มือเฮียปั้นกระชากข้อมือผม อีกมือเอื้อมปรับเบาะ ก่อนทำท่าจะเอี้ยวตัวข้ามมา... เฮ้ย!! นี่มันกลางไฟแดงตอนหกโมงนะเว้ย ถึงรถจะติดก็จริง แต่กูว่าคงติดไม่นานพอหรอก อ๊ากกกกก
“เฮ้ย!! มันในรถนะเฮีย”ผมบอกหน้าเสีย ถึงฟิมล์ดำแต่กูก็ไม่ด้านพอนะเว้ย
“แล้วไง กูต้องสนด้วยหรอวะ”แสสส ก๊อบกู... แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันอยู่ที่ว่า มึงปลดกางเกงกูทำม้ายยยยย “สักวันกูคงบ้าตาย”มึงจะบ้า...แต่กูนี่ กูน่ะ เส้นเลือดในสมองจะแตกตายเพราะมึงอยู่แล้วไอ้เฮียยยย
นิ้วเรียวไล้ขึ้นตามผิวผ้า ปากบางสีสวยเข้าประกบอีกครั้ง ถึงไม่ใช่ครั้งแรกที่จูบกัน แต่ผมก็ไม่ค่อยจะชินกับไอ้รสจูบหนักบางเบาบ้างอ่อนโยนบางร้อนรุ่มบางของไอ้เฮียเลย... ไอ้การจูบผสมปนเปนี่มันอะไรวะ ปวดหัว กูตามมึงไม่ทันจริงๆ
มันคือการจูบที่มีความยากและเสี่ยงเส้นเลือดในสมองแตกได้เทียบเท่ากับการทำข้อสอบฟิสิกส์ปริญญาโท(ทั้งที่กูเพิ่งจบม.ปลายมาหมาดๆ)เลยก็ว่าได้ คิดดูดิครับ พอมันหนักมา ผมก็กะหนักตาม แต่มันก็เสือกผละออก จนพอหลายๆครั้งเข้า ผมแม่งก็ชักเครียด เครียดที่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นคนคุมเกมส์ตลอดเลยนี่แหละ...กูไม่อยากเป็นผู้ตามตลอดไปนะเว้ยTT^TT
มือหนาของคนตรงหน้าสอดเข้าใต้เสื้อบอลสีสด ก่อนจะถอดมันออก มีแววว่าจะเสียตัวอีกแล้วสิกู...ขยันสร้างเสริมประสบการณ์ให้กูจริงๆ
ริมฝีปากสีสวยละออก เผยรอยยิ้มหวาน ที่กระตุกหัวใจหัวใจคนมอง(ผม)ให้หล่นวูบ ผมสบตาคนตรงหน้านิ่งราวกับต้องมนตร์ มันทำของใส่ผมใช่ไหมครับ ทำไมยิ่งมองมันนานเท่าไหร่ผมก็รู้สึกละสายตามตาออกจากมันยากขึ้นเท่านั้น
ปรี้นนนนนนนนนนนนนนน!!!
ผมสะดุ้งสุดตัว ผลักคนตรงหน้าออก เมื่อรถคันหลังบีบแตรไล่ หลังจากไฟเขียวนานแล้ว...ฮ่วย กำลังเข้าได้เข้าเข็ม เฮ้ย ไม่ใช่ เออ แบบว่า เสียงแตรช่วยชีวิตผมไว้แท้ๆเลยเนอะ=w=
คนข้างๆที่เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นมาแล้วส่งไอโฟนมาให้ ผมรับไอโฟนมา อ่านข้อความในไลน์ที่โต้ตอบระหว่างเฮียปั้นกับไอ้คิง
‘วันนี้บลูอยู่ไหนล่ะครับ... แต่คงไม่ได้อยูกับคุณหรอกเนอะ เพราะวันนี้เขาเลือกจะมากับผม’อันนี้ไอ้เฮียยังไม่ตอบครับ จนผ่านไปสักสองนาที มันก็ส่งมาใหม่
‘เข้าใจไว้ด้วย เขาไม่ใช่ของของมึง...ดังนั้นกูก็มีสิทธิ์’เหี้ยคิงหยาบคาย กูจะฟ้องแม่มึง
‘อืม มันไม่ใช่ของกู ถ้ามันจะไปกูก็ไม่มีสิทธิ์รั้งอะไร’โหยย อ่านแล้วไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นคนอย่างไอ้เฮียที่ตอบอะไรแบบนี้
‘งั้นมึงก็ทำใจรอวันที่เขาไปจากมึงได้เลย’ไอ้คิงยังคงมาดนางร้ายในละครที่รอแย่งผัว(เมีย)ชาวบ้านอยู่เหมือนเดิม
‘ถ้ามึงทำได้ กูบวชแถมให้อีกหนึ่งพรรษาเลยอ่ะ’ไอ้เฮียเกรียนแตก สองคนนี้อย่างกับเด็กมัธยมแย่งผัวกันเลยครับ...ตบไหมครับ จะได้จบ
“เออ อยากเห็นเฮียบวชว่ะ”ผมพูดออกไป
ป้าบ!!!
แต่หัวก็ต้องสั่นคอนไปตามแรงตบ...อ้ายยยเหี้ยยยย ไหนบอกว่ารักกูไงสาดดดด
“อย่ามากวนส้นตีน”แล้วมันก็ดึงไอโฟนออกไปจากมือผม “ลองไปจากกูสิ... มึงตาย”ทั้งที่มันขู่ แต่ทำไมผมยิ้มล่ะครับ รึกูจะบ้า... เอ๊ะ แต่กูบ้าอยู่แล้วนี่หว่า แล้วตกลงกูเป็นอะไรกันล่ะเนี่ย
ยังหาสาเหตุไม่ได้
ใช่ครับ ตอนนี้ปาเข้าไปตี2หน่อยๆแล้ว แต่ผมก็ยังคงนั่งหาต้นสายปลายเหตุของอาการประหลาดที่ผมคิดมากจนเริ่มหลอนประสาท เป็นครั้งแรกเลยครับที่ปู่เกิลช่วยผมไม่ได้กับเรื่อง’อาการที่โดนไอ้เฮียด่าแล้วเสือกมีความสุขขึ้นมาซะงั้น’ ก่อนหน้านี้2ชั่วโมง ผมโทรไปปรึกษาขิม หรืออีขิม(ชื่อที่ผมเรียกปกติ) มันเป็นใครหรอครับ อย่าไปรู้จักเลย สวยก็ไม่สวยแถมยังโรคจิตชอบดูหนังโป๊อีก(กูเครียดแทนแม่มึงจริงๆอีขิมมมมมมม)
อธิบายหน่อยก็ได้ เดี๋ยวมันจะน้อยใจ คือผมกะมันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เนิร์สเซอรี่ ปัจจุบันเรียนจิตวิทยาอยู่ที่ม.ไฮโซย่านใจกลางกรุงเทพ มันเป็นเป็นเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ผมนั้นกล้าบอกทุกเรื่องแม้แต่เรื่องไอ้เฮีย แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วครับ.. กูไล่มึงออกจากการเป็นเพื่อนกู!!!... อีเชี่ยยย ถึงกูจะไม่รู้ว่าไอ้มาโซคิสของมึงคืออะไรก็เหอะ แต่มึงบอกกูมีอาการทางจิตเรอะ!!!
“ยังไม่นอนอีกหรอ”เสียงงัวเงียดังขึ้นจากบุคคลที่กำลังนอนเกลือกกลิ้งกินพื้นที่เตียงเกินครึ่ง
“อืม...ทำงานนิดหน่อย”ผมตอบเสียงห้วน
ผมทำงานจริงๆนะเฮ้ย... ไอ้การค้นหานั่นมันงานรอง งานหลักที่ทำให้ผมยังไม่นอนจริงๆคือการเขียนวิจารณ์หนังของอิ้งค์2กับงานการเขียนจดหมายลาของภาษาไทยตางหากล่ะครับ… มัวแต่ไร้สาระอยู่นาน งานบานเลยกู
น้ำหนักจากหัวใครบางคนกดทับลงที่บ่าข้างขวา ผมทำเป็นไม่สนใจแล้วพิมพ์งานต่อ... ก็เพราะกูวุ่นวายอยู่กะมึงนี่แหละ งานกูถึงได้งอกเงยขนาดนี้!!
“งานอิ้งค์ หรอวะ...มึงเรียนอิ้งไหนละ”มันถาม ส่วนผมก็ชู2นิ้วขึ้นแนบแก้มอย่างน่ารักน่าชัง...แหม กูสิอยากจะอ้วกใส่หน้าตัวเอง “หรอ กูอ่านๆงานมึงแล้วนึกว่าเรียนอิ้งค์ปรับ”ฟวย นี่มึงตื่นขึ้นมาเพื่อดูถูกมันสมองกูรึวะไอ้สลัด
“แหม... เก่งนักก็เอาไปทำแทนกูเลยไป๊”แล้วผมก็ผลักไสไวโอที่เลิฟไปให้มัน
อิเฮียหยักไหล่อย่างกวนส้นตีน ก่อนจะเริ่มพิมพ์งานวิจารณ์หนัง “แฮร์รี่ ระดับมันสมองมึงไม่ค่อยจะครีเอทเท่าไหร่เลยว่ามะ”มันด่าผมรึเปล่าวะ แต่ช่างแม่ง ขี้เกียจเถียง เหนื่อย!!
ผมนั่งเขียนงานอยู่เงียบๆ โดยมีอิเฮียนั่งพิมพ์งานอยู่ข้างๆแต่แบบไม่เงียบน่ะนะ... เสียงจังหวะร็อคหลอนประสาทจากเพลงsweet sacrifice ดังเข้ากระทบเยื้อบุแก้วหู ที่ตอนนี้ ผมรับรู้ได้เล่นครับ ว่าพวกมันกำลังเต้นตุบๆ
“เบาๆโว้ย!!”ผมตะโกนแข่งกับความดังของลำโพง
แล้วมันก็เบาเสียงลง “กูทำงานเงียบๆไม่ได้ ง่วง”นั่นหรือคือคำตอบ... แต่ถ้าข้างห้องเขานอนไม่ได้เมื่อไหร่ เขาจะมาด่าบุพการีกูนี่ “งั้นก็ฟังเบาๆดิเฮีย”
“มันไม่ถึงอารมณ์ร็อค”ร็อคพ่อร็อคแม่มึงดิ...ผมเอื้อมมือกดปิดเสียง “แล้วตอนปี1เฮียเริ่มเรียนอิ้งค์ไหนอ่ะ”ผมเริ่มเปิดประเด็นชวนคุย
“ไม่ต้องเรียน ได้คะแนนโอเน็ตอิ้ง80”น้ำเสียงที่ส่อแววเย้ยหยันนิดๆถูกส่งมาพร้อมเสียงหัวเราะหึๆในลำคอทำให้ผมรู้สึกอยากฆ่าคนขึ้นมาตะหงิดๆ...แม่ง!!
“เฮียปั้น…”ผมเรียกคนข้างตัวโดยไม่หันไปมอง “ถามไรหน่อยได้ปะ”
“อาฮะ...”
“ตอนนี้เราเป็นอะไรกัน”
“เป็น...”แต่ยังไม่ทันที่เฮียปั้นจะได้เฉลยความข้องใจของผม หมาแม่งก็หอนขัดซะก่อน
“ว่าฉันเป็นแฟนของเธอรึเปล่า ความจริงเรารักกันไหม เวลาใครถามฉันควรตอบเขาอย่างไร วันใดที่ไม่เจอ เหมือนเธอขาดอะไรไหม ต้องการแน่ใจ ตกลงเราเป็นอะไรกัน...”
“เป็นพ่อมึงมั้ง!!!”ผมตะโกนตอบมันไปด้วยความหงุดหงิด
“บลู... เปิดประตูให้คิง หน่อย อึก”ฟังจากเสียงแล้วเมาชัวร์
“มึงกลับบ้านมึงไปปะ... กูจะทำงานทำการ”ผมตะโกนตัดบทอย่างอารมณ์เสีย
“เธอเปลี่ยนใจง่ายๆ อย่างนี้ อึก เธอทำได้ไง ถ้าใจร้ายกับฉันที่รักเธอหมด อึก หัวใจ”มึงอย่าทำลายความรู้สึกดีๆที่กูมีให้พี่ทีเลย... เพลงโปรดกูเลยนะไอ้ห่า ร้องซะเสียเลย
กริ๊ก
เสียงปลดกลอนจากคนที่ควรจะนั่งทำงานอยู่ข้างๆ ทำให้ผมถึงกับเบิกตาโพลง... มึงอย่าปล่อยมันเข้ามานะ
“มึงกลับไปปะไอ้หมอหมา บลูมันไม่ว่าง...มันอยู่กะผัว ยูโนว์”กระแดะโชว์เอ็กเซ็นอิงลิชอีกนั่น
“รัก ฉันรักเธอมากเพียงไหน บอกรักเธอมากเท่าไร ไม่อาจจะทำให้เธอคืนย้อนกลับมาเหมือนเคย เธอทำให้ฉันผิดหวัง ทำให้ฉันเจ็บช้ำ เธอทำฉันเสียใจ”ทีนี้ล่ะร้องตรงคีย์เชียวนะมึง...แล้วไอ้เฮีย มึงซึ้งกะบทเพลงจนตัวแข็งทื่อเลยรึไงนั่น
“กลับไปนอนเถอะไอ้คิง”ผมเดินไปหมายจะปิดประตู แต่กระต้องสะดุดกึกตัวแข็งทื่อตามไอ้เฮียไปอีกคน... ไอ้คิง มึงร้องไห้!!!
ตึง!!!
แล้วไอ้คิงก็กลิ้งลงไปนอนกับพื้น
“เออ...เฮีย จะว่าอะไรไหม ถ้าจะให้ไอ้คิงมันนอนที่นี่ด้วยคืนนี้”ไอ้เฮียไม่พูด แต่เดินไปพยุงซากไอ้คนเมาขึ้นมา แล้วพาไปทิ้งไว้ที่เตียง ก่อนจะกลับมาทำงานให้ผมต่อ
Rrrrr
เสียงไอโฟนที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นรัวเรียกสติทั้งผมและไอ้เฮียให้หลุดจากภวังค์ มือเรียวคว้าโทรศัพท์แล้วรับสายอย่างรวดเร็ว แต่ขอบอกว่ามึงเร็วไม่พอหรอก กูเห็นแว่บๆนะเว้ยว่าอิหลินโทรมา
คุยกันไม่กี่คำ ไอ้เฮียก็คว้ากางเกงยีนส์มาสวมทับบ็อกเซอร์ สวมไนกี้ หยิบกุญแจรถกับกระเป๋าตังค์ ดูจากลักษณะแล้ว มันเตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอกอย่างแน่นอน100%
“เฮีย”ผมรีบเข้าไปคว้าแขนเฮียปั้น...แม่ง อย่างกะหนังดราม่า “จะไปไหน”ผมขมวดคิ้ว แน่นอนว่า กูทำตาเศร้าน้ำตาคลอด้วย
“ไปธุระ เดี๋ยวกลับมา”ธุระอะไรตอนตีสามกัน ... พูดตรงๆ เลยนะครับ ผมไม่อยากให้มันไปเลยจริงๆ เขม่นตาขวาไม่หยุดเลยแม่ม!!
“มันสำคัญมากไหม... แล้วถ้าผมขอไม่ให้เฮียไป”ผมพูดเสียงแผ่ว เตรียมพร้อมบีบน้ำตา
“ขอโทษ”แล้วมันก็แกะมือผมออก... แค่คำว่าขอโทษ ทำไม ผมถึงปวดใจแบบนี้วะครับ
ผมมองแผ่นหลังคนตรงหน้า ที่ค่อยๆถูกทดแทนด้วยแผ่นประตู... ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าไอ้ธุระนั่นมันสำคัญขนาดไหน แต่ที่รู้ๆสำหรับเฮียแล้ว มันมีความสำคัญมากกว่าผมแน่นอน
“หว๊า หมาไม่อยู่ เหลือแต่ก้าง แล้วแมวจะทำไงดีนะ”ผมหันไปมองไอ้คิงที่นั่งเหยียดขาพิงหัวเตียง โดยไม่ได้ส่อเคล้าไอ้คนเมาเมื่อตะกี้เลยสักนิด... ซวยแล้วไหมล่ะกู (ตาขวาเขม่นยิบๆ)
TBC.
หายไปสามวัน(หนีไปดราม่ามาค่ะ)
ตอนนี้เคลียร์ปัญหาหมดแล้ว สภาวะจิตใจกลับมาปกติแล้วค่ะ
คงไม่ได้อัพทุกวันนะคะ เพราะบางวันไม่ได้กลับบ้านไรงี้
แต่จะพยายามอัพให้บ่อยที่สุด เลิฟๆนะคะ
ขอบคุณทุกความเห็น ทุกกำลังใจ และคนที่เข้ามาอ่านทุกคนเลยนะคะ
ปล.แล้วก้างจะทำยังไงดีคะ