●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [19 #น้ำนิ่ง - 18/04/18 ● P.4] ●●
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ●● Sleeping Bear and Apple's Trap ●● [19 #น้ำนิ่ง - 18/04/18 ● P.4] ●●  (อ่าน 16375 ครั้ง)

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
5555555+

โอ้ยยย

ทำไมพ่อหมีถึงขี้เซาขนาดนี้

นิยายสนุกค่ะ

เราชอบ

ออฟไลน์ YEEUN9424

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

Sleeping bear and Apple's Trap 12

#แอปเปิล

 

 

 

            ผมพลิกซองสีขาวในมือไปมาอย่างไม่ไว้ใจเพราะช่วงนี้มักมีจดหมายข่มขู่แปลกๆ ส่งมาให้รู้สึกขนลุกอยู่เรื่อย เกิดจากท้องพ่อท้องแม่มา 20 กว่าปีก็เพิ่งจะเคยจะเจออะไรแบบนี้นี่แหละ ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะปฏิบัติตัวยังไงเลยได้แต่เล่าให้เพื่อนกับแฟนฟัง ซึ่งทุกคนก็มีความกังวลไปพร้อมๆ กับผม แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้มากอยู่ดี

            “ได้อีกแล้วเหรอวะ”

            “เออดิ มาพร้อมขนมมึงคิดว่ากูจะกล้ากินไหม”

            “แดกก็ตายห่ากันพอดี”

            คนทำมันฉลาด ฝากคนรู้จักมาให้ในรูปแบบที่ไม่น่ากลัวดูเหมือนพวกฝากจีบ ฝากของให้คนที่ชอบอะไรแบบนั้น เดี๋ยวคุกกี้ เดี๋ยวเค้ก มาพร้อมจดหมายในซองสีธรรมดาๆ แต่เปิดเนื้อความอย่างเหี้ย เขียนด้วยสีแดงตัวหนังสือน่ากลัวๆ  ไปตายซะ อีแอปเปิลเน่า เลิกยุ่งกับเขา บลาๆ  เขานี่ใครวะ โอ้ย!

            “กูว่าแฟนคลับน้ำนิ่งแน่ๆ เขาที่มึงยุ่งอยู่ตอนนี้ก็มีแค่มันคนเดียว” ไอ้จ๋าออกความเห็นเล่นเอาผมฉุกใจคิด จริงของมัน

            “เพราะกูคบกับมันเนี่ยนะ”

            “เออดิ”

            “ถ้าชอบมันขนาดนี้ทำไมไม่รุกจีบไปเลยวะ พอมันมาคบกูแล้วมารังควาญมาตามโรคจิตใส่กันมันใช่เหรอ” น้ำนิ่งมีคนชอบเยอะก็จริง แต่ผมยังไม่เจอแบบที่เปิดตัวจะๆ เลยไม่รู้ไงว่าใครมันเข้าข่ายไอ้โรคจิตที่ส่งจดหมายมาขู่ผมกันบ้าง แล้วคนที่ชอบมันส่วนมากก็ไมได้แบบตามตื้อตามอะไรนะ แต่กรี้ดๆ ยิ้มๆ เวลาเจอ หรือซื้อของมาให้เท่านั้น

            “เขาอาจจะไม่ได้อยากได้ แต่แค่ไม่พอใจที่เป็นมึงไง”

            “กูไม่ดีตรงไหน”

            “กูจะรู้ความคิดไอ้โรคจิตนั่นไหม”

            “ต่อไปมันไม่เอามีดมาแทงมึงเลยเหรอวะ” ไอ้โป้พูดขึ้นมาทำเอาผมเสียววาบ แค่จดหมายก็จะบ้าแล้ว

            “น่ากลัวจัง ช่วงนี้อย่าไปไหนคนเดียวนะเปิ้ล เดี๋ยวเราให้หินช่วงสืบให้” พีชพูดขึ้นมาพร้อมกับเกาะแขนผมแน่น  ผมพยักหน้าให้ ใบหน้าซีดฉายความกังวลออกมาทั้งกลุ่ม

 

 

 

 

            “ยังได้จดหมายแบบนั้นอยู่เหรอ”   

            “อืม นิ่งแน่ใจนะว่าไม่มีโจทย์ที่ไหน ไม่มีแฟนเก่าโรคจิต ไม่มี..”

            “แฟนเก่านี่เลิกกันไปตั้งแต่ม.6 แต่งงานมีลูกแล้ว” ชายหนุ่มพูดแล้วดึงผมลงไปนั่งตัก หยิบมือถือขึ้นมาเปิดแชทไลน์ให้ดู “ลูกเขา เพิ่งคลอดน่ารักไหม”

            “ลูกน้ำนิ่งเหรอ”

            “ตลกเหรอครับ”

            ผมหัวเราะ รูปที่ว่าก็รูปผู้หญิงคนหนึ่งกับเด็กทารกในอ้อมแขน แฟนเก่าน้ำนิ่งนั่นแหละ เห็นว่ายังติดต่อกันอยู่แต่ก็นานๆ ที โอเค เรื่องแฟนเก่าตัดไป

            “แล้วพวกคู่อริละ”

            “หน้าเราดูเหมือนคนชอบมีเรื่องเหรอ”

            “ใครจะรู้ หน้าง่วงๆ แบบนี้คนมองอาจจะไม่ชอบใจ”

            “มันเป็นมาตั้งแต่เกิดแล้วนะ”

            “เฮ้อ เริ่มกลัวแล้วนะเนี่ย เกิดวันดีคืนดีเราโดนแทงทำไงอะ” ผมว่าพลางเอนตัวพิงออกคนข้างหลัง น้ำนิ่งกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ดึงผมขึ้นมานั่งจนเต็มตัก เนื้อแนบเนื้อ

            “พูดอะไรน่ากลัว เดี๋ยวจัดการเอง”

            “จัดการยังไง ไหนบอก”

            “ไม่รู้ ไอ้หินกับไอ้มูนจัดการอยู่”

            แล้วเมื่อครู่หมีตัวไหนมันบอกจะจัดการเองวะ

            “ไม่ต้องกลัวนะ จะปกป้องเอง” ว่าแล้วก็หอมแก้มผมอีกหลายทีเน้นๆ ถึงจะดูเหมือนพูดไปเรื่อย แต่ก็รับรู้ได้ว่าอีกคนจริงจังกับคำพูดตัวเองแค่ไหน นั่นทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้บ้าง

            เหมียว..

            หันพรึบทันทีเมื่อได้ยินเสียงที่สาม แล้วเจ้าของเสียงก็เดินอุ้ยอ้ายเข้ามาทางระเบียง ผมมองหน้าน้ำนิ่งอย่างต้องการคำตอบ มาที่ห้องก็หลายครั้งแล้วแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอเจ้าแมวสีขาวแซมเทาตัวอ้วนกลม ผูกจุกเล็กๆ เป็นทรงน้ำพุโคตรน่ารัก

            “แมวคนข้างห้อง สงสัยเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดกัน” น้ำนิ่งอุ้มเจ้าแมวขึ้นมานั่งบนตักแล้วก็ลูบหัวมันซึ่งเจ้าตัวก็ให้การตอบรับด้วยการไถหัวออดอ้อนอย่างน่าหมันไส้ “เปิ้ลไม่ชอบเหรอ”

            อ๊าก! เพิ่งเคยเห็นน้ำนิ่งมันอยู่กับสัตว์ตัวน้อยๆ แบบนี้ครั้งแรก แอทแทครุนแรงมาก

            “ปะ เปล่า ปกติมาไม่เคยเจอ มันมาบ่อยเหรอ มีชื่อไหม”

            “อ้วน”

            “ง่ายดีนะ”

            “มันอ้วน”

            “ไม่เถียง” พอเห็นเจ้าแมวอ้วนยังออดอ้อนคลอเคลียน้ำนิ่งอยู่ผมก็เข้าไปร่วมวงด้วย แฮ่ๆ เข้าไปแย่งพื้นที่สักหน่อย ตอนแรกมันก็ไม่ค่อยจะสนใจผมเท่าไรหรอกแถมยังทำท่ารำคาญที่ผมมาแย่งพื้นที่มันอีกต่างหาก แต่หลังจากนั้นไม่นานน้ำนิ่งก็กลายเป็นคนที่ไม่มีใครสนใจเพราะทั้งผมพาเจ้าอ้วนลงจากตักของน้ำนิ่งแล้วกอดกันกลมจนลืมใครอีกคนไปเลย

 

 

 

            “เปิ้ล~”

            ผมนั่งเล่นกับเจ้าอ้วนอยู่ตรงโซฟา เปิดทีวีดูไปด้วยเกาพุงแมวไปด้วย มีความสุขจนลืมเจ้าของห้องที่กำลังนั่งทำงานอยู่ตรงระเบียง กระจกที่เปิดกว้างให้ลมเข้าเบาทำเอากระดาษปลิวบ้าง แต่เจ้าของห้องมันก็ไม่ยอมปิดเห็นว่าชอบ ลมธรรมชาติเหมาะแก่การทำงาน

            ห้องของน้ำนิ่งเป็นห้องกว้างขนาดใหญ่ โล่งมาก โล่งแบบไม่มีกำแพงกั้นส่วนไหนเลย นอกจากครัวและห้องน้ำที่เป็นพื้นที่ของมันไป ขนาดตรงส่วนที่คิดว่าเป็นห้องนอนก็แค่มีที่เตียงวางไว้พอให้รู้ว่าเป็นที่นอนเท่านั้นเอง

            “เปิ้ล~~”

            ผมลุกขึ้นเมื่อน้ำนิ่งเรียกผมอีกครั้ง น้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรงจนน่าสงสารผมอุ้มไอ้อ้วนมาหา พอปล่อยมันลงมันก็เดินอุ้ยอ้ายออกไปทางระเบียงกระโดดหายวับไปจากสายตา

            น้ำนิ่งดึงผมไปนั่งตัก ซุกหน้ามาตรงซอกคอ ทั้งกอด ทั้งหอมเหมือนทุกที ผมก็ได้แต่ลูบมือลูบแขนของอีกคนที่วางอยู่ตรงช่วงเอวไปมา “เหนื่อยเหรอ เหนื่อยก็พัก”

            “อยากได้กำลังใจ”

            “ให้แล้วไง”

            “ไหน”

            “เนี่ยๆ” หันไปหอมแก้มสากซ้ำๆ จนน้ำนิ่งยิ้มกว้าง

            “จะเอาแบบนี้”

            แล้วริมฝีปากหน้าก็ทาบทับลงมา น้ำนิ่งไม่ได้ตะโบมจูบ เขาแทบจะไม่เคยทำแบบนั้นแต่จะค่อยๆ ตะลอมเล็มไปที่จะนิดจนผมเริ่มตายใจนั่นแหละถึงจะแสดงความดิบออกมา มือหนาลูบไปมาตามเอวของผม พอๆ กับที่ผมเองก็สอดมือเข้าไปตามกลุ่มผมสีดำ บ้างก็จิกเล็บลงไปเมื่อเขาดูดลิ้นผม เราจูบกันท่ามกลางกองงานและแสงไฟจากตัวห้องถ้ามันจะ..

            จ๊อก

            จุ๊บ จุ๊บ

            จุ๊บปากผมเน้นๆ อีกสองสามทีก่อนจะเอาหน้าผากแนบกัน

            “หิวอีกแล้ว ทอดไก่ให้กินหน่อยน้า”

            กำลังเคลิ้มเลยกู

 

 

 

            “หน้าบึ้งอีกละ ยังได้จดหมายอยู่เหรอวะ”

            “เออดิ แต่กูไม่ได้บึ้งเพราะจดหมาย”

            “แล้วอะไร เกิดอะไรขึ้นหรือทะเลาะกับที่รัก”

            ไอ้โป้ ไอ้จ๋าและพีชพากันนั่งลงแล้วจับจ้องมาที่ผม เรื่องจดหมายก็กังวลอยู่แต่ที่หน้าบึ้งเพราะไอ้แฟนตัวดีนั่นต่างหาก เมื่อวานบรรยากาศกำลังดีๆ มันกลับ... ผมเริ่มเปิดปากเล่าให้เพื่อนฟัง แล้วก็เป็นไปตามคาดพวกมันหัวเราะกันใหญ่ หัวเราะไม่ได้เกรงใจผมที่ทำหน้าบึ้งอยู่นี่เลย โว้ย!!!

            “กูกำลังเคลิ้มๆ อะ แล้วดูแม่งดิ เสือกท้องร้องใส่”

            “แค่นี้เองมึง”

            “แค่นี้ตรงไหนวะ!? มันก็ดูหื่นๆ ยังเคยเล่าอยู่เลยว่าตอนชนกูครั้งแรกกูทำมันตื่นทั้งตาตื่นทั้งใจ ไอ้นั่นของมันก็เกือบตื่น แต่ทำไมมันไม่ ..”

            ล่อ... เฮ้ย! จัดการผมสักที!!

            “น้ำนิ่งตลกวะ ชนมึงแล้วไอ้นั่นตื่น” ไอ้โป้ขำยาวจนผมกลัวว่ามันจะขาดอากาศหายใจตายเสียก่อน

            “มึงก็อย่าคิดมากน่า คนคบกันใช่ว่าจะมีแต่เรื่องแบบนั้น”

            “มึงพูดแบบนี้กูดูไม่ดีเลยนะ”

            “ไอ้จ๋าก็บอกอยู่ว่าอย่าไปคิดมาก มึงนี่ยังไง เดี๋ยวกูกับไอ้จ๋าจะไปเรียนเสรีแล้ว เจอกันพรุ่งนี้”

            “ค่อยเป็นค่อยไปนะมึง”

            ผมพยักหน้าให้แม้ในใจจะยังไม่รู้สึกเคลียร์ก็ตาม พอไอ้จ๋ากับไอ้โป้เดินออกไปก็เหลือแค่ผมกับพีชสองคน ไอ้นี่ก็เล่นมือถือไม่เลิก ติดมาก เจ้าพ่อโซเชียลสุดๆ ผมแกะขนมมากินสองสามชิ้นแล้วก็นั่งท้าวค้างมองเพื่อนตัวเองก่อนจะตั้งคำถามขึ้นมา

            “มีความสุขดีปะ”

            “อะไรเหรอ”

            “กับลูกหินอะ”

            “มากมาก เดี๋ยววันนี้ก็จะไปดูหนังกัน”

            “เหรอ..”

            “เปิ้ลมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า นอกจากเรื่องไม่โดนตี๊ด”

            “นิ่งมันนิ่งเกิ้น นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นแดกจริงๆ” 

            “ก็สมกับเป็นนิ่งดีน้า จะให้ลุกมาตีกลองร้องเพลงก็คงไม่ใช่”

            “ไม่ใช่ว่าจะต้องทำอะไรแบบนั้น แต่ก็อยากให้มันมีอะไรบ้าง อย่างไปเที่ยวดูหนังฟังเพลง ไปเดตบ้าง ทุกวันนี้มีแต่ห้องมันไม่ก็ห้องกู เอาแต่กินกับนอนแบบนี้”

            “ไม่โอเคเหรอ?”

            “มันก็โอเคอยู่ นิ่งจะเป็นแบบไหนก็ชอบ แต่แบบ…”

            “....?”

            “กูอยากมีโมเมนต์ที่มากกว่ากอดจูบลูบคลำบ้าง!!”

            “อ่าว สรุปก็เรื่องเดิมนี่หว่า”

            “เออ! ไม่ออกไปไหนจะอยู่แต่ห้องกูก็ไม่อะไรหรอก แค่ได้อยู่ด้วยกันผมก็มีความสุขมากแล้ว แต่อยากให้ทำอย่างอื่นบ้างนี่หว่า ไม่ใช่เอาแต่กินกับนอน! อีกอย่าง..กูห่างหายจากเรื่องนั่นมานานแล้วนะ แล้วนิ่งแม่งเซ็กส์แอฟเพียลมันน้อยที่ไหน อยู่ใกล้แล้ว…”

            “อ๋อออ ที่แท้ก็อยากจึกๆ ฮิฮิ”

            “เออออ กูอยาก”

            ผมตอบออกไปอย่างไม่กระดากอาย อย่าได้คิดว่าผมจะดราม่าที่ไม่ได้ออกไปเดตข้างนอกเหมือนคู่อื่นๆ เขา ไม่ใช่เรื่อง รู้ว่ามันชอบอยู่กับบ้านมากแค่ไหน ผมเองก็เหมือนกัน วันไหนอยากออกเดี๋ยวก็ออกเองแหละ ที่สำคัญคือเรื่องนี้ต่างหาก ยอมรับก็ได้ว่าผมหื่น

            แหม! มีแฟนทั้งทีเรื่องพวกนั้นก็ธรรมดาๆ แต่ที่ไม่ธรรมดาคือไอ้น้ำนิ่งเลย!

            ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งเห็นเสน่ห์ในแบบมึนๆ ของผม รูปร่างก็แสนดี เซ็กส์แอฟเพียลกระจุยกระจาย แต่มันกลับนิ่งไม่ยอมทำอะไรผมสักที!

            “แล้วจะยกเรื่องเดตขึ้นมาพูดทำไม”

            “อยากให้มันดูดราม่าเฉยๆ แต่กูไม่ได้ติดใจเรื่องนั้น ยังไงก็ได้อยู่ด้วยกันอยู่ดี แต่อยู่ด้วยกันแล้วเอาแต่กินกับนอนนี่มัน.. ฮึ้ย!!!”

            “ไม่อ่อยอ่ะ”

            “อ่อยแล้ว แต่มันเอาแต่นอนกับกินแล้วก็ทำงาน”

            “ไม่ได้จุ๊บๆ กันเลยเหรอ”

            “จูบดิ บ่อยด้วย เคลิ้มๆ ทีไรได้เรื่องทุกที หรือกูไม่น่าเอาวะ”

            “ไม่หรอก เปิ้ลยังเด้งอยู่เลย ใครเห็นก็อยากได้ทั้งนั้น”

            “เออ ใครก็อยากได้กู แต่ยกเว้นแฟนกูนี่แหละ”

             “ใครอะไร หืม”

            เฮ้ย!! ผมสะดุ้งโย่งเพราะเจ้าของเสียงก็คือเจ้าของหัวข้อสนทนาเมื่อครู่ ผมหันไปยิ้มแหะๆ ให้ก่อนจะคว้าเอากระเป๋ากับถึงขนมมาถือ

            “มานานยัง”

            “เพิ่งมาเมื่อกี้”

            “ลูกหินล่ะ” พีชถามน้ำนิ่ง

            “มันแวะซื้อน้ำปั่นให้อยู่ บอกให้ไปหาที่ร้านเลย

            “โอเค~ แล้วเจอกันน้า เปิ้ลสู้ๆ ขอให้ได้ขอให้โดนไวๆ ฮิฮิ”

            ไอ้พีช! ไอ้เพื่อนเลว!

            “ขออะไร” แล้วไอ้หมีก็หันมาทำหน้างงใส่ผม

            “ไม่มีอะไรกลับกันเถอะ”

            ผมส่ายหัวพร้อมยื่นไปจับมือหนาของอีกคนไว้ก่อนจะเดินออกไปด้วยกัน

            พอเข้ามาในรถน้ำนิ่งก็เอนเก้าอี้ลงพร้อมนอนเหมือนประจำ ผมก็ขับรถไปเรื่อยๆ พอรถติดไฟแดงก็หันไปมองคนข้างๆ กะไงว่ามันหลับแน่แต่ที่ไหนได้ดันนอนตากลมมองผมพร้อมส่งยิ้มให้อีกต่างหาก

            “นึกว่าหลับ”

            “ไม่ง่วง วันนี้ไปไหนดี กลับหอเลยไหม” ผมมองหน้าเขาอย่างแปลกใจ อะไรวะ ร้อยวันพันปีไม่เคยชวนออกข้างนอก

            “แล้วแต่ดิ อยากไปไหน ดูหนังไหม”

            “ง่วงจัง”

            “ก็กลับไปนอน”

            “แต่ก็อยากดูหนังนะ”

            “เอาไง”

            “แล้วแต่เปิ้ล”

            “ไอ้น้ำนิ่ง”

            “ฮาๆ น่ารัก” ผมว่าหน้างอ แต่อีกคนกลับหัวเราะร่ามีความสุข บีบแก้มผมเต็มไม้เต็มมือ

            “หน้าง่วงขนาดนี้กลับไปนอนกันดีกว่า” อันที่จริงคือผมไม่อยากไปไหนแล้ว ช่วงเย็นรถติดจะตาย ไม่มีหนังที่อยากดูด้วย

            “กลับไปนอนแน่เหรอ หืม” ผมหันควับกับคำพูดแปลกๆ ของมัน

            “อะไรของมึง”

            อย่าบอกนะว่า..

            “ได้ข่าวว่าอยากโดน”

            “หะ”

            “ได้ยิน ‘อยากโดนอะ อยากโดน’” เสือกเลียนเสียงอีก โอ้ยยย แสลงหู

            “อะ.. อะไร โดนเดินอะไร”

            ชิบหาย! มันได้ยินจริงๆ ด้วย ก็ว่าแปลกๆ ตั้งแต่เอาแต่ผมยิ้มทำหน้าล้อเลียนเมื่อกี้แล้ว ผมหน้าร้อนขึ้นมาทันที ทั้งเขินทั้งอาย

            “หึหึ เดี๋ยวรอก่อน รอโปรเจคนี้จบก่อน ไม่รอดแน่เปิ้ล”

            อย่างนี้มันก็รู้แล้วสิว่าผมหื่นอะ! ตาย ตาย ตาย ภาพพจน์ที่เคยสั่งสมมาหายวับไปหมด

 

 

 

TBC.

30/6/17

กลายเป็นนิยายรายเดือนไปแล้ว อย่าเพิ่งตีเรานะคะ ‘_’

เดือนนี้เป็นเดือนเกิดต้องมาอัพสักหน่อย 555

แอบไปคิดแท็กมา ใครอยากพูดคุยฝากแท็กด้วยนะคะ

#เปิ้ลเลี้ยงหมี #นิ่งหมีขี้เซา #กับดักหมี

แล้วเจอกันตอนหน้าค่า ไม่นานๆ รอบนี้ไม่นานจริงๆ

ขอบคุณที่ยังติดตามกันอยู่ ร๊ากกกก

 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2017 20:33:56 โดย YEEUN9424 »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คนอ่านก็อยากให้แอปเปิ้ลโดนเหมือนกัน  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เปิ้ลอยากโดนตอนหน้าก็จัดให้หน่อยค่ะ  :hao7:

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เปิ้ลน่ารัก555555

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
โอ้ยยย หายไปนานนเลยค่ะ
เปิ้ลโดนแน่ๆ น้ำนิ่งบอกแล้วว่าอีกไม่นานนะจ๊ะ

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
หายไปเดือน เปิ้ลพัฒนาพูดมึงอ่ะ  :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nlygust13

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รีบมานะนิ่งรออยู่ พ่อหมี

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ตอนหน้าพ่อหมีจัดหนักเลย

ออฟไลน์ YEEUN9424

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Sleeping bear and Apple's Trap 13
#น้ำนิ่ง



   งานเยอะชิบหาย ผมจะตายแล้ว รู้สึกเหมือนเพิ่งจะสอบเสร็จไปไม่เท่าไร เทศกาลสอบปลายภาคก็ใกล้เข้ามาอีก อันที่จริงจะช่วงไหนคณะที่ผมเรียนงานก็เยอะตลอดนั่นละนะ และถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของผมกับเปิ้ลจะเป็นไปอย่างดี แต่ก็ยังแอบกังวลในบางทีเพราะตัวเองก็ไม่ใช่พวกที่ชอบออกไปทำกิจกรรมเท่าไร เจอหน้ากันทีไรผมก็เอาแต่ลากเขามานอนกอดทุกที บางทีก็กลัวว่าเปิ้ลจะเบื่อ มีความคิดที่จะเปลี่ยนตัวเองอยู่เหมือนกันแต่พอได้บังเอิญไปได้ยินที่เปิ้ลคุยกับเพื่อนก็ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดไปโดยสิ้นเชิง
   “..แค่ได้อยู่ด้วยกันผมก็มีความสุขมากแล้ว...”
   เปิ้ลคงไม่รู้ว่าเขาทำให้ผมหุบยิ้มแทบไม่ได้ แอปเปิลน่ารักมากสำหรับผม แม้จะไม่คิดเรื่องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วแต่ผมก็จะพยายามให้มันดีกว่านี้
   “มึงได้เรื่องบ้างไหม”
   ผมถามออกมาหลังจากทิ้งตัวลงนั่ง เพื่อนสามคนหันมามองผมก่อนจะส่ายหัวให้ ช่วงนี้เปิ้ลได้รับจดหมายขู่จากใครคนหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในคนที่ชอบผม กูละงง มันต้องอะไรขนาดนี้เลยเหรอวะ อยากรู้ว่าใครมันทำแต่ทุกอย่างกลับว่างเปล่าจนไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
   “จะไปจับมือใครดมได้วะ คนที่ชอบมึงก็ใช่ว่าจะแสดงตัวเยอะ”
   “แต่ช่วงนี้กูว่าเยอะนะ ตั้งแต่มึงเปิดตัวกับเปิ้ล”
   “แล้วจะให้ไปเดินถามเรียงตัวเหรอวะ”
   “นั่นก็เกินไป ยิ่งคนรู้เยอะยิ่งไม่ดี”
   ไอ้เจ้ากับไอ้มูนช่วยกันออกความคิดเห็นแต่ยังไงผมก็ยังว่างเปล่าอยู่ดี อยากให้เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องตลกสองสามฉาก หรือไม่ก็หายๆ ไปซะได้ก็ดี ผมไม่อยากเห็นเปิ้ลต้องอยู่อย่างระแวดระวังกับอันตรายที่มองไม่เห็น ผมปวดใจทุกทีเวลาเห็นเปิ้ลอ่านจดหมายแล้วใบหน้าเหยเกด้วยความหวาดกลัว แสดงความกังวลออกมา
    “มึงลองบอกให้เปิ้ลอยู่เฉยๆ ไม่ต้องกลัวไม่ต้องแสดงท่าทีหรือโพสอะไรลงอินเทอร์เน็ต ทำเหมือนไม่สนใจ คนทำมันจะยิ่งได้ใจแล้วแสดงตัวออกมาเอง”
   “ยังไงวะ”
   “แบบ.. ยิ่งมันส่งจดหมายขู่เท่าไร มันก็คาดหวังว่าเปิ้ลจะกลัวจนต้องเลิกกับมึงใช่ไหม แต่ถ้าเปิ้ลแสดงให้ไอ้คนส่งมันเห็นว่าเปิ้ลโคตรจะมีความสุข โนสนโนแคร์ ไม่เลิก กูว่ามันต้องโผล่ออกมาจัดการขั้นเด็ดขาดแน่ๆ ถ้ามันอยากได้มึงมากอะนะ”
   “กูมีอะไรดี”
   “เออ กูก็อยากรู้เหมือนกัน” 
   ผมพยักหน้าหงึกหงัก ในหัวคิดสะระตะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติจะคิดแค่ว่าจะนอนตรงไหน จะกินไก่ทอดหรือไก่ต้มดี แต่ตอนนี้หลักๆ คิดแต่เป็นห่วงคนของผมนี้แหละ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็คงจะดี




   “พี่น้ำนิ่งคะ!!”
   หันไปตามเสียงเรียกอย่างขี้เกียจ ผู้หญิงร่างเล็กวิ่งเข้ามาหาผม เธอใส่ผ้าปิดปากสีขาว จนผมไม่รู้ว่าเป็นใคร
   “โธ่.. พี่น้ำนิ่งจำหนูไม่ได้อีกแล้วละสิ”
   อย่าว่าแต่จำไม่ได้เลย เราเคยรู้จักกันเหรอ?
   “หนูเป็นรุ่นน้องพี่แอปเปิลค่ะ” ผมขมวดคิ้วเพราะความไม่คุ้นอย่างแรง ที่สำคัญรุ่นน้องแล้วยังไง ทักทำไม จะกลับหอ จะไปหาเปิ้ล
   “คือ.. ที่จริงก็ไม่ใช่รุ่นน้องในเอก หมายถึงรู้จักกันน่ะค่ะ”
   “อ่า..”
   “คือหนูฝากอันนี้ไปให้พี่แอปเปิลหน่อยนะคะ ส่วนอันนี้ของพี่ค่ะ”
   “?”
   “อยากให้ค่ะ ขอบคุณที่ดูแลพี่แอปเปิลอย่างดีนะคะ”
   ผมไม่ได้พูดอะไร ได้แต่แสดงสีหน้าง่วงๆ ใส่ แต่เธอกลับพูดฉะฉาน เสียงสดใส ราวกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่  พอตั้งท่าจะถามอะไรสักหน่อย เธอยกมือไหว้ผมแล้ววิ่งกลับไปทางเดิมทันที ทิ้งให้ผมอยู่กับกล่องของขวัญสีสวยของเปิ้ลกับถุงไก่ทอดที่ว่าเป็นของผม




   “มูนบอกให้ลองทำแบบนั้นเหรอ”
   “อืม มันบอกว่าคนนั้นจะได้โผล่มาจัดการขั้นเด็ดขาด เราจะได้จับตัวได้”
   “จริงๆ ตอนนี้ก็ไม่ได้กลัวอะไรแล้วนะ ชักปลงๆ เดี๋ยวมันทนไม่ได้ก็ออกมาเองแหละ” เปิ้ลพูดสบายๆ ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยเปิ้ลก็ไม่ได้เครียดจนหวาดระแวงไปซะหมด
   “อย่างนั้นก็ดีแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ”
   “อื้อ  วันนี้กินไรดี ไก่ที่หมักไว้หมดละนะ”
   “พูดถึงไก่มีรุ่นน้องฝากของมาให้ เขาซื้อไก่มาให้เราด้วย”
   “หืม รุ่นน้องเหรอ อยู่ไหน”
   “บนโต๊ะในครัว”
   เปิ้ลลุกออกไปจากตักของผมแล้วตรงเข้าไปในครัว มื้อเย็นวันนี้ก็คงไม่พ้นอาหารที่ได้มาจากรุ่นน้องคนนั้น ผมหันมาสนใจรายการทีวีตรงหน้าจนกระทั้งได้ยินเสียงของตกกระทบพื้นพร้อมกับเสียงร้องของเปิ้ล ผมรีบสับขาเข้าไปในครัวทันที อย่าได้ช้าไปมากกว่านี้เลยเดี๋ยวมึงจะไม่ใช่พระเอก
   ภาพเบื้องหน้าทำเอาผมชะงักกลางอากาศ กล่องกระดาษสีสวยวางแผละอยู่บนพื้นมีสีแดงฉานของเลือดเปรอะเปื้อนกระจายเป็นวงกว้าง พอได้มองเปิ้ลใจผมยิ่งกระตุกช่วงมือและเสื้อของเปิ้ลเลอะไปด้วยเลือด
   “โดนบาดเหรอ”
   “มะ.. ไม่ ไม่ใช่” ผมเข้าไปดึงเขาให้ออกห่างจากไอ้สิ่งบ้าๆ ตรงหน้า นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!? “เลือด ตอนแรก มันเป็นก้อนๆ ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ ก็เลย.. ก็เลย เปิดออก ตะ.. แต่พอแกะกระดาษหนังสือพิมพ์แล้ว เลือด เลือดก็กระเซ็นออกมา เต็มไปหมดเลย อะไรเนี่ย ฮือ”    
   ผมใช่เท้าเขี่ยๆ ไอ้กล่องเวรตรงหน้าเพื่อดูว่านอกจากก้อนเลือดแล้วมันมีอะไร และสิ่งที่เห็นก็ทำเอาผมเลือดแทบขึ้นขมับ มันเป็นตุ๊กตาฟางที่มีรูปเปิ้ลแปะไว้ และมันเต็มไปด้วยเลือด
   “บัดซบเอ๊ย!”
   อยากจะบอกเปิ้ลว่าไม่ต้องกลัว แต่เจอแบบนี้เขาไปผมเองก็หวั่นเหมือนกัน มันเหมือนจะเล่นถึงชีวิต ผมกอดคนในอ้อมแขนแน่น ย้ำให้เขารู้ว่าผมอยู่ตรงนี้
   



   ผมยังคงปลอบประโลมคนของผมที่มีอาการช็อคไม่หาย เปิ้ลนอนนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา ไอ้ของเฮงซวยนั่นผมก็จัดการเอาไปทิ้ง พร้อมไก่ทอดเรียบร้อย
   “นิ่งจำหน้าคนให้ได้ไหม”
   ผมถอนหายใจแล้ววางคางลงบนบ่าเล็ก กระชับอ้อมกอดอย่างรู้สึกผิด เกลียดไอ้นิสัยไม่ค่อยจะจำหน้าใครขึ้นมาทันที ไอ้ตัวร้ายโผล่มาให้เห็นตรงหน้าขนาดนั้นแต่ผมกลับ..
   “เด็กคนนั้นใส่ผ้าปิดปากนี่นะ แต่ก็ไม่แน่ว่าคนให้จะเป็คนร้าย โง่ไปหน่อยไหม”
   “ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวจะไปเดินหา ต้องเจอ ต้องเจอแน่ๆ” ผมไม่ชอบเวลาที่เปิ้ลเป็นแบบนี้เลยให้ตายเถอะ เหมือนลูกนกที่พลัดหลงถิ่น ตัวสั่นเพราะความหวาดกลัว ผมเองก็กลัว
   กลัวว่าเปิ้ลจะผิดหวังที่ผมมันพึ่งพาอะไรไม่ได้
   “ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก ถ้ากล้าขนาดนี้แล้วเดี๋ยวก็คงมาอีก”
   “ไม่ได้ เป็นห่วง”
   ผมกระชับกอดแน่น และแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเปิ้ลแทบจมลงไปกับอก พยายามเค้นเอาความทรงจำเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นออกมา แม้มันจะเลือนรางมากก็ตามที





   จากปกติจะเป็นเปิ้ลที่เป็นฝ่ายรอผมตลอด แต่ตอนนี้ถ้ามีเวลาแม้เพียงสักนิดผมก็จะมารอรับเขาที่คณะศึกษาฯ บางทีก็จะไปส่งที่หอก่อน หรืออาจจะรับไปนั่งเล่นที่ช็อประหว่างรอผมทำงาน แม้ว่าช่วงนี้จะไม่มีจดหมายหรือสิ่งแปลกปลอมแล้วแต่ผมก็ยังไม่ไว้ใจ เพราะไม่รู้ว่าคนร้ายจะเลือกเล่นงานเวลาไหน บางทีก็ชอบปล่อยผ่านไปให้เราตายใจ ผมจะให้มันเป็นไปตามที่ไอ้คนชั่วนั่นต้องการไม่ได้
   ในขณะที่ผมกำลังพับโอริกามิในมือเล่น เปิ้ลก็เดินยิ้มสดใสออกมาจากตึกพร้อมกับเพื่อนในกลุ่ม พอหันมาเห็นผมก็รีบวิ่งเข้ามาหา
   “ทำงานเสร็จแล้วเหรอ”
   “ยัง แต่มารับ จะไปที่ช็อปหรือกลับหอ”
   “เดี๋ยวกลับเอง นิ่งไปทำงานเถอะ จะได้เสร็จไวๆ ไง”
   “ไม่เอา เป็นห่วง”
   “แต่..”
   “หน่าๆ น้ำนิ่งพวกเราจะไปส่งเปิ้ลเอง ที่จริงนัดกันว่าจะไปร้านนมอะ” เป็นโป้เพื่อนของเปิ้ลที่พูดแทรกขึ้นมา ผมหันไปมองคนตัวเล็กทันที ซึ่งยิ้มแหยๆ ส่งมาให้ ช่วงนี้ยิ่งอันตรายยังจะหนีไปเที่ยวอีก
   “แฮะ เพราะอย่างนั้นกลับไปทำงานเนอะ”
   “ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง”
   “ไม่มีอะไรแน่นอน”
   “แน่ใจ?”
   “แน่จ้า เพื่อนอยู่เยอะแยะ น้ำนิ่งไม่ต้องกลัวนะ” พีชยืนใบหน้าขาวๆ เข้ามาพูดเกาะไหล่เปิ้ลที่ทำตาปริบออดอ้อนผมอยู่
   “โอเค ยอม มีอะไรรีบโทรมานะ”
   “อื้ม!” หลังจากรับคำด้วยท่าทางแข็งขัน และน่ารักมากแล้วเปิ้ลก็มองซ้ายทีขวาทีก่อนจะลากผมไปหลังต้นไม้ใหญ่แล้วระดมหอมแก้มผมจนตั้งตัวแทบไม่ทัน “คิดถึงๆ”
   “เจอกันทุกวัน”
   “อ้าว จะบอกว่าไม่คิดถึงกันใช่ไหม”
   ผมหัวเราะท่าทางตอนเปิ้ลหัวเสีย หรือเริ่มมีอารมณ์ขุ่นๆ น่ารักมาก ยิ่งเวลาหลุดคำหยายออกมาใส่ยิ่งน่ารัก ผมคว้าเอวเขาเข้ามาใกล้จนเราแนบติดกันไปทุกส่วน จรดปลายจมูกลงไปที่แก้มเนียนหลายที ให้มากกว่าที่เปิ้ลหอมผมเมื่อกี้อีก
   “ไม่คิดถึงจะมานั่งเฝ้าแบบนี้เหรอ เป็นห่วงด้วย”
   “คิก คิก พอแล้ว เดี๋ยวคนเห็น”
   “ถึงร้านแล้ว โทรหอก็ต้องโทรด้วย เข้าใจนะครับ”
   เปิ้ลรับคำอย่างแข็งขันอีกครั้ง ก่อนที่เราจะเดินออกมาจากหลังต้นไม้ สายตาของเพื่อนแต่ละคนต่างก็เต็มไปด้วยความล้อเลียน แต่ผมก็ตีมึนไม่สนใจ เราแยกกันตรงนี้ ผมมองจนเปิ้ลเดินออกไปจากสายถึงหันหลังกลับไปที่คณะตัวเอง
    




   ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหม แต่ช่วงนี้รู้สึกว่าเปิ้ลดูสบายอกสบายใจแปลกๆ แม้ว่าจะมีพวกจดหมายเวรระย่ำนั่นส่งมาอยู่ แถมยังดูจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่เปิ้ลกลับไม่ได้แสดงทีท่าว่าหวาดกลัวอะไรมากมาย แถมยังออกไปเที่ยวล่อนก ล่อเป้าบ่อยกว่าเดิมเสียอีก
   “เปิ้ล”
   “หื้ม”
   “ช่วงนี้..”
   “เฮ้ย! นิ่งดูๆ หนังที่เรารอมานานจะเข้าแล้วอะ อาทิตย์หน้าไปดูกันนะ”
   เสียงใสพร้อมกับกายบางที่โถมเข้าใส่ตัวผมทำเอาลืมว่าจะถามอะไรกลับหันไปสนใจหน้าจอโทรศัพท์ที่แสดงภาพหนังเรื่องใหม่ที่เปิ้ลพูดถึงแทน ผมพยักหน้ายิ้มๆ
   “อย่าทำหน้าง่วงจะไปไม่ไป” ยิ้มเหอะ ไม่ได้ทำหน้าง่วง
   “ไปครับไป จองล่วงหน้าเลยไหม”
   “ไม่อะ เดี๋ยวมีคนเผลอหลับละได้เรื่องอีก ต้องไปดูคนเดียว กินป็อปคอร์นถังโตๆ คนเดียว เฮ้อ”
   “ใครมันจะปล่อยให้แฟนตัวเองไปดูหนังคนเดียววะ”
   “มึงไง”
   เปิ้ลตาขวาง ชี้หน้าคาดโทษ ผมก้มหน้าซุกอกเริ่มอ้อนทันที รู้เลยว่าเปิ้ลยังไม่ลืมความเหี้ยของผมในเดตครั้งนั้นของเรา เรื่องของเรื่องคือเปิ้ลจองตัวล่วงหน้าหนังเรื่องหนึ่งไว้ ผมก็รับปากดิบดี นั่งทำงานไปดูเวลาไป รู้ตัวอีกทีเปิ้ลก็มายืนเท้าเอวหน้าบูดหน้าบึ้งอยู่ตรงหน้าแล้ว
   นั่นละครับ ผมเผลอหลับ แบบไม่รู้ตัว
   “ถ้าไม่จองไว้แล้วเกิดมันเต็มจะทำไง จองล่วงหน้าเลย รอบนี้ไม่หลับแน่นอน”
   “เต็มก็รอรอบต่อไป รอจนกว่าจะได้ดู” ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงผมได้หลับคาหน้าโรงหนังแน่ๆ
   “เอาคืน หึ”
   กูว่าแล้ว นี่สิถึงจะเป็นแอปเปิลน่ะ 
   “วันนี้ออกไปข้างนอกนะ”
   “จะไปไหน”
   “ไปสร้างบุญคุณกับเพื่อนฝูง” เป็นเพื่อนในภาคที่ทำงานส่งไม่ทันขอร้องผ่านไลน์กลุ่มให้ไปช่วยมันหน่อย
   “ตามใจ งั้นออกไปเที่ยวกับพวกไอ้โบ้นะ”
   “อีกละ ตุ๊กตานั่นละว่าไง”
   ผมพูดอย่างไม่ค่อยเห็นด้วย ออกจะเครียดด้วยซ้ำ มองไปทางกล่องที่บรรจุตุ๊กตาน่ารัก แต่กลับมีภาพใบหน้าของเปิ้ลที่ถูกกรีดจนขาดหวิ้นหมุดไว้ตรงส่วนหน้า ทั้งตัวถูกฉีกขาดไหมทะลัก แต่เปิ้ลกลับไม่มีทีท่าอะไร ออกจะสบายๆ แต่พอผมจะเอาไปทิ้งก็ไม่ยอม
   “เอาไว้นั่นแหละ เดี๋ยวเอาไปทิ้งเอง”
   “....”
   “ไม่มีอะไรหรอกน่า ไปทำงานเถอะเดี๋ยวโทรหา”
   ได้แต่พยักหน้ารับ แต่ก็ไม่สามารถสลัดความกังวลออกไปได้ ผมเดินไปเก็บของก่อนจะออกจากห้องก็เดินไปกอดคนตัวขาวอย่างรักใคร่แล้วจึงออกจากห้องไปได้แต่หวังว่าจะไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น





TBC
5/7/60
บอกแล้วรอบนี้ไม่นาน 55555
ต้นเดือนฟิตๆ อีกเดือนเดี่ยวก็เปิดเทอมแล้วต้องให้ได้เยอะที่สุด ฮือออ
ถ้าเจอตรงไหนชื่อแปลกๆ แจ้งได้นะคะ เมื่อกี้อ่านทวนก่อนลงเจอ มูนเป็นบลูกับเจ้าเป็นข้าว เรางงเลย ใครหว่า แต่งเองสับสนเองซะงั้นนน
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม และคอมเมนต์นะคะ ดีใจที่เห็นทุกคนชอบ และ enjoy ไปกับ #เปิ้ลนิ่ง
แล้วเจอกันตอนหน้าค่า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ยังไง อะไร ถึงทำกับเปิ้ลขนาดนี้
ทั้งที่ตัวเองไม่มีอะไรกับน้ำนิ่งซักนิดเดียว
ยังกับว่า ถ้าเปิ้ลเลิกกับน้ำนิ่ง
แล้วตัวเองจะเสียบแทนได้ ตลก คิดไรของเขา ประสาทปะ
จับมือมืดได้ซักที  เลวววววว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เครียดดดดดดดดด

ใครมันจะโรคจิตได้ขนาดนี้

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
โรคจิตอะไรขนาดนี้เนี่ยย
แอปเปิ้ลเริ่มจะเอาตัวเองไปเป็นเป้าล่อแล้วอะ
ระวังตัวนะะ น้ำนิ่งคอยดูไว้ดีๆอะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
นายเอกออกโรงจัดการเอง

ออฟไลน์ nlygust13

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พ่อหมี เมื่อไหร่จะมา

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
คนร้ายคือใครกันนะ :katai1:

ออฟไลน์ nlygust13

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พ่อหมีคิดถึงแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ YEEUN9424

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Sleeping bear and Apple's Trap 14

#แอปเปิล

 

 

 

            “มึงจะทำไง”

            “เออ นั่นดิ กูควรทำไงเนี่ย”

            ตอบเพื่อนสนิทก่อนจะดูดนมสดปั่นเข้าปากเต็มแรงหนึ่งทีพลางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น วันที่ผมไปร้านนมกับพวกไอ้โป้ทำให้ผมรู้ว่าใครที่คอยตามข่มขู่ผมอยู่ เป็นแจ็กพ็อตที่ทำเอาไปต่อไม่ถูกเพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน

            “นี่กูยังตกใจไม่หายที่เห็นรูปตัวเองวางอยู่บนโต๊ะน้องเขา”

            “ถ้ามึงไม่เดินเข้าไปก็คงไม่เห็น”

            “กูละรู้สึกขอบคุณตัวเองจริงๆ ถ้าวันนั้นไม่นึกอยากทักคนคงเป็นไอ้โง่ให้โดนหลอกมาตลอดอะ”

            พอนึกย้อนไปถึงวันนั้นแล้วผมก็ขนลุกไม่หาย ตอนที่ไปถึงร้านนมหลังจากสั่งอะไรเรียบร้อยแล้ว ระหว่างฝอยน้ำลายแตกฟองรอของมาเสิร์ฟก็บังเอิญไปเห็นน้องคนที่รู้จักเดินเข้ามาในร้านพอดี เป็นน้องที่อยู่ในกลุ่มเดี่ยวกับเด็กๆ ที่สถาปนาตัวเองเป็นกลุ่มแฟนคลับของผมกับน้ำนิ่ง

            ถ้าจำไม่ผิดน้องคนนั้นชื่อทราย ท่าทางเงียบๆ ไม่มีพิษมีภัย ตอนอยู่กับเพื่อนก็นั่งฟัง นั่งยิ้มอย่างเดียว ด้วยความตาดี เห็นน้องทรายหันซ้ายหันขวาก็คิดว่าอยากจะไปเข้าห้องน้ำหรือเปล่า กลัวของจะหายละสิ มา พี่จะไปเฝ้าให้เอง ผมเลยเดินเข้าไปหา จังหวะที่กำลังจะถึงโต๊ะน้องเขาก็ก้มลงไปเก็บอะไรสักอย่างที่ใต้โต๊ะ แต่ที่ทำเอาผมงง และฉุกคิดขึ้นมาได้ก็คือภาพของผมหลากหลายใบที่อยู่บนโต๊ะของน้องต่างหาก

            “อะ พี่แอปเปิล” น้องทรายดูตกอกตกใจ เลิกลั่กรีบรวบรวมรูปพวกนั้นไปสอดไว้ในสมุดข้างๆ

            “รูป.. รูปพี่”

            “ขอโทษที่เอารูปพี่มาโดยไม่ได้บอกนะคะ หนูเอามาฝึกวาดรูปน่ะค่ะ”

            แล้วไหนสมุดวาดรูปวะ แม้ใจจะระแวงไปแล้วกว่าเจ็ดส่วน แต่ผมก็ยังปั้นหน้ายิ้ม อยู่คุยกับน้องทรายพักหนึ่งถึงกลับมารวมกลุ่มกับเพื่อน สักพักน้องก็เดินออกจากร้านไป ถึงตรงนี้ผมก็เริ่มเล่าสิ่งที่เจอมาให้เพื่อนฟังทันที แล้วทุกคนก็คิดเหมือนกันว่ามันแปลก

            มันก็ต้องแปลกอยู่แล้วละ! นี่เรื่องจริงเหรอ มันเกิดเรื่องแบบนี้กับผมขึ้นจริงๆ เหรอ งงไปหมดแล้วเนี่ย!?

            หลังจากนั้นผมก็เริ่มสะกดรอยตามน้องทราย ไม่ได้บ่อยนัก เอาเท่าที่สะดวก บางทีไอ้โป้ไอ้จ๋าก็จับคู่กันไป และส่วนมากที่ไปก็มักจะได้เรื่องกลับมาทุกที ทั้งตุ๊กตาที่ขาดหวิ้นไหมทะลัก รูปที่ผมเคยเห็นอยู่บนโต๊ะของน้อง ทุกอย่างถูกส่งมาหาผมจริงๆ แต่ถูกส่งกลับมาในสภาพที่เรียกได้ว่าเละน่ะนะ

            เวลาที่น้องๆ กลุ่มนั้นมาเล่นด้วยผมก็ยังคงทำตัวตามปกติ แต่จะคอยแอบสังเกตลายมือของน้องทราย บางทีก็แอบหยิบกลับมาเทียบกับจดหมายบางฉบับที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน โชคดีจริงๆ ที่ผมฉลาด และน้องสะเพร่า หรือจะเรียกว่าโง่ดีวะ ลายมือตรงเป๊ะ!

            แต่ปัญหาคือจะเรียกมาจัดการยังไงให้น้องมันหยุด และไม่รุนแรงจนเกินไป เวรกรรมจริงๆ เครียดกว่าตอนที่ไม่รู้ว่าเป็นใครก็ตอนที่ต้องหาทางจัดการเจ้าตัวนี่แหละ

            “สันติวิธีดีไหม น้องทรายก็ดูพูดง่ายอยู่นะ”

            “สันติห่าไร ขู่คนนี่พูดไม่ง่ายแล้ว ต้องมีความจิตบ้างแหละ”

            ไอ้จ๋าแหวขึ้นมาอย่างมีอารมณ์ตามสไตล์หญิงโฉด มันจะพุ่งเข้าไปจับน้องมาตบตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ พวกผมต้องคอยบอกมันใจเย็นๆ กูเจ้าของเรื่องยังไม่ขึ้นขนาดนี้เลย

            ผมมองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมืออีก 30 นาทีก็จะได้เวลาที่นัดไว้แล้ว โชคดีที่ช่วงนี้น้ำนิ่งมีนัดออกไปสร้างบุญคุณกับเพื่อนทุกวันผมเลยอาศัยเวลาที่พ่อพระเอกไม่อยู่ออกมาจัดการเรื่องนี้เอง วันนี้แหละทุกอย่างต้องจบ No more ข่มขู่และจดหมาย บ้าบอ กูจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว

            พวกผมสามคนเดินตรงไปยังที่นัดหมาย หลักฐานทั้งหมดอยู่ในกระเป๋าเป้ ผมนัดให้น้องเขามาคนเดียวก็เลยตั้งใจว่าจะเข้าไปคนเดียวให้โป้กับจ๋ารออยู่ข้างนอก พวกมันทำท่าจะไม่ยอม แต่ผมไม่อยากได้ชื่อว่าหมาหมู่อะ ให้มันแอบๆ อยู่ข้างนอกละกัน มีอะไรเดี๋ยวจะตะโกนดังๆ ให้รู้เอง

            “มึง ไอ้พีชอะ”

            “ไลฟ์สดสอนอิ้งอยู่มั้ง เดี๋ยวมันก็มา หรือไม่มาจะดีกว่าวะ”

            “บอกมันว่าไม่ต้องมาแล้ว” แค่สามคนกูก็หมาหมู่ไม่รู้จะหมู่ยังไงแล้วเนี่ย สงสารเด็ก

            “ยังไม่ทันเจอเลย เอามันมาแหละดีแล้ว เผื่อเกิดอะไรขึ้น”

            ผมเลิกสนใจไอ้จ๋าที่กดมือถือหยิกๆ คาดว่าคงกำลังเร่งให้พีชมาอยู่ เราเดินกันมาจนถึงจุดนัดพบ ระหว่างทางเงียบเหงา ผมยอมนัดตอนบ่าย ยอมออกแดดเพื่อที่จะให้พื้นที่ตรงนี้ไร้ผู้คน ไม่ต้องให้ใครมารับรู้หรือสังเกตเห็นเป็นดีที่สุด เรื่องแบบนี้มีข่าวออกไปไม่ใช่เรื่องดี ขอเคลียร์กันลับๆ และจบด้วยดีก็พอ ขอเถอะ

            ผมที่โผล่หัวเข้าไปดูก่อนว่ามีใครหรือเปล่า หูย.. ไม่อยากจะเชื่อ น้องทรายมาแล้ววะ พอเห็นเจ้าตัวมาแล้วผมเลยบอกให้อีกสองคนรออยู่ตรงทางเข้า ส่วนตัวเองเดินเข้าไปในโกดังที่เก็บอุปกรณ์กีฬาคนเดียว

            ทันทีที่เห็นผมตรงหน้าน้องทรายก็ส่งสายตา และใบหน้าที่ผมไม่รู้จักมาให้ทันที ทั้งเย็นชา ดูเย่อยิ่ง และเคืองแค้นเหมือนผมเคยย่ำยีเขามาก่อนเมื่อชาติที่แล้ว สายตาที่เคยเป็นมิตร ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มนั่นก็แค่การแสดงสินะ ยอมเลย

            “ไม่แอ๊บแล้วเนอะ” ผมพูดออกไปอย่างใจคิด น้องมันชักสีหน้าใส่ทันที

            “พี่มีไร”

            “น้องทำแบบนี้ทำไม”

            “ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ หนูก็บอกไปชัดแล้วนะ”

            “แค่เพราะผู้ชายเนี่ยนะ!”

            ผมอดจะอารมณ์ขึ้นไม่ได้ อะไรวะ กะอีแค่ผู้ชายคนเดียวมันต้องขนาดนี้เลยเหรอ ถึงไอ้ผู้ชายคนนั้นมันจะเป็นแฟนหนุ่มของผมก็เถอะ แต่เอาจริงๆ น้ำนิ่งมันก็ไม่ได้น่าหลงใหลถึงขนาดต้องมาตามข่มขู่ชาวบ้านเขาอย่างนี้ปะวะ

            “เพราะเป็นพี่น้ำนิ่งต่างหาก! หนูมาก่อนด้วยซ้ำ ทำไมพี่ต้องได้ไป เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ชอบผู้ชาย ยี้ ขยะแขยง”

            “โถ แต่น้ำนิ่งมันก็ชอบผู้ชายอย่างพี่ละวะ”

            “กรี้ด!!! เพราะพี่ไปทำเสน่ห์มาน่ะสิ แรด!!”

            “ใครกันแน่ที่แรด คนเขามีแฟนแล้วแท้ๆ ยังจะมาอยากได้อยากมีอีก หาเองสิวะ!”

            “พี่จำไว้เลยนะว่าหนูจะทำทุกทางให้ได้พี่น้ำนิ่งคืนมา!”

            “เออ! งั้นมึงก็จำไว้เลยนะว่ากูไม่มีทางคืน มึงไม่มีทางทำได้แน่ แล้วก็นี่..” ผมโยนของทุกอย่างไปตรงหน้าเด็กนั่น พอกันทีสันติวิธี ต้องไม้แข็งเท่านั้น! พอมันเห็นหลักฐานทุกอย่างที่ผมโยนลงพื้นใบหน้านั่นก็ซีดลงไปถนัดตา หึ เด็กน้อยเอ๋ย รู้ยังว่าตัวเองโง่ขนาดไหน “รู้ปะว่าถ้าส่งนี่ให้ตำรวจอะไรจะเกิดขึ้น.. ตำรวจเลยนา ตำรวจอะ รู้จักไหม”

            “เอาจนได้เพื่อนกู”

            “อ่าว พวกมึงเข้ามาทำไมเนี่ย”

            “ตรงนั้นมันไกลไปอะ กูมองไม่คอยเห็น ไม่ค่อยได้ยินด้วย”

            ไอ้จ๋าว่าแต่ตานี่ลุกวาว โม้แน่ๆ อยากเข้ามาดูใกล้ๆ แบบเกาะติดเวทีมากกว่า เรามองหน้าอย่างรู้กัน คือผมปลดล็อคเรียบร้อย ไม่มีอีกแล้วพี่แอปเปิลผู้น่ารักและใจดี

            “ว่าไงสรุปน้องทรายรู้จักตำรวจไหมครับ รู้จักโทษของการข่มขู่ไหม” ไอ้โป้ก็เอากับเขาด้วย ได้ยินมันพูดครับเคิบแล้วขนลุกจัง

            “จะขู่กันหรือไง”

            “ไม่ได้ขู่ ถ้ายังไม่เลิกจะทำจริง” ผมพูด ยกมือขึ้นกอดอก ยกยิ้มมุมปากอย่างเป็นต่อ ยัยน้องทรายเริ่มทำท่าอึกอักมองซ้ายทีขวาทีเหมือนไม่รู้จะเอายังไง แค่บอกมาว่าจะไม่ทำอีกผมก็พร้อมจะถอดหัวโขนคนโฉดออกแล้ว “รู้ใช่ไหมว่าถ้าเรื่องถึงตำรวจมันจะเป็นยังไง ถ้าเพื่อนๆ รู้จะมองหน้าเพื่อนยังไง จะไปเริ่มชีวิตใหม่ที่อื่นมันก็มีประวัติอยู่ดี คิดดีๆ นะ พี่ไม่ใช่คนใจร้าย ไม่ได้อยากทำเลยนะ ไม่อยากทำลายอนาคตใคร”

            “เป็นเพราะพี่นั่นแหละ! หนูมาก่อนทำไมต้องเป็นพี่ แถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกันอีก” ยิ่งพูดก็ยิ่งสะอื้น ผมลดมาดโหดเมื่อครู่ลงแล้วค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ “ทั้งๆ ที่เป็นผู้ชายเหมือนกันแต่กับเหมาะสมกันอย่างกับอะไร ทำไมละ หนูผู้หญิงนะ พี่เขาควรชอบหนูสิ”

            “ถามจริง น้องเคยทำอะไรให้น้ำนิ่งมันสนใจ รับรู้ถึงการมีตัวตนไหม เคยรุกเข้าหามันบ้างหรือเปล่า” เธอสายหน้าเป็นคำตอบผมจึงพูดต่อ “ถ้าไม่ทำแล้วมันจะรู้ได้ไงว่ามีเราอยู่ตรงนี้ ไอ้น้ำนิ่งมันโง่ ซื่อเราก็รู้นิ ต้องรู้สิก็ชอบมานานแล้วนิ ใช่ไหม”

            “อือ พี่น้ำนิ่งซื่อจะตาย แต่ก็ใจดี ไม่ได้นิ่งๆ ไม่สนใจสิ่งรอบข้างอย่างที่ภายนอกแสดงออก”

            คิดว่าน้องทรายคงมีความหลังอะไรสักอย่างกับน้ำนิ่ง ไม่อย่างนั้นคงไม่ประทับใจ จนถึงกับชอบมันขนาดนี้ ดูสิ แค่พูดถึงก็ยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ผมเผลอกลืนน้ำลายไปอึกหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา คล้ายว่าถ้าผมช้ากว่านี้อาจจะเป็นน้องทรายที่อยู่เคียงข้างมันแทนผมก็ได้.. 

            “อื้ม นั่นแหละ  จะว่าไงดีวะ ชอบใครก็ต้องพุ่งเข้าใส่สิ ไม่ใช่มาคร่ำครวญทั้งๆ ที่ตัวเองไม่เคยลงมือทำอะไรสักอย่าง”

            “มันไม่ทันแล้ว พี่น้ำนิ่งดูมีความสุขเวลาอยู่กับพี่”

            “ก็เลยทำแบบนั้นเพื่ออะไร?”

            “เผื่อพวกพี่จะกลัวจนเลิกกัน”

            “เด็กน้อยเอ้ย” น้องทรายมองผมตาขวางแต่ถึงอย่างนั้นบรรยากาศกลับดีขึ้นกว่าเมื่อครู่ขึ้นมาหน่อย “คนเราอะนะ ถ้ามันไม่ใช่เดี๋ยวก็เลิกกันเองนั่นแหละ ไม่ต้องอาศัยข่มขู่หรอก รู้ไหมนอกจากจะไม่ทำให้เลิกกันแล้ว ยิ่งทำให้รักกันมากกว่าเดิมอีก”

            “กรี้ดดดดดด!”

            “เฮ้ย!!”

            “เลิกพูดเลย ไม่อยากฟัง”

            “เออ! ไม่พูดก็ได้ รักกันมากจำไว้!”

            “พอสักที!”

            “แล้วเข้าใจยังเนี่ย หรือต้องให้เอาไปส่งตำรวจจริงๆ ฮะ!”

            “เข้าใจแล้ว ไม่ได้โง่!”

            “หรา ไม่โง่เลย” เหนื่อย คุยกับยัยเด็กคนนี้แล้วเหมือนจะเป็นไบโพล่าร์

            “จะไม่ทำแล้ว ที่ทำก็ไม่ได้รู้สึกดีนักหรอก”

            “แล้วจะทำทำไม”

            “บอกไปแล้วไงว่าอยากให้เลิกกัน จะไม่ทำแล้วเนี่ย แต่จะแช่งให้เลิกกันแทน”

            “เออ เชิญเลย คนไม่ใช่มันก็เลิกกันเองนั่นแหละ”

            “หึ จะรอละกัน”

            ว่าแล้วยัยน้องทรายก็เดินสะบัดก้นออกไป ไม่วงไม่ไหว้ด้วย แหม เดี๋ยวกูเปลี่ยนใจส่งตำรวจซะเลยนิ  พอน้องมันเดินออกไปทางประตูอีกฝั่งผมก็หันมายิ้มแป้นให้เพื่อนตัวเอง ฮี่ๆ โล่งแล้ว

            “จบด้วยดี”

            “จบง่ายไปปะวะ”

            “เออหน่า น้องมันก็คงไม่อยากจะทำลายอนาคตตัวเองเพราะผู้ชายคนหนึ่งหรอก” ส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างปลื้มใจกับบทสรุปแบบนี้ ไอ้ตอนที่ทำก็คงจะเพราะหน้ามืดตามัวจริงๆ ต้องขอบคุณที่น้องมันยังคิดได้

            “เออๆ จบดีก็ดีไป”

            “กูละโล่ง กลัวมึงจะโชว์ฝีมือการตบลูกบอลบนหน้าคนซะแล้ว”

            “ถ้าน้องมันดื้อกว่านี้อีกหน่อย กูอาจจะเผลอไปก็ได้”

            “ยังไงน้องมันก็ผู้หญิงนา”

            “เออดิ ดีแล้วที่กูมีสติ ที่จริงคือกูเป็นคนดีเลยไม่ทำ ให้จ๋าทำดีกว่า”

            “กูก็ไม่อยากตบเด็กให้เสียมือนะ เสียชื่อกูด้วย”

            “ทุกโคนนน” เสียงแบบนี้มีคนเดียว ไอ้คุณพีชมันโผล่หัวมาตรงประตูแล้วโบกมือหย่อยๆ เรียกพวกผมให้ออกไป “เสร็จแล้วใช่ปะ ออกมาเร็วข้างในมันมืด”

            “ ไมมึงมาช้านักเนี่ย”

            “มานานแล้วเหอะ” พอเดินออกมาก็เจอพีชอยู่กับองค์รักษ์หน้านิ่งประจำกายยืนอยู่ข้างๆ ด้วย

            “แล้วทำไมไม่เข้าไป”

            “เห็นกำลังคุยกันมันๆ ไม่อยากไปขัด ยืนอยู่ตรงนี้ก็ได้ยินชัดดี” เห็นไหมผมบอกแล้วว่าต่อให้อยู่ข้างนอกก็ได้ยินชัดเจน ไอ้จ๋ากับไอ้โป้มันขี้เสือก

            “เปิ้ลตลกอะ” หน้าตามันล่อกแล่ก บอกตลกแต่หน้าไม่ค่อยจะขำเท่าไร “เอ่อ น้ำนิ่งก็มานะ”

            “หะ! ไอ้หมีมาด้วยเหรอ มึงเอามันมาทำไม” ผมไม่ได้บอกมันอะ ไม่อยากให้มันรู้

            “ลูกหินพามา” เหยด พี่นิ่งคนโตพามาเหรอ แล้วผมจะกล้าโวยวายใส่ไหมละ

            “แล้วมันไปไหน

            “ไม่รู้ไปไหน พอน้องทรายเดินออกไปน้ำนิ่งก็เดินออกไปด้วย” พอฟังพีชบอกแล้วรู้สึกได้เลยว่าหน้าผมนี่มันซีดเป็นไก่ต้ม ใจผมเริ่มหวั่น มันคงไม่ได้ยินทุกอย่างหรอกนะ ไม่สิๆๆ มาขนาดนี้คงได้ยินแถมรู้หมดทุกอย่างแน่ๆ แล้วนี่มันไปไหนของมันวะ หวังว่าไอ้หมีขี้เซาคนนั้นมันจะไม่คิดอะไรมากนะ

 

 

 

           

            เพื่อเป็นการฉลองที่เคลียร์ปัญหาที่คาราคาซังมานานได้ พวกเราเลยพากันไปกินหมูกระทะร้ายประจำ ระหว่างเดินทางเลยได้รู้ว่าน้ำนิ่งมันมาได้ยังไง ต้องโทษไอ้พีชคนเดียวเลย โว้ย! มีเพื่อนเพื่อนก็ไม่ได้เรื่อง ถ้ามันไม่พลั่งปากออกไปไอ้หมีกับลูกหินก็ไม่พากันมาด้วยหรอก มันคงรู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้ว

            ผมกดมือถือหาเจ้าตัวไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่ไหน ร้อนใจ ทำไมจู่ๆ ก็หายไปวะ ไม่บอกกันอีก รู้สึกผิดก็รู้สึกผิด แต่ออกมาแล้วไม่เจอหน้าทั้งที่รู้ว่ามานี่มันยิ่งรู้สึกมากกว่าเดิมอีกนะ สู่เจอหน้ามันตอนนั้นเลยยังจะดีซะกว่า แบบนี้เหมือนมันหนีหน้าผมเลย

            พอมาถึงร้านก็เห็นไอ้หมีตัวดีนั่งหน้ามึนอยู่บนเก้าอี้พร้อมๆ กับเพื่อนเกลอทั้งสองของมัน ผมรีบไถลตัวเองด้วยความไวแสงไปนั่งเสนอหน้าใกล้ๆ ทันที น้ำนิ่งยังคงยิ้มให้ผมเหมือนเดิม หน้านิ่งๆ ง่วงๆ เหมือนเดิม แต่กลับไม่พูดกับผมเลยสักคำ เป็นครั้งแรกเลยที่เราไม่พูดกัน ไม่สิ ต้องบอกว่าน้ำนิ่งคนเดียวต่างหากที่ไม่พูดกับผมเลย

            จากความรู้สึกผิดที่มีอยู่แล้วตอนนี้เพิ่มความกลัวเข้าไปอีก เกิดอะไรขึ้นคงไม่ต้องถามน้ำนิ่งคงไม่พอใจเรื่องวันนี้แน่ๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ได้บอกผมก็มีเหตุผลนะ มันต้องไปช่วยงานเพื่อนนี่ ไม่ๆ เรื่องช่วยเพื่อนไม่ใช่ประเด็น จริงๆ คือเรื่องแบบนี้บอกไปก็มีแต่ผลเสียกับน้องเขา น้องเขา หรือมันจะ.. มันชอบเด็กคนนั้นเหรอ!?

            ไม่ๆ ไม่มีทางหรอก มันอยู่กับผมตลอด หน้าคนก็จำไม่ค่อยได้ น้องทรายก็เคยเห็นออกบ่อย ไม่เห็นจะเคยออกอาการ หรือมันจะไม่พอใจที่ผมทำตัวเป็นอันธพาล ไม่น่ารักเหมือนเดิม?

            คิดจนปวดหัวไปหมดแล้ว หมูกระทะก็ไม่อร่อย

            น้ำนิ่งเปิดปากคุยกับเปิ้ลเถอะ!

 

 





TBC.

24/7/17

กลับมาแล้วค่า ฮือออ ขอโทษด้วยนะคะ หายอีกแล้ว งานเข้าค่ะงานเข้า งานจริงๆ แบบงานท่วมหัวแทบไม่มีเวลาขยับตัว ที่เราพอจะมีคือเวลากินกะนอน คืองานเยอะแค่ไหนยังไงต้องนอนครบ 8-9 ชม. 555555 พองานเสร็จก็นอนยาวไปอีก ฟื้นพลังสุด เป็นสองอาทิตย์ที่ยาวนานมากสำหรับเรา

กลับมาคราวนี้พร้อมเฉลยต้นเหตุที่ตามข่มขู่เปิ้ลน้อยเนอะ ไม่มีอะไรมาก เนื้อเรื่องเรียบง่าย เรื่องแบบยี้ก็เรียบง่าย เราชอบมาความสันติ เป็นไปตามตามสไตล์เนื้อเรื่อง ฮี่ๆ ดราม่าของจริง(?)มันหลังจากนี้ต่างหาก

แล้วพบกันตอนหน้านะคะ
ปล.ตอนหน้าน่าจะเป็นตอนที่เปิ้ลรอคอย


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ถ้าจะมาม่าก็ขอน้ำใสนะ น้ำข้นเดี๋ยวตะเตือนไต :ling3: :ling3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ฮือออ ไม่อยากกินมาม่าาา
ผงชูรสมันเยอะะไม่ดีต่อสุขภาพพ
ไม่ดีต่อใจด้วยยย
น้ำนิ่งโกรธจริงๆหรอเนี่ยย
แล้วดราม่าจะคืออะไร เค้าาดูรักกันจนเด่ไม่ออกเลยค่าา

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ YEEUN9424

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Sleeping bear and Apple's Trap 15
#น้ำนิ่ง



   “ดูน้องพีชมึงไลฟ์สอนภาษาอังกฤษดิ นี่คนเขาดูเพราะอยากเรียนภาษาหรือดูเพราะจะเต๊าะว่าที่ครูวะ”
   ไอ้เจ้าวางโทรศัพท์ที่หน้าจอเป็นไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊ค มีหน้าขาวๆ ปากแดงๆ กำลังเจื้อยแจ้วฟุด ฟิด ฟอ ไฟไม่หยุด เหลือบตาดูคอมเม้นต์แล้วก็ได้แต่มองไปที่ลูกหินซึ่งกำลังจับจ้องไปที่ตำแหน่งเดียวกัน ไม่ถึงครึ่งนาทีมันก็คว้าเอามือถือของตัวเองขึ้นมาแล้วเดินออกไปด้านนอก หลังจากนั้นอีกไม่ถึงสองนาทีไลฟ์เฟชบุ๊คฟุด ฟิด ฟอ ไฟ บาย ลูกพีชก็จบรายการทันที ไปแบบไม่ล่ำไม่ลาคนดูสักคำ รู้เลยว่าเพราะอะไร
   “หึงเหรอวะ” ไอ้มูนเริ่มแหย่
   “รำคาญ บอกมีนัดกับเพื่อนแต่เสือกมานั่งไลฟ์อยู่ได้”
   “มีนัดกับพวกเปิ้ล?”
   “เออ”
   “ไปไหนกันวะ ไม่เห็นบอกกู” วันนี้ตอนผมจะออกจากห้องเปิ้ลก็ไม่เห็นจะบอกว่าจะออกไปไหน
   “อะไรมึง ไอ้หมี โดนแฟนเมินเหรอ”
   “ไม่เมินเหอะ แต่.. ช่วงนี้ทำตัวแปลกๆ” ตอนแรกว่าจะไม่พูด แต่พอเพื่อนสะกิดผมก็อดระบายความคิดของตัวเองออกมาไมได้ “โดนขู่แต่ก็ไม่กลัว ของที่โรคจิตส่งมาก็เก็บไว้ บางวันก็นั่งจ้องจนเหมือนจะกินเข้าไป พอกูถามก็บอกไม่มีอะไร”
   ไอ้เจ้ากับไอ้มูนมองหน้ากันที มองหน้าผมทีเหมือนคิดอะไรออก ผมเลยหันไปมองลูกหินบ้างเผื่อมันจะคิดอะไรออกเหมือนกัน แต่ปรากฏว่ามันไม่สนใจผมเท่ากับแผ่นกระดาษที่กำลังตัดอยู่ ผมเลยกลับมามองที่คู่หูรักยมต่อ มึงรู้อะไร มึงคิดอะไรบอกกูที ชี้ทางให้หน่อย
   “ไม่ใช่ว่ารู้แล้วเหรอวะ”
   “นั่นดิ รู้แล้วหรือเปล่าว่าใครคือไอ้โรคจิตคนนั้น”
   ผมงงไปพักใหญ่ รู้แล้วอย่างนั้นเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไง
   ถ้ารู้แล้วจริงๆ ทำไมผมไม่บอกล่ะ?
   



   แผนของเจ้ามูนได้ผล แม้ว่าจะโดนไอ้ลูกหินเพื่อนรักอารมณ์เสียใส่จนดอแทบหดก็ตาม มันยอมโทรไปหลอกถามพีชให้จนได้ความว่าวันนี้เปิ้ล และเพื่อนๆ มีนัดออกไปเคลียร์กับคนโรคจิตที่ส่งจัดหมายตามขู่จริงๆ
   คราวนี้ยิ่งกว่างงกับเรื่องที่เกิดขึ้นคือไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไง เปิ้ลรู้ทุกอย่างแล้วแต่กลับไม่บอกผมสักคำ
   ไม่สงไม่สร้างบุญคุณกับเพื่อนแล้วผมทิ้งทุกสิ่งอย่างแล้วพากันไปที่โรงยิม ลากไปแม่งหมดนี่แหละ!
   พอมาถึงก็ได้ยินเสียงเปิ้ลกำลังขู่น้องคนนั้นที่ดูเหมือนจะแอบชอบผมมานานแล้ว ฟังไปฟังมาก็คุ้นๆ เสียงเหมือนคนที่เอาไก่กับของขวัญมาให้เมื่อคราวนั้น แล้วกูมานึกได้อะไรตอนนี้ ไร้ระโยชน์จริง ระหว่างมาพีชอธิบายทุกอย่างให้ฟังหมดตั้งแต่ที่เริ่มรู้ยันช่วงที่แอบตามดูจนถึงตอนนี้ แต่ไม่ได้บอกเหตุผลที่เปิ้ลไม่บอกผม และเอ่อ.. ไอ้ลูกหินก็ไม่รู้เรื่องด้วย พีชพูดไปก็ดูสั่นๆ คงจะหวั่นกับสายตาของไอ้หินมัน เอาวะ อย่างน้อยผมก็ไม่ได้โดนแฟนปิดบังคนเดียว
   “คนเราอะนะ ถ้ามันไม่ใช่เดี๋ยวก็เลิกกันเองนั่นแหละ ไม่ต้องอาศัยข่มขู่หรอก รู้ไหมนอกจากจะไม่ทำให้เลิกกันแล้ว ยิ่งทำให้รักกันมากกว่าเดิมอีก”
   ผมแอบอมยิ้มเล็กๆ เมื่อได้ยินประโยคนี้ ใช่มันทำให้เรารักกันมากกว่าเดิม ผมคิดว่าเปิ้ลคือคนที่ใช่สำหรับผมเพราะอย่างนั้นเราไม่เลิกกันง่ายๆ หรอก
   แต่ผมก็ยังรู้สึกเจ็บแปลบๆ อยู่ดี พอน้องคนนั้นเดินออกไปอีกทางผมที่รู้สึกว่ายังไม่พร้อมจะเจอหน้าเปิ้ลเท่าไรเลยเดินหนีออกมา ไอ้เจ้าไอ้มูนก็ตามมาด้วย
   ผมออกมานั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงสระน้ำที่ห่างจากโรงยิมพอสมควร ไม่ได้สูบมานานรู้สึกไม่ชินปากเท่าไร แต่เวลานี้ต้องบุหรี่เท่านั้น สูบไปได้ครึ่งม้วนลูกหินก็โทรมาตามให้ไปกินหมูกระทะด้วยกัน อยากเห็นหน้าเปิ้ลแต่ก็ยังไม่ค่อยพร้อมเท่าไร อะไรบางอย่างมันกวนใจผมอยู่ แต่สุดท้ายก็โดนลากไปอยู่ดี พวกผมมาถึงก่อนเลยต้องนั่งรอสักพัก มือถือของผมสั่นอยู่ตลอดเวลา รู้อยู่หรอกว่าใครแต่มันก็.. นั่นแหละ ยังไม่อยากรับ
   “กูไม่รู้ว่ามึงคิดอะไร แต่ทำหน้าดีๆ หน่อย พวกนั้นจะมาแล้ว”
   ไอ้เจ้าพูดไม่ทันขาดคำเปิ้ลก็เดินเข้ามาตามด้วยคนอื่นๆ คนตัวเล็กมานั่งข้างผมทำตัวเหมือนเดิม ผมเองก็เหมือนเดิม ยังนิสัยเสียให้เปิ้ลทำนั่นทำนี่ให้เหมือนเดิมแต่กลับปากนักไม่พูดอะไรด้วย นั่งเงียบตลอดงาน




   “เดี๋ยวกลับไปช่วยเพื่อนทำงานต่อ”
   “เหรอ น้ำนิ่ง..”
   “ไอ้นิ่งก็ไปด้วย เปิ้ลกลับก่อนได้เลย”
   นั่นไม่ใช่ผม แต่เป็นไอ้มูนกับไอ้เจ้าพูดกับเปิ้ล เขามองผมตาละห้อยเหมือนอ้วนแมวของห้องข้างๆ ไม่มีผิด ผมยิ้ม ยิ้มแรก แต่มันคงบางเบาจนเปิ้ลหน้าซึม มองจนเปิ้ลเดินคอตกกลับไปกับเพื่อน
   “มึงทำห่าไรเนี่ย เงียบทำไมเอาแต่ยิ้มทำไม ถ้าไม่พอใจอะไรมึงก็อย่ายิ้ม”
   “เออ มึงดูหน้าเปิ้ลดิ”
   “ไปแดกเหล้ากัน” ผมชวน พวกมันถอนหายใจกันพรืดก่อนจะย้ายกันไปสิงที่ห้องของลูกหิน




   “หิน มึงจะทำยังไงกับพีช” ผมกระดกเหล้าไปหลายแก้วพอมึนๆ ไม่ถึงกับเมาถามไอ้หินที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน มันก็โดนแฟนปิดบังเหมือนกันแต่ก็ยังทำตัวปกติได้
   “เดี๋ยวเสร็จจากนี่กูจะกลับไปด่า ด่าให้จำว่าอย่าปิดบังอะไรอีก”
   “แล้วก็ลากขึ้นเตียง ฮิฮิ” ไอ้เวร เจ้า เอาซะกูกระตุกอยากทำบ้าง แต่ดันไปเล่นบทเงียบใส่ไปแล้วนี่สิ
   “มึงไม่โกรธเหรอวะ”
   “โกรธ ถ้าเกิดเรื่องรุนแรงโดยที่กูไม่รู้จะทำยังไง” ใช่ๆ ถ้าเกิดเรื่องรุนแรงขึ้นมาจะทำยังไง ใครจะปกป้องเปิ้ล เออ ที่ไม่บอกเพราะผมมันไม่น่าเชื่อถือเหรอวะ “แต่ก็คงจะมีเหตุผลที่ไม่บอกนั่นแหะ”
   “เหตุผล?”
   “เออ เหตุผล” มันกระดกเหล้าเข้าปากรี่ตามองผมเหมือนหยั่งเชิงอะไรสักอย่าง
   “กูว่าพีชคงเล่นสนุกจนลืมบอกมึง”
   “เหอะ” มันหัวเราะพร้อมกับเปลี่ยนเป็นสายตาที่แสนดูแคลนผมในทันที “เพราะแอปเปิลไม่ยอมให้บอกมากกว่า กูขอตีแฟนมึงทีดิ๊”
   “ตลกละมึง”
   “มึงเลิกทำตัวแบบนี้เถอะ มันไม่เหมาะกับมึงหรอก”
   “วันนี้มึงพูดมากจังเลยวะเพื่อน” ไอ้เจ้าโดนโปกหัวไปหนึ่งที
   “เพราะมีแต่เรื่องให้กูต้องพูดไง”
   “เออ เชี่ยหมีมึงก็ทำหน้าทำตัวดีๆ คิดอะไรอยู่ก็พูดไปอย่างมาทำนิ่ง ไม่พูดกับเขาแต่เสือกยิ้มสิวะ กูละปวดใจแทนเปิ้ลจริงๆ”
   “กูไม่รู้จะเริ่มยังไง ข้างในมันแปลบๆ ทำไมเปิ้ลไม่บอกอะไรกู” อยากทำที่ไหนมันเป็นไปเองทั้งนั้น จะว่าไปพอเจออะไรไม่ได้ดั่งใจ หรือรู้สึกไม่ดีขึ้นมาผมก็มักจะเงียบแบบนี้ทุกที แต่มันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย และจะเป็นแต่กับคนสำคัญๆ เท่านั้น
   “ไอ้หินก็บอกแล้วไงว่าต้องมีเหตุผล ไอ้คนที่ไม่ค่อยจะสนใจโลกยังเชื่อเลยว่าเมียมันมีเหตุผล แล้วมึงไม่คิดจะเชื่อบ้างเหรอวะ” ไอ้เจ้ามันชี้ไปที่ไอ้หินทีแล้วก็มาหยุดอยู่ที่ผม เหตุผลเหรอ?
   “กลับไปถามให้แน่ใจ ได้ความยังไงก็มาบอกพวกกูด้วย”
   



   ผมมาถึงห้องของเปิ้ลตอนเที่ยงคืนกว่าๆ ได้คนที่คอแข็งที่สุดอย่างไอ้หินมาส่งเพราะจุดมุ่งหมายของเราคือสถานที่เดียวกัน มันขึ้นไปต่ออีกสองชั้น ส่วนผมหยุดอยู่ที่ชั้นสาม ชั่งใจอยู่นานทีเดียวกว่าจะกล้าเคาะประตูลงไป เปิ้ลเปิดประตูออกมามองผมอย่างไม่เข้าใจ แต่ไม่เลยเปิ้ลแค่ขยับตัวให้ผมเข้าห้องเดินไปหาเสื้อพงเสื้อผ้า เตรียมผ้าขนหนูแล้วเอามายืนให้
   “เหม็นเหล้าอะ ไปอาบน้ำเถอะ”
   ครับ เหมือนโดนตีแสกหน้า นึกว่าจะมีโมเมนต์วิ่งเข้าใส่พร้อมพรั่งพรูเรื่องทั้งหมดออกมาเหมือนที่ไอ้เจ้ามันเพ้อให้ฟัง หลังจากอาบน้ำเสร็จก็เปิดประตูเข้าไปในห้องนอน เปิ้ลนอนตะแคงหันหลังให้ประตู
   “ปิดไฟนะ”
   “อื้ม” พอเห็นว่าผมนั่งลงบนเตียงแล้วก็วางมือถือลง แต่หัวยังไม่ทันจะถึงมอบร่างผอมบางของเปิ้ลก็หันควับเข้ามากอดผมเข้าเต็มๆ “ขอโทษๆ ฮือออ ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกนะ เราไม่ได้นิสัยแบบนั้นด้วย แค่ต้องขู่เพราะสถานการณ์มันพาไป”
   พุ่งเข้าใส่พร้อมพรั่งพรูออกมาแล้ว แต่ว่าอะไรนะ ขู่เข่ออะไรวะ 
   “เราไม่ได้จะหลอกน้ำนิ่งนะ เราเป็นเด็กดีน่ารัก ตาใส จิตใจงดงาม” เปิ้ลเงยหน้าขึ้นมากระพริบตาปริบๆ ให้ผมเป็นออฟชั่นเสริม เพราะมีน้ำตาคลออยู่เลยยิ่งทำให้มันดูวาววับ แต่เดี๋ยว เปิ้ลพูดเรื่องอะไรอยู่วะเนี่ย
   “หมายถึงอะไร เราไม่เข้าใจ”
   “ฮืออ นี่โกรธมากจนเอ๋อไปเลยเหรอ ก็ที่วันนี้ไม่พูดด้วยก็เพราะว่าเห็นเราขู่น้องทรายไม่ใช่เหรอ เห็นแบบนั้นคงจะตกใจสินะ แต่เราไม่ใช่คนแบบนั้นจริงๆ ไม่ใช่อันธพาล สถานการณ์พาไป ถ้าไม่ทำน้องมันก็ดื้อไม่ยอมฟัง แล้วยัง..”
   “เดี๋ยวเปิ้ล ไม่ใช่แล้ว”
   “หือ อะไรอะ”
   “ไม่ได้โกรธเรื่องนั้น”
   “อ้าว ถ้าอย่างนั้นโกรธเรื่องอะไรทำไมไม่พูด ยิ้มก็แข็งเป็นหิน ทำไมๆ เป็นอะไร แกล้งกันเหรอ” พอเห็นว่าตัวเองเข้าใจผิดก็เริ่มเขย่าคอผม จะเปลี่ยนตำแหน่งกันแบบนี้ไม่ได้นะโว้ย ผมยังไม่เคลียร์อาการปวดแปลบในใจของผมเลย
   “ดะ.. เดี๋ยว หยุด.. อ่อก ก่อน”
   พรึ่บ! ใช้แรงที่มีรวบเปิ้ลกับเตียงก่อนจะกดไว้ เราจ้องตากันผ่านความมืดที่มีเพียงแสงสว่างอันน้อยนิดจากด้านนอกส่องเข้ามาเลยทำให้พอมองเห็นใบหน้าของกันและกันได้บ้าง
   “โกรธที่ไม่บอกอะไรกันเลยต่างหาก”
   “...”
   “ทำไมถึงไม่บอกอะไรกัน เราเชื่อไม่ได้เลยเหรอ”
   “..มะ..”
   “พึ่งพาไม่ได้เลยสินะ”
   “ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ว่าพึ่งพาไมได้ แต่เรื่องแบบนี้มัน..”
   “มันทำไม มีเหตุผลอะไรที่ไม่ควรบอกด้วยเหรอ”
   “ขอโทษ เหตุผลมันอาจจะไม่น่าฟังแต่.. จะฟังไหม” ผมพยักหน้าให้เป็นคำตอบ เปิ้ลช้อนตามองผม อะแฮ่ม! ใจแข็งไว้ไอ้นิ่ง อย่าใจอ่อนเชียว
   “เรื่องแบบนี้คนรู้เยอะมันคงไม่ดีต่อตัวน้องเท่าไร เราคงจะรู้สึกบาปมาก ถ้ามันจะกลายเป็นการประจานใครคนหนึ่งจนเขาต้องเสียอนาคต กะว่าถ้าจบเรื่องก็จะบอกอยู่”
   ประทับใจอย่างบอกไม่ถูก  ผมคว้าเปิ้ลเข้ามากอดแน่น ไม่คิดว่าคนน่ารักของผมจะคิดไปไกลถึงขนาดนี้ พอได้ฟังเหตุผลไอ้อาการเจ็บแปลบๆ โกรธ งอน อะไรทั้งหลายแหล่ก็คล้ายๆ ว่าจะหายไป
   “อย่างนี้เองเหรอ เปิ้ลใจดีจริงๆ ด้วย แต่ตอนที่รู้ว่าเปิ้ลปิดบังเราเจ็บตรงนี้มาก” ผมกุมมือขาวของเปิ้ลมาไว้ที่อกซ้าย “มันปวดแปลบๆ เหมือนตอกย้ำว่าเรามันไอ้โง่ที่ไม่มีความสามารถพอจะปกป้องคนรัก”
   “..น้ำนิ่ง. ไม่ใช่แบบนั้น..”
   “แฟนคนเดียวยังปกป้องไม่ได้รู้สึกไร้ค่า แต่ตอนนี้รู้แล้วครับ เพราะเปิ้ลจำเป็นถึงต้องปิดบังเรา ใช่ไหม” ใบหน้าน่ารักพยักหน้าทั้งน้ำตา
   “ทีหลังจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว เสียใจมากเลยใช่ไหม ขอโทษ อย่าโกรธเลยนะ” เปิ้ลดึงผมเข้าไปกอดจนใบหน้าแนบลงกับแผ่นอกบาง อะไรบางอย่างยังคงรกวนจิตใจผมอยู่แต่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมามากแล้ว ผมกระชับเอวแน่นแล้วทิ้งตัวลงไปจนเรากอดก่ายกันอยู่บนเตียง
   “อย่าโกรธเลยนะ”
   “ครับ ไม่โกรธแล้ว เข้าใจแล้วจะโกรธทำไม ดีกันดีกว่า..” ผมเคลื่อนตัวออกมาจนตัวเองอยู่ในระดับที่สูงกว่า แนบหน้าผากของเราเข้าด้วยกัน “..เนอะ”
   เปิ้ลยิ้ม พยักหน้าอย่างไม่กลัวว่าคอจะหัก ผมจูบซับไปตามหางตาที่มีน้ำตาไหลซึมก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนลงต่ำลงมายังริมฝีปากเล็ก ขอบคุณแสงจันทร์จากด้านนอกที่ทำให้ผมมองเห็นใบหน้าอันแสนน่ารักของแอปเปิลคนนี้ ไล้จูบลงมาตามคางมน และลำคอไปจนถึงกระดูกไห้ปลาร้าเล็กๆ แล้ววกกลับไปที่เดิม จูบจนแทบจะลืมหายใจ ก่อนจะผละออกมาส่งยิ้มให้คนรัก เปิ้ลหน้าแดงแจ๋ จิกไหล่ผมแน่น เม้มปากมุบมับ
   “อย่ามายิ้มแบบนี้นะ!? คิดว่าหล่อนักหรอไง!?”
   “แล้วไม่หล่อเหรอ”
   “ไม่หล่อเว้ย! จะทำอะไรก็รีบทำ เร็วๆ เลย!”
   ผมหลุดหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู ทำไมจะไม่รับรู้ถึงความต้องการของเปิ้ล ผมเองก็ต้องการเหมือนกัน เพียงแต่มันยังไม่ถึงเวลา หมายถึงที่ผ่านมาน่ะนะ เพราะตอนนี้.. ผมว่ามันได้เวลาแล้วละ
   “ทำๆ เปิ้ลจะได้ไม่ต้องเอาไปบ่นกับเพื่อน”
   “พูดมาเดี๋ยวกูไม่ให้ซะเลย” ตบหัวผมทีแล้วก็หันหน้าหนี พอบังคับบิดหน้ากลับมาก็มาพร้อมเขม้นตาใส่อย่างเอาเรื่อง แต่หน้านี่แดงยิ่งกว่าลูกเชอร์รี่เสียอีก
   ผมเก็บปากเก็บคำแล้วเริ่มลงมือแทะเล็ม แม้ว่าแสงสว่างจะไม่เยอะนักแต่ก็เห็นได้ชัดว่าเปิ้ลขาวมากแค่ไหน ปกติเห็นแต่ภายนอก พอได้เห็นผิวใต้ร่มผ้าแบบนี้ทำเอาผมสูบฉีดโดยไม่ทันตั้งตัว รู้อีกทีไอ้หมีน้อยตรงระหว่างขาก็ตั้งโด่งชนต้นขาคนข้างใต้แล้ว
   ผมยกยิ้มอายๆ นึกถึงวันแรกที่เจอเปิ้ล เพราะความบังเอิญ ไม่ใช่ดิ เพราะความง่วงนอนของผมต่างหากทำให้ไม่ทันมองอะไรแล้ววิ่งไปชนเปิ้ลเข้า จำได้ว่าวันนั้นตื่นหมดทุกอย่าง หมีน้อยก็ตื่นด้วย
   “ชิ ทีแบบนี้ละเสือกโด่งง่ายเชียว กอดจูบมาตั้งไม่รู้กี่ที” ถ้าบอกว่าตอนนั้นมันยังไม่ถึงเวลาเลยไม่ทำเปิ้ลต้องตีผมตายแน่ๆ ขอไม่ตอบแต่เดินเครื่องต่อเลยแล้วกัน
   พอได้เห็นร่างเปลือยแบบนี้ยิ่งทำให้ผมรู้ว่าเปิ้ลน่ากินไปทั้งตัวเลย โดยเฉพาะหัวนม.. ผมทั้งดูด ทั้งขบ ทั้งกัด จนถูกทุบหัวอยู่หลายที มือไม้สะเปะสะปะไปทั่วตัวไม่นานเราก็เปลือยกายไปทั้งตัวอย่างเท่าเทียมกันผมจัดการข้างล่างของเปิ้ลอย่างไม่นึกรังเกียจ พอจะไปขั้นตอนถัดไปเปิ้ลกลับพยุงตัวขึ้นมาแล้วผลักผมลงกับเตียงก่อนจะทำให้สิ่งที่ผมไม่เคยคิดจินตนาการมาก่อน สาบานเลยว่าไม่เคยคิดมาก่อนจริงๆ
   ศีรษะเล็กผงกขึ้นลงอยู่ตรงระหว่างขาของผม ตรงนั้นเปียกชื้นด้วยลิ้นร้อนๆ ของเปิ้ล ผมตัวเกร็งอยากจะกระทุ้งเข้าไปให้มากกว่านี้แต่ก็ไม่อยากทำให้เปิ้ลตกใจ พยายามที่จะยั้งตัวเองไว้ แต่เหมือนเปิ้ลจะรู้ใจผมเพราะเขาทำทุกอย่างที่ผมต้องการจริงโดยไม่ต้องบอก
   หลังจากปลดปล่อยไปคนละหนึ่งทีผมก็รั้งให้เขากลับมาอยู่ใต้ร่างผมอีกครั้ง จัดการทางเข้าให้อ่อนนุ่ม ขยับขยายมากพอที่จะรับตัวตนของผมเข้าไปได้ ถึงจะบอกว่าหมีน้อย แต่สรีระมันไม่ได้น้อยตามชื่อหรอกนะ บอกเลย หึหึ
   ผมค่อยๆ ดันตัวเข้าไปทีละนิด นี่เป็นครั้งแรกกับผู้ชายแต่กลับรู้สึกดีมาก คงเพราะเป็นเปิ้ลคนที่ผมรัก ผมอยากขยับใจแทบขาดแต่สีหน้าของคนใต้ร่างกลับบิดเบี้ยว ผมเลยแช่อยู่ตัวครู่หนึ่งจนเปิ้ลยืนมือมารั้งผมเข้าไปหาแล้วมอบจูบร้อนแรงให้ ตรงนั้นคล้ายความเกร็งไปแล้วผมจึงเริ่มขยับตัวตามที่ใจต้องการ เมื่อทุกอย่างเข้าทีผมก็ไม่ยั้งแรงอีกต่อไป
   “อืม. .อื้อ..”
   เสียงหอบหายใจประสานกันจนแยกไม่ออกเมื่อเราถึงจุดจุดหนึ่ง และต่างปล่อยธารน้ำใสออกคนละที ผมดึงเขาขึ้นมาคร่อมบนตักหัวนมสีชมพูอยู่ระดับสายตาพอดีจึงไม่รอช้าที่จะชมชิมมันอีกครั้งจนเห่อแดงในขณะที่มือทั้งสองขาวสาละวนอยู่กับการคว้านเอาไอ้สิ่งที่ปล่อยออกไปเมื่อครู่ออกมาจากช่องทางบอบช้ำนั่น
   เสียงเฉอะแฉะจากสี่นิ้วของมือทั้งสองข้างที่ผลัดกันลุกล้ำยิ่งทำให้รู้สึกเร้าอารมณ์ หลังจากที่คิดว่าพักกันจนพอหายเหนื่อยแล้วผมก็เดินเครื่องต่อทันที ซึ่งเปื้ลเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
   “ไม่ต้องไปบ่นกับเพื่อนแล้วเนอะ”
   “อะ .. อือ ไม่บ่น ไม่บ่นหรอก แต่จะ.. อะ!”
   “จะอะไร หืม” ไล้จูบตั้งแต่แผ่นหลังไปจนถึงขมับ
   “จะเล่าแทน โอ้ย! เบาๆ”
   “เล่าให้หมดละ”
   “ฮือ.. ไอ้น้ำนิ่งขี้แกล้ง”
   ในที่สุดผมก็ได้กินแอปเปิลทั้งตัวเสียที




   สิ่งที่ตามมาหลังจากสงครามบนเตียง และเสียงครางคืออะไร?
   คือเปิ้ลไม่สบาย
   ผมถึงกับเอ๋อเมื่อตื่นมาแล้วคนที่กอดก่ายกันอยู่ทั้งคืนตัวรุ่มๆ ขึ้นมา ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นมาด่าผม เปิ้ลงัวเงียคลายจะตื่นแต่ก็ไม่ตื่น ดูมึนงงเพราะพิษไข้ ผมเลยต้องจัดการเสิร์จหาวิธีดูแลคนไข้ ต้องทำข้าวต้ม เช็ดเนื้อเช็ดตัว หาหยูกหายาให้กิน
   อืม.. เช็ดตัวนี่ทำได้แต่อย่างอื่นค่อนข้างจะยากเกินไปสำหรับผม
   “แค่ตักใส่ถ้วยใส่ชามน่าจะทำได้เนอะ รู้จักยาแก้ไข้ใช่เปล่า อันนี้นะ” เพราะไม่มีปัญญาทำอย่างอื่นนอกจากเช็ดตัวผมเลยไปลากสองคนนี้ลงมาจากด้านบน
   พีชว่าพลางจัดนั่นชูนี่ให้ผมดู ไอ้ผมก็เดินตามต้อยๆ พยักหน้าตามอย่างว่าง่ายแม้ในใจจะเกิดความตะขิดตะขวนใจอยู่หลายครั้งก็ตาม นี่ผมไม่ได้กำลังโดนแฟนเพื่อนหลอกด่าอยู่ใช่ไหม ไอ้ห่าหิน อย่าส่งยิ้มสมเพชแบบนั้นให้กูสิวะ
   “อืม” ยาพาราใครก็รู้จักปะวะ ชักหงุดหงิด นี่ก็แบ๊วจนไม่กล้าตอกกลับแรงๆ
   “เก่งมาก”
   พีชยืนยิ้มแฉ่งมาให้อย่างเป็นมิตร ผมเลยได้แต่ถอนหายใจปลง เออ คงไม่ได้จะหลอกด่าอะไรผมหรอก พอเจ้าตัวเดินไปนั่งข้างแฟนผมก็พยักหน้าให้หินทันที
   ไปซะ พวกมึงจงกลับไปซะ ผมกับไอ้หินที่มักจะคุยกันทางจิตเลยเข้าใจกันได้ในทันทีมันคว้ามือคนข้างตัวแล้วลากออกจากห้อง
   “ไปไหนอะ เปิ้ลยังไม่ตื่นเลย”
   “แล้วจะอยู่กวนเขาทำไม”
   “จะอยู่ดูแลเหอะ เกิดน้ำนิ่งเอาข้าวยัดปากเปิ้ลจนสำลักทำไงอะ! ยิ่งมึนๆ เอ๋อๆ อยู่”
   กูว่าไอ้เตี้ยนี่หลอกด่ากูมาตลอดแล้วละ คราวนี้ไม่หลอกด้วย ด่าเต็มๆ ตรงๆ
   “มันไม่ได้โง่น่า ถ้าแค่ข้าวยังป้อนไม่เป็นก็ไม่ต้องไปทำอะไรแดกแล้ว” ไอ้ห่าหินอีกคน
   “ไม่เป็นไรพีช เราทำได้จริงๆ ขอบใจมาก” กลับไปเถอะ กูไม่อยากโดนด่าไปมากกว่านี้อีกแล้ว
   “แน่ใจนะ? ก่อนป้อนต้องเป่าก่อนรู้เปล่า เดี๋ยวลวกลิ้น ถ้าลวกแล้วจะจูบไม่ได้ไปหลายวันเลยนา” โอ้ บันทึกเกร็ดความรู้ไว้ในหัวน้อยๆ ของผมแล้วครับ ขอบคุณท่านผู้ชี้แนะ
   ไม่ใช่แล้ว! โว้ยย! จะหลอกด่ากูไปถึงไหน!?
   “พูดมาก กูไปแล้วไอ้นิ่ง”
   “เออๆ ขอบใจมาก”
   “เนี่ยๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อวานเปิ้ลไปยืนรอตรงหน้าคอนโดก็คงไม่เป็นไข้หรอก”
   “หืม?” ใครยืนรอหน้าคอนโด พอเห็นผมสนใจพีชก็เริ่มพูดต่อ
   “เมื่อวานเปิ้ลไปยืนรอน้ำนิ่งหน้าคอนโด แล้วฝนตก ที่จริงก็ยืนในร่มนำแต่คงโดนละลองฝนอะ เรียกให้เข้ามารอข้างในก็ไม่เข้า”
   “อ่า.. อย่างนั้นเหรอ”
   นึกว่าป่วยเพราะสงครามบนเตียงเมื่อคืนซะอีก แถบความรู้สึกผิดถูกเติมจนเต็ม พอสองคนนั้นออกไปผมก็เดินเข้ามาในห้อง เปิ้ลงัวเงียลืมตาขึ้นมาพอดี    
   “สองคนนั้นไปแล้วเหรอ”
   “อืม เปิ้ล..” ผมเรียกเขาเสียงอ่อนแล้วมุดไปซุกๆ ตรงหน้าอก อุณหภูมิของร่างกายยังร้อนกว่าปกติอยู่นิดหน่อยแต่ก็ดีขึ้นกว่าตอนเช้ามาก “ขอโทษ”
   “เรื่องอะไร”
   “เมื่อวานที่ทำตัวไม่ดี เปิ้ลออกไปรอเราหน้าคอนโดใช่ไหม”
   “ใครบอก”
   “พีช”
   “จิ๊ ไอ้พีชนี่ปากมาก เออ ออกไปรอ ก็นิ่งโกหกอะ บอกไปช่วยงานเพื่อนแต่เรานี่เจอเพื่อนนิ่งพอดี พวกนั้นบอกงานเสร็จแล้ว” รู้ทั้งรู้ว่าผมโกหกแต่ก็ไม่โทรตาม แถมตอนกลับมาก็ยังไม่ถามซักไซ้อะไรอีก “รู้หรอกว่าตอนนั้นไม่ปกติเลยไม่โทรตาม แต่มันร้อนใจเลยออกไปรอข้างนอกเฉยๆ บ้าบอดีจริงๆ”
   “แต่พอกลับมาก็ยังไม่ถาม”
   “เหม็นเหล้า”
   ผมอมยิ้ม เปิ้ลเป็นคนที่รู้จังหวะในการปล่อย รู้จักหวะในการดึง มันทำให้ผมสบายใจ ถ้าเมื่อวานเปิ้ลเลือกที่จะโทรหาตั้งแต่รู้ว่าผมโกหก กลับมาเอาแต่ซักไซ้ผมคิดว่าเรื่องคงไม่จบง่ายอย่างนี้ ยิ่งคิดว่าเปิ้ลใส่ใจความรู้สึกของผมมากเท่าไรผมก็ยิ่งกอดเขาแน่นขึ้นเท่านั้น
   “ขอโทษที่ช่วยอะไรไม่ค่อยได้”
   “หะ อ๋อ.. แค่นี่ก็ช่วยได้เยอะแล้ว ถ้านิ่งทำแล้วห้องเลอะใครต้องเก็บ”
   “เปิ้ล”
   “ใช่~ เพราะอย่างนั้นการที่เรียกไอ้พีชมาจัดการน่ะดีแล้ว”
   ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาสักเท่าไร แต่ก็ได้อยู่
   แล้ววันนั้นหลังจากคืนแรกของพวกเราผมกับเปิ้ลก็ใช้เวลาไปกับการนอนบนเตียงนอนนุ่มตลอดทั้งวัน
   



 TBC.
31/7/17
บอกแล้วว่าตอนนี้จะเป็นตอนที่เปิ้ลรอคอย เราด้วย ดรามงดราม่าอะไรก็ไม่มีเพราะวันนี้เรากินมาม่าไปแล้วคนเดียวไม่แบ่งหรอก 555555
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
แล้วเจอกันตอนหน้าจ้า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-07-2017 20:59:13 โดย YEEUN9424 »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แหม กว่าจะได้กินแอปเปิลลูกนี้

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :-[

ชอบความน่ารักของทั้งคู่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด