King Of CrossDress!!ราชาแห่งครอสเดรส!![#67 รัก...ก็บอกว่ารัก][END](21/2/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: King Of CrossDress!!ราชาแห่งครอสเดรส!![#67 รัก...ก็บอกว่ารัก][END](21/2/63)  (อ่าน 135031 ครั้ง)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แกะของขวัญ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   :hao6:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ถถถถถถถถถ......ธีร์ อดแกะกล่องของขวัญซะและ   o22 :sad4: :o12: :z3: :serius2:
คนอ่านก็อดเผิอกไปด้วยยยยยยยยย ถถถถถถถถถถถถ......เสียดายจัง  :hao5: :mew2: :sad4:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
KING ที่ 62 ชายหาดและเกลียวคลื่น


 ในวันต่อมา พี่เรียวติดต่อผมอย่างเร่งด่วนและบอกข่าวที่ทำให้ผมถึงกับขวัญผวา พี่เรียวบอกผมว่าผมถูกยกเลิกสัญญาการเป็นพรีเซ็นต์เตอร์กับบริษัทถึงสามแห่ง ซึ่งผมก็ยอมรับเรื่องแบบนี้แต่โดยดี ผมคิดไว้อยู่แล้วว่าการปกปิดข้อมูลสำคัญของผม ทำให้ผมถูกถอนออกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ยังที่ไม่ทันจะได้ทอดถอนใจ พี่เรียวกลับบอกว่าไอ้ที่ต้องการยกเลิกน่ะมีเล็กน้อย แต่บริษัทที่ต้องการเซ็นต์สัญญาจ้างผมนั้น มีอีกเป็นสิบราย ผมได้แต่อึ้งกิมกี่ นี่มันอะไรกัน ผลตอบรับที่ผมคิดว่าแย่ ความจริงแล้วกลับดีขึ้นต่างหาก

 แต่สิ่งที่แลกมา ก็คือชีวิตที่แสนอิสระของผม ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ ผมถูกติดต่อให้ไปออกรายการทีวีในหลายๆ ช่อง และพี่เรียวก็ไม่รอโอกาสให้ผมปฏิเสธ ทำให้ตอนนี้ผมมีงานมากมาย กลายเป็นบุคคลที่ไม่มีใครไม่รู้จักอีกแล้ว

 "เห็นไหม พี่บอกแล้ว ว่าคนที่ชอบผลงานของฟาต้องมีเยอะกว่าแน่ๆ" พี่เรียวพูดขณะขับรถพาผมกลับ หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายรายการแล้ว

 "ครับ ขอบคุณครับ" ผมพูดและยิ้มให้พี่เรียว ถึงจะเหนื่อย แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี

 "แต่พี่ก็ยังไม่ลืมนะ เรื่องเบอร์โทรพี่น่ะ" ผมเสียวสันหลังวาบทันที พี่เรียวพูดด้วยรอยยิ้มไม่เป็นมิตรบนใบหน้า เพราะว่าผมนั้นได้ให้เบอร์โทรพี่เรียวกับพี่ธีมไป และแน่นอนผมโดนเฉ่งยับ พี่เรียวถึงกับเปลี่ยนเบอร์ เปลี่ยนโทรศัพท์หนีเลยทีเดียว

 "แหม่พี่เรียว พี่ธีมก็นิสัยดีอยู่น้าา..." ผมพูดและเหลือบมองพี่เรียว ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้า แบบนี้หยุดพูดดีกว่า

 "หิวจัง" ผมพูดลอยๆ เปลี่ยนเรื่อง

 "เดี๋ยวลงร้านข้างหน้าแล้วหาข้าวกินเอาละกัน" พี่เรียวพูดและจอดรถที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง หยิบหมวกแก๊บใส่หัวผม และแว่นดำยัดใส่มือ

 "อ้าว พี่เรียว พี่จะทิ้งผมได้ไง" ผมพูดและไม่ยอมลงจากรถ นี่โกรธจริงเหรอเนี่ย

 "ลงไป เร็วๆ"

 "พี่เรียววว"

 "ฟา เร็วๆ พี่จะรีบไปธุระต่อ" ผมทำแก้มป่องและค่อยๆ ลงจากรถ หนอย ไอ้พี่บ้า กล้าทิ้งกันได้ไง ที่ไหนก็ไม่รู้ด้วยเนี่ย

 "ใช่ดาราที่เป็นข่าวป่ะ"

 "บอกผู้ชายๆ แต่มีผัวเป็นผู้ชาย"

 "กระเทยอ่าดิ ชอบแต่งหญิง แต่แอ๊บแมน"

 ผมกระชับหมวกที่สวมไว้แน่นและก้มหน้าลงไม่สบตาใคร คนที่รักน่ะก็มีเยอะ แต่คนที่ไม่ชอบและมองผมด้วยสายตาเหยียดหยามก็มีเช่นกัน ก็เหมือนกับสมัยก่อนนั่นแหละ ความตัวเล็กและหน้าแบบผมทำให้หลายๆ คนล้อผมแบบนี้มานานแล้ว และพวกคนที่พูดแบบนั้น ก็จะจบลงด้วยการ...

 "อยากแดกตีนกระเทยไหมล่ะ ดูหน้ากูนี่ กูก็หน้าหวานนะ ผัวกูก็เป็นผู้ชายด้วย" ผมที่ก้มหน้าก้มตาเตรียมเดินหนีจากร้านก็รีบเงยหน้าขึ้นทันที เสียงที่ได้ยินผมนั้นคุ้นเคยมาก คำพูดคำจาปากคอเรอะร้ายแบบนี้ไม่มีใครอื่น

 "ไอ้เนม" ผมพูดพลางมองผู้ชายตัวเล็กที่ท่าทางนักเลงใช่ย่อย กำลังขู่ขวัญคนที่ว่าร้ายผมให้ลุกหนีกระเจิงออกจากร้านไป

 "ว่าไง เพื่อนกู ดังแล้วหายเงียบเลย" ผมยิ้มให้เพื่อนและเดินเข้าไปดึงคอมันมากอดแรงๆ

 "โครตคิดถึงเลยไอ้เตี้ย"

 "เตี้ยพ่อง มึงกับกูนี่แทบไม่ต่างกัน" ผมหัวเราะและพามันไปนั่งลงที่โต๊ะห่างๆ นอกชานร้านที่มีต้นไม้และไฟประดับสวย

 "มึงมาไงเนี่ย แล้วผัวมึงอ่ะ" ผมพูดและมันก็ถอนหายใจทันที

 "นี่พี่เรียวไม่บอกอะไรมึงเลยเหรอ ส่วนไอ้เชี่ยนน ช่างแม่งเดี๋ยวมันก็มา มันตายยาก" ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ร้องอ๋อ ที่แท้พี่เรียวก็พาผมมาส่งหาพวกมันนี่เอง ก็คิดว่าทิ้งกันซะอีก

 "โทรหามึงไม่ติดเลย กูก็เลยโทรหาพี่เรียว"

 "ช่วงนี้กูยุ่งๆ ว่ะ โทษที"

 "กูเห็นมึงตัดสินใจบอกความจริงก็โล่งอกแทนนะ กูว่ามึงทำถูกแล้วล่ะ" ไอ้เนมเริ่มเรียกบริกรมารับออเดอร์ มันรู้เรื่องของผมตั้งแต่ม.ปลายแล้ว มันคงรู้ว่าผมอึดอัดแค่ไหน

 "อืม เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลย" ผมพูดและรีบเทน้ำโค้กใส่แก้วก่อนที่มันจะกลายเป็นเบียร์ซะก่อน

 "ไปทะเลกัน" หืมมม ผมชะงักมือที่กำลังรินน้ำ จนล้นออกมาเลอะมือ

 "ไปทะเลกัน ไปฉลองกัน!" ไม่พูดเปล่า ไอ้เนมลุกขึ้นมากอดคอผม ชวนผมแบบกระตือรือร้น

 "เป็นความคิดที่ดี" ไอ้คำพูดนี้ผมไม่ได้พู๊ด เสียงที่คุ้นเคยกันดีดังขึ้นที่ด้านหลัง ผมหันไปมองไอ้สองตัวที่กำลังเดินเข้ามาหา ตัวสูงตระหง่านเป็นยักษ์ปักหลั่น

 "ไปกันเหอะ คืนนี้เลย ขับรถไปแปบเดียว" ผมจิกตามองไอ้นนที่สนับสนุนความคิดนั้น มึงนี่ทาสเมียสินะ เมียมึงว่าอะไรก็ทำตาม

 "กูน่ะ ไม่อะไรหรอก แต่หมา เอ้ยหมอแบบพวกมึงไม่เรียนหรือไง" ผมกอดอกถาม

"ไม่มีปัญหา" สองตัวประสานเสียง กูเริ่มคิดจริงๆ แล้วว่าพวกมึงมีแผนอะไร แต่ก็ช่างเหอะ พวกเราไม่เคยได้ไปไหนไกลๆ ด้วยกันเลย แบบนี้ก็ดี ผมมีเรื่องมากมายอยากคุยกับพวกมัน

 เมื่อกินข้าวกันเรียบร้อย พวกเราก็รีบออกเดินทางตั้งแต่ยังไม่ดึกมาก โดยมีไอ้นนเป็นคนขับรถ ไอ้เนมคอยบอกทาง และผมกับไอ้ธีร์นั่งอยู่ที่เบาะหลัง

 ผมเริ่มคิดนิดๆ ว่าผมตัดสินใจถูกไหมนะที่ไปทะเลคราวนี้ เพราะผมกับไอ้ธีร์ ตั้งแต่คืนวันเกิดของมัน พวกเรายังไม่ได้ทำอะไรกันเลย มีเรื่องวุ่นๆ และงานมากมายที่ทำให้ผมต้องไปนอนกับพี่เรียวบ่อยขึ้น ไม่ได้จังหวะที่จะไปนอนคอนโดด้วยกันสักที

 ผมเหลือบมองไอ้ธีร์ที่นั่งกอดอกตัวตรงทำเป็นหันมองออกไปนอกกระจก แต่เงาสะท้อนที่ผมเห็น หนอยย มึงไม่ต้องมาเนียนทำสุขุม มึงแอบมองกูอยู่ชัดๆ

 "มึงสองตัวคุยกันก็ได้นะ กูไม่ได้ห้าม" ไอ้เนมยิ้มกริ่มเหลือบมองผมกับไอ้ธีร์

 "หรือจะเxxกันเลยก็ได้ กูไม่ถือ"

 "ไอ้เชี่ยเนม!" ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็หน้าเปลี่ยนสีทันที หันไปแหวใส่ไอ้เพื่อนชั่วแทบไม่ทัน ซึ่งมันก็เอาแต่หัวเราะ กูไม่ขำนะโว้ยยย ถ้ามันเอาจริงกูจะทำไง๊

 ผมแหวไอ้เนมและหันควับมองไอ้ธีร์ด้วยสายตาข่มขู่ มึงกล้าเหรอ อย่ามาโชว์พาวแถวนี้นะโว้ย แต่ไอ้ธีร์ก็ไม่ได้ทำอะไร มันยังคงนั่งนิ่งอย่างเรียบร้อย สงบเสงี่ยมราวคลื่นก่อนมีพายุ

 "เออ แล้วกูถามหน่อย พวกมึงอยู่ดีๆ ก็จะมา มึงจองโรงแรมแล้วเหรอ" ผมถามแบบโง่ๆ โดยไม่รู้ว่ามันจะตอบแบบโง่ๆ

 "ไม่ได้จอง นอนริมหาดละมั้ง"

 "ไม่เอา กูอยากอาบน้ำ" ผมพูดบอกมัน นี่เพิ่งทำงานมาเหนียวตัวจะตายชัก

 "แหม ไม่หอมไอ้ธีร์ก็ไม่บ่นหรอกมั้ง" ยังๆ ไอ้หอกเนมยังคงกวนตีนผมไม่เลิก มันน่าไหมล่ะ

 "มึงเลิกพูดเรื่องใต้สะดือสักทีเหอะ รู้งี้กูไม่น่ามาเลย" ผมพูดบ่นเพื่อน ไอ้นนก็ไม่เห็นพูดอะไรเลย ไอ้ธีร์ยิ่งแล้ว ปกติถ้าอยู่แบบนี้มันต้องพยายามมาจับมาแตะผมบ้างแหละ นี่มันแปลก

 "อย่าไปเชื่อไอ้เนมมากเลยฟา ที่นอนน่ะมี" ผมที่ได้ยินไอ้นนพูดก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่ต้องนอนกลางทรายยังไงก็ดี...

 "แต่มีห้องเดียวนะ" ไอ้นนเพิ่งจะพูดจบพลางหัวเราะคิกคัก ห้องเดียว ห้องเดียว!! แต่เออ ห้องเดียวก็ห้องเดียวสิวะ ดีซะอีก กูปลอดภัยแน่

 "ตามที่ตกลงกันไว้นะไอ้ธีร์" ไอ้นนพูดต่อพลางเหลือบส่งสายตาให้เพื่อนมัน เดี๋ยวๆๆๆ พวกมึงตกลงอะไรกัน ทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่อง

 "ตกลงอะไรวะ ห้องเดียวอะไรมึง" ดีมากกก ผมมองไอ้เนมที่ถามไอ้นนด้วยหน้าตาไม่สบอารมณ์ แปลว่าไอ้เนมก็ไม่รู้เรื่องนี้ด้วย

 "กูแค่จะมาเล่นน้ำนั่งเล่นโต้รุ่ง มึงจะจองที่นอนทำไม"

 "ก็เผื่อเอาไว้อาบน้ำไง จะทนเหนียวตัวทั้งคืนได้เหรอ" ไอ้นนรีบพูดแก้ตัว ผมเหลือบมองไอ้ธีร์ที่ยังคงนั่งสงบเสงี่ยมเป็นพระพุทธรูป รู้สึกสังหรณ์ใจยังไงไม่รู้

 "ไอ้เนม งั้นมึงนอนกับกู ปล่อยไอ้สองตัวนี่นอนชายหาด" ผมที่พูดแบบนั้นไอ้คนที่นั่งนิ่งก็เริ่มมีปฏิกิริยา กูว่าแล้วไง มึงคิดแผนชั่วอยู่ใช่ไหม

 "เออดี เอาตามนั้น" ไอ้เนมตอบรับทันควัน ทำเอาไอ้คนข้างๆ ผมเริ่มยุกยิก

 "ก็นอนด้วยกันนั่นแหละ ไม่มีอะไรหรอก" ไอ้ธีร์เริ่มพูดเป็นครั้งแรก หนอยย มึง แผนร้ายมันอยู่ในแววตาของมึง พออยู่กับเพื่อนละเอาใหญ่เลยนะ

 "ใช่ๆ ล้อเล่นเอง ไม่ได้วางแผนอะไรกันเลยจริงๆ" ผมมองไอ้ธีร์และไอ้นนที่พยักหน้าให้กัน กูเชื่อพวกมึงตายล่ะ

 และไม่นานพวกเราก็มาถึงทะเลที่ใกล้ที่สุดในแถบๆ นี้ พวกเราจอดรถไว้ใต้ต้นสนต้นใหญ่ ลมทะเลที่พัดเย็นกระทบใบหน้า ทำให้ผมรู้สึกชื่นใจ พวกเราเดินจับกันเป็นคู่ๆ ไปสู่ชายหาดที่มีเพียงแสงจันทร์สาดส่อง ท้องทะเลที่มีเกลียวคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง ช่างเป็นบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกดีจริงๆ

 "อย่าลงไปเล่นเลย กลางคืนมันอันตราย" ไอ้ธีร์ดึงมือห้ามผมไว้ทันทีที่ผมถอดรองเท้า ใบหน้าของมันในความมืดสะท้อนกับแสงนวลของดวงจันทร์ มันจะรู้ไหมนะ ว่าตอนนี้มันดูดีแค่ไหน

 "เดินแค่ริมๆ นี่แหละ" ผมพูดและดึงมือมันให้เดินตามผมมาด้วย พวกเราเดินไปเรื่อยๆ เลาะริมชายหาด สายลมเย็นทำให้ผมราวกับล่องลอย ผมค่อยๆ วิ่งผละออกจากคนรัก ปล่อยมือที่เกาะกุมกันไว้

 "ฟา อย่าวิ่ง ถ้าเท้าโดนอะไรบาดจะทำยังไง" ไอ้ธีร์ส่งเสียงดุผม และเดินตามผมที่วิ่งไปตรงนั้นที ตรงนี้ที ซึ่งไกลๆ เกือบลับสายตานั้น ผมเห็นไอ้นนกับไอ้เนมเดินไปอีกทาง กำลังท่าทางหนุงหนิงหมุงหมิงเช่นกัน

"ฟา ได้ยินไหม บอกว่าอย่าวิ่ง" ผมหน้าบูดเล็กน้อย ไอ้ธีร์ จะมีกี่วันที่มันไม่ดุผม แล้วพูดเพราะๆ เอาใจผม บอกได้เลยว่าโมเม้นนั้นไม่ได้มีมาบ่อยๆ ขัดใจโว้ย

 และผมก็คิดอะไรดีๆ ออก ผมหันหน้าไปหามัน ส่งยิ้มหวาน ส่งสายตาอ่อยหว่านเสน่ห์ ดูซิว่ามันจะทนได้แค่ไหน

 "ธีร์" ผมเรียกมันเสียงหวาน มองใบหน้ามันที่ดูยุ่งเล็กน้อย กำลังค่อยๆ เดินตามผม

 "ถ้ามึงจับกูได้ คืนนี้ พวกเรา..." เป็นครั้งแรกที่ผมคิดว่าไอ้ธีร์มันน่ากลัวมาก จากใบหน้าที่อมยิ้มเล่นๆ ของผม บัดนี้แทบขนหัวลุก ไอ้ธีร์เมื่อได้ยินแบบนั้นสายตามันก็ดูแน่วแน่สุดๆ มันพุ่งตัวจากจุดที่มันยืนอยู่ พุ่งมาหาผมเหมือนเสือที่กำลังจะตระครุบเหยื่อ

 อ้ากกกกกกก ผมร้องเสียงหลงวิ่งพลิกตัวหนีจากเงื้อมมือมารนั้น หัวใจเต้นระส่ำอยู่ในอกอย่างกับวิ่งหนีผี เดี๋ยวก่อนน กูยังพูดไม่จบเลย มึงคิดไปถึงไหนแล้วโว้ยยย

 "ไอ้เนม ช่วยกูด้วยยยยย!" ผมแหกปากร้องดังลั่น วิ่งขาขวิดเปลี่ยนทิศทางไปหาเพื่อนรักทั้งสองที่เห็นอยู่ไกลๆ กูตาย กูตายแหน่ ปาปี๊มามี๊ ช่วยฟาด้วยยย จะโดนแดกแล้ววววว

 "เดี๋ยวๆ อะไรของพวกมึงเนี่ย!" ราวกับเห็นแสงสว่างในชีวิต ผมพุ่งตัวเข้าหาใส่ไอ้เนมจนล้มคว่ำ กอดมันแน่นหลับตาปี๋ นี่กูรอดเหรอ กูรอดดดดดด เป็นไปได้ยังไงวะเนี่ย

 ผมหอบหายใจอย่างบ้าคลั่ง เหลือบมองไอ้ธีร์ที่ยืนเท้าเอวหอบเล็กน้อย หึ นึกว่าจะแน่ จับกูก็ไม่ได้ แบร่

 "ไปเถอะ หน้าบังกะโลมีที่นั่ง" ไอ้ธีร์พูดและเดินนำหน้าไป ผมนึกว่ามันยอมแพ้ไม่เป็นซะอีก

 ในช่วงดึกนั้น พวกเรานั่งเล่นกันอยู่หน้าบังกะโลหลังเล็ก มีขนมเล็กๆ น้อยๆ ที่พวกเราเอาติดมา และเล่นพลุไฟที่ไอ้นนหาซื้อมาให้เช่นกัน

 ผมรู้สึกมีความสุข ราวกับเวลาถอยหลังย้อนกลับไปเหมือนดั่งวันวาน วันที่พวกเรายังได้เรียนอยู่ด้วยกัน เจอกันทุกเช้า กินข้าวในโรงอาหาร กลับบ้านด้วยกัน ช่วงเวลาเหล่านั้นผมไม่เคยลืมเลือน เป็นช่วงชีวิตที่ผมมีความสุขที่สุด เป็นช่วงชีวิตที่ผมได้เจอกับ...ธีร์ ผู้ชายที่ผมรักหมดหัวใจ

 ผมนั่งคุดคู้จุดไฟเย็นในมือและเหลือบมองใบหน้าของคนที่ผมไม่เคยคิดเลยว่า วันนี้ พวกเราจะอยู่เคียงคู่กัน เหมือนกับเมื่อวานนี้เอง ที่มันบุกเข้ามาในคอนโดของผม และบอกผม ว่าให้ผมเป็นแฟนของมัน เรื่องราวของพวกเราราวกับความฝัน มีทั้งสุข ทั้งทุกข์ ต้องร้องไห้เสียน้ำตามามากมายแค่ไหน แต่ทุกอย่างที่ผ่านมานั้น มันไม่ได้เสียเปล่าเลยแม้แต่น้อย มันทำให้พวกเรา ผูกพันธ์ใกล้ชิด แนบสนิทจนไม่อาจพรากจากกันได้อีกแล้ว

 "เมื่อกี้ ทำไมมึงถึงไม่จับกูเอาไว้" ผมพูดเบาๆ ถามคนที่นั่งจุดไฟเย็นอยู่ข้างๆ ไอ้ธีร์จ้องมองแสงไฟสีเงินที่อยู่ในมือ และเหลือบมองผมด้วยแววตาที่สื่อถึงความรัก

 "ถ้าดึงเอาไว้ ฟาอาจจะเจ็บก็ได้" หัวใจของผมสั่นไหวอยู่ภายใน แบบนี้เองเหรอ นี่มึงรักกูมากแค่ไหนกันนะ

 "แต่ถ้าหลุดมือไป มึงก็เจ็บไม่ใช่เหรอ" ผมพูดและจ้องมองมันที่ยกยิ้มมุมปาก พวกเราในตอนนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องวิ่งไล่จับกันตรงๆ มันมีความหมายที่ลึกซึ้งมากมายกว่านั้น

 "ยังดีกว่าจะทำให้ฟาเจ็บ" ผมเอื้อมมือไปแตะลงที่แก้มของคนข้างๆ หัวใจของผมมันอบอุ่นเหมือนรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่ พวกเราค่อยๆ ขยับหากันน้อยๆ ริมฝีปากหยักสวยนั้น ห่างผมเพียงแค่ไม่กี่เซนเท่านั้น

 "อะแฮ่มม!" เสียงที่ดังขึ้นทำวิมานสีชมพูล่มลงทันใด ผมสะดุ้งเฮือก เหลือบมองไอ้สองผัวเมียที่นั่งจ้องมองผมกับไอ้ธีร์อย่างใกล้ชิด มึงมาจ้องตั้งแต่เมื่อไหร๊ กูก็โรแมนติกจนไม่รู้ตัวเลย

 ผมเฉหน้าหนีทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ด้วยแก้มสีชมพู อับอายจนอยากวิ่งเอาหัวทิ่มหลุมทราย

 "กูง่วงแล้ว ไปอาบน้ำนอนดีกว่า" ผมตัดสินใจหนีออกจากตรงนั้น เกือบไปแล้วไหมกู หวังว่าคืนนี้จะไม่มีหนังสดนะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
 :hao3: หึๆๆ  ธี ยังหื่นเหมือนเดิม

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
คืนนี้จะเป็นยังงัยนะ อาจจะไม่ได้นอนทั้งคืน

ครบขาเปิดวงป๊อกเด้งได้  :laugh:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
"อะแฮ่มม!" เด็ก ๆ จะส่งเสียงทำไม จะดูหนังสดซะหน่อย อดเลย  :angry2:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ค้างงงงงงงงงงงงงง   :z3: :z3: :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
KING ที่ 63 สงครามในยามค่ำคืน


หลังจากทำเนียนหนีเข้ามาในบังกะโลหลังเล็กแล้ว ผมมองเตียงนอนเดี่ยวสองเตียงที่วางคู่กันด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว ไอ้นน ไอ้หอก รวยก็รวยใช่เล่นเสือกจองห้องเล็กขนาดนี้ ในหัวมึงนี่คิดแต่เรื่องสวิงกิ้งใช่ไหม

 "กูว่าละไง แต่ก็ง่ายๆ เตียงนึงของมึง อีกเตียงของกู ส่วนไอ้พวกแผนสูง ให้มันนอนพื้น" ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับไอ้เนมที่เดินตามเข้ามา

 "ไม่" ไอ้นนที่เดินตามเข้ามาก็ส่งเสียงเอะอะทันที

 "ไม่อะไร" ไอ้เนมหันไปถามผัวมันที่เดินเลียบๆ เคียงไปที่เตียง

 "ไม่มีปัญหาจ้า" ไอ้นนพูดพลางอมยิ้มหวาน ไอ้เนมมันปราณีแล้วที่ไม่ไล่มึงไปนอนพื้นทราย

 ผมหลบสายตาไอ้ธีร์ที่เดินเข้ามาคนสุดท้าย หยิบผ้าเช็ดตัวพาดบ่าและวิ่งฉิวเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ซึ่งใช้เวลาไม่นานนัก ผมเอาเสื้อผ้าชุดเดิมแขวนตากเอาไว้ และใส่ชุดคลุมสีขาวที่ทางห้องพักจัดเตรียมไว้ให้ ไอ้เนมเข้าห้องน้ำต่อจากผม และไม่นานทุกคนก็อาบน้ำเรียบร้อย ผมจัดการทิ้งตัวลงนอนที่เตียงริมหน้าต่าง หันหน้าเข้าหากำแพง ทำเป็นลืมไอ้ตัวที่เดินมานั่งข้างๆ เตียง ปูผ้าผืนบางลงกับพื้นเพื่อเตรียมนอน

 ตอนนี้น่าจะราวๆ ตีสามแล้ว ความเพลียทำให้ไอ้เนมหลับไปก่อน และไอ้นนก็ปิดไฟลงไปนอนด้านล่างของเตียงตามคำสั่ง

 ผมยุกยิกขยับตัวไปมาด้วยหัวใจที่ว้าวุ่น ผมใจอ่อนและอ่อนมาก ไอ้ธีร์มันจะปวดหลังไหมนะ ผมไม่อยากใจร้ายกับมันเท่าไหร่ แต่ว่าไอ้เนมมันไม่ให้ไอ้นนนอนบนเตียง แล้วถ้าผมให้ไอ้ธีร์นอนกับผม แบบนี้ก็เสียหน้าแย่อ่าดิ

 ผมทำใจข่มตาลงไม่ได้ พลิกตัวอีกครั้งและก้มลงเหลือบมองคนที่นอนนิ่งเงียบในความมืด ไอ้ธีร์นอนหลับตาอยู่ที่พื้น ขดตัวนอนหนาว โอ้ยยย จะทำยังไงดีวะ ถ้าแอบให้ขึ้นมา มันจะคิดว่าเราเชิญชวนไหมละเนี่ย

 "ไอ้ธีร์" ผมพูดด้วยเสียงที่เบาราวเสียงกระซิบ ยื่นมือไปแตะลงที่แขนของมันและเขย่าเบาๆ ผมอยากถามมันว่ามันหลับได้ไหม ถ้ามันยอมผลัดกันนอนข้างบน ผมก็ไม่ติดอะไร

 แต่ทันทีที่ผมยื่นมือไปแตะตัวมันนั้น ดวงตาของมันก็เปิดขึ้นด้วยรอยยิ้มจางๆ มันคว้ามือของผมไปกำเอาไว้ และจูบเบาๆ ไปตามเรียวนิ้วนั้น

 "อย่า" ผมพูดห้ามเบาๆ แต่รอยยิ้มกลับปรากฎที่บนใบหน้า อย่านะ กูจะใจอ่อนกว่านี้ไม่ด๊ายย ฮึบไว้ กูต้องเข้มแข็งกว่านี้

 "โอ้ยยยย เบาๆ ผิดไปแล้ว" แต่เสียงที่ดังลั่นขึ้นที่เตียงข้างๆ ก็ทำเอาผมสะดุ้งเฮือกลุกขึ้น ไฟบนกลางห้องเริ่มติดสว่างขึ้นช้าๆ และภาพที่ผมเห็นก็คือไอ้เนมที่กระโจนทับไอ้นนทำหน้าเหมือนจะฆ่าให้ตาย

 "เมื่อกี้มึงลูบตูดกูทำไม!" ไอ้เนมหน้ายับเหมือนหมีกินผึ้ง ไปกวนมันตอนหลับนี่เสี่ยงตายจริงๆ

 "ละเมออ่ะ" ไอ้นนแหลหน้าด้านๆ ทำเอาฝ่ามือไอ้เนมหวดลงที่กลางกบาลทันที

 "มึงไปนอนข้างนอกเลย!" ไม่พูดเปล่าไอ้เนมดึงคอเสื้อผัวมันขึ้นมาและทำท่าจะลากออกไป นี่มันรักกันท่าไหนวะน่ะ โหดชิบ

 และผมที่กำลังสนใจเพื่อนก็รู้สึกแปลกๆ กับตัวเองบ้าง ผมมองพื้นข้างหน้าข้างเตียงที่ว่างเปล่า และเอวของผมก็มีแขนขาวๆ ข้างนึงกอดอยู่หลวมๆ เนียนเลยนะมึ๊ง

 "นั่นไง กูว่าแล้วไอ้พวกเชี่ยนี่คิดไม่ซื่อ ฟา จัดมันเลย สั่งสอนมันไม่ให้มันเอาแต่ได้ ต้องให้มันรู้ว่ามึงอยู่เหนือมัน" ไอ้เนมหันมาเห็นเหตุการณ์บนเตียงผมและชี้หน้าปลุกใจผมไม่ให้ยอมแพ้ ฮึดเลย ขึ้นเลย ผมดึงแขนไอ้หอกธีร์ออกจากเอวผม และง้างมือขึ้นสูงกะว่าจะฟาดมันจังๆ สักครั้ง หนอย ชุลมุนแอบคลานขึ้นเตียงเลยนะมึง

 แต่มือที่ง้างขึ้นไปในอากาศของผมนั้นก็หยุดชะงัก ผมมองมัน จ้องมองไปในแววตาของคนที่อยู่ตรงหน้า คือ...มันจะเจ็บไหมนะ ทำไมต้องรุนแรงกันด้วยเล่า

 ผมลดมือลงช้าๆ และเหลือบมองไอ้เนมด้วยสีหน้ายอมแพ้ ตอนนี้อยากพักมากกว่าทำสงคราม ไม่ได้ยอมมัน ไม่ได้เป็นห่วงมันจริงจริ๊ง ไอ้ธีร์เนี่ย

 "เหอะ ไอ้ฟาเพื่อนกูตายไปแล้วสินะ" ไอ้เนมถอนหายใจพลางส่ายหน้าเบาๆ มึงอยากด่ากูก็ด่า แต่เค้าไม่อยากตีมันจริงๆ อ๊า

 และในช่วงนาทีแห่งชีวิต ไอ้เนมที่กำลังเผลอก็พลาดท่าเข้าเสียแล้ว ไอ้นนที่ตัวใหญ่กว่ามัน ย่องตระครุบปิดปากจากด้านหลังและลากมันที่กำลังดิ้นไปมาไปที่เตียง เชี่ยละกูไม่รู้กูไม่เห็นอะไรเด้อ

 "อ.อไอ้เ.ชี่..ย.นน..ปล่อย.กู๊!" ไอ้เนมโดนจับกดลงกับเตียงและไฟที่กลางห้องก็มืดดับลงทันที ผมมองเพื่อนที่ยื่นมือเหมือนกำลังขอความช่วยเหลือ แต่ตัวผมนั้นก็ถูกคนข้างๆ พลิกตัวสลับที่ ดันให้ผมนอนติดชิดผนังและตัวที่ใหญ่โตของมันก็บังสายตาผมไว้อีกที

"นอน อยากโดนเหมือนเพื่อนเหรอ" ไอ้ธีร์จับผมนอนหันหน้าเข้าผนังและกอดผมเอาไว้ จมูกของมันซุกลงที่คอของผมสูดดมความหอมที่มันชอบเหลือเกิน

 "ฟา" เสียงชวนสยิวของมันทำเอาผมขนลุกซู่ ผมขดตัวนอนอยู่ในอ้อมกอดของมัน พวกเราไม่ได้นอนกอดกันมาสักพักใหญ่แล้ว ช่วงเวลาแบบนี้ทำเอาผมตื่นเต้นจนตาไม่หลับเลยทีเดียว

 เสียงแปลกๆ ที่ดังขึ้นที่เตียงข้างๆ ทำเอาผมเริ่มหน้าแดงขึ้นด้วยความรู้สึกวูบไหว กูขอโทษนะไอ้เนม เพราะกูก็ไม่รู้จะเอาตัวเองให้รอดได้ไหม ผมในชุดคลุมที่คลุมอยู่หลวมๆ ท่อนล่างที่แทบจะเรียกว่าเปลือยเปล่า ขาของพวกเราเลื่อนโดนกันไปมา ผมเริ่มรู้สึกถึงมือของคนด้านหลังที่ลูบเบาๆ ไปตามเรียวขาของผม ลมหายใจร้อนเป่าเบาๆ ที่ใบหู จมูกโด่งของมันกำลังเกลี่ยเบาๆ ไปตามลำคอ ทำเอาผมสติแทบกระเจิดกระเจิง

 "จะทำจริงๆ เหรอ" ผมพูดเบาๆ ด้วยเสียงเครือ จับมือซุกซนของคนด้านหลังที่กำลังจะไต่เข้ามาในกางเกงในตัวน้อย ผมอาย ยิ่งมีไอ้สองตัวนั้นอยู่ในห้องด้วย แบบนี้ผมไม่มีทางทำได้ ถึงแม้มันสองตัวตอนนี้จะง่วนอยู่กับเรื่องของตัวเองก็เถอะ

 "ทำอะไร" ไอ้ธีร์ยังไม่ล้มเลิกที่จะลูบไล้เข้าไปในจุดที่ทำให้ผมตื่นตัว เสียงทุ่มต่ำที่แฝงไปด้วยความหวานล้ำของมันทำให้ผมรู้สึกอ่อนระทวย แรงต้านทานอะไรนั่นมันไม่เคยมี และไม่เคยได้ผลกับผมเลย

 ไอ้ธีร์เริ่มขยับตัวเลื่อนขึ้นลากจมูกสูดกลิ่นหอมไปตามพวงแก้ม และขบเม้มริมฝีปากบางของผมเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว ความปรารถนาที่มากมายเริ่มบดบังดวงตา ริมฝีปากของพวกเราคลอเคลียหยอกล้อ ขบงับเบาๆ ให้รู้สึกวาบหวามและเริ่มดูดดึงกัน กดจูบราวจะขย้ำให้ขาดใจ

 ความรุ่มร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ผมเอี้ยวตัวตอบรับริมฝีปากและลิ้นร้อนนั้นแลกเปลี่ยนของเหลวที่เริ่มไหลเยิ้ม แลกเปลี่ยนความหวานกันอย่างไม่รู้จบ

 มือหนาที่ลูบไล้ไปตามต้นขาขาว บัดนี้ลูบไล้ไปตามท่อนกายที่ถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด กำมือเบาๆ และค่อยๆ รูดดึงไปตามความยาวที่ทำให้ผมเผลอเหยียดขาตรงด้วยความเสียวกระสันแทบขาดใจ

 ภายใต้ผืนผ้าห่มสีขาวผืนใหญ่ ร่างกายของผมถูกติดตรึงอยู่กับร่างกายของคนที่ใหญ่โตกว่า ริมฝีปากยังคงไม่แยกจากกัน ท่อนกายด้านล่างถูกรูดดึงกระชั้นปรนเปรอให้จนแทบสุดอารมณ์หมาย

 แต่ทว่าช่วงเวลานี้นั้นยังคงขาดสิ่งที่สำคัญที่สุดไป ผมเริ่มเลื่อนมือข้างที่ว่าง เลื่อนไปที่ด้านหลัง ผ่านชุดคลุมที่ปกปิดส่วนนั้นไว้

 "อยากได้เหรอ" ริมฝีปากที่ผละออกเอ่ยพูดด้วยรอยยิ้มหวาน ผมไม่ได้พูดตอบอะไร มือของผมพบสิ่งที่ผมกำลังต้องการ ผมกำท่อนกายที่ขยายใหญ่ของคนด้านหลังไว้ มือของผมชุ่มโชกไปด้วยหยาดน้ำหวาน ที่บ่งบอกว่าคนด้านหลังต้องการผมมากแค่ไหน

 ร่างกายของคนด้านหลังเริ่มแนบชิดเข้ามามากขึ้น ผมกลืนน้ำลาย เตรียมพร้อมที่จะรับเอาความใหญ่โตนั้น ในเวลานี้ผมไม่มีความอายเหลืออยู่อีกแล้ว รู้แต่เพียงว่าผมต้องการมัน ผมต้องการเป็นหนึ่งเดียวของกันและกัน

 แต่สิ่งที่ผมคิดก็กลับผิดถนัด ความรู้สึกที่ต้นขาของผม ทำให้ผมรู้ว่าคนด้านหลังนั้นไม่ได้สอดใส่เข้ามาที่ช่องทางปกติ แต่กลับสอดแทรกเข้ามาระหว่างต้นขาของผมที่ชิดกันแนบแน่น

 "ไม่เป็นไร แบบนี้ก็พอ" ไม่ทันให้ผมได้สงสัย ริมฝีปากหยักสวยนั้นก็จู่โจมเข้ามาอีกครั้ง ผมกระตุกเล็กน้อยเมื่อมือหนาเริ่มขยับดึงรั้งจุดอ่อนของผม พร้อมๆ กับขยับเอวตัวเองให้ท่อนกายนั้นถูไถไปมากับต้นขาขาวเนียน

 ภายในห้องอบอวนไปด้วยเสียงครวญแห่งความสุขสันต์ ถึงจะเป็นแค่ภายนอก แต่ในหัวใจของผมก็เต้นรัวหัวสมองก็ขาวโพลนไปด้วยความพึงพอใจ ภายใต้ผ้าห่มนั้น ร่างกายของพวกเราที่โอบกอดกันไว้ แทบจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน มันเป็นคืนที่ผมจะต้องจดจำไปอีกนานแสนนาน


 "ฟา ฟาตื่นเถอะ" ในรุ่งเช้าของวันใหม่ ผมงัวเงียตื่นขึ้นด้วยความเมื่อยล้า มองดูแฟนของผมที่แต่งตัวด้วยชุดขามาเรียบร้อยนั่งเขย่าตัวผมอยู่ที่ข้างเตียง

 เมื่อมองหน้ามันนานๆ ความทรงจำในยามค่ำคืนเริ่มไหลเติมเข้ามาในหัว หน้าของผมเริ่มรื้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ และจัดการลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวหนีเข้าห้องน้ำ แต่พอนึกดูดีๆ แล้วก็รู้สึกเสียดายนิดๆ นะ เพราะว่าเมื่อคืนพวกเราก็แค่ทำกันภายนอกเท่านั้น จะอายอะไรนักหนาละไอ้ฟา

 เมื่ออาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ผมออกมาจากห้องน้ำและเพิ่งสังเกตเห็นว่าไอ้เนมยังคงนอนอยู่บนเตียง ตามคอและแขนของมันนั้นมีแต่รอยจ้ำสีแดง อย่าเรียกว่าหลับเลยเรียกว่าสลบเหมือด และใบหน้าของผัวมันนั้นยิ่งน่ากลัวกว่า ทั้งรอยข่วนรอยโดนต่อย เรียกได้ว่าครบสูตร นี่มึงทำสงครามกันหรือไง

"กลับไปกันก่อนเลยนะ กว่าไอ้เนมมันจะตื่น ก็คงเย็นนั่นแหละ" ไอ้นนพูดพลางถือน้ำแข็งประคบที่แก้มม่วงๆ ของมัน

 "กูรอได้นะ" ผมบอกเพื่อน ไหนๆ ก็มาด้วยกัน จะให้ทิ้งได้ไง

 "ไม่เป็นไร แค่ได้เจอพวกมึงก็พวกกูก็พอใจแล้ว วันหลังค่อยมากันใหม่นะ" ในเมื่อมันยืนยันอย่างนั้น ผมก็ไม่ติดอะไร

 "ไปกันเถอะ คนที่บ้านเอารถมาให้แล้ว" ไอ้ธีร์พูดบอกผมก่อนที่ผมจะถาม ผมลุกขึ้นจากเตียงของไอ้เนม ตบแก้มมันเบาๆ ด้วยความรัก และตบบ่าไอ้นน

 "งั้นกูไปแล้วนะ" ผมพูดบอกมัน

 "อืม กลับดีๆ นะ" ไอ้นนบอกผม และตบบ่าผมคืน แต่เมื่อผมจะก้าวเดินต่อไปนั้น บ่าของผมก็ยังคงถูกจับเอาไว้

 "เสียงครางหวานใช้ได้เลยนะเรา" อ้ากกกกก ไอ้นนกระซิบแหย่ผม และแน่นอนเบ้าตาเน้นๆ เป็นรางวัล ตายซะมื๊งงงไอ้เพื่อนเล๊ววว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-10-2019 11:11:38 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
คู่นี้หวานกันได้งัย ขณะที่อีกคู่ฟัดกันน่วมขนาดน้านอ่ะ.  :laugh:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไงหนูฟาลองใช้วีธีแบบหนูเนมก็ได้นะ เผื่อเปลี่ยนบรรยากาศกับเขาบ้าง  :hao6:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ยังจะแซวเพื่อนอีก555

ออฟไลน์ darkangel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฟาเขินแย่เลย

ออฟไลน์ darkangel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึงงงงงงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
KING ที่ 64 คืนแห่งการเริ่มต้น


ตลอดการเดินทางกลับนั้น ไอ้ธีร์ดูร่าเริ่งเกินเหตุ ฮัมเพลงเบาๆ ตามเสียงดนตรีที่เปิดอยู่ในรถ แต่ผมน่ะเหรอ เฮ้อ รู้สึกเหมือนอะไรขาดหายก็ไม่รู้ จะว่าไงดี ทำม๊ายทำไม มันถึงไม่ทำแบบปกติกันนะ

 "ไอ้ธีร์" ผมเหลือบมองมันที่หยุดฮัมเพลง มันเอื้อมมือไปปิดเพลงและหันมองผมด้วยดวงตาที่สวมแว่นกันแดดสีเข้ม

 "ว่าไง หิวเหรอ แวะกินข้าวไหม" ผมทำแก้มป่องน้อยๆ เชิดคอทำฟึดฟัด

 "เมื่อคืน..." ผมเหมือนจะกล้าถาม แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่มีอะไรหลุดจากปาก ไอ้ธีร์ยกยิ้มมุมปากน้อยๆ และเปิดเพลงขึ้นมาตามเดิม

 "ขอโทษนะ ทำให้ค้างเหรอ" คำถามของมันทำเอาผมนั่งไม่ติดเก้าอี้ หนอยย สำคัญตัวเองมากไปละมึง

 "ไม่ใช่!" ผมพูดและเชิดใส่มันต่อ แต่คนข้างๆ ก็ยังคงอมยิ้มอยู่อย่างนั้น

 "ไม่อยากให้ใคร ได้ยินเสียงฟา" ผมที่เชิดหน้างอนอยู่นั้นก็ค่อยๆ หันกลับไปมองหน้าของคนรัก อะไรของมัน เสียงของผมมันเป็นยังไงงั้นเหรอ

 และผมก็คิดขึ้นได้ถึงคำพูดของไอ้นน ทำเอาใบหน้าของผมเริ่มแดงขึ้นอีกครั้ง มึงนี่มันขี้หวงเกินไปแล้วนะ

 "เดี๋ยวกลับไปจัดให้หนักๆ อีกรอบ"

 "ไม่ต้อง! พลาดแล้วพลาดเลย" ผมรีบพูดและอมยิ้มขำ เหลือบเห็นคนที่เหมือนอารมณ์จะไม่ดีเหมือนเก่าซะแล้ว


 อีกไม่กี่วันหลังจากนั้น ผมและไอ้ธีร์ในตอนนี้ย้ายออกจากหอในเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเรากินเลี้ยงเล็กๆ น้อยๆ บอกลารูมเมทเพื่อแยกย้ายกันไป ช่วงเวลาที่พวกเราอยู่ร่วมห้องกัน มันไม่เลวเลยจริงๆ ผมทำเป็นมองไม่เห็น เอื้อเฟื้อให้จีจี้ใช้เวลาสุดท้ายแต๊ะอั๋งไอ้ธีร์ได้เต็มที่ แต่ก็กลัวเหมือนกันว่าไอ้ธีร์จะทนไม่ไหวแล้วต่อยมันซะก่อน

 "ขอให้ลูกเต็มบ้านหลานเต็ม..."

 "ทะลึ่งละ" ผมเบรกไอ้นาถไว้ซะก่อนที่มันจะอวยพรจบ แต่เอาเข้าจริงผมนั้นเสียวสันหลังมาก ไอ้ธีร์เป็นยังไงผมรู้จักมันดี อยู่ด้วยกันแบบนี้ผมจะคลานไปเรียนไหมนะ

 "โชคดีนะคะทั้งสอง แล้วเจอกันในมอ อย่าลืมทักจีจี้นะคะ" จีจี้ลาอย่างอาลัยอาวรณ์ขณะกอดแขนไอ้ธีร์แน่น ทิ้งรอยลิปติกสีแดงแปร๊ดไว้เต็มแขนมันไปหมด ยิ่งดึกมึงยิ่งจะแดกผัวกูเข้าไปทั้งตัวแล้วนะอีจี้ขี้

 "จริงๆ ก็เสียดายเหมือนกัน ไม่รู้ว่าฟาคือน้องฟ้าดาราคนนั้น นี่มีรูปฟาเก็บไว้ในเครื่องเยอะมากเลยนะ ว่าแล้วก็ขอลายเซ็นต์..."

 "ดึกแล้ว กลับกันเถอะ" ไม่รอให้ไอ้นาถพูดจบไอ้ธีร์ก็แกะปลิงควายที่แขนออกและลากผมกลับอย่างรวดเร็ว มึงมันเวอร์อีกละ

 "โชคดีนะพวกมึง ไอ้นาถเดี๋ยวกูค่อยเซ็นต์ให้!" ผมหันไปโบกมือและยิ้มให้เพื่อน และหันกลับมาจิกตาใส่ไอ้คนหวงก้าง

 "ไอ้คนขี้หึง" ผมพูดและอมยิ้มมองมันที่พาผมขึ้นรถ

 "รู้ไหมว่าทำไมพวกผู้ชายถึงชอบเซฟรูปฟา" ผมมองมันที่เริ่มขับรถออกไป ก็แหง๋สิ กูก็ผู้ชายนะ

 "ทำไมกูจะไม่รู้ ก็ตัวผู้มันชอบผู้หญิงสวยๆ กูยังชอบเลย" ผมพูดและล้วงมือถือออกมากดเล่น

 "เอาไว้ชักxxx" ผมอึ้งชะงักและหันควับไปหาไอ้คนที่พูดออกมาหน้าตาเฉย ผมนั้นไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าผู้ชายเซฟรูปผมไปทำอะไรกัน แต่ไอ้ธีร์ อย่าบอกนะว่ามึง...

 "เมื่อก่อนสามเวลาหลังกินข้าว" ห๊าาา ผมตาแทบทะลัก นี่มึงหนักขนาดนี้เลยเหรอ ไอ้หื่นกาม นี่มึงมองกูจินตนาการทำเรื่องนั้นมาตั้งแต่เริ่มเลยใช่ไหม

 "ไอ้..." ผมไม่พูดเปล่า ง้างมือจะหวดมันสักที มันร้ายมาก

 "ล้อเล่น คนบ้าอะไรทำบ่อยขนาดนั้น" ไอ้ธีร์พูดและอมยิ้มขำ แต่กูไม่ขำโว้ยย กูว่ามึงเอาเรื่องจริงมาล้อเล่น หึ่ยย

 "และก็ ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องแบบนั้นแล้ว" สายตาของมันตอนที่พูดคำนี้ ทำเอาผมหน้าร้อนวูบวาบไปหมด ไอ้เวร ช่วยหนูด้วยคุณตำหนวดดดด

 ไม่นานนักพวกเราก็มาถึงจุดหมาย กลิ่นอายภายในคอนโดที่แสนคิดถึง ทำให้ผมกลิ้งตัวลงนอนมองเพดานสีขาวที่ไม่ได้เห็นมานาน ที่นี่เหมือนกับเป็นบ้านหลังที่สองของผม เป็นที่ที่ผมอยู่มานานตั้งแต่พ่อแม่เดินทางไปไกล และตอนนี้ผมกลับมาอยู่ที่นี่แล้ว พร้อมๆ กับ ไอ้หน้าหล่อที่ยืนพิงประตูมองผม

 "ไปอาบน้ำ แล้วค่อยมานอน" คนพูดยังคงจ้องมองผมด้วยแววตาสื่อความหมาย ผมแนบแก้มลงกับหมอน อมยิ้มและมองคนตรงหน้า

 "ยิ้มอะไร" ไอ้ธีร์เมื่อเห็นแบบนั้นก็เดินเข้ามานั่งลงที่เตียง เกลี่ยทัดปอยผมเล็กๆ ที่ใบหูของผม

 "อยู่ด้วยกันแล้วนะ" ผมพูดและมองมันที่อมยิ้มตาม เมื่อก่อนผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย ผมเคยคิดว่าการอยู่คนเดียวจะทำให้ผมมีความสุข แต่ว่ามันไม่ใช่อีกแล้ว ภายในห้องนอนที่แสนคุ้นเคยนี้ มีคนที่ผมรักอยู่ข้างๆ ผมรู้สึกมีความสุขมากกว่าที่เคยเป็นมาจริงๆ

 "ใช่ แล้วก็อย่าหวังว่าจะไล่ไปไหนได้" คนพูดก้มลงหอมแก้มของผมเบาๆ และเลื่อนตัวลงนอนจับให้ผมหนุนลงที่แขนแกร่งนั้น พวกเรากอดกันไว้ภายใต้กลิ่นไอแห่งความรัก กระซิบถ้อยคำหวาน และนอนหลับฝันดี คืนนี้เป็นคืนแห่งการเริ่มต้นของพวกเรา


ข้อเสียของการอยู่นอกมหาวิทยาลัย คือการที่เราต้องตื่นเช้ามากๆ ความจริงผมนั้นมีเรียนช่วงสาย แต่ไอ้ธีร์นี่สิ มีเรียนแต่เช้าทุกวันและเลิกเย็นมากๆ จากนี้ไปผมจะต้องไปแต่เช้าและอยู่รอมันเลิกเรียน นี่คิดผิดคิดถูกวะเนี่ยที่อยู่ด้วยกัน

 ผมนั่งสัปผงกหนุนแขนตัวเองอยู่หน้าคณะแพทย์ ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ที่แสนร่มรื่น รอเวลาที่ตัวเองจะต้องเข้าเรียน แสงแดดในยามเช้ามันช่างอบอุ่นจริงๆ แต่ว่ามันอุ่นเกินไปหรือเปล่านะ โอ้ยยย แทบจะไหม้อยู่แล้ว

 ผมลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะ เงยหน้าจ้องมองพระอาทิตย์ที่ส่องตรงหัวพอดี เฮ้อ ทำไมอยู่ดีๆ ก็ร้อนขนาดนี้นะ แต่เดี๋ยวก่อน พระอาทิตย์ทำไมอยู่ตรงหัว...

 อ้ากกกกกกกก เวรละ เผลอวาบมาเที่ยงเลยกู จะเรียนจบไหมเนี่ยชีวิต

 "ฟ..ฟา" ผมที่กำลังทึ้งหัวตัวเองนั้น เบื้องหน้าของผมก็มีหญิงสาวคนหนึ่งจดๆ จ้องๆ ไม่กล้าเข้ามา ผมยิ้มทันทีที่จำเธอได้ แต่ใบหน้าของเธอกลับเป็นรอยยิ้มแบบเศร้าๆ

 "ว่าไงนิ่ม" ผมยิ้มให้เธอและทำมือให้เธอเดินมาใกล้ๆ นี่แหละผลของการปกปิดตัวตนของผม มีคนที่ต้องเสียใจเพราะเรื่องนี้ มันทำให้ผมรู้สึกผิดจริงๆ

 "ขอโทษนะ" ผมรีบพูดบอกเธอ แต่เธอก็ส่ายหน้าไปมาและยิ้มกว้างให้ผม

 "ไม่หรอก นิ่มเข้าใจ ฟามีเหตุผลของฟา" ผมยิ้มให้เธอและดีใจจริงๆ ที่เธอไม่โกรธ

 "ก็เคยคิดไว้อยู่แล้วว่าฟากับธีร์ดูแปลกมาก เหมาะสมกันจริงๆ นิ่มดีใจด้วยนะ"

 "ไม่รู้สึกแย่จริงๆ เหรอ ที่ฟาเป็นแบบนี้" ผมถามนิ่มที่ส่ายหน้าอีกครั้ง

 "ไม่เลย นิ่มต่างหากที่อยากถาม นิ่มยังเป็นเพื่อนฟาได้ใช่ไหม นิ่มอยากคุยกับฟาอีกเยอะๆ เลย" ผมยิ้มกว้างที่ได้ยินแบบนั้น และยื่นมือไปเพื่อที่จะจับมือของเธอ...

 "ไม่ได้เข้าเรียนหรือไง" มือผมถูกคว้าไว้ซะก่อนโดยคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ผู้หญิงมึงก็ไม่เคยเว้นเล้ยย ให้กูได้ชุ่มชื่นหัวใจมั่งไม่ได้เหรอออ

 ผมหรี่ตาทำหน้าเซ็งใส่ไอ้ธีร์ แต่ดูเหมือนนิ่มจะกำลังยิ้มอย่างชอบใจ

 "งั้นนิ่มไปก่อนดีกว่า แล้วเจอกันนะฟา" นิ่มเดินไปและยังคงหันมาโบกมือให้ผม ช่างน่าร้ากกก บริสุทธิ์ขาวใสผุดผ่องเป็นยองใย

 "ตัดทิ้งไปเลยดีกว่า ยังไงก็ไม่ได้ใช้" ผมหุบยิ้มและมองไอ้ธีร์ราวกับจะข่วนหน้ามัน อย่านะโว้ยยย หลักฐานสุดท้ายที่ทำให้กูยังคงเป็นผู้ชายเลยนะโว้ยยยย

 "มึงมันขี้โกง" ผมพูดและทำหน้าบูดใส่มัน ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก ตอนนี้ผมเพิ่งสังเกตว่าไอ้ธีร์ไม่ได้เดินมาคนเดียวอีกแล้ว แต่มีรุ่นพี่คนเดิมตามมาด้วย ขนาดนี้แล้ว ยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ ผมไม่รู้จะพูดถึงความหน้าด้านนี้ยังไงจริงๆ

 "ธีร์ ตกลงไม่ไปกินข้าวกับพี่เหรอ" ผมจ้องหน้าไอ้ธีร์ มึงเคลียกับกูเดี๋ยวนี้เลยนะ

 "ครับ ผมจะไปกินกับแฟน" ไอ้ธีร์ไม่พูดเปล่าแต่ยื่นมือมาจับมือผมไว้แน่น

 "ไปกันเถอะ" ผมเดินตามมันอย่างว่าง่าย และหันหลังกลับไปมองรุ่นพี่โคนมคนนั้น พลางยกยิ้มมุมปากเล็กๆ ประกาศชัยชนะ ฮ่าๆๆๆ ไงละอีป้า ใจสลายไปดิ๊ แบร่

 Rrrr Rrrr

 พอเริ่มเดินผ่านผู้คนเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังโหยหวนขึ้นมา ผมสลัดสะบัดมือไอ้ธีร์ทิ้งและกดรับสายพี่เรียวทันที ทำเมินสายตางอแงของมัน

 "ฮัลโหลคร้าบบบ" ผมพูดและยิ้มแฉ่งฟังพี่เรียวพูดถึงงานด่วนที่ผมต้องไปทำเย็นนี้

 "วันนี้เลยเหรอ" ผมทำเสียงอ่อย อาทิตย์นี้หลายงานแล้วนะ เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะเนี่ย

 "ใช่ แล้วก็อีกอย่าง..."

 ตู้ด ตู้ด ตู้ด~

 อ่าว ผมมองหน้าจอมือถือที่ถูกตัดสายไป ชิบละแบตหมด!

 "มีงานเหรอ" ไอ้ธีร์ก้มถามผม

 "ใช่ เย็นนี้ที่สตู เดี๋ยวกูนั่งแท็กซี่ไปหลังเลิกเรียน" ผมพยายามเปิดเครื่องขึ้นมาแต่ก็ดับสนิทไปเลย

 "งั้นดึกๆ เดี๋ยวไปรับนะ"

 "อือ ป่ะกินข้าว" ผมสงสัยสิ่งที่พี่เรียวกำลังจะพูดก่อนที่สายจะตัดไป แต่ก็เอาเถอะ ตอนไปที่สตูก็เจอพี่เรียวอยู่แล้ว เดี๋ยวค่อยถามละกัน

 และเมื่อถึงช่วงเวลาเย็นนั้น ผมวุ่นวี่วุ่นวายอยู่กับการแต่งหน้าและมีช่างหลายคนลุมทึ้งหัวของผมอยู่ พี่เรียวก็ดูไม่ต่างกัน คุยโทรศัพท์เดินไปเดินมาจนผมลืมไปเลยว่าตอนแรกตั้งใจจะถามอะไร

 การออกรายการวาไรตี้เป็นอะไรที่ผมไม่ชอบมากๆ ผมต้องมานั่งฉีกยิ้มและถูกถามคำถามซ้ำๆ ดาราที่มาร่วมงานกับผมบางคนก็มองผมแบบเหยียดๆ ต่อหน้าดีลับหลังอย่าให้พูดถึง และคำถามยอดฮิตที่ถูกถามตลอดที่ออกทีวีก็คือ คนที่ผมอวยพรวันเกิดคือใคร ใครคือธีร์ แต่ละคนก็พยายามจะคุดคุ้ย และออกมาแฉ ผมไม่กลัวเลยที่คนจะรู้ว่าพวกเราเป็นแฟนกัน แต่ว่า ที่ไม่อยากให้สืบสาวก็เพราะ อาจกระทบกับพ่อมันที่เป็นคนใหญ่คนโตน่านับถือต่างหาก

"และนี่คือโฉมหน้าของธีร์ คนที่น้องฟาอวยพรวันเกิดหวานๆ ในวันนั้น..." ผมมองจอมอนิเตอร์ในรายการที่ฉายภาพแอบถ่ายของไอ้ธีร์ ขึ้นแผ่หรา หัวใจของผมเต้นระทึก และความกลัวก็แผ่ซ่านเข้ามา ปัญหาของผมกับไอ้ธีร์ยังคงมีอยู่ และคราวนี้อาจจะร้ายแรงมากก็ได้

 "หูยยย เป็นคนไทยหรือต่างชาติคะ หล่ออินเตอร์หน้าโอ้ปป้ามากๆ" แต่ละคนในรายการต่างตาโตจนแทบทะลัก ก็นะ ไอ้ธีร์มันหล่อมากจริงๆ แต่แบบนี้มันไม่ดีเลย ที่เอารูปมันมาขึ้นแบบนี้

 สีหน้าของผมเริ่มเปลี่ยน และโชคดีมากที่รายการตัดเข้าช่วงโฆษณาพอดี ผมมองพี่เรียวที่เข้าไปคุยกับทางผู้จัด เพื่อขอให้ยกเลิกการพูดถึงเรื่องส่วนตัวของผม ซึ่งมันควรเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว

 "พี่ขอโทษนะ พลาดมากเลย ช่วงหน้าไม่มีอะไรแบบนี้แล้วล่ะ" หลังจากที่พี่เรียวเริ่มขู่และขึ้นเสียง ทางรายการก็ยอมเอาเรื่องส่วนตัวของผมออก แต่ว่าก็แล้วไงล่ะ มันรายการสดนะ เมื่อกี้ก็เห็นกันไปเยอะแล้ว

 "ไม่เป็นไรพี่ ยังไงมันก็แก้ไขไม่ได้อ่ะ" ผมพูดอย่างเหนื่อยๆ และวันนี้ชุดที่ผมใส่ก็ดูเยอะเอาเรื่องเหลือเกิน หลายๆ คนอยากเห็นผมครอสเดรส ซึ่งมันเป็นจุดขาย ผมจึงต้องแต่งตัวมากขึ้น ให้สวยยิ่งขึ้น ให้สวยกว่าดาราผู้หญิงคนอื่นที่มาร่วมงาน เอามาฆ่าผู้หญิงแท้ๆ นั่นล่ะ

 ในรายการช่วงหลังค่อยยังชั่วหน่อย เป็นการนั่งฟังและปรบมือตามคนอื่นพอเป็นพิธี พูดถึงการแต่งหน้าของตัวเองเล็กน้อย และก็ฝากผลงานต่างๆ ของตัวผม เป็นอันเสร็จสิ้น ผมบอกพี่เรียวว่ารายการแบบนี้ผมพอแล้ว ผมอยากแค่ถ่ายโฆษณาและเดินแบบ อะไรก็ได้ที่ไม่ต้องพูดมาก เหนื่อยโว้ย

 แต่ผมที่ยังไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้าล้างเครื่องสำอาง อยู่ๆ ในสตูดิโอก็เกิดเสียงฮือฮา ผมมองเหล่าบรรดาทีมงานที่มองไปจุดหนึ่งเป็นตาเดียว และเมื่อผมมองตามนั้น ความสงสัยก็หายลับไปทันที ผู้ชายร่างสูงในชุดนักศึกษาหน้าตาเด่นเวอร์มาแต่ไกล ในรูปว่าหล่อแล้วตัวจริงใครเห็นก็เหลียวหลังคอแทบหักทั้งนั้น

 "มึงเข้ามาได้ไง" ผมถามไอ้ธีร์และพยายามแงะตุ้มหูตัวเองออก อีตอนใส่ช่วยกันจัง ตอนถอดแม่งหายหัวหมด

 ไอ้ธีร์เดินดิ่งๆ มายืนตรงหน้าผม สายตาของคนในห้องส่งยังคงมองมันอย่างอยากรู้อยากเห็น แต่ไอ้ธีร์ไม่ได้สนใจ

 "เรื่องใหญ่" มันพูดมาแค่คำเดียว หัวใจของผมแทบตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ไม่ใช่ใช่ไหม อย่าบอกกูนะว่า...

 "คุณพ่ออยากพบฟา" ผมขาอ่อนแทบจะตกลงจากส้นสูง กรรมมาหากูแล้ว จะโดนอะไรบ้างไม่รู้

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
งานนี้เราควรจะให้มงแก่ใครดี สำหรับนัดเจอตัวครั้งนี้  :katai1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อ้าว... จะโดนรัยมั๊ยอ่ะ.  :katai1:

ออฟไลน์ darkangel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
นัดดูตัวสะใภ้ป่าววววว

ออฟไลน์ darkangel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึงงงงงงงงงงง :monkeysad:

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
KING ที่ 65 แฟนคลับตัวยง


ผมนั่งตัวตรงอยู่ในรถที่กำลังเคลื่อนตัวไปช้าๆ มือทั้งสองของผมประสานกันแน่น เหงื่อไหลซึ่มน้อยๆ ออกจากไรผม ไหลลงมาตามเครื่องสำอางราคาแพง จริงๆ ก็รู้ว่าถ้าบอกความจริงออกอากาศไปเมื่อไหร่ ยังไงวันนี้มันก็ต้องมาถึง แต่ไม่รู้จะเร็วขนาดนี้ อ้ากกกกกกก

 "ใจเย็นๆ ค่อยๆ คิด" ผมมองมือของไอ้ธีร์ที่วางไว้บนมือผมเหมือนกำลังปลอบโยน

 "แต่ว่า..." ผมพูดไม่ออก สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดก็คือ ถ้าพวกเราต้องแยกจากกัน คนที่มีหน้ามีตาขนาดนั้น ผมเป็นคนทำให้ตระกูลเขาเสื่อมเสีย มันจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นได้ยังไง จุดจบพวกนี้ผมคิดมาเป็นล้านครั้งแล้ว

 "ไม่ว่าคุณพ่อจะพูดอะไร พวกเราจะไม่ยอมแพ้" ผมละสายตาจากมือนั้น มองใบหน้าของคนรัก นั่นสินะ ถ้าพวกเราไม่ยอมแพ้ซะอย่าง จะมีใครมาพรากพวกเราได้

 ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่เหงื่อของผมก็ไหลล้นอย่างกับก็อกประปาแตก ขณะที่รถค่อยๆ เลี้ยวเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ โอ้ยย ตาย ตายแน่ ตายหยังเขียด

 ผมค่อยๆ ก้าวลงจากรถด้วยหัวใจระทึก ไอ้ธีร์เดินเข้ามากุมมือผมไว้และค่อยๆ พาผมเดินเข้าไปที่หน้าประตู แล้ววันนี้ผมนั้นใส่ชุดผู้หญิงมาเต็มยศ พ่อมันต้องยิ่งเกลียดผมแน่ๆ ผู้ชายแต่งหญิงคนหัวโบราณแบบพ่อมันต้องรับไม่ได้แน่ๆ

 ยิ่งคิดยิ่งอกสั่นขวัญแขวน ผมก้าวขาเดินช้าๆ ด้วยรองเท้าส้นสูงแหลมเปรี๊ยะ ชุดเดรสยาวสีเงินที่เลื่อมพริ้มพริมพราย สวยงามราวเจ้าหญิงแห่งจันทรา

 "เชิญทางนี้เลยค่ะคุณหนู" ผมก้มมองลงต่ำไม่กล้าสู้หน้าแม้กระทั้งแม่บ้าน พวกเรายังคงเดินต่อมาเรื่อยๆ ไปยังโถงของห้องอาหาร ผมเหลือบสายตามองดูคนที่นั่งประจำอยู่แต่ละที่นั่ง แม่ของไอ้ธีร์นั่งอยู่และส่งยิ้มมาให้ ส่วนหัวโต๊ะแน่นอนว่าพ่อของไอ้ธีร์กำลังนั่งทำหน้านิ่ว คิ้วขมวดอย่างน่ากลัว

 "นั่งลงสิ" เสียงเย็นเยียบทำให้ผมขากระตุกอีกครั้ง แต่มืออุ่นๆ ที่บีบเบาๆ ที่มือผม ทำให้รู้สึกหายผ่อนคลายลงไปบ้าง

 "พามาได้สักทีนะ" ผมนั่งลงข้างๆ ไอ้ธีร์ สายตายังคงจ้องมองปลายเท้าตัวเองที่ใต้โต๊ะ พวกเรากำลังจะถูกลงโทษสินะ อย่างที่คิดไว้เลย ว่าพ่อมันคงไม่มีทางปล่อยให้พวกเรารักกันแน่

 "ทำไมถึงเงียบล่ะ เงยหน้าขึ้นแล้วมาคุยกัน" พ่อไอ้ธีร์ยังคงเสียงแข็ง ผมจะพูดอะไรได้กันล่ะ ถ้าพูดไม่เข้าหูก็ยิ่งตายน่ะสิ

 "ผมรักฟา" และคำพูดของไอ้ธีร์นั้นก็ทำให้ผมต้องเงยหน้า ผมมองคนข้างๆ ที่พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ไม่มีความกลัวอยู่ในแววตา มีแต่ความมั่นคง ความจริงใจ เป็นความรักที่บริสุทธิ์

 "ก็คงอย่างนั้น เมื่อก่อนแกไม่เคยดื้อเลย ไม่เหมือนตอนนี้เลย" ผมกลืนน้ำลายลงคอ เพราะผมงั้นเหรอที่ทำให้ไอ้ธีร์เปลี่ยนไป เรื่องนี้ผมควรจะต้องแก้ไข

 "ผมขอโทษถ้าทำให้คุณพ่อคิดแบบนั้น แต่ว่าผมกับธีร์พวกเราแค่รักกัน ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย" ผมตัดสินใจพูดออกไป ความจริงผมไม่แน่ใจเลย ว่าตัวเองทำผิดไหม เป็นเพราะผมหรือเปล่า ที่ทำให้ชีวิตของไอ้ธีร์มีจุดด่างพร้อยแบบนี้

 เสียงหัวเราะในลำคอของพ่อไอ้ธีร์ทำให้ผมเกร็งสะท้าน ต้องไม่พอใจที่ผมพูดแน่ๆ ไอ้ฟาเอ๋ย รนหาเรื่องจริงๆ กู

 "มานี่ เอาไอ้นั่นมาหน่อย" ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำตาเลิ่กลั่กมองพ่อไอ้ธีร์ที่เรียกพ่อบ้านคนหนึ่งให้เข้ามา พ่อมันกระซิบกระซาบกระไรสักอย่างที่ข้างหูพ่อบ้านคนนั้น สายตาจ้องมองมาที่ผม เวรแน่ๆ

 ผมเกือบจะผุดลุกขึ้น แต่ไอ้ธีร์ก็ดึงมือผมเอาไว้ ให้ผมนั่งลงอย่างเก่า ทำไมมึงยังใจเย็นอยู่ได้ พ่อมึงให้คนเอาปืนมายิงกูแล้วววว กูจะตายแล้วววว

 พรึบ!

 หนังสือ ไม่สิสมุดหนังเล่มหนึ่งถูกวางลงตรงหน้าผม ทำเอาผมหดคอและเกาะแขนไอ้ธีร์ด้วยความระแวง นี่มันอะไร บัญชีหนังหมา เดธโน๊ตหรืออะไรแบบนั้นใช่ไหม!

 "ไหนๆ วันนี้ก็เจอสักที เซ็นต์ให้พ่อหน่อย" ห..ห๊ะ

 ไม่เพียงผมที่งงเป็นไก่ตาแตก แต่เหมือนไอ้ธีร์ก็ทำสีหน้างงวยด้วยความไม่เข้าใจ เห็นจะมีก็แต่แม่ไอ้ธีร์ที่นั่งกลั้นขำอยู่นาน และในที่สุดก็ทนไม่ไหว

 "คุณพ่อเขาเป็นแฟนคลับหนูฟ้าจ๊ะ" หะ...ห๊า เหมือนกับมีซุปเปอร์แมนยกรถสิบล้อออกจากตัว ผมโล่ง โล่งเลย เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ไปเลย

 "กรี๊ดดดดดด พี่ฟ้าาา พี่ฟาขาา เจอสักที" ผมที่ยังไม่หายมึนก็ถูกจู่โจมทันทีสายฟ้าแล่บ คอของผมถูกรัดแน่นจากด้านหลังจนลิ้นแทบจุกปาก ไอ้ที่จะตายก็ตอนนี้แหละ

 "ธัญ พี่เขาจะตายแล้ว ใจเย็นๆ" คนที่มาห้ามน้องสาวตัวแสบไว้ก็คือพี่ธีมที่หิ้วกระเป๋าให้น้องเดินตามมา

"พี่ฟ้าาา ไม่ใช่สิพี่ฟาา น้องธัญว่าแล้ววว น่ารักเหมือนกันขนาดนั้น น้องธัญตาบอดจริงๆ เป็นแฟนตัวยงประสาอะไรดูไม่ออก" น้องธัญยังไม่ยอมปล่อยมือจากตัวผม กอดผมราวจะสิงผมให้ได้

 "ขอโทษนะ ที่ไม่ได้บอก" ผมพูดด้วยความรู้สึกผิดแต่น้องธัญก็ส่ายหัวไปมารัวๆ

 "ไม่ยกโทษให้ค่ะ นอกจากจะมาอยู่บ้านนี้ อยู่กับธัญ ใช่ไหมคะคุณพ่อ!" โน้ววววว ผมส่ายหน้ารัวๆ คอแทบหัก นี่มันอะไรกันโว้ยย ไม่อ๊าววว ไม่มีทาง

 "โธ่ งั้นคืนนี้นอนที่นี่น้า น้องธัญมีคอเลกชั้นชุดคอสเพลย์ชุดใหม่ค่ะ อยากให้พี่ฟาใส่ให้ดู นะๆๆ อยู่นะคะ แค่วันนี้เอง"

 "ธัญ พี่เคยบอกว่าไง อย่าทำให้พี่ฟาไม่สบายใจ" ไอ้ธีร์พูดดุน้องสาว ธัญที่ไม่ได้ดั่งใจก็หน้าบูดและส่งสายตาขอแรงสนับสนุนจากคนเป็นพ่อ ผมนี่ยังช็อคไม่หายเลยจริงๆ

 "มีพี่ฟาอยู่แล้ว งั้นพี่กลับแล้วนะ" พี่ธีมงัดไม้เด็ดพูดเหมือนงอนๆ และทำท่าจะเดินหนีไป ผมสังเกตเห็นพี่เขาหลบสายตาคุณพ่อ ทั้งสองคนนี้ยังคงไม่เข้าใจกัน นี่เป็นเรื่องที่ผมเศร้าใจจริงๆ

 "ไม่ค่ะ พี่ธีม อยู่กับน้องธัญก่อนนน" น้องธัญที่เห็นแบบนั้นก็ผละออกจากผมไปกอดพี่ชายคนโตไว้ จากภาพที่เห็นดูท่าน้องจะชอบพี่ธีมมากกว่าผมซะอีก

 "แกก็นอนนี่บ้างก็ได้ จะไปไหนนักหนา" พี่ธีมที่ได้ยินคำพูดนั้นจากผู้เป็นพ่อก็ถึงกับทำสีหน้างงๆ ผมสงเกตว่าทั้งสองคนนั่นแหละที่ไม่ค่อยจะสบตากันเหมือนมีอะไรในใจ

 "ธีม นานๆ ทีอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนสิลูก นะ วันนี้วันดี ธีร์พาแฟนมาเปิดตัว อยู่ฉลองกันหน่อยจะเป็นไรไป" คำพูดของแม่ไอ้ธีร์ทำผมหน้าร้อนผ่าว นี่ผมถูกยอมรับอย่างเป็นทางการแล้วใช่ไหม ผมดีใจจัง เหมือนฝันไปเลย

 "นะคะพี่ธีม น้องธัญอยากให้พี่ธีมอยู่ด้วย คุณพ่อเขาไม่ได้โกรธพี่ธีมนะคะ คนแก่ซึนเดเระก็งี้แหละ ใช่ไหมคะ คุณพ่อรักพี่ธีมจะตายเนอะ"

 "ธัญ พูดมากไปแล้วเรา" คุณพ่อดุน้องธัญด้วยสีหน้าที่ไม่ดุเลยสักนิด บรรยากาศของครอบครัวใหญ่ดีขึ้นเรื่อยๆ ผมโชคดีจริงๆ ที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ในบ้านหลังนี้

 ช่วงเวลาหลังจากนั้น ผมอึ้งจริงๆ กับการจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ที่เสร็จภายในเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ภายในสวนด้านหลังของบ้าน มีโต๊ะอาหารและแสงไฟที่ระดับสวยงามเรียงรายพาดผ่านไปตามต้นไม้ อาหารอร่อยถูกนำมาวางเรียงรายไว้ให้รับประทาน เปิดเพลงเบาๆ ให้คนแก่ได้เต้นรำกัน ผมหลอกให้น้องธัญเล่าเรื่องราวในช่วงสมัยเด็ก แต่ไอ้ธีร์ก็คอยแต่จะขัดขวาง เพราะมันไม่อยากให้ผมรู้อะไรมากมายไปมากกว่านี้

 "รู้แค่ว่า ตอนนี้รักฟามากก็พอ"

 นี่เป็นคำพูดของมันที่บอกผม ชวนแหวะเหลือเกิน แต่ผมก็รู้สึกดีใจ ดีใจจริงๆ ที่มีมันอยู่ข้างๆ กัน

 เมื่อดื่มน้ำหวานมากเกินไปจนเกินลิมิต ผมขอตัวจากคนอื่นๆ เดินลัดเลาะผ่านสวนดอกไม้เพื่อเข้าห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลนี้ แต่ก่อนที่ผมจะได้เข้าไปนั้น แผ่นหลังของพ่อไอ้ธีร์ที่กำลังยืนมองหมู่มวลดอกไม้ ก็ทำให้ผมหดตัวเกร็งอีกเพราะกลัวจะไปรบกวนท่านเข้า

 "เป็นยังบ้าง งานเลี้ยงสนุกหรือเปล่า" ผมที่กำลังก้าวขาก็หยุดทันที นึกว่าจะไม่เห็นแต่ไม่รอดแฮะ คุยสักนิดก็ได้

 "ครับ สนุกครับ" ผมยังคงรู้สึกเกรงใจพ่อไอ้ธีร์อยู่มาก เป็นคนที่ภายนอกน่าเกรงขาม แต่จริงๆ ก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไร จุดนี้ ผมเพิ่งรู้วันนี้นี่เอง

 "อยากรู้อะไรเกี่ยวกับธีร์ ถามพ่อได้นะ" เหมือนจะรู้ว่าผมสนใจเรื่องราววัยเด็กของมัน แบบนี้ผมจะถามดีไหมนะ

 "ผมรู้มาว่าไอ้ธีร์ตอนเด็กๆ ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่" ผมพูดสิ่งที่ผมรู้ และพ่อมันก็ยิ้มอย่างใจดี

 "ธีร์เป็นคนที่ซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบสูง เขามักเก็บสิ่งที่กังวลไว้ในใจ และแสดงออกแต่ด้านที่เข้มแข็งให้เห็น แต่ถ้าเธอได้เห็นเวลาที่เขาร้องไห้หรืออ่อนแอ นั่นแปลว่าเขาถึงขีดสุดแล้วจริงๆ" เป็นจริงอย่างที่พ่อมันพูด มีแค่ครั้งเดียวที่มันร้องไห้ ตอนที่พวกเราเลิกกัน ตอนนั้นคงเป็นครั้งที่มันเจ็บปวดที่สุดแล้ว

 "พ่อรู้ว่าพ่อทำผิดไปบ้าง แต่ทุกสิ่งก็ได้แต่แนะนำด้วยความหวังดี เรื่องเรียนหมอ ความจริงถ้าธีร์ยืนกรานจะไม่เรียน พ่อก็คงบังคับเขาไม่ได้ แต่เขาก็ยังคงทำตาม เขาเป็นเหมือนพ่อสมัยหนุ่มๆ มีแววตาที่เหมือนกัน อย่างกับถอดแบบกันมา" พอฟังมาถึงตรงนี้ ผมก็อยากจะถามถึงอีกเรื่องที่ผมสงสัยจริงๆ เรื่องของพี่ธีม

 "ผมขอถามอีกเรื่องนึงได้ไหมครับ"

 "เรื่องเจ้าธีมเหรอ" ราวกับอ่านใจได้ ผมพยักหน้าน้อยๆ ให้ท่าน ผมอยากรู้ว่าทำไมท่านถึงต้องทำตัวราวกับไม่รักลูกชายคนโตคนนั้น

"ธีมเป็นคนหัวรั้น เจ้าเล่ห์ ลูกเล่นแพรวพราว" ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ พี่ธีม ไอ้คนหลอกลวง ไอ้งูพิ๊ษ

 "แต่คนที่ดูแลน้องได้ดีที่สุดก็ต้องเป็นเขา" เรื่องนั้นผมก็เข้าใจ ดูจากที่น้องธัญติดพี่แกอย่างกับตังเม

 "เขามีแววตาคล้ายกับแม่ของเขา แม่ที่ตายไปแล้ว" ท่านยังคงพูดต่อ ด้วยใบหน้าที่ราวกับอยู่ในห้วงคำนึง

 "เธอเป็นรักแรก เป็นผู้หญิงที่เสียสละตัวเองเพื่อให้ลูกได้เกิดมา เป็นความผิดของฉันเอง ที่มาช้าไป ดูแลเธอได้ไม่ดีพอ ความรู้สึกผิดนั้นมันกัดกินในใจฉัน แล้วจะมองหน้าเขาได้ยังไง ในเมื่อฉันมีส่วน ทำให้แม่ของเขาต้องตาย"

 แกร่กๆ!

 หลังจากที่พ่อของไอ้ธีร์พูดจบ พุ่มไม้ข้างหลังของผมก็สั่นไหวเล็กๆ เหมือนมีใครบางคนอยู่แถวนั้น แต่อาจจะเป็นแมวละมั้ง ผมเลิกสนใจพุ่มไม้และหันกลับไปคุยกับพ่อของไอ้ธีร์ต่อ

 "ผมว่าพี่ธีมคงไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกครับ" ผมไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้พูดแบบนั้น แต่คำพูดของผม ก็ทำให้ท่านหัวเราะออกมา

 "ฉันดูเธอไม่ผิด ดีจริงๆ ที่ได้เป็นลูกสะใภ้" พอได้ยินแบบนี้หน้าผมก็เปลี่ยนสีทันที พูดอะไรของท่านอ่ะ เขินนะเนี่ย

 "แล้ว แม่ของธีร์ละครับ" ผมถามแก้เขิน

 "เป็นน้องสาวของแม่เจ้าธีม เธอว่าฉันโชคดีไหมล่ะ ที่ได้ภรรยาที่แสนสวยทั้งสองคน" ผมยกนิ้วให้ท่าน ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ท่านหัวเราะชอบใจ ยอดเยี่ยมกระเทียมดองไปเลย แต่หวังว่าเรื่องนี้ไอ้ธีร์จะไม่เหมือนท่านนะ ไม่งั้นกบาลมันแยกแน่นอน หึ่ยยย

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เอ้า ง่ายเฉยยยย

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
คุณพ่อเป็นแฟนคลับน้องฟ้าเหรอ งี้ก็ทางสะดวกแล้วล่ะสิ.  :hao3:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เป็นที่รักของทุก ๆ คนเลยหรือเนี่ย เจ๋งจริง สวดยอด  o13

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
งั้นแสดงว่าคุณแม่รู้มาตลอด555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด