งานต่อไปนอกจากจะต้องลุยเดี่ยวแล้วยังไม่มีอะไรสยิวๆ ให้ชื่นใจแบบตอนเช้า แต่ถึงยังไงก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการตอนนี้องค์กรกำลังเกาะติดกับธุรกิจแชร์ลูกโซ่แอบแฝงธุรกิจหนึ่งอยู่ ปกติองค์กรจะไม่ค่อยยุ่งกับเรื่องที่จัดว่าเป็นคดีเศรษฐกิจใหญ่ๆ อย่างนี้เพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่หน่วยงานภาครัฐต้องเข้ามาดูแลเอง อีกอย่างองค์กรก็ไม่มีมีคนหรือความชำนาญมากพอที่จะจัดการกับเรื่องใหญ่และซับซ้อนอย่างนี้ แต่เนื่องจากแชร์ลูกโซ่ตัวนี้เน้นเอาหนุ่มหล่อบุคลิคดีมีมาดนักธุรกิจหลายคนเข้ามาเป็นแม่ข่ายเพื่อใช้เสน่ห์ในการหลอกล่อลูกข่ายให้เข้าเป็นสมาชิก แน่นอนว่านี่คือการหลอกลวงโดยใช้ทั้งความโลภและความหื่นเป็นเครื่องมือซึ่งเป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้อย่างที่สุด ทรัพยากรหนุ่มหล่อของชาติควรใช้เพื่อสร้างความสุขในทางสันติให้กับสังคมเท่านั้น
ที่จริงแชร์ลูกโซ่กับธุรกิจขายตรงจริงๆ ก็แยกกันไม่ยาก แชร์ลูกโซ่จะมีการเก็บค่าสมัครสมาชิกและบังคับให้ซื้อสินค้าคุณภาพต่ำ ราคาสูง ไม่มุ่งเน้นการขายสินค้า แต่เน้นให้หาสมาชิกใหม่เพื่อรับผลตอบแทนจากการหาสมาชิกเพิ่ม แต่ธุรกิจขายตรงเน้นการขายสินค้าและสร้างองค์กรเพื่อสร้างรายได้จากยอดขายสินค้า ถึงจะสังเกตไม่ยากแต่พอถึงเวลาจริงก็มักถูกความโลภบังตาจนคิดตรึกตรองไม่ถี่ถ้วน ยิ่งกรณีนี้มีการเอาหนุ่มหล่อๆ มาพูดให้เคลิบเคลิ้มอีกด้วย
ตอนนี้องค์กรได้สืบขบวนการนี้จนได้ข้อมูลเกือบหมดแล้ว หนุ่มหล่อๆ ที่เกี่ยวข้องก็ถูกหมายหัวไว้เรียบร้อย เหลือแค่พิสูจน์ว่าตั้งใจหลอกคนอื่นทั้งๆ ที่รู้ หรือเจ้าตัวไม่รู้เรื่องแต่ถูกหลอกมาเหมือนกัน แล้วค่อยจัดการลงโทษตามมูลความผิด แต่ไหนๆ ทำมาขนาดนี้แล้ว ผมเลยอยากถอนลากถอนโคนไปเลย จะได้ไม่ต้องมีคนหลงผิดเสียเงินเสียงทองมาเป็นเหยื่ออีก แต่ติดที่ยังสาวไม่ถึงตัวผู้ก่อการที่อยู่เบื้องหลัง เข้าใจว่าคงใช้การสั่งการโดยวาจา เงินทุนเริ่มต้นก็คงจะถ่ายโอนกันด้วยเงินสด ทำให้ไม่มีร่องรอยที่ระบบของเบอร์หนึ่งใช้แกะรอยได้ วันนี้ผมเลยจะเข้าไปหาข้อมูลเองที่สำนักงานใหญ่ของธุรกิจฉ้อฉลแห่งนี้ ถึงการสะกดจิตจะไม่สามารถสั่งให้เปิดเผยความคิดที่เจ้าตัวตั้งใจปกปิดได้โดยตรง แต่ถ้าแค่สะกดจิตให้ผ่อนคลายแล้วใช้การหลอกล่อถามข้อมูลเอา ก็น่าจะได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมมาไม่น้อย นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจจะทำในวันนี้
เมื่อผมไปถึงสำนักงานใหญ่ที่ตั้งอยู่ในอาคารหรูก็ต้องประหลาดใจที่พบว่ามันร้างผู้คน จริงอยู่ว่าบริษัทพวกนี้จะใช้การเช่าออฟฟิซในระยะสั้นเพื่อสร้างภาพพอเรื่องแดงถึงค่อยปิดหนีหายไป แต่ล่าสุดแชร์ลูกโซ่เจ้านี้ยังหลอกลวงคนได้ดีอยู่ไม่น่าจะรีบปิดขนาดนี้ ผมถาม รปภ. ประจำชั้นเขาก็บอกว่าไม่ทราบเรื่องเหมือนกัน เมื่อวานยังเห็นมีคนมาทำงานคึกคัก
ผมลองเข้าไปก็ติดอยู่แค่โซนที่รับแขกเพราะประตูที่จะเข้าไปสำนักงานล็อคอยู่ ผมไม่คิดจะบุกเข้าไปเพราะไม่น่าจะได้อะไรมากกว่าที่โป๊ปได้เจาะระบบดูดข้อมูลไปหมดแล้ว ที่ผมต้องการคือตัวคนที่เกี่ยวข้องเพื่อจะเอามาสอบถามข้อมูลต่างหาก พอมองกลับมาที่เค้าเต้อร์ต้อนรับก็เห็นกระดาษปึกนึงวางไว้อยู่เหมือนพวกใบปลิวแจก ผมหยิบมาดูแผ่นหนึ่งก็พบข้อความว่า
บริษัท เอ็กซ์ฟันด์ จำกัด กำลังอยู่ระหว่างการถูกประเมินจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ หากท่านเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทนี้ กรุณารวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องส่งไปที่ ตู้ ปณ. 842 ปณจ.ตลาดรถไฟ กรุงเทพฯ 11123 เพื่อรับการเยียวยาในเบื้องต้น
มีอะไรแปลกๆ หลายอย่างในเรื่องนี้ ที่แน่ๆ ไม่ใช่การกระทำของหน่วยงานราชการ มันดูไม่โปร่งใสอย่างที่ควรจะเป็น ถ้าให้ผมเดา น่าจะเกิดการหักหลังกันเองแล้วฝ่ายหนึ่งต้องการรวบรวมหลักฐานเอาไปเล่นงานหรือแบล็คเมลอีกฝ่าย ผมคงต้องกลับไปหาข้อมูลเพิ่มแล้วก็ปรึกษาโป๊ปก่อน ที่แน่ๆ ต้องเอาใบปลิวที่ว่านี้ติดไปด้วยซักสองแผ่นเพื่อใช้เป็นเบาะแส
โอเค งานที่สองคว้าน้ำเหลว แต่ก็ถือว่าทำให้ผมได้มีเวลาพักกินข้าวเที่ยงแบบสบายๆ ไม่ต้องเร่งมาก โชคดีที่ตึกนี้มีฟู๊ดคอร์ทขนาดใหญ่ใช้รวมกันทุกบริษัทที่เช่าพื้นที่ในตึก ผมเลยได้นั่งกินชิลล์ๆ เหล่หนุ่มออฟฟิซในเสื้อเชิร์ตทรงสลิมพอดีตัวกับกางเกงสแล็คฟิตๆ เป้าตุงๆ ไปด้วย หนุ่มวัยทำงานมีเสน่ห์คนละแบบกับเด็กมอปลายที่เจอเมื่อเช้า ถามว่าผมชอบแบบไหนนะเหรอครับ ผมเหมาหมด ฮ่าๆ นั่งๆ ไปก็มีคนเหล่ผมตลอดเหมือนกัน แต่เสียใจด้วย พอเดินผ่านไปพวกนายก็ลืมหน้าผมอยู่ดี ไม่มีโอกาสได้สานต่อหรอก ยกเว้นไปทำชั่วมาจนเป็นนักโทษขององค์กรนะ แต่พวกนายคงไม่ชอบเท่าไหร่
ผมกินข้าวเสร็จก็เดินไปที่ลานจอดรถเพื่อจะไปทำภารกิจต่อไป ยังพอมีเวลาแต่ไปถึงเร็วหน่อยก็ดี พอไปถึงก็เห็นรถคันนึงจอดขนานขวางอยู่ ที่จริงที่จอดรถก็ไม่ได้เต็มขนาดนั้น แต่ช่องจอดที่ว่างๆ มันต้องเดินไกลหน่อย ส่วนของผมโชคดีได้จอดตรงกับทางเข้าตึกเลย สงสัยต้องออกแรงเข็นหน่อย รปภ. ก็ดีครับกุลีกุจอมาช่วยเข็นให้
กึก เข็นไม่ไปครับ ผมส่องไปในรถที่ติดฟิล์มแบบใสไว้ เห็นชัดเลยครับใส่ทั้งเกียร์พีทั้งเบรคมือ ทำไมทำอย่างนี้นะ ลืมหรือว่าอะไร ผมจับที่ฝากระโปงรถก็ค่อนข้างเย็น แสดงว่ามาจอดได้พักใหญ่แล้ว รปภ. ก็ทำหน้าเลิ่กลั่ก เห็นพยายามวิทยุติดต่อแก้ปัญหา ซักพักใหญ่ รปภ. อีกคนก็เอาแม่แรงเคลื่อนที่ที่มีล้อไว้เคลื่อนย้ายรถได้มาสมทบ ทั้งคู่ช่วยกันเอาแม่แรงสอดไว้ใต้ท้องรถเตรียมจะ
“เฮ้ย จะทำอะไรวะ ห้ามเข็นเว้ย ใครอนุญาต เดี๋ยวรถกูเป็นรอย ยามอย่างพวกมึงเจอดีแน่”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ บุคลิคเหมือนผู้บริหาร ตะโกนมาแต่ไกล ท่าทางจะเป็นเจ้าของรถ มาก็ดีแล้ว ว่าแต่ทำไมพูดจาไม่ดีเลย หน้าตาท่าทางออกจะดูดี คนเราเดี๋ยวนี้เน้นแต่ปรุงแต่งรูปลักษณ์ภายนอกแต่ไม่รู้จักขัดเกลากิริยาความคิดความอ่านภายในเลย
“นี่คุณไม่เห็นเหรอว่าจอดขวางรถผมอยู่ ผมออกไม่ได้ รปภ. เขามาช่วยเคลียร์ให้ตามหน้าที่ ไปว่าเขาทำไม มาแล้วก็ช่วยเลื่อนรถให้หน่อยครับ ทีหลังอย่าลืมปลดเกียร์ว่างอีกแล้วกัน นี่ถ้าเจอคนที่เขามีธุระด่วนหรือมีเรื่องคอขาดบาดตายจะทำยังไง”
ผมจัดชุดย่อมๆ ให้หนุ่มออฟฟิซเจ้าของรถ เบื่อพวกหลงๆ ลืมๆ ไม่ระวัง ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
“อะไรนักหนาวะ จอดลงไปทำธุระแป๊บเดียวรอหน่อยไม่ได้เหรอ เกียร์ว่างปลดได้ไง เดี๋ยวมีคนเข็นมั่วไปชนโน่นชนนี่รถเป็นรอยใครจะรับผิดชอบ คนเดี๋ยวนี้ไม่ระวังของคนอื่นแถมยังไม่มีความอดทนเลย” หนุ่มตี๋ร่างใหญ่โพล่งมาอย่างไม่สำนึก
เฮ้ย หมอนี่มาจากต่างดาวเหรอวะ ทำไมตรรกะความคิดถึงได้ป่วยไปหมดแบบนี้ หลังๆ ไม่ค่อยอยากจะใช้พลังไปกับเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ แต่คนแบบนี้คงปล่อยไปไม่ได้
ผมเดินไปเคาะกระจกก่อนที่ หนุ่มอารณ์ร้อนทำท่าจะไม่เปิดแต่พอสบตาผมผ่านกระจกใสๆ ก็ชะงักไปแล้วก็กดปุ่มเลื่อนกระจกลง ผมโปรแกรมจิตตามที่ต้องการลงไปใส่สมองหมอนี่จนเรียบร้อยแล้วก็ถามว่า
“นายจะไปไหนต่อ”
“กลับบ้านที่แถวเยาวราช วันนี้ไปพบลูกค้าข้างนอกช่วงเช้าเลยแวะเข้ามาเคลียร์งานที่ออฟฟิซต่อ ช่วงบ่ายลา”
“งั้นไปเถอะ แล้วก็อย่าลืมล่ะว่าสิ่งที่จะเกิดกับนายไปอีกหนึ่งเดือนนี้ เป็นผลมาจากความเห็นแก่ตัวในวันนี้ ถ้าเข็ด ทีหลังก็อย่าทำนิสัยแบบนี้อีก”
หน่มออฟฟิซตรรกะป่วยก็ขับรถออกไปทันทีท่ามกลางความโล่งใจของ รปภ. ผมทิปปลอบขวัญให้ทั้งคู่ในฐานะที่ทำหน้าที่ได้ดี ระหว่างที่ออกรถเพื่อขับไปยังจุดหมายถัดไปผมก็นึกเล่นๆ ว่าจากอาคารนี้ไปถึงเยาวราชจะผ่านกี่ไฟแดงกันหนอ เปล่าครับผมไม่ได้จะไปเยาวราช หมอนั่นต่างหาก บทลงโทษเล็กๆ น้อยของผมไม่รุนแรงอะไรออก ก็แค่โปรแกรมจิตให้ต้องถอดเสื้อผ้าออกชิ้นนึงทุกครั้งที่รถติดไฟแดง ผมว่าคงล่อนจ้อนตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งทาง นี่ต้องขับไปกลับทุกวันสินะ ถือว่าเป็นอาหารตาให้รถติดไฟแดงคันข้างๆ หรือมอเตอร์ไซค์ที่ซอกแซกไปมาดูแก้เบื่อแล้วกัน
ขับไปไม่นานก็มาถึงสำนักงานขนส่งทางบกเพื่อทำภารกิจที่สามของวัน เปล่าครับผมไม่ได้มาทำใบขับขี่ ต่อทะเบียนรถ หรืออะไรทำนองนั้น ผมมาทำภารกิจเล็กๆ อย่างพวกการสับเปลี่ยนข้อมูลนิดหน่อย ที่นี่เป็นสาขาสุดท้ายแล้วที่ไม่ได้เชื่อมข้อมูลที่ผมต้องการสับเปลี่ยนแบบออนไลน์ แต่ใช้การเล่นจากแผ่นแทน ลำบากผมต้องเอาแผ่นมาเปลี่ยนด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เผลอๆ ไม่ต้องมีพลังสะกดจิตยังทำได้เลย แค่เดินเข้าไปในห้องอบรม เปลี่ยนแผ่น แล้วก็เดินออกมา งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการใหญ่ที่องค์กรกำลังทำอยู่ ไว้มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังครับ
เสร็จแล้วก็ต่อด้วยภารกิจที่สี่ซึ่งไม่ใช่ที่อื่นไกลแต่เป็นมหาลัยที่ผมคุ้นเคยนั่นเอง วันนี้ผมไปที่คณะแพทย์ครับ งานนี้ไม่มีอะไรยากเป็นแค่การสังเกตการณ์เฉยๆ แค่ต้องอาศัยการพรางตัวนิดหน่อย ปกติถึงจะไม่มีเรื่องอะไรที่ผิดสังเกต ผมก็มักจะวางแผนไปแอบดูพฤติกรรมระหว่างเจ้านายกับทาสอยู่เสมอ คนเราพอได้มีอำนาจเหนือผู้อื่นอย่างสมบูรณ์ก็มีแนวโน้มที่จะใช้มันจนเกินเลยไป จริงอยู่ที่องค์กรมีกฎในการใช้งานทาสอย่างเคร่งครัดรัดกุม แต่บางครั้งก็ยังมีช่องโหว่ที่ยังไม่รู้หรือยังไม่เจอ การไปสังเกตการณ์วิธีใช้งานทาสนอกจากจะเป็นการช่วยปกป้องไม่ให้ทาสถูกละเมิดจนเกินความตั้งใจขององค์กรไปโดยเอาช่องโหว่มาปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว ในบางครั้งผมยังได้ไอเดียใหม่ๆ ในการใช้งานหรือลงโทษนักโทษขององค์กรไปด้วย เช่นร้านล้างรถซึ่งเป็นงานบริการสังคมที่ผมใช้ลงโทษนักโทษหมวดซี ผมก็ได้ไอเดียมาจากการสังเกตการใช้งานทาสของเศรษฐีหนุ่มนักสะสมรถยนต์ตัวยง
ผมได้ข้อมูลมาว่าวันนี้สมาชิกขององค์กรซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์ที่มหาลัยแห่งนี้จะนำทาสมาใช้งานนอกสถานที่เป็นครั้งแรก อาจารย์ได้ประมูลนักโทษที่ผมตั้งชื่อให้ว่ามิลค์เมื่อสองเดือนก่อน จะว่าไปมิลค์มันก็คือพี่ชายบุญธรรมของเด็กที่ตอนนี้คือว่าที่แฟนสุดที่รักของรองผู้กำกับเสือนั่นเอง พ่อของมิลค์อดีตซีเอฟโอบริษัทใหญ่ก็ถูกขายเป็นทาสเช่นเดียวกัน เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ ก็ไปผลัดกันทำร้ายแบบวิปริตใส่ลูกเลี้ยงตัวเองนี่นะ
ตอนนี้มิลค์เป็นเรียนปีหนึ่งวิศวะอยู่ที่มหาลัยเดียวกันนี้แหละ ความที่เป็นเด็กยังเรียนหนังสืออยู่ ผมก็ไม่อยากให้กระทบการเรียนมากนัก ตอนประมูลก็เลยกำหนดเป็นเงื่อนไขพิเศษว่าการใช้งานทาสจะต้องไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับการเรียน คนประมูลเลยหายไปเยอะ แต่เอาเข้าจริงก็ประมูลได้ราคาดีทีเดียว ไม่เสียแรงที่ผมอุตส่าห์ส่งไปอัพเกรดความหล่อที่คอมเพล็กซ์สุขภาพของหมอพฤกษ์มาชุดใหญ่ คนชนะก็อาจารย์หมอยังหนุ่มคนนี้นี่แหละ คงเห็นว่าอยู่มหาลัยเดียวกัน ถึงต้องปล่อยให้ไปเข้าเรียนตามปกติแต่เวลาว่างก็คงเรียกมาใช้ได้สะดวก
ผมเปลี่ยนชุดเป็นชุดนักศึกษาแล้วแอบตามเด็กปีสามเข้าคลาสของอาจารย์ไป คราวนี้นอกจากจะพลางใบหน้าไม่ให้คนจำได้แล้วผมยังต้องเพิ่มความรู้สึกคุ้นเคยว่าเป็นรุ่นเดียวกันเข้าไปด้วย ไม่ใช่ว่าหน้าแก่จนไม่เนียนหรอกนะ ผมว่าหน้าผมยังเด็กกว่าบางคนอีก แต่พวกนักศึกษาแพทย์นี่เขาเหนียวแน่นกันมาก ก็เรียนด้วยกัน ทำแลปด้วยกัน ท่องตำราด้วยกันตลอด ถ้ามีคนแปลกหน้าเข้าไปเขาคงจับได้ทันที
พลังลวงจิตผมใช้งานได้ดีเสมอ ตอนนี้ผมเนียนไปนั่งในห้องเล็คเชอร์ขนาดใหญ่รวมกับนักเรียนแพทย์ปีสามตรงด้านหน้าสุดด้วยซ้ำ ด้านข้างที่นั่งติดกันเป็นสาวแว่นผมเปียท่าทางคงแก่เรียนส่วนอีกด้านเป็นช่องทางเดิน สาวแว่นหันมามองหน้าผมพยักหน้าให้นิดนึงแล้วหันกลับไปทันทีทำท่าเหมือนจะเตรียมตัวเรียน คงจะเป็นพวกหัวกระทิสินะ หรือไม่ก็เขินความหล่อผม ที่แน่ๆ คงแอบไปคิดว่าผมชื่ออะไร ทำไมจำไม่ได้ ฮ่าๆ
อาจารย์หมอเข้ามาในห้องแล้ว มิลค์ในชุดนักศึกษาเดินก้มหน้างุดๆ ตามเข้ามาด้วย พอเอาเอกสารของอาจารย์ที่ถือมาไปวางบนโต๊ะด้านหน้าแล้ว ก็เข้าไปนั่งสงบเสงี่ยมอยู่ตรงมุมห้อง อาจารย์หมอก็เริ่มบรรยายเนื้อหาในวิชาไป แกเป็นสมาชิกองค์กรมาได้สองสามปีแล้ว จากประวัติเรียกได้ว่าเป็นคุณหมอคนดังเลย ทั้งฝีมือในการรักษา ผลงานวิจัยที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงชื่อเสียงในฐานะผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ออกทีวีอยู่บ่อยๆ ทั้งที่ยังอายุไม่มากนัก คุณสมบัติยอดเยี่ยมสมเป็นสมาชิกองค์กรผมเลย จริงๆ มีชื่อเสียงขนาดนี้เป็นคนอื่นคงไม่มานั่งสอนเด็กปีสองปีสามแบบนี้แล้ว นี่แกคงรักในความเป็นอาจารย์จริงๆ
“ถึงวิชาบทนำเวชศาสตร์คลินิกนี้จะดูไม่มีอะไรมาก แต่มันเป็นพื้นฐานที่จะใช้ในการวินิจฉัยโรคต่างๆ ให้กับคนไข้ต่อไป เล็คเช่อร์ก่อนหน้านี้จะเน้นไปที่อาการของโรคต่างๆ แต่หลังจากนี้ เราจะไปเน้นที่การซักประวัติอาการ การเข้าถึงคนไข้ และการตรวจร่างกายตามระบบ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องง่าย........”
อาจารย์หมอบรรยายไปเรื่อยๆ ผมมองไปรอบๆ ห้องเห็นมีคนแอบหลับบ้าง ผมว่าอาจารย์เขาไม่ได้สอนน่าเบื่อนะ น้ำเสียงท่าทางการพูดสมชวนติดตามกับเป็นคนที่ออกทีวีบ่อยๆ ขนาดผมเป็นคนนอกแฝงตัวเข้ามายังรู้สึกสนใจเลย แต่ก็อย่างว่าแหละ เรียนหมอมันหนักจะตาย คงมีคนท่องหนังสือดึกจนมาสลบในห้องเรียน
“.......การตรวจร่างกายคนไข้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ คนไข้มาหาหมอด้วยสภาวะทางร่างกายและอารมณ์ที่แตกต่างกัน บางคนหงุดหงิดมาจากความเจ็บป่วย บางคนกลัวว่าจะตรวจเจออะไรร้ายแรง บางคนอายไม่กล้าบอกอาการหรือสาเหตุจริงๆ เพื่อให้พวกคุณเห็นภาพมากขึ้น ผมจะขอให้ผู้ช่วยสอนของผมมาร่วมทำการสาธิตให้ทั้งคลาสดูเรื่องการตรวจร่างกายว่าคนไข้จะมีความกังวลอะไรบ้าง”
มิลค์ลุกขึ้นเดินมาที่หน้าห้อง เขาเงยหน้าขึ้นมากวาดสายตาไปทั้งห้องแล้วมีท่าทางประหม่า มีช่วงที่เขามองมาทางผมที่นั่งอยู่ด้านหน้า พอสบตากันผมก็รีบปลดล็อคจิตให้เขาจำผมได้ มิลค์ลืมตาโพลงด้วยความตกใจ ผมทำท่าจุ๊ปากไม่ให้เขาพูดอะไรออกมาแล้วก็ยกนิ้วให้กำลังใจ ถึงเป็นนักโทษแต่ผมก็ให้โอกาสทุกคนเสมอ ไปอยู่กับอาจารย์หมอเฮี๊ยบๆ ที่ทุ่มเทน่าจะได้ซึมซับอะไรดีๆ มาบ้าง
“อาสาสมัครช่วยสอนของผมชื่อมิลค์ เป็นนักศึกษามหาลัยเรานี่แหละ คงจะเจอกับพวกคุณไปเรื่อยๆ ทั้งเทอม ผมอยากให้พวกคุณให้เกียรติเขาเสมือนเป็นผู้ให้ความรู้กับพวกคุณในทางหนึ่งด้วย อ่อ แต่ไม่ต้องขนาดให้เป็นอาจารย์ใหญ่นะ”
ผมได้ยินเด็กในห้องพึมพำกันพอได้เห็นหน้ามิลค์ชัดๆ
“หล่อว่ะ นี่มันน้องปีหนึ่งวิศวะที่เห็นมีรูปโดนแอบถ่ายลงเพจคิ้วท์บอยอยู่บ้างนี่”
“ใช่ๆ ได้ยินว่ารุ่นพี่เล็งจะให้ประกวดเดือนด้วยซ้ำ แต่น้องมันไม่เข้าร่วมกิจกรรมอะไรเลย เลยโดนตัดออก”
“ชั้นว่าน้องเขาหล่อกว่าตอนเทอมหนึ่งอีกนะ ขาวใสปากชมพู ดูหุ่นก็แน่นขึ้นด้วย เจาะหูอีก สเป็คเลย”
“ได้ยินข่าวว่าพ่อเขาถูกคดีอะไรไม่รู้ น่าสงสารอ่ะ”
เดี๋ยวๆ ไหนว่านักศึกษาแพทย์เรียนหนักจนไม่มีเวลารับรู้ความเป็นไปนอกคณะไง แต่นี่มันอะไร
คราวนี้บรรยากาศในห้องเรียนดูคึกคักขึ้น ทุกคนตั้งใจดูการสาธิตที่อาจารย์หมอพูดถึง
“วันนี้ผมจะยกตัวอย่างการตรวจร่างกายที่ทำให้คนไข้กระอักกระอ่วนใจค่อนข้างมาก นั่นคือการตรวจทางทวารหนักด้วยนิ้วมือ หรือพีอาร์ ที่เราใช้ตรวจหาความผิดปกติระบบทางเดินอาหาร ตรวจอาการต่อมลูกหมากโต และอาการอื่นๆ อีกหลายอย่าง ก่อนเริ่มการตรวจเราต้องอธิบายให้คนไข้ทราบว่าขั้นตอนเป็นอย่างไรซึ่งพวกคุณจะได้เรียนในครั้งต่อๆ ไป แต่ตอนนี้ผมอยากเน้นไปที่ความรู้สึกของคนไข้ก่อน”
ว่าแล้วอาจารย์ก็หันไปถามมิลค์ที่ยืนรออยู่ใกล้ๆ
“มิลค์ คุณรู้สึกยังไงพอรู้ว่าต้องโดนตรวจตรงนั้น”
“กลัวครับ ผมว่ามันน่าจะเจ็บ แล้วก็คงจะอายหมอด้วย มันน่าจะมีวิธีตรวจแบบอื่น”
ยังจะอายเรื่องแบบนี้อีกเหรอ ก็โดนผมเทรนซะอ่วมมาแล้ว ทั้งโดนถ่ายนู๊ดคู่กับไอมุกนักโทษอีกคน ทั้งส่งไปให้เจ๊ๆ ร้านซาลอนลวนลาม ทั้งพาไปวิ่งแบบแทบไม่นุ่งผ้าที่สวนรถไฟอีก
“นี่ไงครับ เราต้องอธิบายให้เข้าใจว่ามีความจำเป็น รวมถึงต้องบอกขั้นตอนต่างๆ ให้ครบ คนไข้จะได้ไม่ตกใจตอนตรวจจริง พออธิบายครบถ้วนแล้ว เราก็จะขอให้คนไข้ถอดเครื่องแต่งกายช่วงล่างที่สวมอยู่ออกให้หมด แล้วไปนอนตรงเตียงตรวจ โดยทั่วไปการตรวจพีอาร์จะให้คนไข้นอนตะแคงเอาเข่าแนบหน้าอกเพราะคนไข้จะรู้สึกสะดวกใจกว่า แต่วันนี้เพื่อให้เห็นกันชัดๆ จะให้คนไข้สาธิตขึ้นเก้าอี้แบบตรวจภายใน”
อาจารย์หมอดึงผ้าคลุมออกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่หน้าห้องออก เผยให้เห็นเก้าอี้ปรับเอนได้ที่มีขาหยั่งสองข้าง มิลค์ซึ่งได้รับคำสั่งให้ถอดกางเกงออกก็เริ่มถอดการเกงสแล็คที่สวมอยู่ออกเหลือแต่กางเกงในโชว์ท่อนขาขาวที่มีกล้ามเนื้อแบบนักวิ่ง จากนั้นมิลค์ก็ล้วงมือเข้าไปกุมของตัวเองในกางเกงในแล้วใช้มืออีกข้างดึงกางเกงในลงเพื่อถอดออกอย่างทุลักทุเล ทุกคนในห้องต่างก็ลุ้นไปตามๆ กัน แต่มิลค์ก็ทำสำเร็จที่สามารถกุมเครื่องเคราทั้งพวงของตัวเองไว้ได้ โผล่แค่เส้นขนและถุงไข่นิดหน่อย จากนั้นเขาก็ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ขาหยั่งแล้วฉีกขาออกเป็นรูปตัวเอ็ม ช่องทางด้านหลังที่ปิดแน่นพร้อมไรขนนิดๆ เผยให้เห็นต่อหน้าคนทั้งห้อง ขนาดผมเห็นของมิลค์มาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้วยังรู้สึกตื่นเต้นเลยแล้วคนอื่นในคลาสจะไปเหลือหรอครับ
อาจารย์เริ่มปรามเมื่อเห็นหลายคนยืนขึ้นชะโงกเพื่อ “พวกคุณต้องเริ่มฝึกตัวเองตั้งแต่ตอนนี้นะ ตามจรรยาแพทย์เราต้องไม่รู้สึกไปในทางอกุศลกับคนไข้ แต่ครั้งนี้เป็นอาสาสมัครช่วยสอน ยังไม่ใช่คนไข้จริง จะอนุโลมให้แล้วกัน ลุกขึ้นมามุงกันใกล้ๆ ได้”
เด็กทั้งห้องกรูกันไปรุมทันที แน่นอนครับ ผมได้อยู่หน้าสุดเหมือนเดิม แม่สาวแว่นเปียก็ด้วย บางคนนี่ถึงกับลงไปนั่งแล้วมองเสยขึ้นมา ไม่รู้มุมนั้นมีดีอะไร
อาจารย์หมอก็เริ่มบรรยายต่อ
“เมื่อคนไข้จัดท่าทางเสร็จเราก็ควรจะเอาผ้าคลุมบริเวณที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจไว้ อันนี้จะช่วยคนไข้ให้สบายใจมากขึ้นและก็จะได้ไม่หนาวด้วย”
อาจารย์หมอเอาผ้ามาคลุมของสงวนของมิลค์ไว้ทำให้มิลค์สามารถเอามือออกได้หลังจากที่กุมไว้อย่างเหนียวแน่นมาตลอด จากนั้นอาจารย์ก็หยิบถุงมือยางขึ้นมาสวมแล้วบีบเจลหล่อลื่นลงไปที่นิ้วชี้
“เมื่อพร้อมเราต้องขออนุญาตคนไข้ที่จะสอดนิ้วเข้าไป แต่อย่าเพิ่งสอดทันที ให้วางนิ้วไปตรงบริเวณขอบของช่องทางก่อนให้คนไข้รู้ตัวแล้วถึงค่อยสอดนิ้วจริง”
อาจารย์บรรยายไปด้วยพร้อมกับแหวกแก้มก้นของมิลค์เพื่อสอดนิ้วไปอย่างชำนาญ ช่องทางสีชมพูปิดสนิทที่ได้รับการแต่งเติมสีสรรมาเป็นพิเศษจากทีมงานของหมอพฤกษ์กำลังถูกทะลุทะลวงต่อหน้าคนนับร้อย มิลค์บิดตัวไปมาส่งเสียงอี๊อ๊าเบาๆ ใบหน้าหล่อเหยเก ไม่รู้ว่าเจ็บหรือเสียว
“ขั้นตอนนี้ต้องระวังไม่ให้คนไข้เจ็บถึงบางครั้งจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ตาม ยังไงก็ใส่เจลหล่อลื่นให้เยอะหน่อยแล้วกัน เมื่อใส่ไปจนสุดแล้วเราจะขอให้คนไข้ขมิบกล้ามเนื้อหูรูดเพื่อดูจังหวะการตอดรัด จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วสัมผัสความผิดปกติต่างๆ เช่น พวกติ่งเนื้อ ควงนิ้วสามร้อยหกสิบองศาด้วยเพื่อตรวจดูให้ครบ”
อาจารย์หมอพูดไปควงนิ้วไปจนผมเสียวแทน
“การตรวจที่สำคัญอีกอันสำหรับคนไข้ชายคือการตรวจต่อมลูกหมาก เราจะใช้ปลายนิ้วคลำเพื่อดูขนาด ความสมดุลระหว่างด้านซ้ายกับด้านขวา ผิวสัมผัสว่าเรียบหรือขรุขระ แล้วก็ความยืดหยุ่นซึ่งต้องใช้การกดทดสอบ”
มิลค์ครางเสียงดังแบบกลั้นไม่อยู่ตามจังหวะการกดของผู้สาธิต ท่อนลำของเขาเริ่มขยายตัวขึ้นจนดันผ้าที่คลุมอยู่โป่งขึ้นเห็นได้ชัด ใบหน้าที่แดงก่ำและไรเหงื่อเม็ดเล็กๆ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากจริงๆ
อาจารย์หมอก็สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเลยอธิบายว่า
“อาการนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่แสดงว่าอาสาสมัครช่วยสอนของผมมีสุขภาพทางเพศที่สมบูรณ์อย่างที่วัยรุ่นควรจะเป็น ต่อมลูกหมากเป็นจุดเร้าที่ทำให้เกิดการกระตุ้นได้ง่าย เอาแบบชาวบ้านก็คงเรียกว่าจุดกระสันมั๊ง ถ้าคนไข้กังวลอย่างเห็นได้ชัดเราอาจจะพูดให้สบายใจได้ว่ามันเป็นปฏิกิริยาปกติที่เจอได้ในการตรวจแบบนี้ มิลค์ พอเกิดอาการนี้ เธอกังวลอะไรไหม”
“ผมกลัวหมอจะว่าผมเป็นเกย์ครับ”
“นั่นไง เรียกว่าเป็นความเข้าใจผิดที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ จะเป็นชายแท้ เกย์ หรือไบ ก็เกิดอาการนี้ได้เหมือนกัน”
“พอเสร็จทั้งหมดก็ค่อยๆ ดึงนิ้วออก ถ้าเป็นคนไข้จริง อาจมีสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ติดมาด้วย ต้องระวัง เตรียมทิชชู่รอไว้แล้วก็ต้องไปหัดวิธีถอดถุงมือแบบไม่ให้เปื้อน แต่อาสาสมัครของเรารักษาความสะอาดเป็นพิเศษก่อนมาสอนพวกคุณ ไม่ต้องกังวล”
อาจารย์หมอสรุปจบ พร้อมทั้งถอนนิ้วออกมาแล้วถอดถุงมือทิ้งอย่างรวดเร็วเรียบร้อย ส่วนมิลค์ก็ยังนั่งรูโบ๋นิดๆ เพราะอารมณ์ค้าง พอสงบใจได้จึงเอาทิชชู่ที่อาจารย์หมอส่งให้เช็ดทำความสะอาดคราบเจลหล่อลื่นที่เหลืออยู่แล้วไปหลบมุมใส่กางเกงอยู่เงียบๆ
“หวังว่าการสาธิตวันนี้จะทำให้พวกคุณเข้าใจความรู้สึกคนไข้มากขึ้น ควิซใหญ่ครั้งหน้า คนที่ได้คะแนนสูงสุดห้าอันดับแรก ผมจะให้สิทธิ์มาเข้าแลบฝึกตรวจร่างกายมิลค์เป็นกลุ่มพิเศษ และแน่นอน ที่หนึ่งจะได้รางวัลเพิ่มเติมด้วย วันนี้เลิกคลาสได้”
สาวแว่นข้างๆ ผมกดโทรศัพท์ออกทันที
“คุณพ่อเหรอคะ ช่วยหาอาจารย์พิเศษให้หนูหน่อยได้ไหม เอาอาจารย์หมอเก่งๆ เลย............. มีเวลาแค่อาทิตย์เดียวค่ะ เนื้อหาตั้งเยอะ................ ค่ะ...... เนื้อหาเกี่ยวกับอาการของโรค แต่มันรวมที่เรียนมาตั้งแต่ต้นเทอม อายุรกรรม ศัลยกรรม สูติ-นรีเวช กุมารเวชกรรม จักษุ และโสต ศอ นาสิก............. อาจารย์ท่านนั้นเก่งที่สุดในกระทรวงเลยเหรอคะ............ ก็ได้ค่ะ............ ยังไงหนูต้องท๊อปวิชานี้ให้ได้............... ขอบคุณค่ะ รักพ่อนะคะ”
พอวางหูไปเจ้าหล่อนก็หันมามองผมด้วยสายตาคมปลาบ
“นายก็คงอยากเข้าแลบพิเศษเหมือนกันสินะ แต่เสียใจด้วย อย่างมากนายก็ได้ที่สอง เอาเถอะ ถ้านายติดเข้ามาเป็นหนึ่งในห้าจริง ชั้นจะให้นายเป็นคนสอดนิ้วก็ได้ นายหน้าตาไม่เลว เหมาะจะมาประดับบารมีน้องมิลค์”
โอ๊ว ช่างมีพลังมุ่งมั่นที่น่ากลัวจริงๆ เห็นแล้วนึกถึงเจ๊ศศิกานต์เลยแฮะ ผมไม่สู้อยู่แล้วครับ ใครจะไปจำอาการโรคสารพัดสารเพได้ขนาดนั้น
พอผมมองไปอีกทีมิลค์ที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็กำลังถูกรุมล้อมด้วยเหล่าบรรดารุ่นพี่หมอปีสามที่เพิ่งเลิกคลาส
“น้องมิลค์หล่อที่สุดเลย ขอบคุณนะคะที่อาสามาช่วยสอนพวกพี่”
“เฮ้ย อาจารย์บอกอยู่ว่าต้องให้เกียรติ เรียกอาจารย์มิลค์สิวะ”
“อาจารย์มิลค์มีไลน์ไหมคะ พี่ขอหน่อย เผื่อจะได้ปรึกษาเรื่องเรียน”
“’จารย์มิลค์จะกลับคณะวิศวะอีกหรือเปล่า เฮียไปส่งเอาไหม ยังไงเฮียจะไปหาเพื่อนที่นั่นอยู่แล้ว เอาเบอร์หรือไลน์มาก็ได้ จะไปไหนมาไหนเฮียไปส่งได้”
“มึงมีเวลาเหรอ แค่อ่านหนังสือยังไม่ทันเลย อาจารย์มิลค์ให้พี่ดูแลดีกว่า พี่เทพเรื่องเรียนอยู่แล้ว มีเวลาเทคแคร์ได้เต็มที่”
เสียงเช็งแซ่จนอาจารย์หมอต้องเดินมาดู
“เลิกเรียนแล้วก็ไปกันได้แล้ว หนังสืออ่านกันหมดหรือยัง แล้วเรื่องไลน์เรื่องเบอร์โทรนี่ไม่ต้องขอเลยนะ มิลค์เขาต้องเจียดเวลาเรียนไปช่วยผมสอนรุ่นพี่ปีสีห้าหกของพวกคุณอีก เขาไม่มีเวลาให้พวกคุณหรอก เอาเป็นว่าผมจะตั้งเป็นรางวัลให้คนที่เรียนวิชาผมได้ดีในครั้งต่อๆ ไปแล้วกัน ทีนี้ก็แยกย้ายกันไปได้แล้ว”
อาจารย์หมอพูดแล้วก็พามิลค์ออกจากห้องไปท่ามกลางความเสียดายของทุกๆ คน ผมสบตาแล้วยกนิ้วให้กำลังใจมิลค์อีกครั้งก่อนจะปิดล็อคความทรงจำเรื่องหน้าตาของผมออกไป
เป็นอันว่าภารกิจที่สี่ของวันก็จบลงไปได้ด้วยดี อาจารย์หมอเอาทาสมาใช้ได้ดีกว่าที่คิดเยอะ เป็นการลงโทษที่รุนแรงไม่น้อยแต่ก็เป็นประโยชน์กับส่วนรวมด้วย กว่าจะหมดสัญญา มิลค์คงเข็ดไปจนตาย ฉลาดเว่อร์สมเป็นหมอคนดังจริงๆ ว่าแต่แนวทางของอาจารย์หมอนี่ทำให้ผมเกิดไอเดียอะไรต่อมิอะไรขึ้นมาเยอะเหมือนกัน เดี๋ยวจะลองเอาไปต่อยอดดู