[จบแล้ว]“ปีนเกลียว”...(นึกแล้วเชียว ว่าต้องจีบติด!) บทพิเศษ ชวิน VS หมอเขม P.10 [Up 27/2/12]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ตัวละครในเรื่อง "ปีนเกลียว" คุณชอบใครมากที่สุด

ภู ภูเบศธ์ - หญ้าอ่อนแพ้วัวแก่ ที่จีบไม่เก่ง แถมยังปากหมา
สอง กมลินทร์ - วัวแก่แพ้หญ้าอ่อน แล้วดันชอบแต่คนปากหมา
ตรฤณ - วันๆไม่ทำอะไรนอกจากหาทางประเคนวัวแก่ใส่ปากหญ้าอ่อน
กร ทิวากร - แกนนำผู้ก่อการร้ายของสอง แต่เป็นผู้ก่อการรักของตรฤณ
วิน ชวิน - ชอบทำตัวเป็นพ่อหวงลูกชาย แถมฉลาดร้ายยิ่งกว่ากร

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]“ปีนเกลียว”...(นึกแล้วเชียว ว่าต้องจีบติด!) บทพิเศษ ชวิน VS หมอเขม P.10 [Up 27/2/12]  (อ่าน 103433 ครั้ง)

ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
“หรือไม่อยากไปต่อล่ะ ตรฤณ~”

“ไปสิ”เป็นคำตอบที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการทางทางสมองเลยล่ะ ใช้ไขสันหลังตบล้วนๆ

“นี่กร”เมื่อขับรถออกมาได้สักพักตรฤณก็เอ่ยถามขึ้น เมื่อกรหันมาสนใจตรฤณจึงถามต่อ

“แล้วถ้าเกิดสองคนนั้นมาแล้วไม่เห็นใครจะไม่เป็นอะไรเหรอ?”

“เขาเป็นแฟนกันให้เขาฉลองกันสองคนดีกว่าไม่ใช่เหรอ?”กรไม่ตอบคำถามแต่กลับถามกลับ

“มันก็ดี...แต่ฉันก็เป็นห่วงสอง หลานรหัสนายมันน่าไว้วางใจนักนี่” ตรฤณพูดไปเรื่อยตามประสา และตามความรู้สึกนึกคิด

“ไม่น่าไว้ใจน่ะสิดี...ก็เด็กมันอยากมีเมียจะไปขัดอะไร”กรพูดอย่างมีความสุขแต่นั่นทำเอาตรฤณเบรกรถดังเอี๊ยด! ดีเท่าไหร่ที่ทั้งสองต่างก็คาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ไม่งั้นหัวของกรอาจจะพุ่งทะลุกระจกหน้ารถก็เป็นได้

“นายว่าอะไรนะ?!”ตรฤณดูโมโหในแบบที่กรไม่เคยได้เห็น

“ก็...ภูเบศธ์มันอยากฉลองกับสองแบบสองต่อสอง”

“อ๋อ~ ที่นายวางยาไอ้วินเพราะจะปล่อยให้ภูกับไอ้สองอยู่ด้วยกันแบบไม่มีใครมาขัดงั้นสิ”ตรฤณชักโกรธคนที่ตัวเองรักซะแล้ว

“ตรฤณน่า~ ฉันก็แค่เป็นตัวช่วย ภูเบศธ์กับสองรักกัน...เรื่องอย่างนั้นมันจะเกิดบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมชาติไม่ใช่หรือไง?”กรเริ่มพูดเสียงอ่อน

“ไม่ได้...ฉันจะไปหาไอ้สอง”ตรฤณพูดเสียงเข้ม

“ตรฤณ....นายไม่อยากไปต่อกับฉันแล้วเหรอ?”กรออดอ้อน

แต่ตอนนี้เวอร์จิ้นไอ้สองสำคัญกว่า...ซะล่ะมั้ง!

“ไม่ล่ะ...เพราะครั้งนี้นายทำเกินไปแล้วจริงๆ”ตรฤณพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวังก่อนจะออกรถด้วยความเร็วเพื่อมุ่งหน้าไปสู่หอพักของสอง ใช้เวลาเพียงไม่นานออดี้สีน้ำเงินเข้มก็จอดอยู่หน้าหอพักของตรฤณพร้อมกับที่คนขับเปิดประตูแล้วลงจากรถทันที โดยมีกรวิ่งตามไปติดๆ

“ตรฤณ...”ในเมื่อเรียกแล้วไม่หัน แถมตัวพ่อมือวางอันดับสองกำลังจะเข้าไปขัดความสุขลูกรัก กรก็จำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับตรฤณ

ผลัวะ!!
เสียงท่อนแขนฟาดลงตรงท้ายทอยของร่างสูงใหญ่จนตรฤณทรุดตัวล้มหมดสติไปทันที กรทำหน้ารู้สึกผิดก่อนจะลูบแขนตัวเองเบาๆด้วยความเจ็บที่ฟาดเข้ากับท้ายทอยของตรฤณโดยไม่ยั้งแรง

ถึงใบหน้ากูจะสวยใส แต่อย่าได้ลืมไปว่ากล้ามกูก็ใหญ่ไม่ใช่หยอก! 

“ขอโทษด้วยนะตรฤณ...ที่ครั้งนี้ฉันทำเกินไปจริงๆ”กรรีบพยุงร่างสูงของตรฤณเพื่อนำกลับรถ ก่อนจะขับรถกลับหอพักของตรฤณ


___________________


“เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างที่กูว่า”ถึงตรฤณจะเล่าด้วยสีหน้าเศร้าสลดแต่ทว่าคนฟังกลับหัวเราะแบบนอนสต๊อปตั้งแต่เริ่มยันจบเรื่อง

“เฮ้ย กูว่ากูฟังมึงเล่าแล้วเสียเวลาว่ะ..กูไปหาไอ้สองก่อนแล้วกัน”ชวินพูดจบก็ชักชวนหมอเขมออกจากห้อง

“อ้าวเฮ้ยมึง แล้วกูล่ะ?”

“มึงน่ะอยู่นี้แหล่ะไม่ต้องตามไปเป็นผีผ้าขนหนูหรอก ขืนผาหลุดมากูอายแทน!”ชวินพูดยิ้มๆก่อนจะเดินพาน้องหมอเขมออกจากห้องให้ตรฤณร้องโอดครวญอยู่คนเดียว

“อ่อ!”
ชวินวกกลับมาอีกครั้ง

“ส่วนมึง...ก็มีหน้าที่โกรธกรไปแล้วกัน...ทำตามที่กูบอกไม่ต้องถามอะไร เข้าใจ๊?”ชวินสั่งปิดท้ายแล้วปิดประตูห้องลงตามเดิม

“แค่กรคนเดียว กูจัดการได้แต่กูว่าใช้มึงร่วมด้วยอีกคนท่าจะมันส์กว่าเยอะ!” ว่าแล้วชวินก็เหยียดยิ้มที่มุมปาก

_______________________

“ภูเบศธ์!” เสียงเรียกจากทางด้านหลังทำเอาเจ้าของชื่อสดุ้งแถมรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆขึ้นมาเมื่อเหมือนจะรู้ว่าคนที่เรียกชื่อตนเองนั้นเป็นใคร

“คะ...ครับ”แต่ภูเบศธ์ก็ต้องทำใจดีสู้เสื้อแล้วหันหลังกลับไปขานรับ

ทำใจดีสู้เสือไว้ ไหนๆก็ได้ลูกเสือมาแล้วนี่!
ชวินเดินเข้ามาประชิดภูเบศธ์ จนภูเบศธ์ต้องรีบถอยกรูดพร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆให้

“มาทำอะไรอยู่แถวนี้ นายไม่ได้อยู่หอนี้ไม่ใช่เหรอ?”น้ำเสียงเย็นยะเยือกของชวินทำเอาภูเบศธ์เริ่มสั่นๆ แต่ถึงสั่นก็เป็นสั่นสู้ก่อนจะกลั้นใจตอบคำถาม

“มาหาพี่สองครับ”    ภูเบศธ์ตอบเจ้าของคำถามอย่างสุภาพ ชวินเองก็อดยิ้มอยู่ในใจไม่ได้ที่ไอ้เด็กตรงหน้ามีท่าทางกลัวเขาอย่างเห็นได้ชัดจริงๆแล้วชวินเองก็ไม่ได้กะจะมาต่อว่าอะไร เพราะความจริงแล้วเพื่อนตัวเล็กของเขาต่างหากที่รักเด็กผู้ชายตรงหน้า เพื่อนสนิทอย่างชวินและตรฤณจะมาว่าอะไรได้ อีกอย่างทั้งชวินและตรฤณต่างก็รู้ดีว่าถ้าสองมันไม่ชอบมันไม่ยอมซะอย่าง ป่านนี้ภูเบศธ์คงไม่ได้มาเดินเล่นแถวนี้หรอกเพราะเกรงว่าคงต้องไปนอนแหม็บกับเตียงที่โรงพยาบาล ฤทธิ์ของสองค่อนข้างเยอะ เพื่อนๆนั้นต่างก็รู้ดี

เอ๊ะ?...หรือว่าเมื่อคืนสองคนนี้ไม่ได้มีอะไร คงเป็นเพราะกูอาจหวงสองมากเกินไปซะล่ะมั้ง!

หรือเพราะถ้าเกิดภูเบศธ์มันเกิดหาเรื่องปล้ำสองขึ้นมาจริงๆภูเบศธ์คงไม่ได้มาเดินลอยหน้าลอยตาเป็นลิงแฮปปี้อยู่แถวนี้หรอกว่ามั๊ย?

“เพิ่งมาหาหรืออยู่ด้วยกันตั้งแต่เมื่อคืน?”ชวินรุกถามต่อ ส่วนคนถูกถามก็ได้แต่อ้ำอึ้งตอบคำถามไม่ออก

ถ้าเกิดกูตอบว่าอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน กูจะโดนพี่วินเอาปืนยิงแสกหน้ามั๊ยวะ?!

“เมื่อคืน...ครับ” แต่สุดท้ายก็จำเป็นต้องตอบความจริงพอพูดจบก็โดนกระชากคอเสื้อ ความเป็นจริงภูเบศธ์ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทักษะในการต่อสู้ เพราะมีดีกรีถึงคาราเต้สายดำ แค่โดนกระชากคอเสื้อยกมือขึ้นมาบิดนิดเดียวก็สามารถจับชวินทุ่มลงกับพื้นได้ง่ายๆ..แต่ภูเบศธ์เลือกที่จะไม่ทำไม่ใช่เพราะเกรงใจ...แต่เป็นเพราะรู้สึกผิดต่อชวินตอนนี้ภูเบศธ์เองก็พร้อมที่จะประกาศกับคนอื่นว่า เขาพร้อมที่จะรับสองในทุกๆอย่างที่ตนเองได้กระทำเอาไว้ โดยเฉพาะกับเพื่อนรักทั้งสองของสองด้วยแล้ว ตอนนี้ภูเบศธ์อยากให้ทั้งชวิน และตรฤณยอมรับเขาในฐานะแฟนของสองอย่างเปิดเผย

“นายทำอะไรสองหรือเปล่า?” ถึงจะเป็นคำถามแต่ภูเบศธ์รู้ดีว่าเหมือนเป็นคำขู่อยู่ในตัว

“.................”ภูเบศธ์หลบตาพร้อมกับแลบเลียริมฝีปากอย่างประหม่า เพียงเท่านี้ชวินก็คาดเดาได้ว่าเมื่อคืนคนสองคนที่อยู่ด้วยกันทั้งคืนคงไม่ได้‘นอน’เฉยๆกันทั้งคืนแล้วล่ะ เพราะว่าอาจจะมีกิจกรรมบางอย่างเข้ามาแทรกก่อนนอนแน่ๆ

“บอกฉันได้มั๊ยภูเบศธ์...ว่านายจะรักสอง..รักสองให้มากๆและจะไม่ทำให้สองของพวกพี่ต้องเจ็บ”น้ำเสียงของชวินแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังไม่ได้แฝงความโกรธเคืองใดๆเอาไว้เหมือนตอนต้น ภูเบศธ์จึงสบตากับชวินเพื่อย้ำความรู้สึกของตนเอง

“ถ้าผมทำพี่สองเจ็บ...พี่ลากคอผมไปฆ่าได้เลย”
ถือว่าเป็นคำสัญญาจากเด็กปากหมาแล้วกัน

“แล้วอย่าหาว่าพี่ไม่เตือน ถ้าสองร้องไห้เพราะนาย พี่ฆ่านายแน่”ชวินพูดยิ้มๆไม่ได้มีทีท่าจริงจังกับสิ่งที่ตนเองพูดเสียเท่าไหร่ เพราะรู้สึกมั่นใจไอ้เด็กตรงหน้าเหลือเกินว่า ภูเบศธ์จะไม่มีวันทำให้เพื่อนรักของเขาต้องเจ็บ

“มันจะไม่มีวันนั้นครับ”ภูเบศธ์ยิ้มให้ชวินที่คว้าคอภูเบศธ์เข้ามากอดเอาไว้

“เอ่อ..คุณภูเบศธ์ครับผม ‘หึง’ พี่วินของผมครับ”เมื่อสองหนุ่มเข้าใจกันเลยมีเสียงๆหนึ่งขัดขึ้น
ขนาดไอ้นักศึกษาแพทย์เขมชาติมันหึง...มันยังพูดเพราะได้อีกอ่ะ! จะผู้ดีไปไหนวะ?

“ไม่เอาน่าเขม...” ชวินปล่อยมือจากไหล่ของภูเบศธ์ก่อนจะคว้ามือของหมอเขมมากุมเอาไว้

“หึงมากเหรอ?”ชวินถาม แต่หมอเขมกลับส่ายหน้า

“ผมก็พูดไปอย่างนั้นล่ะครับ” ก่อนที่ทั้งชวินและหมอเขมจะสร้างโลกส่วนตัวขึ้นมาแล้วถีบภูเบศธ์กระเด็นออกจากวงโคจร

กูกลับห้องไปสวีทต่อกับสองก็ได้วะ~

“นี่...ภูเบศธ์”พอภูเบศธ์จะปลีกตัวกลับห้องสอง ชวินก็รั้งไว้

“ฉันขอถามอะไรบางอย่างสิ”ชวินพูดจบก็โน้มเข้าไปกระซิบกับภูเบศธ์ ก่อนที่ภูเบศธ์จะกระซิบตอบคำถามคืน โดยที่ชวินเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

“คิดไว้แล้วเชียว ”ชวินพึมพำก่อนจะพูดต่อ

“นี่ฝากบอกสองด้วยว่า...มีแฟนแล้วอย่าลืมเพื่อนล่ะ”ภูเบศธ์ยิ้มกับคำบอกกล่าวของชวินก่อนจะพยักหน้ารับ ในขณะที่ชวินและหมอเขมเดินออกจากหอไป ความจริงชวินเองก็อยากจะเจอสองก่อนเช่นกัน...แต่ทว่าตอนนี้ชวินต้องกลับไปสะสางไอ้แกนนำผู้ก่อการร้ายซะก่อน

_____________________________


‘มึง...ทำไงดี..กรง้อกูจนกูจะอดใจไม่ไหวแล้วนะเว้ย’
ข้อความที่ตรฤณส่งมาหาชวิน ทำให้ชวินต้องรีบกลับไปสู้ศึกที่ตรฤณกำลังจะเจอ

“มึงก็ใจแข็งต่อไปเว้ย!กูอยากแกล้งกรซะบ้าง”ชวินพูดพร้อมกับพิมพ์ข้อความส่งกลับคืนให้ตรฤณ

“เขมรีบขับกลับไปหอไอ้ตรฤณเลย”พูดจบหมอเขมก็เร่งความเร็วจนในที่สุดทั้งสองคนก็กลับมาถึงที่หอพักของตรฤณอีกครั้ง

____________________


“ตรฤณ...อย่างอนสิ..ฉันขอโทษนะ..ตรฤณพูดกับฉันหน่อยสิ”
กูหายงอนตั้งแต่ที่กรกลับมาหากูพร้อมด้วยรอยยิ้มแล้วครับ แต่พอดีเพื่อนกูมันบังคับให้งอนใส่อ่ะทำไงได้!

“ตรฤณ~ น้า..ถ้าฉันไม่ทำอย่างนั้น แล้วเมื่อไหร่ คู่นั้นจะสมหวังล่ะ..เห็นใจฉันหน่อยสิ”
งั้นคุณทิวากรก็ช่วยเห็นแก่ท้ายทอยกูบ้างก็ได้ครับ กระแทกมาได้ คอกูไม่หักก็บุญเท่าไหร่แล้ว!

ท่าทางของกรยังดูร้อนรน เพราะเรื่องทั้งหมดกรเองจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจก็คงจะไม่ใช่ แต่พอทำแล้วโดนตรฤณโกรธขนาดนี้กรก็กลับรู้สึกผิดขึ้นมา

จะมีใครเคยรู้บ้างมั๊ย ว่าตลอดชีวิตในรั้วมหา’ลัย หัวใจของกรมีไว้สำหรับตรฤณคนเดียว.....ถึงได้ครองโสดมาตลอดสี่ปีเพื่อรอให้คนหน้าหมีมาสอยลงเอาจากคานตอนปีสี่นี่แหล่ะ!

“ตรฤณจะว่า จะด่าฉันยังไงก็ได้ แต่ขอให้นายแค่พูดกับฉัน...”ดวงตากลมโตเริ่มแดงก่ำจนตรฤณต้องเบือนหน้าหนีก่อนที่โรคหัวใจ(อ่อนแอ)จะกำเริบ

ไอ้วิน! ถ้ามึงยังมาไม่ถึง...กูจะเลิกงอนทิวากรแล้วนะเว้ย!

“ไงล่ะ?....แกนนำผู้ก่อการร้าย”
แล้วก็เหมือนมีเสียงสววรค์มาโปรด เมื่อชวินเดินเข้ามาในห้องของตรฤณที่ไม่ได้ล็อค ตรฤณลอบถอนหายใจก่อนจะรีบเดินไปหาชวิน

“วิน!”กรหันไปมองคนที่เข้ามาใหม่ทันที

“แผนนายเหรอ? ที่ตรฤณโกรธฉันเพราะนายใช่มั๊ย?”กรถามเสียงดังในขณะที่ชวินหาได้เกรงกลัวแมวน้อยที่ออดอ้นตรฤณอยู่เมื่อครู่แล้วแปรสภาพตัวเองเป็นเสือสมิงเตรียมตะปบคอชวิน

“ก็แค่อยากเห็นนายโดนเอาคืนซะบ้าง”ชวินพูดสบายๆในขณที่ตรฤณทำคอหดทำตัวเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วหลบอยู่หลังชวินเพราะโดนกรใช้สายตาคาดโทษ

แต่การได้เห็นทิวากรหัวหมุนบ้าง ก็สนุกดีใช่หยอก!

“เอาคืนอะไร?”กรทำเป็นไขสือ

“อย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้...ว่าตัวเองทำอะไรไว้กับไอ้สองบ้าง”ชวินว่า

“ก็ฉันแค่ช่วยหลานรหัสฉัน...ฉันหวังดีหรอกนะ”

“อ๋อเหรอ?  หวังดี?  ขอบคุณมากนะที่หวังดีกับเพื่อนฉันเพราะฉะนั้นฉันก็อยากจะหวังดีกับนายบ้างเหมือนกัน” ชวินยิ้มร้ายโดยที่กรคาดเดาความหมายรอยยิ้มนั้นไม่ถูก

“หวังดี?”กรสงสัย

“นี่ตรฤณมึงรู้ตัวบ้างมั๊ย? ว่ามึงโดนใครบางคนจองตัวตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว”เพียงแค่ชวินเปรยขึ้นมา กรก็เริ่มแสดงอาการรุกรี้ลุกลนจนตรฤณสังเกตได้และก็ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจว่าเรื่องที่ชวินจะพูดต่อไปนั้น คงไม่ใช่ความลับที่เขานั้นเก็บเอาไว้มานานหลายปี

“ใครวะ?”ตรฤณถามเหมือนอย่างคนไม่รู้จริงๆ

“ก็คนสวยของมึงไง”ชวินยิ้มร้ายก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อให้คู่รักได้เคลียร์กันเอง แต่ก่อนออกจากห้องก็ไม่วายแอบกระซิบกับกร

“นายรู้ใช่มั๊ยว่าฉันวางยานายแล้วจับนายลากขึ้นเตียงพร้อมกับไอ้ตรฤณ”

“ถ้าไม่รู้ก็คงไม่ใช่กรล่ะมั้ง~”กรยักคิ้วกวนๆ จนชวินอดยิ้มไม่ได้

“รู้งี้ไม่น่าเปิดโอกาสให้นายได้ไอ้ตรฤณมันซะก็ดีจะได้เห็นคนสวยแถวนี้ขึ้นคาน”
ชวินพูดปิดท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งไว้ให้ตรฤณได้แต่มองอย่างสงสัยคนทั้งสอง

สงสัยต้องไปขอบคุณเด็กไอ้สองที่บอกความลับสุดยอดของกูจนเอามาเป็นเรื่องแกล้งทิวากรได้!

“คุยอะไรกันเหรอ?”ตรฤณเดินเข้าไปกระแซะตัวเข้าหากรพร้อมด้วยคำถามที่ข้องใจ

“คุยว่าฉันจะเอายังไงกับนายดีน่ะสิ..กล้าทำมาเป็นงอนฉันหรือไงห๊า!!!” กรหันไปขู่ฟ่อใส่ตรฤณ แต่คราวนี้ตรฤณไม่กลัวและรีบรวบคนตรงหน้าเข้ามาไว้ในอ้อมกอด

“แล้วฉันควรจะทำยังไงกับกรดีล่ะ ที่ปล่อยให้ฉันแอบชอบนายมาตั้งนานโดยที่ไม่เคยรู้เลยว่านายก็ชอบฉันมาตลอดเหมือนกัน”ตรฤณพูดพร้อมกับกดจูบลงกับแก้มใสของกร

“ก็นายไม่เคยคิดจะจีบฉันแล้วจะให้ฉันไปจีบนายก่อนหรือไง?...นี่ถ้าวินไม่จับฉันกับนายลากขึ้นเตียงวันนั้น ฉันก็คงไม่ได้นายมาเป็นแฟนสักทีน่ะสิ อุ๊บ!”กรบ่นยืดยาวแต่สุดท้ายก็เพิ่งรู้ตัวว่าหลุดความลับอะไรออกมาเลยยกมือขึ้นมาปิดปาก แต่ก็ดูท่าว่าจะสายไปเสียแล้ว ดูได้จากรอยยิ้มของตรฤณได้เลย

“นายก็รู้เหรอ?...ว่าวันนั้นเราไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ...แต่ที่นายไม่ปฏิเสธก็เพราะ....รักฉันใช่มั๊ยล่ะ?”ตรฤณพูดพร้อมรอยยิ้มกว้างเพราะความลับนี้ตรฤณเองก็เพิ่งรู้จากชวินมาไม่กี่วันก่อนนี้เอง

   “ร้ายนักนะ..กร” ตรฤณยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะช้อนตัวกรขึ้นมาเมื่อกรไม่ยอมพูดปฏิเสธข้อกล่าวหาใดๆ

“แต่ถึงร้าย...ฉันก็จะรัก”ตรฤณพูดเบาๆ

“อือ”กรรับคำพูดในลำคอ

“ไหนๆวันนั้นนายยังไม่ได้เป็นเมียฉัน..ถ้าอย่างนั้นก็เป็นมันวันนี้ซะเลยแล้วกันนะ ”พูดจบก็อุ้มคนสวยขึ้นเตียง...

โดยที่ไม่มีเสียงร้องขัดขืน จะมีก็แต่เสียงครางหวานๆของทิวากรแทน~

______________________


“ไปนานจัง...”เมื่อภูเบศธ์เข้ามาห้องสองก็ถามขึ้นทันที แต่พอสายตาเหลือบไปเห็นของที่ภูเบศธ์ซื้อมา เจ้าตัวก็เลิกคิดจะเอาคำตอบจากภูเบศธ์      แล้วเดินมาหยิบถุงของที่ภูเบศธ์ลงไปซื้อมาให้ทันที

“แซนด์วิซเหรอ?”สองถามพร้อมกับแกะถุงเพื่อจะได้กินแซนด์วิซได้ โดยมีภูเบศธ์หยิบขวดนมขึ้นมาเปิดฝาแล้วยื่นให้สอง

“อร่อยเหมือนกันแฮะ~”สองกัดไปเคี้ยวไปยิ้มไปอย่างมีความสุขส่วนคนที่มองอยู่ก็ได้แต่ยิ้มตาม ก่อนจะเริ่มลงมือทานส่วนของตนเองบ้าง

“อร่อยหรือหิว?” ภูเบศธ์ถามอย่างขำๆก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดมุมปากที่เปรอะเปื้อนเศษขนมปังให้สอง ก่อนที่มือเล็กจะยกขวดนมขึ้นมาดื่มจนคราบนมสีขาวติดที่ขอบปากบน ภูเบศธ์มองแล้วก็ต้องยิ้ม มือแกร่งกะจะเอื้อมไปเช็ดให้อีกครั้งแต่ทว่ากลับเปลี่ยนใจ  ใช้ปากเช็ดให้คงจะดีกว่า~

ร่างสูงประทับจูบ ก่อนจะใช้ลิ้นเช็ดริมฝีปากให้ร่างเล็กแทนมือ คนตัวเล็กทำตาโต พอรู้สึกตัวก็ผลักอกกว้างออกจากตัว

“ทำบ้าอะไรของนาย!”ร่างเล็กใช้หลังมือเช็ดปากก่อนจะก่นด่าร่างสูงพร้อมด้วยใบหน้าหวานที่เริ่มขึ้นสีระเรื่อด้วยความเขิน

“นมจากปากพี่สอง อร่อยเหมือนกันแฮะ”ภูเบศธ์ยิ้ม แต่สองกลับยิ่งหน้าแดง
แค่นมเปื้อนปาก มันก็หาเรื่องจูบปากกูอีกจนได้!

“พี่สอง”ภูเบศธ์เรียกชื่ออีกฝ่ายจนสองต้องให้ความสนใจ

“หือ?”

“รักนะ... ”ภูเบศธ์พูดพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น

“อื้อ~”สองตอบรับในลำคอเพราะปากยังเคี้ยวแซนด์วิซอยู่เต็มปาก

“เหมือนฝันเลยรู้มั๊ย?..”ภูเบศธ์นพูดพร้อมกับแย่งแซนด์วิซออกจากมือสอง เพราะดูเหมือนสองจะสนใจของกินมากกว่าตนเอง

“มาแย่งแซนด์วิซฉันทำไม?!”สองโวยวาย

“ก็สนใจผมบ้างสิ”ภูเบศธ์ว่าด้วยน้ำเสียงงอนๆ

“ก็สนใจอยู่นี่ไง..เอาแซนด์วิซคืนมา”
นี่ขนาดปากบอกว่าสนใจ แต่ก็ยังแย่งแซนด์วิซกลับไปจนได้~

“รักผมหรือเปล่า?”

“ก็รู้อยู่แล้วจะให้พูดทำไม?”

“ก็อยากได้ยินจากปากนี่”ภูเบศธ์ตีหน้าเศร้า จนสองต้องเหลือบมองก่อนจะวางแซนด์วิซลงกับโต๊ะ แล้วยื่นมือไปจับใบหน้าคมให้หันมองตนเอง

“บางครั้ง....การกระทำก็สำคัญกว่าคำพูด....เข้าใจหรือเปล่าภูเบศธ์”สองพูดก่อนจะจับใบหน้าคมให้ก้มลงแล้วจูบเบาๆที่หน้าผากของภูเบศธ์

“เพิ่งเห็นว่าวัวแก่พูดจาเข้าท่าก็วันนี้แหล่ะ”ภูเบศธ์อมยิ้มทั้งที่รู้สึกดีกับจูบแผ่วเบาบนหน้าผากของตัวเองแต่ก็ไม่วายแอบจิกกัดตามประสาคนปากหมา

ไม่ชมกูเป็นวัวสักวัน มันจะตายหรือไงห๊า! ไอ้เด็กนี่

“ไอ้เด็กปากหมาเอ๊ย~!”
เพียงแค่ด่าจบประโยค ริมฝีปากสีสดก็ถูกริมฝีปากอุ่นชื้นของภูเบศธ์ทาบทับทันที ตามข้อสัญญาที่คนทั้งสองมีต่อกัน
(กูว่ากูไม่เคยไปตกลงสัญญานี้กับมันนะ..มันพูดเองเออเองตลอดอ่ะ!)


แต่ภูเบศธ์จะรู้หรือเปล่าว่า....

สอง กมลินทร์ก็แค่อยากด่า..ทั้งๆที่รู้ว่าจะโดนจูบนี่แหล่ะ! 

.





…..






The End!





















   เฮ้ย~ อย่าลืมกูสิครับ! 



“นี่เขม”

“ครับ?”

“ไหนๆสองคู่นั้นก็ลงเอยกันด้วยดี...งั้นเราก็มาลงเอยบ้างกันบ้างดีมั๊ย?”

“อ้าวตอนนี้เรายังไม่ได้คบกันอีกเหรอครับ?”

“ไม่ใช่อย่างนั้น ก็อย่างตรฤณกับกรเค้าก็รู้ใช่มั๊ยล่ะว่าใครเป็นอะไร ส่วนภูเบศธ์กับสองนี่คงไม่ต้องพูดถึง รู้ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว....แล้วเราล่ะ?”

“หมายถึง?”

“ใคร..เอ่อ....คือ....”ชวินกลับรู้สึกเขินขึ้นมานิดๆแฮะทั้งที่คิดว่าหน้าตัวเองฉาบปูนซีเมนต์มาหลายชั้นแล้วนะ

“จะผลัดกันบ้างก็ได้ ผมไม่มีปัญหา”

เฮ้ย~ กูเพิ่งรู้ว่านักศึกษาแพทย์ก็แรงได้ใจ!


“เฮ้ย~เอางั้นเหรอ?...เอาจริงอ่ะ?”

“ทำไมต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้นด้วยล่ะ? ก็ผลัดกัน ‘ขับรถ’ ไงไม่ดีตรงไหนล่ะครับ?

อ้าวก็จริงมั๊ยล่ะ? ก็อย่างคู่พี่ตรฤณพี่กร   พี่ตรฤณก็เป็นคนขับรถ
พอคู่ ภูกับพี่สอง ก็ต้องเป็นภูอยู่แล้วเพราะพี่สองขับรถไม่เป็น...

แต่พอดีคู่เราก็ขับรถเป็นทั้งคู่  ก็ผลัดกันไปรับไปส่งสิ.....แฟร์ดี....ว่ามั๊ยครับ^^
(ว่าแล้วก็ยิ้มร้ายปิดท้าย)



Happy Ending~~


เย้ๆๆๆๆ ในที่สุดเรื่องนี้ก็จบแล้ววววววววว :impress2: ดีใจๆๆๆ
แต่ว่ายังมีตอนพิเศษอีก ถึง 2 ตอนนะค้า
รู้สึกว่า คู่ของ หมอเขมกับชวิน จะฮอต...ฮ่าฮ่าาา ก็เลยกำลังคิดว่าอาจจะแต่งคู่นี้เพิ่ม อิอิ :-[ (เพราะที่แต่งไว้ไม่มีของคู่นี้เป็นพิเศษ)

ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาตลอดเลยนะค้า
ขอบคุณมากๆค่ะ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ฮิ๊วววววววววววววววววว  :-[ ในที่สุดก็แฮฟฟฟฟฟฟปรี้!! สมหวังกันทุกฝ่ายแล้วน๊าาาา

ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุกๆ มาให้อ่านนะคะ จะติดตามตอนพิเศษ ของหมอเขมกับชวิน แต่ไม่รู้ใครจะรับหรือใครจะส่งก่อนกันน๊าาาาา รุกๆ รับๆ  :haun4:  น่ารักอ่ะ    o13

 :bye2:

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
 :L2: เย้ จบแบบไม่ทันตั้งตัว :a5:

น่ารักทุกคู่เลย รอตอนพิเศษนะจ๊ะ :กอด1:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
อ่านเหมือนรู้ว่าเป็นตอนจบ
พออ่านจบก็รู้ว่าเป็นตอนจบจริงๆ
แต่ก็ยังไม่อยากให้จบ..

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป
ง่า คู่พี่หมอๆด้วยนะคะ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
รักกานแบบรุ่นแรงจิงๆ 555++

แต่ก้อน่ารักไปอีกแบบ ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกน้า

รอรอค๊าฟ

ออฟไลน์ AllRiseApril

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
5555555555555555 อยากได้ตอนพิเศษของหมอเขมกะพี่วินจ้าาา
พี่สองน่ารักอ่าาา

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
จบแล้วเหรอสองน่ารัก :กอด1:
หมอเขมอ่ะร้ายลึกจริง ๆเลยคาดว่าวินคงเสร็จหมอเขมแน่ ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
บทพิเศษ



“กูล่ะเกลียดกรจริงๆ ไอ้แกนนำผู้ก่อการร้าย!!!

“แต่กูล่ะชอบกรจริงๆ คุณแกนนำผู้ก่อการรัก


______________________


“ไอ้ตรฤณ!!!!”

“มีอะไรหรอ~...” ดวงตารีเหลือบมองเพื่อนตัวเล็กที่ขึ้นเสียงอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเหม่อมองไปยังท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ปลดปล่อยอารมณ์และจิตใจล่องลอยไปในอากาศ....จนคล้ายๆกับอาการของผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลผู้ป่วยทางจิต

กูยืนยันได้ว่าไม่ได้พูดเกินจริง ไม่รู้ผีบ้าอะไรเข้าสิง ทำเอาเพื่อนกูนั่งเพ้อเป็นลิงถือลูกท้อ!(?)

สองมองเพื่อนรักตัวเองพร้อมกับการขมวดคิ้ว ทั้งที่เขากำลังบ่นเรื่องนู้นเรื่องนี้เกี่ยวกับทิวากรให้ไอ้เพื่อนหน้าหมีฟัง ไม่ว่าจะด่าจะว่าอะไร ไอ้ก็หาเรื่องมาขัดได้ทุกครั้ง

“ไอ้ตรฤณ! มึงฟังกูบ้างมั๊ยเนี่ย? กรน่ะหาเรื่องให้เด็กมันปล้ำกูอีกแล้วนะ!”ตอนนี้สองกำลังหาทางเล่นงานกรโดนการเอาคืนผ่านทางตรฤณ

“ปล้ำหรือสมยอม?”ตรฤณถามกลับ

“สมยอม.. เฮ้ย! ไม่ใช่”ตรฤณยิ้มก่อนจะนั่งเหม่อมองท้องฟ้าจนสองนึกอยากจะโทรไปปรึกษาหมอเขมเกี่ยวกับอาการทางจิตของตรฤณ ไม่รู้ว่าอาการทางจิตเหล่านี้อาจจะมีผลกระทบไปถึงการมีชีวิตอยู่เพราะการที่ตรฤณเป็นอยู่อย่างนี้ อาจจะไม่มีชีวิตรอดถึงสามวัน...

ไม่ใช่ตายเพราะโรคเพ้อ...แต่คงเพราะเจอตีนกูก่อนนี่แหล่ะ!นั่งละเมอถึงทิวากรอยู่ได้ กูรำคาญ! 

“เลิกๆคบไปเหอะคนอย่างนี้น่ะเจ้าเล่ห์!”
สองเริ่มพูดยั่วยุ เผื่อบิงโกเพราะตรฤณคล้อยตามในขณะที่ไร้สติ

“แต่กูว่ากรน่ะเจ้าเสน่ห์~”ตรฤณก็หาคำพูดมาขัดได้ทุกทีสิน่า~
   โว๊ย!กูขี้เกียจจะใสไฟเพราะไม่ว่าจะพูดยังไงไอ้ก็ไม่คิดจะตัดใจจากทิวากรอยู่ดี!

“เออ....ก็เพราะเจ้าเสน่ห์น่ะสิ...มึงถึงโดนสวมเขาไม่รู้ตัว”สองหาเรื่องพูดไปเรื่อยแบบไร้แก่นสารแต่คำพูดกลับไปแทงใจดำของตรฤณเต็มๆ เพราะรู้ๆกันทิวากรนั้นมีหน้าตาเป็นอาวุธใครเห็นก็เป็นต้องเจ็บเพราะความสวยมัน ‘บาดตาและบาดใจ’ มีหนุ่มเล็กหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่จนลามไปถึงหนุ่มแก่เข้ามาเกาะแกะก็มีมันก็น่าโดนว่าอย่างนี้อยู่บ้าง

“มึงว่าอะไรนะ?”
ตรฤณดูเหมือนะมีสติกลับคืนมาพร้อมกับหันกลับไปถามสอง

“เขามึงยาวเป็นวา จนจะทิ่มหัวกูอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก”สองพูดพร้อมกับกลั้นยิ้มพร้อมกับที่ตรฤณยกมือขึ้นมาลูบๆคลำศีรษะตัวเองเพื่อเช็คว่ามีสิ่งที่เรียกว่า “เขา” ประดับอยู่บนศรีษะตามคำบอกเล่าของเพื่อนรักจริงหรือเปล่า

“กูก็ว่ากูคันๆหัว..สงสัยเขาเพิ่งจะงอก”ตรฤณเองก็ตอบกลับแบบติดตลก

“รู้ด้วยนี่~”สองพูดแกมประชดในขณะที่สายตาเรียวรีของตรฤณหันไปเจอะกับชายหนุ่มที่คุ้นหน้าค่าตากันเดินเข้ามาในรัศมีของสายตาพร้อมกับเด็กสาวน่าตาน่ารัก

“แต่คงไม่ใช่หรอก...กูว่าเพราะเขามึงต่างหากที่ทิ่มหัวกูมันเลยทำกูคัน
ตรฤณยิ้มร้ายพร้อมด้วยการยักคิ้วให้หนึ่งครั้งตามคอนเซ็ปต์ เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นเป้าหมายบางอย่าง

“ไอ้ตรฤณ! มึงพูดอย่างนี้หมายความว่าไง!”สองหยัดตัวยืนขึ้นก่อนจะถลึงตาขู่เพื่อนที่นั่งหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็งอยู่กับโต๊ะ

“ก็ไม่หมายความว่ายังไง มึงแค่ลองหันหลังกลับไปแล้วมึงจะรู้ว่าเขามึงยาวกว่าเขากูเยอะเลย”พูดจบสองก็หันไปตามคำพูดของตรฤณ

ชิชะ! ไอ้เด็กปากหมา ควงสาวน้อยผมหน้าม้าเดินเสร่อกลางโรงอาหาร!
จะหยามกันมากเกินไปแล้วนะไอ้เด็กนี่ เป็นเด็กในฮาเร็มกูดีๆไม่ชอบใช่มั๊ย?


ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง สองก็เดินปราดเข้าไปหาต้นตอที่ทำให้เขางอกโดยไม่ทันกล่าวลาเพื่อนแม้แต่คำเดียว
ในขณะที่ตรฤณก็ทำได้แค่การเหยียดยิ้มที่มุมปาก พร้อมด้วยการนั่งพิงโต๊ะแล้วไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์เตรียมดูละครน้ำเน่าหลังข่าว ที่นางเอกหวงหึงพ่อพระเอกจนต้องไปตบ “น้องชายของพระเอก”

กูพูดตามตรง กูก็เคยงี่เง่าจนเขาโผล่ เนื่องจากไปหึงกรกับแม่สาว(?)น้อยคนนี้...

เอาล่ะพอโฆษณาจบ...ก็คงต้องตัดเข้าละคร
เพื่อดูความสำเร็จเต็มรูปแบบของคำว่า “แกนนำผู้ก่อการร้าย” ที่สองเคยได้กล่าวยกย่องกรเอาไว้

“จะควงพี่ทำไมเนี่ยภี” ใบหน้าคมติดจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารำคาญ แต่คนที่หึงจนหน้ามืดตามัวอย่างสองมีเหรอจะทันสังเกต พุ่งหลาวมาด้วยความเร็วสูง ปราดไปปัดมือสาวน้อยคนนั้นออกจากมือเด็กของตัวเอง แล้วควงเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ

“ภูเบศธ์ เป็นเด็กของฉัน! แล้วก็รู้ไว้ซะด้วยว่าไอ้เด็กนี่ชอบคนอายุมากกว่า ไม่ใช่เด็กน้อยอ่อนต่อโลกอย่างเธอ”คำประกาศตัวของสองทำเอาคนทั้งโรงอาหารหันมาสนใจ แต่สองก็ทำเป็นไม่รู้ซะอย่าง ตอนนี้โมโหหึงใครก็ห้ามไม่ได้เด็กผู้หญิงที่เพิ่งโดนปัดมือออกมองสองด้วยอาการงงๆ ก่อนจะกดยิ้มที่มุมปากอย่างนึกสนุกเมื่อนึกขึ้น

รู้แล้วว่าพี่กรสั่งให้ตัวเองเดินควงไอ้พี่ภูทำไม~

“พี่ภู...ลุงนี่เป็นใครเหรอคะ?..”

“ห๊า! ลุง?..ใครเป็นลุงเธอ เสียมารยาท!”สองตะโกนด่าข้ามหัวภูเบศธ์ พร้อมกับพยายามเอื้อมมือไปแกะมือของเด็กสาวออกจากแขนภูเบศธ์ แต่ก็ดูจะไม่สำเร็จเท่าไหร่นัก เพียงแต่ภูเบศธ์จะเอ่ยปากพูด เด็กสาวก็พูดขัดขึ้น

“อ้าว?..ถ้าไม่ให้เรียกว่าลุงจะให้เรียกว่าตาก็ได้นะคะ”สาวน้อยตอบหน้าทะเล้นแต่ทำเอาสองเดือดพล่าน

“อ๊ากกก! ไอ้ภูเบศธ์ นายไปขุดเอาเด็กนรกนี่มาจากไหน!”
สองตะโกนใส่หน้าภูเบศธ์เต็มๆจนภูเบศธ์ต้องสงยิ้มแห้งๆกลับคืน พอจะอ้าปาก(อีกรอบ)เพื่อพูดสิ่งที่ใจต้องการก็โดนสองขัด

“เดี๋ยวนี้นายมีกิ๊กเหรอ?! นี่..มีฉันคนเดียวไม่พอหรือไงห๊า!”สองโวยวาย แต่กลับกลายเป็นเรื่องขำขันกันทั้วโรงอาหาร เพราะนอกจากเด็กสาวที่เกาะแขนอยู่อีกฝากฝั่งจะหันหลังไปแอบหัวเราะแล้ว ก็ยังมีตรฤณที่นั่งหัวเราะชอบใจตบเข่าดังฉาดๆอย่างสนุกสนานอีกคน

“พี่สอง...”

“ไม่ต้องมาแก้ตัว ”

โห~ กูแค่เรียกชื่อยังไม่เอ่ยบริบท ก็หยั่งรู้อนาคตซะแล้วว่ากูจะพูดอะไร

“นี่คือ...”ภูเบศธ์พยายามจะพูดต่อเวลาที่สองหยุดหายใจ

“กิ๊กใช่มะ? ห๊า!”
ถึงจะดีใจว่าโดนหึงแต่การที่โดนสองถลึงตาใส่แบบนี้ มันไม่ได้น่ารื่นพิรมณ์สักนิดจริงๆครับ

 “ไม่ใช่~”ภูเบศธ์เลยได้แต่ปฏิเสธ

“ไม่ใช่กิ๊กแล้วอะไร?..เมียน้อย?!” คำพูดของสองทำเอาภูเบศธ์ตบหน้าผากกว้างตัวเองดังฉาด ในขณะที่ ภี หลุดหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจใครแล้วงานนี้ จนสองนึกแปลกใจ เหลือบมองเด็กสาวด้วยความขุ่นเคือง

“เมียพี่นี่สุดยอดจริงๆเลยอ่ะ..นับถือๆ ขอจับมือหน่อยสิ”ในที่สุดภีร์ก็เลิกดัดเสียงเล็กแล้วมองสองด้วยอาการที่เรียกว่ากลั้นหัวเราะ แถมปิดท้ายด้วยการถอดวิคผมออกจนสองเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

ตายห่า!   ไอ้เด็กปากหมามีคู่แฝด หน้าตาถอดแบบกันมาเป๊ะเลยอ่ะ!

“น้องชายผมเอง” ภูเบศธ์รีบไขข้อข้องใจให้สองที่ดูว่าจะอ้าปากตาค้างเพราะเห็นหน้าภี น้องชายที่พลัดพรากกันมานานหลายสิบปี เพราะไปเรียนต่อที่อเมริกากับคุณพ่อ...เนื่องจากพ่อแม่ของภูเบศธ์และภีมพลเลิกกัน พ่อเลยเอาน้องไปอยู่ด้วยที่อมเริกา ส่วนภูเบศธ์ก็อยู่กับแม่ที่ไทย

แต่ทฤษฎี ปากหมาเพราะครอบครัวมีปัญหาของสองที่เคยรู้มา ขอยืนยันว่ามันไม่จริงล้านเปอร์!

“โอ๊ะ?...ฉันก็นึกว่านายมีคู่แฝดเห็นหน้าผากเถิกเหมือนกันเป๊ะ!”เพียงแค่ภีถอดวิคผมออกสองก็เกิดอาการตกใจจนลืมความโมโห เมื่อสาวน้อยตรงหน้าเมื่อสักครู่กลายเป็นหนุ่มน้อยที่หน้าตาคล้าย..ไม่สิ เรียกว่าเหมือนภูเบศธ์แบบถอดกันมาตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ชักจะไม่ค่อยปลื้มแล้วสิโดนทักอย่างนี้”
ภีมพลใช้มือลูบผมลงมาปิดหน้าผากของตัวเองก่อนที่ภูเบศธ์จะนึกขำ

“แล้วนี่มันอะไรกัน?..ทำไม..อะไรยังไง? ทำไมน้องนายต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิง”สองถามด้วยความสงสัย

“ก็.....” แต่พอภูเบศธ์เห็นว่าน้องชายเตรียมจะพูด มือใหญ่ก็ตะครุบปากคนน้องพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้สอง

“งานอดิเรกมันน่ะ” ภูเบศธ์ยิ้มกลบเกลื่อนแต่คำตอบของคนพี่ทำเอาคนน้องตวัดสายตามองพี่ชายด้วยความขุ่นเคือง    

   จะพูดแก้ตัวก็ไม่ได้ เพราะโดนไอ้คนพี่ปิดปากเอาไว้อยู่ กูอยากบอกว่าเซ็งมากครับ

“งั้นน้องนายก็เป็นตุ๊ด?”

ช่างเป็นคำถามทำเอาทั้งสองศรีพี่น้องสะอึกได้อย่างพร้อมเพรียง
เมื่อได้ยินอย่างนั้นภีมพลพยายามส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ภูเบศธ์กลับหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะถูกใจ

“อ้าว? ถ้าไม่งั้นจะชอบแต่งตัวผู้หญิงทำไม”
สองเริ่มหน้าเสียเมื่อทฤษฎีของตนเองผิดพลาดจนโดนหัวเราะเยาะ พร้อมๆกับการที่ภีมพลสลัดตัวออกจากมือของภูเบศธ์ที่ปิดปากตนเองเอาไว้ได้ ก็รีบพูดปฏิเสธ

“ไม่ใช่อย่างนั้นพี่สอง...ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด!”
ภีมพลพูดความจริงก่อนจะหันไปมองคนพี่พร้อมด้วยสายตาอาฆาตแค้น

ฝากไว้ก่อนเหอะไอ้พี่ภู! เดี๋ยวสักวันจะยุให้พี่สองจับทำเมีย

“แล้วแต่งตัวเป็นผู้หญิงทำไม?”สองถามอย่างสงสัยอีกครั้ง

“ก็เพราะพี่กร.. อุ๊บ!”

“พี่ตรฤณมาเก็บตัวไอ้ภีด่วน!”
เพียงแค่ภีมพลหลุดคำบางคำออกมาภูเบศธ์ก็ต้องรีบเรียกหน่อยปฏิบัติการพิเศษมาเก็บตัวพยานปากเอกไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย เพราะคาดว่าอีกไม่กี่นาทีพายุทอร์นาโดที่ทางกรมอุตุวิทยาให้ชื่อว่า “วัวแก่พิฆาต” ถล่มเอาด้วยความเร็วลม 300 ไมล์/ชั่วโมง!

“พี่กร?.......ทิ..วา...กร!”สองเน้นตั้งแต่แซ่ยันชื่อที่จะพยางค์ด้วยความชัดเจน เมื่อสมองน้อยๆประมวลผลชื่อนี้ออกมาเป็นตัวอักษรสีแดงหราในสมอง

หาเรื่องแกล้งกูอีกจนได้ ไอ้แกนนำผู้ก่อนการร้ายเอ้ย!  เพราะอย่างนี้ไงกูถึงแช่งให้ไอ้ตรฤณมันเลิกกับกรอยู่เช้าเย็น!

“คือว่า....”

“ไม่ต้องมาแก้ตัว ไอ้ผู้สมรู้ร่วมคิด!”สองรีบสวนกลับทำเอาภูเบศธ์ต้องหุบปากและสงบเสงี่ยมเจียมตัว

“สอง มึงจะโมโหอะไร? ก็แค่กรจับภีมพลแต่งตัวเป็นผู้หญิงเท่านั้นเอง มึงนั่นแหล่ะเข้าใจผิดไปเอง”

กูว่าเพราะกรรู้มากกว่าว่ากูขี้หึง เลยกะดึงเอาเด็กมาร่วมหลอกกูให้ลมออกหูเล่นมากกว่าซะล่ะมั้ง!

“เออ! กูผิดเองที่เข้าใจผิด ผิดเองที่หึงไม่ดูตาม้าตาเรือ...หึงได้แม้กระทั่งน้องชายของภูเบศธ์! กูผิดเองที่โง่เกินไปพวกมึงถึงได้หาเรื่องหลอกกูอยู่ได้ทุกวัน!”สองพูดอย่างหมดความอดทนก่อนจะเดินหนี ทำเอาบุคคลผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหลายได้แต่ยืนมองกันปริบๆด้วยความรู้สึกผิด จะมีก็แต่ภูเบศธ์ที่ได้สติก่อนคนอื่นจึงรีบเดินตามสองไปโดยมีภีมพลและตรฤณมองตามไปพร้อมกับส่งใจไปช่วย เพราะทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ถ้าสองว่าตัวเองโง่มากที่หึงได้แม้แต่กระทั่งน้องชายที่แต่งตัวเป็นผู้หญิง อย่างนั้นตรฤณไม่โง่กว่าเหรอ ที่หึงได้แม้แต่กระทั่งไอ้เด็กผู้ชายแต่งหญิงยื่นยิ้มอยู่กับกรน่ะ~
เพราะกูหึงได้แม้แต่เพศเดียวกัน(?)! เฮ้อ~

________________________________

“ตรฤณเป็นอะไรไป?”

...ไม่รู้ไม่ชี้!...

“ทำไมพูดด้วยก็ไม่ยอมพูด”

...ไม่เอาไม่อยากพูด...

“ตรฤณ...งอนอะไรอีกล่ะ?ถ้ากับไอ้เด็กวิศวะคนนั้นน่ะนายก็รู้ว่าฉันไม่สนใจหรอก”กรยังคงถาม ส่วนตรฤณก็เอาแต่ส่ายหน้า

...ไม่ใช่...กูไม่ได้หึงไอ้วิศวะลูกครึ่งแขกตาคมคนนั้น....

....เพราะกูคาดว่าพ่อมันคงเป็นแขก...ส่วนแม่มันคงเป็นเจ้าของบ้าน!...

“ไม่ใช่แล้วตรฤณเป็นอะไร?”

....กูก็ไม่รู้ว่ากูหึงทำไม….
…แค่เห็นกรอยู่กับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งก็เท่านั้นเอ๊ง!...

“ตรฤณ~”

“วันนี้กรมากับใคร?”ในเมื่อเห็นกรกำลังจะถอดใจตรฤณเลยต้องรีบชิงพูดต่อให้บทสนทนาดำเนินไปต่อ
เพราะขืนกูยังเล่นตัวต่อไปมีหวังหลุยส์คู่ใจกรพุ่งใส่หัวแน่นอนครับ กูขอบอก!

“อ๋อ...ภี....ภีมพล น้อง ‘ชาย’ ภูเบศธ์กลับมาเที่ยวที่ไทยน่ะ...นี่อย่าบอกนะว่านายหึงภี?”

“แน่นอน! น่ารักขนาดนั้น เป็นใคร ใครก็ต้องหึง! .... แต่เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ? น้องชาย?”ตรฤณพูดด้วยความไม่พอใจส่วนตัว แต่ก็ดันระลึกได้ถึงคำว่า ‘น้องชาย’ ที่กรพูดออกมา

   ได้ข่าวว่ากูเห็นเด็กนั่นใส่กระโปรง สมองกูคงไม่กลวงโบ๋ขนาดแยกเพศไม่ออกหรอกมั้ง! 

“ใช่น้องชาย....อ๋อ นายเห็นว่าหมอนั่นแต่งตัวเป็นผู้หญิงใช่มะ?”กรร้องอ๋อก่อนจะอธิบายต่อ

“ก็แค่เมื่อคืนพวกเราเล่นเกมส์กัน ใครแพ้จะต้องแต่งเป็นผู้หญิง พอดีภีมันแพ้น่ะ”ตรฤณฟังคำบอกเล่าของกร พลางครุ่นคิด

เกมส์แบบนี้ เห็นทีว่ากูคงอยากจะให้ทิวากรแพ้ว่ะ! ฮ่าฮ่า 

“ก็ใครจะไปรู้เล่า แล้วเด็กนั่นก็น่ารักใช่หยอก แถมเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ หึงนะ เข้าใจมั๊ยว่าหึงน่ะ!”ตรฤณพูดด้วยความงอนจนริมฝีปากล่างยื่นย้อยกรก็ทำได้แค่การขำกับท่าทางของตรฤณ

“ก็บอกอยู่นี่ไงว่าเด็กนั่นเป็นผู้ชาย แถมยังเป็นน้องชายของภูเบศธ์มัน แล้วก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน...ทีนี้หายงอนได้หรือยัง?”กรจับใบหน้าคมให้หันมองหน้าตัวเองก่อนจะก้มลงไปใกล้ๆให้ตรฤณตื่นเต้นเล่น

“ไม่หาย! จูบก่อนสิแล้วจะหายงอน”ตรฤณยื่นข้อต่อรอง แต่กรกลับเหยียดยิ้มจนตรฤณรู้สึกว่าอยากถอนคำพูดตัวเองขึ้นมาตะหงิดๆ เมื่อรับรู้ถึงรอยยิ้มหวานเคลือบยาพิษของกร
คราวนี้กูคงโดนสันกระเป๋าหลุยส์กระแทกปากแน่นอนครับ!

“อยากให้จูบจริงอ่ะ?” กรยิ้มยั่วพร้อมกับนิ้วเรียวเล็กลูบริมฝีปากหนาอีกฝ่ายแผ่วเบา แต่ตรฤณกลับรู้สึกสั่นๆอยู่ในใจ
ถ้ายังอยากโดนจูบ กูคาดว่างานนี้กูคงไม่ใช่หลุยส์อย่างเดียวที่จูบปากกู แต่อาจมีของกำนัลตามมาติดๆ ......ยกตัวอย่างเช่นฝ่ามือ..

“เอ่อ....คิดว่าคงไม่แล้วล่ะ”ตรฤณยกมือขึ้นปาดเหงื่อก่อนจะค่อยๆจับมือเล็กอกจากใบหน้าตัวเองอย่างเบามือ
เดี๋ยวถ้าจับแรง เดี๋ยวโดนตะปบหน้า ข้อหาทำมือคนสวยเจ็บอีก!

“งั้นก็แล้วไป....”รอยยิ้มของกรแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเคลือบน้ำตาลเหมือนดังเดิม ตรฤณก็เลยได้แต่ถอนหายใจดังเฮือก! ด้วยความโล่งอกโล่งใจ แต่ไม่ทันไร...รอยยิ้มหวานของกรก็เปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์จนตรฤณตามไม่ทัน

“จะว่าไปขนาดนายยังหึง...แล้วสองล่ะ..จะเป็นยังไง”
พูดจบประโยคก็วิ่งหายวับท่ามกลางฝูงชน จนตรฤณเริ่มไม่ถูกว่าควรจะทำอะไร

_________________


“พี่สอง! หยุดก่อนฟังผมก่อนได้มั๊ย?”ภูเบศธ์ยังคงพยายามวิ่งตามสองที่วิ่งหนีไปอย่างไร้ทิศไร้ทางแต่ดูเหมือนว่าเรียกเท่าไหร่ สองก็ไม่สนใจแถมยังเร่งความเร็วเหมือนอยากหนีไปไกลๆอีกต่างหาก

ความจริงภูเบศธ์เองไม่รู้ด้วยซ้ำ   ว่ากรวางแผนให้ภีมพลมาแกล้งหลอกให้สองหึงเพราะตอนแรกที่ภูเบศธ์ไม่ยอมให้ภีมพลพูด เพราะอยากหาเรื่องแกล้งน้องชายตัวเองให้คนอื่นเข้าใจผิดเล่นๆ แต่กลายเป็นว่าสองกลับคิดไปไกล คิดว่ากรให้ภีมพลแต่งตัวเป็นผู้หญิงเพื่อมาหลอกสอง

แต่จะว่ากันตามความเป็นจริง กรก็คงหาเรื่องแกล้งสองจริงๆนั่นแหล่ะ~

ภูเบศธ์เองก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงชอบรุมแกล้งสอง(ทั้งที่ตัวเองก็เป็นหนึ่งในขบวนการบ้าง~) แต่อาจจะเป็นเพราะสองเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไร แกล้งทีก็สนุก ...แต่ถ้าเป็นเรื่องขึ้นมาความสนุกก็หดหายไปได้เช่นกัน
แล้วดูนะ ไอ้คนก่อเรื่องไม่ได้ง้อ แต่ไอ้คนง้อก็ไม่ได้ก่อเรื่อง...
เฮ้อ~เกิดเป็นภูเบศธ์กรรมเยอะจริงจริ๊ง! 

“พี่สอง!”ภูเบศธ์ใช้แรงเฮือกสุดท้ายเร่งสปีดจนถึงตัวสองแล้วคว้าข้อมือเล็กนั้นไว้ก่อนจะจับให้เจ้าของมือเล็กหันหน้าเข้าหาตนเอง

“จะตามมาแกล้งอะไรฉันอีก”  สองพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนบาดลึกไปถึงขั้วหัวใจของภูเบศธ์ ตอนนี้สองไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนเด็กๆเวลาโกรธหรือเสียใจ...แต่ถ้าเย็นชาอย่างนี้สู้ให้ร้องไห้ออกมาภูเบศธ์คงจะรู้สึกดีกว่านี้เยอะ เพราะการที่สองเป็นอย่างนี้ภูเบศธ์เดาความคิดอีกฝ่ายไม่ออก

“พี่สอง...ผมไม่รู้จริงว่ากรใช้ภีมา”

“เหรอ?...”สองถามกลับด้วยคำสั้นๆทั้งที่เบือนหน้าหนี

“อย่าโกรธผมได้มั๊ย?...พี่สองโกรธผมอย่างนี้ ผมรู้สึกไม่ดี”ภูเบศธ์บีบฝ่ามือนุ่มของอีกฝ่ายเบาๆเป็นการขอร้อง แต่สองกลับทำเฉย เหมือนไม่ได้ยินภูเบศธ์พูดเลยสักนิด

“โอเค ฉันอาจจะเคืองๆบ้างเรื่องน้องภีแต่งตัวเป็นผู้หญิงแล้วมายั่วให้ฉันโมโหตามแผนของกร...”

“.......”

“แต่ที่ฉันโมโหมากกว่า..ก็เพราะเรื่องที่นายมีน้องนี่แหล่ะ”

อ๊าว? กูเพิ่งรู้ว่าการที่ภูเบศธ์มีน้องชายมันผิด

“นายไม่เคยบอกฉันเลยภู...นายรู้เรื่องของฉันทุกอย่าง...แต่ฉันไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับนายเลย...ทั้งที่นายเป็นแฟนฉัน” สองพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆพยายามปิดกั้นความรู้สึกน้อยอกน้อยใจของตนเอง แต่สุดท้ายภูเบศธ์ก็รู้อยู่ดี

“วัวแก่น้อย~ ขี้น้อยใจซะด้วยสิ หัวก็ยังไม่เถิกเท่าผมคิดมากอะไรเนี่ย~”ภูเบศธ์คว้ารุ่นพี่ตัวเล็กตรงหน้ามากอดก่อนจะลูบหลังเบาๆ

ตั้งแต่จีบ ยันคบ...จะมีสักวันมั๊ยที่มันไม่ชมกูว่าเป็นวัวแก่ ไอ้เด็กผีนี่! 

“ก็มันจริงมั๊ยล่ะ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับนายเลยภู”สองเงยหน้ามองเด็กที่ตัวสูงกว่าก่อนะจเอ่ยขึ้นมาเบาๆเรียกรอยยิ้มของภูเบศธ์

“ผมเกิดวันอะไร?”เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงและแววตาที่อ่อนโยน

“พุธ”

“ที่?”ภูเบศธ์ถามต่อ

“ 4 มิถุนา”สองตอบสั้นๆ ส่วนเรื่องปีที่เกิดก็รู้คำตอบเหมือนวันเกิด แต่แค่ไม่อยากพูดให้เป็นหอกทิ่มแทงตัวเอง เพราะไอ้เด็กตรงหน้าอายุน้อยกว่าตัวเองถึงสามปี ถ้าพูดออกมาทีจะรู้สึกว่าตัวเองแก่อย่างไร้เหตุผล

“ชอบสี?”

“ขาว”ริมฝีปากสีสดเอ่ยตอบสั้นๆ พอกับคำถาม แต่ภูเบศธ์กลับหลงเสน่ห์มันจนยากที่จะถอนสายตา

“กลัวอะไร?”

“แมงมุม”สองตอบพร้อมกับสบตาภูเบศธ์

“ไม่ใช่...”ภูเบศธ์พูดพร้อมกับเผยยิ้ม แต่คำตอบของภูเบศธ์ทำเอาใบหน้าหวานหงอลง เพราะทายผิด

“เห็นมั๊ย...ฉันรู้เรื่องของภูไม่กี่อย่างเอง”

“เปล่า...แมงมุมผมก็กลัว...แต่ตอนนี้ที่กลัวมากที่สุด...คือกลัวการที่ชีวิตนี้ขาดความรักและความเอาใจใส่จากวัวแก่ตรงหน้าต่างหาก

ก็กะว่าจะซึ้ง กับคำพูดที่ซึ้งตรึงใจ  แต่ไม่ทันไรก็มาสะดุดกับไอ้คำว่า “วัวแก่” นี่แหล่ะ! 

“ด่าฉันเป็นวัวแก่อีกแล้วนะ!”สองโวยวายทันที

“อ้าว?...ไม่ซึ้งเลยเหรอ?”ภูเบศธ์ถามขำๆ

“ซึ้งบ้าอะไร ไอ้เด็กนี่ หาเรื่องด่าอยู่นั่นแหล่ะ”

“งั้นก็เอางี้สิ ถ้าผมพูดว่าพี่สองเป็นวัวแก่...ผมให้จูบบวกหอมแก้มเลย เปลี่ยนกันไงเวลาที่พี่สองด่าผมว่าปากหมาผมยังจูบเลยจะได้เท่าเทียมกัน ไม่สิ พี่สองได้เปรียบด้วยนะ ได้หอมผมเพิ่มด้วย”ภูเบศธ์เสนอในสิ่งที่สองรู้อยู่เต็มอกว่างานนี้สองมีแต่เสียกับเสีย

เอากับมันสิพูดจาอย่างกับตัวเองเสียเปรียบทั้งที่ถ้าลองเทียบกับกู...ยังมองไม่เห็นลู่ทางเลยว่ากูจะได้เปรียบมัน

    “ตลก! ใครจะทำอย่างที่นายบอก”

   สองพูดกระแทกเสียงใส่หน้าเป็นการประชดกลายๆ

“เฮ้ย?...ไม่ตลกนะ จริงจัง ดูหน้าสิ”ภูเบศธ์มองสองก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งขรึม ในขณะที่สองก็รู้ทั้งรู้ว่าไอ้เด็กผีนี่เก๊กอยู่

“อย่ามาทำเป็นเก๊ก ไม่ได้หล่อขึ้นเลย หน้าผากก็เถิก จมูกก็บาน ไม่มีอะไรให้น่าพิศวาสสักอย่าง”

“แน่ใจ๊? แล้วเมื่อคืนใครขออีกรอบ”ภูเบศธ์เริ่มพาย้อนความหลัง ในขณะที่ใบหน้าของสองเริ่มแดงซ่าน

“ไอ้บ้า! ใคร?..ใครอะไร..อย่ามามั่ว!”สองเริ่มพูดติดขัด แถมด้วยการกระพริบตาถี่ๆอย่างมีพิรุธทำเอาภูเบศธ์ได้แต่ยิ้มอยู่ในใจกับความน่ารักของสองความจริงถ้าที่นี่ไม่ใช่ที่สาธารณะภูเบศธ์คงจับกดสองไปนานแล้วเช่นกัน

“ไม่รู้สิ รู้สึกจะเป็นคนแถวๆนี้ล่ะมั้ง”พอพูดจบริมฝีปากอิ่มก็โดนมือเล็กปิดปาก พร้อมกับใบหน้าหวานหันซ้ายแลขวาไปมาราวกับกลัวว่าจะมีใครมาได้ยิน

“อย่าพูดเชียวนะเดี๋ยวไอ้ตรฤณมาได้ยิน...มันได้หาเรื่องด่าฉันพอดี”สองทำหน้าบูดก่อนส่งสายตาเคืองๆให้ภูเบศธ์ที่แทบจะทนกับความน่ารักของสองไม่ไหว ทำอะไรก็น่ารักจนอยากจะหอมอยากจะกอดเอาไว้แน่นๆ

โอ๊ย.....จะน่ารักไปไหนครับ..สอง แค่นี้ยังทำกูเครซี่ไม่พออีกเหรอครับ!

“พี่ตรฤณจะด่าพี่สองเรื่องอะไร?”ภูเบศธ์ปลดมือเล็กที่ปิดปากตัวเองออกก่อนจะเอ่ยถาม

“ก็เรื่องที่ฉันชอบไปขลุกอยู่ที่คอนโดนนาย แค่นี้ก็มันหาว่าฉันแรดอยู่เช้าเย็น!”สองพูดด้วยความไม่พอใจ แต่ภูเบศธ์กลับหัวเราะออกมาก่อนจะก้มลงแวยหอมแก้มใสฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยว

“แต่ว่าอย่างฉันไม่ได้แรดใช่มั๊ยภู? ”สองถามภูเบศธ์ตาแป๋วจนภูเบศธ์ต้องกัดปากตัวเองเพราะภูมิต้านทานความน่ารักของสองมันเริ่มต่ำลงทุกที

“ไม่สักหน่อย...ผมเองนี่นาที่ขอร้องให้พี่สองไปอยู่ด้วย”

ขอร้องเหรอ?..เข้าใจผิดไปหรือเปล่าครับภูเบศธ์ทุกครั้งมึงก็ลากกูขึ้นรถพากลับคอนโดมึงแบบไม่ถามความเห็นกูสักคำ! เพราะฉะนั้นกูไม่ได้แรด เข้าใจใช่มั๊ยไอ้เพื่อนตรฤณ! 

________________________




ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
“อ้าว..มึงรู้จักภีก่อนกูอีกเหรอ?”สองเอ่ยถามขึ้นมา

“ถ้ากูไม่รู้กูจะหาเรื่องให้มึงไปเปิดศึกโมโหหึงทำไม ใช่มั๊ยภู?”ตรฤณพูดจากวนอวัยวะเบื้องล่างสองที่รู้สึกว่ามันจะกระตุกๆเมื่อได้ยินในสิ่งที่ตรฤณพูด

กูล่ะซึ้งเพื่อนกูจริงๆ รู้ก็ไม่บอกตั้งแต่แรกแถมยังหาเรื่องแกล้งกูได้อีก มันน่าจับมาฉีกเป็นชิ้นๆ ให้สิ้นชีพไปซะ!

“เอ่อ...ผมไม่เห็นด้วยกับพี่ตรฤณนะ”ภูเบศธ์เองก็รีบปฏิเสธเมื่อโดนตรฤณโยนความผิดมาให้

“กูจะไปฟ้องไอ้ดำ!”สองขู่พร้อมกับชี้หน้า ในขณะที่ตรฤณลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่รับรู้ จนสองต้องเขวี้ยงยางลบใส่หน้าตรฤณ แต่ตรฤณก็รับเอาไว้ได้ทัน ที่จริงสองก็หยิบดินสอกะเขวี้ยง แต่ภูเบศธ์มาเปลี่ยนเป็นให้ถือยางลบแทน ไม่งั้นตรฤณคงได้มีเลือดตกยางออกไปแล้ว พอเห็นว่าสองเขวี้ยงยางลบแทนดินสอ ภูเบศธ์ก็โล่งใจ....ไม่ใช่อะไร เพราะหากพี่เจ็บขึ้นมา เดี๋ยวผีแม่ลูกอ่อนจะเข้าสิงใครบางคน จนเกิดเรื่องวุ่นๆอีกแน่นอน!

“เชิญขี่เด็กของมึงไปฟ้องเลย กูไม่กลัว~”ตรฤณยังคงหาเรื่องแกล้งสองอย่างสนุกสนาน จนกรต้องเริ่มปราม

“อย่าไปแกล้งสองนักสิตรฤณ”กรออกโรง แต่กลับโดนสายตาอขงสองตวัดสายตามอง

ถึงพี่ตรฤณจะแกล้งบ่อยแต่ก็ไร้พิษภัย แต่ถ้ากรออกโรงเมื่อไหร่กูเกือบตายโหงทุกที!
(ภูเบศธ์ขอแทรกแซงทางความคิด!)

“ว่าแต่เขาไม่ดูตัวเองเลยเนอะ~”ตรฤณเหลือบมองคนรักที่นั่งอยู่ข้างๆพร้อมพูดแกมประชด แต่คำพูดมันโดนใจจนสองต้องยื่นมือมาขอจับมือ

“มึงพูดถูกใจว่ะ..เพราะฉะนั้น..เชื่อกู....เลิกกับกรซะ”

“โห..สองใจร้ายอ่ะ!”กรว่า

“ก็นายชอบหาเรื่องแกล้งฉันนักนี่!ให้ไอ้ตรฤณมันทิ้งซะก็ดีจะได้เข็ดใช่มั๊ยไอ้ตรฤณ”

“คราวนี้กูขอไม่ “ใช่มั๊ย” กับมึงได้มั๊ยวะสอง?”ตรฤณเหลือบเห็นสายตาดุๆของกร จึงจำใจต้องปฏิเสธสองไป

กูขอโทษว่ะสอง เพื่อชีวิตคู่ที่สดใส กูไม่กล้าพอที่จะปฏิเสธ
มึงเห็นสายตามั๊ยล่ะ เพราะถ้ากูตอบว่าจะทิ้ง รับรองกูโดนยิงชัวร์ป้าบ!
เห็นหน้าหวานๆอย่างนี้ มีปืนซุกซ่อนไว้ตามกระเป๋าหรือเปล่าก็ไม่รู้~


“อย่างนี้ทุกทีอ่ะมึง กูเลยหาเรื่องเอาคืนกรไม่ได้สักที~”สองบ่นอุบพร้อมกับเอนหัวลงซบกับไหล่ภูเบศธ์

“ก็เพราะนายน่ารัก...ฉันก็เลยชอบแกล้งนายไงใช่มั๊ยภูเบศธ์ ”กรเริ่มขอความคิดเห็นจากภูเบศธ์เพื่อหาแนวร่วมบ้าง

“ใช่..น่ารัก ”ภูเบศธ์เสริมคำ แต่ทำสองถึงรู้สึกว่าตัวเองมีปฏิกิริยากับคำว่า‘น่ารัก’ที่ออกมาจากปากของภูเบศธ์มากกว่าคำพูดของกรก็ไม่รู้ทั้งๆที่เป็นคำเดียวกันแท้ๆ
“ไม่เห็นจะเกี่ยวตรงไหนเลย กรน่ะมั่ว!”สองว่า

“อ้าวแล้วที่ไอ้เด็กปากหมาที่นั่งข้างๆด่านายทุกวัน...มันยังบอกเลยว่าจะจีบนาย แล้วอย่างฉันเห็นว่านายน่ารักแล้วอยากแกล้งบ้างก็ไม่เห็นจะต่างกันตรงไหน?" กรพูดยิ้มๆพร้อมกับแท็คมือกับภูเบศธ์อย่างรู้กัน

นอกจากคนน้องจะปากหมาคนพี่ก็ยังดุยิ่งกว่าหมา แล้วดูท่าว่าจะเป็นพวกชอบทำอะไรบ้าๆกันทั้งตระกูล
มึงคิดเหมือนกูมั๊ยครับเพื่อนตรฤณ


________________________

“เดินทางปลอดภัยนะภี”สองส่งยิ้มให้ภีมพลในขณะที่ภูเบศธ์เป็นคนพูดดกับน้องชายตัวเอง

“ครับ..กลับไปครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาอีกเมื่อไหร่เนอะ”ภีมพลยิ้มทั้งที่ทุกคนมองออกว่าเด็กชายกำลังเสียใจที่ต้องจากพี่ชาย

“เดี๋ยวพี่ไปหาเอง”ภูเบศธ์ลูบหัวน้องชายเบาๆ

“จริงเหรอ?พี่ภูไปหาผมจริงๆนะ”ภีมพลรีบถามกลับอย่างตื่นเต้นในขณะที่ภูเบศธ์พยักหน้ายืนยัน

“อืมไม่นานหรอก..ปีหน้าเองแป๊บเดียว”ภูเบศธ์ตอบพร้อมกับที่เดินมาส่งภีมพลถึงหน้าเกท พร้อมกับทุกคน ทั้งกร พี่ตรฤณ พี่ชวิน และ...สุดที่รักของภู...สองนั่นเอง

อ่อ...ส่วนหมอเขม มาไม่ได้เพราะติดเทสต์ย่อย..เรียนหมอนี่ลำบากจริงๆ

เวลาสองสัปดาห์ที่ภีมพลอยู่ที่ไทยเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ทั้งที่ยังจำรอยยิ้ม เสียงหัวเราะทุกคนที่อยู่ร่วมกันได้อยู่เลย แต่พรุ่งนี้ภีมพลก็จะไม่อยู่ด้วยกันแล้ว คิดแล้วมันก็น่าใจหายจริงๆ

“พี่จะไปเรียนต่อที่นั่นเหรอ?”ภีมพลถามต่อ แต่สองกลับเงียบไปจนภูเบศธ์จับสังเกตได้

“อืม...”ภูเบศธ์ตอบทั้งที่ความจริงไม่ใช่

“จะไปเรียนต่อแล้วทิ้งคนบางคนไว้ที่นี่แหล่ะ”ภูเบศธ์พูดทีเล่นทีจริงแต่ดูเหมือนว่าสองจะไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมาเล่นด้วยสักเท่าไหร่

“อยากไปก็ไปเลยไป..”สองพูดด้วยความงอน ภูเบศธ์ยิ้มกว้างก่อนจะคว้าไหล่คนตัวเล็กเข้ามาโอบเอาไว้ พร้อมกับมือแกร่งอีกข้างบีบแก้มสองเบาๆด้วยความเอ็นดู

“ล้อเล่นน่า~ ผมจะทิ้งพี่สองอยู่ที่นี่ได้ยังไง ถ้าจะไปก็ไปด้วยกันนี่แหล่ะ^^”

“ใครอยากไปกับนายกัน!”สองออกอาการโวยวายทั้งทีดีใจว่าภูเบศธ์จะไม่ทิ้งตัวเองอย่างที่พูดก่อนหน้า

“แล้ววัวแก่ที่ไหนทำหน้าอย่างกับจะร้องไห้ตอนรู้ว่าผมจะไปเรียนต่อที่นู่น”

“ไหน? วัวแก่ตัวไหนไม่เห็นสักตัว”สองทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แต่ท่าทางแบบนั้นกลับเรียกเสียงหัวเราะได้จากทุกคน

“ไม่รู้ล่ะ ถ้าผมไปผมจะพาพี่สองไปด้วย”ภูเบศธ์มุ่งมั่นแต่กลับโดนเบรคโดนชวินที่เงียบอยู่นาน (เพราะเพิ่งเข้ามาร่วมวงสนทนาหลังจากโทรเช็คหมอเขมที่เพิ่งสอบเสร็จ)

“ไปไหน?! ไม่ให้ไป นายจะเอาไอ้สองไปไหน”มาถึงก็โวยวายเรียกเสียงหัวเราะอีกรอบ ทำเอาสองมองหน้าเพื่อนอย่างไม่พอใจ

แหม่! กูก็กะว่าจะหนีตามกันไป แต่เจอพ่อกูเบรคเอาไว้ มีเคืองนะเว้ยงานนี้!

“ไปอเมริกา...ผมจะพาพี่สองไปด้วย”ภูเบศธ์ตอบ

“แล้วก็อีกอย่าง...ผมไม่ได้ไปเรียนหรอก แค่จะไปเที่ยว แล้วหาเรื่องไปหาน้องบ่อยๆเท่านั้นเอง ”ภูเบศธ์เติมประโยคจนได้ใจความและเข้าใจตรงกันทุกคน

“งั้นก็ไป”สองตอบอ้อมแอ้มทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่าจะไม่ไป หากไม่ใช่เพราะอาการของคำว่า ‘เล่นตัว’ สองก็คงเซย์เยสไปนานแล้ว

“เฮ้ยย มึงชักจะง่ายไปแล้วนะจะหนีตามผู้ชายไปอเมริกาเลยเหรอ?”ตรฤณแซวขึ้นบ้าง ทั้งที่เพราะความจริงก็ไม่อยากให้สองไป..เพราะถ้าชีวิตนี้ตรฤณขาดสองที่อยู่ด้วยกันมาตั้งนานไป คงทนคิดถึงเพื่อนรักไม่ไหวแน่ๆ ซึ่งมันก็คงไม่ต่างอะไรจากชวิน

“กูไม่ได้หนี นี่ไงกำลังประกาศว่ากูจะไปกับมัน พอใจยัง?”สองเกาะแขนภูเบศธ์เอาไว้แน่นก่อนจะมองหน้าแฟนเด็กของตัวเอง

“ไหนๆภีก็จะกลับแล้ว เราก็ไปส่งภีถึงที่นู่นเลยดีมั๊ยภู?”เสียงหวานเอ่ยอย่างออดอ้อน จนภูเบศธ์แทบจะปรี่วิ่งไปซื้อตั๋วเครื่องบินเอา ณ ตอนนั้น

“เอาจริงเหรอ?”ภูเบศธ์ลองถามย้ำเพื่อความแน่ใจเพราะสองมาโหมดนี้เมื่อไหร่ เดาใจไม่เคยออกสักที!

“จริงๆ”สองยิ้มหวาน พร้อมกับควงภูเบศธ์วิ่งหนีเพื่อนซี้สองคนที่โวยวายไม่ยอมให้ไปท่าเดียว..และรวมถึงกรด้วย

“ภูวิ่ง!”สองออกคำสั่งก่อนจะวิ่งหนีตัวพ่อและตัวแม่(จำเป็น) เพื่อไปซื้อตั๋วเครื่องบินกับภูเบศธ์ โดยมีทั้งชวิน ตรฤณ และกรวิ่งตามไปติด

“เฮ้ย อย่าหนีนะเว้ยไอ้สอง!”ตรฤณตะโกนคนแรก

“ตรฤณมึงรีบวิ่งไปจับตัวลูกสาวมึงเลยนะเว้ย เดี๋ยวลูกสาวมึงหนีตามผู้ชายไปอเมริกา!”ชวินที่วิ่งตามมาติดๆเอ่ยกับตรฤณบ้าง


และปิดท้ายด้วยคนสุดท้าย...กร


“เฮ้ย! ภูเบศธ์....ถ้าแกเอาสองไป แล้วฉันจะหาเรื่องแกล้งใครวะ กลับมาก่อนเลยนะเว้ย!!!!” 
ส่วนหนุ่มน้อยภีมพลที่ยืนอยู่หน้าเกทก็ทำได้แค่เพียงส่ายหน้าช้า แล้วเข้าไปในเกตด้วยความสุขใจ...

“สองมึงอย่าหนีนะ..!”คุณพ่อมือวางอันดับหนึ่งพูดก่อนในขณะที่ยังคงวิ่งตามสองและภูเบศธ์ไปติดๆ

“กูไม่ได้หนี~ กูแค่จะไปเที่ยว!”สองหันกลับมาตอบในขณะที่โดนภูเบศธ์ลากสังขารวิ่งหนี

“ไม่ได้! พวกกูไม่อนุญาต”คุณพ่อมือวางอันดับสองตะโกนฝ่าอากาศตามมาอีก

ถ้าชีวิตขาดไอ้สอง พวกกูคงเหงาแย่ มึงไม่รู้หรือไง๊ ไอ้วัวแก่กมลินทร์~~~

“เดี๋ยวตอนกลับจะพาหลานกลับมาด้วยนะครับ พี่ตรฤณพี่วิน!” ภูเบศธ์หันมายิ้มก่อนจะยิ้มให้คนตัวเล็กที่ตัวเองจับแขนพาวิ่งหนี อย่างมีความสุข

บ๊ายๆ ซียูอะเกนเน็กซ์ไทม์ นะไอ้วิน...และไอ้ตรฤณ  เพราะตอนนี้กูขอลาบินไปฮันนีมูนก่อน

______________________


“นี่ว่าแต่..นายจะพาหลานกลับมาหาพวกนั้นเหรอ?นี่นายยังมีหลานที่อเมริกาด้วย?”

“เปล่า..หลานพวกพี่ตรฤณกับพี่วินก็คือลูกของเราไง”

“ลูกของเรา?”ถามกลับด้วยตาใสแป๋วตามคอนเซปต์

“อื้อ! ก็ไปปั๊มลูกกันที่เมกายังไงล่ะ ฮ่าฮ่า”คำพูดของภูเบศธ์ทำเอาสองรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่หลงเชื่อหนีตามมันมา

ฮือ...  ไอ้ วินไอ้ตรฤณ  มึงมาช่วยกูด้วย ! ไอ้เด็กเวรปากหมามันจะหาเรื่องปล้ำกูอีกแล้ววววววว!!!


~ THE END ~

เย้ๆ รีบมาลงให้เลยค่ะ
ส่วนตอนหน้า จะลัลล้าพาไปเที่ยวอเมริกากันนะค้าาาาาาาา

ขอบคุณสำหรับการติดตามเรื่องนี้นะค้า>< o13

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
จบแล้วสินะเนี่ย หว่า!!

แล้วจะทำไงให้ได้เหงวัวแก่อีกน้า อิอิ

ขอบคุณที่มาต่อให้อ่านน้า  :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
แล้ว หมอเขมหล่ะ.. จะได้ไปด้วยหรือป่าว

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
จบแล้วเหรอเนี่ย ยังสนุกอยู่เลยอ่ะ
แล้วเราจะหัวเราะใครล่ะเนี่ย :jul3:
ไม่ได้ดูบรรดาเพื่อนๆแกล้งสองอีก
แต่ยังมีตอนพิเศษอยู่นี่เนาะ
ตอนหน้าเราจะไปอเมริกา~
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
น่าจะมีตอนที่กรโดนแกล้งมั่ง

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
555555555555+

ปัญหาคาใจเราตอนนี้

หมอเขมกับวิน ใครรุกใครรับคะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สลับกันเราก็ไม่ว่าหรอกนะ ก๊ากกกกกกกกกกกกกกก :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
ปีนเกลียว ... พากันเที่ยวอเมริกา


   “อื๊อ~ ภู...ไม่เอา อ๊ะ~”
   เสียงแหบเล็กดังอู้อี้ด้วยความงัวเงียหลังจากที่เพิ่งรู้สึกตัวเพราะโดนใครบางคนมาป้วนเปี้ยนซุกไซร้ซอกคอรับอรุณ ทั้งที่สองไม่อาจจะนับได้ด้วยซ้ำว่าเมื่อคืนได้นอนกี่ชั่วโมง ไม่ทันไรไอ้ตัวต้นเหตุที่ทำให้สองได้หลับนอนเอาตอนเกือบรุ่งสาง ก็ยังหาเรื่องปลุกให้ตื่นได้ทั้งที่นอนยังไม่ครบสามชั่วโมงดีด้วยซ้ำ

   “ภู~”น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยติดจะรำคาญ
   จำได้ว่ากูเรียกชื่อมาสองครั้ง ถ้ายังไม่หยุดกระทำ ได้ช้ำในแน่ ไอ้ภูเบศธ์!

   แต่เจ้าของชื่อกลับทำไม่สนใจ มือใหญ่ยังคงลูบไล้ไปตามหน้าท้องขาวเนียนของร่างเล็กด้านล่าง แถมด้วยใบหน้าคมซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่น ถึงการกระทำเหล่านี้อาจจะทำให้คนตัวเล็กเผลอใจเคลิ้มไปกับสัมผัสบ้างเป็นครั้งคราว แต่บางครั้งไอ้อาการที่เรียกว่า “นอนไม่พอ” ก็ทำเอาสองนึกหงุดหงิด

   “ไอ้ภูเบศธ์!”
   เอ่ยชื่ออีกฝ่ายเป็นครั้งที่สามแบบเต็มยศ(?) ตามมาด้วยการกระทำที่สองตั้งมั่นไว้ในใจมาก่อนหน้านี้ มือเล็กทั้งสองประคองใบหน้าคมเอาไว้ให้สบตากับตนเอง แล้วส่งยิ้มหวาน..พร้อมฝ่าเท้าที่ภูเบศธ์ไม่อยากได้รับเหมือนรอยยิ้ม

   ตุ้บ!

   “โอ๊ย~ พี่สอง”เสียงทุ้มครางโอดครวญเมื่อโดนลูกฟรีคลิ๊กเข้าที่ช่วงเอวจนกลิ้งตกเตียงแบบตั้งหลักไม่ทัน พอลุกขึ้นมาได้ก็เอาคางเกยกับเตียงเพื่อมองอีกฝ่ายพร้อมกับสังเกตสถานการณ์ไปในตัว

   เพราะขืนปีนขึ้นเตียงไปสานต่อ...มีหวังโดนเอาปืนจ่อหัวแน่ๆ

   “เมื่อคืนก็ตั้งหลายรอบแล้วนะ มากวนอยู่ได้คนจะนอน!”สองใช้สายตาขู่คนรักที่ทำสายตาละห้อยอยู่ขอบเตียง

   “หลายรอบตรงไหนก็แค่...สี่รอบ”ภูเบศธ์หาเรื่องเถียงพร้อมด้วยการนับนิ้ว

   “สี่รอบ?...สี่รอบบ้านนายสิ...หกรอบ!” สองขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกว่าจำนวนที่ภูเบศธ์บอกมามันน้อยกว่าความเป็นจริง พอลองนึกไปนึกมาก็พอบอกได้ว่าสรุปแล้วมันกี่รอบ

   “ก็สี่รอบผมทำ..อีกสองนั่นพี่สองขอต่อ เพราะฉะนั้นผมยังไม่หมดโควต้า!”พูดจบก็เผยยิ้มเจ้าเล่ห์ แถมด้วยการบุ่มบ่ามปีนขึ้นเตียงในลักษณะอาการที่ไม่หวั่นเกรงสองเหมือนคราแรก

   “ไอ้บ้า! ไม่เกี่ยวเลย อื๊อ.....ปล่อยนะ ไอ้เด็กบ้านี่ ฉันบอกให้ปล่อย อ๊ะ...ฮ่าฮ่าฮ่า”สุดท้ายทั้งสองก็ปลุกปล้ำกันไปมาอยู่บนเตียง พร้อมด้วยเสียงหัวเราะ เพราะภูเบศธ์หาเรื่องแกล้งสองด้วยการหอมแก้มใสสลับไปมาทั้งสองข้างแถมมือแกร่งก็ยังไล้ไปตามเอวคอดเรียกเสียงหัวเราะของคนสองคน และพอรู้ว่าสองเริ่มเผลอริมฝีปากอิ่มก้มลงไปจูบริมฝีปากสีสดเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะอมยิ้มเมื่อโดนร่างเล็กย่นคิ้วใส่ด้วยความไม่พอใจ

   “ทำไมผมถึงได้รักพี่สองขนาดนี้นะ~”น้ำเสียงนุ่มทุ้มฟังดูจริงจังแต่ก็ดูขี้เล่นในเวลาเดียวกัน ทำเอาเจ้าของชื่อต้องเผลอยิ้มบางๆส่งคืน

   “ฉันจะไปรู้กับนายเหรอ~”แต่เมื่อโดนร่างสูงจ้องมองร่างเล็กก็กลับหลบสายตาเพราะเริ่มรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้าของตนเอง และเหมือนภูเบศธ์จะได้ใจ เลยก้มลงไปประทับจูบริมฝีปากเล็กๆนั่นอีกครั้ง

   “อื้อ......” ครั้งนี้สองไม่ได้ขัดขืนแถมยังหลับตาพริ้มรับสัมผัสอันอ่อนโยนที่ภูเบศธ์เป็นคนมอบให้ แต่ก่อนที่จะเลยเถิดไปมากกว่านี้ เผอิญว่าภูเบศธ์เกิดมาบุญมีแต่กรรมบัง เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นขัดบรรยากาศโรแมนติกเสียก่อน

   “พี่ภู~  พี่สอง~”
   คนที่จะมาเรียกในยามเช้าแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเสียงของคนน้องที่ชอบมารบกวนเวลาแห่งความสุขของคนพี่เสียเหลือเกิน ภูเบศธ์ผละริมฝีปากออกจากสองอย่างอ้อยอิ่งนึกเสียดายจนต้องทำเสียงจิ๊เบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

   “ลูกกูอยู่ไหน?!” แต่ทว่าพอเปิดประตูมากลับเจอเจ้าของเสียงดุๆของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ซึ่งคนคนนี้จะดุมากเป็นพิเศษเวลาที่ภูเบศธ์อยู่ใกล้กับสองเกินปกติ

   “พี่วิน!” ภูเบศธ์หน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัดเจนบุคคลแวดล้อมแถวนั้นพากันส่งเสียงหัวเราะ
   คิดดู๊! นี่ขนาดกูลักพาตัวลูกมาไกลถึงอเมริกากูยังโดนพ่อเขาตามฆ่าได้ถึงที่อีกอ่ะ!

   “มึงดูต้มยำกุ้งมากไปเปล่าวะวิน? ฮ่าฮ่า”เหมือนตรฤณมาช่วยชีวิต เพราะเพียงแค่ตรฤณเอ่ยทักเพื่อนตัวเอง ชวินก็หลุดหัวเราะออกมาทันที

   เฮ้อ~ โล่งอก ที่กูไม่โดนชกจนหน้าแหก! แต่ก็เคืองที่หน้าต้องแตกเพราะโดนพี่วินแกล้งให้กูกลัวจนหัวหด!

   “ฉันล้อเล่นน่ะภู~”ชวินพูดยิ้มๆก่อนจะตบบ่าคนรักของเพื่อนเบาๆ

   “ไอ้สองมันตื่นยังวะ?”ตรฤณเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง พร้อมด้วยการชะโงกหน้าหาเพื่อนตัวดีที่คาดว่าจะหลับนอนอยู่ในห้อง

   “ตื่นแล้ว...เข้ามาก่อนครับ...”ภูเบศธ์ต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมด้วยการเดินนำกลุ่มพ่อ(?) เอ้ย! กลุ่มเพื่อนของสองเข้าไปหาบุคคลที่พูดถึง

   ตื่น....ตรงไหนวะ?  ได้ข่าวว่านอนหลับตาพริ้มแถมด้วยเสียงเอฟเฟค ฟี้~ ฟี้~ เนี่ย

   พอหันกลับมาอีกทีกลายเป็นว่าสองหลับไปอีกครั้ง จนภูเบศธ์ต้องส่ายหน้าช้าๆพร้อมกับยิ้มแก้มปริกับความน่ารักของสอง ที่หลับได้แม้แต่มีเสียงโหวกเหวกโวยวายอยู่หน้าห้อง
   ท่าทางจะเหนื่อยจริงๆแฮะ~

   “เฮ้ย! มึงตื่นๆๆๆๆๆ ตื่นมาดูซิว่าใครมาหา”ตรฤณมุดตัวเข้าไปในห้องได้ก็กระโดดปีนขึ้นเตียงเลิกผ้าห่มออกแกล้งคนนอนหลับทันที

   “อื๊อ! ภูบอกแล้วไงว่าอย่ากวนคนจะนอน!”สองไม่แม้แต่จะลืมตาขึ้นมามองว่าตัวเองยกเท้าถีบใครจนตกเตียง

   ตุ้บ!

   ไอ้สอง! มึงเตะไม่ได้ดูเลยนะว่ากูน่ะเพื่อนไม่ใช่ผัวมึง!


   “ฮ่าฮ่า...”เมื่อเพื่อนรักนามว่าตรฤณกลิ้งตกเตียงเพราะโดนลูกฟรีคลิ๊ก แทนที่บุคคลที่อยู่ร่วมเหตการณ์กันประมาณสามสี่คนจะวิ่งเข้ามาช่วยเหลือ แต่กลับพร้อมใจกับอ้าปากหัวเราะเสียงดัง

   คนที่ชื่อตรฤณงอน...ส่วนคนชื่อสองยังคงหลับต่อไป

   ลำบากคนใกล้ชิดต้องเดินเข้าไปหาสองพร้อมกับจุ๊บแก้มใสของคนนอนหลับเบาๆ

   “ตื่นได้แล้ว เพื่อนมาหาแน่ะ”ภูเบศธ์กระซิบข้างหูเบาๆเพื่อเรียกคนตัวเล็กให้ตื่นจากห้วงนิทรา
   ป้าบ
   แต่ทว่าสองคงนึกว่าเป็นแมงหวี่แมงวันที่ชอบบินวนแถวหู เลยปัดมือไล่ความรำคาญจนโดนแมลงวันตัวใหญ่เข้าให้ดังป้าบ ทำให้ใบหน้าคมเกิดรอยแดงขึ้นอย่างที่ภูเบศธ์ก็ทำอะไรกับมันไม่ได้

   ตายซะ!  ช่วยไม่ได้ก็คนจะนอนอยากมาเห่ามาหอนแถวหูกูเอง!

   ไอ้แมลงวันเอ้ย~(สองนึกอยู่ในใจ)


   “ร้ายกาจจริงๆไอ้นี่”ชวินมองเหตุการณ์ตรงหน้าพร้อมกับส่ายหน้า ก่อนจะเดินไปทำหน้าที่เป็นคนปลุกสองคนที่สาม หลังจากที่ตรฤณละภูเบศธ์เป็นหน่วยกล้าตายมาก่อนหน้านี้

   “เฮ้ย! ตื่น! เด็กมึงมีกิ๊ก!”ชวินเอ่ยเรียกเสียงดังพร้อมกับการยื่นเท้าไปสะกิดขาเพื่อนรักแรงๆเพื่อป้องกันท่าไม้ตายสองที่ตบเตะโดนหัวหูไอ้หน่วยกล้าตายมาแล้ว

   เฮ้ยได้ผลแฮะ! เด้งขึ้นมาทำตาสว่างเชียว!

   “ว่าอะไรนะ?!”เด้งตัวลุกขึ้นมาพร้อมกับถามทันทีแบบอัตโนมัติ แต่พอดวงตาเรียวรีมองเห็นคนที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้าก็รีบกระโดดลงจากเตียง

   “เฮ้ย! ชวิน~”สองโผกอดชวินไว้เสียแน่น ก่อนที่พ่อมือวางอันดับสองจะเกิดอาการน้อยใจขึ้นมาตงิด

   ได้ข่าวว่ามึงมีเพื่อนสนิทอยู่สองคน  แต่ทำไมถึงรู้สึกว่ากูกลายเป็นคนที่มึงรักน้อยกว่าวะ  ไอ้สอง!

   “สองกูก็มานะ”ตรฤณร้องเรียกพร้อมกับอ้าแขนออกกว้างเพื่อให้ลูกได้วิ่งมาสู่อ้อมอก แต่สองแค่หันไปตามเสียงเรียกแล้วหันกลับมายิ้มและพูดคุยกับชวินต่อ

   สงสัยช่วงนี้ดวงตก ... เป็นหมีหัวเน่าตกกระป๋อง ทั้งกับเพื่อนและกับเมีย!

   “โอ๋~ กูล้อเล่น~”พอสองและชวินเห็นว่าตรฤณยืนทำหน้าเศร้าคอตกหางตก สองเลยต้องเดินไปกอดตรฤณเบาๆ ซึ่งเรียกรอยยิ้มจากตรฤณ แถมด้วยการยกมือใหญ่ๆของตนเองไปหยิกแก้มเพื่อนรักตัวเล็กด้วยความคิดถึง

   “คิดถึงมึงจังเลย~”ตรฤณพูดพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น

   “กูก็คิดถึงมึง ตรฤณ..ว่าแต่คุณแกนนำผู้ก่อการร้ายไม่มาด้วยเหรอ?”
   เออ..ก็เพิ่งจะสังเกตเนอะ!

   “กรเหรอ รายนั้นเขาไม่อยากมากับฉันหรอก”พูดจบไอ้ก็ทำหน้าเศร้าราวกับไอ้ทุย เอ้ย! ไอ้ขวัญรออีเรียม สองเลยต้องหันไปถามชวินด้วยสายตาแต่ชวินกลับส่ายหน้าเพราะไม่รู้เรื่องเหมือนกัน

   “เออ..เลิกๆกันก็ดี กูจะได้สบายใจ ฮ่าฮ่า”สองตบไหล่ปลอบตรฤณเบาๆ พร้อมเสียงหัวเราะ ตรฤณจึงพยายามที่จะยิ้มตาม

   “ฮ่าฮ่า..สมใจมึงล่ะสิ ที่กูจะเลิกกับกรได้สักทีน่ะ ใช่มั๊ย?”ตรฤณพูดยิ้มๆเหมือนเป็นเรื่องตลกอย่างที่สองว่า แต่สองกลับรู้ดีว่าตรฤณไม่ได้อยากยิ้มเหมือนที่ปากยิ้มอยู่ ณ ตอนนี้ สุดท้ายก็พร้อมใจที่จะเปลี่ยนเรื่องเปลี่ยนราว เพราะถ้าเกิดตรฤณพร้อมที่จะเล่าเมือไหร่ เดี๋ยวก็เล่าเอง ไปถามเอาตอนนี้ก็ลำบากใจกันไปเปล่าๆ

   “พอเพื่อนมาละลืมผมเลยนะ” บุคคลที่ยืนมองภาพความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนแบบไม่ให้สุ่มให้เสียงอยู่นาน ก็เริ่มอยากมีส่วนร่วมขึ้นมาบ้างโดยการเดินไปโอบเอวสองเอาไว้

   “เออใช่! เมื่อกี้มึงบอกกูใช่มั๊ย? ว่าเด็กกูมีกิ๊ก”แต่พอภูเบศธ์เริ่มเข้ามามีบทบาท สองก็จำความที่ชวินพูดตอนก่อนตื่นได้ทันที

   อ๊าว? ซวยกูแล้วมั๊ยล่ะ

   “ผมเปล่านะพี่สอง~”ภูเบศธ์รีบแก้ตัว แต่ชวินกลับหัวเราะในลำคอ

   “ถ้ากูไม่พูดอย่างนี้มึงจะยอมตื่นหรือเปล่าล่ะ?..ว่ามั๊ยภู...แต่ว่าถ้านายไม่ได้มีกิ๊กก็ไม่เห็นต้องร้อนตัวรีบปฏิเสธนี่”ชวินยักคิ้วกวนๆ โดยที่ตอนแรกคุยกับสอง และหันมาต่อท้ายประโยคด้วยการพูดกับภูเบศธ์

   โฮะ! ถ้ากูไม่รีบปฏิเสธ มีหวังกูเด๊ทคาห้องแน่! วัวแก่ยิ่งขี้หึงอยู่ พี่วินก็รู้นี่!
   “ใช่! ไม่ได้มีแล้วทำไมต้องร้อนตัว”สองหันมาทำตาดุใส่เด็กในปกครอง จนภูเบศธ์ต้องหลับตานึกหาหนทาง

เวลาชีวิตที่ขาดทิวากรช่วยเหลือ ภูเบศธ์ก็เหมือนไร้แขนขาหาทางรอดไม่เคยได้!

   “ไม่ใช่อย่างนั้น~ พี่สองอ่ะไม่เชื่อใจผมเหรอ?”ภูเบศธ์บีบมือเล็กๆเบาๆพร้อมด้วยอาการที่เรียกว่า “ออดอ้อนทางสายตา” จนเพื่อนอีกสองคนชักจะเลี่ยนกับความหวานที่คู่รักตรงหน้ามีให้แก่กัน

   “เชื่ออ่ะ..มันก็เชื่อ..แต่ฉันขี้หึงนายก็รู้~”

   “แต่ผมก็ไม่เคยมีคนอื่นนอกจากคนที่ชื่อสอง ใช่หรือเปล่าล่ะ?”

   “ก็ใช่...”ยิ่งพูดใบหน้าของคู่รักก็เริ่มจะเข้าใกล้กันเรื่อยๆ

   “STOP!”ชวินรีบเดินมาขวางตรงกลางจับแยกภูเบศธ์กับสองออกจากกัน ห่างมากเท่าไหร่ยิ่งดี ไอ้คู่รักคู่นี้ยิ่งสปาร์คกันง่ายๆอยู่ด้วย

   “พากูไปเที่ยวหน่อยสิ”ยังไม่ทันที่คู่รักที่เพิ่งถูกจับแยกจะโวยวาย ชวินก็รีบพูดขัด

   “นะสอง..ภูด้วย มาอยู่เมกาหลายอาทิตย์แล้วนี่...พาพวกฉันไปเที่ยวหน่อยนะ ”ตรฤณรีบเสริม

   “จะให้พวกผมพาพี่ตรฤณเที่ยวทำไม ผมว่าให้พี่วินที่เรียนอยู่ที่นี่มาตั้งหลายปีพาเที่ยวไม่ดีกว่าเหรอ?”ภูเบศธ์รีบถามกลับทำเอาตรฤณและชวินมองหน้ากัน

   มึงจะพูดอะไร ช่วยคิดสักหน่อยก็ดีไอ้ตรฤณ! สมองมึงทำด้วยขี้เลื่อยหรือไงไอ้นี่!

   เพราะที่จริงทริปการมาอเมริกาครั้งนี้ของตรฤณและชวิน ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะมาเที่ยว...แต่เป็นการลักพาตัวลูกสาว(?)กลับต่างหาก!

   “อ่อ..กูลืมไป”ตรฤณเริ่มเหงื่อตก แต่ก็กลับหันไปยิ้มแห้งๆส่งกลับคืนคู่รักสวีทหวานแหว๋วตรงหน้า พอดูเหมือนว่าทั้งสองและภูเบศธ์จะเลิกสนใจ พ่อทั้งสองก็มองหน้ากันพร้อมกับกระซิบกระซาบ

   “แล้วมึงจะเอายังไงต่อ? มึงดูลูกมึงซิทำตัวติดไอ้ภูอย่างกับตังเม กูอยากจะรู้จริงๆว่าจับแยกสักสองนาทีไอ้คู่นี้จะขาดใจตายมั๊ย?”ตรฤณเหล่ตามองคู่รักที่ตอนนี้นั่งยิ้มหวานคุยกันกระหนุงกระหนิงไม่ได้สนใจเลยว่าเพื่อนรักอุตส่าห์ข้ามน้ำทะเลมาหา แถมพร้อมด้วยการนั่งเครื่องบินจนเจ็บตูด แต่คุณลูกสองก็หาได้สนใจพ่อมันทั้งสองที่ยืนหัวโด่อยู่ไม่ ไอ้ตอนแรกก็ตื่นเต้นดีใจอยู่หรอกแต่พอโดนภูเบศธ์ทำตัวเรียกร้องความสนใจเข้าหน่อย ก็วิ่งกลับไปหาอ้อมอกเขสซะแล้ว
   พอมีผัว ก็ลืมพ่ออย่างพวกกูเชียวนะสอง! พวกกูล่ะน้อยใจจริงๆ!

   “มึงก็ลองสิถ้าไม่โดนไอ้สองกัดหัวมึงก่อน”ชวินออกความเห็นด้วยความน้อยใจอยู่ลึกๆ

   “ทีเมื่อก่อนล่ะผลักไสไล่ส่งไอ้ภู...เดี๋ยวนี้นะ ถ้าได้ห่างกันสักสามนาที กูว่ามันคงชักตาย หมั่นไส้!”ตรฤณถลึงตามองเพื่อนรักกับคนรักของเพื่อนโดยที่ไม่ให้คู่รักเห็น

   “หมั่นไส้หรืออิจฉา?”ชวินเลิกคิ้วถาม เพราะเหมือนจะรู้ๆๆมาว่าตรฤณกำลังมีคดีอยู่กับกร

   “ทั้งสอง! คิดแล้วกูเจ็บปวด..ช่างเหอะ มาคิดดีกว่าว่ามึงจะพาลูกมึงกลับไทยยังไง...ไม่มีไอ้สองให้กอดทุกวันกูอยู่ไม่ได้~”ตรฤณรีบเปลี่ยนเรื่องและเริ่มทำตัวโยเยเป็นเด็กๆใส่ชวิน จนชวินต้องมองท่าทางของตรฤณด้วยความรำคาญ

   กูว่างานนี้ เพราะไอ้ตรฤณสติไม่ดี กรถึงได้คิดตีจาก..จนมันต้องมาเรียกร้องอ้อมกอดจากเพื่อนแทนแน่ๆเลยว่ะ!

   “อ้าว! แล้วไม่กอดกรล่ะ?”

   “เขาให้กูกอดก็ดีสิ! ไอ้บ้านี่วกเข้าเรื่องนี้อีกแล้ว ไม่รู้หรือไงว่ากูเจ็บตับเพราะอาภัพรัก มึงน่ะไปแย่งลูกมึงกลับคืนมาเลย”ตรฤณดุนหลังชวินเพื่อเป็นกองหน้าไปบุกแย่งลูก ส่วนตรฤณขอเป็นโกลด์อยู่กับที่รอลูกมาแล้วค่อยรับดีกว่ากันเยอะเลย

   “สอง...พวกกูมาหาถึงที่ก็สนใจพวกกูหน่อยไม่ได้หรือไง?”พูดจบก็ทิ้งตัวลงนั่งแทรกกลางระหว่างภูเบศธ์และสอง จนภูเบศธ์ต้องเขยิบตัวหนีแทบไม่ทัน

   ถ้ากูไม่ย้ายก้นหนี ดีไม่ดีกูโดนพี่วินทับกูแบนแน่นอนครับ!

   ภูเบศธ์มองเพื่อนของคนรักด้วยความงงงันแต่ก็ยอมเขยิบตัวออกห่างมองชวินใช้แขนโอบไหล่สองอย่างสนิทสนม

   เชื่อมั๊ยครับว่าทุกวันนี้ กูก็ยังหึงพี่วินกับสองอยู่ดี~ ให้มันได้อย่างนี้สิ!

   ภูเบศธ์คิดอยู่ในใจพร้อมกับมองเพื่อนของคนรัก ที่เข้ามาแทรกแซงด้วยแววตาขุ่นเคือง แต่ก็ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้
   ก็รู้ๆกันอยู่ ว่าพ่อ(หรือเพื่อน)คนนี้เค้าดุ ถ้ากูขัดขึ้นมากูโดนชกหน้าแน่นอน!

   “เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ไปเที่ยวกัน?”หลังจากที่นั่งคิดสารตะกับตัวเองอยู่นานพอออกจากณานความคิด ภูเบศธ์ก็ได้ยินประโยคนี้จากปากชวินเสียแล้ว แถมสองยังพยักหน้ารับพร้อมด้วยรอยยิ้มสดใส

   “ไปกันทั้งหมด?”ภูเบศธ์รีบถาม ส่วนตรฤณและชวินก็รีบพยักหน้า

   “เอ...หรือว่าจะไปกันแค่สามคนดี..ส่วนนายอยู่บ้านเลี้ยงน้องไปเหอะ เพื่อนก็อยากเที่ยวกันตามประสาเพื่อนบ้างจะเป็นไรใช่มั๊ย?”ชวินพูดพร้อมกับกลั้นยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของภูเบศธ์ที่ทำปากพะงาบๆเตรียมแย้งเต็มแม๊กซ์ แต่เพราะชวินพูดไม่มีเว้นวรรคเลยทำให้ขัดไม่ได้

   “ได้ยังไง~ ภูไปด้วยกันนี่แหล่ะเนอะ   ”สองส่งยิ้มให้ภูเบศธ์ใจชื้น อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าสองไม่ทอดทิ้งภูเบศธ์ ถึงจะโดนกลุ่มเพื่อนสกัดดาวรุ่งก็ตามที ทำเอาสองพ่อทำหน้ามุ่ยตามๆกันไป...แต่ก็ส่งซิกส์ให้อย่างรู้กัน

เออ! ไปก็ไป แต่ไก่อย่าเผลอ พ่อจะลักตัวเพื่อนเกลอกลับบ้านเกิดทันทีที่มีโอกาส..จำไว้!

_____________________________


   ไหนๆก็พากันดั้นด้นมาอเมริกา สอง ผู้ซึ่งออกความเห็นก็เจาะจงลงไปว่าอยากไปเที่ยวสวนสนุกพร้อมกับเพื่อนสองคน มีชวิน ตรฤณ แฟนอีกหนึ่งคือภูเบศธ์และแถมท้ายด้วยน้องชายของภูเบศธ์อีกหนึ่ง สรุปรวมแล้วทริปการเที่ยวสวนสนุกครั้งนี้...มีกันถึง 5 คน พอดิบพอดี(ใครนับเกินกว่านี้...ลองดูดีๆว่านับคนข้างๆมาด้วยหรือเปล่า?)

   “เอาไงละทีนี้~”ตรฤณถามพร้อมกับการมองสองที่ถูกขนาบข้างด้วยภูเบศธ์และภีมพล ส่วนตัวเองและเพื่อน เดินตามหลังแบบเงียบๆ

   “ก็ไม่เอาไงล่ะ..ก็ทำตามแผนเดิม” ชวินมองคนสามคนที่เดินอยู่ข้างหน้าอย่างใช้ความคิด

   “แผนไหน?”ตรฤณทำหน้างง จนชวินอยากจะทึ้งหัวตัวเอง
   ตั้งแต่ไอ้ตรฤณมันมีเรื่องทะเลาะกับทิวากร ดูเหมือนว่ามันจะโง่ขึ้นเยอะเลยเว้ย!

   “อ๊าวไอ้นี่! ก็ที่บอกว่าไอ้ภเผลอเมื่อไหร่ก็รีบแยกสองออกมาแล้วพาหนีเลยทันทีไงละวะ!”ชวินตอบอย่างมีน้ำโห

   “แล้วภีล่ะ?”

   เออ...กูลืมคิดถึงคนนี้เลยว่ะเพื่อน!

   “เอางี้ กูจะไปตีสนิทกับเด็กนั่นส่วนมึงก็พยายามทำให้ภูเผลอโอเคมั๊ย?”

   “มึงล่อภี ส่วนกูล่อภู แล้วใครจะพาไอ้สองหนีวะ?”ตรฤณถามอย่างสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง

   “ใครมีโอกาส ก็คว้าตัวลูกมึงหนีไปเลย โอเค๊!”ชวินเริ่มจะหมดความอดทนกับความขี้สงสัยของเพื่อน

   “เออๆ...งั้นเริ่ม!”ตรฤณมองหน้าชวินพร้อมด้วยการสบสายตาอย่างมั่นใจ
   ภารกิจ...ลักพาตัวลูก...กำลังจะเริ่มขึ้น ณ บัดนาว!

   “ภี ชอบเล่นรถไฟเหาะมั๊ย?”ชวินเริ่มทำตามแผนเป็นคนแรก

   “ชอบสิครับ”ภีเองก็ตอบรับอย่างใสซื่อเด็กๆอย่างนี้หลอกพาไปไหนก็ง่าย..ส่วนตรฤณรู้สึกหนักใจนิดหน่อยที่ต้องจัดการกับภูเบศธ์

   แหม่! มึงฉลาดนี่ทำทีเป็นเลือกก่อน...แล้วผลักไอ้ภูเบศธ์ให้กูจัดการ..งานหนักเลยนะนั่น!

   ตรฤณมองชวินที่กำลังล่อลวงเด็กอยู่ใกล้ๆด้วยความหมั่นไส้

   “งั้นไปเล่นกัน..”ชวินพูดพร้อมกับจูงมือภีแยกออกมาซึ่งตอนแรกก็ถามทั้งหมดทั้งมวลแล้วว่าใครอยากเล่นรถไฟเหาะบ้าง..แต่ทว่าไม่มีใครที่มีความคิดว่าอยากไปเล่นด้วย เอาเป็นว่าชวินทำสำเร็จไปหนึ่ง ส่วนตรฤณ ก็ต้องลุ้นเอาอีกที

   สองไม่ใช่พวกที่ชอบเล่นเครื่องเล่นอะไรหวาดเสียวมากมาย แต่ก็ไม่หน่อมแน้มถึงขั้นต้องพาไปเล่นม้าหมุน แต่เดาเอาจากความชอบส่วนตัว ตรฤณเลยเสนอว่าจะพาสองไปดูสระน้ำและลานหญ้ากว้างๆ ไว้ให้ครอบครัวและเด็กๆนั่งพักผ่อนหย่อนใจ หรือให้เด็กๆวิ่งเล่น

   “สอง..ไปเดินทางนู้นดีกว่ามีสนามหญ้าด้วยเผื่อมึงอยากเจอญาติ”ตรฤณชี้ไปทางสวนน้ำขนาดใหญ่ที่มีสนามหญ้าเขียวชอุ่ม ใจกลางสวนสนุก

   “ญาติ? กูไม่มีญาติที่นี่”สองมองตรฤณอย่างสงสัยในขณะที่เดินไปเรื่อยๆเพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่ตรฤณชี้

   “วัวไงมึง”พูดจบก็หัวเราะอย่างมีความสุขคนเดียว แต่สองไม่ได้มีทีท่าว่าจะขำตามเลยเดินกระหนุงกระหนิงไปกับภูเบศธ์สองคน หลังจากที่เพิ่งเล่นเครื่องเล่นจำพวกเกมส์ชกต่อย และเกมส์ทุบหัวหนูที่มีเครื่องตั้งอยู่ตามข้างทางแข่งกับภูเบศธ์บ้างตรฤณบ้างตามประสา

   “นี่..ภู..หิวน้ำอ่ะ” พอหาที่นั่งริมน้ำได้สองก็ออกปากเหมือนเป็นคำสั่งกลายๆ ภูเบศธ์มองสองยิ้มๆก่อนจะปล่อยมือนุ่มที่กุมเอาไว้ตลอดออก

   “น้ำก็อยู่ตรงหน้าไง..สระออกจะใหญ่นอนแช่ในน้ำไป กินไปยังได้...”ภูเบศธ์พูดอมยิ้มในขณะที่สองเองก็ชักจะตะหงิดๆกับคำพูดของภูเบศธ์

   “หมายความว่าไง? ลงไปนอนแช่?”
   ครั้งนี้กูเกรงว่ามันจะไม่ได้หาเรื่องด่ากูว่าเป็นวัวแก่ แต่แค่กลัวว่ามันจะหลอกด่าว่าเป็นสัตว์สายพันธุ์หนึ่งที่ชอบนอนแน่นิ่งแช่ในน้ำแถมเคี้ยวเอื้องได้ก็เท่านั้นเอง!

   “ไม่เอาน่า~ เลิกกินหญ้ามาก็นาน น่าจะคิดออกนะ”ภูเบศธ์ยิ้มแก้มปริในขณะที่สองเตรียมเอาเท้านำหน้าออกก่อน เมื่อเห็นอย่างนั้นภูเบศธ์ก็ต้องกระโดดหนีลูกถีบของสอง

   “ภู!”สองเริ่มเดือด

   “ท่าทางจะอากาศร้อน วัวแก่ใกล้บ้าแล้วแฮะ”ภูเบศธ์เองก็ยังคงหาเรื่องแกล้งไม่เลิก แต่สุดท้ายก็วิ่งหนีไปตามหาซื้อน้ำมาใหอยู่ดี

   “ไอ้เด็กบ้าเอ้ย~”สองก่นด่าไล่ไปตามหลัง แต่กลับมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า พร้อมกับส่ายหน้าช้าๆหลังจากที่แผ่นหลังของภูเบศธ์ลับตาไปท่ามกลางฝูงชน
   ต้องหาเรื่องกัดกันวันละนิดสิน่า...ไม่งั้นดูท่าว่าจะนอนไม่หลับกันทั้งคู่!

   “อ้าว? แล้วนี่มึงจะพากูไปไหน?”ยังไม่ทันหุบยิ้มกับความคิดของตัวเองตรฤณก็มาฉุดเพื่อนรักตัวเล็กให้ลุกขึ้นแล้วออกเดิน

   “หนีไอ้ภูไง...กูกับไอ้วินถ่อมาถึงเมกาเพราะจะลักพาตัวมึงกลับไทยนี่แหล่ะ”ตรฤณหันมาบอกก่อนจะมองไล่หลังไปดูว่าภูเบศธ์ไม่ได้ตามมา

   “หือ?...อ่อ..กูก็ว่า...”พอตรฤณแถลงไขสองก็ถึงบางอ้อ ถึงเรื่องราวหลายๆอย่าที่เกิดขึ้นตั้งแต่เพื่อนซี้สองตัวโผล่หัวมาให้เจอถึงอเมริกาพร้อมกับท่าทางอาการหวงตนเองแปลกๆ แล้วไหนจะภูเบศธ์...ที่แอบโทรตามตัวใครบางคนตั้งแต่เมื่อวาน...ที่ชวินและตรฤณมาถึงแบบไม่ให้รู้ตัว

   “ว่าอะไร?”ตรฤณหันมาถาม...ก่อนที่จะเจอรอยยิ้มร้ายของสองใบหน้าหวานของเพื่อนพยักเพยิดให้ตรฤณหันไปดูด้านหลัง

   “ว่าการที่มึงมาลักพาตัวกูกลับ มึงจะต้องโดนสกัดโดย...”

   “กร?!”ตรฤณหันไปด้านหลังแล้วก็ต้องเจอกับเจ้าของชื่อที่ตรฤณเรียกออกมาเสียเต็มเสียงด้วยความตกใจ
   แม่มึงมา...กูเลยต้องขอลาไปหาภูเบศธ์นะ ไอ้เพื่อนตรฤณ~

   ในเมื่อตรฤณก็มัวแต่ตะลึงอึ้งปากค้าง สองก็ค่อยๆแกะมือใหญ่ของเพื่อนออกจากแขน พร้อมด้วยการค่อยๆเดินจากคู่รักที่มองหน้ากันแบบไม่มีใครพูดอะไรต่อ

_____________________

   

ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
   “เอ่อ...พี่วินก็มาใช่มั๊ยครับพี่ตรฤณ ถ้ายังไงผมขอตัวไปตามหาพี่วินแล้วกันนะครับ”หมอเขมทำลายความเงียบขึ้นมาหลังจากที่สองทิ้งเพื่อนเอาไว้กับกร และเขม หมอเขมเริ่มรู้สึกเป็นส่วนเกิน และรับรู้ได้ถึงบรรยากาศมาคุแปลกๆจึงขอตัวเลี่ยงออกมาเมื่อตรฤณพยักหน้าเป็นคำตอบ

   สุดท้ายก็เหลือกันแค่เพียงสองคน
   กร และ ตรฤณ

   “มาอเมริกาทำไมไม่บอกฉัน”กรเป็นคนเริ่มพูดก่อนเพื่อทำลายบรรยากาศอันชวนอึดอัด   แต่ในความรู้สึกของตรฤณกลับรู้สึกว่ายิ่งกรพูดยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบแย่ลงกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า เพราะกรกำลังพูดถึงความผิดของตรฤณที่แอบหนีมาที่อเมริกาโดยที่ไม่บอกกรสักคำ

   “ภูโทรไปบอกล่ะสิ..”ตรฤณเสมองไปทางอื่น แต่ปากก็เอ่ยถามออกมาอย่างนึกเซ็งในอารมณ์

   ท่าทางชีวิตของภูเบศธ์คงขาดกรไม่ได้ซะล่ะมั้ง พอมีมารมาขัดความสุข ก็รีบโทรหาตัวแม่ให้มารุกฆาตกูทันที!

   “เราถามว่ามาอเมริกาทำไมไม่บอกเราตรฤณ”กรถามย้ำเป็นรอบที่สองโดยที่ไม่ตอบคำถามของตรฤณ

   “ทีนายจะไปไหนกับใคร ยังไม่เห็นจะบอกฉันสักคำ”ตรฤณหันตัวกลับก่อนจะออกเดิน

   “ตรฤณ! มีอะไรก็พูดมาตรงๆ อย่าทำตัวแบบนี้สิ”กรไม่ได้เดินตามตรฤณไป เพียงแต่ตะโกนถามกลับในขณะที่ตรฤณก็ไม่ได้คิดที่จะหยุดเดิน และไม่คิดที่จะใส่ใจ กรก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วเดินไปนั่งพักลงกับม้านั่งด้วยความอ่อนใจ ทั้งๆที่ตัวเองถ่อสังขารแถมด้วยการไปลากหมอเขมมาอเมริกาแบบเร่งด่วนเป็นเพื่อน เพื่อมาตามหาคนรักที่หายตัวออกไปจากสารระบบมาสองสามวันโทรไปก็ปิดเครื่อง ไปหาที่หอก็ไม่เจอตัว แต่จู่ๆเมื่อวันก่อนก็ได้รับโทรศัพท์จากทางไกล ว่าเจอตัวตรฤณที่อเมริกา กรแทบจะปรี่ไปขึ้นเครื่องเอาตอนนั้น แต่ติดที่ว่ายังไม่มีไฟล์ทไปต้องรอตอนเช้า การที่กรนั่งเครื่องบินนานถึง 13 ชั่วโมงเพื่อมาที่นี่ ก็ถือว่าเก่งพอตัวแล้ว แต่พอมาเจอคนที่อยากเจอ...กำลังใจก็หายไปเกินกว่าครึ่งเสียแล้ว

   กรมองตามหลังตรฤณไปเรื่อยๆแต่ตรฤณก็ไม่ได้เดินไปไหนไกล...เพียงแค่ไปนั่งลงกับริมสระน้ำห่างจากกรประมาณห้าร้อยเมตรเท่านั้น สุดท้ายกรก็ต้องเดินตามตรฤณไปนั่งลงข้างๆ พอตรฤณเตรียมจะลุกเดินหนีกรก็ต้องเรียกรั้งเอาไว้

   “นายเป็นบ้าอะไรกันตรฤณ! เราอุตส่าห์มาหานายถึงที่นี่....ทั้งที่เราเพิ่งมาถึง เหนื่อยก็เหนื่อย...กว่าจะได้มาเจอ..แต่พอเจอนายก็เอาแต่หนีฉัน นายเป็นบ้าอะไร!”กรพูดออกมาอย่างหมดความอดทน แต่ตรฤณกลับยิ่งรู้สึกเจ็บปวดทำตัวดราม่าเข้าขั้นแอดวานซ์ไปแล้วเรียบร้อย

   “เป็นบ้าอะไรมันก็เรื่องของฉัน!  ถ้านายเหนื่อยมากนักจะตามฉันมาที่นี่ทำไม”

   “ก็เพราะรักไง! ไอ้บ้าหน้าหมี ถ้าไม่รัก แล้วจะถ่อมาง้อนายถึงที่นี่ทำบ้าอะไร!”กรตะโกนกลับเสียงดังทำเอาฝรั่งหัวทองที่เดินผ่านไปมาเริ่มรู้สึกงงนอกจากจะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องแล้ว แต่ที่แปลกใจมากกว่าเพราะว่าสองคนนี้นั่งห่างกันไม่ถึงเมตรแต่กลับตะโกนคุยกันซะเสียงดังอย่างกับอยู่ห่างกันเป็นสิบไมล์

   “ทั้งที่ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเราผิดเรื่องอะไร..แต่ก็มาง้อนายถึงที่นี่ ตรงนี้!”เสียงนุ่มหวานของกรเริ่มสั่นเครือ แต่กลับไม่มีน้ำตาออกมาสักหยด

   “นายรักฉันจริงๆเหรอ...กร...แล้วกับผู้ชายคนนั้นล่ะ” ตรฤณถามกลับเสียงดังเช่นเคย

   “คนไหนล่ะ!”กรเองก็ชักจะนึกไม่ออกเพราะว่าตั้งแต่ที่คบกันมาตรฤณก็ชักจะหึงไม่เลือกหน้า แม้แต่เด็กผู้หญิงยังเคยหึงมาแล้วด้วย

   ท่าทางจะมีหลายคน เลยสับสนล่ะสิว่ากูหมายถึงใคร (ตรฤณของอนต่อ!)

   เขาว่ากันว่า..เพื่อนกันคงไม่ต่างกันเท่าไหร่ในกรณีนี้ใช้ได้กับตรฤณและสองเป็นอย่างดี สงสัยแกล้งให้สองหึงภูเบศธ์บ่อยๆ..จนเจอกรรมตามสนองเข้าให้ โดนตรฤณบ้าหึงได้ตลอดเวลาบ้าง

   “ก็เมื่ออาทิตย์ก่อนนายไปดูหนังกับใครมาล่ะ! ฉันถามนายก็บอกว่าไปทำงาน แต่ฉันเห็นนายเดินเข้าโรงหนังกับใครก็ไม่รู้”

   “..............”กรไม่เถียงอะไร

   “นายโกหกฉันกร..”ตรฤณตัดพ้อ

   “เราไม่ได้โกหก...ตรฤณ..เราไปทำงานจริงๆนะ”กรอธิบายทั้งที่พยายามกลั้นหัวเราะ

   “กร ฉันไม่ได้โง่นะฉันแยกออกว่าระหว่างทำงานกับดูหนังมันต่างกัน”ตรฤณยังคงพูดประชดประชันเลิกรา

   “ฮ่าฮ่า..”สุดท้ายกรก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ได้ ร่างบางก้มลงหัวเราะจนน้ำตาเล็ด แต่ตรฤณกลับยังไม่เก็ทอะไรสักอย่าง

   “นี่นาย..ง้อฉันจนบ้าไปแล้วเหรอ?”ตรฤณมองซ้ายขวาด้วยความกังวลทั้งที่เมื่อกี้เข้าสู่โหมดดราม่ามาหยกๆ แค่กรกลับผลิกโผให้กลายตลกคาเฟ่ได้ในชั่วพริบตา

   “ฮ่าฮ่าฮ่า..นายนี่น้า...นายจะทำฉันเป็นบ้าไปแล้วจริงๆนั่นแหล่ะตรฤณ” พูดจบก็โผตัวเข้ากอดตรฤณไว้เสียแน่นในขณะที่ตรฤณเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว
   ได้ข่าวว่ากระผมยังไม่หายงอนคุณเลยนะครับคุณทิวากร มากอดอย่างนี้กะหาทางลัดยัดเยียดให้กูหายงอนเร็วๆล่ะสิ!

   “นี่ๆ ฉันยังไม่ทันหายโกรธนายนะ นายมากอดฉันทำไม?”ถึงปากจะถามออกไปอย่างนั้น แต่ไม่ได้มองดูมือตัวเองเลยว่าลำแขนแกร่งก็โอบกอดแผ่นหลังของกรเอาไว้เช่นกัน

   “นายลืมไปหรือเปล่าว่าคุณน้าของฉันทำธุรกิจโรงภาพยนตร์?” กรผละออกจากอ้อมกอดก่อนจะเงยหน้าถามตรฤณ ซึ่งตรฤณเองก็พยักหน้า เพราะจำได้ว่ายังไปดูหนังฟรีบ่อยๆกับกรเพราะใช้เส้นสายเป็นลูกหลานโรงภาพยนตร์แห่งนั้น

   “วันนั้น..ฉันไปดูงานจริงๆนะ...ไปดูงานในโรงหนังกับน้าต้นยังไงล่ะ”

   “คนนั้นอ่ะนะคือน้าต้น?”ตรฤณขมวดคิ้วถาม เพราะผู้ชายที่เดินกับกรวันนั้นอายุอานามไม่น่าจะเกินยี่สิบกว่าๆ ห่างจากพวกเขาบวกลบไม่เกินสองสามปีเห็นจะได้...ไม่น่าจะเป็นคุณน้าหรอกมั้ง

   “นั่นแหล่ะน้าต้น...เพราะเราจะไปดูแลกิจการช่วยน้าหลังเรียนจบยังไงล่ะ”กรยิ้มพร้อมกับตอบ แต่ตรฤณก็ยังไม่เลิกสงสัย

   “แต่น้าต้นอะไรนั่นยังหนุ่มอยู่เลยนะ....”
   ไอ้เราก็นึกไว้ว่าอย่างน้อยน่าจะอายุสักสามสิบกว่าๆ..โถ่เอ้ย!

   “น้าต้นอายุ 26 เท่านั้นแหล่ะ..แต่มีศักดิ์เป็นคุณน้า เราเลยต้องเรียกน้าทั้งที่ความจริงอายุห่างกันแค่นี้จะเรียกว่าพี่ก็ได้”กรยังคงอธิบายต่อไปอีก จนตรฤณเริ่มโล่งอกโล่งใจจนนึกอยากตบหัวตัวเองที่ชอบหึงไม่ดูตาม้าตาเรือเอาเสียเลย ครั้งที่แล้วก็หึงลูกพี่ลูกน้องกรไปหนึ่ง มาคราวนี้หึงขั้นรุนแรงกับคุณน้าของกรซะอีก..เฮ้อ..ชักจะไปกันใหญ่

   ทำไงได้มีแฟนสวยเกินความจำเป็นก็งี้มันก็ต้องมีหึงบ้างเป็นธรรมดาว่ามั๊ยครับ?

   “ทีนี้หายงอนได้หรือยัง?”

   “ยัง...”ตอบพร้อมท่าประกอบด้วยการเชิดหน้าหนีไปอีกทาง
   ขอเล่นตัวให้กรง้อต่ออีกสักนิด...ชีวิตกูคงจะไม่สั้นลงใช่มั๊ยครับ?

   “ว่ายังไงนะ?! นี่เราอธิบายจนหมดเปลือกแล้วยังไม่หายโกรธอีกเหรอ!”
   กูว่าแล้วมั๊ยล่ะ! ว่าผีที่สิงร่างกรอยู่ต้องเฮี้ยนขึ้นมาทันที ถ้ากูยังอยากลองดีแบบเมื่อกี้!

   “ฮ่าฮ่า...ฉันล้อเล่นน่า~อย่าโกรธสิ”ว่าแล้วก็รีบคว้าตัวกรเข้ามากอดพร้อมกับการแย่งกระเป๋าหลุยส์วิคตองมาแล้วโยนทิ้งไว้ข้างๆตัวเอง

   ต้องรีบปลดอาวุธ เป็นสโลแกนที่ตรฤณท่องไว้ในใจตลอดเวลาที่อารมณ์ของกรไม่ค่อยปกติ...แบบเมื่อสักครู่

   “ไอ้หมีขี้หึงเอ้ย!” พอโดนกอดจนหมดหนทางสู้กรก็ทำได้แค่การบ่นกระปอดกระแปดอยู่ในอ้อมอกของตรฤณ

   “ทำไงได้..มีแฟนสวยเกินความจำเป็น..นี่! ลดความสวยลงบ้างก็ได้นะ ฉันไม่ว่า”ตรฤณทำเป็นดุ แต่ดูก็รู้ว่าพูดเล่น

   ไอ้บ้าหน้าหมี ความสวยมันลดดีกรีลงได้ที่ไหนล่ะวะ?

   “อย่างนั้นเหรอ~”ตรฤณรู้สึกหมั่นเขี้ยวกับอาการเหวี่ยงของกรเลยบีบจมูกอีกฝ่ายเล่น

   “อือ! ..ถ้าเราสวยลดลง แล้วนายเลิกชอบเราขึ้นมา...เราก็แย่น่ะสิ”ถึงจะรำคาญที่โดนแกล้งบีบจมูกจนแก้มใสพองลม แต่ก็ยังมิวายแอบพูดความรู้สึกของตัวเองจนตรฤณต้องรัดร่างบางในอ้อมอกให้แน่นขึ้นกว่าเดิมเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกที่มีอยู่ในใจ

   “ไม่หรอก..สำหรับฉันนายจะไม่มีวันสวยน้อยลง และความรักของฉันก็จะมีแต่มากขึ้นทุกวัน.......และทุกวัน”พูดจบริมฝีปากอุ่นก็ค่อยๆทาบทับลงบนริมฝีปากบางอย่างอ่อนโยน ท่ามกลางน้ำพุกลางสระน้ำที่จู่ๆก็เปิดขึ้นมาทำเอาบรรยากาศรอบด้านดูจะโรแมนติกขึ้นมาทันตา

กูนึกแล้วเชียว.... ว่ามันต้องเลิก!





เลิกรักกรไม่ได้สักทีสิน่า ไอ้ตรฤณเอ้ย!

   สองแอบมองคู่รักที่ทะเลาะกันก่อนหน้าและจบลงด้วยความรักอันสวยงาม...และภูเบศธ์ที่ยืนหอบอยู่ข้างๆเพราะเพิ่งวิ่งไปปฏิบัติภารกิจอันใหญ่หลวงมา

   “มาแล้วเหรอ?....นายพลาดฉากจูบของคู่นั้นแค่สองวิเองนะ”
   แล้ววัวแก่ตัวไหนล่ะที่สั่งให้กูวิ่งไปหาสวิตซ์เปิดน้ำพุตามคำบัญชาน่ะครับ! กูเลยอาภัพไม่ได้ดูฉากหวานๆเล้ย~

   “ถึงผมจะพลาดฉากจูบคู่นั้น...แต่ผมไม่พลาดที่จะจูบวัวแก่ที่ชอบสั่งแน่!” พูดจบก็ยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บริมฝีปากแดงๆที่ชอบสั่งนู่นสั่งนี่ ก่อนจะเผยยิ้มเผล่อย่างอารมณ์ดี ทั้งที่คนโดนจุ๊บไม่ได้นึกอารมณ์ดีตามไปด้วยเลย

   “ภู! เด็กบ้าเอ้ย”ว่าแล้วก็วิ่งไล่ตามภูเบศธ์ที่วิ่งหนีลูกเตะของสอง

   “หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ! มาให้ฉันเตะก้นซะดีๆ!”สองได้แต่วิ่งไล่ ส่วนภูเบศธ์ก็วิ่งนำสองไปไกลหลายสิบเมตรแถมยังมีการหยุดแล้วส่ายก้นเยาะเย้ยสองซะด้วย

   ไอ้เด็กเวรนี่! อย่าให้กูขายาวนะ จะวิ่งตามไปเตะตูดให้ถึงที่แน่!

   วิ่งไล่กันเป็นเด็กมาได้สักระยะสุดท้ายภูเบศธ์ก็ตัดสินใจหยุดอยู่หน้าชิงช้าสววรค์อันใหญ่ยักษ์ โดยมีสองวิ่งตามมาถึงพร้อมกับอาการก้มลงเอามือยันกับเข่าหอบแฮกด้วยความเหนื่อย

   “ขึ้นมั๊ย?”ภูเบศธ์หันมาถามก่อนจะมองไปยังชิงช้าสวรรค์ตรงหน้า

   “ไอ้นี่เนี่ยนะ?”สองมองตามบ้าง ก่อนจะหันกลับมามองหน้าภูเบศธ์อีกครั้ง

   “อือ! ขึ้นไปนั่งกัน ”พูดจบก็จูงมือคนตัวเล็กขึ้นชิงช้าสวรรค์ทันที พอได้ที่นั่งสองก็เอ่ยปากถาม

   “นายกลัวความสูง?” สองหรี่ตามองอาการแปลกๆของภูเบศธ์เมื่อชิงช้าสวรรค์เริ่มเคลื่อนตัวสูงขึ้นและสูงขึ้น มือใหญ่กำเบาะนั่งเสียแน่น แต่ยังทำหน้ายิ้มที่ดูยังไงก็มองออกว่าฝืนยิ้ม

   “เปล่า~”ภูเบศธ์ส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มหวานให้ร่างเล็กแต่สองกลับอมยิ้มด้วยความขำ

   อยากทำโรแมนติกโดยการพาแฟนนั่งชิงช้าสวรรค์..แต่ภูเบศธ์ก็ดั๊นนนนมากลัวความสูง มันน่าขำขันหรือน่าดีใจมากกว่ากันล่ะเนี่ย?

_____________

   
    “พี่วิน~ พาไปเล่นอันนั้นนะ?”ภีชี้นิ้วไปทางเครื่องเล่นเฮอริเคนที่บนเครื่องเล่นมีคนส่งเสียงกรี๊ดดังสนั่นด้วยความหวาดเสียว พร้อมกับพูดออดอ้อนเพื่อนของแฟนของพี่(?)เพื่อให้ชวินที่กลายเป็นพี่เลี้ยงจำเป็นพาไปเล่นเครื่องเล่นที่ว่า หลังจากที่ภีและชวินตะลอนเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวในสวนสนุกแห่งนี้เกือบจะครบทุกอัน แต่เพียงแค่ชวินเห็นในสิ่งที่เด็กน้อยชี้ใบหน้าที่เคยคมเข้มกลับซีดเผือด แถมใบหน้าที่ชื้นเหงื่อเป็นทุนเดิมก็ยิ่งหลั่งเหงื่อออกมามากยิ่งขึ้นเพราะคาดการณ์ไปถึงอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะเกิด

   ไอ้ตรฤณ!!! มึงมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กแทนกูที...เพราะตอนนี้หัวใจกูคงจะวายถ้าได้ขึ้นเฮอริเคนเป็นเครื่องเล่นสุดท้ายของวัน!

   “เอ่อ..ภียังจะเล่นอีกเหรอ?”ชวินถามอย่างชั่งใจเมื่อตอนนี้สภาพร่างกายเริ่มไม่ค่อยไหวกับการที่ต้องเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวติดๆกัน แต่ทว่าเด็กน้อยกลับเตรียมทำท่างอแงเมื่อชวินเริ่มอิดออด

   “ก็พี่วินบอกผมเองนี่ ว่าจะเป็นเพื่อนพาผมไปเล่นทุกอย่างที่อยากเล่น...จะผิดสัญญาหรือไงครับ?”ภีว่า ทำเอาชวินต้องเกาหัวแกรกๆเมื่อหาทางออกไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องเดินตามแรงฉุดเด็กน้อยไปจนหน้าเครื่องเล่นอันใหม่ที่ภีอยากเล่นจนได้

   สงสัยกูคงได้หัวใจวายตายก่อนลักพาตัวไอ้สองกลับแน่นอนเลยว่ะ-“- เฮ้อ~
   ไอ้คนพี่ล่ะจัดการง่าย ใช้สายตาขู่นิดเดียวมันก็หดจนไม่เห็นหัวหาง แต่ดูท่าทางว่ากูจะแพ้ทางไอ้คนน้องซะแล้วสิ

   “อันนี้..สุดท้ายแล้วนะ” ชวินหันมาบอกเด็กน้อยที่ยิ้มแก้มปริเมื่อชวินตอบรับ ก่อนจะก้าวขาขึ้นไปยังเครื่องเล่น แล้วนั่งรัดเข็มขัดเตรียมพร้อม ก่อนที่เครื่องเล่นจะเริ่มขับเคลื่อน แล้วหมุนๆๆอย่างเอาเป็นเอาตายไม่ได้สนใจว่าคนที่เล่นจะรู้สึกอย่างไร

   พ่อแก้วแม่แก้ว....ชวินขอลาตาย~ แต่เพราะมันไม่ตายนี่สิถึงหนักใจอยู่ตอนนี้ เฮ้อ~

   พอเครื่องเล่นหยุดการทำงาน ชวินก็เดินโซซัดโซเซลงมาอย่างหมดสภาพ และตามด้วยเสียงหัวเราะของภี

   “แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วเหรอครับ?”

   ....แค่นี้?...ไอ้เด็กนี่พากูเล่นเป็นหลายสิบเครื่องเล่น...มันบอกว่า “แค่นี้”!

   “อือ...”ชวินนั่งพิงเก้าอี้อย่างหมดสภาพถึงจะเป็นพวกชอบเครื่องเล่นหวาดเสียวอยู่ไม่น้อย แต่กำลังวังชาไม่ได้มีมากเหมือนเด็กวัยรุ่น อายุก็มากโขแต่ต้องมาเล่นแบบนอนสต๊อป ชวินก็แทบสลบได้เหมือนกัน

   “โถ่~ พี่วินทำตัวเป็นคนแก่ไปได้...”พูดจบก็หย่อนตัวลงนั่งข้างๆชวิน พร้อมกับทำมือโบกพัดให้ชวินเหมือนเป็นการอ้อนในตัว แต่ชวินกลับเหลือบตามองไอ้เด็กที่เพิ่งนั่งลงด้วยหางตา

   เออ! กูก็แก่จริงนี่หว่า..! อย่าย้ำให้มันมากจะได้มั๊ยวะ?

   แต่ทว่า ...
   คนที่มาเห็นภาพเหล่านั้นกลับไม่ได้รู้สึกรื่นภิรมณ์ไปด้วยนักกับบรรยากาศน่ารักๆของคู่วินและภี

   เขมชาติยืนมองชวินและภีอยู่ห่างๆก่อนจะเดินจากไป...


   ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่ใช่หมอเขมน่ะสิ!

   ชวินหลับตาพริ้ม หลังจากพักเหนื่อยได้สักพักก็เริ่มรู้สึกแปลกๆเมื่อโดนมือเล็กสะกิดยิกๆอยู่ข้างๆ จนในที่สุดชวินก็ต้องลืมตาขึ้นมาพร้อมกับถามว่า

   “มีอะไรเหรอ?..ภี.....เขม!”ในตอนแรกว่าจะเอ่ยชื่อเด็กที่สะกิดเรียก แต่พอลืมตาขึ้นมาเห็นหมอเขมอยู่ตรงหน้า ปากก็เปลี่ยนเป็นเรียกชื่ออีกฝ่ายอัตโนมัติ เขมชาติมองแขนเล็กที่ยังคงเกาะแขนชวินเอาไว้แน่นอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย ว่าการทำแบบนี้กำลังจะทำหมอเขมโมโหหึง...แต่ก็นะหมอเขมเขาเป็นผู้ดี(ตามคำบอกเล่าของภูเบศธ์) เก็บอาการเก่งแน่นอนอยู่แล้ว

   “เขม?! มาที่นี่ได้ยังไง?”อารามชวินยังคงงงงันที่ได้มาเจอหน้าเขมชาติถึงอเมริกาเลยถามออกมาตามที่คิดไว้ แต่ดูท่าว่าหมอเขมจะไม่ค่อยสนใจคำถามสักเท่าไหร่ เพราะสายตากลมโตของหมอเขมยังคงจับจ้องไปยังมือเล็กที่ยังจับแขนชวินเอาไว้แน่น

   “มาอเมริกาแป๊บเดียว...ได้แฟนใหม่แล้วเหรอครับ?”หมอเขมยังคงรักษาภาพพจน์ได้ตั้งแต่ต้นจรดปลายในน้ำเสียงไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใดๆและยังเป็นน้ำเสียงเหมือนปกติทุกครั้งเวลาพูดคุยกันกับชวินอีกด้วย

   “เอ่อ..คือ..ไม่ใช่แฟน..เข้าใจผิดนะเขม”
   หมอเขมได้แต่มองชวินแกะมือเล็กออกจากแขน...

   “ปากบอกว่าไม่ใช่แฟน...แล้วที่ควงแขนกันอยู่นี่....แม่พี่เหรอครับ?”

    ชวินเจอหมัดนี้เข้าไป...หมอเขมชนะน็อคใสๆเลยครับงานนี้

   “เขม!!! มันไม่ใช่อย่างนั้นนนนนนนนน~”พูดจบก็ปราดเข้าไปหาหมอเขมทันที โดยมีเด็กน้อยนั่งหัวเราะอยู่ที่เดิม

   โดนซะบ้างจะได้รู้สึก...อยากหาทางชิงตัวพี่สองกลับดีนัก!
   เห็นผมอย่างนี้..ก็เข้าข้างพี่ ช่วยพี่เสมอนะคร้าบบบบ!


   พอเห็นว่าท่าไม่ค่อยจะดี ภีก็ขอปลีกตัวไปแท๊คมือกับภูสักหน่อยแล้วกัน ที่คราวนี้สองศรีพี่น้องแห่งตระกูล หาทางแก้เผ็ดคุณพ่อจอมหวงของพี่สองได้! ฮ่าฮ่าฮ่า

   “เขม...มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ...”

   “ไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิครับ..ผมยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ”

   แล้วที่แดกดันกูอยู่เมื่อกี้..มันเรียกว่าอะไรกันครับน้องหมอเขม!

   “พี่ก็แค่เป็นพี่เลี้ยงเด็กจำเป็นแค่วันนี้เท่านั้นแหล่ะ.. ไม่งั้นจะแยกสองพี่น้องออกจากไอ้สองได้ยังไง..”ชวินยังคงพยายามอธิบายโดยมีหมอเขมยืนฟังแบบตั้งใจ แต่ชวินกลับรู้ดีว่าหมอเขมไม่ได้รับฟังคำอธิบายของตนเองเข้าสู่เซลล์สมองให้ต้องคิดเลยสักนิด

   “ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่”หมอเขมตอบน้ำเสียงราบเรียบแต่ทำเอาชวินถอนหายใจ เริ่มไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้หมอเขมเข้าใจตัวเอง

   “เขม~”

“......”

   “หมอเขม...เชื่อพี่นะ”เริ่มพูดพร้อมด้วยการออดอ้อน จนหมอเขมต้องมองหน้า

   “แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะครับ...”หมอเขมยื่นคำขาด ทำให้ชวินเข้าใจความหมายทันทีว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งเดียวที่ชวินจะทำให้หมอเขมหึงขนาดนี้

   “ครับ..จะไม่มีครั้งอื่นอีกแล้ว”พูดจบก็โผเข้ากอดหมอเขมเอาไว้แน่น

   “หึงล่ะซี๊~”ชวินถามพร้อมกับรอยยิ้ม และหมอเขมก็ยิ้มตามพร้อมกับพูดว่า

   “ไม่ได้หึง....แต่ถึงตายง่ายๆนะครับถ้าไม่ระวังตัวดีๆ”
   แต่กลับเป็นรอยยิ้มที่ชวินรู้สึกว่าไม่อยากให้หมอเขมยิ้มอย่างนี้เอาเสียเลยสิน่า~

__________________________________

   

ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
   กึก!!!  กึก!

   “เฮ้ย!”
   โอ้วไม่นะ..พระเจ้าครับช่วยลูกด้วย! 

____________________
   
   “นี่ ตรฤณนายไปสั่งเค้าหยุดชิงช้าทำไม!”เสียงกรตวาดแว๊ดทันทีเมื่อตรฤณวิ่งเข้าไปสั่งโดยมีสินบนเล็กน้อยกับผู้คุมชิงช้าสวรรค์ พร้อมกับเงยหน้ามองกระเช้าที่สองและภูเบศธ์นั่งอยู่อย่างเป็นกังวล

   “อ๊าว! ไม่รู้หรือไง..โรแมนติกน่ะโรแมนติก..ให้สองคนนั้นค้างเติ่งอยู่ข้างบนน่ะดีแล้ว...น้องนายจะได้อยู่กับสองนานๆไม่ดีหรือไง?”ตรฤณยิ้มพราว แถมยังแสดงอาการภาคภูมิใจเพราะแผนไหนที่ทำให้ภูเบศธ์ได้อยู่ใกล้สอง กรมักจะเป็นปลื้มเสมอ

   แต่ทว่าแผนนี้คงไม่ใช่.....
   ตรฤณเลยต้องหุบยิ้มแล้วทำหน้าเศร้าสลดด้วยความรู้สึกผิด

   “นายจะบ้าเรอะ! แค่ไอ้เด็กนั่นขึ้นชิงช้าสวรรค์ฉันก็ยังอึ้งไม่หายแล้วนะ...แล้วนายยังไปทำให้ชิงช้าสววรค์มันหยุดอยู่บนนั้นอีก..ฮึ้ยย นายนี่จริงๆเล้ย!”กรยังคงบ่นรัวเป็นชุดให้ขณะที่ตรฤณได้แต่ยืนเอ๋อรับประทานด้วยความไม่เข้าใจ

   “ไม่ต้องมาทำหน้าหมีเอ๋อ! ไอ้เด็กนั่นมันกลัวความสูง นายไม่รู้หรือไงเล่า!”
   ถ้ากูรู้ตั้งแต่แรก...คูคงจะกระแทกให้เครื่องจักรมันพังแล้วให้ภูเบศธ์ติดอยู่กับสองทั้งวันแน่นอน! ฮ่าฮ่า

   “บอกให้เขาทำให้ชิงช้าสวรรค์มันหมุนเหมือนเดิมเลยนะ.. ป่านนี้ไม่รู้ช็อคตายหรือยัง”กรกระวนกระวายแหงนมองกระเช้าที่ภูเบศธ์นั่งแกว่งไปมาแล้วก็เริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี ทั้งที่กระเช้าอื่นๆเขาหยุดนิ่งกันหมด


________________________________

   ภูเบศธ์ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจ เมื่อจู่ๆชิงช้าสวรรค์เกิดขัดข้อง แล้วทำให้กระเช้าที่ตนเองนั่งอยู่กับสองแกว่งต่องแต่งไปมาในอากาศ สายตาคมสอดส่ายไปมาทางด้านบนเพื่อดูน็อตดูอะไรที่มันทำให้กระเช้ามันเชื่อมติดกับโครงเหล็กขนาดใหญ่อย่างเป็นกังวล

   “เราจะไม่ตกใช่มั๊ย?”เสียงภูเบศธ์เริ่มสั่น เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าสู่ความเงียบและนิ่งหลังจากที่ชิงช้าสวรรค์หยุดกลางคัน ก็ก่อให้เกิดเสียงกรีดร้องบ้างโวยวายบ้างตามมา แต่พอสายตาคมหันกลับมามองร่างเล็กที่นั่งอยู่ตรงข้ามกลับรู้สึกว่าตนเองคงจะวิตกจริตมากเกินควร เพราะนอกจากสองจะไม่ร้องโวยวายใดๆแล้ว ใบหน้าหวานกลับแย้มยิ้มแล้วมองออกไปข้างนอกอย่างอารมณ์ดี

   เอ่อ..พี่สองครับ..ไม่คิดจะเป็นเดือดเป็นร้อนยามคับขันบ้างเลยเหรอคร๊าบบ!

   “จะตกได้ใง กระเช้านี้ออกจะแข็งแรง ไฟคงตกน่ะ อย่ากังวลเลยแป๊บเดียวเดี๋ยวไฟก็คงมา”สองเผยยิ้มปลอบใจ แต่การกระทำไม่ได้ปลอบใจภูเบศธ์เอาเสียเลย

   ทำไมน่ะเหรอ? ก็พี่สองดั๊นโยกตัวไปมาเพื่อทดสอบสมรรถภาพของกระเช้าเหล็กอวดภูเบศธ์
   แค่มันอยู่นิ่งๆกูก็กลัวจนฉี่แทบราดแล้วครับ! แล้วยังจะมาหาเรื่องให้มันขยับทำม๊าย! 

   “พี่สอง...อย่า..อย่า..” มือแกร่งยังคงหาที่ยึดเหนี่ยวเอาไว้แน่นพร้อมกับเอ่ยปากบอกด้วยน้ำเสียงสั่นๆ แต่ถึงอย่างนั้นสองก็ยังไม่เลิกคิดที่จะหยุดแกล้ง

   “ทำไมล่ะ? สนุกดีออกน้า...นี่ภูเบศธ์ลองมองดูข้างนอกสิ...เหมือนว่าเรากำลังจะบินได้เลยล่ะ!”สองยังพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพยายามชักชวนให้ภูเบศธ์ได้ตื่นเต้นตาม...

   แต่ตอนนี้ดูเหมือนภูเบศธ์จะตื่นตูมมากกว่าตื่นเต้นซะล่ะมั้ง~

   “พี่สอง~”เรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างอ่อนใจ สุดท้ายสองก็ต้องหัวเราะออกมาก่อนจะกางแขนออกเพื่ออ้ารับให้ใครบางคนเข้ามาสู่อ้อมกอด แต่อีกฝ่ายกลับมองด้วยสีหน้างงงัน

   “?”

   “กอด~”สองพูดสั้นๆก่อนที่ภูเบศธ์จะโผเข้ากอดสองทันที
   คราวนี้ไม่ใช่เพราะอยากอ้อนพี่สอง  แต่กูกอดเพราะกูกลัวครับ!

   “ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหนเลย”สองลูบหลังภูเบศธ์เบาๆ พร้อมกับที่มือแกร่งเองก็ลูบไล้แผ่นหลังบางช้าๆเหมือนตอบรับสัมผัสที่สองมีให้ตัวเอง

   “ถ้ามีพี่สองให้กอดอย่างนี้ ก็ไม่น่ากลัวแล้วล่ะ”  ภูเบศธ์ใช้ใบหน้าซุกลงกับแผ่นอกบางที่กระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะการหายใจ แถมยังแอบได้ยินเสียงตึกตักเบาๆเป็นตัวกล่อมให้ภูเบศธ์เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย

   “นี่...เรามา...จูบกันมั๊ย?”คำพูดของร่างเล็กฟังดูขี้เล่น แต่ดูท่าว่าคนพูดจะคิดจริงขัดกับน้ำเสียงเลยทำให้ใบหน้าหวานซับสีเลือดขึ้นมานิดหน่อย ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมองคนที่ตัวเองกอด ก่อนจะค่อยๆโน้มใบหน้าลงแนบชิดกับริมฝีปากเล็กๆตรงหน้าโดยการหลับตาพริ้ม

   เพราะไม่อยากลืมตาตื่นมาว่าตอนนี้ อยู่ห่างจากผืนดินมากแค่ไหนต่างหาก...

   จุ๊บ~
   เมื่อร่างสูงผละริมฝีปากออกทำให้เกิดเสียงจุ๊บให้ความรู้สึกน่ารักจนคนโดนจูบต้องอมยิ้ม แล้วไปจุ๊บปากร่างสูงอีกรอบให้เกิดเสียงดัง ‘จุ๊บ’อีกครั้งอย่างนึกสนุก

   “นี่...เรามาจูบกันอีกรอบ..แล้วอธิษฐานดีมั๊ย?” สายตาคมจ้องมองลึกเข้าไปในแก้วตาใสอย่างถามความเห็น(ความจริงไม่อยากมองไปทางอื่นเพราะยังกลัวอยู่ใช่มั๊ยล่ะ!)

   ไหนๆก็ไหนๆ อยากโรแมนติกให้ครบสูตรมันก็ต้องจูบแล้วอธิษฐานให้ความรักของสองเรายั่งยืน ยาวนาน..ตลอดไป..ว่ามั๊ยครับ?

   “แล้วจะอธิษฐานว่าอะไร?”ศีรษะกลมเอียงเล็กน้อยพร้อมกับสายตาของร่างเล็กฉายแววสงสัย
   “ก็ขอให้ผมและวัวแก่คนนี้รักกันตลอดไปยังไงล่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นจนคนฟังรู้สึกอบอุ่นไปทั่วหัวใจ ถึงจะตะหงิดกับสรรพนามที่ภูเบศธ์ใช้เรียกตัวเองอยู่ก็ตามที แต่ในยามนี้..ความโรแมนติกมันมีมากกว่าเลยค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าหากันอีกรอบ

   กึก! กึก!

   และแล้วไฟก็มา..ทั้งที่ภูเบศธ์และสองยังไม่ได้จูบแล้วอธิษฐานใดๆเลย

______________________________

   “บอกเขาสิ! บอกให้เขาเดินเครื่องเหมือนเดิมตรฤณ”

   “จุ๊บก่อนแล้วจะไปบอก”ตรฤณเสนอด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ ส่วนกรก็ได้แต่สงบสติอารมณ์โดยการหลับตาโมโหก็โมโหไอ้หน้าหมี สงสารก็สงสารลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง แต่จะไปบอกเองก็ไม่ได้เพราะความรู้ภาษาอังกฤษยิ่งมีอยู่มากมาย(แต่มันอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่กร)มันทำให้กรไม่สามารถไปพูดคุยกับชาวอเมริกันได้รู้เรื่อง


   เอาวะ!
   จุ๊บ~

   “แล้วก็ไปบอกเขาเปิดเครื่องได้แล้ว!”กรสั่งเสียงเข้ม ก่อนที่ตรฤณจะเดินยิ้มหน้าบานไปบอกผู้คุมเครื่องเล่นชิงช้าสวรรค์ให้เล่นตามเดิม


________________

   
   “ให้มันได้อย่างนี้สิ~”
   ภูเบศธ์มองหน้าร่างเล็กตรงหน้าพร้อมกับการบ่นอย่างเสียดายแต่สุดท้ายก็หัวเราะออกมาพร้อมกันทั้งคู่

   “ช่วยไม่ได้อยากปากหมาที่มาด่าฉันเป็นวัวแก่เอง อะไรๆเลยไม่เป็นใจ”สองประชด แต่ก็โดนภูเบศธ์รั้งศีรษะเข้ามาแล้วจูบอีกครั้งอารามตกใจทำให้สองตั้งใจจะเปิดปากร้อง แต่นั่นกลับเป็นการเปิดทางให้ลิ้นอุ่นแทรกเข้ามาหาความหวานได้อย่างง่ายดาย และดูเหมือนว่า...สองเองก็พยายามจะตอบรับลิ้นร้อนอยู่เช่นกัน

   “อะ...อือ ”เสียงหวานครางต่ำเมื่อริมฝีปากยังคงบดเบียดแลกลิ้นกันกับเด็กหนุ่ม  แถมมือไม้เริ่มอยู่ไม่เป็นสุขรั้งท้ายทอยของอีกฝ่ายเข้ามาหาตนเองให้แนบชิดมากขึ้นกว่าเดิม แถมยังเอียงศีรษะเพื่อให้เข้ากับองศาใบหน้าของร่างสูงอีกด้วย!

   เคร้ง
   เสียงอะไรบางอย่างกระทบกระเช้าเหล็กที่สองและภูเบศธ์(กำลังจูบกัน)อยู่ทำให้ร่างทั้งสองร่างรีบผละออกจากกันแล้วรีบหันไปตามต้นเสียง

   อ่อ! เสียงตีนไอ้ตรฤณกระทบกระเช้าที่กูนี่เอง!

   สองมองไปยังประตูก็พบกับเพื่อนๆรวมไปถึงหมอเขมและภีที่ยืนมองด้วยสายตาอิจฉาปนหมั่นไส้กับคู่รักที่หวานไม่เกรงใจชาวบ้าน

   ขนาดกระเช้าเทียบท่ามึงยังไม่รู้ตัว มัวแต่จูบกันอยู่นั่นแหล่ะ! กูล่ะหมั่นไส้!

   “ลงมาได้แล้ว...นึกว่ากูจะได้ดูหนังสดบนกระเช้าชิงช้าสวรรค์ซะแล้ว!”

   ตรฤณพูดประชด แต่ชวินลงมือกระทำด้วยการรีบเปิดกระเช้าแล้วดึงตัวสองออกมาทันที

   “มึงก็พูดเวอร์ไป...”สองแย้งทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขิน
   แต่ถ้ามึงมาช้ากว่านี้อีกสักหน่อยก็ไม่แน่ใจเหมือนกันล่ะว้า~

   “ทิ้งมึงไว้กับเด็กนี่ไม่ได้จริงๆ หาเรื่องแอ้มเพื่อนกูได้ตลอดเวลา”ชวินพูดกับสองแต่ฟังดูก็รู้ว่าพูดกระทบภูเบศธ์

   “แต่เมื่อกี้พี่สองชวนผมจูบก่อนนะ”  ภูเบศธ์พูดตามความจริงแต่สองรีบกระโดดไปปิดปากไอ้เด็กปากสว่างทันที

   ไม่เห็นหรือไงว่าพ่อกูดุ...นั่น! มองกูอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้ออีก...กูเปล่าแรดนะเว้ย!

   “สอง......”ชวินเรียกชื่อเพื่อนด้วยน้ำเสียงเข้มทำเอาสองต้องรีบไปออดอ้อนก่อนจะโดนด่า

   “ก็บรรยากาศมันพาไป ไฟก็ตก กูเลยชวนไอ้เด็กนั่นจูบ”สองตอบอ้อมแอ้ม...แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยอมรับผิดกลายๆ

   “แต่กูไม่ได้แรดนะ!”แต่พอสองประกาศออกมาอย่างนี้ก็เรียกเสียงฮาได้เป็นอย่างดี แถมรอยยิ้มอบอุ่นจากเพื่อนๆอีก

   “กูก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย~ เห็นพวกมึงรักกันพวกกูก็อิจฉา..เอ้ย  พวกกูก็ดีใจ...ความสุขของมึง พวกกูไม่ขัดหรอกว่ามั๊ยไอ้ตรฤณ” ชวินขยี้หัวสองเบาๆก่อนจะพูดแล้วหันไปถามความเห็นกับตรฤณ

   ที่ดูเหมือนว่า....ตอนนี้จะงานเข้า

   “โอ๊ยๆกรพอได้แล้ว ฉันเจ็บนะ”ตรฤณพยายามเอามือไม้ปิดร่างกายตัวเอง แต่ไม่ว่าจะปิดซ้ายกรก็ตีเข้าด้านขวา พอปิดทางด้านขวากรก็ยักย้ายมาตีซ้ายได้อย่างสวยงามเช่นเดิม

   “เฮ้ยๆ กรใจเย็นๆมีอะไรค่อยๆพูดสิ”ชวินรีบไปห้ามทัพ

   “ไอ้หมีควายนี่! กล้ามองสาวอื่นหรือไง!”

   นั่นไง...ตอนอารมณ์ดีก็เรียกก็ว่าหมีน้อยน่ารัก..แต่พอเตียงใกล้หักก็ด่ากูซะว่าหมีควาย  หัวใจกูแทบวายครับขอบอก!

   “ไม่ได้มอง! จริงๆนะกร...”มองหรือไม่มองขอปฏิเสธไว้ก่อนล่ะ

   “ไม่ได้มองเหรอ?! ห๊า! แล้วเมื่อกี้ไอ้ขี้หลีตัวไหนมันมองนมชาวบ้านเค้าจนตาละห้อยกัน”

   ใคร๊! ไม่ใช่กูนะครับทิวากร....เมื่อกี้กูก็แค่เหลือบมอง แต่ไม่ได้จ้องจนตาละห้อยขนาดน้าน อย่ากล่าวหาเกินความจริงสิครับ!

   “ไม่ใช่จริงๆนะกร...โอ๊ยๆ” ว่าแล้วตรฤณก็ขอตัววิ่งหนีโดยชวินคนดีส่งหมอเขมไปช่วยห้าม เพราะตอนนี้ชวินและสองขอยืนหัวเราะเยาะไอ้ตรฤณที่มีเมียโหดสักหน่อย

   “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”แล้วเสียงบุคคลที่สามก็ขอหัวเราะร่วมวง...สองหันไปมองคนรักตัวเองที่หัวเราะตามก่อนจะค่อยๆลดเสียงหัวเราะลง..จนกลายเป็นปิดปากสนิทเมื่อเจอสายตาของสอง

   “ถ้านายเป็นอย่างไอ้ตรฤณ...รับรองโดนหนักกว่ามันแน่..เข้าใจ๊?!”สองขู่โดยมีภูเบศธ์ได้แต่ยืนหัวเราะแห้งๆกลับคืน

   ท่าทางจะจริงอย่างที่ตรฤณเคยว่าเอาไว้..มีเมียก่อนวัยนั้นไซร้ต้องทำใจ...และรู้จักยอมรับชะตากรรม!


The End!

เพิ่งรู้ว่าตอนนี้มันยาวมาก ต้องแบ่งถึง 3 รีพลายกันเลยทีเดียว โอ้ววววววว

ขอโทษนะค้าที่มาต่อช้า งานแอบเยอะ วุ่นวายไปหมดเลยค่ะ
ขอบคุณนะค้าที่ติดตามมาจนถึงตอนสุดท้าย
ส่วนตอนคู่ ของหมอเขม กับ ชวิน...ฮ่าฮ่า ขอเวลานิดนึงนะคะ อิอิ o13

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
ถึงตอนนี้ก็ยังน่ารักกันเหมือนเดิม  :กอด1:

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป

vi2212

  • บุคคลทั่วไป
ตั่งแต่สองเป็นแฟนภู...น่ารักขึ้นมากมาย :impress2:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
ขนาดไปกันไกลถึงอเมริกาก็ยังวุ่นวายกันไม่เลิก
แล้วก็หวานกันไม่เปลี่ยน มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
สงสัยได้เปลี่ยนบรรยากาศ :z1:
น่ารักทั้งสามคู่เลยอ่ะ :-[
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด