ตอนที่ 2ช่างน่าขันในโชคชะตาเหลือเกิน หลังจากคืนนั้นภูริชก็ไล่ดรีมไปเก็บข้าวของที่หอพักของเขา เพื่อที่จะย้ายไปอยู่กับเจ้าหนี้ที่ภูริชไปทำสัญญาเอาไว้ เรื่องย้ายหอย้ายที่อยู่ก็จำเป็นต้องบอกที่บ้าน ดรีมอ้างกับแม่ว่าจะย้ายไปอยู่กับเพื่อนเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทางแม่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก
ครอบครัวของดรีมไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็พอมีกินอยู่บ้าง แม่ของเขาเป็นคุณครูสอนเด็กมัธยมที่โรงเรียนเล็กในต่างจังหวัด เช่นเดียวกับพ่อของเค้าที่เป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียน ก็เป็นแค่ผู้อำนวยการโรงเรียนเล็กๆเช่นกัน ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากมาย แต่ดรีมก็ไม่อยากให้ท่านทั้งสองเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะลูกชายแบบเขา
ดรีมมีน้องชายอีกหนึ่งคนซึ่งตอนนี้เรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นในโรงเรียนประจำจังหวัดที่บ้านเกิดของดรีม มีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่ดั้นด้นมาเรียนมหา’ลัยไกลถึงกรุงเทพ เพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ในช่วงแรกที่สอบติดมหา’ลัยในกรุงเทพ พ่อกับแม่ก็ห่วงแทบแย่ กลัวว่าดรีมจะไม่ได้ เนื่องตัวเขาเองไม่เคยย่างกรายเข้าเมืองกรุงสักครั้ง แต่เพราะมีเพื่อนที่จบจากโรงเรียนเดียวกันมาเรียนในมหา’ลัยเดียวกัน พ่อกับแม่ก็วางใจ
ดรีมกับภูริชอยู่คนละคณะ ความบังเอิญทำให้ทั้งสองมาเจอกันตอนแข่งกีฬาระหว่างคณะ ดรีมเรียนเศรษฐศาสตร์ส่วนภูวิชเรียนนิติศาสตร์ ถึงแม้จะอยู่คนละคณะ แต่เพราะความถูกใจทำให้ทั้งคู่ได้สานต่อความสัมพันธ์มาจนได้คบกันเป็นแฟนตั้งแต่ปีหนึ่ง จวบจนกระทั่งตอนนี้ดรีมขึ้นปีสอง ตลอดระยะเวลาที่คบกันมาในช่วงแรกภูวิชก็ดีกับดรีมทุกอย่าง ดูแลไม่มีขาดตกบกพร่อง แต่ผีพนันก็เริ่มเข้าสิงแฟนของเขา มีเพื่อนมาชวนภูวิชเล่นพนันบอล ดรีมก็คอยเตือนอยู่ตลอดว่ามันไม่ดี แต่ภูวิชก็ดื้อด้านที่จะเล่นต่อ จนกระทั่งเล่นจนติดหนี้พนันบอลอยู่หลายเจ้า
บ้านภูริชเองก็มีธุรกิจค้าขาย จะเรียกว่าไม่ขาดแคลนเลยก็ว่าได้ เงินทองที่ได้มาก็มาจากน้ำพักน้ำแรงของเตี่ยภูวิชเองทั้งนั้น ถึงแม้ว่าบ้านภูริชจะไม่ได้ขัดสนอะไร เตี่ยของเขาก็มักจะสอนให้ลูกประหยัดอดออมอยู่เสมอ แต่ลูกชายกลับทำงามหน้าติดหนี้พนันบอลไปทั่ว รถยนต์ที่ในตอนแรกมีขับไปเรียนก็ต้องแอบเตี่ยเอาไปขาย หาเงินใช้หนี้พนันบอลไปวันๆ พอเตี่ยของภูริชรู้เรื่องเข้าก็สั่งห้ามไม่ให้เขาเล่นพนันอีก แถมยังหักดิบด้วยการงดค่าใช้จ่ายเป็นปีอีกด้วย แต่เขาก็มิวายที่จะเลิกเล่น ข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ในคอนโดก็ถูกขายกินไปจนหมด มิหนำซ้ำยังขอยืมเงินจากดรีมไปอีกด้วย ซึ่งนั้นก็เป็นเงินที่ดรีมเก็บเอาไว้ใช้ยามจำเป็น แต่เพราะความที่รักและเห็นใจแฟนตัวเอง ดรีมเลยต้องยอม
“ไปเก็บข้าวของของมึงได้แล้ว” เสียงภูริชดังขึ้น ทำให้คนร่างบางดึงสติกลับมาจากภวังค์
“นานแค่ไหนที่กูต้องไปอยู่กับเจ้าหนี้มึง”
“จนกว่ากูจะหาเงินมาคืนมันได้”
“แล้วนานแค่ไหน!”
“โธ่เว้ย!! อย่ามาเซ้าซี้กูได้ไหม แค่นี้ก็จะปวดหัวตายอยู่แล้ว หรือมึงอยากโดนประจาน” ร่างสูงขู่ ดรีมได้แต่ก้มหน้าเก็บของต่อโดยไม่ต่อปากต่อคำกับภูวิชอีก
“ละ...แล้วกูต้องทำอะไรบ้าง” ร่างบางถามด้วยเสียงสั่นเครือ
“ทุกอย่างที่มันต้องการ”
“ถ้าผิดกฎหมายกูไม่ทำ!”
“กูไม่รู้หรอกมันจะให้มึงทำอะไรบ้าง มันไม่เกี่ยวกับกูแล้ว”
หึ ให้มันได้อย่างนี้สิ นี่มันเป็นเวรกรรมอะไรของเขานักหนา ทำไมต้องมาเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้ด้วย จะหนีไปให้ไกลๆให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้... พ่อกับแม่จะอยู่อย่างไร แล้วถ้าคลิปวิดีโออุบาทว์นั้นถึงมือท่าน ท่านจะเสียใจกับลูกชายแบบเขาแค่ไหน ไม่สร้างประโยชน์ก็อย่างสร้างภาระให้ท่าน อย่าสร้างความทุกข์และหนักใจให้ท่าน ดรีมได้แต่บอกตัวเองให้อดทน
อดทนไว้ก่อน ขืนทำอะไรขัดใจมันขึ้นมา ก็มีแต่ผลเสียเท่านั้นที่จะตามมา
ดรีมได้แต่กัดฟันกรอดอย่างจำยอม ภายในใจมีแต่ไฟแค้นและคำสาปแช่งมากมายให้ชีวิตภูวิชฉิบหาย ถึงแม่เขาจะคอยบอกคอยสอนเสมอว่า ต่อให้เกลียดโกรธใครเข้าก็ไม่ควรที่จะว่าร้ายหรือสาปแช่ง เพราะมันบาป ปล่อยให้เขาได้เผชิญหน้ากับกรรมที่ได้ทำไว้ด้วยตัวเอง แต่คราวนี้ดรีมทนไม่ไหวกับความเลวทรามของไอ้ภูวิชที่มันทำกับดรีมไว้ไม่ได้จริงๆ
ขอโทษนะแม่...ที่เคยสอนแต่ดรีมก็ไม่เคยจดจำและนำมาใช้
ขอโทษนะพ่อ...ที่มีลูกไม่ดีอย่างดรีม เพราะความโง่เขลาและความรักที่มีให้ผิดคน ทำให้ดรีมต้องมาเจอกับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
เขาว่ากันว่า...ถ้ายิ่งรัก พอได้เกลียดก็เกลียดจนเข้ากระดูกดำ
ภูริชพาดรีมมาส่งที่คอนโดหรูในใจกลางเมือง เขาส่งดรีมแค่บริเวณหน้าคอนโดเท่านั้นก่อนจะโทรหาใครสักคน สักพักภูริชก็เดินกลับเข้ามาหาดรีม
“ทำตัวดีๆ ถ้าไม่อยากฉาว” ภูริชชี้หน้าเขาก่อนจะพูดจาข่มขู่อีกครั้ง
“มะ...มึงก็อย่าลืมที่สัญญา”
“กูไม่ลืมหรอก ถ้ากูเอาเงินมาคืนให้มันได้ ตัวมึงก็เป็นอิสระทั้งจากมัน...แล้วก็กู”
“กูก็คงไม่กลับไปคบกับคนเลวๆแบบมึงหรอก หึ”
“อย่าปากดีให้มาก ตอนนี้มึงก็แค่ลูกไก่ในกำมือกูเท่านั้น...ยืนรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวมีคนมารับตัวมึงไป” ว่าแล้วภูริชก็สาวเท้ารีบเดินออกจากคอนโดหรู
ไม่นานก็มีชายร่างสูงใหญ่สองคนเดินเข้ามาหาดรีมที่ยืนหน้าตาเหลอหลาอยู่บริเวณล็อบบี้
“คุณ...คุณเป็นคนของคุณภูวิชรึเปล่า” ชายสวมแว่นดำใส่สูทคนที่หนึ่งพูดขึ้น
ดรีมพยักหน้ารับ
“แล้วคุณภูริชล่ะครับ” ชายสวมแว่นดำอีกคนได้เอ่ยถาม ร่างบางได้แต่ส่ายหัวแทนคำตอบ
“คงไปแล้วล่ะ” ชายคนที่หนึ่งพูด
“อย่างนั้น.. เชิญตามผมมาครับ”
ชายร่างสูงใส่สูททั้งสองคนเดินนำหน้าเขาตรงไปที่ลิฟท์ ก่อนจะพาขึ้นไปที่ชั้น 23 คอนโดแห่งนี้มีตั้ง 30 กว่าชั้นแหนะ ดรีมเดินตามหลังชายทั้งสองก่อนจะมาหยุดที่หน้าห้องห้องนึง ชายหนึ่งในนั้นควักคีย์การ์ดออกมาก่อนจะแตะเข้าที่เครื่องสแกนหน้าประตู
“เชิญครับ” ชายร่างสูงผายมือเข้าไปด้านใน ดรีมโค้งหัวลงขอบคุณก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน
ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเทาล้วน เห็นแล้วรู้สึกสบายตาขึ้นมา โทนสีห้องทั้งหมดจะเป็นสีเทาตัดกับสีขาวอย่างลงตัว ดูออกแนวสไตล์โมเดิร์นหน่อย ร่างโปร่งบางเดินเข้าไปยืนหยุดตรงกลางห้อง ก่อนจะกวาดสายตามองหาผู้ที่อยู่อาศัย แต่ก็มีเพียงความเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่
ร่างบางเดินไปนั่งที่โซฟาสีเทาหรูที่อยู่กลางห้องเพื่อนั่งรอใครสักคน ที่มีศักดิ์เป็นเจ้าหนี้ เวลาผ่านไปราวชั่วโมง ดรีมเริ่มเมื่อยล้าและง่วงขึ้นมา เมื่อคืนเขาไม่ได้นอนจนถึงเช้า เอาแต่คิดเรื่องนี้อยู่ทั้งคืน มันเครียดจนนอนไม่หลับ แต่ร่างกายเริ่มไม่ไหว มันต้องการพักผ่อน ดรีมตาปรือมองไปรอบๆห้องอีกครั้ง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ประตูเปิดเข้ามา พร้อมกับร่างสูงใหญ่กำยำของอีกคน
ร่างบางเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าร่างสูงที่เดินเข้ามานั้นเป็นใคร ไม่มีใครในมหา’ลัยที่ไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ กิตติมศักดิ์ดังกระฉ่อนไปทั้งมหา’ลัย ทั้งเรื่องดี...และไม่ดี เรื่องดีที่ว่าก็คือหน้าตาหล่อเหลาอย่างกับเทพบุตรของเขาคนนี้ ส่วนเรื่องไม่ดีที่ดรีมได้ยินมาก็คือ...ความโหดร้าย ป่าเถื่อน ถึงจะเรียนนิติศาสตร์แต่ตัวเขาเองก็ไม่เห็นจะเกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใด เขาเปิดให้กู้นอกระบบให้นักศึกษาและเก็บดอกเบี้ยเป็นเท่าตัว มีคนมากมายที่กู้ยืมจากเขา ถ้าใครเบี้ยวหนี้หรือไม่คืนตามกำหนดก็โดนสั่งเก็บ นี่คือสิ่งที่ดรีมได้ยินมาจากเพื่อนอีกที
‘เสี่ยเผ็ด’
ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้น ทั้งๆที่อายุก็ยังน้อย...
แต่เพราะพฤติกรรมอันน่าเกรงขามของเสี่ยเผ็ด ก็เลยทำให้คนในมหา’ลัยเรียกเขาว่าเสี่ยเผ็ด ดรีมรีบลุกขึ้นก่อนจะยกมือไหว้คนแก่กว่าตรงหน้า จริงๆก็ไม่ได้กลัวมากเท่าไหร่ ที่ไหว้ก็เพราะไหว้ตามมารยาทเท่านั้น
“มาแล้วหรือ” เสียงทุ้มเอ่ยทัก ร่างสูงย่างกรายเข้ามายืนเผชิญหน้ากับดรีมที่ยืนก้มหน้าตัวสั่นงกๆอยู่ ร่างบางได้ยินเสียง หึ ขึ้นจมูก คล้ายกับคนตรงหน้าหัวเราะเยาะ
“ชื่ออะไร”
“ด..ดรีมครับ”
“เรียนที่ไหน อายุเท่าไหร่” ร่างสูงเริ่มซักประวัติ
“เรียนที่มหา’ลัยXXX คณะเศรษฐศาสตร์ ตอนนี้อายุ 20 ปีครับ”
“อืม...ก็ที่เดียวกัน นั่งก่อนสิ”
คนตัวโตเชื้อเชิญให้เขานั่ง ดรีมค่อยๆช้อนตามองก่อนจะรีบก้มหลุบตามองพื้นเหมือนเดิม คนอะไรตาดุชะมัด เขาได้แต่คิดในใจ ก่อนจะค่อยๆย่อตัวลงนั่งที่พื้นพรม
“ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟากับกูสิ” ร่างสูงตบมือลงโซฟาที่ว่าง
“เอ่อ...ให้ผมนั่งพื้นก็ได้ครับ”
“งั้นก็ตามใจ”
“….”
“รู้ไหมว่าทำไม..มึงถึงมาอยู่ที่นี่ได้” เขาเอ่ยถามขึ้น
“รู้ครับ...ผมรู้ดี”
“จะโทษกูไม่ได้หรอกนะ มึงต้องโทษแฟนเฮงซวยของมึง หึ”
“ครับ...ผมรู้”
“กูไม่รู้หรอกนะว่า มันเกลี่ยกล่อมยังไงให้มึงมาจนได้ หรืออาจะเป็นเพราะความรักของมึง แต่กูบอกไว้ก่อนเลยว่ากูไม่สน...”
“….” ความรักของดรีมมันหมดไปตั้งแต่โดนภูวิชหักหลังแล้ว ตอนนี้ในใจของเขามีแต่ความเคียดแค้นเข้ามาแทนที่
“แล้วแฟนมึงได้บอกรึเปล่าว่ามึงต้องทำอะไรบ้าง”
“เปล่าครับ เขาแค่บอกให้ผมทำตามที่คุณสั่งทุกอย่าง”
“แล้วเรื่องบนเตียงล่ะ...ทำได้ใช่ไหม”
“ว่าไงนะ!” ร่างบางถึงกับโพลงออกด้วยความตกใจ
“มันไม่ได้บอกหรือ? หึ”
“แต่ผมไม่ได้มาขายตัว!”
“กูก็ไม่ได้บอกว่ามึงขาย เอะ...หรือเหมือนขาย เพราะมึงก็ต้องมีเซ็กส์กับกูแลกกับเวลาที่กูต่อให้แฟนมึงไปหาเงินมาชดใช้”
“ผมไม่ทำ!” ร่างบางลุกขึ้นยืนพร้อมกับมองคนตรงหน้าด้วยความวาวโรธ แค่นี้เขาก็เสียศักดิ์ศรีมากพอแล้ว จะทำให้เขาโดนย่ำยีไปถึงไหนกันภูวิช!
“อย่างนั้นหรือ...เอาแบบนั้นก็ได้ กูจะโทรหาภูวิชให้มาตัวมึงคืนไป แต่วันนี้กูต้องได้เงินทั้งหมดทั้งต้นและดอก” ร่างสูงเหยียดยิ้มมุมปากพลางนั่งกอดอกมองคนตัวบางตรงหน้า ด้วยท่าทีสนุกสนาน
ถ้าเสี่ยเผ็ดยกเลิก แล้วคืนตัวเขาให้กับภูวิชล่ะก็...ภูริชต้องไม่ยอมแน่ๆ แล้วคลิปวิดีโอร่วมรักของเขากับภูริชก็ต้องส่งถึงมือพ่อกับแม่ ทุกอย่างมันจะพังยิ่งกว่าเดิมถ้าหากเขายังดื้อด้าน ดรีมต้องยอมจำนนอีกกี่ครั้งถึงจะหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์นี่ซะที ร่างบางยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเนียนอย่างลวกๆ ก่อนจะหันหน้าไปเผชิญกับเสี่ยเผ็ดอีกครั้ง
“ได้...ผมจะยอมทำตามที่คุณบอกทุกอย่าง”
“บทจะง่ายก็ง่ายแหะ อย่างนั้นก็ดี...กูเองก็ไม่ชอบตอแยใคร”
“แล้วผมต้องทำอะไรอีก...” ร่างบางพูดด้วยเสียงแผ่วเบาอย่างหมดแรง
“งานทำความสะอาดคงไม่ต้อง เพราะกูมีแม่บ้านประจำ... ได้ยินว่ามึงทำอาหารเป็นหรือ”
“ก็พอได้ครับ”
“ทำอาหารให้กูทุกมื้อ แต่ถ้ากูสั่งนอกเหนือจากนั้นมึงก็ต้องทำ”
“ถ้าผิดกฎหมาย...ผมไม่ทำได้ไหม”
“กูเรียนกฎหมายมา แน่นอนว่ากูไม่ให้มึงทำอะไรไม่ดีหรอก”
“ก็ยังดีครับ”
“กลัวรึไง”
“ผะ..ผมไม่ได้กลัว”
“แล้วกลัวกูไหม?”
ร่างสูงยิ้มมุมปาก ก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูง มือหนารั้งเอวบางของครีมเข้าประชิด และด้วยความตกใจร่างบางได้ยืนอ้าปากพะงาบ มือเล็กทั้งสองข้างพยายามดันอกแกร่งของอีกคนออกแต่ก็ไม่ได้ผล คนตัวโตกว่าโน้มหน้าลงใกล้จนจมูกโด่งชนกับจมูกโด่งรั้นของครีม นิ้วเรียวยาวยกขึ้นเกลี่ยเส้นผมนุ่มที่บดบังใบหน้าหวานออกช้าๆ
“ฮื้อ...ผม...ผมไม่กลัวหรอก” ร่างบางพยายามเบี่ยงหน้าหนีจากอีกฝ่ายที่กำลังรุกราน
แต่ร่างสูงก็มิวายตามมาแกล้ง ปากหยักก้มลงเฉียดใบหูแดงๆของดรีม ก่อนจะกระซิบเบาๆ...
“แสดงว่า...เรื่องบนเตียงก็คงไม่ต้องกลัวสินะ”TBC.
talk; เอาเสี่ยเผ็ดมาเสิร์ฟแล้ววว ตอนนี้นิสัยของเสี่ยเผ็ดยังไม่เป็นที่แน่ชัด ต้องค่อยๆดูกันไปนะคะ