จัดไปเบา ๆ เกริ่น ๆ ก่อนนะคะ
ตอนที่ 10 คนสองร่าง[ภาคภูมิ]
5.45 น.
พี่ชายของผมที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่ในตอนนี้.....มันช่าง.....น่า.....
ดู ๆ ไปแล้วมันก็น่ารักดีเหมือนกัน.....ดูสิ....นอนจนเสื้อเปิดเห็นพุงขาว ๆ.....อืม....
ซี๊ดดดดด.....ปวดไอ้จู๋อย่างไม่มีเหตุผล ไม่ได้มีเซ็กส์มาก็นาน...นานแค่ไหนแล้ว คงเพราะพอดีช่วงนี้มีเรื่องให้จัดการสะสางหลายเรื่อง เพราะงี้สินะถึงได้เก็บกด แล้วแอบคิดบ้า ๆกับมัน
นี่ผมเป็นอะไร!!!! หมู่นี้ถึงได้ชอบตื่นแต่เช้ามืด เพียงเพื่อมานั่งดูพี่ชายตัวเองนอนหลับเนี่ยนะ!!!! แถมยังคิดอะไรลามกอีกต่างหากแน่ะ พอคิดแล้วก็หยุดไม่ได้เสียด้วยสิ เลยต้องเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น แบบนั้น....ก็ดูจะได้ผลดีไม่น้อยล่ะ
นี่....คุณเกียรติยศ กำลังฝันอะไรอยู่ ดูซีเรียสจริง ผมเอานิ้วชี้ค่อย ๆ ขยี้ลงไปตรงกลางระหว่างคิ้วของมันที่กำลังขมวดชนกัน
คนอย่างพี่....ก็มีมุมเครียดกับเขาด้วยหรือนี่
น่ารักจนอยากจะจับฟัดจริง ๆ
อ๊ะ....เอาอีกแล้ว ฟัดอะไรกันเล่า
14.30 น.
ให้ตายเถอะ
ทำไมไอ้คุณพี่มันถึงได้....น่าเอ็นดูขึ้นทุกวัน
พี่ชายของผมกำลังเล่นกับเจ้าแมวเหมียว เอาหน้าเข้าไปถูไปไถ เกาพุง ลูบหัวลูบคางจนไอ้แมวเปรตหลับตาพริ้ม เออแฮะ มันใส่สูทเล่นกับแมวอย่างที่เคยประกาศเอาไว้เป๊ะเลย บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้รู้สึกอิจฉาแมวขึ้นมาตะหงิด
“ไม่ร้อนเหรอ.....”
“เฉย ๆ”
“ไม่กลัวขนแมวติดหรือไง”
“นายก็ส่งซักแห้งสิ.....จะซักกี่ตังค์กัน.....เดี๋ยวพี่ไปปั่นเรื่องสั้นส่งสำนักพิมพ์แป๊บเดียวก็ได้ค่าขนมแล้ว”
“ครับ....พ่อนักเขียนซีไรต์”
ผมต้องบ้าไปแล้ว แค่มองดูกิจวัตรประจำวันของมัน ก็ทำเอาเพลินได้จนลืมเวลา รายงานต้องส่งอาจารย์ อีกไม่กี่วันแล้วยังหาข้อมูลได้ไม่ถึงไหนเลย
19.00 น.
“นี่.....ภาคภูมิ”
“อะไร?”
“ทำไมหมู่นี้กลับบ้านเร็วจัง”
“ไม่ดีเหรอ”
“ก็.....นายจะไปไหนบ้างก็ได้นะ พี่เองก็ไม่ได้....”
“พอเถอะ ถ้าเป็นเรื่องนั้น.....ผมเลิกใส่ใจไปนานแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็หลอกกันทั้งคู่ ก็เจ๊ากัน”
พี่คงหมายถึง....เรื่องที่แกล้งทำตัวปัญญาอ่อน ส่วนตัวผม....ผมหมายถึงเรื่องที่โกหกใครต่อใครว่าเป็นลูกคนเดียว พยายามปกปิดการมีตัวตนของมันจากโลกภายนอก ซึ่งพักหลังพอได้ใกล้ชิดกับมัน ได้ผ่านอะไรมาหลาย ๆเรื่องด้วยกัน ก็เลยรู้ว่ามันแคร์ผมพอสมควร
ไม่ใช่ไอ้ปิศาจจอมเห็นแก่ตัวอย่างแต่ก่อน
ไม่ใช่แม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว
ไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อนน่ารำคาญ
แต่เป็นพี่ที่เป็นแบบนี้ มันทำให้ผมรู้สึกหลงรักมันเข้าให้แล้ว หลงรัก....ฟังดูแปลกพิลึก
หวังว่าคงไม่ดีแตกเสียก่อนนะ
“พี่เปลี่ยนใจล๊ะ ใส่สูทแม่งร้อนชิบหาย ต่อไปนี้อยู่บ้านพี่จะห่มใบตองแทน......นายว่าเข้าท่ามั้ย”
“แล้วค่าเสื้อผ้าที่หมดไปเกือบหมื่นล่ะไอ้หอยเสียบ”
“พี่จะเอาไปบริจาคให้เด็กผู้ยากไร้”
“หึ......งั้นเอาไปหักกับน้ำองุ่นเพื่อลดรายจ่ายก็แล้วกัน อย่ากินมันเลย”
“เมี๊ยว ๆ ๆ ๆ.....ไอ้เหมียวตัวแสบ.....คาบอะไรมาอีกแล้ว....ดูสิภูมิ.....คราวนี้เป็นนิ้วคนแหละ ขยันช่วยพวกเราเก็บซากแบบนี้ต้องเลี้ยงอาหารดีดีมันบ้างนะ”
ให้ตายสิ ไปต่อไม่ได้ทีไรเป็นเปลี่ยนเรื่องทุกทีเลยนะไอ้แสบ
ว่าแต่.....ชิ้นส่วนไอ้พวกนั้นยังไม่หมดอีกเหรอเนี่ย
.
.
.
.
.
.
[บรรยาย]
“ภูมิ......อ๊า.....ดีจัง......”
“จะแตกแล้ว....ซี๊ดดด”
“คิดถึงภูมินะ.....นานกว่านี้อีกได้มั้ย”
“อ่า.....ไม่ไหวแล้ว.....ขอเสร็จล่ะนะ......ซี๊ดดดดดดด”
ในที่สุดก็กลับมาร่วมรักกันในห้องน้ำแคบ ๆ
หมู่นี้หยกรู้สึกได้ถึงความเหินห่าง และความเย็นชาจากอีกฝ่าย ที่เห็นเขาเป็นเพียงเครื่องสนองความต้องการทางเพศ
ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน....ที่อีกฝ่ายดูจะกระตือรือร้น รีบกลับบ้านกว่าที่เคย จนแทบจะเป็นกิจวัตรในตอนนี้ไปเสียแล้ว
ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่อีกฝ่ายไปหาเขาที่ห้อง เพื่อกอดก่าย บดเบียดร่างกายกันอย่างวาบหวาม เซ็กส์ที่แนบแน่น ตราตึง และมีความสำคัญ ไม่ใช่กระแทกเพื่อปลดปล่อยในห้องน้ำแคบ ๆ
ครั้งสุดท้ายมันก็นานมากจนเกือบจะรางเลือน
คงเพราะภาคภูมิมีหลายสิ่งให้ต้องสนใจมากกว่า
เขาเป็นได้แค่ทางผ่าน เป็นแค่ของเล่นสนองตัณหา เหมือนที่ผู้ชายคนก่อนหน้า...และคนอื่น ๆที่ผ่านมาทำกับเขา
หลงคิดว่าภาคภูมิจะต่างไปจากคนพวกนั้น
“พรุ่งนี้เราไปบ้านภูมินะ....ไปเยี่ยมคุณยศด้วย”
“ตามใจสิ”
“งั้นเรากลับก่อนนะ”
“อื่อ”
แค่นี้เองเหรอ
สิ่งที่อีกฝ่ายตอบสนองเขามา มันช่างแห้งแล้งสิ้นดี
.
.
.
.
.
.
“สวัสดีครับคุณเกียรติยศ”
“โย่ว”
“ภาคภูมิล่ะครับ”
“อ๋อ....ปลูกต้นไม้อยู่ที่สวนหลังบ้านน่ะ.....แบบ.....อำพรางหลุมฝังศพนิดนึง นั่งสิ”
คุณเกียรติยศ.....ก็ดูเป็นคนดี
ไม่เหมือนกับปิศาจร้ายที่เขาเห็นในคืนนั้น ภาพที่ฝังอยู่ในความทรงจำ คอยย้ำเตือนอยู่ทุกขณะจิต ไม่สามารถลบออกได้เลย แต่เกียรติยศในวันนี้ ดูเหมือนเด็กหนุ่มปกติทั่วไปที่ขี้เล่น อารมณ์ดี
คน ๆ นี้ช่างดูคล้ายเขาเสียเหลือเกิน คล้ายกับลอกเลียนบางส่วนของเขาไป เปล่าหรอก....แค่รู้สึกแบบนั้นเท่านั้นเอง ทั้งที่ความจริงแล้วคน ๆนี้ไม่มีอะไรที่เหมือนเขาเลย นอกจากส่วนสูงและรูปร่างที่ใกล้เคียงกัน
“ไปเรียกให้เอามั้ย”
“อ๋อ....ผมบอกเขาแล้วครับ ว่าผมจะแวะมาหา.....นี่ครับ เห็นคุณบ่นว่าอยากได้....ใช่มั้ย”
“เฮ้ยยยย หามาได้จริงด้วย น่ารักว่ะ......ไปดื่มชากัน แล้วก็จับไอ้แสบแต่งตัว”
“ที่ไหนครับ”
“บนระเบียงที่ห้องข้าไง....เอ่อ....โทษทีนะ พูดกับไอ้แสบจนเคยตัวล่ะ.....ตามผมขึ้นมาเลยครับ....เอ่อ....จริงสิ....ชา”
“ผมจัดการเองครับ เดี๋ยวผมตามขึ้นไป ห้องนอนคุณใช่ไหม”
“รบกวนทีนะ....เอาชากลิ่นมิ้นท์นะ.....ผมชอบมิ้นท์”
หยกสั่งซื้อเสื้อผ้าแมวมาจากอินเตอร์เน็ต แล้วดูเหมือนเกียรติยศจะชื่นชอบมันไม่น้อย เกียรติยศคนนี้ทั้งขี้เล่น แถมยังรักสัตว์ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคน ๆเดียวกันกับเมื่อคืนนั้น.....
กร๊วมมมมมม....แผล่บ ๆ ๆ......อ่าเสียงเคี้ยวกระดูก และฉีกทึ้งกัดกินเนื้อ ยังคงชัดเจนในความทรงจำ กลิ่นคาวเลือด....แม้จะเห็นเพียงไม่กี่นาที แต่กลับรู้สึกเหมือนนานนับปี
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำดีกับคนที่ดูน่ากลัวแบบนี้ด้วย .ใช่.....สำหรับหยก ต่อให้เกียรติยศจะดูเป็นคนดีแค่ไหนในยามนี้ แต่เขาก็ไม่อาจขจัดภาพผีหัวขาด ที่แทะกินศพอย่างหิวโหยได้เลย แววตาขี้เล่นซุกซน ไม่สามารถบดบังดวงตาที่ดูดุร้ายกระหายเลือดในคืนนั้นได้
“ขอบคุณหยกมากนะครับ แมวผมทำหน้าเซ็งใหญ่เลย แต่มันก็น่ารักดีใช่มั้ย....ไอ้แสบ.....แต่งแบบนี้ดูเท่ห์ระเบิดเหมือนโจรสลัดจริง ๆเลย.....มีที่ปิดตาด้วยเห็นไหม”
“ภาคภูมิเพิ่งบอกผม....ว่าเขามีพี่ชาย”
“อ๋อ.....เรื่องนั้นช่างเถอะ”
“เขารักคุณมากเลยนะครับ”
“เรื่องนั้นมันก็จริง......แต่ไอ้เด็กนี่มันปากแข็ง เราก็รู้ ๆกันอยู่เนอะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า......นั่นสิครับ....แต่ผมก็ยังอดคิดไม่ได้อยู่ดี ว่าเขามีเหตุผลอะไรกัน ถึงได้เที่ยวโกหกคนอื่น....ไม่สิ.....เขาจะตอบก็ต่อเมื่อถูกถามเท่านั้น ควรจะใช้คำว่าปกปิดมากกว่า.....อยากรู้จัง ว่าคนแบบไหนกัน ที่ปกปิดว่ามีพี่ชายซึ่งมีปัญหาทางสมองอยู่....เขามีเหตุผลจำเป็นอะไรถึงได้....”
“ภูมิบอกนายเรื่องนั้นด้วย.....”
สรรพนามเริ่มเปลี่ยน แม้ว่าใบหน้ายังคงยิ้มแย้ม คน ๆนี้เป็นคนดีแน่หรือ คนที่ฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น เพื่อให้ตัวเองฟื้นขึ้นมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน หมอนี่เป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันแน่ หยกสังเกตเห็นว่าฟันของอีกฝ่ายเปลี่ยนไป ดูเหมือนว่ามันแหลมขึ้น.....
คิดไปเองน่า....ก็ฟันปกตินี่แหละ ตาฝาด....เห็นภาพหลอน
“ภาคภูมิเขาบอกผมทุกเรื่องแหละครับ......ก็เขาเป็นแฟนผมนี่นา”
“แหม่....เขินจัง....นายต้องมาเห็นตอนที่ผมแกล้งทำเป็นเด็กเอ๋อ.....นี่.....ทำให้ดูเอาไหม”
“อย่าดีกว่าครับ”
“เอ่อ....งั้นไปตามภาคภูมิให้นะ”
“ผมทักทายเขาแล้วล่ะครับ ปล่อยเขาทำงานไปเถอะ เขากำลังปกปิดร่องรอยฆาตกรรมให้คุณอยู่”
เกียรติยศพยายามบังคับสติของเขาให้เป็นปกติ คำพูดของหมอนี่อยู่ ๆก็ฟังดูแปลก ๆ คล้ายกำลังต่อว่าต่อขาน เขาไม่ชอบใจเอาเสียเลย เขาสามารถอ่านใจคนอื่นได้ แต่ไม่ได้กับทุกคน อย่างน้อยก็ภาคภูมิ.....แล้วก็หมอนี่
ของภาคภูมินั้น เขาไม่สามารถรับรู้อะไรในใจของน้องชายได้เลย ทุกครั้งที่พยายามเพ่ง หากไม่เห็นภาพกำแพง ก็เป็นความว่างเปล่า แต่กับคน ๆนี้ ทุกอย่างมันสับสนปนเปกันไปหมด จนแทบจะจับต้นชนปลายไม่ถูก พยายามเพ่งกระแสจิตเพื่อจับคลื่นข้อความทั้งหลายที่ล่องลอยอยู่ กลับพบว่าคน ๆ นี้ แม้แต่ในใจก็ยังคิดแล้วก็พูดแต่สิ่งดี ๆ ไม่มีความมาดร้ายเจือปน.....แต่ทำไมกัน....ทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนมีสังหรณ์แปลก ๆ ว่าเรื่องร้ายกำลังจะเกิดขึ้น
หิว....อยู่ ๆก็หิวบางอย่างที่ไม่ใช่อาหาร อะไรที่อร่อยกว่าน้ำองุ่นเป็นพันเท่า!!!
เลือด......เขาไม่เคยนึกกระหายอีกเลย ตั้งแต่วันนั้น จริง ๆแล้วมันเป็นเรื่องบังเอิญที่เมื่อกัดคอไอ้โจรร้าย มันช่วยไม่ได้ที่รสชาติของเลือดจะแพร่กระจายสู่ทั่วทั้งปาก ทำให้เขากลับมารับรู้รสได้อีกครั้ง แล้วก็รู้สึกต้องการจนไม่อาจควบคุมได้ บางอย่างในตัวเขาเรียกร้องในสิ่งที่ขาดหายมานาน นานจนแทบจะเป็นหมื่นเป็นพันปีเลยทีเดียว
แล้วตอนนี้เขาก็รู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว
คอของอีกฝ่าย.....ลำคอขาวเนียน ช่างเหมือนมีแรงดึงดูด.....ริมฝีปากสีแดงระเรื่อที่กำลังขบเม้ม น่ากัดกินเสียเหลือเกิน
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”ตึงตึงตึง!!!
ภาคภูมิทิ้งพลั่วที่อยู่ในมือ ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นมาตามเสียงกรีดร้องที่ดังลั่น
ภาพที่เขาเห็น ทำเอาเด็กหนุ่มทั้งโกรธ.....และทั้งเสียใจ ระคนผิดหวัง
พี่ชายกำลังคร่อมร่างหยก แล้วพยายามที่จะ......
กิน
กัดกินอีกฝ่ายทั้งเป็นอย่างเลือดเย็น เลือดไหลเปรอะนองเต็มพื้นไปหมด ภาคภูมิวิ่งเข้าไปแยกคนทั้งคู่ออก แยกออกโดยการจับพี่ชายเหวี่ยงออกไปไกล ๆ แต่ทว่าเกียรติยศนั้นกระหายเกินกว่าจะสนใจสิ่งอื่นใด ยังคงดิ้นรนกระเสือกกระสนหมายจะดื่มเลือดเสียให้ได้
เพี้ยะ!!!!เขาตบหน้าพี่ชายสุดแรงเพื่อเรียกสติ
“พี่ทำอะไรลงไป บอกแล้วไงว่ามีอะไรให้รีบบอกผม.....ทำไมต้องทำแบบนี้!!!!”
“ภูมิ.....ช่วยเราด้วย”
"พี่ขอโทษ....พี่ไม่รู้ว่าทำไม.....นายอย่าโกรธพี่นะ....หยก....คุณอย่าโกรธผมเลยนะ"
“ปิศาจ....ยังไงก็เป็นปิศาจวันยังค่ำ พี่ไม่สามารถกลับมาเป็นมนุษย์ได้หรอก"
"ภูมิ....พี่....ฟังพี่ก่อนได้ไหม"
"ไปหยก.....ไปจากที่นี่ ไปจากไอ้บ้านเฮงซวยหลังนี้”
“ภูมิ......พี่ขอโทษ”
“พอเถอะ.....หยุดขอโทษ พี่มันเห็นแก่ตัว ทำอะไรตามใจตัวเองโดยไม่คิดถึงคนอื่น.....งั้นก็เชิญพี่อยู่บ้านหลังนี้ไปคนเดียวละกัน ใช้พลังของพี่บงการทุกอย่างให้เต็มที่ แต่พี่จะไม่มีวันออกคำสั่งผมได้อีก”
พยายามไม่สนใจน้ำตาที่เอ่อท้น ทั้งที่ยังมีคราบเลือดเปรอะอยู่เต็มไปหมด
ไม่สนใจเสียงเรียกชื่อที่ฟังดูอาลัยอาวรณ์
ปิศาจ
พี่ชายของเขาไม่เคยเปลี่ยน
ความรู้สึกของเขาเองก็ไม่เปลี่ยนเช่นกัน
“ไปให้พ้น อย่ามาเดินตาม ผมน่ะเกลียดพี่ที่สุดเลยรู้มั้ย”
ลาก่อนเกียรติยศ
.
.
.
.
.
.
To be con
ยังค่ะ.....ยังดราม่าได้อีก