Pretty Boy II
Special Part 2
น้องดื้อรั้น ครั้นพี่ต้องสั่งสอน
[Rich talks]
ผมพาเค้กมาที่สนามแข่งรถที่ผมเคยมาประจำ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มา คิดถึงชะมัด เค้กดูจะตื่นตาตื่นใจไม่น้อยที่ได้เห็นอะไรแบบนี้
“พี่ริช ยังกับในหนังเลย ตอนนี้เรากำลังถ่ายหนังอยู่หรือเปล่าเนี่ย” เค้กตื่นเต้นเอามากๆ ผมลูบหัวเค้กก่อนจะกอดไหล่พาเดินเข้าไปข้างใน หลายคนหันมามอง บางคนก็รู้จักบางคนก็ไม่รู้จัก แต่ส่วนมากจะคุ้นหน้ากันทั้งนั้น คนใหม่ๆไม่ค่อยมีเข้ามาเท่าไหร่ เพราะนี่มันสนามเถื่อน คนรู้มากก็ไม่ดี เดี๋ยวตำรวจจะตามรอยเจอ
“ไงวะ ไม่เจอนานเลย ไปทำอะไรมาวะ” เพื่อนในสนามแข่งรถคนหนึ่งเดินมาทักผม มันชื่อพล
“พอดียุ่งๆวะ” ผมตอบสั้นๆ มันพยักหน้าเข้าใจไม่ถามต่อ แต่ก้มมองเค้กอย่างสนใจ ผมรีบกระชับโอบเค้กแน่นขึ้น เอาแฟนชาวบ้านเขามาเที่ยวเล่น เกิดเป็นอะไรไปผมคงโดนโทษตายสถานเดียว
“อย่ายุ่งกับน้องกู” ผมกดเสียงพูดกับไอ้พลอย่างจริงจัง
“มีหวงๆ น้องมึงน่ารักอ่ะ กูชอบ” ไอ้พลทำหน้ายิ้มระรื่น เค้กยิ้มแหยะให้มันแต่ตัวก็เบียดเข้าหาผม
“ไปๆเลยมึง ทำน้องกูกลัว” ผมไล่มัน ไอ้พลยักคิ้วหลิ่วตาใส่เค้กพอเป็นพิธีก่อนจะเดินไปหากลุ่มเพื่อนมัน
“ดีจังเลยนะครับที่มีเพื่อน เค้กไม่มีเพื่อนเลย” เค้กยิ้มแต่น้ำเสียงฟังดูเศร้า
“เดี๋ยวเค้กก็มีครับ เดี๋ยวเข้ามหาวิทยาลัย ขี้คร้านจะมีเพื่อนเป็นกระบุง” หน้าตาน่ารักแบบเค้ก ใครๆก็อยากรู้จักอยากพูดคุยด้วยทั้งนั้น ยิ่งเป็นเด็กร่าเริงยิ้มง่าย เข้ากับคนง่ายแบบนี้ด้วยแล้ว เชื่อเถอะว่าถ้าเข้ามหาลัยแล้วหัวกระไดบ้านไม่แห้งแน่นอน งานนี้พี่ทราฟคงต้องเตรียมรับมือหนักแล้วล่ะผมว่า เพราะตั้งแต่เข้ามาในสนามแข่ง ทุกคนก็ให้ความสนใจต่อเค้กมากๆ สังเกตุได้จากสายตานับสิบที่มองเค้กด้วยความสนใจ
“ไอ้ริช!”
“ไอ้เตอร์!”
“มึงมาได้ไงวะเนี่ย” ไอ้ทำหน้าตกใจเหลอหลา ก็นะ มันชวนผมมาหลายครั้งแต่ผมออกมาไม่ได้ จนมันเริ่มจะปลงแล้วว่าผมคงมาที่นี่อีกไม่ได้แน่ เพราะพี่ครามคงไม่อนุญาตให้มา แต่วันนี้มันไม่ธรรมดาไง หึหึ
“กูหนีมา” ผมพูด
“จริงดิ”
“เออ” ผมยักคิ้วใส่มัน ไอ้เตอร์ส่ายหน้าแบบเหลือเชื่อ มันมองเค้ก่อนจะรับไหว้ ผมฮาเลย
“ไม่ต้องไหว้พี่หรอก พี่ยังไม่แก่เท่าไหร่”ไอ้เตอร์พูดเขินๆ ไม่ค่อยมีรุ่นน้องไหว้มันหรอก เพราะมันชอบทำตัวไม่น่าเคารพ เลยไม่มีน้องอยากเคารพมัน
“กูอยากลงวะ” ผมบอก เห็นสนามแล้วคันมือคันเท้าอยากจะซิ่ง
“เอาดิ ไปลงชื่อเลยมึง” ไอ้เตอร์ชี้ไปที่เต้นซ์ด้านหลัง
“เออ กูฝากเค้กด้วย อย่าให้ใครมายุ่งกับน้องกูเป็นอันขาด”
“เออ อยู่กับกูไม่ต้องห่วง”
เมื่อวางใจว่าเค้กจะปลอดภัยผมก็เดินมาลงชื่อ เห็นชื่อคนแข่งด้วยแล้ว บอกได้คำเดียวเลยว่างานนี้ชนะชัวร์ๆ
“ถ้าชนะได้อะไร” ผมถามคนคุมสนาม
“รถของคนแพ้” ไอ้หน้าเหี้ยมบอก อื้อหือ แสดงว่าไอ้เด็กนั่นมั่นใจในฝีมือตัวเองไม่เบา ถึงกล้าอารถตัวเองมาถ้าเพราะคิดว่าคงไม่แพ้ ผมกวาดตามองไปรอบสนามแล้วก็เห็นคนที่ต้องแข็งกับของรางวัลที่ผมคิดว่าจะได้
ออดี้งั้นเหรอ หึหึ น่าสนแฮะ
“ผมเดินกลับมาหาเค้กที่ยืนดูดน้ำส้มอยู่ ไปเอามาจากไหนวะ เหมือนไอ้เจอจะรู้ว่าผมสงสัย มันเลยบอก
“พอดีเพื่อนกูมันซื้อมา เลยเอามาให้น้องมัน”
“อืม เค้กครับ อยากได้ของขวัญที่สอบติดไหม” ผมถามเค้กยิ้มๆ คิดแล้วยิ่งรู้สึกตื่นตัว เลือดในกายฉีดพล่านไปหมด เหมือนอะดรีนาลีนในกายพลุ่งพล่าน
“พี่ริชจะให้เค้กเหรอ อะไรอ่ะ” เค้กทำหน้าดีใจแบบไม่ต้องปิดบัง น้องเป็นคนที่เปิดเผยความรู้สึกอยู่แล้ว ดีใจก็ยิ้มซะหน้าบาน เสียใจก็หน้าเศร้าซะ ยิ่งถ้างอนนะ หน้านี่งอได้อีก เห็นปุบต้องรีบง้อปับ ไม่เว้นแม้แต่พี่ครามที่ต้องยอมให้เค้ก คนนี้เขาใหญ่ในบ้านจริงๆครับ บอกเลย ฮ่าๆๆ
“นู่น” ผมชี้นิ้วไปที่รถออดี้สีดำ เค้กตาโตผมหน้าผมแบบตกใจ
“พะ พี่ริชจะ...” เค้กอึ้งรับประทานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“หึหึ ถ้าอยากได้ พี่จัดให้”
[Traf talks]
เดี๋ยวเถอะ ดื้อจริงๆ อย่าให้ผมเจอตัวนะ จะฟัดให้ออกไปหนีเที่ยวไม่ได้เลยคอยดู! ออกไปดูงานเรื่องอะไหร่รถยนต์กับไอ้ครามแปบเดีว กลับมาบ้านเงียบเฉียบไม่มีคนอยู่ รู้ได้ทันทีเลยว่ามีเด็กหนีเที่ยว โทรให้รีบกลับก็ไม่ยอมงอแงๆ แล้วก็ตัดสายผมทิ้งไม่ยอมรับโทรศัพท์ ผมถือว่าผมเตือนแล้วนะ แต่ยังไม่ฟังก็ต้องมีลงโทษกันบ้าง
“ไงมึง ติดต่อริชได้ไหม” ผมถามไอ้คราม
“มึงยังติดต่อเค้กไม่ได้ แล้วคิดไหมว่าไอ้เด็กดื้อนั่นมันจะฟังกู” ไอ้ครามดูหัวเสียไม่น้อย มันก็ห่วงริชไม่ต่างจากที่ผมห่วงเค้ก ผมน่ะห่วงว่าจะมีใครมายุ่งกับสุดที่รักของผมหรือเปล่า แต่ไอ่คราม ศัตรูมันมีรอบด้าน ไม่รู้ว่ามีใครระแคะระคายรู้เรื่องที่แฟนมันคือริชหรือเปล่า เพราะถ้ามีคนรู้ ก็ต้องมีพวกที่อยากท้าทายอำนาจ เพราะอย่างนั้นมันเลยกลัวริชเป็นอันตราย
“ฮัลโหล อืม ที่ไหนนะ อืม โอเค ตามไปอย่าให้คลาดสายตา” ไอ้ครามคุยกับลูกน้อง เหมือนว่ามันจะได้เรื่องได้ราวแล้ว
“ว่าไงมึง” ผมถาม อดใจรอไม่ไหวที่จะได้ไม่ตามตัวเด็กดื้อกลับมาลงโทษ
“ล่าสุดอยู่ที่พารากอน รูดบัตรกูเสียกระชูด ตอนนี้อยู่ที่ถนน...” ไอ้ครามบอก มันเดินไปหยิบกุญแจรถแล้วเดินออกจากบ้าน ผมเดินตาม มือก็กดโทรศัพท์หาเค้กอีกรอบ แต่ปิดเครื่อง เอาเถอะ เดี๋ยวเราก็เจอกันแล้วนะครับเด็กดื้อ
ผมตกใจไม่น้อยที่ไอ้ครามขับรถมานี่สนามแข่งรถเถื่อน คนเยอะแยะเต็มไปหมด แถมยังมือ ไฟก็มีเปิดไม่กี่ดวง แล้วผมจะหาเค้กเจอได้ยังไง ยิ่งตัวเล็กอยู่
ตอนนี้ในสนามเหมือนจะมีคนแข่งรถกันอยู่ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็กสำคัญที่ผมมาที่นี่ ไอ้ครามยืนมองไปทั่วบริเวณเช่นเดียวกับผม
“แยกกันหาก็แล้วกันมึง เอากุญแจรถกูไป มึงเจอเค้กแล้วก็พากลับบ้านไปเลย เดี๋ยวกูกลับคอนโด ริชมันเอารถมาอยู่แล้ว” ไอ้ครามบอก ตอนนี้มันนิ่งมาก แต่เขาว่ากันว่าท้องฟ้ามันจะสงบก่อนที่พายุใหญ่จะมา
“เออ โชคดีมึง” หรือบางทีผมควรต้องบอกริชดี เพราะดูท่าไม่รอดแน่ๆ
ผมเดินหาเค้กไปทั่วแต่ก็ไม่เจอ เพราะมีแสงไฟน้อยทำให้การมองหาเค้กเป็นไปอย่างยากลำบาก เสียงเฮลั่นของคนที่เชียร์อยู่ข้างขอบสนามแข่งดังลั่น ผมพยามยามมองหาเค้ก ไปอยู่ไหนของเขานะ ถ้าเจอจะจับตีก้นสักทีสองที โทษฐานที่ทำให้เป็นห่วง
ไม่รู้ว่าด้วยความน่ารักของเค้ก หรือความขาวที่กระแทกตาผมเข้าอย่างจัง
บิ๊งโก!
ผมเดินเข้าไปหาเค้ก แต่เด็กน้อยของเรายังไม่รู้ตัว ยืนเขย่งมองผ่านรั้วกันชะเง้อคอมองการแข่งขันด้วยความตื่นเต้น ผมยืนอยู่ข้างๆ เหมือนคนที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังเค้กจะรู้ตัว มันคือไอ้เตอร์เพื่อนริช ดูมันจะตกใจไม่น้อยที่เห็นผม ผมยกนิ้วชี้จุ๊ปากเอาไว้ไม่ให้มันส่งเสียง รอจนกระทั่งเค้กหันมา
“พะ พะ พี่...ทราฟ!” เค้กตกใจสะดุ้งโหยงที่เห็นหน้าผม ผมตีหน้านิ่งยืนกอดอก เค้กดูลนลานขยับเข้ามาหาผม สองมือเล็กๆจับที่แขนผมก่อนจะยิ้มประจบแห้งๆ
“มาได้ไงอ่ะ” เค้กถามเสียงอ่อย เงยหน้ามองผมแบบอ้อนๆ
“...” แต่ผมเลือกที่จะเงียบ เค้กหน้าหงอยลง ก้มหน้าแล้วก็เบียดตัวเข้าหาผม ผมมองไอ้เตอร์ที่ขยับปากว่าขอตัวก่อน ผมพยักหน้าให้มันแล้วมันก็เดินหายไป
“จะกลับบ้านไหม” ผมปั้นเสียงให้ดูแข็งๆ เค้กเงยหน้ามองหน้าผมทันที ดูเค้กจะกลัวผมไม่น้อยเพราะปกติผมไม่ค่อยดุเขาเท่าไหร่ เห็นท่ากัดริมฝีปากช้อนตามองแบบเด็กที่กลัวความผิดแล้วอยากจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงให้สมกับความน่ารักสักหลายๆที แต่ไม่ได้ ต้องอดใจไว้ก่อน เดี๋ยวละครฉากนี้จะไม่สมบูรณ์
“แตพี่ริช...” เค้กพูดเสียงเบาทำหน้าเป็นกังวล
“ไอ้ครามมาด้วย” ผมบอก เค้กเบ้หน้าหนีทันที
“ว่าไง จะกลับไหม” ผมพูดนิ่งๆ ไปหน้าก็นิ่งตาม เค้กพยักหน้าเบาๆ ผมหมุนตัวเดินออกมาจากจุดนั้นโดยไม่ได้จับมือเค้กอย่าที่เคย เวลาไปไหนมาไหนกับเค้กข้างนอก ผมจะจับมือเค้กไว้ตลอด ให้อุ่นใจว่าน้องปลอดภัย แต่ครั้งนี้ผมไม่ทำ และเค้กเหมือนจะรู้ น้องคว้ามือผมไปจับไว้ ผมก้มมองมือแล้วมองเค้ก เค้กยิ้มแป่นใส่ผม แต่พอเห็นว่าผมทำหน้านิ่งไม่ยิ้มตอบ เค้กก็หน้าเสียเหมือนจะร้องไห้
เห็นแล้วอยากจะดึงมากอดปลอบ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะงั้นผมต้องอดทน
“มาถึงรถผมก็เดินไปฝั่งคนขับ เปิดประตูออกแล้วขึ้นนั่ง เค้กยืนอยู่ข้างนอกรถ ก่อนจะเปิดขึ้นมานั่งข้างๆผมเอง แล้วผมก็ขับรถออก ตรงนี้เป็นจุดชานเมือง สองข้างทางจะเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ไม่เป็นป่าก็ทุ่งหญ้ารกร้าง ถ้าผมหาเค้กไม่เจอ ถ้ามีใครจับตัวเค้กไปทำร้ายในที่ๆปลอดคนแบบนี้ น้องจะคิดบ้างไหมว่ามันอันตรายแค่ไหน ใครจะมาช่วยเขาได้ ร้องไห้ตายก็คงไม่มีใครได้ยิน
ความคิดด้านลบทำให้ผมเกิดอาการเครียด มือกำพวงมาลัยแน่น แล้วสักพักก็ได้ยินเสียงสะอื้นของเด็กที่นั่งข้างๆ
“ฮึก..” ฟังดูแล้วเหมือนเขาจะกลั้นเสียงสะอื้น แต่ก็ยังเล็ดลอดออกมาให้ผมได้ยิน ผมแกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจ ทั้งๆที่ในใจนี่อยากจะโอ๋ใจแทบขาด พอเห็นเด็กน้อยร้องไห้แบบนี้แล้วผมหมดอารมณ์โกรธไปทันที
พอมาถึงบ้านผมก้ลงจากรถโดยไม่ได้พูดอะไร เดินนำเข้ามาในบ้าน เข้าไปหาน้ำกินในครัว ออกมาเห็นเค้นยืนก้มหน้าอยู่กลางบ้าน ผมหยุดยืนมองก่อนจะเดินขึ้นบ้านแทบไม่ทันเพราะดับกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ เค้กเดินตามผมเข้ามาในห้อง
“ไปอาบน้ำไป” ผมสั่ง เค้กทำท่าอึกอักเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด เดินกัดริมฝีปากคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำ พอลับหลังเค้กผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ปั้นหน้าโคตรจะเหนื่อย สูญเสียพลังงานยิ่งกว่าซ้อมไอ้พวกเด็กในโรงฝึกเสียอีก
ผมแย้มยิ้มอยู่คนเดียว เห็นหน้าหงอยๆของเค้กแล้วอยากจะจับจูบให้หายคิดถึง ผมเวอร์ไหม แค่ไม่เจอหน้ากันวันครึ่งวันแต่ผมกลับรู้สึกคิดถึงเค้ก พอรู้ว่าเจ้าเด็กดื้อหนีเที่ยวนี่ผมเดือดเลยครับ
“เค้กอาบเสร็จแล้ว”
ผมลืมตาและลุกขึ้นนั่งบนเตียง เค้กในชุดนอนลายโดเรมอนที่เป็นเสื้อยืดพอดีตัวและกางเกงขาสั้น(มากๆ) ชุดนอนสีฟ้าสดใสตัดกับผิวขาวๆ ยิ่งทำให้เค้กดูเด็กกว่าอายุจริง ชุดนี้ผมซื้อให้เอาแหละ เค้กใส่แล้วน่ารักดี
แต่ถึงจะน่ารักน่าฟัดขนาดไหน ผมก็ต้องตัดใจเดินเข้าห้องน้ำโดยที่ตีหน้าเรียบ พอเข้ามาในห้องน้ำแล้วผมก็ยิ้มกับตัวเองราวกับคนบ้า อาบน้ำไปยิ้มไปไม่หยุด พออาบน้ำเสร็จผมก็เดินออกจากห้องน้ำ เห็นเค้กนั่งพับเพียบเรียบร้อนอยู่บนเตียง ผมทำเป็นไม่เห็นไม่มองไม่ใส่ใจ แต่งตัวอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าเงียบๆจนเสร็จ
“นอนได้แล้วครับ ดึกแล้ว” ผมพูดเหมือน เค้กขยับตัวไปนอน ผมห่มผ้าให้ ถึงยังไงก็ทั้งรักทั้งห่วงมากจนไม่อาจปล่อยปะละเลยได้ ผมห่มผ้าให้จนถึงคอ ก้มลงไปจูบที่หน้าผากเค้กเบาๆ แล้วก็เดินไปปิดไฟที่หน้าประตูก่อนจะเปิดประตูห้อง
“พี่ทราฟจะไปไหน!” เค้กผุดลุกขึ้นนั่งหน้าตาตื่น
“พี่จะลงไปนอนข้างล่าง” ผมบอกแล้วก็ปิดประตู ผมว่าเค้กคงคิดได้ว่ามันหมายถึงอะไร
“ทำไมอ่ะ” เค้กถามเสียงสั่น ร้องไห้แล้วแน่ๆ
“เปล่า” ผมตอบแล้วก็ปิดประตูห้องลง
ผมเคยสัญญาไว้แล้วว่า ถ้าทะเลาะกันผมจะเป็นคนไม่นอนที่อื่นเอง และให้เค้กได้นอนเตียงสบายๆ ถึงคราวนี้ไม่ได้ทะเลาะ แต่ผมก็อยากให้เขารู้อะไรบ้างอย่างจากเรื่องนี้
ผมทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น หลับตาลง ผมยังไม่ง่วงเลยนอนคิดอะไรเพลินๆ แล้วอยู่ๆก็...
อุก!
นอนหลับตาอยู่ดีๆก็มีอะไรหนักมาทับที่ตัว ไอ้เราก็คิดว่าผีอำซะแล้วถ้าหากไม่ได้ยินเสียงสะอื้นร้องไห้โยเยของเด็กน้อย
“ฮึก พี่ทราฟจ๋า ฮึกฮืออ เค้กขอโทษ เค้กจะไม่ดื้อแล้วนะ อย่าโกรธเค้กเลยนะ”
“...” ผมเงียบ ได้แต่ยิ้มในความมืด เสร็จพี่แล้วหนูเอ้ย และแล้วปลาก็กินเบ็ด
“ฮือออ พี่ทราฟอย่าโกรธเค้กนะ เค้กไม่ได้ตั้งใจ ฮึก”
อื้อหืออ นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะ ทั้งดื้อทั้งเถียง ตัดสายไม่รับโทรศัพท์พร้อมทั้งปิดเครื่อง แสบจริงๆเมียใครวะเนี่ย
“พี่ทราฟจ๋า”
“ลงมาทำไมครับ” ผมถามเสียงนิ่ง กลั้นขำแทบตาย แต่ไม่ได้ เดี๋ยวความแตก
“เค้กจะนอนกับพี่ทราฟ ฮึก ไม่นอนคนเดียว”
“รู้ใช่ไหมครับว่าทำผิด”
“รู้ ฮึก” เค้กพยักหน้าหงึกหงักกับอกผม
“แล้วรู้ไหมว่าเด็กดื้อต้องถูกทำโทษ” ผมยกมือลูบหลังเค้กเบาๆ แต่ยิ่งลูบเค้กยิ่งห้องไห้หนัก
“ฮึก พี่ทราฟจ๋า ไม่ทำโทษได้ไหม” เค้กยกหน้าตัวเองขึ้นจากอกผม กัดปากตัวเองไม่ให้สั่น แม้จะมือแต่ผมก็มองเห็นแววตาที่เว้าวอนออดอ้อนของเค้กได้ชัดเจน หนูเอ้ย แค่นี้พี่ก็หลงจะตายอยู่แล้ว อย่าทำให้หลงไปมากกว่านี้เลย แบบนี้ถ้าขาดน้องไปผมได้ลงแดงตายสักวันแน่ๆ
“ไม่ได้ ทำผิดก็ต้องถูกทำโทษ ไม่มีข้อโต้แย้ง”
“ฮึก กะ ก็ได้ พี่ทราฟจะตีเค้กเหรอ อย่าตีแรงนะ ฮึก”
“หึหึ กี่ขวบแล้วครับเด็กน้อย พี่ไม่ตีหรอก”
“จริงเหรอ”
“อืม เพราะพี่มีวิธีลงโทษที่ดีกว่านั้น จำได้ไหมครับว่าพี่ส่งข้อความไปเตือนไว้ว่ายังไง”
“...!!!”
“เอาล่ะ ได้เวลาลงโทษเด็กดื้อแล้ว”
ผมลุกขึ้นจากเตียงอุ้มเค้กขึ้นห้องอย่างรวดเร็ว เค้กคว้าคอผมเอาไว้แน่นกันตก ใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตาเบิกกว้าง ก่อนจะขึ้นสีแดง น้องซุกหน้าลงกับอกผมแล้วก็ครางอื้อในลำคอเหมือนเด็กถูกขัดใจ
ผมวางเค้กลงบนเตียง เปิดไฟหัวเตียง มือก็ลูบแก้มเค้กเบาๆก่อนจะแทนที่ด้วยริมฝีปากตัวเอง ผมกดจูบที่ข้างแก้มใสคลอเคลียไม่ห่าง เค้กตัวสั่นน้อยๆ ไม่มีเสียงสะอื้น มีแต่เสียงหายใจเข้าออกแรงๆเหมือนคนตื่นเต้น ผมเลื่อนริมฝีปากประทับลงบนกลีบปากสีชมพูดอ่อน
ผมจูบไล่ตั้งแต่ริมฝีปาก หู คอ ลงมาจนถึงหน้าอกก่อนจะเล่นกับจุดเล็กๆที่แสนน่ารักของเค้ก สองจุดที่แค่จับก็แข็งขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เค้กครางเสียงหวานเมื่อผมจูบที่หน้าอกเขาแผ่วเบาสลับหนัก ผมเลียหน้าอกสีสวยก่อนจะเริ่มดูดและกัดเบาๆจนเสียงครางดังลอดออกมาจากริมฝีปากบางสีชมพูที่ตอนนี้ช้ำจนกลายเป็นสีแดงเรื่อ มือก็ปลดเปลื้องชุดนอนของเค้กออกจากตัวจนเหลือแต่ร่างเปลือยเปล่า ผมยกตัวขึ้นมองอย่างหลงไหล ก่อนจะถอดเสื้อผ้าตัวเองออก น้องชายผมตั้งตรงเพียงแค่ได้เห็นเรืองร่างที่น่าหลงไหลของเค้ก น้องมองอย่างเอียงอาย
น่ารัก~
ผมจูบคลอเคลียเค้กไม่ห่าง ทั้งปากและมือทำหน้าที่ทรมานคนตัวเล็กได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จนบางทีเป้นผมเองที่แทบทนไม่ไหว
“อื้อ พี่ทราฟ อย่าแกล้ง” เค้กร้องครางขัดใจที่ผมปลุกปั่นอารมณ์เข้าหนักขึ้นๆแต่ไม่ยอมทำอะไรเขาสักที
“อย่ารีบสิครับ” ผมกระซิบบอก เค้กมองค้อนผมเหมือนไม่พอใจ แบบนี้ต้องเอาให้ครางไม่หยุด ผมขยับร่างตัวเองให้เสียดสีกับร่างของเค้ก มือก็ทั้งลูบและบีบเค้กกระตุ้นอารมณ์เค้กไม่หยุด
“พี่ทราฟ อืออ อย่า อ๊ะ!” พูดไปก็ครางไป น่ารักมาก ผมเลยเลื่อนตัวขึ้นไปจูบชิมความหวานจากปากเล็กอีกครั้ง และสุดท้ายผมเองที่ทนต่อความน่ารักน่าชังของเค้กไม่ไหว
“เค้กครับ พี่ไม่ไหวแล้ว” ผมกระซิบเสียงแหบปร่า แล้วเอื้อมมือไปลูบเล่นตรงน้องชายของเขาที่กำลังตื่นตัว
“อือ…” เค้กครางรับแล้วแหงนคอมาจูบปลายคางผมเบาๆ นัยน์ตาที่มองผมก็หวานเชื่อม โอยย ใครสั่งใครสอนให้ทำตัวน่ารักขนาดนี้วะเนี่ย!
ไม่รอช้าผมเอื้อมมืออีกข้างไปเปิดลิ้นชักโต๊ะหัวเตียงหยิบเจลหล่อลื่นมาเทใส่มือ ในขณะที่ปากก็กดจูบเค้กไม่หยุด บีบเจลลงที่มือตัวเองและทาที่น้องชายของผม จากนั้นก็สอดนิ้วเข้าไป ตัวเค้กระตุกครางเสียงเบาหวิว ความน่ารักของคนตรงหน้าทำให้ผมอดใจไม่ไหวต้องเพิ่มจำนวนนิ้วอย่างรวดเร็วเพื่อให้เขาพร้อมสำหรับบทลงโทษอันแสนหวานที่ผมจะมอบให้ ผมขยับนิ้วเข้าออกจนช่องทางรักพร้อมสำหรับตัวตนของผม
“พี่จะใส่เข้าไปแล้วนะครับ” ผมบอก เค้กทำหน้าแดงใส่ ผมยิ้มอย่างพอใจ จูบเบาๆที่ริมฝีปากเค้กพร้อมกับนำตัวเองแทรกเข้าไปในร่างบาง ผมขยับตัวเล็กน้อย เค้กส่ายหน้าไปมากับหมอน เสียงหวานครางเครือไม่หยุด
ผมรักเค้กอย่างเต็มที่ มอบให้ทั้งความเร่าร้อนและรุนแรง แต่ผมมีลิมิตที่จะไม่ทำให้น้องต้องเจ็บตัว ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ผมรักเจ้าเด็กน้อย แต่สำหรับผมแล้ว กับเค้ก...ไม่ว่าต่อให้ ‘รัก’ มากแค่ไหนก็ไม่เคยพอ และคิดว่าไม่มีวันพอด้วย
“พี่ทราฟ พอ...” เค้กครางห้ามผมที่กำลังจะเริ่มบทลงโทษที่เท่าไหร่ไม่รู้ของคืน แต่น้องจะรู้บ้างไหมว่าเสียงที่เปร่งออกมามันเร้าใจเป็นบ้า ยากแล้วล่ะครับที่ผมจะหยุดตัวเอง
“เด็กดื้อมีสิทธิ์ต่อรองหรือครับ ไม่มีนะคนเก่ง”
“อ๊ะ...อื้อออ”
เด็กดื้อต้องถูกลงโทษให้สาสมครับ
...............................
# เดี๋ยวดึกๆจะมาต่อในส่วนของพี่ครามและน้องริชให้ ตอนนี้ต้องออกไปข้างนอก ><