ตอนที่8
เขียนสี
ผมขับตามรถตู้มาเรื่อยๆจนตอนนี้น่าจะเข้าเขตระยองแล้ว พวกผมตกลงกันแล้วว่าจะขับช้าๆเรื่อยๆ เจอร้านค้าข้างทางที่น่าสนใจก็จอดไม่ต้องสนใจว่าจะมีเงินซื้อหรือเปล่า จอดไปก่อนเรื่องเงินค่อยว่ากัน
สายตาผมจดจ้องไปที่ถนนด้านหน้าแต่ก็อดไม่ได้ที่จะคอยหันมามองคนนั่งด้านข้างที่ตอนนี้เอนเบาะปิดเปลือกตาหลับสบายไปเรียบร้อย
ตั้งแต่ออกมาจากรีสอร์ท มันพูดกับผมได้แค่สี่ห้าประโยค หลังจากนั้นมันก็เงียบ ไม่พูดไม่จา ได้แต่อืมๆๆๆ จนหันไปอีกทีมันก็หลับคอพับคออ่อนแล้ว แต่ผมไม่รู้สึกโกรธมันเลยสักนิดที่ท่าทีมันเหมือนรำคาญผม อาจจะเป็นเพราะว่ากิริยาของมันช่างดูน่ารักราวกับว่ามันกำลังเขิน บางทีผมก็รู้สึกว่าตัวเองนี่แม่มโคตรโรคจิตเลย
แล้วก็อย่าถามว่าทำไมผมถึงมองว่ามันน่ารัก ทั้งๆที่มันก็ประกาศปาวๆว่ามันน่ะทั้งเท่ห์ทั้งหล่อ ก็เพราะตั้งแต่วันที่ผมเจอมันครั้งแรกผมไม่เคยรู้สึกว่ามันหล่อเลยสักนิด ถึงแม้ว่ามันจะตัวสูง แต่มันก็เตี้ยเท่าคางผม ผิวขาวของมันดูชมพูทุกครั้งที่โดนแดด ตาโตๆ ปากเล็กๆ จมูกโด่งๆ ตัวก็บาง ขาก็เรียว หึ เนี่ยน่ะเหรอเดือนมหา’ลัย เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเขาชอบผู้ชายอ้อนแอ้นแบบนี้เหรอ ผมล่ะไม่เข้าใจ
ผมเห็นมันครั้งแรกที่คณะที่มันเรียนนั่นแหละ พอดีว่าไอ้ทายกะไอ้ซันมันขอให้ผมมาส่งที่ตึกวิศวะบอกว่ามีธุระกับน้องที่สนิท ที่ไหนได้กลับเป็นแก๊งของไอ้ดินน้องรหัสไอ้ริวมัน ผมไม่เคยเห็นพวกมันมาก่อน คงเป็นเพราะผมไม่ค่อยไปไหนนอกจากคณะตัวเอง แล้วพวกมันก็ไม่เคยมาที่คณะผมเหมือนกัน
แต่ดูเหมือนว่ามันจะเจอผมครั้งแรกที่หน้าผับ วันที่มันโดนไอ้หมูอ้วนคนหนึ่งลวนลาม แถมยังบอกว่ามันเหมือนผู้หญิงอีก ผมยืนมองอยู่นานแล้วก็ได้แต่ขำ ผมเห็นตั้งแต่มันเดินออกจากร้านตามหญิงสาวสุดเอ็กซ์คนหนึ่งไป ผมรู้ว่ามันเป็นผู้ชาย ผมรู้ แต่ผมแค่อยากหยอกมันก็เลยบอกว่ามันเป็นผู้หญิงตอนที่เข้าไปช่วยมัน หึ ผลสุดท้ายมันซัดผมปากแตก เห็นตัวเล็กไม่คิดว่าจะแรงเยอะ
ตอนนั้นผมจำได้ว่าผมเช็ดเลือดมุมปาก แต่กลับมีรอยยิ้มซึ่งผมก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไม ผมถึงไม่โกรธ ไม่โกรธเลยสักนิด แถมในใจยังร้องลั่นว่า ผมต้องเอาคืนมันแน่ๆที่มาต่อยปากผม แต่วิธีที่ผมจะเรียกร้องคืนมันสะเด็ดสะเด่า กว่าไปต่อยปากมันคืนแน่นอน ผมคอนเฟิร์ม
กูจะไม่ปล่อยมึงไปแน่ ไอ้เด็กแสบ!
ผมนึกๆไปก็ได้แต่ขำ ผมไม่เคยคิดว่าวันนึงจะมารู้สึกอยากได้ใครมากขนาดนี้แถมคนๆนั้นยังเป็นผู้ชายเหมือนกันกับผมอีก ผมไม่ใช่เกย์ และผมก็รุ้ว่ามันไม่ใช่เกย์ หึ แต่ผมแคร์หรอ? ไม่เลยผมไม่แคร์สักนิด ก็ถ้าผมอยากได้มัน ต่อให้มันมีปีกบินได้ผมก็จะลากมันกลับมาไว้ใต้ร่างผมให้ได้อยู่ดี
หึหึ
“อื้ออ ถึงไหนแล้ว”เสียงไอ้คนนั่งข้างๆงัวเงียขึ้นมาถาม ผมเลยจำเป็นที่จะต้องหยุดคิดอะไรในสมองไปก่อน จะว่าไปเสียงตอนมันงัวเงียแบบนี้ก็ดูเซ็กซี่นะ
“ทำไม”ผมถามสั้นๆ ไม่อยากถามอะไรยาวๆมันยืดเยื้อ เหตุนี้มั้งคนก็เลยมองว่าผมดูหยิ่งๆ ไม่ค่อยคบใคร แต่มันก็จริงอย่างคนอื่นว่าอ่ะแหละ
“กูปวดฉี่”มันบอก ไม่มีได้มีความอายเลยสักนิด
จะว่าไปผมยังไม่เห็นอะไรในตัวมันที่สามารถทำให้ผมสนใจได้นอกจากหน้าตาน่ารักๆของมันอ่ะ นิสัยก็กวนส้นตีน ปากหมา ไม่มีมารยาท แต่มันเป็นแบบนี้นี่แหละดีแล้ว เพราะมันจะทำให้ผมรู้สึกสนุกเวลาที่จะจับมันกดลงเตียง
คุณคงคิดว่าผมดูหื่น จะบอกให้ ว่าผมก็เป็นอย่างที่พวกคุณคิดนั่นแหละ
“เดี๋ยวค่อยแวะปั๊มข้างหน้า”ผมให้มันจัดการโทรหาคนบนรถตู้บอกว่าจะแวะปั๊มข้างหน้ากัน
ดูนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงแล้ว เลยตัดสินใจว่าจะแวะกินข้าวกันที่ปั๊มข้างหน้าเลย และก็คงจะยิงยาวจนถึงกรุงเทพ ไม่แวะแล้วเพราะลำพังที่แวะๆมานี่ รถก็เก็บของกันแทบจะไม่พอแล้ว
ผมเดินมานั่งบนรถรอทุกคนทำธุระหลังจากทานข้าวกันเสร็จแล้ว รู้สึกอยากได้นิโคตินเข้าร่างกาย เลยเลือกมาสูบคนเดียวเงียบๆตรงนี้ ปล่อยทุกคนมันไปเข้าเซเว่นกันไป เพราะผมก็ไม่ได้ชอบกินอะไรจุกจิกแบบนี้อยู่แล้วด้วย
ผมลูบหน้าลูบตารู้สึกเพลียๆอย่างบอกไม่ถูก เป็นเพราะไม่ได้ขับรถไปไหนไกลๆแบบนี้มานานแล้วด้วยมั้ง แถมตลอดห้าวันที่ไปเที่ยวผมแทบจะไม่ได้นอน ก็เพราะไอ้เด็กปากดีนั่นแหละที่ทำให้ผมนอนไม่ได้
อย่าถามว่าเพราะอะไร ก็เพราะมันทำผม “ตื่น” จนผมนอนกระสับกระส่ายไม่เป็นสุข แต่ผมถือคติที่ว่า อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ถึงเวลานั้นเมื่อไหร่ผมจะเล่นให้คุ้มเลย
แถมวันที่น้องกี้โดนไอ้ดินไปปล่อยไว้ในห้องเดียวกับไอ้ริว ผมนั่งอยู่ที่ชายหาดทั้งคืนไม่ได้นอนจนถึงเช้า ผมเห็นแต่ผมไม่ได้เข้าไป จะหาว่าผมเลว ก็ว่าไปเถอะผมไม่เถียง อย่างน้อยตอนนี้ไอ้ริวกับกี้มันก็ร่วมเรียงเคียงหมอนกันไปเรียบร้อยละแก้ไขอะไรไม่ทัน
จริงๆผมนอนดึก หรือไม่ได้นอนเลยแบบนี้บ่อยๆอยู่แล้วด้วยคณะที่เรียนมันก็ทำให้ต้องใช้ชีวิตแบบนี้ แต่ดูเหมือนว่าการที่ต้องมาขับรถระยะทางหลายร้อยกิโล ห็ทำให้ผมเริ่มหน้ามืดนิดๆละ สงสัยต้องไปหาเครื่องดื่มชูกำลัง
“อ่ะ”ผมเหยียบก้นบุหรี่ลงกับพื้น แล้วเงยหน้าขึ้นเจ้าของมือที่ยื่นขวดกระทิงแดงมาตรงหน้าผม มุมปากยกขึ้นแบบอัตโนมัติที่เห็นว่าเจ้าของมือเป็นใคร หึ ยังไม่ทันเรียกหากระทิงแดงก็ขวิดมาตรงหน้าเหมือนรู้เชียว
“ซื้อให้?”ผมถามมัน ยังไม่ยอมยื่นมือไปรับ อยากหยิ่งกวนส้นตีนมันเล่นๆไปก่อน หน้ามันเวลาขัดใจแล้วดูตลกดี ผมชอบ
“กูคงไปขโมยเขามามั้ง ควาย”มันพูดหน้างอ ความกวนส้นตีนนี่เพิ่มเลเวลเร็วๆจริง
มันหน้าบึ้งใส่ผมและทำท่าว่าจะเดินหนีไปเมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมไปรับขวดกระทิงแดงจากมันซักที ผมรู้ว่ามันคงเสียหน้าเล็กๆด้วยล่ะมั้ง
หมับ!
“สัส ปล่อย”มันไม่ได้ตะโกนเสียงดัง แต่เสียงก็ดูดุจนรู้เลยว่ากำลังไม่พอใจที่เห็นว่าผมเอื้อมไปจับมือมัน
“ปล่อยได้ไงก็กูจะกิน”ผมพูดพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่มไปให้มัน มันก็พยายามแงะๆมือมันออกจากมือผม แต่คงไม่กล้าโวยวายเยอะเพราะตอนนี้อยู่ในปั๊มคนมองเยอะมันคงอาย หึ ซึ่งนั่นก็เข้าทาง
“ก็เอาไปแล้วปล่อยมือกูซะที”มันพูดรอดไรฟัน ทั้งสงสารทั้งขำแต่ก็ต้องพยายามเก็กหน้านิ่งไว้
ผมไม่ตอบอะไรมันแต่จงใจจับมือมันที่ถือขวดกระทิงแดงไว้อยู่มาใกล้ๆปาก ก่อนที่ผมจะใช้ปากตัวเองนี่แหละที่บิดฝากระทิงแดงออก ไม่ยากครับเพราะฝาขวดมันไม่ได้แข็งมากมาย แต่ที่ทำผมอมยิ้มก็คือสีหน้าอึ้งๆของมันนั่นแหละ เพราะที่ผมทำเนี่ยผมยังไม่ปล่อยมือมันเลยไง
“อะ ไอ้โรคจิต”มันด่า แต่ทำไมหน้าแดง จะว่าอากาศร้อนก็ ไม่น่าใช่
“อืม สงสัยจะจริง”ผมว่าก่อนจะจับมือมันยกขวดขึ้นจ่อที่ปากผม เท่ากับกลายเป็นว่ามันป้อนผมไปโดยปริยาย ชอบจริงๆเห็นคนทำตัวไม่ถูกเนี่ย
-///-
“อ๊า หายเหนื่อย”ผมแกล้งทำเสียงฟินๆ ก่อนจะปล่อยมือมัน คนเริ่มมองเยอะแล้ว ยังไม่อยากให้มันอายจนกลายเป็นโกรธ
“ไอ้ควาย”มันทุบไหล่ผมทีนึงโคตรเจ็บ ก่อนที่ตัวมันจะวิ่งไปเข้าเซเว่นอีกรอบ
แม่ง ถ้าไม่เห็นว่าเป็นว่าที่เมียในอนาคตนะผมทุบคืนปากแตกไปแล้ว นี่กูยอมให้หรอก
(มีต่อ พรุ่งนี้มาลงให้อีก80%น้าาา )