ตอนที่ 3 : เหงา
“ชีวิตที่ยุ่งเหยิงอยู่กับเรื่องเรียน ทำให้ไทยอดโผล่หน้าไปสนามบอล นับเวลาได้อาทิตย์กว่า เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องเรียนและที่หอ หรือไม่ก็มาระดมสมองและความรู้ อยู่ที่คอนโดของเมธกับเพื่อนๆ
"ไทย กูไม่เข้าใจว่ะ" คนโปรดเอนตัวมากระซิบบอกเขาเบาๆ
"มึงจะกระซิบทำไมวะ" ไทยขมวดคิ้ว
"เดี๋ยวพี่รหัสได้ยิน"
"กลัวทำไมวะ มึงควรไปถามพี่รหัสถึงจะถูก พี่รหัสเคยเรียนแล้ว แถมฉลาดกว่ากูด้วย"
"ก็นั่นแหละ กูถึงให้รู้ไม่ได้"
"ทำไมวะ"
"เดี๋ยวพี่รหัสจะรู้ตัวว่าได้เมียโง่"
"ฮ่าๆ ไอ้คนโปรด” ไทยหัวเราะลั่น “มึงไปถามเถอะ เดี๋ยวกูช่วยโง่เป็นเพื่อน"
"เนียนนะมึง " คนโปรดตวัดสายตาค้อนเพื่อน "โง่จริงก็บอกเถอะ ทำเป็นจะช่วยโง่เป็นเพื่อนกู"
"กูแค่ไม่รู้ กูไม่ได้โง่"
"กูไปถามตะวันก็ได้" คนโปรดลุกขึ้นจากโต๊ะที่นั่งทำงานอยู่ ตะวันอยู่ในครัวกับเด็กชายดล รหัสนั่งดูหนังอยู่ที่โซฟารับแขกกับเมธ ส่วนเขากับไทยนั่งหัวฟูอยู่ที่โต๊ะกินข้าว
“พี่สุดหล่อ” นอกจากพี่ใจดีแล้วก็มีพี่สุดหล่อนี่แหละ ที่เด็กชายดลชอบเรียก
“ทำอะไรอยู่ครับ” คนโปรดเดินเข้าไปหาหนูน้อย
“ทำอาหารครับ” หนูน้อยตอบเสียงใส
“เก่งซะด้วย” คนโปรดส่งรอยยิ้มขำปนเอ็นหนูน้อยไปหาตะวัน
“ใช่เก่ง เก่งกว่าคนโปรดอีก” แต่คำพูดของเพื่อนทำให้ปากของเขายื่นออกมาแทน ไม่มีใครเข้าใจความสามารถที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ของพี่สุดหล่ออย่างเขา
“ตะวันดูตรงนี้ให้เราหน่อย” คนโปรดยื่นหนังสือที่อยู่ในมือให้ตะวันดู
“ไหน” ตะวันปิดแก๊ส วางทัพพี ชะโงกหน้าไปมอง
“เดี๋ยวอย่าเพิ่ง ฟังด้วย” เสียงห้ามเป็นของไทย เขาเพิ่งเดินตามหลังคนโปรดเข้ามา
“นี่ไงๆ โง่เหมือนกันชัดๆ” คนโปรดสำทับ เหอะ แล้วทำมาเป็นตีเนียน
Rrrrr
“ยังไง จะได้ฟังไหม” คนโปรดส่งสายตาค้อน เมื่อโทรศัพท์ของไทยดังขึ้น ตะวันหัวเราะน้อยๆ หันกลับไปเปิดแก๊สทำอาหารต่อ คิดว่าไทยคงใช้เวลาคุยพักหนึ่ง
“ไอ้ปราบ” ไทยย่นคิ้ว “โทรมาทำไมวะ”
“อ้าว อยากรู้ก็กดรับสิ” คนโปรดบอกเพื่อน เขาไม่อยากรู้หรอก แค่ขยับเข้าไปใกล้อีกนิดเท่านั้นเอง
“ฮัลโหล” ไทยเดินถอยห่างจากเพื่อน ไม่ได้มีความลับ แต่เขาต้องการแกล้งอีกฝ่าย
“มึงพูดดังๆ หน่อย กูไม่ได้ยิน” ไทยจัดการปรับเสียงโทรศัพท์ให้ดังขึ้น เมื่อเสียงอีกฝ่ายแหบพร่า
“ใช่ พี่เหน่งฝากไว้ที่กู แต่กูยุ่งๆ เลยยังไม่ได้เอาไปให้มึง อยู่นี่แหละไม่หาย”
“มึงไม่สบายเหรอวะ เสียงโคตรอุบาทว์”
“ไม่ไปหาหมอละวะ แล้วนี่กินข้าวกินยาหรือยัง”
“เอ้า! แล้วทำไมไม่กิน มึงไม่ไหวก็โทรตามเพื่อน ตามญาติ หรือสาวๆ ของมึงให้เขาซื้อให้ก็ได้นี่”
“เออตามใจ ป่วยแล้วยังเสือกจะติสท์อีก งั้นก็นอนพักไป ของอยู่ที่กูไม่ต้องเป็นห่วง”
“อะไรวะ” คนโปรดรีบถามเมื่อเห็นว่าไทยวางสายเรียร้อยแล้ว
“เสือกจริงนะมึง”
“ตะวัน ไทยพูดไม่เพราะ” คนโปรดหันไปฟ้องตะวัน ชี้นิ้วไปยังไทย
“เฮ้ย!” ไทยเพิ่งคิดได้ “เราไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ้าคุยกับไอ้ปราบเพราะๆ กลัวมันงง”
“เรายังไม่ได้ว่าอะไรเลย” ตะวันหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นไทยร้อนตัว “เรารู้น่าว่าอันไหนควรอนุโลม”
“เป็นไงละมึง” ไทยลอยหน้าลอยตา พูดโดยไม่ออกเสียง
“ว่าแต่ปราบไม่สบายเหรอไทย” ตะวันถามจากสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่
“อืม เป็นหวัดมั้ง”
“ไทยเอาข้าวไปให้ปราบไหม ยังไม่ได้กินอะไรไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวเราทำข้าวต้มหมูสับให้”
“กูควรไปเหรอวะ เพื่อนมันมีตั้งเยอะ โทรกริ๊งเดียวก็ได้มั้ง” ไทยขมวดคิ้วมองตะวัน ต้องการคำปรึกษา
“ควรไปอย่างยิ่งและควรรีบไป” คนโปรดพูดแทรกขึ้น “คิดดูนะ เกิดเป็นไรขึ้นมาบาปนะเว้ย คนอื่นไม่รู้ไม่เป็นไร แต่มึง..เอ้ย..แต่ไทยรู้แล้ว ยังไงก็เพื่อนเตะบอลเปล่าวะ”
“คนโปรดพูดดี” ตะวันชมเพื่อน ปกติเขาไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้ แต่ได้ยินว่าไม่สบายก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ยังไงก็คนรู้จักกัน
“ไปเหอะมึง คราวหน้าเผื่อมีอะไรต้องพึ่งพา”คนโปรดชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมเพื่อน เขาเป็นคนใจดี ขี้สงสารเหมือนตะวัน
“ก็ได้ ตะวันไม่ต้องทำหรอก เดี๋ยวเราแวะซื้อง่ายกว่า” ไทยตัดสินใจจะไป เมื่อได้แรงสนับสนุนจากเพื่อนทั้งสองคน
“คนโปรดจดที่ตะวันอธิบายให้ละเอียด พรุ่งนี้สอนต่อด้วย” เขายังไม่ลืมเรื่องสำคัญ
“เออ ไปเถอะ เดี๋ยวตายซะก่อน” คนโปรดพยักหน้ารับ
“พี่ไปก่อนนะครับหนูดล เอาไว้เจอกันใหม่”
“สวัสดีครับ” เด็กชายดลยกมือขึ้นไหว้ รอยยิ้มสดใส ไทยมองด้วยความชื่นใจ เดี๋ยวนี้ไม่มีหนูดลขี้กลัวอีกแล้ว มีแต่เด็กชายขี้อายที่แสนน่ารักน่าชัง
“มึงอยู่ห้องไหน” ไทยโทรหาปราบเมื่อเดินทางมาถึงอพาร์ตเม้นท์ของอีกฝ่าย “เออ กูอยู่หน้าอพาร์ตเม้นท์เนี่ย”
“อย่าเพิ่งถาม บอกมา”
“โอเค กูกำลังเดินขึ้นไป”
ไทยเคาะห้องสองสามครั้งก่อนประตูจะเปิดออก ร่างสูงยืนหน้าเซียวอยู่หน้าประตู
“ดูไม่ได้เลยนะมึง” ไทยส่ายหัว เดินผ่านเข้าไปในห้อง เขากวาดสายตามองรอบๆ ทำไมห้องถึงเรียบร้อยขนาดนี้วะ
“อะกูซื้อมาฝาก” ไทยส่งถุงข้าวต้มหมูสับให้กับปราบ
“ขอบใจ” ปลายนิ้วร้อนโดนมือของเขาขณะที่เอื้อมมือมารับ ไทยนิ่วหน้า
“มึงตัวร้อน”
“เดี๋ยวก็หาย”
“มึงนี่ดื้อด้านจริงๆ ป่วยขนาดนี้ยังไม่สนใจ ทำไมไม่โทรตามใครมาดูวะ”
“กูก็ตามมึงมานี่ไง”
“อ้าว! มึงเห็นกูเป็นเบ๊เหรอ”
“มึงเป็นคนมีน้ำใจ” ใบหน้าเซียวปรากฏรอยยิ้ม
“ก็ฟังดูดีขึ้นหน่อย มึงเรียกอย่างนี้ถึงจะถูก เพราะกูมาเอง มึงต้องให้เครดิตกู” ไทยทวงความดีความชอบ
“หึๆ”
“กินข้าวแล้วกินยาซะ พารามีใช่ไหม”
“มี”
“อย่าลืมกิน แล้วนี่ของที่พี่เหน่งฝากให้มึง” ไทยวางแผ่นดีวีดีลงบนโต๊ะหนังสือที่อยู่ใกล้มือ เขาเก็บเอาไว้ในรถ จึงถือโอกาสเอาขึ้นมาให้เสียเลย
“กูกลับก่อน พักเยอะๆ กินข้าว กินยา นอน เดี๋ยวก็หาย”
“อยู่ก่อนสิ กินด้วยกัน มึงซื้อมาสองถุงกูกินไม่หมดหรอก” มือร้อนจับข้อมือของเขา ดึงไม่ให้ออกเดิน ไทยลดสายตามองมือที่กำรอบแขนของเขา
“อยู่เถอะ” ไทยสบตาขรึมๆ ของปราบครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ยอมแพ้
“เออ อยู่ก็อยู่ กูก็หิวเหมือนกัน ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไร ออกมาหามึงก่อน ตะวันมันกลัวมึงอดตาย”
“ขอบใจ” เสียงคนพูดแหบ แต่ไทยรู้สึกถึงความอ่อนโยนของน้ำเสียง พอป่วยแล้วเป็นแมวหง่าวเชียวนะมึง
“เดี๋ยวกูเทให้ ถ้วยจานมึงอยู่ไหน” เห็นสภาพคนป่วยแล้ว ไทยคิดว่าเขาทำให้น่าจะดีกว่า
“บนชั้น ข้างอ่างล้างจาน” ไทยหันไปมองตามมือของปราบ
“โอเค มึงนั่งก่อน เดี๋ยวกูจัดการให้” ไทยชี้ไปที่โต๊ะเล็ก มีเก้าอี้อยู่สองตัวอยู่ติดผนัง เดาว่าเจ้าของห้องคงเอาไว้นั่งกินข้าว
ปราบเดินไปนั่งรอเงียบๆ ไทยง่วนอยู่กับการเทอาหาร หันกลับมาอีกที สายตาคมเข้มของปราบจ้องมองเขาอยู่
“มีไร” ไทยเลิกคิ้วถาม “จะเอาอะไรเพิ่มหรือเปล่า”
“ขอน้ำกูแก้วหนึ่ง”
“ไม่มีปากหรือไงวะ ต้องให้ถาม” ไทยถือวิสาสะเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำออกมารินใส่แก้วที่ได้จากบนชั้น
“เรียบร้อย กินได้แล้ว” ไทยวางชามข้าวต้มกับแก้วน้ำให้ปราบ เดินกลับไปหยิบของตัวเองมานั่งลงฝั่งตรงข้าม
“เจ้านี้อร่อย มึงกินเลย”
“อืม” ปราบตักข้าวต้มเข้าปาก ไทยหันมาจัดการข้าวต้มของตัวเอง
“อะไรวะ อย่าบอกว่ามึงอิ่มแล้ว” ไทยนิ่วหน้าเมื่อเห็นปราบทำท่าจะเลิกกิน
“กูไม่ค่อยหิว”
“ไม่ได้ ไม่หิวมึงก็ต้องกิน” ไทยเอื้อมไปจับมือข้างที่ถือช้อนของปราบ บีบเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายคลายมือออก “กูเสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าน้ำมันรถไปซื้อ มึงจะแดกของกูทิ้งขว้างแบบนี้ไม่ได้ เข้าใจไหม”
“หึๆ” ใบหน้าเซียวปรากฏรอยยิ้มขำ ดวงตาเป็นประกายวาววับก่อนจางหายไป
“ตกลงไหม” ไทยถามย้ำ
“ตกลง”
“ดีมาก” ไทยปล่อยมือออก เขาไม่ได้ห่วงเรื่องที่พูดหรอก แต่ขืนกินแบบนี้ไม่มีทางหายป่วย
“ถ้าปากไม่รู้รส ก็อย่าไปคิดเรื่องอร่อยไม่อร่อย ฝืนกินเข้าไปสักครึ่งชามก็ยังดี จะได้กินยา”
“ไทย”
“หือ” ไทยเงยหน้าขึ้นจากถ้วยข้าวต้ม
“กูดีใจที่มีงมา” ดวงตาคมเข้มสบตากับเขา
“เพิ่งรู้เหรอว่าควรโทรบอกให้คนมาดู ทีหลังมึงก็รีบโทรบอกเพื่อน ไม่ใช่ปล่อยจนซีดแบบนี้”
“อืม” ปราบพยักหน้า
“กินให้เสร็จ กูจะได้เก็บล้างให้ มึงกินยาแล้วนอนพักไป เดี๋ยวกูเก็บล้างเสร็จแล้วกูออกไปเอง”
“มึงอย่าเพิ่งรีบกลับ อยู่เป็นเพื่อนกูก่อน กูเบื่อๆ นอนเยอะแล้ว” ไทยสบตาคู่นั้น มันฉายแววเหงาๆ ดูน่าสงสาร เขาโคลงศีรษะไปมาช้าๆ
“มึงนี่พอไม่สบายอย่างกับคนละคน อ้อนฉิบหาย”
“ก็มึงมาให้กูอ้อน”
“กูรู้สึกพลาดแล้วเนี่ยที่มา ตัวอย่างกับยักษ์อ้อนเป็นแมวเลยนะมึง”
“หึๆ อยู่เถอะ ไหนๆ มึงก็มาแล้ว เล่นเกมเป็นเพื่อนกูหน่อย กูเพิ่งซื้อมา ต้องเล่นสองคนถึงจะมัน”
“ไหน มึงซื้อเกมอะไรมา” ไทยตาลุก
“กินให้เสร็จ”
“ได้ทีย้อนกูเลยนะ เออกินก่อนก็ได้ มึงแน่ใจนะว่าไหว เดี๋ยวจะมาโทษกู”
“กูไหว”
“ก็ได้ อยากพักตอนไหนก็บอกกูแล้วกัน กูจะได้กลับ” ไทยคิดว่าพักจากเรียนบ้างก็ดี อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์เขาเรียนหนักมาก
“ตกลง”
สายตาที่มองมาไม่เหมือนเคย มันอ่อนแสงลงมาก ไทยเชื่อแล้วว่าคนป่วยมักงอแง ดูอย่างผู้ชายขรึมๆ อย่างปราบสิ ใครจะคิดว่าจะทำตัวขี้อ้อนได้ขนาดนี้ ไอ้บ้าเอ๊ย ไทยเผลอยิ้มกว้าง เหงาก็เสือกไม่โทรตามเพื่อน เก๊กอยู่ได้
✪✣✤✥✦TBC✤✥✦✧✪
ขออนุญาตแจ้งข่าวค่า :
1.Hi Stranger ไง! คนแปลกหน้า เปิดพรีออเดอร์แล้ว ถึงวันที่ 28 มีนาคมนี้ (อีก 4วัน) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจของสนพ. Link >>
Deep Publishing 2.Beside ใกล้.ชิด.รัก เปิดพรีออเดอร์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจของสนพ.ค่า Link >>
Marinebooks ขอบคุณมากค่า ^^
.
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin