บทที่16
ในที่สุดหนังก็จบสักที
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผมนั่งอยู่ในโรงหนังเป็นเวลาสองชั่วโมงกว่าๆ แต่รู้สึกเหมือนนั่งมาสองทศวรรต แถมถามว่ารู้เรื่องไหม ก็คือพูดเลยว่าไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง หนังผีที่ผมเองก็กลัว แต่ตอนนั่งอยู่นั่นไม่ได้กลัวอะไรเลย กลัวแค่อย่างเดียว
คือกลัวร้องไห้
“วันนี้หนังน่ากลัวมากๆเลยครับ ข้าวโพดกลัวจัง กลัวว่าคืนนี้จะนอนไม่หลับมากๆเลยครับ”
เสียงใสที่เดินนำอยู่ด้านหน้าของผมกับชายร่างสูงคนที่ผมรัก กับเพื่อนที่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เขาสองคนที่คุยกันอย่างออกรสออกชาติอยู่ตอนนี้
“ไม่เห็นจะน่ากลัว”
“น่ากลัวสิพี่ทัพอ่ะ” ว่าแบบนั้นก็ยื่นมือไปตีแขนแกร่งนั่นหน่อยๆ
“โอ๊ะ ขอโทษครับ โพดชิน”
มันที่ว่าแบบนั้นแล้วก้มหน้าลงต่ำเม้มปากหน่อยๆ ไอ้ทัพหน้าที่หันมามองหน้ามันนิ่งๆ ผมที่กำลังรอดูว่ามันจะทำอะไรต่อ จริงๆผมอยากให้มันด่าโพด ต่อยโพดไปซะที่อยู่มาตีมันแบบนั้น ดูเลวไหม แต่ใจผมก็อยากให้มันทำแบบนั้น แต่ความจริงกับความฝัน ก็มักจะสวนทางกันเสมอ
“ไม่เป็นไร ไม่เจ็บ”
“เหอะ” ข้าวโพดกับไอ้ทัพที่หยุดเดินแล้วหันมามองทางด้านหลัง หลังจากที่ได้ยินเสียงนั้น แต่โทษทีผมไม่ได้ทำนะ
“โทษทีพี่ทัพ แจรู้สึกคันคออ่ะ อยากจะอ้วก” ไอ้แจที่ว่าออกมาแบบนั้น สายตามันที่ดูจะหงุดหงิดหน่อยๆมองไปที่พี่ของมัน
“พี่เมลรู้สึกอยากจะอ้วกเหมือนแจไหม สงสัยหนังหน้าผีทำพิษ ไปหาซื้อน้ำกันดีกว่าฮะ”
มันที่หันมาถามผมด้วยน้ำเสียงร่าเริง ก่อนที่ฝ่ามือน่ารักของมันจะตรงมากอดแขนผมแล้วลากออกไปจากตรงนี้ด้วยกัน...ก็ดีนะ ผมไม่รู้สึกอยากจะอยู่ตรงนี้ต่อไปอีกแล้ว เพราะแบบนั้นเลยเดินตามแรงดึงของมันมาแบบไม่อิดออด
“เหอะ”
“เป็นไรไอ้แจ ฟึดฟัดจังวะ” ผมถามมันตอนที่เรานั่งลงในโต๊ะหลังจากที่สั่งน้ำกันไปแล้วคนละแก้ว
“แจน่าจะถามพี่เมลมากกว่าไม่ใช่หรอ ว่าทำไมถึงยังทำหน้านิ่งไม่ติงไหวแบบนี้ได้อีกอ่ะ” ผมเงียบตอนที่น้องมันถามออกมาแบบนั้น มันที่จ้องผมนิ่งๆอย่างรอคำตอบ
“แล้วพี่จะทำอะไรได้ พี่ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ”
เงียบไปหลายนาทีก่อนจะยอมพูดออกไป และสิ่งที่ได้ตอบกลับมาก็คือเสียงติ๊ปากแบบขัดใจของไอ้เด็กข้างๆ
“ทำไมจะไม่มีอ่ะ ขัดใจจริงๆเลย”
“จริงๆพี่ว่าแจก็น่าจะรู้ว่าพี่มาอยู่กับไอ้ทัพเพราะเรื่องอะไร”
“แจรู้”
“แล้วถ้ารู้ ทำไมถึงยังมาถามอะไรแบบนี้ล่ะ เราไม่เกลียดพี่รึไง”
“ทำไมแจต้องเกลียดด้วย แจไม่คิดว่าพี่เมลเป็นคนวางแผนฆ่าพี่ณราชาหรอก” มันที่ใช้ดวงตากลมโตของมันจ้องมองมาที่ผมแล้วพูดออกมาอย่างจริงจัง
“ทำไมล่ะ?”
ผมถามมันกลับออกไปอย่างไม่เข้าใจ ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนทำ แต่แค่สงสัย ว่าทำไมเด็กแบบไอ้แจ คนที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับผมมากมายเท่าไหร่ ทำไมมันถึงมีความคิดแบบนั้น
“แจมั่นใจ ว่าพี่เมลไม่ได้ทำหรอก ... เอาจริงๆไหม คนที่กล้าทำเรื่องแบบนั้นที่ไหนเค้าจะมาทนอยู่กับคนใจร้ายแบบพี่ทัพได้กันล่ะ ถ้าคิดวางแผนทำนู่นนี่นั่นได้ขนาดนั้น ก็คงไม่ยากหรอกถ้าคิดจะหนีคนแบบพี่ทัพ”
“.....บางทีมึงก็ฉลาดกว่าไอ้ทัพเยอะเลยนะ” ผมเงียบไปสักพักก่อนจะว่ามันออกมาแบบนั้น
“ไม่หรอก ผมว่าพี่ทัพก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอก”
“ห๊ะ มึงว่าอะไรนะ...” หันไปถามมันแบบงงๆเพราะเมื่อกี้ไม่ได้ฟังมัน จริงๆคือสายตาก็ยังพยายามมองออกไปนอกร้าน แต่ดันมองไม่เห็นพวกไอ้ทัพ
“เปล่าหรอก แจไม่ได้พูดอะไรนี่นา เอ๊ะ มาแล้วนี่นา เค้กแจจ้า” ร่าเริงทันทีทั้งที่เมื่อกี้มันยังหน้าบูดหน้าเบี้ยวอยู่เลย พอเห็นเค้กเท่านั้น สีหน้าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนกันเลยทีเดียวครับ
“ไอ้แจ”
“ว่างายครับบบบบบ”
“กูถามจริงๆนะ”
“ได้เลยถามจริง ตอบจริงจ้า”
“นี่มึงมีกระเพราะหรือมึงมีหลุมดำอยู่ในร่าง”
ถามออกไปแบบนั้น จากหน้าตาร่าเริงก็เปลี่ยนเป็นหงิกทันที ปากเล็กๆของมันยื่นออกมา ก่อนจะมองค้อนผมหน่อยๆ เอ้อ...ไอ้เด็กนี่มันก็น่ารักดีนะ เห็นแบบนี้ก็อดที่จะยื่นมือไปหยิกแก้มมันไม่ได้
“งื้ออออ เจ็บๆน้า”
“ฮ่าๆๆๆ”
“โอ๊ะ...อยู่นี่กันนี่เองฮะพี่ทัพ ดูสิๆ เมลเล่นกับน้องน่ารักมากๆเลยฮะ”
เสียงใสๆที่ทำให้ทั้งผมและไอ้แจหยุดแกล้งกันแล้วหันไปมอง ไอ้โพดที่ลากแขนไอ้ทัพเข้ามาใกล้ วงแขนแข็งแกร่งที่ครั้งนึงมันเคยโอบกอดตัวผมไว้ ตอนนี้มันกลับให้ไอ้โพดที่มันพึ่งเจอกันไม่เท่าไหร่แตะต้องได้โดยไม่บ่นสักคำ ผมมองหน้ามันที่อีกฝ่ายก็จ้องตรงมาที่ผมเช่นกัน
“โอ๊ะน่ากินจัง เรากินกันได้ไหมฮะพี่ทัพ”
ไอ้โพดที่มองจานเค้กของไอ้แจพร้อมเกาะแขนไอ้ทัพแล้วว่าออกมาแบบนั้น ทัพหน้าที่ไม่ได้หันไปมองข้าวโพดอะไร สายตาของมันที่จ้องตรงมาที่ผม มันที่แค่เดินนำเข้ามาแล้วลากโต๊ะมานั่งด้วยกัน ไอ้อู๋กับไอ้บินไม่ได้ตามมาด้วย ไม่รู้หรอกว่ามันหายกันไปไหน แต่นั่นไม่สำคัญเท่าไหร่
“น่ากินจัง อยากกินอันนี้จังฮะ”
“ก็กินสิ”
“ไม่ได้ อันนี้ของพี่เมล” ไอ้แจที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วว่าตาขวาง
“อ่า .... น้ำนี่ใช่ชานมเผือกไหม น่ากินจัง”
“อันนี้ก็กินไม่ได้ของพี่เมล”
“อ่า...เมล เราขอกินด้วยได้ไหมอ่า” ไอ้โพดที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยื่นมือมาจับที่แก้วขานมไข่มุกเผือก จริงๆแล้วของพวกนี้ผมไม่ได้เป็นคนสั่งหรอก ไอ้แจมันก็แค่พูดไปแบบนั้น แต่ไม่รู้ทำไม พอไอ้โพดมันบอกว่ามันอยากกิน มันอยากได้ มือของมันเอื้อมมาแตะแก้วนั่น ไม่รู้ทำไม...จริงๆมันก็เป็นแค่น้ำแก้วเดียว เป็นแค่น้ำแก้วเดียว
แก้วเดียวก็ไม่ได้!
ผมที่เอื้อมมือไปคว้าแก้วน้ำแก้วนั้นแล้วกระชากกลับมา สายตาที่มองมันแบบไม่ยอม แว๊บนึงที่ผมเห็นมันชักสีหน้า แต่ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็ปล่อยมือออกจากแก้วของผมพร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยยนเป็นตกใจก่อนจะยิ้มแหยๆออกมา ก้มหน้าหน่อยๆก่อนจะเงยหน้าไปมองหน้าไอ้ทัพหน้าแล้วยิ้มบางๆให้
“อ่อ เดี๋ยวโพดไปสั่งใหม่ก็ได้ เมลคงชอบมาก”
“
ใช่ กูชอบ ของบางอย่างอ่ะนะไอ้โพด มันก็แบ่งกันแดกไม่ได้ มึงจำเอาไว้”
ไม่รู้เพราะอะไรผมถึงพลั้งปากออกไปแบบนั้นพร้อมจ้องหน้ามันเขม็ง ไอ้โพดที่เม้มปากน้อยๆ พยักหน้าให้ผมพร้อมทำหน้าสลด
“อ่า งั้นเดี๋ยวเราไปสั่งใหม่เองก็ได้”
มันที่ว่าแบบนั้นพร้อมๆกับเตรียมลุกออกจากเก้าอี้เดินไปสั่ง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนร่างสูงที่ก่อนหน้านี้นั่งมองเหตุการณ์อยู่เงียบๆพูดขึ้น
“จะสั่งใหม่ทำไม ของตั้งเยอะตั้งแยะ แบ่งกันก็ได้” มันที่ว่าออกมาแบบนั้น ไอ้โพดที่หันมามองหน้าผมสลับกับหน้าไอ้ทัพ
“ไม่เป็นไรครับพี่ทัพ เดี๋ยวโพดไปซื้อเองดีกว่า”
บอกออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มหน่อยๆ ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันเป็นยิ้มตอแหล ในจังหวะที่มันก้าวออกจากโต๊ะ ขาของผมก็ยื่นไปคั่นมันไว้ซะก่อน ไอ้โพดที่สะดุดแล้วล้มหน้าคมำไปข้างหน้า ไอ้ทัพที่เบิกตากว้างขึ้นหน่อยแบบตกใจนิดๆแต่ก็ยังไม่หลุดมาดของมัน แต่ฝ่ามือหนาที่หากอยากจะคว้าแขนข้าวโพดไว้หน้ามันก็คงไม่ถลาไปหาอีกโต๊ะ แต่ทัพหน้าก็แค่ปล่อยเฉย ได้แต่มองแบบไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็เลือกจะปัดทิ้ง
‘พลัก’
แก้วชานมเผือกที่กระจายเกลื่อนไปตามพื้นเพราะแรงปัดแก้ว คาราเมลที่ลุกขึ้นยืนพร้อมๆกันในจังหวะนั้น สร้างความตกใจให้กับคนทั้งสามไม่น้อย
“โอ๊ะ”
“เมล”
ทัพหน้าที่เรียกชื่อร่างบางออกมาแบบนั้นติดด้วยเสียงดุๆ ก่อนฝ่ามือแกร่งจะเอื้อมไปจับแขนเรียวไว้ด้วยแรงไม่น้อย สายตาคมที่จ้องคาราเมลดุๆ แต่คนตรงหน้าแค่บิดมือออกจากวงแขนแกร่งแล้วพูดออกมาว่า
“โอ๊ะ โทษทีนะโพด พอดีลุกไวไปหน่อย จะคว้าแก้วน่ะ ขาเลยไปเตะโดนมึง โทษที”
ว่าออกมาแบบนั้นด้วยสีหน้านิ่งๆ ก่อนที่จะบิดข้อมือเล็กออกจากฝ่ามือของคนตัวหน้านิ่งๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นเอาดื้อๆ
ร่างบางที่เดินออกมายกยิ้มกับตัวเองหน่อยๆ...ใครว่าผู้ชายตอแหลไม่ได้ ไม่เคยเห็นผู้ชายตอแหลเมียหรอ เยอะแยะ...แล้วผมนี่ไง หนึ่งในการตอแหลก็พึ่งทำสดๆร้อนๆเลย ใครว่าจะลุกไว กูตั้งใจขัดขามึงเลยนี่แหล่ะอิเหี้ย
คิดแบบนั้นในใจแล้วก้าวเดินไวๆจ้ำพรวดๆออกมา ใจนึงก็เหมือนจะสะใจ แต่อีกใจกลับตรงกันข้ามสะเหลือเกิน ได้แต่กำมือแน่นๆ ความรู้สึกน้อยใจที่มีต่อทัพหน้าแล่นขึ้นมากระแทกใจไปหมดแล้ว
.
.
.
‘ผลึบ’
“เป็นบ้าอะไร ทำบ้าอะไรของมึง”
เสียงเข้มที่มาพร้อมฝ่ามือแกร่วที่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทัพหน้าที่ตอนนี้เดินเข้ามาประชิดตัว พร้อมฝ่ามือแกร่งที่กอบกุมต้นแขนของผมอยู่ ได้แต่เสตาหลบหน้าอีกฝ่าย ไม่อยากพูดอะไรด้วยแล้วในตอนนี้ ไม่อยากทำแม้กระทั่งมองหน้าของมัน
กลัว
กลัวจะเผลอร้องไห้ออกมาอีก
ยิ่งคำพูดของมันที่กำลังต่อว่าผมในตอนนี้ด้วยแล้ว ได้แต่เม้มริมฝีปากแน่นๆจนมันเจ็บ อย่าร้องนะมึง ทุกวันนี้มึงก็เหมือนตัวตลกมากพอแล้ว
“ไอ้เมล กูรู้นะว่ามึงตั้งใจสกัดขาโพด แล้วยังปาแก้วน้ำนั่นอีก” มันที่ว่าออกมาแบบนั้น แต่ผมก็ยังเงียบ
“แล้วนี่มึงคิดจะเดินไปไหน กล้าดียังไงเดินหนีกูห๊ะ มึงคิดจะหนีกูรึไง”
คนตรงหน้าที่ว่าออกมาด้วยน้ำเสียงติดจะโมโห และคาดว่าจะโมโหจริงๆ เมื่อแรงบีบมือเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเมลรู้สึกเจ็บ ได้แต่นิ่วหน้าเพราะความเจ็บแต่กลับไม่ปริปากบอกแม้แต่น้อย เป็นนิสัยที่ต่อให้เจ็บแค่ไหนก็จะร้องไห้อยู่เงียบๆคนเดียว ก็เป็นแบบนี้มาตลอด
“ไอ้เมล อย่ากวนกูนะมึง”
“กูทำอะไรก็ไม่ถูกใจมึงไปหมดนั่นแหล่ะ ใครมันจะไปถูกใจมึงเหมือนไอ้โพดวะ แล้วปล่อยกู กูคงบินหนีเงากรรมแบบมึงได้หรอกนะ เพราะไม่ว่ายังไง มึงก็ไม่คิดจะปล่อยเชลยแบบกูอยู่แล้วนี่”
“หึ ดีรู้ตัวก็ดี แล้วนี่เป็นเหี้ยอะไร ทำหน้าตาให้มันดีๆ ทำนิสัยเสียชิพหาย รู้ตัวบ้างไหมวะ”
เมลที่ช้อนตามองคนร่างสูงที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยความน้อยใจ น้ำตาจะไหลอยู่ร่อมรอ ทัพหน้าที่พอจะจับสังเกตได้ หันมองคนที่จ้องตัวเองอยู่ก่อนแล้ว แล้วก็ต้องชะงักไปหน่อยนึง
“มองอะไร แล้วมองกูแบบนั้นทำไมวะ”
“เปล่า” เลือกที่จะเบือนหน้าหนีแล้วตอบกลับเสียงเบา พยายามกระพริบตาถี่ๆเพื่อไม่ให้น้ำตาที่เอ่ออยู่ตรงหน่วยตาไหลออกมาในตอนนี้
“ทำไม...อย่าบอกว่ามึงน้อยใจกู?”
“เหอะ กูมีสิทธิ์รึไง”
“ก็ฉลาดดีนี่ที่รู้”
“........อืม”
ได้แต่แค่นเสียงตอบรับออกมาน้อยๆอย่างยากลำบาก ได้แต่ก้มหน้าลงต่ำไม่มองหน้าคนร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างตัว คิดว่าในตอนนี้มันรับไม่ไหวจริงๆ น้ำตาใสที่พยายามแล้วพยายามอีกที่จะไม่ยอมให้มันไหลออกมา ในที่สุดก็ไหลลงมาอย่างไม่อาย ทั้งๆที่ตอนนี้เจ้าตัวยืนอยู่ในลาดจอดรถที่พลุกพล่านแท้ๆ
“แล้วนี่เงียบทำไม เป็นเหี้ยอะไรอีก”
ทัพหน้าได้แต่ถามออกมาแบบนั้นอย่างไม่เข้าใจ มองมาที่คนข้างๆตัวที่ตอนนี้เอาแต่ก้มหน้า หากแต่พอมองดูดีๆ ไหล่บางนั่นกลับสั่นเทา
“นี่มึง...ร้องไห้หรอวะ”
“อึก มึงจะมาตามกูกลับไปขอโทษโพดก็ ฮึก ไปสิ จะมา...ฮึก ถามเหี้ยอะไร อึก”
ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับพยายามจะกลั้นสะอื้น แต่ยิ่งพยายามก็ยิ่งร้องไม่หยุด ก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้
“ใครบอกว่ากูจะมาตามมึงไปขอโทษมัน นี่น้อยใจคิดเหี้ยไรอีกล่ะ”
“ฮึก...”
“หยุดร้องไอ้ห่า คนมองหมดแล้ว”
“ฮึก ฮื่ออ กูมันหยุดไม่ได้นี่ กูเสียใจไอ้เหี้ย ฮึก ฮื่อออ”
ในที่สุดเขื่อนก็แตก เงยหน้าขึ้นมาเถียงคนร่างสูงตรงหน้าทั้งน้ำตา ได้แต่ร้องไห้ออกมาแบบไม่อาย มองเห็นร่างสูงจากม่านน้ำตาที่พล่าเบลอ เหมือนมันจะตกใจไม่น้อยที่เห็นผมเป็นแบบนี้ คิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันจนเป็นปมแน่น
“ฮื่ออ มึงก็รู้ว่ากูชอบมึง ฮึก ก็ใจร้ายจังไอ้เหี้ย ฮื่ออ อะไรที่กูไม่ได้ทำ ฮึก ก็โยนให้อยู่ได้ ฮึก แล้วยัง...ฮึก ฮื่ออ”
“พอๆๆ ร้องเหี้ยไรเนี่ย หน้าเละหมด” มันที่ถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอดไว้แนบอก ฝ่ามือหนาที่ยกขึ้นมาตบหัวผมปุๆ
“ชู่วว เงียบน่า จะน้อยใจเหี้ยอะไรเนี่ยเมล”
“น้อย ฮึก ใจ แล้วไง ฮึก มึง มึงก็ไม่ได้ง้อนี่ ฮึก”
ว่าออกมาด้วยเสียงขาดห้วงแต่ก็ยังคงเอามือกอดคนตรงหน้าแน่นๆ หัวทุยเล็กซุกลงไปที่อกแกร่งแล้วสะอื้นฮัก ทัพหน้าที่ถอนหายใจหน่อยๆแต่ก็ไม่ยอมปล่อยอ้อมกอดคนตรงหน้า
“แล้วที่กูทำอยู่นี่เรียกว่าอะไร อย่าโง่ให้มาก”
“เอ๊ะ พี่ทัพฮะ”
“อ้าวพี่ทัพ พี่เมลของแจเป็นอะไรไปอ่า”
เสียงสองเสียงที่ผมจำได้ดีว่าคือเสียงของใครดังขึ้นมา คาดว่าไอ้โพดกับแจน่าจะตามมา ผมพยายามที่จะดันตัวออกในตอนที่เริ่มมีสติกลับมาหลังจากที่ร้องไห้ไปหนักพอสมควร เลยปล่อยมือจากเอวแกร่งและพยายามดันออกมา แต่ติดตรงที่ว่าฝ่ามือแกร่งที่โอยเอวผมไว้แน่นข้างนึง ส่วนมืออีกข้างก็กดหัวผมไว้แน่นๆไม่ยอมให้เงยหน้าขึ้นมาจากอกแกร่งนี่สิ
“ไม่มีไรหรอก เด็กมันงอแง”
“ห๊ะ เมล...เอ่อ หมายความว่าไงหรอฮะ”
“พี่ทัพแกล้งพี่เมลของแจหรอ ตีนะ”
“หึ เด็กมันดื้อ พี่กลับก่อนนะแจ จะพาเด็กไปนอน”
มันที่พูดออกไปแบบนั้น และไม่ได้ตอบกลับข้าวโพด ผมไม่แน่ใจว่ามันต้องใจเมินคำถามของข้าวโพด หรืออะไรกันแน่ แต่มันที่ไม่ตอบโพดแต่เลือกที่จะตอบไอ้แจแทนแบบนั้น ไม่เข้าใจจริงๆว่ามันกำลังทำอะไร รู้ตัวอีกทีฝ่ามือใหญ่ก็ดันผมให้ยืนดีๆ มันที่เอื้อมมือมาจับมือผมแล้วดึงให้เดินไปขึ้นรถด้วยกันซะแล้ว แว๊บนึงที่ผมหันกลับไปมองข้าวโพด ไม่รู้ว่าตาฝาดหรือเปล่า แต่สายตาของมันที่มองมาที่ผม ไม่ได้เรียกว่าเป็นมิตรเหมือนเก่าแน่ๆในตอนนี้
...
“อย่าทำตัวแบบวันนี้อีก มึงเป็นเด็กมีปัญหาหรือไง”
ร่างสูงที่ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตออกที่ละเม็ดช้าๆ ว่าพรางมองคนร่างบางที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ดวงตาใสบวมช้ำหน่อยๆเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักตั้งแต่อยู่ที่ห้าง จนขึ้นรถกลับมาที่บ้านมันก็ยังเอาแต่ซึม ไม่รู้จะเศร้าเหี้ยอะไรนักหนา
“ยัง ยังจะมาค้อนกูอีก เดี๋ยวกูตบนะเมล”
“ไม่ต้องมายุ่ง” มันที่ว่าออกมาแบบนั้น จ้ำพรวดๆเดินไปที่เตียง นี่คือฤทธิ์ของลูกชายคนเล็กของบ้านหรเวชภูวดลสินะ
“เดี๋ยวมึงจะโดนดี ไม่ต้องมามุดผ้าห่มหนีเลยนะมึง วันนี้มึงทำนิสัยแย่มากนะเมล”
ทัพหน้าที่เดินเข้าไปยืนใกล้ๆข้างเตียง คนร่างบางที่เห็นแบบนั้น ก็หดตัวลงไปนอนในผ้าห่มนวมแล้วพลิกตัวหันหน้าหนี
“ทำไมอ่ะ กูไม่ได้ปาชานมเผือกใส่หัวเด็กมึงนี่”
ว่าออกมาแบบค่อนขอดแบบนั้น พรางยื่นปากเล็กออกมาอย่างเอาแต่ใจ ทัพหน้ารู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร แต่ถึงแบบนั้นก็ยังว่าต่อ
“ยังพูดไม่รู้เรื่องอีกนะ นิสัยเสีย”
“แล้วจะว่าอะไรนักหนาอ่ะ ว่าอยู่ได้!”
กระชากเสียงใส่พร้อมกระชากผ้าห่มออกจากตัวแล้วคนร่างบางก็เด้งตัวลุกขึ้นมานั่งทั้งๆที่หัวฟูจากการมุดผ้าห่ม หน้าตาที่ตอนนี้ติดจะหงุดหงิดบึ้งตึงมากเป็นพิเศษ มองมาที่ทัพหน้าอย่างเอาแต่ใจติดจะปนน้อยใจอยู่ในที
“แล้วมึงทำมันถูกไหม”
“เอ้อ กูจะทำถูกได้ไง ก็กูมันนิสัยเสียนี่”
“ไอ้เมล!”
ทัพหน้าที่ตะคอกออกมาดุๆเพราะคนตรงหน้าเริ่มจะงอแงและดื้อดึงขึ้นมาแล้วในตอนนี้ ฝ่ามือแกร่งกระชากแขนเรียวให้หันไปมองหน้าตนเอง เมลเองที่พอโดนตะคอกออกมาแบบนั้นก็เม้มปากเงียบในทันที
“กูไม่ได้ว่าที่มึงจะสกัดขามัน แต่กูว่าที่มึงปาแก้วน้ำลงไปบนพื้นแบบนั้น”
“กูเป...”
“กูไม่โง่”
จ้องตาดุกับเด็กตรงหน้าที่ตอนนี้พยายามจะเถียงออกมา คาราเมลที่โดนจ้องตาดุแบบรู้ทันก็ได้เม้มปากหลบสายตา
“มึงทำแบบนั้น รู้บ้างไหมว่าพนักงานในร้านเค้าเดือดร้อน ตอนที่มึงเดินตัวปลิวออกไปคนอื่นๆเค้าก็ต้องวิ่งมาเก็บมาเช็ด หัดใส่ใจซะบ้าง การกระทำแบบไม่คิดของมึงมันทำให้คนทำมาหากินคนอื่นเค้าเดือดร้อน และยังไปเพิ่มภาระให้กับเค้าอีก”
ทัพหน้าที่ว่าออกไปแบบนั้น กอดอกแน่นมองเด็กดื้อที่ตอนนี้ทำหน้าสลด เค้ารู้หมดนั่นแหล่ะว่าเมลมันคิดมันรู้สึกอะไร แต่การกระทำของมันทำให้คนอื่นเดือดร้อน เพราะความเป็นเด็กคิดน้อยของมัน และเขาเองก็ไม่อยากให้มันกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจไม่น่ารักแบบนั้นด้วย
“มึง...”
“อะไร”
“มึงไม่ได้โกรธที่กูทำโพดหรอ”
ดวงตาใสช้อนตาขึ้นมามองหน้าเขา มันที่ถามออกมาแบบนั้น ทำเอาทัพหน้าต้องถอนหายใจหนักๆ ก่อนนิ้วเรียวแกร่งจะจิ้มผลักไปกลางหน้าผากจนคนร่างบางหงายลงไปนอนแผ่ที่เตียงอีกครั้ง
“ได้ฟังที่กูพูดไปไหม หูมึงนี่มีไว้แค่ประดับรึไงไอ้โง่ กูพูดถึงเพื่อนมึงสักคำรึยัง”
จ้องมันกลับไปดุๆแบบไม่พอใจ แต่พอบอกออกไปแบบนั้น คนที่นอนแผ่หัวกระเซิงอยู่กลางเตียงก็หลุดยิ้มออกมาแบบไม่มีสาเหตุซะงั้น
“ไอ้เมล”
“รู้แล้วน่า ดุจังเลย”
ว่าออกมาเสียงอ่อน แต่ก็ยิ้มกว้างๆส่งมาให้คนร่างสูงที่ยืนมองอยู่ข้างเตียง ก่อนจะรู้สึกว่าหน้าใสเริ่มขึ้นสีแปลกๆ คนร่างสูงกระตุกยิ้มร้ายๆเมื่อก้มมองสภาพตัวเอง อกแกร่งที่เผยให้เห็นพร้อมๆกับซิกแพคหกลูกที่กระแทกสายตาเพราะตอนนี้ทัพหน้าถอดเสื้อออกหมดตอนเดินมาคุยกับคนร่างบาง ก่อนหน้านี้เหมือนว่าจะไม่สนใจเพราะมัวแต่เถียง แต่ตอนนี้คนร่างบางดูเหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นแปลกๆจึงพึ่งเห็นสภาพของทัพหน้า
“หึ”
“ขะ...ขำไร รู้แล้วน่าว่าทำไม่ดี กูจะไม่ทำอีกแล้วน่า ไปไหนก็ไปไป๊”
ว่าออกมาแบบนั้นพรางยกมือขึ้นไล่ร่างสูงเพราะเหมือนเห็นสายตาร้ายๆของอีกคนเข้าให้ คาราเมลที่เริ่มจะรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยพยายามจะหนี
“เดี๋ยว มึงคิดว่ากูจะไม่ลงโทษคนในปกครองกูรึไง”
“ห๊ะ อะ...อะไรเล่า”
“มานี่”
“อ๊ะ ทัพพพพพ”
ร้องออกมาเสียงหลงตอนที่ถูกจับข้อเท้าเอาไว้ แล้วดึงให้นอนหงายแผ่หลาอยู่กลางเตียง คนร่างสูงที่กระโจนขึ้นมาคล่อมทัพกันเอาไว้ ความรู้สึกไม่ต่างจากตอนที่โดนไอ้เชอร์รี่กระโจนใส่สักนิดเดียว ดวงตาสวยที่ช้อนตามองคนบนตัวของตัวเอง ดวงตาวาววับแสนเจ้าเล่ห์ของทัพหน้าที่ก้มมองลงมาทำเอาใจสั่น
“ทะ...ทัพ”
“ดื้อนัก ดื้อเก่ง”
“กู กูเปล่า”
“จำเอาไว้ว่าอย่าทำแบบนี้อีก”
“รู้แล้วไง บอกแล้วไงว่าจะไม่ทำอ่า ปล่อยดิ”
“กูหมายถึงจะไม่เดินหนีกูอีก เพราะมึงควรรู้เอาไว้ ว่ามึงหนีกูไปไม่พ้น...และที่สำคัญ มึงหนีใจตัวเองไม่พ้นหรอกเมล”
“อ๊ะ...อื้มมม”
ดวงตากลมโตที่เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจเพราะคำพูดของคนตรงหน้า คนตรงหน้าที่ว่าจบก็ประกบจูบลงมาพร้อมๆกับขบเม้มอย่างหนักหน่วงสลับหนักเบาลงมาอย่างคุ้นชิน ฝ่ามือหนาที่เลื่อนขึ้นมาลูบไล้ไปที่ลำคอขาว หัวแม่มือที่ลูบไล้เบาๆทำเอาขนลุกซู่จนต้องจิกปลายเท้า
“อื้มม”
ครางออกมาเบาๆเมื่อมืออีกข้างของอีกฝ่ายลากไล้ไปตามลำตัวของร่างบาง ทัพหน้าที่ถอนจูบออกมาก่อนจะผละไปขบเม้มตามลำคอขาว ลิ้นร้อนลากไล้ตวัดเลียไปมาจนคนร่างบางขนลุกซู่ คนตัวสูงที่ค่อยๆจัดการแหวกสาบเสื้อชุดนอนเนื้อบางเบาของคาราเมลออก ก่อนริมฝีปากร้อนจะตรงไปครอบครองตุ่มไตสีชมพูที่ล่อตาล่อใจ ขบเม้มเบาๆ มืออีกข้างก็เลื่อนไปลูบและบีบดึงเบาๆอีกข้างอย่างเท่าเทียม
“อ๊ะ ทัพ”
“นมมีแค่นี้ก็ดูดมันดีนะ”
“อ๊ะ อื้อออ”
ได้แต่ร้องครางออกมาอย่างอายๆ พร้อมทั้งสะดุ้งแอ่นอกขึ้นมา ตอนที่ถูกร่างสูงว่าแบบนั้นแล้วขบกัดดึงหัวนมสีสวยเล่นอย่างตั้งใจแกร่ง ทัพหน้าที่เห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มชอบใจที่ได้แกล้งอีกฝ่ายได้
ฝ่ามือร้อนที่สอดเข้าไปใต้กางเกงตัวบาง เลื่อนมือไปลูบไล้แกนกายน่ารีกที่ตอนนี้เริ่มจะสู้มือ ไม่ต่างจากร่างสูงที่ตอนนี้ก็เริ่มแข็งชันอึดอัดไปหมด ในจังหวะที่เลื่อนมือลงไปที่กางเกงเตรียมจะดึงรั้งให้หลุดลงไปกองที่ข้อเท้า
‘แกร๊ก’
“เฮียยยยยยย หายไปไหนคนที่บ้านเป็นห่ว....เชี่ย! โคตรขาว!!”
เสียงของผู้มาใหม่ที่ทำเอาทั้งผมและไอ้ทัพหน้าสะดุ้ง คนร่างสูงที่ชะงักฝ่ามือแต่ยังคล่อมทับบังตัวผมไว้แบบนั้น ก่อนจะหันหน้าไปมองคนมาใหม่ที่ยืนมองตาเหลือกเกาะประตูอยู่ตรงนั้น...
ตรงนั้นในชุดเสื้อคลุมอดิดาสสีเหลือง
“มองเหี้ยอะไรไอ้สัดรบ!”
‘พรึบ’
‘ปัง’
เสียงเข้มที่ตะคอกออกไปแบบนั้นพร้อมหมอนที่ถูกขว้างออกไปอย่างแรง และตามมาด้วยเสียงปิดประตูจากคนที่เราไม่ได้รับเชิญ
ฉิพหาย!
กูอายโว้ยยยยยยย
---------------
มาแล้วจ้าาาา คิดว่าจะมาไม่ได้ซะแล้ว แต่คนอ่านบอกว่า ยังไงก็ต้องลง เพราะฉะนั้นเลยมาลง ถ้าตอนนี้ไม่สนุกแคทขออภัยด้วยนะคะ แคทหวังว่าคนอ่านจะชอบไม่มากก็น้อย แคทดีใจมากๆกับคอมเม้นท์ในตอนที่ผ่านมา
มันเยอะมากจนแคทตกใจ ไม่รู้ตอนนี้คนอ่านจะยังอยู่ไหม แต่หวังว่าทุกคนจะชอบและตบไปด้วยกัน แค่กๆๆ
ไม่แน่ใจว่าอ่านตอนนี้คนอ่านจะอยากตบใครระหว่างข้าวโพดกับอิพี่รบ
จ้าาา
พี่นักรบจากNo Limitแรงรัก มาแล้วจ้าาาาาาาขอขอบคุณ คุณtae1234 น้องเมลออกจากโรงหนังมาแล้วนะคะในตอนนี้ โง้ววววว มาอ่านอีกน้าาาา
ขอขอบคุณ คุณiceman555 ใครรร ใครเป็นตัวร้ายที่แท้จริง ในจุดๆนี้คิดว่าพี่รบค่ะ ฮ่าาาาา
ขอขอบคุณ คุณblove งื้อออ คอมเม้นท์ยาวๆสะท้านอารมณ์ แคทหวังว่าจะมาอ่านตอนนี้อีกนะคะ หวังว่าจะชอบนะคะ ส่วนในตอนนี้ยังไม่มีบินกุ๊ก แต่มีพี่ทัพคนรว๊ายยยๆ เอิ๊ก ฝากพี่เค้าไว้ในหัวจิตหัวใจด้วยจ้าา ส่วนในตอนใหม่นี้แคทให้เลือกว่าจะตบใครระหว่างข้าวโพดและอิพี่รบจ้า 55555 แคทหวังว่าจะชอบนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
ขอขอบคุณ คุณursleepingxd คุณยู คุณยูผู้หลงรักน้องหลง ขอเก็บน้องไว้สักตอน2ตอน เอาให้น้องไปร่าเริงกับผู้ เอ้ย กับพี่รี่ก่อน จริงๆปล้วน้องค่อนข้างโดนล่อลวงไปหนักมาก น้องเลยยังไม่ได้ออกมาในจุดๆนี้ ก๊ากกกกก
ขอขอบคุณ คุณlabelle ขอบคุณมากๆนะคะที่เข้ามาอ่านงานของแคท เปิดเข้ามาก็ดีใจแล้วค่ะ ขอต้อนรับสู้ความบ้าบอจ้า ชอบคอมเม้นท์ที่ว่าพี่ทัพจะร้ายไม่แปลก คือดีใจจังเลยที่มีคนมองในมุมพี่ทัพบ้าง ขอบคุณคอมเม้นท์ดีๆที่ให้แคทด้วยนะคะ แคทหวังว่าจะชอบไม่มากก็น้อยนะคะ