ใจยักษ์ 35.2
“อ๊ะ...พอเลยยักษ์เดี๋ยวยาว” ผมดึงริมฝีปากออกจากการจูบกับอีกคนเพื่อร้องห้าม มือเรียวผมรีบตะบบมือหนาของทศกัณฐ์เมื่อเขาเลื่อนเข้าไปใต้กางเกงนอนผม
“พี่ขอนิดเดียว”เขาเอ่ยปากขออ้อนๆ ทำหน้าตาน่าสงสารยิ่งกว่าลูกหมาถูกทิ้งซะอีก แต่ผมก็ส่ายหัวปฏิเสธอย่างรู้ทันเพราะนิดเดียวของเขาทีไรก็ไม่พ้นผมต้องขาถ่างไปเรียนทุกที
“วันนี้น้องมีเรียนทั้งวันครับ พรุ่งนี้ก็วันศุกร์แล้วทนหน่อยสิ” ผมผงกหัวขึ้นไปจูบมุมปากของคนที่คร่อมอยู่ปลอบๆ เขาจึงฉีกยิ้มพอใจมาให้ก่อนจะก้มลงมาฟัดแก้ม จมูก ปากผมไปหลายทีจนแทบจะช้ำหมดแล้ว
ตั้งแต่มีอะไรกันหลังจากคบกันแล้ว ทศกัณฐ์ทำการบ้านบ่อยมากกกก
แทบทุกวัน ผมเดินขาถ่างปวดหน่วงสะโพกไปเรียนเป็นสัปดาห์
หลังๆผมขอให้ป็นสองวันครั้ง แม้เขาจะรับปากแต่ก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง
ช่วงนี้ดีขึ้นหน่อยเขาเริ่มสงสารมั้ง วันเว้นวันให้พักบ้าง ทำน้อยลงบ้าง
ก็ยังดีครับ ไม่อย่างนั้นช่วงล่างผมพังก่อนเวลาแน่-_-
“ก็ได้ พรุ่งนี้ขอชุดใหญ่เลยนะ”เสียงทุ้มเอ่ยสั่นพร่า จมูกโด่งคลอเคลียอยู่ข้างขมับผมแล้วกดจมูกหอมไปอีกฟอดใหญ่ ผมก็พยักหน้าพลางยื่นจมูกไปหอมเขาบ้างแต่ไม่เยอะ...ผมเขิน
หลังจากนั้นเขาก็นัวเนียผมอีกเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอก่อนจะลุกเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำต่อ ส่วนผมก็ลุกจากเตียงมาทำอาหารเช้าสำหรับสี่ที่คือผม ทศกัณฐ์ โจเซฟ และสตีฟ
แม้เรื่องของผมและทศกัณฐ์จะดำเนินไปในสถานะของคนรักกันแล้ว แต่เราก็ยังไม่ได้เปิดเผยสถานะกันอย่างชัดเจนมากนัก คนที่รู้เรื่องนี้ก็มีแค่กลุ่มทศกัณฐ์และเมฆ เวลาอยู่ที่มหาลัยเราก็ไปมาหาสู่กันตามปกติไม่ได้สวีทหวานอะไรกันมากเหมือนอยู่ในห้องเพราะผมค่อนข้างเคารพสถานที่พอสมควร ทศกัณฐ์ก็เข้าใจไม่ได้ยุ่มย่ามกับผมมาก แต่ถ้าว่างหรือพักตรงกันเขาก็จะมานั่งกินข้าวด้วย บางครั้งผมก็นั่งรอเขากลับห้องด้วยกัน เพื่อนที่อยู่ใกล้ตัวผมก็คงเริ่มสังเกตเห็นอะไรบางอย่างระหว่างเราแต่แค่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรก็เท่านั้น
“อิรันต์คะ กูทนไม่ไหวแล้วนะ!” อยู่ๆไอ้ท็อฟฟี่ก็แหกปากโพล่งขึ้นขณะที่พวกเราเดินลงมาใต้ตึกเรียน คนหันมามองพวกเรากันพรึ่บเพราะมันพูดซะดังและเนื่องจากเป็นช่วงเวลาเลิกเรียนของหลายเซคและก็ไม่ได้มีแค่เฉพาะคณะผมเนื่องจากคาบนี้พวกเรามาเรียนอาคารเรียนรวม นิสิตก็พากันทยอยลงจากอาคารอย่างแน่นหนา ผมก็หันไปมองมันอย่างงงๆเช่นกัน
“แหกปากอะไรของมึง ทนไม่ไหวก็ไปห้องน้ำดิ” เมฆที่ยืนอยู่ข้างๆกันเอ่ยปากด่าแกมหยอกล้อสุดท็อฟฟี่ ผมกับคนอื่นๆก็พยักหน้าเห็นด้วยรัวๆ
“อิสัสเมฆ!กูไม่ได้ปวดขี้ค่ะ ถ้าหน้าไม่หล่อกูกระโดดถีบแล้วนะ กวนส้นตีนนะมึงนิ...ฮึ่ม!กูยิ่งอัดอั้นตันใจกับอิรันต์อยู่!” ไอ้ท็อฟฟี่ทำท่ากระฟัดกระเฟียดเมื่อไม่มีใครเข้าใจมันสักคนก่อนจะทำท่านึกอะไรได้ แล้วหันมามองผมเขม็ง
“กูหรอ?” ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง มองมันงงๆ
“เออสิคะ มึงมีอะไรจะสารภาพไหม” มันกอดอกเชิดหน้า มองผมเหมือนมีความผิดซะเต็มปะดา
“ก็ได้...กู” ผมอ้ำอึ้ง
“…” เพื่อน
“เมื่อเช้ากูไปเข้าห้องน้ำแล้วลืมล้างมือ เห็นกระเป๋ามึงนุ่มๆดีเลยยืมเช็ดอ่ะ”
“กรี๊ด!...กูว่าแล้วทำไมกลิ่นตุๆ นี่คอลเล็คชั่นใหม่เลยนะ กว่าจะแอบป๊าซื้อได้...มึงตายอิรันต์!” ไอ้ท็อฟฟี่ไล่บีบคอผมด้วยความคับแค้นที่กล้าเช็ดมือกับกับกระเป๋าใบละหกหมื่นของมัน ส่วนผมก็วิ่งหนีสิครับ วิ่งไปวิ่งมาก็มาโผล่ที่ใต้ตึกคณะซะแล้ว แม่งโคตรเหนื่อย
“โอ้ย!อิรันต์ แฮ่ก...พอก่อนกูเหนื่อย หายใจไม่ทันแล้ว แฮ่กๆ”ไอ้ท็อฟฟี่ที่หยุดยืนหอบไม่ไกลเอ่ยปาก ถึงมันไม่บอกผมก็จะหยุดอยู่แล้วล่ะ
“กูก็ว่างั้น นั่งก่อนมึง” ผมชวนมันนั่งเก้าอี้ตัวยาวใต้ตึกคณะ เวลานี้เย็นมากแล้วคนก็เริ่มบางตา มีอยู่สองสามกลุ่มนั่งถัดจากเราไปไม่ไกลนัก
“อิรันต์มึงช่วยตอบกูมาตรงๆ สนองต่อมเสือกกูกับอิหญิงทีเถอะ...มึงกับพี่ทศกัณฐ์ภาคอินเตอร์ฯเป็นอะไรกันวะ” ไอ้ท็อฟฟี่เอ่ยปากถามขึ้นหลังจากที่เรานั่งพักหายเหนื่อยกันได้สักพัก
“มึงคิดว่าไงล่ะ” ผมเลิกคิ้วถามมัน
“มึงอย่ามายอกย้อนได้ป่ะ กูถามมึงก่อนอิฟาย” มึงพูดเฉยๆไม่ต้องมีคำตามหลังได้เปล่าวะ
“ก็เออ...คบกันอยู่”
“อะไรนะ พูดให้มันดังๆหน่อยเป็นผู้ชายมีผัวซะเปล่า กูเป็นตุ๊ดยังพูดดังกว่าอีก”
“เออพวกกูคบกันอยู่ ได้กันแล้ว พอใจยัง!” ผมเพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้นกว่าเดิม พร้อมขยายความสิ่งที่พวกมันต้องการได้ยินให้อย่างสมใจ
“ตามนั้นค่ะ ได้ยินแล้วนะคะพวกมึง” พอไอ้ท็อฟฟี่พูดจบ ไอ้พวกเพื่อนๆ(ตัวเสือก)ก็ปรากฏกายออกมาจากมุมบันไดใกล้ๆ ซึ่งเมฆเบ้ปากทำหน้าเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัดก็มันรู้แล้วนี่ ไม่มีเหตุผลที่ต้องมายืนแอบฟังกับคนอื่นๆ ไอ้เก่งใช้นิ้วดันแว่นนิดๆอย่างเคยแล้วยิ้มให้ ไอ้อ๋องมองผมอึ้งอ้าปากค้างจนแมลงวันแทบจะบินเข้าปากอยู่แล้ว
ส่วนสองสาวเพื่อนเล่นอีกกลุ่มของท็อฟฟี่ หญิงและน้ำ แทบจะถลามาหาผม ดวงตาสั่นระริกและรอยยิ้มแปลกๆทำเอาผมอดขนลุกไม่ได้
“กูว่าแล้ววววว เรดาร์กูไม่เคยพลาด”หญิงยื่นมือมาหยิกแก้มผมเบาๆอย่างมีความสุข ซึ่งผมก็ไม่รู้มันมีความสุขอะไร(เขาเรียกฟินลูก//YINGPREM)
“เออ กูก็ซุ่มแล้วซุ่มอีก เห็นขึ้นรถไปด้วยกันบ่อยๆ คิดว่ายังไงแม่งต้องมีได้เสีย” น้ำเอ่ยสำทับขึ้นอีกคน
“จริงๆถ้าเป็นคนอื่นไอ้พี่ทศกูจะเคืองเป็นอย่างมากกูจะเป็นแกนนำแอนตี้แฟน แต่นี่เป็นอิรันรันกูจึงอภัยโทษให้มึงหรอกนะ” ไอ้ท็อฟฟี่สวมวิญญาณเจ้าบทเจ้ากลอนมาเชียว
“ช่ายยย ไอ้รันต์น่ารัก แถมยังเป็นเพื่อนเรา ต้องสนับสนุน...ว่าแต่ลีลาพี่ทศกัณฐ์แซ่บไหมมึง” เดี๋ยวนะน้ำ มึงเปลี่ยนเรื่องเร็วไปไหม
“นั่นดิ เวลาโดนตอกนี่จุกมากไหมมึง พี่ทศกัณฐ์ตัวอย่างใหญ่กูว่าไอ้นั่นก็ไม่ธรรมดา” หญิงพยักหน้าเห็นด้วยกับน้ำ แล้วถามคำถามที่ทำให้ผมแทบพูดไม่ออก
ผู้หญิงสมัยนี้น่ากลัวจริงๆนะครับ...
“ก็...” ไม่รู้จะตอบยังไงเลยกู
“มึงจะไปถามมันทำไม วันก่อนที่มันเดินขาถ่างมาเรียนยังยืนยันไม่ได้อีกหรอ” ไอ้เมฆ ไอ้เพื่อน ไอ้พี่ทรยศ ขายกูซะได้
“อ่อ กูก็นึกว่าลื่นล้ม ทั้งเดินเป๋เป็นสัปดาห์” ไอ้อ๋อง
“อันนั้นกูพึ่งถอดเหล็กที่ขาเถอะ” ให้ผมมีที่ยืนบ้างครับ รุมกูจัง
“แต่ก็น่าจะโดนถี่สินะ รอยที่คอไม่หายสักที”ไอ้เก่งว่าบ้าง มึงนี่ก็ช่างสังเกตเนอะ ไอ้ท็อฟฟี่รีบชะโงกหน้ามาเปิดคอเสื้อผมดูทันที
“ไม่เบาเลยนะคะ กูเริ่มอิจฉามึงแล้วเนี่ย” ไอ้ท็อฟฟี่เบ้ปากแล้วผลักหัวผมหนึ่งที ผมก็เลยตบหัวมันคืนไปหนึ่งดอก
“อร๊ายยย เรื่องนี้ต้องขยาย” หญิงทำท่าบิดตัวไปมาเหมือนเขิน พอมันพูดแบบนี้ผมก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“กูบอกพวกมึงไปหมดแล้ว ทีนี้กูมีเรื่องจะขอบ้าง”
“ไม่ใช่เรื่องที่จะขอกันฉันเข้าใจ ไม่ใช่เรื่อง...ผลั๊ว! โอ้ย! เหี้ยอ๋องตบกูหาพระบิดามึงหรอ”
“เพื่อนจริงจังไอ้ห่าสุเทพ”
“เออๆขอโทษค่ะ กูแค่หยอกเองอ่ะ” ไอ้ท็อฟฟี่เริ่มหงอย
“ไม่เป็นไรๆ มันก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น”ผมตบบ่าท็อฟฟี่ปลอบ
“แล้วมึงจะขอพวกกูเรื่องอะไร”
“เรื่องที่กูคบกับพี่เขาอ่ะ กูไม่อยากให้มึงเอาไปป่าวประกาศอะไรแบบนั้นนะเว้ย ถึงสังคมจะเปิดกว้างแล้วแต่มันก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมรับได้หรอกนะ กูน่ะไม่เป็นไรหรอกแต่กูไม่อยากให้คนอื่นมองพี่มันไม่ดี ถ้าเกิด...”
“มึงไม่ควรไปคิดเองเออเองแทนผัวมึงนะรันต์ มันก็ดูรักมึงออก กูว่าเรื่องแบบนี้ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติเถอะ อย่าพึ่งตีตนไปก่อนไข้เลย”เมฆเอ่ยขัดก่อนผมจะพูดในสิ่งที่คิดออกมา ผมยอมรับว่าผมก็ค่อนข้างกังวลกับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับทศกัณฐ์ เพราะผมไม่เคยมีแฟนมาก่อน ผมไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงให้เราสามารถคงความรู้สึกตอนนี้และอยู่ด้วยกันไปนานๆ
ผมคิดนะ ว่าถ้าวันหนึ่งเราเกิดเลิกกันขึ้นมาจริงๆ ผมก็จะคอยสนับสนุนเขา มองเขาอยู่ห่างๆไม่ว่าจะในฐานะไหนก็ได้ที่เขาต้องการ แค่ได้เห็นเขามีความสุขดี แค่นั้นก็เพียงพอแล้วจริงๆ
ชีวิตนี้ผมคงรักใครนอกจากทศกัณฐ์ไม่ได้อีกแล้ว
ก็รักมาทั้งชีวิตแล้วนี่เนอะ...ถ้าจะรักตลอดไปก็ไม่เห็นจะเป็นไร
“กูรู้นะรันต์ว่ามึงกังวลเรื่องอะไร แต่ที่ไอ้เมฆพูดมันก็ถูกแล้ว มึงเจอคนที่เขารักมึงและมึงก็รักเขา มึงโชคดีแค่ไหนรู้ไหม ดูอย่างกูสิ จะมีใครบ้างมารักมาชอบบ้าง ไม่มี๊ มีแต่รักเงินกูน่ะสิ เพราะฉะนั้นมึงก็ใช้ชีวิตของมึงไป เป็นตัวของตัวเองนั่นแหละดีแล้ว กูว่าพี่ทศเขาก็คงรักที่มึงเป็นแบบนั้น” จริงๆไอ้ท็อฟฟี่มันไม่ใช่คนหน้าตาไม่ดู แต่ท่าทางสะดีดสะดิ้งที่มันชอบทำก็ขัดกับรูปร่าง 181 ซม. ผิวสีน้ำผึ้ง แต่หน้าตี๋เพราะเชื้อสายจีน ชอบมโนว่าคนนั้นคนนี้เป็นผัว แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่เห็นเอาใครสักคน
“อื้ม ขอบใจพวกมึงนะเว้ย แต่ก็ไม่ต้องเอาไปประกาศนะอายเขา” ความกังวลที่ก่อตัวสลายไปแทบไม่มีเหลือ มันดีจริงๆนะที่ได้รับคำปรึกษาจากเพื่อนแบบนี้
“เออ มึงนี่มันโง่จริงๆ มีผัวน่าแดกขนาดนี้เสือกไม่อยากอวด เป็นกูนะ จะจ้างประชาสัมพันธ์มอประกาศแม่งทั้งเดือนแล้ว”
กูเริ่มกลัวมึงจริงๆแล้วนะเว้ยน้ำ
“อิน้ำ สำรวมค่ะลูกสาว ให้แม่มีก่อนนะคะ กูจะจ้างรถประกาศวิ่งทั่วกรุงเทพฯเลย” ถุ้ย กูก็นึกว่าจะห้ามเพื่อนนะท็อฟฟี่
“นี่ก็เย็นแล้วแยกย้ายกันกลับเถอะ...แล้วนี่มึงจะกลับยังไง” เมฆเอ่ยสลายตัวก่อนจะหันมาถามผม
“กลับกับพี่ทศ” อีกเดี๋ยวเขาก็จะเลิกเรียนแล้วครับ
“งั้นกูรอพี่ทศมาก่อนถึงจะกลับ” ไอ้ท็อฟฟี่พูด สองสาวเพื่อนเกลอก็พยักหน้าเออออด้วย
“เดี๋ยวนี้ไม่กลับกับกูเลยนะ” เมฆพูดเรียบๆแต่น้ำเสียงเจือความเหงา รู้สึกผิดเหมือนกันแฮะที่ช่วงนี้ไม่มีเวลาให้พี่ชายเลย
“ฮื่อออ ไม่งอนดิ พรุ่งนี้เลิกเรียนแล้วไปกินบุฟเฟ่อาหารญี่ปุ่นกัน” ผมลุกขึ้นไปจับมือเมฆแกว่งไปมา ยิ้มอ้อนๆที่ทำให้เมฆใจอ่อนให้ซะทุกที
“ก็ได้ แต่ขอหอมก่อน”
“ตอนนี้เนี่ยนะ” เพื่อนๆหันมามองนิดๆก่อนจะแกล้งมองเสไปทางอื่น
ฟอดดดดดด เมฆโน้มหน้ามาหอมแก้มผมแทนคำตอบ เพื่อนที่เห็นก็แกล้งทำหน้าประหลักประเหลือก เบ้ปากบ้างล่ะ
“ระวังตีนผัวเขาด้วยนะคะ” ไอ้ท็อฟฟี่เปรย
“กลัวตายล่ะ นี่น้องกูเหอะ” เมฆแกล้งถีบตูดไอ้ท็อฟฟี่เบาๆ เลยโดนมันค้อนขวับเข้าให้
ระหว่างที่ผมกำลังหัวเราะกับการทะเลาะกันระหว่างเมฆกับท็อฟฟี่ อยู่ๆก็มีบางอย่างพุ่งตรงมาทางผมพร้อมสวมกอดแน่นจนตั้งตัวไม่ทัน
หมับ!
“คิดถึง” ผมชะงักไปเล็กน้อยกับคำบอกกล่าว เพื่อนทุกคนหันมามองผมเป็นตาเดียว
“รันต์!” เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นอีกฟาก ทศกัณฐ์พุ่งตรงมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
พลั่ก! คนที่กอดผมอยู่ก่อนหน้าทศกัณฐ์ถูกทศกัณฐ์ผลักออกอย่างแรง ผมจึงโดนกระชากเข้าหาอ้อมกอดที่คุ้นเคย
“มึงกล้าดียังไงมากอดเมียกู” ทศกัณฐ์กดเสียงต่ำ เขาดูโกรธมาก
“ทำไมผมจะกอดไม่ได้ พี่รันต์เป็นคนสำคัญของผม” อีกคนแสยะยิ้มยั่วโมโหทศกัณฐ์ ซึ่งมันได้ผม เขาถลาจะไปชกคนตรงหน้าเข้าจริงๆ ผมกอดแขนเขาไว้แน่น แต่ก็แทบจะเอาไม่อยู่อยู่แล้ว
“ใครก็ได้ช่วยกูจับพี่ทศที” ผมร้องขอความช่วยเหลือ แต่เป็นพี่สมิธที่ตามมาทีหลังช่วยจับแขนทศกัณฐ์อีกข้าง
“เหอะ ใช้แต่กำลัง คนแบบนี้หรอจะดูแลพี่รันต์ได้”
“หยุดพูดนะริว!” ผมหันไปปรามจอมยั่วโมโหอีกรอบ แต่ไม่ทันแล้วครับ ทศกัณฐ์โกรธมาก เขาดึงแขนออกจากผมและสะบัดแขนอีกข้างอย่างไม่ไยดี ถลาเข้าไปซัดปากริวจนล้มลงกับที พี่สมิธก็ล้มจ้ำเบ้าก้นกระแทกพื้น
“โอ๊ย!เชี่ยทศ สะโพกกูไปหมดแล้ว คนยิ่งเจ็บๆตูดอยู่” พี่สมิธโอดโอยพึมพำเบาๆแต่ผมก็ได้ยิน ผมหันรีหันขวางไม่รู้จะช่วยใครก่อนดี เอาเป็นว่าไปดูคนชกกันก่อนละกัน
ทั้งริวทั้งทศกัณฐ์ตะลุมบอนชกกันอย่างไม่มีใครยอมใคร แต่ดูปราดเดียวก็รู้ว่าใครได้เปรียบ ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้ริวตายแน่ๆ
“พี่ทศพอแล้ว...พอนะ” ผมเอ่ยปากห้าม แต่เขาเหมือนไม่ได้ยินอะไรแล้ว
ผมจะทำยังไงดีวะ คนอื่นๆก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเลย ทศกัณฐ์น่ากลัวมากจริงๆ
เอาวะ เป็นไงเป็นกัน
“หยุดนะทศกัณฐ์!” ผมผลักริวออกจากทศกัณฐ์แล้วยืนขวางหน้าเขาไว้ กางแขนป้องกันไม่ให้เขาเข้าไปทำร้ายริวอีก
กำปั้นทศกัณฐ์หยุดห่างจากปลายจมูกผมไปนิดเดียว เขาลดกำปั้นลงข้างตัวมองผมอึ้งๆ
“...รันต์”
“กลับไปก่อน ผมจะอธิบายทีหลัง” พวกเขาตีกันในสถานศึกษา ถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูอาจารย์เรื่องใหญ่แน่ รีบๆสลายตัวจะดีกว่า แต่ตอนนี้ผมควรพาริวไปโรงพยาบาลก่อน หน้าแตกยับเลือดอาบซะน่ากลัวเลย
“แล้วน้องจะไปไหน” สายตาทศกัณฐ์มองตามผมที่กำลังพยุงริวขึ้น
“พาริวไปหาหมอ”
“ไม่ให้ไป” แววตาเขาวาวโรจน์
“ยักษ์ พี่ผิด”ผมพูดนิ่งๆ
“มันสมควรโดน!”
“…” ผมเงียบ รู้ว่าเขาโกรธ ไม่ควรทำให้โมโหหนักกว่านี้
“ตามใจ...” ทศกัณฐ์ล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเองหยิบกุญแจรถยัดใส่กระเป๋าเสื้อนิสิตผม แล้วหันหลังเดินจากไปทันที
แม้เขาจะโกรธสักแค่ไหนแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังห่วงผม กลัวว่าผมจะกลับบ้านลำบาก
เสี้ยววินาทีผมเห็นดวงตาสีเขียวซีดมีแววเจ็บปวด
ผมยืนตัวชารู้สึกเจ็บในอกไม่ต่างกัน
ผมทำให้คนที่รักเสียใจ
++++++++++++++++++++
รันรันทำอิพี่ยักษ์เจ็บซะแล้ว รีบๆไปง้อเลยเอาแบบให้พี่แกหลงกว่าเดิม หึๆ ตอนหน้าไม่ม่านะคะ และขออภัยที่หายไปนานเป็นพักๆ เปรมไปเดินเอ๋อให้รถเฉี่ยวตั้งแต่วันลอยกระทงนู้น ตอนนี้ซ่าได้ละ อิอิ ขอบคุณที่รอและติดตามค่ะ