ผมตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเย็นๆ มองไปรอบๆ ก็เห็นว่าอยู่ในห้องของตัวเองแล้ว ผมมองเตียง..มองตู้เสื้อผ้า มองแม้กระทั่งโต๊ะหนังสือตัวใหม่ ทุกอย่างเป็นสีขาว..สีขาวสะอาดๆ สีขาวแบบที่ผมเคยนึกอยากได้..
แล้วผมเข้ามานอนในห้องนี้ได้ยังไง.. จำได้ว่าก่อนจะหลับไป ผมอยู่ในห้องของมันนี่นา แล้วทำไมตอนนี้มาอยู่ที่นี่ได้..
.
.
[ไปกินข้าวบ้านมิว]
ข้อความง่ายๆ ที่มันเขียนแปะไว้หน้าประตูห้องผม..ผมหยิบมันขึ้นมา ก่อนจะอ่านวนไปวนมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความแปลกใจ นี่มันไม่สบายหรือเปล่า..ปกติไปไหนมาไหนมันไม่เห็นจะเคยบอกผมเลยสักครั้ง ปล่อยให้ผมต้องมานั่งเฝ้า..นั่งรอด้วยกลัวว่าถ้ามันกลับมาแล้วไม่เจอผม หรือเห็นผมหลับไปก่อนจะโมโหจนลงไม้ลงมือใส่..แล้ววันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?
แล้วคืนนั้นทั้งคืนมันก็ไม่กลับมาที่ห้องอีก..ผมนั่งๆ นอนๆ รอมันที่โซฟาในห้องรับแขกอยู่จนเช้า ถึงได้ลุกเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวในห้อง ก่อนจะออกมาทำข้าวต้มทิ้งไว้ให้มันในครัวแล้วรีบออกไปเรียน..
ผมไม่รู้หรอกครับว่ามันจะกลับมากินหรือเปล่า..รู้แต่ว่ามันเป็น ‘หน้าที่’ ที่ผมต้องทำ ทำไปเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด..
.
.
“ทิว..”
ผมหยุดขาที่กำลังเดิน..ก่อนจะหันกลับไปมองคนเรียก “วี..”
“มาเช้าเหมือนกันนะ..ผมนึกว่าจะต้องรอนานกว่านี้ซะอีก” เขายิ้ม.. “พอมีเวลาคุยกันไหม..”
“อืม..” ผมพยักหน้า..ก่อนจะหันไปมองหาโต๊ะว่างๆ แล้วเดินนำเขาไป
“เอ่อ..แผลเป็นยังไงบ้าง” เขาถามเมื่อนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามผมแล้ว
“ก็..ใกล้จะหายแล้ว”
“อืม..ดีแล้วล่ะ”
“ไม่ต้องกังวลหรอก..วีก็ไม่ได้ตั้งใจจะขับรถมาชนผมนี่..” ผมบอกแล้วส่งยิ้มบางๆ ไปให้
“อืม..”
แล้วก็เกิดความเงียบขึ้นมาระหว่างเรา..ผมไม่พูด ส่วนเขาเอาแต่ถอนหายใจ ผมเหลือบมองหน้าเขาที่ดูเหมือนกำลังกังวลกับอะไรสักอย่าง..ก่อนจะเลือกเป็นฝ่ายทำลายความเงียบนี้ลง
“วีมีอะไรจะถามผมหรือเปล่า..”
ไม่แปลกหรอกครับ..ถ้าเขาจะสงสัยจนอยากถามอะไร ในเมื่อสภาพผมในวันนั้นมันดูไม่ค่อยปกติเท่าไร..แม้แต่วันนี้ หน้าตาผมยังซีดเซียวเหมือนคนเป็นโรคร้ายเลย
“วี..” ผมเรียกอีกครั้ง..เมื่อเห็นเขาเอาแต่ถอนหายใจอยู่อย่างเดิม
“เขาคนนั้น เอ่อ..ผมหมายถึงคนที่อยู่กับทิววันนั้น เป็นแฟนกันเหรอ..”
“หึๆ” ที่หัวเราะ..ไม่ใช่เพราะว่าผมขำอะไรหรอกครับ ผมแค่ไม่รู้จะตอบอะไรมากกว่า
“ถ้าใช่..งั้นทิว เอ่อ..ทิวไม่รู้เหรอว่าเขามีคู่หมั้นแล้ว..”
“ผมรู้ครับ..” ผมถอนหายใจออกมา..ก่อนจะพูดต่อ “ที่มานี่..เพราะอยากจะถามเรื่องนี้เหรอ..”
“ผม..” เขาเลิกหลบตาผม “ก็แค่เป็นห่วง”
“ผมไม่เป็นอะไรหรอก..วีไม่ได้ยินเสียงซุบซิบพวกนี้หรือไง” ผมบอกก่อนจะมองไปรอบๆ “ผมไม่ใช่คนดีอะไรแบบที่วีคิดหรอก”
“ทิว..”
“ก็แค่เด็กในบ้าน..ที่อยากยกสถานะตัวเอง” ผมพ่นคำพูดที่ใครต่อใครใช้วิจารณ์ผมออกมาให้เขาฟัง “เนรคุณคนที่ชุบเลี้ยงดูแล..ด้วยการนอนกับลูกชายของเขา”
“ทิว..”
“ทำร้ายผู้หญิงดีๆ เพียงเพราะอยากสุขสบาย”
“พอเถอะ..” เขายื่นมือมาจับมือผมเอาไว้ “ทำไมไม่ร้องขอให้ผมช่วย”
“หึๆ” ผมหัวเราะออกมาทั้งที่น้ำตาคลอ “ช่วยอะไร..ผมไม่ได้เป็นอะไรนี่”
“นี่ทิวคิดว่าผมดูไม่ออกหรือไง..ว่าทิวถูกเขาทำร้าย” เขาบีบมือผมแรงขึ้น “แผลบนตัวทิววันนั้น..หรือแม้แต่รอยช้ำที่อยู่บนแขนทิวตอนนี้ คิดว่าผมดูไม่ออกหรือไงว่ามันโดนอะไรมา”
“...”
“ผมเรียนหมอนะทิว..”
“...” ผมจนคำพูด..ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรมาบอกเขาอีก
“แค่พูดออกมา..” เขาจ้องตาผม “บอกให้ผมช่วยทิวสิ”
“ผมไม่ได้เป็นอะไร..” บอกแล้วยื้อมือที่เขากำลุงกุมอยู่ออกมา “วีไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก..”
“ทิว..” เขาเรียกผมเสียงอ่อน
“ผมมีความสุขดี..”
“...”
“ขอตัวครับ..” ผมบอกแล้วลุกขึ้น “ยังไงก็ขอบคุณจริงๆ นะ”
หันหลังเดินออกมา..ไม่คิดจะหันกลับไปมองอีก ผมไม่อยากอ่อนแอ..ไม่อยากวิ่งกลับเข้ากอดเขา ร้องขอให้ช่วยเหลืออะไรแบบที่เขาพูด ไม่ควรมีใครต้องมาเดือดร้อนกับเรื่องของผม..เพราะอันธพาลอย่างมันคงไม่มีวันยอมให้ใครยื่นมือมาช่วยฉุดผมออกจากนรกนี้หรอก มันเกลียดผมจะตาย..เพราะงั้นใครก็ตามที่ยื่นมือเข้ามายุ่ง คงไม่ได้อยู่อย่างสุขสงบแน่ !
Ma-NuD_LaW
แว๊บไปอัพเรื่องพี่เล็ก..เพราะเห็นคุณ AMINOKOONG มาทวง
แบบบางทีคนเขียนก็มึนๆ ลืมๆ ขอบคุณที่มาเตือนนะครับ
.
.
ส่วนที่มีคนถามเรื่องชื่อตัวละคร..ขอโทษที่ตอบช้าน้า "นัททิว" นี่ตั้งใจหรือเปล่า?
อืม..ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่คนเขียนเป็นพวกไร้ความสามารถในการตั้งชื่อตัวละครน่ะ
คิดๆ ดูแล้วก็คงตั้งใจมั้ง
ขอบคุณทุกความเห็น..โดยเฉพาะเม้นดักทาง เครียดมากเวลาแต่ง..