~ The Dancer ~
“พ่อครับ วันนี้ผมไปติวหนังสือบ้านเพื่อนนะครับ” บาส ขออนุญาตพ่อของเขาออกไปติวหนังสือบ้านเพื่อนเย็นวันเสาร์ตามปกติ ซึ่งพ่อของเขาก็ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด บาสเป็นเด็กเรียนดี ผลการเรียน ติด Top Ten อยู่ทุกภาคเรียน ทุกวันเสาร์ บาสมักจะขออนุญาตพ่อของเขาไปติวหนังสือบ้านเพื่อนเสมอ และพ่อของเขาก็ไว้ใจให้ไปได้ เพราะคิดว่า บาส เป็นเด็กผู้ชาย และโตพอที่จะรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว
“ไปเถอะ ... พ่อรู้อยู่แล้วว่าทุกวันเสาร์ ลูกต้องไปบ้านเพื่อน แต่ก็อย่าหักโหมมากนักนะลูก เดี๋ยวจะเครียดเกินไป” บัญชาภูมิใจในตัวลูกชายมาก และบาสก็ไม่เคย หาเรื่องหนักใจมาให้เขาเลย บัญชาจึงวางใจและไว้ใจลูกชายคนนี้
“บาสเดี๋ยวพ่อไปส่งนะ เพราะเดี๋ยวจะเลยไปงานเลี้ยงบริษัทด้วย” บัญชาบอกลูกชาย
“ได้ครับ ผมขอไปเก็บกระเป๋า แล้วก็เตรียมของก่อนนะครับ”
บัญชาขับรถมาส่งลูกชายที่บ้านเพื่อนๆ แถวๆ สาทร เขาไม่ค่อยได้ถามไถ่เรื่องราวของเพื่อนลูกชายมากนัก แต่เขาก็ยัง เชื่อใจลูกชายว่า บาสคงจะเลือกคบคนที่ไว้ใจได้ และไม่พาเขาเถลไถลไปไหน
“ดูแลตัวเองนะลูก อย่าหักโหมมาก” เขาบอกลูกชายก่อนที่ บาสจะเปิดประตูลงจากรถ บาสหันมายิ้มให้พ่อ ก่อนไหว้ขอบคุณ และ กล่าวลาพ่อของเขา
“ขอบคุณครับพ่อ....พ่อขับรถดีๆนะครับ วันนี้พ่อต้องไปงานเลี้ยงของบริษัทใช่ไหม อย่าดื่มมากนะครับ”
บาส ลงจาก รถยืนมองรถพ่อวิ่งไปจนลับตาแล้ว เขาจึงเดินไปที่หน้าบ้านของเพื่อน แล้ว กด กริ่ง บาสยืนรออยู่ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนวิ่งมาเปิดประตู
“ พ่อมาส่ง เหรอบาส” เสียงเด็กหนุ่ม ทักบาส ก่อนเปิดประตูให้
“อืม..” บาส ตอบสั้น ๆ ก่อนเดินเข้าไปข้างในและปิดประตูบ้าน
“เล็ก .. กินข้าวยัง แล้ววันนี้ จะออกไปกี่โมง” บาส ถามเด็กหนุ่มที่มาเปิดประตูให้
เล็ก คือเพื่อนที่พ่อของบาส เข้าใจว่า เขาเรียนหนังสือด้วยกัน และ บาสจะมาติวหนังสือที่บ้านของเล็กทุกวันเสาร์
“ให้พ่อมาส่งอย่างนี้ ไม่กลัวว่าพ่อจะรู้เหรอ ว่าจริงๆ แล้วไม่ได้มาติวหนังสือ” เล็กถามบาส หลังจากที่เข้ามาในบ้านเรียบร้อยแล้ว เพราะรู้สึกไม่สบายใจที่ บาสไม่บอกความจริงกับพ่อ
“แล้วจะให้เราบอกพ่อยังไงล่ะ...เราไม่รู้ว่าพ่อจะรู้สึกยังไงที่เรา ไปทำงานแบบนั้น” บาส ถาม เล็ก ด้วยสีหน้า เป็นกังวล เพราะเขาก็รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกัน ที่เขาปิดบังเรื่องนี้ กับพ่อของเขามา เกือบ 2 ปีแล้ว ตั้งแต่ เข้าเรียนมหาวิทยาลัย
“เฮ้ย แต่งานที่แกทำมันไม่ได้ ไปปล้นใครกินซะหน่อย อีกอย่างก็เพราะ งานที่แกทำอยู่นี่ไม่ใช่เหรอที่มันส่งแกให้เรียนได้ แบบนี้” เล็ก ออกความเห็นเพราะ เขาก็เห็นว่า งานที่ บาส กับเขาทำอยู่นั้น มันไม่ได้ สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ในทางกลับกัน พวกเขากลับสร้างความสุขให้กับลูกค้าด้วยซ้ำ
“แต่ ... เรากลัวพ่อเราเสียใจที่เราไปทำงานแบบนั้นนี่นา ” บาส ยังห่วงความรู้สึกของพ่อ เพราะเขารู้ดีว่า พ่อนั้น ภูมิใจในตัวเขามากแค่ไหน แต่ งานที่เขาทำมันก็ช่วยให้เขาได้เรียนมาจนทุกวันนี้ และยังไม่ทำให้พ่อต้องลำบากด้วย
“เอ้า.. ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก เราก็ไม่รู้ว่านายจะปิดพ่อได้นานแค่ไหน เอาเป็นว่า แล้ว แต่นายละกัน ไปเถอะไปแต่งตัว เดี๋ยวที่ร้านจะรอ วันนี้ เจ๊สองเขาบอกว่ามีลูกค้าเหมาห้อง VIP ด้วย วันนี้ คงทิปหนัก เพราะ แต่ละคนท่าทางจะมือหนักทั้งนั้นด้วย” เล็ก เปลี่ยนเรื่องที่ทำให้บาสไม่สบายใจ และ บอกเรื่องงานที่จะไปทำในคืนนี้
“เหรอ ... ก็ดี แต่วันนี้คงเหนื่อยแน่ๆ ถ้าลูกค้า เยอะแบบนี้” เด็กหนุ่มตอบรับ แต่สีหน้ายังเซ็งๆ เพราะไม่วายกลับไปคิดถึงพ่อ
บาสกับเล็ก เดินออกจากบ้าน และ เรียกแท็กซี่ที่ผ่านมา
“ไป สีลม ครับพี่” เล็กบอกกับคนขับรถ เสียงติ๊ดของมิเตอร์ดังขึ้นหลังจาก คนขับรถทราบจุดหมายปลายทาง แล้วรถก็เคลื่อนตัวออกไป
“สวัสดีครับเจ๊สอง .”. เอกกับบาส ยกมือขึ้นไหว้ เจ๊สอง หญิงเจ้าของร้าน ขณะที่เดินเข้าไปที่ห้อง ล็อคเกอร์ เพื่อเปลี่ยน เครื่องแต่งกายของร้าน
“สวัสดีจ้า เด็กๆ แหม สองหนุ่มวันนี้มาถึงแต่หัววันเชียวนะ” เสียง ที่ดูเกินจริตหญิง ทำให้รู้ได้ว่า เจ๊สอง หญิงวัยกลางคนเจ้าของร้านที่ทั้งสองทำอยู่นั้น เป็น “หญิงไม่แท้”
บาส ได้งานนี้ โดยการแนะนำจากเล็ก บาสรู้จักกับเล็กผ่านเพื่อนของเขาที่มหาวิทยาลัยอีกที บาส เคยคุยกับเพื่อนว่าอยากหางานทำ เพราะเขาไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ ในวันหยุดสุดสับปดาห์ อย่างน้อยก็เป็นการหารายได้พิเศษ โดยไม่ต้องรบกวนพ่อ บาส เป็นเด็กหน้าตาดี รูปร่างสมส่วน เป็นที่ดึงดูดตาได้ทั้ง เด็กสาว สาวรุ่น หรือแม้ แต่ บรรดา เกย์ เพราะหน้าตาที่คมเข้ม และดูดี เขารู้จักงานนี้จากเล็ก เพราะเล็กทำอยู่ก่อนแล้ว เล็กไม่ไเป็น เกย์ แต่เขาทำงานแบบนี้ เพราะเห็นว่า ได้เ งิน มากและเร็ว หากรู้จักเก็บ และไม่ปล่อยตัวถลำลึกไปกับสิ่งยั่วยวนเหล่านั้นก็ไม่เป็นปัญหา
ในครั้งแรก เด็กหนุ่มก็รู้สึกไม่ดีกับงานที่ทำ แต่เพราะ รายได้ ที่ได้ในแต่ละครั้งทำให้เขาต้องหวนกลับมาทำทุกครั้ง และเพราะบาสไม่ได้ มาทำงานทุกวัน บาส จึงเหมือนเป็นเด็กหน้าใหม่ของร้าน เพราะแขกเห็นไม่บ่อยนัก และ เพราะรูปลักษณ์ที่ชวนมองของเขานั่นเอง
“วันนี้ ทำให้เต็มที่นะจ๊ะ บาส เจ๊รับรองว่า ลูกค้า ที่จะมาร้านเราวันนี้ มือเติบ แน่นอน ใส่ให้เต็มที่ วันนี้ เจ๊ยกให้ บาส เป็นดาวเด่นของงานเลย” เจ๊สอง เข้ามาคุยกับทั้งสองในห้องล็อคเกอร์ เด็กหนุ่มทั้งสอง แต่งตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไม่เคอะเขิน เพราะความคุ้นเคย และ เจ๊สองนั้น ก็ เห็นทุกซอกทุกมุมของพวกเขาหมดแล้วก่อนที่เข้ามาทำงานที่ร้าน
“ครับ เจ๊สอง ผมจะทำให้เต็มที่” บาส ยิ้มรับ เขาพยายามสลัดเรื่องของพ่อ ออกจาก ใจแล้วนึกถึง รายได้ เป็นกอบเป็นกำวันนี้ที่เขาจะได้จากแขกที่มาในร้าน เขาไม่สนใจหรอกว่า ใครจะมาแทะโลมด้วยสายตา หรือว่าจับต้องร่างกายทุกสัดส่วนของเขายังไง เพราะลูกค้าทำได้เพียงแค่นั้น เป็นเรื่องดีเสียอีก เพราะ ทุกครั้งที่ลูกค้าทำแบบนั้นเขาก็ได้ทิปติดตัวมาด้วยทุกครั้ง และคืนนี้ เขาก็จะทำหน้าที่ของเขาให้ดีที่สุด
เวลายิ่งดึก ลูกค้ายิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ภายในร้านนั้น จะมี ฟลอร์ อยู่ตรงกลาง และมีบาร์ จัดให้ลูกค้าได้นั่งชม แบบ ริงไซด์ ส่วนใครที่ไม่อยากชม แบบริงไซด์ ก็จะมีโต๊ะอยู่รอบๆ และในร้านก็จะมีห้องพิเศษ ให้ลูกค้า VIP ชมกันแบบส่วนตัว และ ถึงใจมากกว่า วันนี้ บาส รอรับลูกค้า VIP ในห้องพิเศษเท่านั้น ส่วนนอกห้อง VIP นั้น เด็กหนุ่มหลายคนต่างก็ต้อง โชว์ลีลาให้เป็นที่ถูกใจ เหล่าลูกค้า ที่มานั่งชม เพื่อ เรียกความสนใจในการ เรียกไปนั่งดริงก์ หรือให้ทิปในการสร้างความพอใจของลูกค้า ที่นั่งดู บางคนใจถึง แบบถึงเนื้อถึงตัวลูกค้า ให้ จับได้ทุกสัดส่วน เพื่อหวังว่าจะได้ เม็ดเงิน เป็นค่าตอบแทน
“บาสจ๋า เตรียมตัวนะจ๊ะ ตอนนี้ แขก VIP ของเจ๊ มาแล้ว” เจ๊สอง เข้ามา บอก บาส ล่วงหน้า เพื่อให้บาส เตรียมตัว
“ครับ เจ๊สอง” บาส เดินไปเปิดเพลงที่อีกด้านของเวที ถอดเสื้อคลุมที่ใส่อยู่ออก ผ้าน้อยชิ้นที่บดบัง บางส่วนของร่างกายเผยออก ให้เห็น ถึงรูปร่างอันล่ำสันงดงามของเขา ตอนนี้บาสมีเพียง ผ้าผืนเล็กบดบัง ความเป็นชายของเขาอยู่เท่านั้น บาสเดินขึ้นไปบนฟลอร์ เตรียมรอรับลูกค้าที่จะเปิดประตูเข้ามา ดนตรีเริ่ม เขาเริ่มขยับร่างกาย เต้นไปตามจังหวะของเพลง ประตูห้อง VIP ถูกเปิดออก เสียงของเจ๊สองแทรกดังเข้ามาภายในห้อง แข่งกับเสียงดนตรีในห้อง บาสยังปล่อยเรือนร่างให้เคลื่อนไหว ไปตามเสียงเพลงเร้าใจที่เขาเปิดอยู่ เสียง ผิวปาก เสียงปรบมือ พอใจ กับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ของลูกค้า VIP ของเจ๊สองดังขึ้น ตอนนี้ ลูกค้า 3-4 คน เริ่มมานั่งใกล้ฟลอร์ และ เริ่มนั่งมอง บาส ตาเป็นมัน บาส ส่งยิ้มทักทาย พร้อมทั้งขยับกายเต้นเข้าไปใกล้ ส่งสายตาเย้ายวน ชวนหวั่นไหว ให้กลับลูกค้าวัยกลางคนที่นั่งชมได้ชุ่มชื่นหัวใจ ลูกค้า VIP เข้ามาครบหมดแล้ว บาส เต้นได้สักพัก ก็เริ่มได้ยินเสียงเชียร์ จากลูกค้า รอบๆ
“ถอดเลย น้องจ๋า ถอดอกเลย ปิดไว้ทำไม ถอดออกให้พี่ๆ ดูเลย” เสียงของลูกค้าคนหึ่งเชียร์ขึ้น บาส เดินเข้าไปใกล้ๆ เขาค่อยๆ โน้มตัวเข้าไปใกล้ลูกค้าคนนั้น แล้วทำท่าเย้ายวนใส่ และทำท่าจะถอดผ้าผืนน้อยชิ้นนั้น ออก แต่ก็ยังไม่ปล่อยให้หลุดไป เหมือนลูกค้าคนนั้นจะเข้าใจ เขาจึงหยิบแบงก์สีม่วงออกมา 2-3 ใบ โบกไปมาให้บาส เห็นเป็นเชิงว่า สนใจใบนี้ใช่ไหม ถ้าสนใจก็ปล่อยผ้าผืนน้อยนั้นซะ เมื่อบาส มองตาลูกค้า และเข้าใจจุดประสงค์ของการโชว์แบงก์นั้นแล้ว เขาก็ค่อยๆ ปล่อยผ้าผืนน้อยนั้น ออกจากตัว ผ้าผืนน้อยนั้นหลุดไปแล้ว แต่ร่างอันเปลือยเปล่าของบาสยังคงเต้นไปตามจังหวะเพลง แบงก์สีม่วง เหล่านั้นอยู่ในมือของบาสเรียบร้อย ถือเป็นของกำนัลจากลูกค้าที่ขอให้บาสโชว์เรือนร่างเปลือยเปล่า แล้วก็มีลูกค้าอีกหลายคนเรียกให้เขาไปเต้นตรงหน้า และ บาสก็ได้รับค่าเหนื่อยจากทุกคน เสียงหัวเราะ เสียงโห่ร้องชอบใจของลูกค้าที่มานั่งดูร่างอันเปลือยเปล่า และได้สัมผัสทุกสัดส่วนของเรือนร่างเด็กหนุ่ม ยังคงไม่เงียบหาย แข่งกับเสียงเพลงที่เปิดอย่างเร้าใจ บาสนั้นยังคงต้องเต้นเอาใจลูกค้าต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เวลาผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมง เจ๊สองก็เข้ามาในห้อง ทักทายแขกอีกครั้ง ถามคนโน้น คนนี้ว่า เด็กที่จัดให้เป็นยังไง ถูกใจแค่ไหน ซึ่งในเวลานี้ ถือว่าเป็นช่วงพักของ บาส เด็กหนุ่มเดินไปหยิบผ้าคลุมมาเพื่อปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่า อีกครึ่งชั่วโมงเขาต้องเตรียมตัวขึ้นโชว์ สำหรับแขก VIP ในห้องถัดไป เด็กหนุ่มเดินออกจากห้องไป เพื่อจะไปเตรียมตัวกับลูกค้า VIP ห้องใหม่ ระหว่างทางเดินนั้น เขาเห็นชายคนหนึ่งกำลังจะเดินสวนกับเขา ซึ่งคล้ายๆว่าเขาจะรู้จัก เมื่อชายคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ บาสใจหายวูบ ความรู้สึกเหมือนอะไรวิ่งเข้าชนเขาอย่างจัง ด้วยพื้นที่ที่แคบของทางเดินทำให้บาสไม่สามารถหลบไปไหน และชายคนนั้นก็เข้าใกล้เขาระยะประชิดตัวแล้ว ชายคนนั้นจ้องบาส ไม่ลดละเช่นกัน บาสยืนตัวแข็งทำอะไรม่ถูก มือข้างหนึ่งยังคงกำเงินที่ได้มาจากแขก VIP ห้องนั้นอยู่แน่น เขาหลบไปไหนไม่ได้แล้ว
“พ่อ” บาส เอ่ยขึ้นเบาๆ และชายคนนนั้นก็เช่นกัน “บาส”
สองพ่อลูกยืนมองกันอยู่อย่างนั้น ต่างคนต่างปราศจากคำพูดที่จะพูดต่อ .....
เสียงเพลงทั้งจากในห้อง VIP ห้องอื่นๆ เสียงหัวเราะ เสียงปรบมืออย่างสนุกสนานของแขกในร้านยังคงดังอยู่ แต่เสียงในใจที่จะพูดออกมาของสองพ่อลูกที่เจอกันในร้านนั้นเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้ได้ .......
**********************************************