ไข่ฟองที่ 10
พี่บำรุงคนขยัน
ปกติวันหยุดเสาร์อาทิตย์ผมมักจะหาเรื่องชวนไข่ต้มไปเที่ยว อย่างกินข้าว เดินห้าง ดูหนัง กิจกรรมแสนธรรมดาสุดคลาสสิก แต่เมื่อวันหยุดของสัปดาห์แรกหลังเปิดเทอมมาถึงผมกลับไม่กล้าชวนมันเหมือนทุกที เพราะอะไรคงไม่ต้องบอก
ก็นะ คนมีแฟนแล้วเขาอาจจะอยากใช้เวลาว่างอยู่แฟนมากกว่าเพื่อนอย่างผมก็ได้
ผมนอนกลิ้งอยู่บนเตียงตั้งแต่ตื่นนอนตอนเก้าโมงเช้า เล่นมือถือ เล่นเกมจนเริ่มเบื่อ ใจอยากจะชวนไข่ต้มออกไปดูหนังแต่ก็ติดเหตุผลตามที่บอก เลยได้แต่กดดูเบอร์มันแล้วก็กดออกไปมาอยู่อย่างนั้น
ช่วงนี้มีหนังน่าดูเข้าใหม่หลายเรื่อง ผมอยากดูแต่ก็ไม่อยากดูคนเดียว ตีกับความคิดตัวเองอยู่หลายรอบ บ้างก็ให้ทำสิ่งที่อยากทำ บ้างก็ให้หยุดความคิดเรื่องไข่ต้มไปเลย คิดเอาเองเหมือนคนบ้า จนสุดท้ายต้องตัดสินใจลุกจากเตียงก่อนความคิดจะตีกันไปมากกว่านี้
เอาวะ ก็แค่ดูหนังคนเดียวจะเป็นอะไรไป
ยังไม่ทันจะบ่ายโมงผมก็มาถึงโรงหนัง เป็นการเที่ยวในวันหยุดที่มาถึงห้างโคตรเร็ว เร็วกว่าทุกรอบที่เคยมากับไข่ต้มอีก แถมยังไม่มีการลีลาชักช้าแต่อย่างใด มาถึงก็ตรงไปชั้นโรงหนัง ผมดูรอบมาจากในเว็บแล้ว แค่ไปกดซื้อตั๋วแล้วนั่งรอเวลา
วันนี้จะดูสักสองเรื่องตามประสาคนโสด
ผมเดินไปยืนหน้าตู้ซื้อตั๋วโดยมีพี่พนักงานยิ้มหวานให้ กดเลือกรอบเลือกที่นั่งได้แล้วกำลังจะใส่โค้ดลดราคา โทรศัพท์ที่ถือดูโค้ดอยู่ก็มีแชตเด้งขึ้นมาจนเต็มหน้าจอ ถ้าเป็นคนอื่นผมคงปัดทิ้งด้วยความเกรี้ยวกราด แต่เพราะมันเป็นแชตจากไอ้ไข่ต้ม มือมันเลยจิ้มเข้าไปอ่านอย่างรวดเร็ว
Egg : ตื่นยังมึง
Egg : ทำไมวันนี้เงียบๆ
Egg : ไม่ชวนกูไปเที่ยวไหนเหรอ
Egg : หนังน่าดูเยอะมากเลยนะเว้ย
Egg : ไปดูหนังกันมั้ย
Egg : เรื่องไรดี
ผมถลึงตามองข้อความบนหน้าแชตอย่างไม่อยากเชื่อ ช่างแม่งมันแล้วตั๋วหนัง ผมจิ้มออกจากหน้าจอซื้อก่อนเดินหันหลังออกมานั่งที่โซฟาด้านนอก
ไข่ต้มมันชวนผมดูหนัง
มันชวนผมดูหนัง!
ผมยังเอาแต่มองหน้าจอมือถือแล้วอมยิ้มอยู่คนเดียว ร้อยวันพันปีไม่มีหรอกที่มันจะเป็นคนชวน แถมเล่นพิมพ์มาซะเยอะขนาดนี้สงสัยคงกลัวว่าผมจะไม่เห็น แสดงออกชัดเจนว่าอยากดูหนังกับผมมากๆ มากกว่าแฟนตัวเองด้วย
S : ตื่นแล้ว
ผมพิมพ์ตอบกลับไปคำเดียวมันก็ขึ้นอ่านทันที ก่อนไข่ต้มมันจะรัวข้อความกลับมาอีกครั้ง
Egg : วันนี้ไม่ไปไหนเหรอ
Egg : ไหนมึงบอกอยากดูเรื่องนั้นไง
Egg : ไม่เห็นมึงมาชวน
Egg : ไปดูมั้ย
Egg : เจอกันบ่ายสาม
นัดเวลาให้เสร็จสรรพขนาดนี้ทำเอาผมไม่กล้าตอบกลับไปเลยว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกไปโดนโกรธแน่ๆ ไม่ต้องสืบ เล่นหนีมันมาดูหนังคนเดียวแบบนี้
S : เออ ได้ๆ
S : เดี๋ยวกูดูรอบก่อน
ผมกำลังจะลุกขึ้นไปดูโปรแกรมหนังว่ามีรอบฉายช่วงบ่ายกี่โมงบ้าง แต่ยังไม่ทันเดินไปมันก็ตอบกลับมา
Egg : มีบ่ายสามสิบห้า
ไข่ต้มแม่งโคตรเป๊ะ
Egg : โอเคมั้ยมึง
S : โอเคๆ
S : แต่กูอาจจะถึงก่อนนะ
S : เดี๋ยวซื้อตั๋วไว้ให้
S : มึงจะออกกี่โมง
Egg : เดี๋ยวก็ออกแล้วมึง กูเบื่อๆ พอดี
เวลาโกหกทีไรผมมักจะเกิดอาการเหงื่อตก ยิ่งกับไข่ต้มแล้วด้วยยิ่งไม่ค่อยอยากโกหกมันเพราะไม่อยากโกรธกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
Egg : งั้นกูจะรีบออก เผื่อทันรอบบ่ายสองห้าสิบ
S : ไม่ต้องรีบก็ได้ เพิ่งจะบ่ายโมง
Egg : เผื่อไปกินข้าวด้วยไง กูออกเลยดีกว่า
เอาแล้วไง ก็บอกว่าไม่ต้องรีบมันก็ยังจะรีบอีก แต่บ่นไปก็เท่านั้น เพราะสิ่งที่ผมจะตอบกลับไปมีเพียงคำตอบเดียว
S : โอเค
แล้ววันนี้ผมก็ไม่ต้องดูหนังคนเดียวอีกต่อไป
ผมนั่งรอไข่ต้มอยู่บนชั้นโรงหนัง รอจนมันบอกว่าใกล้ถึงแล้วค่อยโกหกว่าถึงก่อนหน้ามันและซื้อตั๋วไว้รอ แต่ที่จริงผมซื้อตั้งแต่มันบอกว่าจะมาดูด้วยแล้วเพราะกลัวจะได้ที่นั่งไม่ดี จากนั้นก็ลงไปรอมันที่ชั้นสอง จะได้หาอะไรกินกันก่อนหนังฉาย
ไข่ต้มมันอยากกินอาหารญี่ปุ่น ผมเลยมายืนรอมันหน้าร้าน ไม่นานก็เห็นมันขึ้นบันไดเลื่อนมาด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่พอหันมาเห็นผมปุ๊บริมฝีปากที่เหยียดตรงเมื่อครู่ก็โค้งขึ้นมาทันที
เราไม่ได้ทักทายอะไรกันเป็นพิเศษ เจอแล้วก็เดินเข้าร้าน ได้ที่นั่งแล้วก็สั่งอาหาร ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟผมเลยยื่นตั๋วหนังให้มัน
"คนโคตรเยอะเลย ดีนะยังมีที่ว่างตรงกลาง"
"ดีแล้วมึง" มันบอกแค่นี้ก่อนจะเปิดกระเป๋าสตางค์หยิบเงินตามราคาตั๋วยื่นให้ผม
ไข่ต้มมันมองตั๋วในมือเหมือนเป็นการฆ่าเวลาระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ เห็นแบบนี้แล้วผมอยากจะถามนักว่าวันหยุดแบบนี้มันไม่ไปเที่ยวที่ไหนกับแฟนหรือไงถึงมีเวลาว่างมาอยู่กับผมแบบนี้ แต่ที่ไม่ถามเป็นเพราะในใจผมไม่อยากนึกถึงพี่คนนั้น ไม่อยากรู้ไม่อยากสนใจว่าเขาจะไปเที่ยวที่ไหนด้วยกัน ไม่อยากเห็นพวกมันมีความสุขตอนอยู่กันสองคน
"เออมึง"
"มึง"
ผมกับไข่ต้มทักขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน ผมแค่อยากชวนมันคุยเรื่องไร้สาระ แต่เมื่อมองหน้าคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วดูเหมือนอารมณ์มันจะคนละโซนกับผม เป็นอะไรไปอีกล่ะ ทำหน้าตาน่ากลัวขนาดนี้
"อะไร" ผมให้โอกาสมันพูดก่อน ไม่รู้มีเรื่องอะไรไปกระตุ้นต่อมอารมณ์มันหรือเปล่าอยู่ๆ ถึงได้ทำหน้าตึงขึ้นมา
"มึงซื้อตั๋วตอนไหน" คำถามกับน้ำเสียงทำเอาผมใจไม่ดี แต่ก็ยังทำใจสู้ตีเนียนต่อไป
"ก่อนมึงมาไง"
"ก่อนที่ว่าอะกี่โมง"
"ก็..."
"บ่ายโมงสิบแปด สรุปมึงมาถึงกี่โมงวะ" มันบอกแล้วชี้เวลาบนตั๋วหนังให้ผมดู
แม่งเอ๊ย! ลืมไปเลยว่าบนตั๋วมันระบุเวลาซื้อด้วย
"เอ่อ"
ผมพูดไม่ออกเลยยิ้มแห้งสู้ไปก่อน แถต่อไปก็ไม่ได้เพราะจำนนต่อหลักฐาน
"โอเค ยอมรับก็ได้ กูมาถึงที่นี่ก่อนมึงจะชวนอีก"
"คือยังไง" ไข่ต้มขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม มันเอาแต่จ้องผม ประมาณว่าถ้าคำตอบฟังไม่เข้าท่าได้มีปัญหาแน่ๆ ซึ่งคำตอบของผมนั้นจะไปเอาความเข้าท่ามาจากไหน
"กูจะมาดูหนัง แต่ไม่ได้ชวนมึง"
"ทำไมวะ"
"ก็มึงอาจจะอยากไปเที่ยวกับพี่อ๋องก็ได้นี่หว่า กูไม่อยากกวน"
"ไม่อยากกวน หรือไม่อยากให้กูมาด้วยกันแน่วะ"
"ไม่ใช่ กูแค่คิดว่ามึงอาจจะอยากไปเที่ยวกับพี่อ๋อง"
"ทำไมต้องคิดเอาเอง"
"กูผิด กูขอโทษ"
ผมยอมแพ้แต่โดยดี แสดงสีหน้าสำนึกผิดให้มันเห็น แต่มันกลับยังทำหน้าเครียดไม่เลิก
"มึงคิดว่ากูมีแฟนแล้วจะทิ้งเพื่อนเหรอวะ"
"ไม่ใช่แบบนั้น"
เราโดนขัดโดยพนักงานที่เอาอาหารมาเสิร์ฟ ราเมงร้อนๆ กลิ่นหอมฉุย มันร้อนพอๆ กับอารมณ์ไข่ต้มตอนนี้ ความอยากกินก่อนหน้านี้หายไปหมดสิ้น ถ้าหากมันเป็นนางร้ายในละครตอนโกรธมันคงยกถ้วยราเมงสาดหน้าผมไปแล้ว
"ก็อย่างที่กูบอกมึงไปเมื่อกี้ กูคิดแบบนั้นจริงๆ เออ กูอาจจะน้อยใจด้วยนิดๆ ที่มึงมีแฟน แต่ก็นั่นแหละ กูไม่รู้จะพูดอะไรแล้วว่ะ เหตุผลก็มีแค่นี้ ใครจะอยากมาดูหนังคนเดียว" ผมพูดหลังจากพนักงานเสิร์ฟเดินออกไป ก็ได้แต่บอกเหตุผลซ้ำๆ เดิมๆ ถ้ามันไม่หายโกรธก็ไม่รู้จะแก้ตัวอะไรแล้ว จะให้โพล่งออกไปว่า 'กูชอบมึง' 'กูหึง' 'กูไม่อยากรับรู้เรื่องมึงกับพี่อ๋อง' ก็คงไม่ได้
"มีแฟนก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทิ้งเพื่อนหรือเปล่าวะ"
ผมไม่เถียง ยอมรับผิด ผิดที่มโนเองด้วยความแรงกล้า ผิดที่โคตรคิดไปเอง ชูสามนิ้วสัญญากับตัวเอง คราวหลังจะไม่คิดอะไรแบบนี้อีกแล้ว
"มึงยังสำคัญกับกูเหมือนเดิมนะเว้ย อย่าทิ้งกูดิ" มันบอกด้วยสายตาเหมือนลูกหมา ทำให้ผมเข้าใจอย่างสุดซึ้งแล้วว่ามันต้องการอะไร
ก็มันเป็นแบบนี้ไง ผมถึงตัดใจไม่ได้ ไปไหนไม่รอดสักที
"โคตรซึ้งเลย" แล้วก็ต้องทำเป็นพูดล้อเล่นกลบเกลื่อนความดีใจ
"กูจริงจัง"
"กูก็ซึ้งใจจริงๆ ไง กินได้แล้ว เดี๋ยวมันเย็นไม่อร่อยนะมึง"
"มึงน่ะแหละทำเสียบรรยากาศ"
"เอ้า โทษกูอีก" แต่เออ ผมยอมรับผิดก็ได้
"ทีหลังมึงอย่าคิดแบบนี้อีกนะ กูรู้สึกไม่ดีเลย"
"เออ"
"อยากดูหนังต้องชวนกู"
"เออ"
"จะไปไหนก็ต้องชวนกู"
"เออ"
"จะกินอะไรก็ต้องชวนกู"
"เออ"
"ดี" มันตัดจบสั้นๆ แล้วยิ้มบางๆ เป็นการบังคับที่ผมโคตรถูกใจเลย
จากนี้ผมจะไม่ถามหาแฟนมันแล้ว จะทำไรก็ช่างหัวพี่อ๋องมัน รู้แค่ว่าผมจะชวนไข่ต้มไปกินไปเที่ยวเหมือนเดิม จะทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม
ทำทุกอย่างที่ผมอยากทำ และเคยทำมาตลอด
กว่าหนังจะจบก็เย็นพอดี เราออกมายืนรอรถเมล์ที่หน้าห้าง ตั้งใจจะกลับบ้านเลยเพราะไม่มีโปรแกรมไปไหนต่อ ที่ว่ามานี้หมายถึงไข่ต้มคนเดียวนะ เพราะผมน่ะมี คือแวะไปส่งมันที่บ้านก่อนกลับบ้านตัวเอง
ผมชวนไข่ต้มคุยเรื่องหนังที่เพิ่งดูจบระหว่างรอ กำลังเม้าท์กันอย่างออกรสออกชาติอยู่ๆ ก็มีผู้ชายวัยทำงานเดินมาหยุดยืนข้างไข่ต้ม บอกเลยว่าผมรู้สึกถึงลางไม่ดี จะมีสักวันไหมที่เราได้อยู่อย่างปกติสุข
"สวัสดีครับ พี่ชื่อบำรุง เป็นช่างไฟฟ้า อายุยี่สิบห้า ทำงานมาแล้วสองปี เงินเดือนอาจจะยังไม่เยอะมาก แต่พี่เป็นคนขยันมากครับ หัวหน้าคงเห็นแววและประเมินให้คะแนนเยอะๆ เงินเดือนพี่ก็จะเยอะตาม"
"เอ่อ ครับ" ผมตอบรับอย่างงงๆ ในขณะที่ไข่ต้มมันถอยกรูดมาหลบหลังผมแล้วเรียบร้อย
"น้องคนนั้นมีแฟนหรือยังครับ" แล้วพี่บำรุงก็ชี้ไปที่ไข่ต้ม
โดนจีบอีกแล้วเพื่อนผม แถมยังเป็นคนที่โคตรจะแปลกเลยด้วย แปลกที่สุดเท่าที่เคยก็เจอมาก็ว่าได้
"มีแล้วพี่ อย่าไปยุ่งกับมันเลย"
"งั้นเหรอครับ น่าเสียดาย" พี่บำรุงทำหน้าเสียดายอย่างปากว่า อีกทั้งยังไม่มีท่าทีคุกคามเหมือนคนอื่น
"พี่จะจีบมันเหรอ"
"ครับ อยากรู้จัก น้องน่ารักดี แต่ถ้ามีแฟนแล้วก็ไม่ยุ่งครับ ขอโทษด้วยที่รบกวน" พูดจบพี่บำรุงก็ค้อมหัวให้เล็กน้อยพวกผมเลยต้องรีบก้มหัวตาม ก่อนพี่เขาจะเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองกันอีก
เออ ง่ายๆ อย่างนี้เลยเหรอ
ผมกับไข่ต้มมองหน้ากันอย่างงงๆ ก่อนจะหัวเราะ มนุษย์เรานี่ก็มีหลากหลายแบบจนตามไม่ทัน บางคนก็ประหลาดอย่างที่ไม่คิดว่าจะมีคนแบบนี้อยู่บนโลกได้ กับพี่บำรุงผมว่าพี่เขาก็ดีนะ ง่ายๆ ดี คุยกันรู้เรื่องไม่ต้องอธิบายอะไรให้ปวดหัว แต่มาเร็วไปเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน
พี่บำรุงไปแล้ว รถเมล์ก็มาพอดี ไข่ต้มเดินนำผมไป มันดูสบายใจขึ้นเยอะที่ไม่มีใครเข้ามาทำให้ปวดหัวอีก ลองคิดๆ ดูแล้วเพื่อนผมมีคนเข้าหาเยอะมากทั้งหญิงและชาย แต่เมื่อลองเทียบจำนวนดูแล้วจะเป็นผู้ชายเสียมากกว่า ผมเองก็คิดว่ามันเหมาะกับผู้ชายนะ ไข่ต้มมันควรเป็นฝ่ายถูกดูแลมากกว่าไปดูแลใคร ไม่ได้หมายความว่ามันดูแลใครไม่ดี แต่เพราะมันเหมาะกับอะไรแบบนั้น มันดูเปราะบางและน่าทะนุถนอม จะให้ไปดูแลพวกผู้หญิงไม่ได้เด็ดขาด
ด้วยเหตุผลงงๆ นี้ เลยขอสรุปง่ายๆ ว่า ไข่ต้มควรอยู่ในการดูแลของผมในฐานะคนรัก และถ้าหากวันนั้นมาถึงเมื่อไร ผมจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด
ขอสัญญากับตัวเอง
ขากลับบ้านไข่ต้มถึงก่อนผม มันลุกผมก็ลุกตาม เพื่อนสนิทผมทำหน้างงใส่ว่าเพราะเหตุใดทั้งที่ยังไม่ถึงบ้านต้องลุกตามมา แต่ไม่ต้องรอให้มันถาม ผมก็ชิงเป็นฝ่ายตอบก่อน
"เดี๋ยวกูไปส่ง"
"ส่งไปตรงไหน หน้าประตูรถเหรอ ไม่ต้อง"
"ส่งทำบ้าอะไรหน้าประตูรถ หน้าบ้านมึงดิ"
"จะไปทำไมวะ"
"เออน่า ไปๆ ลงๆ" ประตูรถเปิดพอดีผมเลยดันหลังมันให้รีบเดินลง มัวแต่ยืนเถียงกันเดี๋ยวได้ไปลงป้ายหน้ากันพอดี
"จะลงมาให้เสียค่ารถเล่นทำไมวะ" ลงมาเหยียบพื้นฟุตบาธได้ไข่ต้มก็บ่นต่อทันที
"ก็ถือซะว่ากูไถ่โทษที่โกหกมึงแล้วกัน"
"มึงควรทำอย่างอื่นมากกว่า"
"ทำอะไร"
"อย่างเช่นเลี้ยงหนัง"
"ถ้ารวยเมื่อไรจะเลี้ยงเลย"
"ชาตินี้กูจะได้ดูหนังฟรีมั้ยเนี่ย"
"ไม่คิดว่ากูจะรวยได้เลยเหรอ"
ไข่ต้มไหวไหล่แบบไม่ใส่ใจ ท่าทางน่ารักน่าชังแบบที่น่ามันเขี้ยวมากกว่าน่าโกรธ
"มึงคอยดูแล้วกัน" ผมทำหน้าหาเรื่องใส่ไข่ต้มมันเลยหัวเราะแล้วเดินหนี
เราเดินเข้ามาในหมู่บ้านที่เป็นทาวน์โฮมสามชั้นยาวลึกเข้าไปในซอย ที่นี่มีรถสองแถวคันเดียววิ่งเป็นระยะแบบที่นานๆ จะเจอสักที แต่บ้านไข่ต้มอยู่ไม่ลึกมากจึงไม่จำเป็นต้องรอใช้บริการรถสองแถว เดินเข้าซอยมาได้แป๊บเดียวผมก็เห็นบ้านมันอยู่ในระยะสายตา
"มึง"
ผมหันไปมองตามเสียงเรียก ไข่ต้มมันสบตาผมแวบหนึ่งก่อนจะหันหนี พักนี้ไม่รู้ทำไมมันถึงชอบหลบตาผมอยู่บ่อยๆ
"อะไรวะ เรียกแล้วไม่พูด"
"ต่อไปนี้ถ้ามึงอยากไปไหน หรืออยากทำอะไร มึงชวนกูได้ตลอดเลยนะ สำหรับมึงอะ กูมีเวลาให้เสมอ" ไข่ต้มมันพูดโดยไม่มองหน้าคนฟัง แต่ก็ดีแล้วที่มันไม่มองจะได้ไม่เห็นว่าตอนนี้ผมพยายามขนาดไหนเพื่อกลั้นยิ้มเอาไว้
ทั้งที่มันไม่ถนัดเรื่องแบบนี้ แต่อยู่ๆ ก็อยากทำซึ้งขึ้นมาจนผมเกือบตามอารมณ์ไม่ทัน
ใจผมอยากจะลองเปลี่ยนบรรยากาศชวนยิ้มนี่โดยการกวนประสาทมันเล่น อย่างเช่นพูดหยอกล้อกลับไป หรือแซวให้มันอาย แต่คิดดูอีกทีบรรยากาศแบบนี้ใช่ว่าจะเกิดขึ้นบ่อยๆ ไข่ต้มมันจริงจังและตั้งใจกับเรื่องนี้มาก จะให้มัวทำเป็นเล่นคงไม่ได้ เดี๋ยวจะโดนมันทุบหัวเอา
"กูจะชวนมึงคนแรกเลย"
"ใช้คำว่าคนแรกไม่ได้ดิ มึงต้องชวนกูเพราะถ้ามึงไม่ชวนกูมึงจะได้ดูหนังคนเดียวแบบวันนี้" ก็ว่าจะไม่กวนมันแต่ดันโดนมันกวนกลับมาซะงั้น
"แล้วถ้าเกิดกูชวนแล้วมึงไม่ว่างอะ"
"ก็บอกแล้วไงว่าว่างเสมอ"
"ให้จริง"
"เออ"
ผมพยักหนารับส่งๆ ตอบให้ไข่ต้มมันสบายใจไว้ก่อน แม้ก่อนหน้านี้ผมจะคิดว่าจะทำทุกอย่างเหมือนเดิมโดยไม่สนใจพี่อ๋อง แต่เอาเข้าจริง หลังจากนี้ผมคงไม่ได้ชวนมันไปเที่ยวไหนบ่อยๆ เหมือนเมื่อที่ผ่านมา ผมไม่อยากให้มันลำบากใจหากถึงเวลาที่ต้องเลือก แล้วผมก็ไม่อยากเป็นคนที่ทำให้มันกับพี่อ๋องมีปัญหากันในอนาคตด้วย
เดินมาส่งจนถึงหน้าบ้านผมก็เตรียมบอกลา ตั้งใจไว้แค่นี้ทำสำเร็จแล้วก็ต้องกลับ แต่ไม่มีทางที่ไข่ต้มมันจะยอมให้ผมกลับบ้านไปง่ายๆ
แน่นอนว่านี่ก็เป็นแผนที่ผมแอบวางไว้ในใจ
"มึงอยู่กินข้าวก่อนนะแล้วค่อยกลับ"
"ได้เหรอวะ"
"ได้ดิ"
"แม่มึงจะทำกับข้าวเผื่อกูเหรอ"
"ไม่เผื่อก็มีให้กิน"
"แน่นะ"
"เออน่า เข้ามา" แล้วไข่ต้มมันก็คว้าแขนผมดึงเข้าบ้านโดยไม่ให้คัดค้านอะไรอีก
tbc.
มาเอาใจช่วยน้อง S กันอีกตอบเนอะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เจอกันตอนหน้าจ้า