให้ต้องแคร์ อยากจะคิด อยากจะเข้าใจยังไงก็ปล่อยเขาไป เพียงแค่ใจของเราทั้งสองมั่นคงต่อกันไม่หวั่นไหวง่ายๆ ก็เพียงแล้ว
“เงิน...มาทำอะไรแถวนี้น่ะ” เสียงทุ้มต่ำอันแสนคุ้นเคยดังมาจากด้านหลังของร่างโปร่ง เรียกความสนใจจากเงินได้ในทันทีเพราะคนที่ทักเขาเป็นคนๆ เดียวกันกับคนที่เขาคิดถึงอยู่ตลอดเวลา
“อ้าวขรรค์! พอดีเงินพาคุณหวานมาทานข้าวน่ะ แล้วเธอก็อยากจะซื้อของเลยพามาดู ขรรค์ล่ะ มาทำอะไรแถวนี้ ไหนบอกว่าวันนี้ไม่มีธุระต้องเข้ามาในเมืองไง” คุณหมอสุดหล่อขมวดคิ้วน้อยๆ เพราะสงสัยที่เห็นคนรักของตนที่นี่
“สวัสดีครับหมอหวาน” ขรรค์หันไปทักทายหญิงสาว ก่อนจะหันกลับมาตอบคนรักของตัวเอง “ขรรค์มาหาซื้อของน่ะ อุปกรณ์บางอย่างมันหมด เลยพาลูกน้องมา ไม่คิดว่าจะเจอกัน” ขรรค์ยังคงสีหน้านิ่งๆ ชำเลืองสายตามองหญิงสาวข้างกายของเงินด้วยสายตานิ่งๆ
“สวัสดีค่ะ” จำใจทักทายกลับตามมารยาทที่พึงปฏิบัติในสังคม
“งั้นเหรอ แล้วซื้อจะเสร็จหรือยังล่ะ” เงินถามคนรักทันทีอย่างเคยชิน เริ่มจะตัดหญิงสาวออกจากวงสนทนาของตนกับคนรักทีละน้อย
“ก็เกือบครบแล้วล่ะ เงินอยากได้ของอะไรไปไว้ในบ้านบ้างไหม ขรรค์จะซื้อกลับไปเลย” คนตัวสูงถาม
“อืม...มีอยู่นะ จริงๆ แล้วเงินก็จดเอาไว้แล้วล่ะว่ามีของหมด ว่าจะพาขรรค์เข้ามาซื้อตอนวันหยุด แต่ถ้าขรรค์มาแล้วก็ซื้อไปเลยก็ได้นะ” ร่างโปร่งหยิบสมุดพอเล่มเล็กที่พกเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงตลอดเวลาส่งไปให้กับคนรัก ซึ่งขรรค์ก็รับมาเปิดดูคร่าวๆ ก่อนจะพยักหน้าให้น้อยๆ
“โอเคครับ เดี๋ยวขรรค์จะซื้อไปเลย”
“อื้อ...เจอกันที่บ้านนะ”
“ครับ ตั้งใจทำงานนะเงิน”
“ขรรค์ก็เหมือนกัน” หมอเงินยิ้มส่งคนรักจนหายไปกับฝูงคน ร่างสูงโปร่งหันมามองหญิงสาวที่มาด้วยก่อนจะถามอย่างสุภาพ
“คุณหวานเสร็จธุระยังครับ”
“เสร็จแล้วค่ะ” เธอตอบสั้นๆ ห้วนๆ ใบหน้าเรียบตึง บ่งบอกถึงความไม่พอใจ
“งั้นก็กลับโรงพยาบาลกันเถอะครับ”
“ค่ะ”
ทั้งสองตรงไปยังที่จอดรถเอาไว้เพื่อที่จะกลับไปทำงานต่อของตัวเองโดยระหว่างทางหมอหวานก็เงียบตลอดทางเหมือนกับโกรธเงินอยู่ ซึ่งทำท่าราวกับรอให้ง้อ
แม้ว่าการคุยกันแบบปกติทั่วไประหว่างเงินกับขรรค์จะดูไม่มีอะไรมาก ตาสรรพนามที่ใช้แทนตัวของทั้งคู่ ไหนจะประโยคที่บ่งบอกว่าอยู่ด้วยกันนั้น มันก็เป็นการประกาศอย่างหนึ่งว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ใช่แค่เพื่อนที่อยู่ด้วยกัน แต่มันเป็นมากกว่านั้น...
ก็บอกไว้แล้วว่าถ้าขรรค์อยู่ด้วย เงินก็พร้อมที่จะประกาศ...ไม่ปิดบังอะไรอยู่แล้ว
“ขอบคุณนะคะหมอเงินที่พาหวานไปทานข้าว อร่อยมากๆ เลยค่ะ คราวหน้าไปอีกนะคะ” เธอพูดออกมาเสียงค่อนข้างดังกว่าปกติจนเหล่าพยาบาล พนักงาน และคนไข้หันมามองอย่างสนอกสนใจ หมอเงินก็รู้ว่าหมอหวานต้องการจะสื่อให้คนอื่นเข้าใจผิด
“ไม่เป็นไรครับ คราวหน้าเราพาเพื่อนๆ ทุกคนไปด้วยกันนะครับ กินกันเยอะๆ สนุกกว่านะ”
“เอ่อ...ได้ค่ะ”
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับหมอหวาน”
“ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ”
“ครับ”
ร่างสูงโปร่งเดินแยกไปอีกทาง ระหว่างทางที่เดินอยู่ หมอเงินก็ถูกทักถูกถามจากคนที่อยากจะรู้เรื่องราวว่าเป็นมายังไง เพราะอะไรถึงไปทานข้าวกันสองต่อสอง
“ก็ผมถามคนอื่นๆ แล้วไม่มีใครว่าง ผมก็เลยต้องไปกับหมอหวานสองคนน่ะครับ”
“อ้าว...แล้วคบกันหรือยังคะหมอเงิน”
“ฮ่าๆ หมอหวานเป็นแค่เพื่อนครับ ผมเองก็มีคนรักอยู่แล้วด้วย”
“งั้นเหรอคะ? แสดงว่านังหมอหวานมันคิดเออเองคนเดียวสินะ อุ๊ย! ขอโทษค่ะหมอเงิน อุ๊ปากเร็วไปหน่อย”
“แหม...ขอโทษจริงหรือเสแสร้งคะพี่อุ๊”
“เงียบน่า”
“ฮ่าๆ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับทุกคน คราวหน้าเราก็ไปทานข้าวด้วยกันนะครับ ผมชวนเอาไว้เลย” หมอเงินเอ่ยชวนอย่างคนที่มีนิสัยอัธยาศัยดี
“ได้สิคะ แหม...หมอสุดหล่อชวนทั้งที”
“ไม่ค่อยเร็วเลยนะพี่อุ๊ แพรวก็ไปด้วยนะคะหมอเงิน” หญิงสาวแขวะรุ่นพี่พยาบาลของตัวเองเสร็จก็หันมาขอเขาเสียงหวาน
“ไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละครับ”
“เยส!! เดี๋ยวพวกเราจะหาวันแล้วจะรีบบอกหมอเงินนะคะ”
“ได้เลยครับพี่อุ๊ ไปก่อนนะสาวๆ”
“ค่า”
เจ้าของใบหน้าหล่อหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินส่ายหน้าไปยังจุดหมายของตัวเองอย่างมีความสุข ปล่อยให้คนอยากจะพูด อยากจะคิดอะไรก็ปล่อยไป
เขาไม่สามารถที่จะทำให้คนทั้งโลกเข้าใจตัวเขาได้ แต่เราสามารถที่จะทำให้คนที่เรารักเข้าใจเขาได้...
สำหรับเงิน แค่นั้นก็เพียงพอ...
“เงิน...”
“อ้าว...ขรรค์ มายังไงเนี่ย?” เงินถามคนรักด้วยความงุนงงเมื่อเห็นว่าเจ้าของร่างสูงใหญ่เดินมาหยุดตรงหน้าเขาขณะที่เขากำลังเดินคุยมากับหมอรุ่นพี่
“ขรรค์ให้ลูกน้องมาส่งก่อนที่พวกมันจะกลับรีสอร์ทน่ะ” เจ้าตัวตอบ
“นี่แสดงว่ารอเงินมานานแล้วสิ กี่ชั่วโมงเนี่ย” ร่างโปร่งเดินไปหาขรรค์ด้วยความเป็นห่วง สีหน้าเคร่งเครียดจนขรรค์กังวล กลัวว่าคนรักจะโกรธ
“ก็ตั้งแต่บ่ายน่ะ”
“ขรรค์! ทำไมไม่กลับไปรอที่บ้านล่ะ มานั่งรอเงินแบบนี้ตั้งกี่ชั่วโมง น่าเบื่อออก”
“ไม่เป็นไร ขรรค์รอได้ ไม่เบื่ออะไร” ขรรค์ตอบให้คนรักสบายใจ แต่เงินกลับไม่ยอมหายโกรธง่ายๆ เพราะไม่ชอบให้ขรรค์มารอตัวเองนานๆ แบบนี้
“อย่าทำอีกนะขรรค์!! ถ้าจะมาก็ให้โทรมาถามก่อนแล้วมาก่อนเวลาที่เงินออกเวร ขรรค์เล่นรอตั้งแต่บ่ายแบบนี้ เงินไม่อยากนึกภาพตามเลย”
“ครับๆ ขรรค์ไม่ทำแล้ว”
ร่างโปร่งบางมองหน้าคนรักไม่พอใจอยู่อย่างนั้น ถึงแม้ว่าขรรค์จะรับปากว่าจะไม่ทำอีกแล้วก็ตาม ลืมไปเลยว่าตนไม่ได้เดินมาคนเดียว
“เอ่อ...ขอโทษที่ต้องขัดจังหวะนะหมอเงิน แต่พี่ขอตัวก่อนนะ เมียโทรตามแล้ว” รุ่นพี่ที่เดินคุยมากับร่างโปร่งตั้งแต่แรกขัดขึ้นมา จนเงินต้องรีบหันไปหาอย่างรู้สึกผิด
ลืมสนิทเลยว่าเดินมากับรุ่นพี่...ตายแล้วเรา
“ขอโทษครับรุ่นพี่ งั้นพรุ่งนี้ผมจะปรึกษาใหม่นะครับ” ยกมือไหว้เพราะเกรงใจที่กำลังปรึกษาเรื่องงานอยู่ จู่ๆ ก็ยังพูดไม่จบเขาก็ดันเดินเข้าไปหาขรรค์เสียก่อน
คนรักสำคัญที่สุดสำหรับเงินจริงๆ
“ได้ๆ มีอะไรก็ถามได้ตลอด ว่าแต่ใครน่ะ” ยังไม่วายอยากรู้เรื่องชาวบ้านชาวช่อง ทั้งๆ ที่บอกว่าเมียโทรตามแต่ก็ไม่ได้รีบกลับอย่างที่คิด
“หึหึ ไหนบอกว่าจะกลับไงครับ” เงินแซวขำๆ
“ก็อยากรู้ไง ต่อมเผือกพี่มันพุ่งแล้วเนี่ย” เงินหัวเราะออกมาเบาๆ ที่ได้ยินแบบนั้นจากปากรุ่นพี่คนสนิท ก็เลยตอบออกไปตามความจริง
“นี่ขรรค์ครับ เป็นแฟนของผมเอง”
“ห๊ะ!!!”
“เงิน!!”
ทั้งคู่ส่งเสียงขึ้นมาพร้อมกันด้วยความตกใจ ขรรค์เรียกชื่อคนรัก แต่รุ่นพี่คนนั้นอุทานอย่างตกใจ แต่พอสังเกตท่าทางของรุ่นน้องตนกับผู้ชายตัวยักษ์นี้แล้ว ไหนจะสรรพนามเรียกอย่างไพเราะนั่นอีก
ก็ต้องเชื่อล่ะนะ เพราะคุยกันมุ้งมิ้งมาก ขนาดเขากับภรรยาที่เป็นผู้หญิงยังคุยกันธรรมดาๆ เลย
“ตกใจล่ะสิ”
“ตกใจสิ...เฮ้อ แบบนี้สาวๆ อกหักทั้งโรงพยาบาลน่ะสิ แต่ขรรค์ ผมไม่ได้หมายความว่าคุณสองคนไม่เหมาะสมนะ แค่เสียดายความหล่อของหมอเงินเฉยๆ” หมอหนุ่มรุ่นพี่รีบแก้ตัว ขรรค์เองก็ยิ้มให้นิดๆ ไม่ได้คิดมากอะไร
ต่อให้ใครว่าเราจะไม่เหมาะสม เขาก็ไม่มีทางสนใจนอกจากความรู้สึกของเงินอีกแล้ว
บทเรียนที่ผ่านมาทำให้ขรรค์เข้มแข็งและแข็งแกร่งขึ้น...
“ครับ ผมเข้าใจ จริงๆ ผมก็เคยอิจฉาเงินเรื่องที่เขาหล่อกว่าผมแหละครับ แต่ทำไงได้ล่ะครับ พ่อแม่ให้มาเท่านี้” ขรรค์พูดนิ่งๆ แต่เป็นประโยคที่ทำให้เงินกับหมอรุ่นพี่ระเบิดหัวเราะออกมา
“แฟนหมอเงินนี่ตลกดีนะ”
“ฮ่าๆ ตลกหน้าตายน่ะหรือครับ”
“ก็ดีกว่าไม่ตลกเลยนะ ตอนแรกที่เห็นคุณขรรค์ผมคิดว่าหมอเงินจะอยู่กับผู้ชายคนนี้ได้ยังไงนะทำหน้านิ่งๆ ตัวทื่อๆ ตลอดเวลาแบบนี้”
“เราคบกันมาเกือบสิบปีแล้วนะ มั่นคง ใจเดียวมาตลอดด้วย”
“โหย...น่าอิจฉาว่ะหมอเงิน ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับชีวิตคู่ของทั้งสองคนนะครับ เดี๋ยวนี้โลกมันเปิดกว้างมากแล้ว พวกคุณไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ทำอะไรไม่ดี ไม่ต้องคิดมากแล้วสนคำพูดของสังคมนะครับ รักกันนานๆ นะหมอเงิน” ทั้งสอน ทั้งแนะนำ จนเงินกับขรรค์หันมองตากันหวานซึ้ง ทำเอาหมอรุ่นพี่มองด้วยความอิจฉา
มันดูอบอุ่น มากกว่าดูแปลกประหลาดในสายตา
“ขอบคุณครับ” ทั้งคู่เอ่ยพร้อมกัน
“ไม่เป็นไรๆ โชคดีนะ พี่ขอตัวก่อน เดี๋ยวเมียด่า”
“ครับ ขับรถกลับบ้านดีๆ”
หมอเงินโบกมือลารุ่นพี่ของตัวเอง ก่อนจะหันมากอดอกให้คนรักอย่างไม่พอใจเหมือนเดิม เรื่องที่ขรรค์มานั่งรอเขาไม่โกรธแล้วก็จริง แต่ใช่ว่าความไม่พอใจจะหายไปด้วย
ตอนสมัยเรียนก็มีหลายครั้งที่ขรรค์ชอบมารอเงินเป็นชั่วโมงกว่าจะเรียนเสร็จ บางวันก็เลทเป็นชั่วโมงขรรค์ยังมารอทั้งๆ ที่สั่งห้ามเอาไว้ พอโกรธทีไรขรรค์ง้อนิดเดียวเงินก็ใจอ่อนแล้ว
“มา...เดี๋ยวขรรค์ขับให้”
“ไม่ต้องมาเนียนเลย”
“ขรรค์ขอโทษ” ขรรค์ทำหน้าหงอยจนคนรักอย่างหมอเงินใจอ่อนยวบ
ใจแข็งกับขรรค์ได้ไม่เคยนานเลยเรา...
50%
มาตามสัญญาค่า บอกว่าจะเริ่มอัพวันนี้ ยูกิก็มาอัพแม้ว่าจะมีงานนอนสุมอยู่บนโต๊ะรอให้สะสาง ฮ่าๆ เดี๋ยวทุกคนจะลืมแล้วงอนยูกิเนาะ อ่านแล้วเม้นท์ให้ยูกิด้วยน้า ให้กำลังใจหน่อยนะคนดี ^^
มีอะไรพูดคุยกับยูกิได้ที่แฟนเพจเลยนะคะ ข่าสารยูกิก็อัพเดทที่นั่นเป็นส่วนใหญ่น่อ เรื่องหนังสือตามได้ที่เพจค่ะ ตอนนี้หนังสือมาถึงยูกิแล้วครึ่งหนึ่ง เหลืออีกครึ่งหนึ่งนะคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki/