มีนกำลังนั่งอยู่นิ่งๆ น้ำตาไหลหยดเป็นทาง และซุกหน้าอยู่กับอกของคนที่ทำให้มีนต้องแสดงอารมณ์ของตัวเองจนถึงที่สุด
“มีนเช็ดก่อนมั้ย เปื้อนไปหมดแล้ว”
เหี้ย แม่งเลวร้ายสุด ๆ แค่ร้องไห้ยังไม่พอ ต้องมานั่งเช็ดน้ำของตัวเองที่เปรอะที่กางเกงและกระเด็นไปโดนหน้าท้องของพี่บุ้งด้วย
เป็นเรื่องที่โคตรเหี้ยที่สุดในชีวิตแล้วตั้งแต่เกิดมา
“มา.......พี่เช็ดให้”
ไม่เอา......
มีนส่ายหน้าและยังก้มหน้าก้มตาเช็ด ทั้งที่ตอนนี้ยังคร่อมทับอยู่บนตักบุ้ง และบุ้งก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงให้ไอ้เด็กที่กำลังร้องไห้จนตาแดงรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
“เป็นไรอ่ะ ร้องไห้ทำไม”
เกลี่ยปลายนิ้วเบา ๆ ที่เส้นผมที่ปรกลงที่หน้าผากของคนที่ก้มหน้าก้มตาเช็ดแล้วมีนก็ยิ่งร้อง
“เหี้ยมากพี่ แม่งเป็นเรื่องที่โคตรเหี้ยมาก ฮือออออ”
ได้ยินเสียงพูดของคนที่เช็ดไปด่าตัวเองไป แล้วบุ้งก็เลิกคิ้วขึ้นสูง ไม่ใช่ไม่สำนึกหรอกว่าทำอะไรลงไปบ้าง
แต่ตอนนั้นจะให้สำนึกยังไงไหว ที่สำคัญหลังทำลงไปแล้ว บุ้งไม่รู้สึกเสียใจเลยซักนิด ทั้งที่ไอ้มีน........ร้องไห้จะเป็นจะตาย
.........ซึ่งเป็นการร้องไห้ที่บุ้งไม่คิดอยากจะปลอบเลยซักนิด ก็มึงเล่นร้องไห้ไป หน้าแดงไป พูดจาไม่รู้เรื่องไปด้วยนี่หว่า
โคตรน่ารักเหอะวะ ใครจะไปอยากห้าม ใครที่ไหนจะไปอยากให้มึงหยุดร้อง
“เหี้ยตรงไหนวะ คนมันมีอารมณ์เว้ย มันก็ต้องปลดปล่อยเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอวะ มึงคิดมากอะไรขนาดนี้วะเนี่ย ร้องจนตาแดงหมดแล้ว ไอ้มีน”
คือมันก็จะไม่เป็นไรไงพี่ ถ้าผมทำคนเดียว แต่นี่ผมเสือกให้พี่ทำให้ไง ผมเลยไม่รู้จะทำหน้ายังไงดีแล้วตอนนี้ พี่เข้าใจมั้ยพี่ พี่เข้าใจผมมั้ย พี่เข้าใจผมมั้ยวะ ไอ้ห่าพี่บุ้ง
“พี่แม่งไม่เข้าใจ ฮืออออออออออ พี่แม่งไม่เข้าใจผมหรอก”
เอออออออออออ กูไม่เข้าใจมึงหรอก ที่กูเข้าใจคือมึงพูดไปร้องไห้ไป มันโคตรน่ารัก จนกูจะอดใจไม่ไหวอยากจะทำให้มึงอีกซักรอบอยู่แล้วเนี่ย
“ถ้ามึงไม่หยุดร้อง กูจะทำให้มึงแตกอีกรอบนะ เอามั้ย”
ห๊ะ
มีนเงยหน้าขึ้นมองหน้าของคนขู่ และบุ้งก็ทำหน้าจริงจังจนมีนต้องยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตาของตัวเองทันที
กูหยุดร้องแล้ว กูหยุดตอนนี้เลยวะ พี่ไม่ต้องทำนะ ผมหยุดร้องได้แล้ว
ท่าทางที่ดูแปลกประหลาดแบบนั้น สำหรับบุ้งมันดูน่ารักที่สุด น่ารักจนเผลอยิ้มออกมา และยังจ้องหน้าของมีนไม่เลิก
“ตกลงเลือกหนังได้กี่แผ่น ให้พี่ช่วยเลือกเพิ่มมั้ย อยากได้เรื่องไหนบอกพี่ เดี๋ยวพี่หาให้”
ไม่เอาแล้ว พอแล้ว
มีนส่ายหน้าและบุ้งก็พยักหน้าเข้าใจ
“เอาแค่ที่เลือกไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่เอาใส่ถุงให้ มีนจะได้มีหนังดูช่วงวันหยุด ตกลงนะ”
ตกลง.....ก็ตกลง
บุ้งค่อยๆ ขยับตัว และมีนที่นั่งคร่อมทับอยู่บนตักของบุ้งมาพักใหญ่ก็เหมือนเพิ่งรู้สึกตัว ยอมลุกขึ้นยืนและถอยออกห่าง
มองคนที่หยิบแผ่นซีดีใส่ลงไปในถุงกระดาษให้แล้วมีนก็นึกอนาถตัวเองขึ้นมาในใจ นี่กูเลือกซีดียังไงวะ ถึงได้เกือบเสียตัวให้พี่บุ้งมันซะแล้ว กูเลือกยังไงของกู แม่ง.........มึงเลือกยังไงของมึงวะห่ามีน
“แล้ว.......ดึกป่านนี้...งั้นวันนี้มีนค้างบ้านพี่มั้ย”
ใครจะค้างวะ ขืนค้างกูมีสิทธิ์มากกว่าเสียน้ำแน่ ๆ เผลอ ๆจะพาลเสียตัวให้ไอ้พี่บุ้งอีก ดูทรงแล้วไม่น่าจะรอด
“กลับ....กลับดิพี่.......อยู่ทำไม”
นั่นสิ อยู่ทำไม
“อยากรู้ป่ะ ว่าอยู่ทำไม”
กูไม่อยากรู้หรอกโว้ยยยยยยยยยย
“พี่บุ้ง.....ปล่อยผมกลับบ้านเหอะ ขอร้อง”
อ่อ ขอร้อง ถ้าขอร้องก็ย่อมได้
“ผมกลับตอนนี้เลยได้มั้ย พี่ไม่ต้องไปส่งผมก็ได้ ผมกลับเองก็ได้พี่ เดี๋ยวผมกลับเอง”
ตั้งท่าจะหันหลังกลับและก็ถูกบุ้งดึงมือเอาไว้
“พี่ไปส่งสิ จะให้........เมีย........กลับเองได้ไง”
ห๊ะ
พี่ พี่ พี่.........ไอ้........พี่.........บุ้ง.........ฮืออออออออ กูอยากจะร้องไห้อีกรอบ
ไม่ได้พูด มีนไม่ได้มีโอกาสจะพูดอีก เพราะคนที่บอกว่าจะไปส่งเดินหิ้วถุงใส่แผ่นซีดีนำหน้าไปแล้ว โดยที่ไม่ลืมดึงมือของมีนให้เดินตามด้วย
ไม่ใช่ดึงมือ แต่เป็นจับมือ และมีนก็มองที่มือของตัวเองที่ถูกพี่บุ้งจับเอาไว้และจูงให้เดินมาด้วยกัน
“น่าจะค้าง จะได้รู้ว่าค้างทำไม ค้างแล้วได้อะไร”
ไม่ค้างโว้ย กูไม่ค้างเด็ดขาด ยังไงก็ไม่มีทางค้างแน่ ๆ
“ค้างผมก็ได้เป็นเมียพี่อย่างที่พี่วิเชียรว่าสิ..........ใครจะค้างให้โง่ ให้ตายก็ไม่เอา”
เหรอ
บุ้งกำลังยิ้ม แค่ยิ้มไม่พอ ยังหันมาบอกคนที่พูดไปหน้าแดงไปแถมยังส่ายหน้าไปด้วย
“ก็ไม่เห็นเป็นไร.......ตอนนี้ไม่เอา มาค้างบ่อย ๆ เข้าเดี๋ยวก็ยอมให้........
เอา..........เองแหละ…….ใช่มั้ยมีน”
TBC.