เสือไบ:the series (ตอน 160)
หลังจากที่ไอ้ขวัญกลับบ้านที่ต่างจังหวัดแล้วผมรู้สึกเศร้า เหงา ความรู้สึกเดียวดายเศร้าเหงาหงอยเข้ามาถาโถมที่ผมอีกครั้ง.....ผมอยากจะลืม.......อยากเป็นคนเดิมแต่มันทำไม่ได้ง่ายๆ ...ตอนนี้ไม่ใช่มีแต่ภาพไอ้ขวัญเท่านั้นที่เข้ามาหลอกหลอนผมมั....นยังภาพคนที่ผมรักคนอื่น ไอ้เกม พี่พี พี่พัน มันก็มาช่วยหลอกหลอนผมอีกต่างหาก....ภาพเก่าๆ หวานๆ ที่ผมลืมมันได้ ตอนนี้เหมือนภาพเหล่านั้นกลับมาซ้ำเติมผมอีก....
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนถึงเดือนกรกฎาคม ผมเริ่มดีขึ้นแล้วกว่าจะคิดจะทำใจได้อีกครั้งแทบแย่.....หลังจากที่ เริ่มยิ้มได้ เริ่มปรับตัวเองได้แล้ว....ตอนนี้ชีวิตส่วนใหญ่ของผมก็จะทำงาน เล่นกีฬา และก็เที่ยวกลางคืน...เพื่อนที่เที่ยวด้วยนะเหรอ ก็บรรดารุ่นน้องผมนี่แหละ ส่วนใหญ่ก็จะไอ้โจ้ ไอ้เอส ไอ้มด ไอ้ระ และก็รุ่นน้องคนอื่นๆ..บอกตรงๆ ตอนนี้ผมติดเที่ยว....ผมมีชีวิตที่เค้าเรียกกันว่าเหยี่ยวราตรีไปแล้ว.....กลางวันเวลาจะทำงานตามันจะหลับให้ได้...แต่กลางคืนเหรอตาใสแจ๋วเลย เที่ยวได้ยันเช้า. อาทิตย์มีเจ็ดวันตอนนี้ผมเที่ยวได้ทุกวัน......
เช้าวันหนึ่ง...ผมนอนอยู่บนเตียงอ้าวใครมานอนข้างๆ ผมนี่ ไอ้ขวัญนี่หว่ะ....มันมองหน้าผม...
"พี่เอก พี่ยังอยากรู้อีกเหรอเปล่า ว่าผมรักพี่เหรอเปล่า" อ้าวเวนทำไมมันถามผมแบบนี้ล่ะ...มันจะมาทำไมล่ะนี่ ผมพยายามจะลืมทุกอย่าง....ลืมเรื่องความหลังและดูมัน..มันเข้ามาทำให้ตะกอนความเศร้าความเหงาที่มันตกจมไปแล้วลอยมาหลอกหลอนผมอีกแล้ว..แต่ไม่เป็นไรผมก็อยากรู้อย่างที่มันถาม...ผมพยักหน้า..
"ฟังนะพี่เอก...ผมตัดสินใจแล้วผมเพิ่งรู้ตัวตนของผม ผมเพิ่งรู้ว่าผมต้องการอะไร" น้ำเสียงมันเศร้าๆ ไงไม่รู้...
"แล้วถ้ามรึงบอกแล้ว มรึงจะทำได้เหรอวะ" ผมถามมัน ผมพอจะรู้บ้างแล้วว่ามันจะบอกอะไรผม..
"เฮ้อ ผมไม่อยากหลอกตัวเอง หลอกพี่ และหลอกหวานไงพี่...พี่อยากรู้เหรอเปล่าว่าผมรักพี่เหรอเปล่า"ผมพยักหน้าให้มันอีกครั้ง
"พูดมาดิ พูดมาเลยกรูรับได้ทุกอย่างแหละ" มันมองหน้าผมอีกครั้ง....
"พี่เอก ผมรักพี่ครับ....ผมรักพี่ตั้งแต่วันที่พี่ไปส่งผมหาหวานที่ต่างจังหวัดแล้ว...เฮ้อ ผมมารู้ตัวเองตอนวันสุดท้ายที่เราไปพัทยา....ผมกลับไปบ้าน ไปอยู่กับหวาน ผมไม่มีความสุขเลยนะพี่...มันไม่ใช่ความต้องการของผม.....ตอนนี้ผมบอกเลิกกับหวานแล้วนะพี่..พี่เอกดีใจเหรอเปล่า"
"เอ๊ย จริงเหรอ....แล้วหวานว่าไงล่ะ" ตอนนี้บอกตรงๆ ผมดีใจ ..ช่วงที่ไอ้ขวัญจากไปผมทุกข์ทรมานใจมาก ผมพยายามจะลืมมัน...ผมคิดว่าเรื่องของผมกับมันเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ไอ้ขวัญกับหวานเลิกกันแล้ว...ผมก็อยากจะขอเริ่มต้นกับมันใหม่อีกครั้ง..
"หวานไม่ว่าไรหรอกพี่....ผมบอกหวานหมดแล้ว ว่าผมรักพี่...รักพี่คนเดียว"
"โห ทำไมมรึงบอกกับเค้าแบบนั้นล่ะ" ผมถามมันต่อด้วยความสงสัย....
"เพราะผมไม่อยากฝืนไงพี่.....ผมไม่อยากฝืนความรู้สึก ความต้องการของตัวเอง..ผมอยู่กับพี่ผมมีความสุข มีความสุขกว่าอยู่กับหวานเสียด้วยซ้ำ" มันขยับมาใกล้ผม....ตอนนี้ตามันมองตาผม ตาผมมองตามัน...ปากผมกับปากมัน.....เฮ้อทุกอย่างมันรวดเร็วมาก...กี่เดือนแล้วนี่ที่ผมกับมันไม่ได้ทำแบบนี้...ตอนนี้ทุกฉากทุกตอนดูมันเร่าร้อน รุนแรงเหมือนคนที่อดอยากมาเป็นแรมปี....แต่ผมก็ชอบ...ทำไงได้ล่ะ ผมต้องการชอบแบบนี้ซะด้วยนี่....ตอนนี้อะไรก็ได้ขอให้แค่เป็นไอ้ขวัญ.....
"นะพี่เอก ต่อไปเราจะกลับมาเหมือนเดิม ผมจะเลิกกับหวาน จะมาทำงานที่นี่...จะอยู่กับพี่เอกที่นี่ตลอดไป"
"แน่ใจเหรอขวัญ" อย่างไรผมก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อมันอยู่ดี มันไม่สมเหตุสมผล..อีกอย่างมันจะทิ้งทุกอย่างมาเพื่อผมนี่ล่ะนะ......หรือว่ามันมีอะไรแอบแฝง....มันมองตาผม..
"ผมเพิ่งรู้ความต้องการของหัวใจตัวเอง ไม่อยากจะหลอกตัวเองอีกแล้วพี่เอก"
"แล้วมรึงจะทนสายตาของสังคมที่มองมรึงได้เหรอวะขวัญ...."
"ก็จะไปแคร์อะไรมากมายล่ะพี่เอก....เราก็อยู่ของเรา เขาก็อยู่ของเขา" เฮ้อพูดง่ายจังเลยมรึง แต่ถ้ามันต้องการแบบนี้ผมก็ไม่ขัด เพราะจริงๆ ผมก็อยากอยู่กับมันเหมือนกัน ถ้ามันเลิกทุกอย่างและมาอยู่กับผมเพื่อผมและรักผมตามที่มันพูดจริงๆ ผมคงมีความสุขที่สุด ได้อยู่กับคนที่ผมรักและรักผม...แค่นี้ผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว....ตื๊ดๆ เสียงโทรศัพท์มาใครนี่โทรมาตอนนี้ มาขัดจังหวะผมกับไอ้ขวัญได้อย่างไร....ผมเอื้อมมือไปตัดสาย....
ไหนโทรศัพท์ผมล่ะ อ้าวอยู่ไหนนี่ผมลืมตาขึ้น เสียงมันดังตื๋ดๆ ไม่หยุด เอไหนล่ะ นี่ไง ใครนี่เพื่อนผมนี่ มันอยู่ต่างจังหวัดคงโทรมาถามงาน ผมกดปิดเครื่องตอนนี้ผมอยากคุยกับไอ้ขวัญสองคน....ผมหันไป...อ้าวไอ้ขวัญหายไปไหนแล้วล่ะ ....เอ๊ยนี่ผมฝันไปเหรอนี่ ....ฝันบ้าอะไรแบบนี้ มันเหมือนจริงทุกอย่าง ภาพเสียง คำพูดการกระทำทุกอย่างที่มันคุยที่มันทำกับผมเมื่อกี๊กับผมมันยังติดตาตรึงใจ ผมอยู่...ทำไมนี่ ทำไมมันไม่เป็นความจริง ผมอยากให้มันเป็นแบบนี้จริงๆ เป็นแบบที่มันบอกผม......แต่ผมคงได้แต่ฝัน.....ขนาดแค่หวังยังไม่มีสิทธิ์จะคิดเลย เพราะอย่างไรมันก็ไม่มีทางเป็นความจริง...
http://www.ethaimusic.com/lyrics/372.htmเช้าแล้วยังอยู่บน..ที่นอน
เงียบ ๆ คนเดียวยังไม่อยากตื่นขึ้นพบ..ใคร
เพราะว่าใจก็ยัง..เสียดาย ที่ฝันดีๆ กำลังจะจบและหายไป
ภาพที่ฉันได้เป็นดั่งคนที่เธอรัก ช่างเป็นอะไรที่ประทับใจ
อยากซึมซับนานๆ และเก็บไว้ ไม่ให้มันผ่านไป
อยากหลับตาอยู่อย่างนั้น ทำอยู่อย่างนั้น ฝันถึงเธอเรื่อยไป
เพราะว่าความจริง ไม่มีทางใด ทำให้เราได้รักกัน โว้..โว
ทำได้แค่นั้น ทำได้แค่นี้ ทำได้เพียงแค่ฝัน
ต้องหลอกตัวเอง ฝันไปวันๆ โฮ้..โฮ ไม่มีทางที่ฝันมัน..เป็นจริง
เพราะไม่เคยอยู่ใน..สายตา ไม่ว่าเวลาจะนานจะผ่านซักเท่าไร
ทุกค่ำคืนต้องทน..เหงาใจ ไม่รู้จริงๆ ทำไมๆ ต้องรักเธอ
อยากหลับตาอยู่อย่างนั้น ทำอยู่อย่างนั้น ฝันถึงเธอเรื่อยไป
เพราะว่าความจริง ไม่มีทางใด ทำให้เราได้รักกัน โว้..โว
ทำได้แค่นั้น ทำได้แค่นี้ ทำได้เพียงแค่ฝัน
ต้องหลอกตัวเอง ฝันไปวันๆ โฮ้..โฮ ไม่มีทางที่ฝันมัน..จะเป็นจริง
ตอนนี้ผมว่าไอ้ขวัญมันอยู่ที่กรุงเทพนี่แหละ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์รับปริญญาอยู่มันน่าจะมาซ้อมรับปริญญาแล้วแต่ทำไมมันโทรหาผมเลย คงจะยุ่งๆ ผมก็ไม่กล้าโทรหามันก็อย่างที่บอกแหละไม่รู้จะโทรหามันในฐานะอะไร....แต่ผมเตรียมของขวัญที่จะให้มันไว้แล้ว เป็นนาฬิกาข้อมือ ถ้ามันไม่โทรหาผมจะส่งมันไปที่บ้านที่ต่างจังหวัดมันผมมีที่อยู่ของมัน.....
ผมหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ เดินผ่านโซฟา ของขวัญที่ผมจะให้มันวางอยู่บนโต๊ะรับแขก...ผมเดินเข้าไปหยิบดู เป็นเกล่องห่อเรียบร้อยแล้ว มีการ์ดเขียนด้วย เขียนว่า..
นาฬิกานี้เอาไว้ดูเวลา..........
จาก เอก.......พี่ชายที่มรึงบอกว่าแสนดี......
ฮ่าฮ่า ผมดูการ์ดแล้วผมอดที่จะขำตัวเองไม่ได้.....ประโยคแรกมันยังไม่หมดนะครับ ผมละไว้ในฐานที่ผมเข้าใจความจริงผมอยากจะเขียนว่า นาฬิกานี้เอาไว้ดูเวลาที่มรึงคิดถึงกรู......จากเอกพี่ชายที่ที่มรึงบอกว่าแสนดีแต่มรึงไม่เคยบอกรักมันเลย...... ขืนเขียนไปแบบนี้ มีหวังมันบ้านแตก.....เฮ้อ....เมื่อไหร่จะโทรหาผมล่ะนี่ ไอ้ขวัญมรึงไม่รู้เลยเหรอวะว่าการรอคอยใครสักคนมันทรมานแค่ไหน.....ยิ่งรอคอยคนที่รักคนที่เราเฝ้ารอด้วยแล้ว.....มรึงไม่สงสารกรูเลยนะ....
ผ่านไปสามวัน....ตอนนี้ไอ้ขวัญมันคงรับปริญญาแล้ว ผมติดตามข่าวบ่อยๆ แต่มันก็ไม่โทรมาหาผมอยู่ดี สงสัยผมต้องส่งของขวัญไปเองแล้วล่ะมั๊ง....
แต่เย็นวันนั้น ตื๊ดๆ โทรศัพท์ผมมา อ้าวไอ้ขวัญนี่หว่ะ ในที่สุดมรึงก็โทรหากรู....
"สวัสดีครับ พี่เอก ผมรับปริญญาแล้วนะ"
"อือ รู้แล้ว เมื่อวานใช่เปล่า เห็นในข่าวพระราชสำนัก...." ผมแกล้งทำเป็นเฉยๆ แต่จริงๆ ผมสุขใจมากๆเลยที่ได้คุยได้ยินเสียงมัน..
"ครับพี่ เมื่อวาน ขอโทษด้วยนะพี่ ไม่ได้มาเลี้ยงกับพี่ คือครอบครัวผม กับครอบครัวหวานมาด้วยแหละครับ ผมไม่มีเวลาปลีกตัวไหนจะต้องยุ่งๆ กับเรื่อง ชุด เรื่องซ้อมอีก ผมเหนื่อยมากๆ เลยแต่คิดถึงพี่เอกนะ"
"เออ ไม่ต้องมาแหลเลยหว่ะ คิดถึงห่าอะไรวะ โทรมาป่านนี้....เออขวัญกรูมีของขวัญจะให้มรึงด้วยนะ ของขวัญสำหรับบัณฑิตใหม่ กรูเตรียมไว้นานแล้วนะ กะว่าถ้ามรึงไม่มากรูจะส่งไปถึงบ้านเลย"
"ขอบคุณครับพี่ผมก็มีของให้พี่เหมือนกัน เอางี้เดี่ยวเจอกัน ที่คอนโดพี่นะ"
"ได้ๆ....เดี่ยวเจอกันนะ" ผมต้องรีบกลับคอนโด ในใจตอนนี้ดีใจสุดๆ จะได้เจอหน้ามันแล้ว แม้จะเป็นครั้งสุดท้าย ก็ตามเถอะ...
ผมไปถึงที่คอนโดเกือบหกโมง....รอมัน.....ผมเฝ้ารอมันด้วยใจร้อนรนกระวนกระวาย...เหลือบไปมองที่ประตูบ่อยๆ คอยเสียงเคาะประตู.....
เกือบทุ่ม มีเสียงเคาะประตู....ก๊อกๆ ผมเดินไปเปิด.....ผมเปิดประตูออก...
ไอ้ขวัญจริงๆ วันนี้มันดูหล่อ เป็นพิเศษ มาคนเดียวด้วย....ผมโผเข้าไปกอดมัน....มันก็กอดผม....แม้จะเป็นช่วงไม่กี่วินาทีแต่ผมก็มีความสุข...
"เป็นไงสบายเหรอ......เข้ามาก่อน"
"ครับพี่ แล้วพี่ล่ะ"
"กรูบอกตรงๆเลยนะ กรูไม่อยากโกหกมรึง กรูคิดถึงมรึงน่ะ กรูเศร้าใจ กรูพยายามทำใจอยู่ แต่ไม่เป็นไรหรอก เดี่ยวมันก็หาย...อย่าว่ากรูนะ คนมันเคยสนิทกัน" ผมบอกมันตอนนี้ผมทำเป็นขำๆ นะ...
"ไม่ว่าหรอกพี่ ผมก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน"
"แล้วมรึงกับหวานสบายดีเหรอวะ.....เป็นไงบ้างจะแต่งงานเมื่อไหร่...เออนี่ของขวัญของมรึง"มันรับไป...
"ขอบคุณครับ พี่ ผมก็มีให้พี่เหมือนกัน...นี่ครับพี่เอก เรียนเชิญด้วยครับ ผมอยากให้พี่ไปงานแต่งงานของผมกับหวาน"มันส่งการ์ดแต่งงานให้ผม เฮ้อ บอกตรงๆ นะ อารมณ์นี้ของผมมันดาวน์สุดๆ มันเหมือนทุกอย่างมันจากผมไปจริงๆ เหมือนตอนไอ้เกม เหมือนตอนพี่พัน จากไปแบบนั้น.....มันกลับมาตอกย้ำผมอีกแล้ว...แต่ผมก็ทนฝืนยิ้ม....
"ดีใจด้วยนะ....แล้วจะแต่งเมื่อไหร่ล่ะ"ผมเปิดการ์ด ดูวันเวลาสถานที่ โหเร็วจังแฮะ อีกเดือนเดียวเอง..ทำไมมันแต่งงานกันเร็วแบบนี้ล่ะ
"กลางเดือนหน้าพี่ ไปนะพี่ ผมอยากให้พี่ไป จริงๆ"
"โอเค กรูสัญญาว่าจะไป" เฮ้อทั้งๆ ที่รู้ว่าไปแล้วต้องรู้สึกเศร้า แต่ผมก็รับปากมัน...
"ขอบคุณครับ พี่ เอก ผมกลับก่อนนะ"
"ติดธุระนิดหน่อยล่ะพี่ ผมต้องไปแจกการ์ดให้หมด พรุ่งนี้ผมจะกลับต่างจังหวัดแล้ว" มันบอกผม โหอะไรนี่ยังไม่หายคิดถึงมันเลย...
"อือไว้เจอกันที่งานแต่งงานนะ โอเค"
"ครับพี่เอก ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะครับ....พี่เอกที่แสนดีของผม " มันกอดผมอีกครั้งผมก็กอดมันตอนนี้น้ำตาผมซึมๆ แล้ว....เฮ้อ....
"ขอให้มีความสุขกับคนที่รึงรักและมีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตนะขวัญ...... อวยพรไว้ก่อน...วันนั้นมรึงอาจจะไม่มีเวลาให้กรูก็ได้ " ผมซ่อนน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว
"ขอบคุณครับ" มันคลายอ้อมกอด ผมแล้วเดินออกจากห้องจากผมไปแล้ว...ผมทรุดนั่งอย่างอ่อนแรงที่โซฟาความรู้สึกของคนที่ผมรักเดินจากไป ...มันมาตอกย้ำผมอีกแล้ว ทำไมผมต้องเจอแบบนี้บ่อยๆ เจอจนชิน เจอจนผมผมแทบจะรับไม่ไหว.....ทำไมวันนี้สวรรค์ถึงแกล้งผมนัก แกล้งให้คนที่ผมอยากเจออยากพบหน้ามาหาผม และก็ทำให้ผมรู้ว่าเขาจะไม่มีวันเป็นคนที่จะคิดถึงเป็นคนที่เฝ้าฝันเฝ้ารออีกแล้ว...เขากำลังจะมีความสุขกับคนที่เขารัก กับคนที่เขาเลือก....ทุกอย่างจบแล้วสำหรับผม กับเขา...ผมร้องไห้.....เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำได้ตอนนี้คือร้องไห้.....เผื่อทุกอย่างมันจะดีขึ้นมาบ้าง...
ก่อนงานแต่งงานไอ้ขวัญสองวัน...ผมโทรหาไอ้แบงค์....
"แบงค์มรึงไปงานแต่งงานขวัญเหรอเปล่าวะ" ผมโทรหามันวันพุธ ไอ้ขวัญแต่งงานวันเสาร์..
"ไปพี่ แล้วพี่ล่ะ"
"ไปน่ะ รับปากมันไว้แล้ว แล้วมรึงไปไงวะ"
"ขับรถไปพี่ กะจะแว่บกลับบ้านด้วย"
"ไปกี่คนวะ ไอ้เต้ ไอ้เติ้ลล่ะ"
"ผมไปคนเดียว" ดีเลย จะได้ขอไปกลับมันด้วย..
"งั้นกรูไปด้วยได้เปล่าเดี่ยวกรูช่วยค่าน้ำมันนะ"
"ได้ๆ พี่เอก เสาร์เช้านะ เดินทางตอนแปดโมง เดี่ยวผมไปรับ คงทันงานแต่งมันแหละมันแต่งทุ่มใช่เปล่า"
"ทันถมเถ"
และแล้ววันนั้นผมก็ไปงานแต่งงานไอ้ขวัญไปถึงก็เข้างานเลย ผมกับไอ้แบงค์แวะอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านผมก่อนถึงเข้างานไอ้ขวัญ....บอกตรงๆ วันนี้ทั้งวันผมเศร้าๆ ทั้งวัน...มันเหมือนผมกำลังเสียไอ้ขวัญตลอดไป แม้ผมจะพูดว่าผมดีใจที่เห็นมันมีความสุขกับคนที่มันรัก...แต่ลึกๆ ผมทำใจยังไม่ได้จริงๆ ผมเจอเรื่องแบบนี้มาหลายครั้ง...แล้วทำไม ทำไม ผมเจอแบบนี้ซ้ำซากจริงๆ...หัวใจผมแค่ก้อนเนื้อเล็กๆ มีความรู้สึก มีความเสียใจนะ ทำไมสวรรค์ไม่สงสารผมบ้างเลยเหรอ...
ผมกับไอ้แบงค์เข้างานแล้ว วันนี้คู่บ่าวสาวสวยมากๆ เลย ก็อย่างว่าไอ้ขวัญก็หล่อ หวานก็สวย คนเยอะมากๆ ...ห้องจัดเลี้ยงแทบจะทะลักจนล้น ขนาดเสริมโต๊ะแล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอ....
ผมได้คุยกับมันแค่ครั้งเดียวตอนที่เข้างาน ....ผมกับไอ้แบงค์นั่งจนงานเลิก เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ฤกษ์ส่งตัว พรกเราก็ไปเมากันต่อ...ผมกับไอ้แบงค์ไปกินเหล้ากันต่อ...
"พี่เอก ว่า ไอ้ขวัญกับหวาน นี่จะอยู่กันยืดเปล่า...ไอ้ขวัญเจ้าชู้ หวานขี้หึงแบบนี้" อ้าวไอ้แบงค์มันคงไม่รู้ว่าไอ้ขวัญมันสัญญาไว้ว่าจะเปลี่ยนทุกอย่างหลังแต่งงาน
"ไอ้ขวัญมันเปลี่ยนไปแล้ว มรึงไม่รู้เหรอ...มันบอกว่ามันจะเลิกทุกอย่างนี่หลังจากที่มันแต่งงาน"
"ถ้ามันเป็นแบบนี้ได้ก็ดีพี่...แต่ผมไม่ค่อยเชื่อมัน ของมันเคยๆ"
"แต่กรูเชื่อหว่ะ...คนเราเป็นเสือก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นเสือตลอดไปนิ....หวานก็น่ารักแบบนี้ อีกหน่อยมันก็มีลูก " ผมเชื่อครับ มันเคยพิสูจน์มาแล้ว
"แบบนั้นได้ก็ดีล่ะพี่....แล้วพี่ล่ะเมื่อไหร่จะจะแต่งงานล่ะ" โห เชื่อเปล่านี่เป็นคำถามที่มันทิ่มแทงผมมากจริงๆ ผมจะแต่งงานได้อย่างไรล่ะ ผมเป็นเกย์แบบนี้....ผมมีความรักแบบรักต้องห้าม รักที่จะเปิดเผยให้สังคมรับรู้ไม่ได้ด้วย...จริงอยู่สมัยนี้เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร แต่อย่าลืมนะผมทำงานราชการ สังคมที่ต้องอาศัยความเชื่อถือ..และอีกอย่างแม่ผม ครอบครัว คนที่รู้จักผมเค้าจะทำใจได้เหรอ เขาจะคิดอย่างไรที่ผมเลือกทางแบบนี้ มันเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ผมยังไม่อยากถอดหัวโขน...ผมยังไม่พร้อมที่จะต้องมาได้ยิน ต้องมาระแวงกับเสียงนินทา เสียงครหา..มันไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกที่จุทุกข์ใจ..... แม่ผม ด้วย....
"ยังหว่ะ ชีวิตกรูคงโดนสาบหว่ะ เจอคนที่กรูรักแล้ว....อยู่ด้วยกันสักระยะ...เขาก็จากกรูไปทุกที....เศร้าหว่ะ" ไอ้แบงค์มันคงไม่รู้หรอกว่าผมหมายความว่าไง...ตอนนี้ผมเริ่มเมาแล้ว มานั่งไม่ถึงชั่วโมงเหล้าจะหมดกลมแล้ว ไอ้แขงค์มันไม่กินเยอะด้วย.....
"เอาน่า พี่เอก อีกหน่อยก็เจอ ของในโลกนี่มันคู่กันเสมอแหละ แต่มันอาจจะยังไม่ถึงเวลาของพี่เอกก็ได้"ดูมันปลอบใจผม...
"แล้วเมื่อไหร่ล่ะ อีกกี่วัน กี่ปี กี่ชาติ "ผมเริ่มสติแตกแล้ว ภาพความหลังเก่าๆ มันเริ่ม แว่บๆ เข้ามาในหัวผม...
"ผมก็ไม่รู้พี่....เอาน่าอย่าคิดมาก เครียด ชนกันดีกว่า เดี่ยวผมกลับก่อนนะพี่ แล้วพี่เอกพักไหนล่ะ"
"เดี่ยวกรูพักโรงแรมแถวนี้ล่ะกัน มรึงกลับเถอะ เดี่ยวกรูขอนั่งอยู่สักพัก"
"งั้นผมไปก่อนนะพี่" ไอ้แบงค์เดินออกจากร้านไปแล้วปล่อยให้ผมนั่งคนเดียว..
เหล้ากลมแรกหมดไปแล้ว....ผมสั่งมาอีกกลม ....คืนนี้ผมอยากจะเมา อยากจะหลับ อยากจะลืม ลืมเรื่องต่างๆ ที่ผมเคยเจอมา...ผมดื่มเหล้าไป ภาพต่างๆ มันเข้ามาหลอนผมตลอด...ภาพพิศ ภาพพี่พี ภาพพี่พัน ภาพไอ้เกม และก็ภาพไอ้ขวัญ....ผมร้องไห้ไปแล้ว ผมไม่น่าดื่มเลย..ทั้งๆ ที่รู้ว่าดื่มไปต้องเป็นแบบนี้....แต่บอกตรงๆ คืนนี้ผมรู้สึกแย่มากๆ เลย....แย่จนผมต้องมาดืมมันนี่แหละ...
เกือบตีสองแล้ว ผมเดินออกจากร้านแล้ว ตอนนี้เหล้ายังเหลืออีกหน่อย...ผมเมามากๆ กลมที่สามไปแล้ว ผมดื่มไปได้ยังไงนี่..ผมเดินมาเรื่อยๆ อยากเดิน เดินเพื่อลืม ภาพบ้าๆ มันหลอกหลอนผม ตอนนี้ผมร้องไห้ ร้องให้กับโชคชะตา ร้องให้กับสิ่งที่ผมเจอมา....ผมเดินออกไปถึงถนน ใหญ่ผมออกมาได้อย่างไรนี่ ตอนนี้ถนนโล่ง แต่ก็มีรถวิ่ง รถส่วนใหญ่ก็วิ่งด้วยความเร็วสูงด้วย.....
ภาพไอ้เกมตอนแต่งงานกับ เบียร์ ตอนที่มันบอกกับผมว่าชีวิตมันตอนนี้มีความสุข มันเข้ามาแทงใจผมอีกแล้ว..ภาพไอ้ขวัญแต่งงาน...ภาพพิศคืนแหวนหมั้นให้ผม ภาพพี่พีบอกผมว่าชีวิตผมกับแกไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างเปิดเผยได้ในสังคม..ภาพที่ผมช่วยพี่พันพิมพ์การ์ดแต่งงานด้วยน้ำตา..ผมไม่ไหวแล้ว...
เปรี๊ยง.....
ผมปาขวดเหล้าที่ผมถืออยู่ไปที่เสาไฟฟ้า ขวดเหล้าแตกกระจาย ตอนนี้ละแวกนั้นไม่มีคน...ผมไม่ไหวแล้วภาพบ้าๆ ตอนนี้มันมีอิทธิพลเหนือผมไปแล้ว ผมร้องไห้ร้องไห้เหมือนคนบ้า ผมทุบหมัดผมลงที่เสาไฟฟ้า..
"ทำไมชีวิตผมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมสวรรค์ใจร้ายกับผมแบบนี้" ตอนนี้ผมไม่เจ็บ...ไม่รู้สึกเลย อาจจะเพราะผมเมา หรือผมเจ็บใจจนร่างกายผมชาไปแล้ว ....ภาพไอ้ขวัญแต่งงานแว่บเข้ามาอีกแล้ว ภาพที่มันจูบหวานในงานเมื่อตอนหัวค่ำ...
ผมไม่ไหวแล้ว ผมอยากจะลืม ผมไม่อยากจะคิด ไม่อยากจะหายใจแล้ว...ผมบ้าไปแล้ว...ผมก้าวลงไปที่ถนน....ตอนนี้ถนนว่างเปล่า...
ผมจะหยุดเรื่องต่างๆ จริงดิ ถ้าผมไม่มีชีวิต ไม่หายใจ ผมก็ไม่เจ็บปวด ไม่ต้องคิด ไม่ต้องมาฟุ้งซ่านแบบนี้ ผมเหนื่อยผมเจ็บ ผมเจ็บเหลือเกิน...ทำไมชีวิตผมไม่เจอคนจริงจัง ไม่เป็นเหมือนคนอื่นที่เขามีความสุข ทำไมชีวิตผมต้องโดนทิ้งให้อยู่อย่างเดียวดาย อย่างชอกช้ำแบบนี้.....
ผมตัดสินใจแล้ว ผมขอลืมเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับผมก็แล้วกัน...ผมขอเจ็บครั้งนี้แค่ครั้งเดียว...เจ็บครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของผม ผมยอมแพ้แล้ว ยอมแพ้โชคชะตา ยอมแพ้สวรรค์
ผมมองไปไกล รถคันหนึ่งกำลังจะวิ่งมา แต่ยังอยู่ในระยะไกล ผมตัดสินใจแล้ว...ตัดสินใจที่จะจบเรื่องต่างๆลงแล้ว....จบชีวิตผมด้วย.....
รถคันนั้นแล่นเข้ามาแล้ว แล่นเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูง รถวิ่งตอนกลางคืนก็แบบนี้แหละแล่นด้วยความเร็วสูง รถใหญ่ซะด้วยดิ ชนทีเดียวมีหวังไม่เหลือซาก....ผมตัดสินใจแล้ว....ตายไปซะผมจะได้ลืมทุกอย่าง ไม่ต้องเจ็บไม่ต้องจำ ไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องทุกข์ แบบนี้...
รถคันนั้นแล่นเข้ามาใกล้แล้ว ผมก็พร้อมแล้ว ขอโทษด้วยนะครับคุณคนขับที่ผมเห็นแก่ตัวแบบนี้ แต่อย่างไรช่วยผมหน่อยนะ ช่วยคนให้ผมไม่ต้องทรมานไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป ผมขอบคุณจริงๆ....
รถแล่นเข้ามาแล้ว ผมก็พร้อมแล้ว.....พร้อมที่จะจบชีวิตลงไป...
แต่...แว่บความรู้สึกนั้น....แล้วคนข้างหลังผมล่ะ แม่ผมล่ะ ญาตพี่น้องผมล่ะ....ผมยังไม่ได้ทำอะไรให้เรียบร้อยเลย...ผมจะเห็นแก่ตัวทิ้งพวกนี้ไปเหรอ เห็นแก่ตัวที่จะหมดทุกข์คนเดียว....โดยทิ้งให้คนที่ผมรักต้องทุกข์ต่อไป.....แม่ผมจะอยู่อย่างไรล่ะ ......รถแล่นเข้ามาแล้วตอนนี้ผมจะรอให้ผมตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายแต่เวลาที่ให้ผมตัดสินใจแค่เสี้ยววินาที...ผมเลือกแล้ว.....
ผ่านไปแค่ชั่ววินาที รถคันนั้นวิ่งผ่านไปแล้ว ผมทรุดลง นี่ผมคิดบ้าๆ แบบนี้ได้ไงนี่ ทำไมผมคิดได้ถึงขนาดนี้...ผมพยายามรวบรวมแรงที้งหมดที่มีลุกขึ้นไปนั่งบนฟุตบาท...ผมร้องไห้ยังไม่หยุด ผมเสียใจครับ แม่ที่ผมคิดชั่วแบบนั้นต่อไปผมจะไม่คิดอีกแล้ว...ผมไม่อยากเห็นแก่ตัวแบบนั้น....
ผมพยายามรวบรวมจิตใจคิดทวบทวนเรื่องราวต่างๆ....ทำไมผมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมผมต้องเป็นเกย์ ทำไมผมต้องเจอแต่ความผิดหวังแบบนี้...ผมไม่โทษใครหรอก ไม่โทษใครที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ เพราะแต่ละคนเขาก็ทำให้ผมมีความสุข ทำให้ผมรู้จัก ความรัก และก็รู้จัก ความเสียใจไปพร้อมๆกัน....
.ถ้าย้อนเวลาได้ผมจะย้อนไปตรงไหนดี.....ย้อนไปแก้ไขเหตุการณ์ต่างๆ ให้มันดีขึ้น..ผมเป็นเกย์ช่วงไหนนี่ ช่วงหลังเลิกกับพิศ ตอนช่วงที่เจอไอ้เอ็กซ์.....ถ้าวันนั้นไอ้กายไม่ชวนผมไปเที่ยว ผมก็คงไม่ได้เจอไอ้เอ็กซ์ ไอ้เอ็กซ์มันก็คงไม่ปลุกวิญญาณเกย์ที่อยู่ใต้จิตใจผมให้ตื่นขึ้นมา จนมีความรักกับพี่พี พี่พัน ไอ้เกม และก็ไอ้ขวัญ.....
ผมไม่ได้โทษใครหรอก ไม่มีประโยชน์ที่จะโทษคนอื่น ที่ควรจะโทษ...ที่ควรจะผิดก็คือตัวผมเองมากกว่า....ถ้าผมไม่คิดเรื่องรักผมก็ไม่เจ็บ ไม่ต้องมาทุกข์มาเสียใจแบบนี้ แบบที่เขาว่าคงจะจริง ที่ไหนมีรักที่นั่นย่อมมีทุกข์......ถ้าผมไม่คิดจะรักใคร ผมก็ไม่ทุกข์แบบนี้.....
แล้วถ้าถามว่าผมเข็ดหรือเบื่อความรักแล้วเหรอยัง ผมบอกได้เลยว่าผมเข็ดแล้ว ผมไม่อยากจะเจ็บไม่อยากจะเสียใจแบบนี้ ผมขอปิดประตูทางเข้าชั่วคราว ขอให้ลืมเรื่องทุกอย่าง ขอให้จิตใจผมได้พักฟื้นให้มันเข้มแข็งมากว่านี้ก่อนล่ะกัน ถึงตอนนั้นถ้ามีใครสักคนที่รักผม และผมรักเขา ผมก็จะพร้อมที่จะขอลองเสี่ยงกับเจ้าความรักนั้นอีกครั้งหนึ่ง....แม้จะรู้ว่าผมอาจจะต้องเจอกับความเจ็บปวด ความทุกข์แบบนี้...ผมก็พร้อมที่จะลอง......
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=my-tear&date=26-11-2007&group=6&gblog=2คงจะมีรักจริงรออยู่ที่ดินแดนใดสักแห่ง
คงมีใครสักคนรออยู่ตรงนั้น
คงมีความหมายใดซ่อนอยู่ในการรอคอยที่แสนนาน
คงจะมีสักวันฉันคงได้เจอ
เจ็บมาแล้วตั้งกี่ครั้ง เมื่อความรักพังทลาย
จะมีใครที่เป็นคนสุดท้าย
เธอคนนั้นอยู่แห่งไหน จะไกลแสนไกลเท่าไหร่
ก็จะไปที่ดินแดนแห่งนั้น
จะขอเอาคำว่ารักทุกคำที่ฉันได้เคยเอ่ย
จะขอมันคืนจากใครที่เคยผ่านเข้ามา
จะขอรวมคำว่ารักเหล่านี้ ทวีความหมายและคุณค่า
จะขอเอามามอบไว้ให้เธอผู้เดียว
ข้ามขอบฟ้า แผ่นน้ำ หรือขุนเขาทะเลทราย
ไกลเท่าไหร่จะไปให้ถึง
คงจะมีรักจริงรออยู่ที่ดินแดนใดสักแห่ง
คงมีใครสักคนรออยู่ตรงนั้น
คงมีความหมายใดซ่อนอยู่ในการรอคอยที่แสนนาน
คงจะมีสักวันฉันคงได้เจอ
ข้ามขอบฟ้าหรือขุนเขา ข้ามแผ่นน้ำทะเลกว้างใหญ่
แต่ฉันจะไปหาเธอ
จะขอรวมคำว่ารักเหล่านี้ ทวีความหมายและคุณค่า
จะขอเอามามอบไว้ให้เธอผู้เดียว
คงจะมีรักจริงรออยู่ ที่ดินแดนใดสักแห่ง...
(THE END)
แหะๆ ขอบคุณมิตรรักนักอ่านของผมทุกท่านสำหรับการติดตาม....เสือไบ:the sereis ขอพักก่อนนะครับ ไงติดตามเรื่อง the boy story ต่อได้ในวันจันทร์นะครับ ส่วนเสือไบ:the series ยังมีต่อนะครับ เพราะเรื่องราวชีวิตปัจจุบันผมยังไม่ได้ลงเลย ผมกะจะเอาลงไว้ในหนังสือที่จะพิมพ์ออกขายด้วย แต่ไม่รู้จะได้ออกวางแผงเหรอเปล่า มันเป็นแค่โปรเจคลม และแค่ความต้องการของแฟนคลับของผมกลุ่มหนึ่งเท่านั้นแต่อย่างไรผมก็จะพยายามให้หนังสือเป็นรูปเป็นร่างให้ได้ สำหรับหนังสือถ้าได้ออกวางรายได้ที่ได้เราจะเอาไปทำบุญเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยกัน แต่ผมยังไม่รับปากนะครับว่ามันจะออกมาได้จริงหรอเปล่า....เรื่องเน่าๆ แบบนี้ทำเป็นหนังสือผมยังคิดไม่ออกเลยว่าจะมีใครสนใจอ่านหรือซื้อเหรอเปล่า....ฮ่าฮ่า...
สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกท่านที่หลงเข้ามาใน blog แห่งนี้ของผม....ทั้งทีหลงเข้ามาด้วยความตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ...ตลอดแปดเดือนที่ผ่านมานี้ผมขอบอบคุณทุกคน ทุกโหวต ทุกคอมเมนต์นะครับ อะไรต่างๆ เหล่านี้มันทำให้ผมรู้สึกดีใจที่ผมไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวในชีวิตผมจะมีคนติดตามได้เยอะถึงขนาดนี้
ขอบคุณจากใจจริงครับ ........mathewwww