[4]
“เปลี่ยนบรรยากาศไหมลุง” ระหว่างทางกลับบ้าน บีก็ถามผมขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
“หมายถึงอะไร” ผมได้แต่งง เพราะไม่มีเหตุการณ์ใดๆก่อนหน้านี้ที่ผมจะบอกได้ว่าเปลี่ยนบรรยากาศอะไร
“เอาเถอะน่า ถึงบ้านก่อนก็รู้” หวังว่าไอ้หนูคงไม่ชวนผมขึ้นเตียงนะ หึ หึ หึ ถ้าเป็นแบบนั้นก็อยากเปลี่ยนอยู่เหมือนกัน
“เอารถเข้ามาจอดในบ้านสิ” ผมจอดส่งบีหน้าบ้าน แต่บีกลับบอกผมให้เข้าบ้าน นี่ที่ผมคิดมันเป็นจริงหรอนี่ ผมยิ้มแบบกรุ่มกริ่ม เสร็จแน่คืนนี้
“รออยู่นี่นะ เดี๋ยวมา” ว่าเสร็จบีก็วิ่งไป ทิ้งให้ผมยืนงงอยู่ข้างรถ แต่ผมก็งงอยู่ได้ไม่นาน เพราะตอนนี้บีกลับมาแล้ว พร้อมกับมอเตอร์ไซด์ 1 คัน
“พร้อมยัง?” บีเอ่ยถามผม
“ไอ้ที่บอกว่าเปลี่ยนบรรยากาศ หมายถึงนี่นะหรอ” ผมทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย อุตส่าห์มีความหวัง
“เอ้อ....แล้วลุงคิดว่าไรหละ” ไอ้หนูทำท่าไม่สนใจผม ขึ้นคร่อมรถแล้ว
“จะไปหรือเปล่าเนี่ย” บีเอี้ยวตัวมาเหล่ผมที่ยังยืนนิ่งอยู่
แต่ก่อนที่บีจะเปลี่ยนใจ ผมก็คร่อมรถตามบีทันที
“กอดได้ไหม” ผมก้มหน้าไปถามบีใกล้ๆ ตอนนี้แก้มผมแทบชิดกับแก้มของบี แต่มือของผมก็เริ่มโอบเอวบีไว้แล้ว
“เกาะได้ แต่ไม่ให้กอด” เอาอีกแล้ว บีตีที่มือผมอีกแล้ว ทำให้ผมต้องชักมือกลับมา
หนูน้อยของผมพาผมออกมาขี่รถเล่นยามค่ำคืน ที่นี่ถึงจะไม่ใช่กรุงเทพ แต่เสียงสีก็มีให้เห็น สลับกับบรรยากาศการค้าขายในตลาดโต้รุ่ง ที่ไม่ทิ้งความเป็นธรรมชาติให้เห็น ลมเย็นๆที่กระทบกับผิว ทำให้รู้สึกว่าเราได้เคลื่อนไหว แตกต่างจากการขับรถที่วันทั้งวันเจอเพียงแต่แอร์เท่านั้น ตลอดทางบีตะโกนแข่งกับเสียงลมเพื่อแนะนำสถานที่ต่างๆให้ผมรู้จัก และนั่นก็เป็นโอกาสที่ผมได้ใกล้ชิดกับบีโดยมีข้ออ้างว่าไม่ได้ยินที่บีบอก และสุดท้ายบีก็พาผมมาที่ริมแม่น้ำหน้าวัดที่เมื่อตอนบ่ายบีพาผมมา
“นั่งสิลุง กลัวเสื้อผ้าแพงๆจะเปื้อนหรือไง” ตอนนี้บีจอดรถแล้ว ก็ลงไปนั่งกับพื้นตลิ่ง โดยนั่งงอเข้าขึ้นแล้วใช้แขนของตัวเองโอบเข่าเอาไว้
ผมนั่งลงข้างๆพร้อมกับลอบมองใบหน้าของเด็กหนุ่ม
“มองอยู่ได้” บีไม่ได้หันมามองผม เพียงแต่เอ่ยออกมาลอยๆ
“คนมันชอบนี่นา อยากน่ารักทำไม”
“ถามจริงนะลุง ทำไมมาชอบเด็กแบบผม” บีถามแต่ยังคงมองไปด้านหน้า พร้อมกับโยกตัวเบาๆ
“ไม่รู้สิ ผิดด้วยหรือไง” ผมตอบแบบกวนๆ เพราะผมก้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบ
“ผมโวยวายก็เก่ง เอาแต่ใจก็ที่หนึ่ง ยังจะชอบอีกหรอ”
“อันนั้นรู้อยู่แล้ว เพราะทั้งวันมานี่ก็เจอมาหมดแล้วนี่” ก็อย่างที่บอก วันนี้ผมเจอไอ้หนูนี่เล่นงานก็หลายครั้ง ปั่นหัวก็ใช่น้อย คราวนี้ไอ้หนูหันมาจ้องหน้าผมเลยครับ ดูท่าเหมือนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ 555
“รู้แล้วยังจะมาวุ่นวายอีก” สะบัดหน้าหนีไปแล้วครับ
“ก็รู้แล้วไง แต่ก็ยังชอบอยู่ดี” ผมส่งยิ้มไปให้เพื่อเป็นการง้อบี
“นี่ๆๆ ลุงจะให้ผมไปฝึกงานด้วยจริงเปล่า” อ้าว ไหงอยู่ๆเปลี่ยนเรื่องซะงั้น ผมก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับ
“งั้นผมชวนเพื่อนไปด้วยนะ”
“กี่คนหละ”
“2 คน” ตอบเสร็จก็ทำหน้าอ้อนเลย แล้วใครจะไปห้ามไม่ให้ไปได้หละ
“จะพาใครมาก็ไม่ว่าหรอก ยกเว้นไอ้เคนั่นคนเดียว ยังไงก็ไม่ให้” ผมยังพูดขู่ทิ้งท้ายไว้
“ให้มันไปด้วยทำไมหละ รำคาญแฟนมันจะตาย” ไอ้หนูทำหน้าเบื่อพร้อมกับเบ้หน้าหนี
ผมกับบีก็คุยกันไปหลายเรื่อง ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนถามเสียมากกว่า แต่พอได้ยินคำตอบแต่ละคำถามก็ได้แต่ขำ เพราะบีต้องมีการกวนก่อนเสมอถึงจะยอมตอบอะไรมา ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ผมเห็นความสดใสในตัวเด็กคนนี้
“คืนนี้ผมไปนอนด้วยสิ” อยู่ๆบีก็เปลี่ยนเรื่องอีกแล้ว แต่การเปลี่ยนเรื่องคราวนี้ทำให้ผมอึ้ง
“จะไปจริงหรอ” ผมถามกลับไปพร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์
“ถ้าลุงไม่อยากให้ไป ผมไม่ไปก็ได้”
“ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ไปแล้วไม่กลัวโดนปล้ำหรอ”
“ลุงอยากทำหรือเปล่าหละ” บีถามผมกลับมานิ่งๆ พร้อมกับจ้องที่ตาผม
“เราชอบพี่หรือเปล่า” แทนคำตอบผมเลือกที่จะถามกลับไปแทน
“ยังหรอกลุง เพิ่งเจอกัน ใครจะชอบได้เร็วแบบนั้น.....ใครจะบ้าเหมือนลุงหละ”
“ถ้าอย่างนั้นไปนอนกับพี่ก็ได้ แต่พี่ขอกอดอย่างเดียวนะ รับรองพี่จะไม่ทำอะไรเรามากกว่านั้น” ผมตอบด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะถ้าให้ผมขืนใจไอ้หนู ผมก็ไม่อยากทำ แค่นอนกอดไว้ไอ้หนูคงไม่ว่าอะไรผมหรอกนะ
“ป๊ะ...กลับบ้าน” พอได้ยินคำตอบ บีก็ลุงขึ้นยืนพร้อมกับเรียกผม
“อ้าวไหนว่าจะไปนอนกับพี่ไง” ผมหละงงกับเด็กคนนี้จริงๆ
“ตอนนี้ไม่อยากแล้ว กลับบ้านดีกว่า” พูดจบก็เดินไปขึ้นรถรอผมเลย ผมก็ได้แต่เดินตามไปซ้อนท้าย แต่ก่อนที่บีจะออกรถ บีก็หันกลับมาหาผม
“ผมจะพิจารณานะลุง ทั้งเรื่องฝึกงาน แล้วก็ตัวลุง” ได้ยินแค่นั้นผมก็มีความสุขแล้ว
“เฮ้ยบอกว่าอย่ากอดไง” บีตีมือผมอีกรอบ เพราะความดีใจทำให้ผมเอื้อมมือไปกอดเอวของบีไว้
ได้รับพิจารณาก็ยังดีกว่าไม่สนใจเลยหละนะ ^_______^