ตอนที่ 6
ใกล้เข้าไปอีกนิด ชิดเข้าไปอีกหน่อย
“ว่าไงวะมีหรือไม่มี” ผมมองขลุ่ยด้วยสายตาของคนอยากรู้อยากเห็นขั้นสุด กับคำถามที่ฝากเพื่อนไปหาคำตอบมาให้
“ไม่มี”
“ไม่มี?” ผมเลิกคิ้วขึ้น “มึงแน่ใจเหรอวะ อย่างพี่คีรินทร์นะไม่มีแฟน” ผมทำหน้าไม่เชื่อถือข้อมูลของโคนันขลุ่ย
“เออกูแน่ใจ กูเช็คจนแน่ใจแล้วว่าไม่มี”
“ถามจากพี่รหัสมึงเลยไม่ง่ายกว่าเหรอวะ จะให้ไอ้คุณขลุ่ยไปสืบให้ลำบากทำไม” ฝนมองหน้าผมด้วยสายตาไม่เข้าใจ
“มึงพูดเหมือนไม่รู้จักพี่รหัสกู คิดเหรอว่าจะตอบกูดีๆ”
“แล้วมึงอยากรู้ไปทำไม”
ผมจ้องตากับฝน
“ทำไมวะ”
“กูก็ไม่ได้คิดด้วยสิว่าอยากรู้ไปทำไม ก็แค่อยากรู้ป่ะวะ” ผมไม่มีคำตอบให้เพื่อน ไม่เคยคิดว่าเพราะอะไรถึงอยากรู้และทำไมต้องรู้
“กูแม่งสงสารพี่รหัสมึงจริงๆ มีน้องขี้เสือก” ฝนส่ายหัวเลิกเถียงกับผม เหลือแค่ผมที่ยังเถียงกับตัวเอง
นั่นสิ มึงจะอยากรู้ไปทำไมวะ มีหรือไม่มีก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่มึงจะเซินเจิ้นเขานี่หว่า
ก็คนมันอยากรู้ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอวะ ไม่ใช่ความลับระดับชาติเสียหน่อย
ผมเถียงกับตัวเองอย่างเมามันในใจ
“เก้าอี้”
“หะ!” ผมหลุดจากภวังค์ หันไปมองคนเรียก ลูกจันทำท่าบุ้ยใบ้ไปด้านหลัง ผมจึงหันไปมอง กลุ่มของพี่คีรินทร์กำลังเดินเข้ามาในโรงอาหาร แต่วันนี้มีพี่เจนดาวคณะปีที่แล้วมาด้วย
“หรือจะคนนี้” ลูกจันกระซิบเสียงเบา
“ไม่ใช่มั้ง ขลุ่ยบอกแล้วว่ายังไม่มี” ผมส่ายหน้ายังไงก็เชื่อเพื่อนไว้ก่อน
“ยังไม่คบไม่นับ” โคนันขลุ่ยค่อยๆ คายข้อมูลออกมา
“ไอ้คุณขลุ่ย! กูนับเว้ย” ผมตบหลังท่านโคนันดังฉาด โทษฐานที่กั๊กข้อมูลไว้ไม่บอก
“เงียบๆ” ฝนรีบปรามเมื่อเห็นว่ากลุ่มคนที่ถูกผมนินทาเดินตรงเข้ามา
“ว่างไหม” พี่ทวีปส่งยิ้มให้พวกผม
“ว่างค่ะ พี่ทวีปจะให้ทำอะไรเหรอคะ” ลูกจันยิ้มหวานหยด ผมว่าไม่ใช่เพราะพี่ทวีปเป็นพี่รหัสหรอกครับ เพราะพี่ทวีปหล่อมากกว่า
“เปล่า” พี่ทวีปมองลูกจันด้วยสายตาเอ็นดู
“พี่หมายถึงตรงนี้ว่างหรือเปล่า”
ผม ขลุ่ย ฝนหันหน้าไปคนละทิศละทาง ถ้าไม่สงสารเพื่อนคงระเบิดเสียงหัวเราะออมาแล้ว ลูกจันยิ้มแหย อายจนหน้าแดง
“ว่างค่ะ”
“พี่ฝากจองที่ให้หน่อย เดี๋ยวมา”
“ได้ค่ะ”
พวกผมมองตามพี่ทวีป พี่มิ่ง พี่คีรินทร์และพี่เจนไป จนทั้งหมดออกห่างจากโต๊ะพอสมควร เสียงหัวเราะจึงดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
“พวกมึงหยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้เลย!” ลูกจันแหวใส่พวกผม ใครจะไปหยุดได้ครับ
“ใครแซวกูตาย” ลูกจันปาดนิ้วผ่านลำคอ
“ทีเมื่อกี้ยิ้มหวานเชียวนะมึง กับเพื่อนกับฝูงขู่ฆ่า” ฝนอดแซวนิดแซวหน่อยไม่ได้
“มึงอย่าแซวกูสิวะ หมดกัน” ลูกจันไหล่ห่อคอตก “กูกะจะขายความน่ารักสักหน่อย เสือกขายความเด๋อซะได้”
“เอาน่า” ขลุ่ยตบหลังลูกจันด้วยสีหน้าเข้าใจ
“มึงลองคิดในแง่ดีนะ คนขายความน่ารักเยอะแยะมึงจะสู้ไหวเหรอ ขายความฮาแบบนี้รับรองพี่ทวีปจำมึงได้ไม่ลืม”
“ขอบใจมากขลุ่ย มึงตบกูเลยก็ได้นะ” ลูกจันส่งค้อนให้ขลุ่ยวงใหญ่ แต่ผมเห็นด้วยกับคำพูดของขลุ่ย ลูกจันที่เป็นแบบนี้น่ารักกว่าเป็นไหนๆ
เวลาผ่านไปไม่นานทั้งกลุ่มก็กลับมาพร้อมจานข้าวและแก้วน้ำในมือ คุณมาสเตอร์พีชนั่งลงตรงข้ามผม เปิดโอกาสให้เก็บรายละเอียด ผมยืดหลังขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นอีกฝ่าย ลืมไปได้ไงว่าต้องนั่งหลังตรงถึงจะดูสง่าผ่าเผย แขนที่กางออกกว้างรีบหุบลง เมื่อเห็นการวางแขนของคุณมาสเตอร์พีซ ข้าวคำโตพูนช้อนถูกเททิ้งแล้วตักขึ้นมาใหม่ให้พอดี การจะหล่อครบสามร้อยหกสิบองศาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ผมจะพยายาม
พวกผมแทบไม่คุยกันเมื่อมีรุ่นพี่มานั่งใกล้ ต่างคนต่างกิน จึงได้ยินบทสนทนาที่ดังขึ้นชัดเจน
"เย็นนี้เจนอยากไปซื้อหนังสือ คีรินทร์ไปด้วยกันไหม" เสียงคนพูดฟังรื่นหู พี่เจนเป็นผู้หญิงที่ดูดีทุกกระเบียดนิ้ว จะว่าไปก็เหมาะสมกับคุณมาสเตอร์พีซมาก
"เอาสิ"
"ดีเลย เจนจะได้มีคนช่วยถือของ" รอยยิ้มของพี่เจนทำให้คิดถึงคำพูดของขลุ่ย ขายความน่ารักมันต้องแบบนี้สินะ
“มิ่งกับทวีปไปด้วยกันสิ ว่างหรือเปล่า”
“นึกว่าเจนจะไม่ถาม ผมไปอยู่แล้ว มึงจะไปหรือเปล่า” พี่มิ่งหันไปถามพี่ทวีป เพราะเป็นคนเดียวที่ยังนั่งเงียบ
“อืม” พี่ทวีปพยักหน้า “แต่เจนจะรอไหวเหรอกว่าจะเลิก” พี่ทวีปหมายถึงการซ้อมเชียร์ที่เกิดขึ้นทุกเย็น
“ไหวสิ เดี๋ยวเจนอ่านหนังสือรอ”
ผมฟังการสนทนาเพลิน ไม่ได้ตั้งใจแอบฟังแต่มันได้ยินเอง รู้ตัวอีกทีทั้งกลุ่มก็เก็บจานลุกออกจากโต๊ะไปแล้ว
“โอ๊ย กูเกือบหายใจไม่ออก” ความเงียบถูกทำลายด้วยเสียงบ่นของลูกจัน ความสงบเสงี่ยมเรียบร้อยเมื่อครู่หายวับไปกับตา
“แล้วมึงจะกลั้นหายใจทำไมวะ”
“กูไม่ได้กลั้น กูเปรียบเทียบ” ลูกจันเอื้อมมือไปหาฝน แต่อีกฝ่ายหลบฝ่ามือทัน
“เราก็ไปบ้างสิ จะนั่งอยู่ทำไมวะ” ฝนลุกขึ้นยืน ตามด้วยผมกับลูกจัน เว้นขลุ่ยคนเดียว
“ไม่ไปเหรอ” ฝนถามคนที่ยังนั่งอยู่ ขลุ่ยชี้มือมาที่จานข้าวของผม
“มึงกินเสร็จแล้วเหรอ”
สายตาผมตกลงมองจานข้าวของตัวเอง “อืม เสร็จแล้ว”
“ไม่อร่อยเหรอวะ”
“เปล่า”
“ลดน้ำหนัก?”
“ก็เปล่าอีก” ผมตอบคำถามขลุ่ย
“อย่าบอกว่ามึงเกร็งกว่าลูกจันจนกินไม่ลง” ฝนสงสัย เพราะผมกับฝนเป็นสองคนที่ไม่เคยกินข้าวเหลือเลย ผมส่ายหน้าช้าๆ
“เปล่า กูแดกไม่ทัน” สายตาตกลงมองจานข้าวด้วยความเสียดาย อยากรู้มากว่าคุณมาสเตอร์พีซทำยังไงถึงกินข้าวได้ดูผู้ดีแล้วยังเสร็จทันคนอื่น ไหนจะอาการเมื่อยคอ เมื่อยหลัง จากการพยายามนั่งตัวตรงตลอดเวลา การเซินเจิ้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ผมก็เพิ่งรู้วันนี้
“อะไรของมึงวะ” ฝนส่ายหัว
“ไม่มีอะไร ไปเถอะเดี๋ยวไม่ทันขึ้นเรียน” ผมหยิบจานข้าวขึ้นมาถือ รอขลุ่ยลุกขึ้นแล้วเดินออกจากโต๊ะไปพร้อมกัน
• • • • • • • •
“ให้มันได้อย่างนี้สิวะ!!”
ผมสบถออกมาเมื่อพบกว่าผมเผลอลืมกุญแจไว้ในห้องพัก ซ้อมเชียร์มาโคตรเหนื่อยแทนที่จะได้พัก หาเรื่องให้ตัวเองแท้ๆ
ผมลากสังขารจากชั้นห้าลงมาชั้นหนึ่ง เดินตรงไปยังห้องของผู้ดูแลหอ และพระเจ้ามักเข้าข้างผมเสมอ
ป้าไปธุระสองชั่วโมง มีธุระอะไรให้ติดต่อหลังสามทุ่ม
กระดาษถูกแปะไว้บนกระจก ผมอ่านซ้ำๆ เหมือนมันเข้าใจยากเต็มที กว่าจะยอมรับว่าผมจะเข้าห้องไม่ได้ไปอีกเกือบสองชั่วโมง
ผมถอนใจเฮือกใหญ่ จะออกไปเดินเล่นฆ่าเวลาเงินในกระเป๋าก็มีอยู่น้อยนิด กลับไปมหา’ลัยก็โดนยุงหามเปล่าๆ จะไปหาฝนกับขลุ่ยที่หอก็ขี้เกียจนั่งรถ แค่นี้ก็เหนื่อยพอแล้ว
ความหวังเดียวที่แสนริบหรี่ของผมอยู่ที่ชั้นสาม แม้โอกาสจะน้อยมากเพราะได้ยินกับหูว่าอีกฝ่ายมีนัด แต่ไม่ลองก็ไม่รู้ ถ้าไม่อยู่จริงๆ ค่อยว่ากันอีกที
ผมใจชื้นเมื่อเห็นแสงไฟจากระเบียงห้อง ถ้าเวลานี้อยู่แปลว่าไม่ได้ไปเหรอวะ แต่ก็ถือว่าเป็นโชคดีของผม
ประตูเปิดออกหลังการเคาะสี่ห้าครั้ง ผมส่งยิ้มประจบเจ้าของห้อง
“วันนี้เป็นหมา”
“หะ! อะไรนะพี่”
“ส่ายหางอีกนิดก็ใช่แล้ว มีอะไรว่ามา”
อะไรวะ รู้ดีจริง
“คืองี้พี่” ผมรุกคืบด้วยการก้าวเท้าไปข้างหน้า แต่คนตัวสูงน่าจะรู้แกว ไม่ยอมถอยให้ผมผ่านเข้าไปง่ายๆ เมื่อเจ้าของห้องไม่ให้บุกรุกก็เหลือทางเลือกสุดท้าย
“ผมลืมกุญแจไว้ในห้อง” สารภาพสิครับจะรออะไร ที่คิดจะแวะมาทักทายรุ่นพี่คูลๆ เป็นอันล้มเลิก
“ไปขอกุญแจสำรองได้ที่ป้าดูแลหอ”
“ผมก็จะทำอย่างนั้นแหละ การรบกวนรุ่นพี่ตอนเหนื่อยๆ มันไม่เหมาะ แต่..” ผมยิ้มแหย “คุณป้าไม่อยู่ แปะป้ายไว้ตัวเบ้อเริ่มว่าไปธุระสองชั่วโมง แหะๆ”
“นายจะมาอยู่ห้องพี่สองชั่วโมง?”
ผมกะพริบตาปริบๆ ก่อนพยักหน้า
เสียงถอนใจดังยาว ก่อนประตูห้องจะเปิดออกกว้าง ผมทำตัวลีบเดินผ่านคุณเจ้าของห้องเข้าไปด้านใน หลายวันแล้วที่ไม่ได้มาก็ยังสะอาดเหมือนเดิม ไม่ขี้เกียจบ้างหรือไงวะ
“นั่งสิ” มือใหญ่ชี้ไปที่เตียง ผมทำตัวเป็นผู้ขอความช่วยเหลือที่ดีโดยการนั่งลงทันที
พี่คีรินทร์เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำออกมาส่งให้ เหมือนรู้ว่าผมกำลังคอแห้ง
“ขอบคุณครับ” ผมรับขวดน้ำมาเปิดดื่ม เจ้าของห้องดึงเก้าอี้ทำงานมานั่ง รอให้ผมดื่มน้ำจนเสร็จ
“กินข้าวเย็นแล้วใช่ไหม”
เป็นอีกครั้งที่ผมยิ้มแหยให้อีกฝ่าย แค่นั้นคงแทนคำตอบได้ดี
“ยังไม่ได้กินเหรอ”
“ผมกะจะกลับมาต้มมาม่ากิน เดือนนี้ต้องประหยัดนิดหนึ่ง”
ร่างสูงลุกขึ้นยืน เดินตรงไปยังตู้เย็น เปิดและมองในตู้อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนหยิบของหลายอย่างออกมา
“ข้าวผัดกุ้งแล้วกัน ง่ายดี”
“พี่คีรินทร์จะทำให้ผมกินเหรอ!” ผมเบิกตากว้าง ยอมรับว่าแปลกใจมาก
“ไม่หิวหรือไง”
“หิวสิครับ” ผมพูดด้วยเสียงโอดครวญ ก่อนเสียงจะอ่อยลง “ผมเหมือนตัวปัญหาของพี่คีรินทร์เลย มีแต่เรื่องมารบกวน”
“นายเป็นน้องรหัส ช่วยได้ก็ช่วย”
“ขอบคุณครับ ผมโชคดีที่มีพี่รหัสอย่างพี่คีรินทร์ รับเป็นพี่เทคให้ผมด้วยได้ไหม” ผมได้ทีขอเสียเลย
พี่คีรินทร์ชะงักมือที่กำลังหั่นมะเขือเทศ ครู่เดียวก็ทำต่อไป โดยไม่หันมามองผม
“ส่วนใหญ่เขาขอรุ่นพี่คนอื่นที่ไม่ใช่พี่รหัส ไม่อยากได้รุ่นพี่ผู้หญิงเหรอ”
“ไม่ดีกว่า ก็พี่รหัสผมดีที่สุดแล้ว” ผมยิ้มกว้างทั้งปากและตาในจังหวะที่พี่คีรินทร์หันกลับมามองพอดี
“เอาผ้าสีฟ้าบนชั้นคลุมเตียงให้หน่อยพี่จะผัดข้าว”
“ครับ” ผมรีบทำตามที่อีกฝ่ายบอก
กลิ่นข้าวผัดหอมเตะจมูก ผมกลืนน้ำลายไปหลายครั้ง ในที่สุดก็ได้มาวางตรงหน้า โต๊ะญี่ปุ่นขนาดกำลังดีถูกกางออก เป็นโต๊ะกินข้าวสำหรับสองคน
“โห~อร่อย” ผมตาโตเมื่อชิมข้าวผัดคำแรก
“ถ้าไม่พอไปตักในกระทะเพิ่มได้”
“ขอบคุณครับ” ผมตักข้าวเข้าปากราวกับคนหิวโหย อร่อยจนลืมมารยาทที่ฝึกมา พี่คีรินทร์นั่งกินเงียบๆ ดูหล่อเหลาเหมือนเดิม
“ผมถามจริงๆ เถอะ พี่มีอะไรที่มันไม่เพอร์เฟคบ้างไหม หล่อแล้วยังเก่งอีก ห้องก็เรียบร้อย ทำอาหารก็อร่อย” ผมชวนคุยหลังจากรวบช้อนส้อมวางเรียบร้อย
“จะอยากรู้ไปทำไม” พี่คีรินทร์หยิบจานวางซ้อนกัน เตรียมนำไปล้าง
“น่า บอกหน่อยนะ ถือว่าเป็นการช่วยให้คนหล่อน้อยกว่านิดหนึ่งอย่างผมมีกำลังใจ ว่าเออถึงเราจะห่วยนิดห่วยหน่อยก็เป็นเรื่องธรรมดา”
คุณมาสเตอร์พีซจ้องหน้าผมนิ่ง ผมจึงยกมือชูขึ้นสามนิ้ว
“รับรองผมไม่บอกใคร”
“พี่ไม่ชอบ #%&&^#” คำหลังเบาจนผมไม่ได้ยิน
“อะไรนะพี่” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เอียงหูเพื่อจับใจความ
“พี่ไม่ชอบผี”
“พี่ไม่ชอบผี..” คิ้วของผมขมวดเข้าหากัน ก่อนตาจะเบิกโตเป็นไข่ห่าน
“พี่กลัวผีเหรอ! ฮ่าๆ อุ๊บ!” ผมรีบตะปบปากตัวเอง เมื่อดวงตาที่มองมาลุกวาบ
“ขอโทษ..ครับ..ผมไป..ล้างจาน..ให้” ผมพูดแทบไม่เป็นภาษาเพราะต้องกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ คุณมาสเตอร์พีซกลัวผี ไม่อยากจะเชื่อเลย มิน่าล่ะวันที่ไปดูหนังถึงหลับตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่อง แถมตอนเห็นมาสคอตผีเด็กก็ตกใจจนหน้าซีด น่ารักนะเรา
“ไม่ต้อง พี่ล้างเอง”
พี่คีรินทร์หยิบจานบนโต๊ะ เดินตรงไปยังอ่างล้างจาน ผมนั่งมองแผ่นหลังของอีกฝ่าย เป็นผู้ชายที่ยืนเฉยๆ ก็ดูเท่แล้ว แต่พอนึกถึงสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ ผมก็เกือบหลุดเสียงหัวเราะออกมา ดีที่ยั้งตัวเองไว้ได้ทัน
ผมนึกสนุกแอบย่องไปยืนข้างหลัง รอจังหวะที่พี่คีรินทร์เช็ดมือเสร็จแล้วหันมา
“แบร่!” ผมแลบลิ้น ทำตาโต หวังแกล้งให้อีกฝ่ายตกใจ
พี่คีรินทร์คว้าผมเข้าไปกอด ใบหน้าก้มลงมาชิด จนแก้มแนบสนิทกับขมับของผม แขนที่รัดรอบเอวแน่นขึ้น กลายเป็นผมที่ตกใจเสียเอง
“พี่คีรินทร์”
ผมเรียกซ้ำสองครั้งกว่าคุณมาสเตอร์พีซจะปล่อยมือ
“เล่นอะไรของเรา!”
“ขอโทษครับ” ผมหน้าแหย รีบขอโทษอีกฝ่าย
พี่คีรินทร์ไม่ตอบ เดินผ่านผมไปนั่งลงบนเตียง ผมรีบตามไปนั่งใกล้ๆ ส่งยิ้มประจบเอาใจ
“อย่าโกรธผมเลยนะ เดี๋ยวผมเลี้ยงข้าวขอโทษ”
“ไหนเราบอกต้องประหยัด”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมอดเอา ให้พี่หายโกรธก็พอ” ผมทำตาวิ้งๆ ใส่ เพราะทำกับพ่อแม่กับพี่โต๊ะทีไรหายโกรธผมทุกที
พี่คีรินทร์จ้องตาผมด้วยสายตาดุๆ แต่ครู่เดียวก็หลุดเสียงหึออกมาจากลำคอ เบือนสายตาไปทางอื่นแบบเนียนๆ ผมยิ้มแป้น เห็นไหมล่ะ บอกแล้วว่ามันได้ผล
“ไม่โกรธผมแล้วใช่ไหมครับ” ผมขยับเข้าไปนั่งใกล้อีกนิด
“....”
“ไม่โกรธแล้วเนอะ” ผมชะโงกตัวไปมองหน้า ยิ้มใส่ตาอีกฝ่าย
“....”
“ดีกันเถอะ” ผมยกนิ้วก้อยขึ้น
เสียงถอนหายใจดังขึ้น พี่คีรินทร์หมุนตัวมามอง มือใหญ่วางลงบนหัวของผม
ผมกะพริบตาปริบๆ เพราะไม่รู้ว่าคุณมาสเตอร์พีซคิดจะทำอะไร นิ่งไว้ก่อน เราผิดเราต้องนิ่ง
“พี่จะยอมเมื่อยแขนสองชั่วโมง”
“หะ!” ผมเลิกคิ้วขึ้น ยังงงๆ ยอมเมื่อยแขนสองชั่วโมงคืออะไรวะ?
!!!
“เฮ้ยพี่! ผมไม่ใช่แมววว”
“หึๆ”
ดูเหมือนคุณมาสเตอร์พีซจะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว เห็นทีว่าผมจะไม่มีทางเลือก
“เป็นก็เป็นครับ แมวก็แมวครับ ไม่ต้องจับก็ได้ ผมจะนั่งนิ่งสองชั่วโมงเลย”
“เป็นความคิดที่ดีมาก พี่จะได้ทำงาน”
เอาเถอะ ผมจะยอมเป็นเหมียวที่ว่านอนสอนง่ายสักวัน แลกกับการที่คุณมาสเตอร์พีซหายโกรธ ยังไงก็คุ้ม
ว่าแต่..
ทำไมคุณมาสเตอร์พีซถึงอยู่ห้อง ไม่ไปกับพี่เจนหว่า แล้วทำไมถึงตกใจประหลาดจังวะ ไม่เคยพบเคยเห็นตกใจแล้วกอด ดีนะไม่รัดคอผมตาย แล้วทำไม...
เมื่อกี้ใจผมถึงเต้นแรง
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin