วันที่ 16
“เป็นไรของมึงว่ะไอ้ตี๊ฟ”ไอ้การ์ดถามเหมือนจะห่วงใยผม วันนี้พวกเรารวมตัวกันที่บ้านของไอ้การ์ดเพราะแม่ของไอ้การ์ดไม่อยากให้ลูกชายผู้แสนดีอย่างไอ้การ์ดออกไปเมานอกบ้านเลยอนุญาตให้จัดปาร์ตี้ที่บ้านได้
“ก็ไม่ได้เป็นไร”ผมตอบเรียบๆ
“ทะเลาะกันเหรอว่ะ”ไอ้การ์ดยังคงถามต่อพร้อมกับหันไปมองอีกคน ที่กำลังจ้องมองผมอยู่
“เปล๊า”ผมตอบเสียงสูงเพื่อยืนยันว่าผมไม่ได้มีเรื่องทะเลาะอะไรกับไอ้เชษฐ์
“แล้วทำไมมึงสองตัวถึงไม่คุยกัน เอาแต่จ้องกันไปจ้องกันมาอยู่ได้ แล้วอีกอย่างมึงไม่ต้องมาเกาะติดกูแจขนาดนี้ก็ได้ กูรำคาญ”ไอ้การ์ดทำท่าสะบัดให้ผมไปไกลๆ มันเพราะวันนี้ผมยึดไอ้การ์ดเป็นที่พึ่งเพื่อจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับไอ้เชษฐ์เพียงลำพังมากนัก ที่ผมต้องทำแบบนี้ก็เพราะคำพูดเมื่อวานของไอ้เชษฐ์นั่นแหละ ตอนนี้ผมกำลังกลัว กลัวว่าผมจะเผลอใจหวั่นไหวไปกับไอ้คำพูดทีเล่นทีจริงของไอ้เชษฐ์มันนั่นแหละ
“นี่มึงรังเกียจเพื่อนที่แสนดีอย่างกูเหรอ”ผมแกล้งพูดเสียงงอนๆ
“เออ”แต่ไอ้การ์ดตอบกลับมาชัดถ้อยชัดคำแบบไม่รักษาน้ำใจผมเลย ไอ้เพื่อนบ้านี่ แต่ก็ช่างมันเถอะครับเพราะผมรู้ว่ามันก็พูดเล่นๆ ไปอย่างนั้นเอง
“กูถามจริงๆ เหอะทำไมมึงไม่ยอมๆ ไอ้เชษฐ์มันไปสักที เกมนี้จะได้จบๆไป”เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมปล่อยมันไปไหนไกล มันก็หันมาตั้งคำถามที่ผมต้องตอบมันไปกี่รอบแล้วไม่รู้
“มึงลืมไปแล้วเหรอว่าก่อนที่กูจะต้องมาอยู่ร่วมกับมันเนี่ย มันบอกว่าเกลียดคนที่เป็นแบบกูแค่ไหน”คำที่ไอ้เชษฐ์มันว่าผมในวันที่เกมนี้จะเริ่มขึ้นมา มันก็ยังคงชัดเจนอยู่ให้สมองของผมเสมอ
“แต่ตอนนี้พอมันมาอยู่กับมึง มันก็เปลี่ยนไปแล้วไง มึงเองก็รีบๆ คว้ามันไว้เหอะ ดีๆ อย่างไอ้เชษฐ์ไม่ได้หาง่ายๆนะมึง”โหพูดยังกะผมไม่ได้รู้จักไอ้เชษฐ์งั้นแหละ คำพูดนี้เก็บไว้หลอกคนอื่นเหอะ
“เลิกพูดเรื่องนี้เหอะ กูเบื่อที่จะต้องมาฟังคำหว่านล้อมของมึงเต็มทีแล้ว พูดกรอกหูกูอยู่ได้ทุกวัน”
แม้ไอ้การ์ดจะพยายามปลีกตัวออกจากผมเพื่อที่จะเปิดโอกาสให้ผมต้องอยู่กับไอ้เชษฐ์ แต่ผมก็ไม่ยอมปล่อยไอ้การ์ดไปง่ายๆ ทว่าไอ้การ์ดก็งัดเอาไม้ตายออกมาจนได้ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ
“เอามันไปไกลๆ กูซิ กูไม่ชอบ”ลูกหมาสองตัวครับที่ไอ้การ์ดมันเลี้ยงไว้ มันเป็นสัตว์ที่มีความน่ารักมาก สำหรับไอ้การ์ดและใครอีกหลายคน แต่สำหรับผม ผมไม่ชอบเอาเสียเลย ไม่ชอบมากๆ จนแทบจะขยะแขยงเลยก็ว่าได้
“อะไรของมึงมันออกจะน่ารัก ทำมาเป็นรังเกียจมัน”ไอ้การ์ดอุ้มสัตว์เลี้ยงตัวโปรด ห่างผมออกไป ผมได้แต่มองตามไปเพราะไม่อยากอยู่ใกล้ไอ้ตัวมีขนนั่น
“ไอ้การ์ดมึงทำอะไรนะ”ผมตะโกนถามเมื่อเห็นไอ้การ์ดเทเบียร์ให้สุนัขสองตัวนั้น เหมือนกับว่าเจ้าสองตัวนั้นก็จะไม่ต่างจากเจ้าของเลยเพราะมันแลบลิ้นเลียแผลบๆ เอาแอลกอฮอล์เข้าไปอย่างเหมือนจะเอร็ดอร่อย นี่เพือนผมมันฝึกหมาให้กินเบียร์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ช่างทำไปได้จริงๆ
“อะนี่...กุ้ง”ไอ้เชษฐ์เดินมาหาผมพร้อมกับส่งจานที่มีกุ้งเผา ที่เพื่อนๆ ช่วยกันทำมาให้ผม ผมเพียงชายตามอง แล้วก็พยักหน้าแต่ไม่ได้รับมาหรือตอบอะไรออกไป
“ต้องให้แกะให้ด้วยไหม”น้ำเสียงเหมือนจะประชดนิดๆ ทำให้ผมต้องหันไปมองหน้าคนพูด แต่ไอ้คนพูดก็ยักไหล่อย่างไม่ได้ใส่ใจในความรู้สึกผมเลย
“หรือจะต้องให้ป้อนด้วย”เมื่อเห็นผมไม่พูดก็เริ่มกวนประสาทผมมากขึ้นครับ
“กูทำเองได้”ผมกระแทกเสียงตอบ พร้อมกับหยิบจานมาจากมือของไอ้เชษฐ์ หงุดหงิดโว๊ย รู้สึกตอนนี้ผมเหมือนโดนทุกคนกำลังปั่นหัวอยู่ยังไงไม่รู้ ไอ้เชษฐ์ก็ยังนั่งมองผมอย่างอารมณ์ดีต่อไป
“อย่าดื่มมากนักล่ะ”เมื่อเห็นไอ้เชษฐ์ยกดื่มแก้วแล้วแก้วเล่า ผมเลยต้องปรามเสียหน่อย
“ทำไม...ห่วงสุขภาพกูหรือไง”ไอ้เชษฐ์หันมามองผมพร้อมกับยิ้มดีใจ แหมช่างคิดไปได้นะ ดื่มกันมาหนักขนาดนี้แล้วคงห่วงกันไม่ทันแล้วล่ะ
“เปล่า”ผมแกล้งพูดยิ้มๆ พร้อมกับส่งสายตาเชิญชวน แฝงความนัยบางอย่าง
“งั้นก็กลัวกูจะไม่มีแรงจับมึงกด”นั่นไงไอ้นี่ต้องวนมาเรื่องนี้จนได้
“ไม่ใช่”ผมยังแกล้งตีสีหน้าอารมณ์ดี พูดกับมันต่อ
“แล้วมันอะไรล่ะจ๊ะ”แหมเห็นเล่นด้วยหน่อยเดียวเอาใหญ่เลยนะมึง มีจ๊งมีจ๊ะ แถมยังมาเชยคางผมอีก ผมปัดมือของไอ้เชษฐ์ออกเบาๆ ก่อนจะตอบอย่างหน้าซื่อๆ
“ก็ไม่อะไรหรอก แค่กลัวมันเปลือง”ผมพูดก่อนจะหัวเราะใส่หน้ามัน
“โหไรว่ะ ไอ้เรากะนึกว่าจะอยากมามีซัมธิงรองด้วยกันแล้วเสียอีก”ไอ้เชษฐ์พูดอย่างอารมณ์ดี
“ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก”ตอนนี้เพื่อนๆ เหมือนจะร่วมมือร่วมใจกันเหลือเกิน คือพยายามอยู่ห่างจากพวกผมสองคนเต็มที่ พวกนี้นี่ช่างทำอะไรไม่แนบเนียนเอาเสียเลย ถ้าจะปล่อยให้ผมอยู่กับไอ้เชษฐ์สองคนอยู่กันลำพังก็น่าจะทำอะไรให้ดูเนียนๆ กว่านี้หน่อย แต่ก็อย่างว่าแหละครับ พวกมันก็ชัดเจนมาตั้งแต่ต้นแล้วนิที่จะให้ผมกับไอ้เชษฐ์เป็นแฟนกัน แต่คิดเหรอว่ามันจะง่ายอย่างที่พวกมันคิด
“ถามไรหน่อยดิ”มาน้ำเสียงแปลกๆ อีกแล้ว จะมาถามอะไรผมอีกละทีนี้ ช่วงนี้ต้องเตรียมตัวตั้งรับให้มั่นครับเพราะไม่รู้ทั้งไอ้เชษฐ์และเพื่อนคนอื่นๆ จะมาไม้ไหนกับผมบ้าง
“ว่ามาดิ”เมื่อตั้งท่าพร้อม เตรียมใจพร้อมรับทุกคำถามผมก็เปิดโอกาสให้ไอ้เชษฐ์ได้ถาม นี่ผมกำลังซีเรียสอยู่คนเดียวหรือเปล่าเนี่ย
“คนที่เคยเป็นแฟนมึงเค้าทำไงว่ะ มึงถึงยอมเป็นแฟนกับเค้า”ช่างเป็นคำถามที่เหนือความคาดหมายมากๆ ทีเดียวนะเนี่ย แล้วนี่ไอ้เชษฐ์มันจะอยากรู้ไปทำไม
“ไม่ได้มาอย่างมึงก็แล้วกัน”นี่ผมยอมรับแล้วใช่ไหมว่าไอ้เชษฐ์มันกำลังจะจีบผมจริงๆ
“ก็แล้วเค้าทำไงบ้างละว่ะ เผื่อกูจะได้เอามาใช้บ้าง”แบบนี้ก็มีนะเนี่ย ถ้ามันจะมาจีบผมจริงๆ แล้วมันควรแล้วเหรอที่มาถามผมแบบนี้ ดูมันทำสิครับ
“แล้วจะอยากทำเหมือนคนอื่นทำไมเล่า มึงเคยจีบคนอื่นยังไง มึงก็ใช้ตามแบบที่มึงเคยทำนั่นแหละ”ผมส่ายหน้าอย่างระอาในคำพูดของมันครับ มีใครจะทำแบบนี้อย่างมันบ้างไหมเนี่ย
“กูก็เคยแต่ใช้หน้าตาอันหล่อเหลาเท่านี้ก็ไม่ต้องใช้วิธีอะไรอย่างอื่นแล้ว”ทั้งหน้าทั้งเสียงเก๊กมาเต็มที่เลยครับ ไม่มีความรู้สึกจะกระดากอายแม้แต่น้อย
“ไอ้คนหลงตัวเอง”และแน่นอนคำพูดของผมไม่ได้ไปสะทกสะท้านผิวหน้าอันบอบบางของมันแม้แต่น้อย
“เออว่าแต่...แล้วเวลามึงไปจีบผู้ชายนี่มึงทำไงบ้างว่ะ”เอากับมันสิครับ แต่ละคำถาม
“หน้าตาอย่างกูไม่ต้องไปจีบใครหรอกเพราะมีคนมาให้เลือกเยอะแยะอยู่แล้ว”เพิ่งจะว่าไอ้เชษฐ์ไปว่าหลงตัวเอง แต่ผมเองก็ไม่ได้ต่างจากมันเลย แต่ผมก็พูดความจริงนะ เพราะคนที่ผมเคยคบก็มีแต่เข้ามาจีบผมก่อนทั้งนั้น ถ้าผมชอบผมก็ตอบตกลง ถ้าไม่ก็ปฏิเสธไปแค่นั้นเอง
“มึงไม่ลองไปจีบใครดูบ้างล่ะ จะได้รู้ว่าฝีมือการจีบของมึงดีแค่ไหน”นั่นสินะ ผมน่าจะลองดูบ้างนะเนี่ยจะได้ดูว่าผมจีบคนอื่นเป็นบ้างหรือเปล่า
“ไว้กูจะไปลองดูนะ รอเจอคนถูกใจก่อนแล้วกัน”ผมตอบไปอย่างไม่ได้จริงจังนัก อีกอย่างตอนนี้ก็เริ่มมึนๆ ตึงๆ พอควรแล้วคิดว่าคงดื่มได้อีกแค่สักพัก
“จีบกูดูไหมล่ะ กูยินดีเป็นหนูทดลอง”ไอ้เชษฐ์ลอยหน้าลอยตาพูดอย่างยียวน แถมแววตานั่นอีก
“เมาแล้วเพ้อเลยนะ”ผมผลักไอ้เชษฐ์ที่ขยับเข้ามาใกล้ๆ ผมให้ถอยออกห่างหน่อยเพราะตอนนี้ แทบจะต้องนั่งตักกันอยู่แล้ว
“ยังไม่เมาซะหน่อย วันนี้กูไม่ค่อยได้ดื่มมึงก็เห็น”เออแหะวันนี้ดูมันไม่ค่อยดื่ม ตั้งแต่ที่ผมบอกมันว่ากลัวเปลือง อย่าบอกนะว่ามันคิดจะไม่ดื่มเพราะคำพูดของผมจริงๆ
“กลัวเปลืองเหรอ”ผมหันไปถามอย่างกวนๆ มันหน่อย
“เปล่าหรอก แค่เบื่อเบียร์แล้ว อยากกินมึงมากกว่า”
ลงให้อีกตอนคร๊าบบบ
พอดีพรุ่งนี้มีธุระกลัวไม่ได้ลง