ตอนที่ 7
บรรยากาศในโรงอาหารยังคงจอแจอยู่เช่นทุกวัน เต็นนั่งนิ่งมองจานข้าวตรงหน้าอย่างเลื่อนลอย เด็กหนุ่มไม่ได้ใส่ใจบรรยากาศรอบตัวเท่าใดนักเมื่อในจิตใจตอนนี้เฝ้านึกถึงแต่คำพูดเมื่อคืนของคนที่เอ่ยสารภาพว่ารู้สึกดีกับตนแต่หานิยามเรียกไม่ได้ จะว่ารักก็ไม่ใช่จะว่าเป็นเพื่อนหรือก็ไม่ถูก เพราะความรู้สึกทั้งหมดที่ฝ่ายนั้นถ่ายทอดออกมามันสื่อถึงอารมณ์ก้ำกึ่งระหว่างสองคำนั้น
“มึงจะบ้าเหรอไอ้แชมป์ รู้จักกับกูไม่เท่าไหร่ มึงจะรู้สึกอะไรได้มากมายขนาดนั้น” เด็กหนุ่มแย้งออกไปในตอนที่ฟังทุกถ้อยคำจบ แต่ก็โดนแย้งกลับมาเช่นกัน
“ก็นี่ไงกูถึงบอกกูสับสนว่ากูกำลังเป็นอะไร”
“เป็นบ้าน่ะสิ”
“เออ บ้าก็เพราะมึงน่ะแหละ แม่งมึงน่าจะเกิดเป็นผู้หญิงซะให้รู้แล้วรู้รอด”
“ทำไม อย่าบอกนะว่าถ้าเป็นอย่างนั้นมึงจะขอกูเป็นแฟนเลย”
“กูจะปล้ำเป็นเมียเลยแหละ”
“เชี่ย เลวนะมึง”
“อ้าว ช่วยไม่ได้มายั่วกูเอง”
“กูไปยั่วมึงตอนไหน”
“ก็ทุกตอนที่อยู่ใกล้กันน่ะแหละ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“ก็เออดิ พูดตรงๆ นะโว้ย เวลาคุยกับมึง กูลืมไปเลยนะโว้ยว่าตัวเองอกหักอยู่”
“จะบอกว่ากูเข้าไปเติมเต็มชีวิตให้ดีเหมือนเดิมว่างั้น”
“นี่แหละที่กูอยากบอกมึง แต่กูไม่กล้าพูด”
“อย่างมึงไม่กล้าด้วยเหรอวะ”
“ก็ถ้ามึงเป็นผู้หญิงกูก็พูดไปนานแล้ว”
“แล้วไง เป็นผู้ชายแล้วมึงจะรักไม่ได้หรือไง”
“เนี่ย กูชอบที่มึงเป็นแบบเนี่ย แม่งกวนตีนดีชะมัด มาเป็นแฟนกูเหอะว่ะ”
“เชี่ย โรคจิตนะมึง”
“อ้าว ตะกี้ท้ากูอยู่เหยงๆ พอกูเอาจริงมาด่ากูซะงั้น”
“ก็มึงไม่ได้เป็นเกย์ ไม่ใช่เหรอ”
“ข้อนั้นกูไม่รู้โว้ย กูอาจจะกลายพันธุ์แล้วก็ได้”
“กลายพันธุ์ หรือเพิ่งคิดจะเปิดตัวเหรอตัวเอง”
“ไอ้ห่าเต็น มึงอย่ามาล้อกูนะ”
“ด่ากูเสียงเขียวเลยนะมึง”
“กูไม่ใช่เกย์โว้ย ยังไงกูก็ยังยืนยันว่ากูแมนทั้งแท่ง”
“แล้วที่มึงขอกูเป็นแฟนมันหมายความว่าไง มึงคิดว่ากูมีหม้อให้มึงตีหรือไง”
“ปากดีนักนะเดี๋ยวเหอะ เจอคราวหน้าจะล่อให้ตูดบานเลย”
“โหยพูดเหมือนช่ำชองงั้นล่ะ”
“มึงจะลองดูมั้ยล่ะ”
“แฟนกูก็มี เรื่องอะไรกูจะลองกะมึง”
“โธ่เอ้ยทำเป็นคุย ที่มานั่งคุยกะกูตอนนี้ไม่ใช่เพราะจะโดนทิ้งแล้วหรอกเหรอท่าน”
“ปากหมานะมึง”
“อ้าว หรือไม่จริงล่ะครับ”
“เรื่องของกูกับเขา คนอื่นไม่เกี่ยว”
“เกี่ยวดิ เพราะกูกำลังจะเป็นแฟนใหม่มึง”
“เชี่ย กูยังไม่ยอมรับ”
“มึงจะเล่นตัวไปทำเบื๊อกอะไรล่ะ”
“กูไมได้เล่นตัว แต่มึงกะกูยังไงๆ ก็คบกันไม่ได้เกินกว่าเพื่อนหรอก”
“ทำไมจะไม่ได้”
“หนึ่งกูมีแฟนแล้ว สองมึงไม่ใช่เกย์”
“แล้วถ้ามึงเลิกกับแฟน และกูไม่แคร์ที่จะคบกับมึง มึงจะว่าไง”
“มึงอย่ามาพูดเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้เลยว่ะ”
“มึงตอบไม่ตรงคำถาม”
“กูไม่รู้ กูสับสน”
“สับสนอะไร”
“ไม่รู้บอกไม่ถูก”
“งั้นกูบอกให้ก็ได้ จริงๆ มึงก็ชอบกูอยู่ใช่มั้ย แต่ติดที่มึงมีแฟนแล้ว”
“เปล่า”
“มึงอย่าปฏิเสธ”
“เฮ้ย เลิกพูดเรื่องนี้เหอะว่ะ”
“ไม่ กูจะพูด กูเป็นคนตรงๆ มึงก็รู้”
“มึงต้องการอะไรวะไอ้แชมป์”
“ต้องการคบกับมึงไง”
“เราก็คบกันอยู่นี่ไง”
“ไม่ใช่แบบนี้”
“แล้วแบบไหน”
“มึงก็น่าจะรู้”
“กูไม่รู้”
“ปากแข็ง”
“กูเปล่า”
“อย่ามาเปล่า ชอบกูก็บอกว่าชอบสิวะ มึงจะอะไรนักหนา”
“ก็แล้วมึงอยากฟังไปทำไมรู้แล้วก็คือรู้สิ ทำไมจะต้องให้กูพูดด้วยวะ”
“แสดงว่าที่ผ่านมามึงรู้สึกกับกูจริงๆ”
“คิดเองละกัน กูไม่ขอพูด”
“กูเข้าใจว่ามึงคงจะรู้สึกผิดกับแฟนมึง เอาเหอะ กูมันคนมาทีหลังนี่”
“มันไม่ใช่แบบนั้น”
“อย่าปฏิเสธ เอาเป็นว่ากูเข้าใจละกันว่ากูมันคนมาทีหลัง”
“อะไรของมึงเนี่ยไอ้แชมป์ ถามตรงๆ นะที่มึงพูดมาทั้งหมด มึงพูดจริงหรืออำกูเล่น”
“กูพูดขนาดนี้มึงยังคิดว่ากูหลอกมึงอีกเหรอ”
“เฮ้ย อย่าเพิ่งโกรธสิวะ”
“กูไม่ได้โกรธ เพียงแต่กูไม่น่าพูดเรื่องนี้กับมึงเลย”
“ทำไมวะ”
“ก็ถ้ามึงไม่ได้คิดอะไรกะกู แล้วกูจะมองหน้ามึงติดได้ไง กูอายก็เป็นนะโว้ย แม่งโดนเกย์ปฏิเสธ”
“แล้วกูปฏิเสธมึงไปหรือยัง”
“หมายความว่าไง”
“เอาจริงๆ กูก็รู้สึกกับมึงบ้างแหละ ฟังดูไม่ค่อยดีนะ แต่มึงแม่งดันเข้ามาถูกที่ถูกเวลาเอง”
“เฮ้ย เรื่องนั้นอย่าไปคิดดิ แค่เราเข้าใจกันก็น่าจะพอแล้ว”
“แต่ยังไงมันก็ดูแปลกๆ ว่ะ กูกับนพยังคบกันอยู่นะโว้ย”
“คบก็ส่วนคบดิ มึงก็ทำตัวอย่างเดิมน่ะแหละ ไม่ต้องมากังวลเรื่องกู ว่างเมื่อไหร่ค่อยเจอกันกูก็ไม่มีปัญหา แค่มึงรู้สึกกะกูอย่างที่กูรู้สึกกะมึงกูก็เบาใจแล้ว แม่งนึกว่ากูมันจะซวยถึงขนาดเกย์ยังไม่อยากจะมอง”
“พูดไปนั่นมันใกล้จะเช้าแล้วว่ะ กูว่าเราไปนอนเหอะ”
“อยากนอนกะมึงอ่ะ ไปนอนด้วยได้ป่ะ อยู่คนเดียวนี่”
“เชี่ย จากบ้านมึงถ่อมาห้องกูคงจะได้นอนหรอกนะ”
“ไม่นอนแล้วเราจะทำอะไรกันเหรอที่รัก”
“ทำห่าอะไรล่ะ มันจะเช้าก่อนอ่ะดิ”
“ทำตอนเช้าก็ไม่แปลกนี่ คนเราแสดงความรักต่อกันต้องจำกัดเวลาด้วยเหรอ”
“เพ้อเจ้อกันไปใหญ่แล้ว ไปนอนไป”
“ครับผม ไปก็ได้ งั้นพรุ่งนี้ตื่นเดี๋ยวแชมป์โทรหานะ”
“เฮ้ย มึงเรียกแทนตัวเองว่าไงนะ”
“ก็แชมป์ไง”
“อย่าบอกนะว่ามึงจะใช้คำนี้กะกู”
“ไม่เห็นแปลกกับแฟนเก่าแชมป์ก็เรียกแทนตัวเองแบบนี้ ว่าแต่นายเหอะ ต่อไปห้ามขึ้นกูมึงนะโว้ย”
“เอางั้นเลยเหรอวะ”
“ก็เออดิ ไหนลองเรียกแทนตัวเองว่าเต็นซิ”
“ไม่เอา”
“อย่าดื้อเต็น”
“ไม่ได้ดื้อแต่มันไม่คุ้น”
“ไม่คุ้นก็ต้องหัดขนาดแชมป์ยังพูดได้เลย”
“จะให้พูดว่าไงดีล่ะ”
“ก็บอกเต็นไปนอนแล้วนะครับ แค่เนี่ย”
“ขะครับ เต็นไปนอนก่อนละกัน”
“ต้องมีครับด้วย”
“เฮ้ย บังคับกันนี่หว่า”
“เปล่าบังคับแค่อยากให้แฟนตัวเองพูดเพราะๆ ผิดตรงไหน”
“ก็ขอเวลาบ้างดิ”
“ไม่ให้ ต้องฝึกเดี๋ยวนี้ เร็ว”
“ครับพี่แชมป์ครับ เต็นขอไปนอนก่อนนะครับ”
“ดีมาก งั้นก็หลับฝันดี เดี๋ยวพรุ่งนี้แชมป์โทรหา”
“ครับ”
“ชื่นใจจัง ฝันดีครับ พรุ่งนี้คุยกัน รักนะครับ”
ใครจะเชื่อว่าประโยคหวานๆ เหล่านี้จะออกมาจากปากผู้ชายห้าวๆ คนหนึ่ง เต็นสลัดมโนภาพทั้งหมดทิ้งไป เมื่อเหลือเวลาอีกไม่มากที่จะต้องเข้าเรียนคาบแรก เด็กหนุ่มกำลังก้มจะจัดการกับจานข้าวตรงหน้า แต่เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นขัดจังหวะนั้นซะก่อน
ชื่อของคนที่นึกถีงเมื่อครู่โชว์ที่หน้าเครื่องตอนหยิบขึ้นมาดู เด็กหนุ่มอมยิ้มนิดๆ ที่คนๆ นี้ไม่ผิดสัญญาที่ให้ไว้ตอนวางสายเมื่อคืน
“ฮัลโหล” เสียงฝ่ายนั้นเอ่ยทักมาตอนกดรับสัญญาณ
“ครับ” เด็กหนุ่มตอบกลับไปเป็นการเริ่มสนทนา
“ทำอะไรอยู่อ่ะ”
“กินข้าวอยู่”
“ที่ไหน”
“มหา’ลัย”
“เหรอ แล้วคุยได้ป่าว”
“ได้ มีไรล่ะ”
“ก็ตื่นมาแล้วคิดถึง”
“จริงอ่ะ”
“อ้าวแชมป์จะโกหกทำไมล่ะคร้าบที่รัก”
“ขี้อ้อนขนาดนี้ไม่น่าเชื่อว่าแฟนแชมป์จะทิ้งแชมป์ไป”
“คนเรามันชอบอะไรไม่เหมือนกันหรอก ว่าแต่เต็นชอบป่ะล่ะแฟนขี้อ้อนแบบนี้”
“ก็ดี”
“ชอบก็บอกว่าชอบสิครับ จะปากแข็งทำไมแชมป์ไม่ใช่คนอื่นคนไกลแล้วนะ”
“ครับชอบก็ได้ครับ”
“ก็แค่เนี่ย วันนี้เลิกเรียนกี่โมง”
“ก็บ่ายๆ อ่ะ”
“เจอกันป่าว”
“แล้วแชมป์ไม่มีเรียนเหรอ”
“หึ”
“มิน่าตื่นซะสายเชียว”
“ก็เมื่อคืนนอนไม่หลับมัวแต่คิดถึงคนบางคน”
“คิดถึงใคร”
“ก็พูดกับใครอยู่ล่ะ”
“ว่าคนอื่นปากแข็งตัวเองก็เหมือนกันแหละ”
“คิดถึงเต็นคร้าบ พอใจหรือยัง”
“ก็แค่เนี่ย แล้วเจอไงอ่ะ จะมาหาเต็นเหรอ”
“แล้วว่างป่ะล่ะ ต้องไปไหนกับแฟนป่าว”
“ไม่มั้ง เขายังไม่โทรมาเลยนี่”
“แล้วไม่โทรถามเขาล่ะ”
“ไม่แล้วล่ะ อยากโทรเขาคงโทรมาเอง”
“เฮ้ย เอาให้เคลียร์นะ แชมป์อยากให้เราคบกันด้วยความรู้สึกดีๆ”
“สรุปจะให้เต็นโทรถามเขาก่อนเหรอ”
“ถ้าได้มันก็ดี อย่างน้อยก็ให้เกียรติเขาหน่อย แชมป์มาทีหลัง ไงก็ได้”
“แต่เต็นไม่อยากโทรไปแล้ว”
“เพราะแชมป์หรือเปล่า”
“ก็มีส่วน เต็นมาคิดดูอีกที เต็นกับนพคงถึงจุดอิ่มตัวแล้วมั้ง”
“แชมป์ไม่ใช่มือที่สามแน่นะ”
“ขนาดนี้ยังคิดว่าไม่ใช่อีกเหรอ”
“เฮ้ย พูดงี้แชมป์คิดนะ”
“อ้าว ไหงพูดงี้ล่ะ ก็เมื่อคืนคะยั้นคะยอให้เต็นเผยความรู้สึกไม่ใช่เหรอ”
“รู้นะคิดอะไรอยู่ ไม่เอาแล้ว คุยกันเดี๋ยวจะพาลทะเลาะกันป่าวๆ ตกลงบ่ายนี้เจอกันละกัน”
“อืม ไปไหนดีล่ะ”
“กินข้าว ดูหนัง”
“ก็ดี”
“งั้นแชมป์ไม่กวนแล้ว กินข้าวต่อเหอะ ไว้บ่ายๆ จะโทรหา”
“ครับ”
“ครับ ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ รักนะครับ”
สัญญาณถูกตัดหายไปอีกกครั้ง ข้าวในจานคนเป็นเจ้าของแทบไม่อยากจะแตะเพราะคำสนทนาเมื่อครู่มันทำให้รู้สึกอิ่มขึ้นมาได้อย่างมหัศจรรย์
ที่โรงหนัง ณ ห้างๆ เดิมที่นัดเจอกันครั้งแรก เต็นยืนมองร่างเด็กหนุ่มที่กำลังจัดการซื้อตั๋วหนังอยู่จนฝ่ายนั้นแล้วเสร็จจึงเดินเข้าไปหาตอนเจ้าตัวเดินออกมาจากช่องจำหน่ายตั๋ว
“อ่ะ คราวนี้เต็นจ่ายบ้าง” เด็กหนุ่มยื่นเงินที่เตรียมไว้ในมือให้คนนั้นทันทีที่ไปถึง
“ไม่ขัดศรัทธานะ” เป็นคำตอบที่ได้ยินจากฝ่ายนั้น พร้อมกับเจ้าตัวหยิบเอาสิ่งที่ยื่นให้ไป
“ก็แฟร์ๆ ไง คราวที่แล้วแชมป์ก็เลี้ยงไปแล้วนี่” เด็กหนุ่มเอ่ยบอก
“แฟนใครวะน่ารักชะมัด” คนตรงหน้าเอ่ยชมพร้อมรอยยิ้ม เพียงเท่านี้หัวใจก็คล้ายจะลืมความน้อยใจที่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์กับคนรักก่อนหน้า จึงได้ก้าวขาเดินเคียงเข้าห้องฉายหนังกับคนเอ่ยอย่างเต็มใจ
***************************************************************************
“ขอบใจนะแชมป์ที่ทำให้เต็นรู้สึกดีขึ้น” เต็นเอ่ยกับคนตรงหน้าในขณะที่กำลังนั่งกันอยู่ในร้านอาหารภายในห้างๆ เดิมหลังจากที่ดูหนังกันเสร็จ
“เหมือนกันแหละ ถ้าแชมป์ไม่เจอเต็นวันนั้น แชมป์ก็อาจจะกำลังบ้าตามง้อคนที่เขาไม่รักอยู่ก็ได้” ฝ่ายนั้นตอบกลับมา
“แต่เต็นก็ไม่ใช่ผู้หญิงเหมือนแฟนเก่าแชมป์นะ”
“เรื่องนั้นมันไม่ใช่ประเด็นหรอก เอาเป็นว่าตอนนี้แชมป์รู้สึกดีกับเต็นเป็นพอ”
“แล้วแชมป์จะเป็นอย่างนี้อีกนานมั้ย”
“ทำไม”
“ไม่รู้สิ เต็นก็ยอมรับนะว่าเวลาอยู่กับแชมป์เต็นก็มีความสุขดี”
“แล้วตอนอยู่กับแฟนล่ะ”
“เมื่อก่อนเคยสุข แต่ตอนนี้ทุกข์มากกว่า”
“เขายังไม่ติดต่อมาเลยเหรอ”
“หึ ยังไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่วันนั้น”
“วันไหน”
“วันที่เจอถุงยางน่ะแหละ”
“เหรอ อืม ช่างมันเถอะ เปลี่ยนเรื่องดีกว่า หนังเมื่อกี้หนุกป่าว”
“ก็สนุกดี แล้วแชมป์ล่ะคิดว่าไง”
“ก็เรื่อยๆ มัวแต่กุมมือคนข้างๆ เลยไม่ค่อยได้สนใจเนื้อหา”
“กุมมือใครอ่ะ”
“ก็คนตรงหน้านี่แหละ”
“เหรอ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“เออ ไอ้เรามันแค่ตัวสำรองไม่ใช่ตัวจริงนี่ ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้ใช่มะ”
“โห ฟังลูกทุ่งด้วย”
“อะ จะมีแฟนเป็นคนขอนแก่นต้องหัดฟังบ้างดิ”
“ไม่หัดแล้วมั้ง ชอบฟังก็บอกมาเหอะ”
“ชอบก็ได้คร้าบ ว่าแต่คืนนี้ให้แชมป์ไปค้างด้วยได้ป่ะ”
“อืม กลัวว่านพจะมาวันนี้อ่ะดิ”
“อ้าวเหรอ”
“ก็เขาหายไปนานแล้วไง เลยคิดว่าวันนี้คงมามั้ง”
“ว้า แย่จัง นี่แหละน่าการไปรักแฟนคนอื่น”
“ถามจริงเหอะ คิดจริงจังกะเต็นจริงเหรอ”
“ขนาดนี้ยังจะถามอีกเหหรอครับ โทรหาทุกเช้าเย็น ว่างก็เจอตลอด”
“ก็รู้ไง แต่ถามเพื่อความชัวร์”
“ชัวร์ว่า”
“ก็เกิดวันใดที่เต็นกับนพไปกันไม่รอดจริงๆ”
“แล้ว”
“แชมป์จะคบกับเต็นมั้ย”
“ก็คบอยู่นี่ไง”
“หมายถึงวันนั้น”
“วันไหนก็เหมือนเดิมแหละครับ รักไปแล้วนี่”
“เฮ้อ นี่เต็นกำลังมีชู้ป่ะเนี่ย”
“เฮ้ย ไม่ถึงขนาดนั้น แชมป์ยังไม่อยากปีนต้นงิ้ว”
“อ้าว ตกลงไงแน่เนี่ย”
“ก็ค่อยเป็นค่อยไปกันก่อนไง ถ้าวันใดที่เต็นต้องเลิกกับแฟนจริงๆ ค่อยว่ากันอีกที แต่ขอให้เชื่อเถอะ ว่าสิ่งที่แชมป์พูดแชมป์ทำ มันมาจากใจแชมป์จริงๆ”
“พูดงี้ โทรไปขอเลิกเลยดีมั้งเนี่ย”
“ปากดี กล้าๆ หน่อยเหอะ”
“อย่าท้านะ เพราะทุกวันนี้อยู่ไปก็เหมือนไม่ได้คบ”
“ท้าที่ไหนล่ะ พูดจริง”
“พูดจริงแล้วทำจริงด้วยป่ะล่ะ”
“จริงสิคร้าบ ผมคนจริงนะครับบอกแล้วไง”
“เออ จะรอดูว่ามันจะจริงสักแค่ไหนเชียว”
“ตามสบาย ทองแท้ไม่กลัวไฟอยู่แล้ว”
“เฮ้อ คุยกะนายนี่ก็สบายใจดีเนอะ”
“นายคือไคร”
“ก็แชมป์ไง”
“แชมป์ก็แชมป์สิ มาเรียกนายทำไม เดี๋ยวจับจูบปากกลางร้านซะนี่”
“ปากดี กล้าๆ หน่อยเหอะ”
“อ๋อนี่ย้อนเหรอ”
“แล้วจะทำไมผมครับคุณแชมป์”
“โธ่เอ้ย ทำเป็นปากเก่งเฉพาะอยู่ในที่สาธารณะละมั้ง แน่จริงในที่ลับตาคนท้าแชมป์สิ”
“คนจริง กลัวอะไรกะสายตาคนอื่น
“ปากดีนะ เลิกพูดเลย กินเข้าไปข้าว เดี๋ยวไปเดินเล่นกันต่อ”
“เดินไหน”
“ก็แถวนี้แหละ หือว่าเต็นรีบกลับ”
“เปล่า ไม่รีบหรอก”
“อืม งั้นไปบ้านแชมป์มั้ย”
“ไปทำไม”
“ไปเล่นเกมส์เป็นเพื่อนหน่อย เล่นคนเดียวเหงา”
“ท่าทางแชมป์ติดเกมส์นะ”
“ว่างๆ ก็จะเล่น”
“แล้วไม่มีใครอยู่บ้านเหรอ”
“อยู่ที่ร้านกันหมด”
“ร้านกับบ้านอยู่คนละที่เหรอ”
“อืม”
“มีพี่น้องกี่คนเนี่ย”
“สาม แชมป์เป็นคนกลาง มีพี่สาวและก็น้องชาย”
“ดีเนอะ ไม่เหงาดี”
“ทำไม เต็นขี้เหงาเหรอ”
“นิดหน่อย เวลาคิดถึงบ้าน”
“ก็กลับไปดิ”
“ไว้เรียนจบก่อน”
“อืม เดี๋ยวแชมป์ไปด้วย”
“ถึงวันนั้นเราจะยังคบกันอยู่มั้ย”
“ปากเสีย คบดิ”
“อ้าวก็แค่ถาม”
“มันขึ้นอยู่กะเต็นน่ะแหละจะคบกับแชมป์ต่อหรือเปล่า”
“ขนาดนี้ยังคิดว่าจะไม่คบอีกเหรอ”
“อ่ะแน๊ หลงเสน่ห์แชมป์แล้วอ่ะดิ๊”
“ทะลึ่ง”
“พูดอีกแล้วคำนี้”
“ก็มันติดปากนี่นา”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร ตกลงไปบ้านแชมป์นะ”
“ก็ถ้าที่บ้านไม่ว่าก็ไม่มีปัญหา”
“จะว่าอะไรล่ะ โตจะเป็นควายอยู่แล้ว แม่เขาไม่ได้หวงแชมป์ขนาดนั้น”
“แล้วพ่อล่ะ”
“พ่อไม่อยู่”
“ไปไหน”
“แยกทางกับแม่ตั้งแต่แชมป์ยังเด็กแล้ว”
“เหรอ โทษทีที่ถาม”
“ช่างมันเถอะ ชีวิตคนเรามีสิทธิ์เลือกเดิน ไปกันไม่ได้สุดท้ายก็ต้องจบ ไม่ช้าก็เร็ว”
“แล้วเราล่ะ จะจบกันช้าหรือเร็ว”
“ก็บอกแล้วไงว่ามันขึ้นอยู่กับเต็น”
“ถ้างั้นคงไม่มีทางจบแล้วมั้ง”
“ไม่มีปัญหา เร็วรีบกินข้าวจะได้ไปกัน”
เต็นนั่งมองคนที่ตรงหน้าที่หลังจากเอ่ยจบก็ก้มลงจัดการกับจานข้าวตัวเอง เด็กหนุ่มรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาดเมื่อคิดว่านาทีต่อจากนี้ไปความเหงาในใจจะถูกเติมเต็มเพราะคนๆ นี้
โปรดติดตามตอนต่อไป
อ่านจบเรื่องนี้ แวะกระทู้ แรงแค้นใต้เงารัก / DREAM II ก็ดีนะ แหะๆ
ขอบคุณครับ
Boy