เรื่องสั้นเฉพาะกิจ ไก่กุ๊กๆของรุกน่ารัก.... >////< [ไก่มินิ ตอนที่ ๑]
เด็กชายกฤดีกา มีบิดาประกอบอาชีพครู มีพี่ชายหนึ่งคนชื่อดุษฎี มีมารดาประกอบอาชีพเป็นแม่บ้านที่บางครั้งก็เอางานที่ทำงานมาทำที่บ้านด้วย
งานที่ว่ามีลักษณะเป็นสิ่งมีชีวิตสองหน่อ หน่อหนึ่งออกจะเรียบร้อยแต่ชอบเล่นหนักๆ ส่วนอีกหน่อที่มักจะคอยแกล้งเด็กชายกฤดีกา เป็นหน่อที่เรียกได้ว่าร้ายกาจที่สุด และเรื่องสุดเลวร้ายที่เด็กชายกฤดีกาพอจำได้คือตอนไปทะเลครั้งแรก..
ครั้งแรกที่มีพี่ชายและจอมเลวร้ายทั้งสองหน่อตามไปอย่างไม่น่าให้อภัย มันเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของการรวมตัวกันระหว่างวายร้ายที่เปรียบประดั่งแฝดสามมรณะ หนทางเบื้องหน้าสำหรับเด็กชายกฤดีกา ท้องฟ้าไม่ได้สดใสอย่างที่มันควรจะเป็น
.
.
.
“ตรินทร์ชอบลูกหมา..”
ประโยคนี้ไอ้หน่อแรกมันเริ่มก่อน และหลังจากที่ลงจากรถสัมผัสดินทรายไอ้หน่อที่สองมันก็ร้องอยากได้ลูกหมา..และหมาก็คือหายนะ..เมื่อไอ้ปีศาจร้ายหน่อไม้อ่อนหน่อที่หนึ่งมันเหมือนจะทำทุกทางให้ได้ลูกหมามาให้ไอ้หน่อสอง
“ไปหาลูกหมากัน”
พี่ฟอร์ดพี่ชายแท้ๆ เป็นคนเริ่มเล่นเกมจับหมา และหลังจากนั้นทุกอย่างสำหรับกฤดีกา มันก็คือหายนะอย่างแท้จริง
“ในทะเลมีหมาทะเล”
คำบอกเล่าออกมาจากปากไอ้หน่อสอง ครั้งแรกกฤดีกาพยายามมองจ้องเข้าไปในดวงตาใสๆ ของเด็กที่สูงวัยกว่า แต่เด็กชายกฤดีกาก็ไม่ได้อะไรกลับมานอกจากแววตามุ่งมั่น ไอ้พี่ตรินทร์มันเป็นโรคจิตอ่อนๆ ถ้าไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ คืนนี้มันคงนอนไม่หลับ แก็งค์เด็กประถมที่รวมตัวกับเด็กอนุบาลอย่างกฤดีกา ก็กลายเป็น ‘ขบวนการค้นหาหมาทะเล’
ในตอนแรกเด็กชายกฤดีกา ได้ยินเสียงคุณแม่ตะโกนเตือนมาว่า ‘อย่าไปเล่นไกลๆ นะเด็กๆ ’ แต่มันคงไม่ทัน เพราะเมื่อรู้ตัวขึ้นมาอีกทีนั้น เด็กชายกฤดีกาก็เคว้งคว้าง...ก็เพราะอย่างนี้ล่ะ เด็กชายกฤดีกาถึงจะอยากแค่จะเล่นเกมพ่อแม่ลูก เกือบทุกครั้งเลยที่พอเวลาหลวมตัวตามเกาะไอ้หายนะสามหน่อ รู้สึกตัวอีกทีกฤดีกาก็กลายเป็นไอ้เบ้ไร้สมองที่มักจะโดนทิ้งเสมอๆ และครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ไม่มีไอ้สองหน่อ ไม่มีไอ้พี่ชาย ไม่มีใครทั้งนั้นนอกจากนกยูงตัวใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า นกยูงสีสวยที่กรีดแพนหาง ตัวใหญ่ ใหญ่มากๆ จนเด็กชายกฤดีกาวัย 7 ขวบถึงกับผวาตอนมันหันมาใกล้
“กรู๊ววววววววววววววววววววววววววว!!”
เสียงไอ้นกยูงนั้นมันวิ่งพุ่งเข้ามา เด็กชายกฤดีกา ถึงกับทำอะไรไม่ถูกนอกจากนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น และในช่วงเวลาสำคัญอัศวินก็เข้ามา
.
.
.
เป็นนางฟ้าน้อยๆ ในชุดแตงโมสีเขียวแดง เป็นนางฟ้าน้อยๆ ที่วิ่งเข้ามาขวางระหว่างเจ้านกยูงตัวโตกับเด็กชายกฤดีกา..เป็นนางฟ้าและเป็น ‘รักครั้งแรก’ ของตัวโต..
.
.
.
ในวัย 7 ขวบ เด็กชายกฤดีกา จำได้แค่นั้น แล้วคืนวันต่างๆ มันก็ผ่านไป ..ทุกอย่างเลือนหายไประหว่างระยะห่างของคืนและวัน ไกลห่างออกไป ห่างออกไป ..
.
.
.
.
..จนสิ่งสุดท้ายที่นายกฤดีกา จำได้คือ.. จูบแรกที่เสียให้นางฟ้า..
.
.
.
.
“อืมส์..อื้อออ....เล็ก..พอก่อน ..พอก่อน...หายใจจะไม่ทันแล้ว มาเที่ยวทะเลนะ ไม่ได้มาเปลี่ยนบรรยากาศ”
จูบที่ปล้นลมหายใจและรุกไล่จนน้ำลายผสมกัน มันต่างกับจูบบางๆ แบบที่เสียให้นางฟ้าตั้งเยอะ ซ้ำไอ้อาการเหมือนลักกินขโมยกินที่ตัวเล็กจุ๊ปากไม่ให้โตส่งเสียงดัง มันยังไม่ใช่ฟิวล์ลิ่ง หรือสิ่งที่โตอยากมี คราวนี้โตเลยโวยขึ้นมาบ้างเพราะเห็นว่านายตัวเล็กชักจะรุ่มร่ามขึ้นทุกที อยู่ต่อหน้าคนอื่นนี้เหมือนผ้าพับไว้ แต่พอมาอยู่กันใกล้ๆ ตามลำพังสองต่อสอง ไอ้เล็กไม่เล็กมันก็มักจะหาทางแปลงร่างเป็นปีศาจปลาหมึกได้ตลอดเวลา และครั้งนี้ขนาดมากับทางค่ายมวยมันยังไม่ละเว้น ถอนหายใจทิ้งแล้วดันหน้าเล็กออกห่าง โตในตอนนี้แทบอยากจะเอาหน้าซุกกำแพง เมื่อที่นั่งๆ นอนๆ อยู่นี้เป็นห้องพักรวมกับทางค่ายนะ ไม่ใช่บรรยากาศของโรงแรมฮันนี่มูนสวีตหวาน
“ไปวอคกิ้งสตรีท ไหม? เห็นพี่พริกแกอยากไป พวกในค่ายก็เหมือนกัน ”
โตเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นหนึ่งในเพื่อนร่วมห้อง ก้าวออกมาจากห้องน้ำ
“...อยากไปมากหรอ?”
น้ำเสียงถามเหมือนไม่คิดอะไร แต่แววตาตัวเล็กที่มองมา มันตัดพ้ออย่างไม่ต้องปิดบัง
“อืมส์ อยากไป”
โตตอบกลับแววตานั้นด้วยรอยยิ้มกว้าง กว้างเสียจนออกนอกหน้านอกตา เล็กเลยได้แค่พยักหน้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้คนอยากเที่ยวอย่างโต รื้อกระเป๋าเตรียมชุดออกท่องราตรี
***
เสียงแสงสี ที่ระลานตา รวมๆ แล้วมันก็ไม่น่าจะต่างกับถนนข้าวสาร หากแต่การโชว์ที่เข้าขั้นกับความกล้าที่แตกต่างในฐานะเมืองท่องเที่ยวมันกลับหลากหลายและถึงใจกว่า .. แล้วทั้งคณะก็สะดุดกับมุมกระจกที่มีนางโชว์ใจกล้ามาเต้นให้ดูฟรีๆ
“อันนี้ให้นักท่องเที่ยวเต้นโชว์”
พี่พริกแกอธิบาย ก่อนจะลากพวกๆ ในค่ายเข้าร้านเหล้าเจ้าประจำที่แกเคยมาเสียน้ำเสียทรัพย์บ่อยๆ ในตอนที่ยังเป็นเกย์สาว ก่อนจะเปลี่ยนแปลงเป็นแมนห้าวเพราะเจอหวานใจในค่ายมวย
นั่งกินนั่งดื่มสนุกสนานกันไปเรื่อย จนเล็กที่นั่งเซ็งๆ ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
.
.
.
..แล้วก็หายตัวไปจนกระทั่งถึงเช้าอีกวัน..