[แจ้งข่าวP31]Out of order ขออภัยในความไม่สะดวก24จบP28:17/6/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ้งข่าวP31]Out of order ขออภัยในความไม่สะดวก24จบP28:17/6/55  (อ่าน 318260 ครั้ง)

ออฟไลน์ taran

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 325
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ตอนแรกนึกว่าจะสนุก ชีวิตพี่นิตเริ่มมีชีวิตชีวาที่ไหนได้ ตอนท้ายดันมีแต่น้ำตา แถมถ้าพี่นิตปิดตายตัวเองแบบนั้น แย่แน่อะ

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
ไม่เอา ๆ พี่นิตอย่าฉาบกำแพงปูนน๊า กว่าน้องโจจะทลายได้ ฮือ ๆ ไม่มาม่าได้มั้ยเรื่อยนี้ อ่านมาม่ามาหลายเรื่องแล้ว แง ๆ  :m15:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
** ได้มาต่อไวกว่าที่คิด (ตอนแรกคิดว่าสักวันศุกร์) ดีใจกับนักอ่านทุกท่านด้วยค่า (ฮ่าๆ ที่จริงหลังจากบทดราม่า อิฉันมักจะคิดตอนต่อไปออกมาได้อย่างรวดเร็ว~ เป็นอะไรที่ชอบเขียนจริงๆ เลยนะเนี่ยย<<โดนเตะ)

ต่อเลยค่า
--------------------------------

Out of order. ขออภัยในความไม่สะดวก ตอนที่17
   ภูมิวัฒน์อุตส่าห์ลางานช่วงเช้ามารับผมกลับบ้าน ผมรู้สึกซึ้งน้ำใจเขาจริงๆ แต่ก็ไม่ลืมถามเขาว่าบอกเรื่องนี้กับใครไปบ้าง เพราะไม่อยากให้คนที่บ้านเป็นห่วง ผมแค่เสียใจกับเรื่องงี่เง่า ซึ่งอีกไม่นานก็คงจะเลือนหายไปกับกาลเวลา ภูมิวัฒน์ทำหน้าลำบากใจแปลกๆ แต่สุดท้ายก็สั่นศีรษะ ผมเลยพอโล่งใจอยู่บ้าง
   อดีตรูมเมทผมมาส่งที่บ้าน แล้วก็ชวนผมทานข้าวเช้า สงสัยกลัวว่าผมจะเสียใจจนไม่เป็นอันกินอันนอน ผมเลยต้องพยายามทำท่าให้เขาเห็นว่าผมทำใจได้แล้ว ดังนั้นกว่าจะทานข้าวหมดชาม ก็เล่นเอาผมพะอืดพะอมจนแทบจะขย้อนของเก่าทิ้งออกมา พอเห็นว่าเขายังรีๆ รอๆ ทำท่าเหมือนถ้าไม่อยู่แล้วผมจะมีอันเป็นลมพับไปอีก ผมเลยต้องทำเป็นบอกเขาว่า ผมมีงานนิยายจะต้องรีบส่ง ถ้าเขายังอยู่ผมจะไม่มีสมาธิเขียน ย้ำให้ดูหนักแน่นด้วยการไปนั่งปุหน้าเครื่องพิมพ์ดีด แล้วทิ่มเป๊าะๆ แป๊ะๆ ลงไป นั่นและ ภูมิวัฒน์ถึงยอมกลับไปได้
   พอเขากลับไปแล้ว ผมก็ดึงกระดาษต้นฉบับที่อยู่ในแคร่พิมพ์ออกมา เอาลิควิดมาลบไอ้ที่พิมพ์ๆ ไป หวังว่าน้องๆ ที่สำนักพิมพ์คงจะไม่ลำบากกับการอ่านตัวหนังสือที่พิมพ์ทับลงไปบนลิควิดหรอกนะ ก็ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วนี่นา...
   ผมเอาลิควิดป้ายต้นฉบับแล้วก็นั่งโบกๆ รอให้มันแห้ง แต่น้ำตาผมดันไหลออกมาอีก อืม... น่ารำคาญตัวเองจริงๆ จะอะไรกันนักกันหนา ก็แค่ทำพูดไม่ได้ตั้งใจแต่ส่อความรู้สึกจริงๆ ของคนคนเดียวเท่านั้นเอง

ก็แค่บรรณาธิการคนหนึ่ง

ก็แค่เด็กที่เคยอยู่ข้างบ้าน

 

ก็แค่คนหน้าตาดีที่เข้ามาทำให้ใจผมหวั่นไหว




ก็แค่คนที่เป็นจูบแรก




ก็แค่คนที่เป็น







ครั้งแรก……….



   ผมยกมือขึ้นปาดน้ำตาตัวเอง ให้ตายสิ ยิ่งคิดยิ่งน้ำตาไหล ผมควรหยุดคิดเรื่องเขา แล้วหันมาให้ความสนใจกับเนื้อหาที่จะต้องลงในกระดาษแผ่นนี้ดีกว่า ยังมีพ่อกระแต มีเด็กหญิงพิมชนกรอคอยผมอยู่ แม้ว่าตอนนี้ทั้งพ่อกระแตและเด็กหญิงพิมชนก กำลังเผชิญมรสุมเลวร้ายในชีวิตอยู่ แต่ก็ยังมีผม ที่พอจะช่วยให้ทั้งคู่ผ่านพ้นมรสุมชีวิตครั้งนี้ไปได้ ผมนึกถึงจดหมายที่แฟนนิยายเคยเขียนมาเล่าความรู้สึกเวลาอ่านเรื่องจบให้ผมฟัง ว่าเรื่องที่ผมเขียนทำให้เขามีกำลังใจในการสู้ชีวิต ก็ทำให้ผมรู้สึกฮึดขึ้นมา
   ผมเอากระดาษต้นฉบับแผ่นเดิมสอดเข้าไปในแคร่พิมพ์ ขณะที่กำลังเค้นสมอง ระดมทุกเซลล์เพื่อมาแก้ไขปัญหาให้พ่อกระแต เสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้น ผมสะดุ้งเฮือก รีบกุลีกุจอไปรับโทรศัพท์ พลางคิดว่าใครหนอช่างโทรมาในเวลาแบบนี้พอดี
   “คุณพนิตคะ คุณสุภาพงษ์อยู่กับคุณรึเปล่าคะ?”
   เสียงพูดสายเป็นเสียงผู้หญิง ผมใช้เวลาสองสามวิฯถึงพอนึกออกว่าเป็นเสียงอรนภา เลขาฯของสุภาพงษ์ เลยตอบกลับไป “เปล่า เขาไม่อยู่หรอก”
   “เหรอคะ... เอ.....” หล่อนนิ่งไปพักหนึ่ง “เมื่อว่าเขาบอกว่าจะรับคุณไปทานข้าวเที่ยง เขาบอกอะไรคุณอีกรึเปล่าคะ?”
   ผมเพิ่งรู้ว่าที่สุภาพงษ์โผล่มาเมื่อวานเพราะจะมาพาผมไปทานข้าว แต่เรื่องมันดันเลยเถิดไปกว่านั้นเยอะแล้วล่ะ “เปล่า เขามีปัญหาอะไรหรือ?”
   “คือ... เขาหายไปเลยน่ะค่ะ วันนี้ก็ไม่เข้าออฟฟิศ โทรไปก็ปิดเครื่อง คุณพนิตไม่เจอเขาเลยหรือคะ?”
   ผมกะพริบตาปริบๆ “เขา... หายไปหรือ?”
   “ค่ะ” ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงร้อนใจขึ้นมาจริงๆ “งั้นเดี๋ยวดิฉันลองโทรเช็กไปที่คอนโดฯกับโรงพยาบาลดูดีกว่า แค่นี้ก่อนนะคะ”
   “อะ... อื้ม” ผมตอบกลับไป จากนั้นก็พูดต่ออย่างนึกขึ้นได้ “ถ้าไงโทรบอกผมด้ว..”
   ท่าทางอรนภาจะไม่ได้ยินประโยคสุดท้ายที่ผมจะพูด เธอเลยวางสายไปก่อน ผมอึ้งไปพัก
   สุภาพงษ์หายไป?!
   จู่ๆ ผมก็นึกถึงตอนที่ผลักเขาออกจากบ้าน เขาขยับปาก ทำท่าเหมือนจะพูดอะไร.. แต่ผมไม่ได้ยิน ไม่สิ เขายังไม่ทันได้พูด ก็ถูกผมไล่
   เมื่อวานผมโมโหเขามากจริงๆ แค่นึกถึงก็ยังรู้สึกปวดหนึบๆ ที่หน้าอกอยู่ แต่พอได้ยินว่าเขาหายไป...
   บ้าจัง ปกติเขาขับรถคนเดียวด้วยนี่นา!
   ผมชักเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข เรื่องพ่อกระแตก็คิดไม่ออกขึ้นมาตะหงิดๆ ปกติก็คิดไม่ค่อยออกอยู่แล้วแท้ๆ มาเจอเรื่องแบบนี้เข้าไปอีก
   เขาหายไปไหนกันนะ
   ผมนึกไปถึงตอนที่เขานอนร้องไห้กอดเสื้อผมไว้ ตอนที่ผมทิ้งเขาไว้ที่ห้องวันนั้น เห็นเขาเงียบๆ แต่ที่จริงแล้วก็ฟูมฟายไม่ใช่เล่นเหมือนกัน แถมเรื่องเมื่อวานนี้ก็........
   ผมร้อนใจจนนั่งไม่ติดที่แล้วจริงๆ ต้องรีบเปิดโทรทัศน์ ดูว่ามีข่าวรถชนอะไรหลุดมาบ้างมั้ย แต่เปิดช่องไหนก็เจอแต่รายการวาไรตี้ สุดท้ายผมเลยออกไปที่ร้านตามสั่งในซอย ไปขอดูหนังสือพิมพ์ว่ามีข่าวรถชนอะไรของเมื่อวานนี้บ้างมั้ย เปิดหาข่าวไป ใจเต้นตึกๆ ไป กลัวจริงๆ กลัวจะเจอข่าวว่าเป็นเขา จนคนที่ร้านข้าวถามผมว่ามีอะไร ผมไม่กล้าตอบเขาไปตรงๆ เลยบอกว่าเป็นห่วงเพื่อนเฉยๆ
   เปิดหาจนหมดฉบับ ผมไม่เห็นชื่อเขาเลย ไม่รู้ว่าพลาดหลงหูหลงตา หรือว่าไม่มี แต่ผมก็โล่งใจหน่อยหนึ่ง จากนั้นก็เดินกลับมาบ้าน กดโทรศัพท์โทรไปที่ออฟฟิศเขาอีกครั้ง
   “คุณอรนภา เจอสุภาพงษ์มั้ย?”
   “อ้อ.. คุณพนิตหรือคะ ดิฉันลองโทรไปที่คอนโดฯเขาแล้ว เห็นว่าเขาเพิ่งกลับไปช่วงเช้า ท่าทาง.... ไม่ค่อยดีอยู่นะคะ เหมือนไปมีเรื่องกับใครมาเลย เห็นว่าหน้าช้ำๆ ด้วยน่ะค่ะ”
   “...........” ผมอึ้งไป เพราะนึกได้ว่าเมื่อวานตบเขาไปแรงมากเหมือนกัน ได้ยินเสียงอรนภาพูดต่อ “ดิฉันเป็นห่วงเขาจัง แต่ว่า... ไม่รู้จะทำยังไงน่ะค่ะ เขาเป็นคนไม่ค่อยพูดเสียด้วย ไม่รู้ว่าเมื่อวานนี้เกิดเรื่องอะไรร้ายแรงกับเขารึเปล่า”
   ผมเม้มปากอย่างครุ่นคิด “เดี๋ยวผมจะเข้าไปดูเขาหน่อยแล้วกัน”
   “จริงเหรอคะ?” อรนภาอุทานออกมา “ขอบคุณนะคะคุณพนิต ฝากหน่อยนะคะ ดิฉันไม่รู้ว่าเขาอยู่ห้องไหน ยังไงถ้ามีเรื่องล่ะก็ รีบโทรมาเลยนะคะ จะได้ช่วยๆ กัน”
   “อืม” ผมตอบรับ แล้ววางสายไป ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ กับกุญแจห้องที่เขาเคยให้ไว้
   หวังว่าเขาคงไม่ทำอะไรบ้าๆ ลงไปแล้วหรอกนะ
--------------------------------------
   ผมนั่งแท็กซี่มาที่คอนโดฯของสุภาพงษ์ พลางคิดว่าถ้าเกิดเขาเป็นอะไรไป ผมควรจะทำยังไง เลยรีบกดเบอร์ศูนย์นเรนทรเตรียมไว้ เอาน่ะ แต่ก็ยังไม่แน่นักหรอกว่าเขาจะยังอยู่ที่ห้อง แล้วเมื่อวานเขาหายไปไหนนะ ถึงกลับห้องเอาตอนเช้าน่ะ ไม่ใช่ว่าแอบไปเมาที่ไหนหรอกนะ
   ผมเคาะประตูห้องเขาพลางนึกสภาพเขาเมาแประเดินมาเปิดประตูแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมา ถ้าเขาถึงกับเมาไม่ได้สติแบบนั้น ก็เป็นผู้ชายที่แย่มากๆ แล้วล่ะ ยังดีนะว่ากลับมาที่คอนโดฯถูก ไม่ถูกรถชนอะไรกลางทาง แย่จริงๆ เลยนะเนี่ย
   เคาะอยู่สักพัก ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบ ผมเลยลองเรียกเขาดู “โจ”
   “...........”
   “โจ!” ผมลองเรียกดังขึ้น แต่ก็ยังไร้วี่แววอะไรเหมือนเดิม บางทีเขาอาจจะเมาหลับไปแล้ว นี่ก็จะเที่ยงอยู่แล้วนี่นะ คิดได้ดังนั้น ผมเลยหยิบกุญแจขึ้นมา ไขประตูเข้าไป
   สิ่งแรกที่ผมเห็นคือ รองเท้าของเขาที่ถอดกองเอาไว้สะเปะสะปะจนผมแทบจะสะดุด พอมองต่อไปอีกนิดก็เห็นแก้วน้ำที่เหลือน้ำอยู่ครึ่งแก้ว กับกระบอกน้ำที่เปิดฝาทิ้งไว้อยู่ เลยไปหน่อยก็เห็นเขานอนพับอยู่ที่โซฟา เมาหมดสภาพอย่างที่ผมคิดไม่มีผิด
   ผมนึกฉุนเขาหน่อยๆ แต่ก็อดเดินเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ เพราะเขานอนพาดลงบนโซฟา แขนตกลงข้างหนึ่ง คอก็พับอยู่ จนผมนึกกลัวว่าเขาอาจจะไม่แค่เมาธรรมดา เขาอาจจะกินยาอะไรเข้าไปด้วยก็ได้
   ไม่นะ!
   พอผมเดินเข้าไปใกล้ ถึงเห็นว่าเขาไม่ได้เมา เพราะตัวไม่มีกลิ่นเหล้าเลย มีกลิ่นเหงื่อนิดหน่อย หน้าเขาซีดจัด แถมเหงื่อออกเต็มไปหมด.... ก็เขานอนทั้งๆ ที่ไม่ได้เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเลยนี่นา ผมรีบเดินไปเปิดหน้าต่าง เปิดพัดลมตั้งพื้น แล้วเข้ามาดูอาการเขาอีกครั้ง
   หน้าเขาซีดจริงๆ แก้มข้างที่โดนผมตบก็กลายเป็นสีม่วงช้ำแล้ว แถมตาเขาก็บวมมาก เหมือนเพิ่งร้องไห้หนักๆ มา ผมเห็นแล้วก็อดปวดอกไม่ได้ นี่เขาหายไปร้องไห้ที่ไหนมาทั้งคืนนะ
   ผมหันมองไปรอบๆ ห้อง นอกจากแก้วน้ำกับกระบอกน้ำที่เปิดทิ้งไว้ ก็ไม่เห็นว่าเขาหยิบจับอะไรอีก เหมือนเขาจะดื่มน้ำ แต่ทานยาอะไรไปด้วยรึเปล่านะเนี่ย
   พอคิดว่าเขาอาจจะกินยาฆ่าตัวตาย ผมเลยต้องเดินมาดูที่ถังขยะ ดูว่ามีซองยาหรืออะไรบ้างมั้ย พอไม่เห็นก็เลยเดินไปดูที่ห้องน้ำ แต่.. ถ้ากินโซดาไฟ เขาน่าจะอาเจียนออกมาแล้วนี่นา สุดท้าย ผมเลยกลับไปดูเขาต่อ เมื่อวานไม่ทันสังเกตหรอกว่าเขาใส่เสื้อผ้าแบบไหน แต่คงไม่ได้เปลี่ยนแน่ๆ
   ผมมองๆ อยู่พัก ก็ตัดสินใจไปหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้ ขยับตัวให้เขานอนสบายขึ้น ก่อนจะกดโทรศัพท์หาอรนภา “คุณอร ผมเจอสุภาพงษ์แล้วนะ เขาไม่สบายน่ะ”
   “อ้อ... เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ?” ปลายสายถามผม ผมมองเขา สักพักก็ตอบคำถามไป “ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าร้ายแรงเดี๋ยวผมจะโทรบอกอีกทีนะ”
   “ค่ะ จะให้ใครไปช่วยดูรึเปล่าคะ?”
   “ไม่ต้องหรอก” ผมว่า เธอบอกขอบคุณผมหลายครั้ง จากนั้นก็วางสายไป ผมหันกลับไปมองสุภาพงษ์อีกครั้ง แล้วถอนหายใจเฮือก
   ให้ตายสิ เมื่อวานเขาไปอาละวาดถึงบ้านผม ต่อยเพื่อนผมเสียหน้าคว่ำ แถมด่าผมแบบนั้นอีก
   ไหนเขาบอกว่าไม่ขี้หึงไงล่ะ
   ผมนึกอยากตีเขาให้ร้องโอ๊ย เพราะเขาพูดอะไรแบบนั้นออกไป ผมเลยต้องเสียใจขนาดเป็นลมหามส่งโรงพยาบาล เขาคิดอะไรของเขาอยู่นะ ทำไมถึงพูดใส่ผมแบบนั้น เขาคงเห็นว่าผมง่ายล่ะสิ บ้าจริง แล้วทำไมผมจะต้องมาดูอาการคนปากเสียแถมใจร้ายอย่างเขาด้วยนะ
   ผมลุกพรวดขึ้น เตรียมจะออกจากห้อง เห็นแบบนี้เขาคงไม่เป็นอะไรมากหรอก ทิ้งไว้คงไม่น่าจะไปคิดสั้นที่ไหน แต่พอผมทำท่าจะหันหลัง ก็ได้ยินเสียงเขาเรียกออกมา “พี่นิต”
   ผมตัวแข็งทื่อ ใจที่น่าจะชาไปแล้วเต้นตึกๆ ไม่ใช่ว่าตื่นเต้นดีใจที่ได้ยินเสียงเขาเรียกนะ แต่นึกทุเรศตัวเองที่ดันถ่อมาเยี่ยมเขา แล้วยังให้เขาจับได้อีก ผมไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้ว ไม่รู้สึกอะไรกับคนที่ทำร้ายความรู้สึกผมอย่างเขาเลยสักนิด
   “ผมขอโทษ...” เขาพูดเสียงพร่า เหอะ! มาขอโทษตอนนี้ก็สายไปแล้วล่ะ ความรู้สึกมันเสียไปแล้วแก้คืนไม่ได้หรอกนะ ผมยืนขบฟันกรอดๆ ฮึดฮัดอยู่พัก ก็คิดว่าควรหันไปด่าเขาให้รู้แล้วรู้เรื่อง เมื่อวานผมโกรธจัดเลยได้แค่ไล่ แต่วันนี้แหละ ผมจะด่าเขา เอาให้เขารู้ว่าผมไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด จากนั้นก็จะได้เลิกวุ่นวายกับเขาสักที
   แต่พอหันหน้ากลับไป ผมถึงเห็นว่าเขาไม่ได้มองผมอยู่
   “ขอโทษนะ ผมขอโทษ” สุภาพงษ์พูดเสียงพร่า น้ำตาไหลอาบแก้ม แต่เขาไม่ได้มองผม... เขาไม่ได้มองใครทั้งนั้น เขาหลับตา แล้วพูดคำพวกนั้นออกมา
   เขากำลังเพ้ออยู่เหรอ?...
   “ขอโทษ... ขอโทษ” เขาครางทั้งน้ำตา แล้วยกมือคว้าสะเปะสะปะไปในอากาศ “ผมขอโทษ...”
   ผมไม่เคยเห็นคนละเมอ ไม่เคยเห็นคนเพ้อกระทั่งต้องนอนละเมอมาก่อน แต่ท่าทางของสุภาพงษ์ทำเอาผมเจ็บจี๊ดที่อก
   เขายกมือคว้าอากาศอย่างคนไม่ได้สติ แล้วครางเสียงสั่นพร่า “ผมขอโทษ.. ฮือ.... ผมขอโทษ... ผมขอโทษ.....”
   คนที่เขาควรจะต้องขอโทษควรเป็นผมซึ่งยืนอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ในฝันเขา แบบนั้นเขาพูดขอโทษสักกี่ล้านครั้งก็ไม่มีทางที่จะถูกยกโทษให้หรอก บ้าจริงเชียว!
   ผมยืนตัวสั่น ตามันเริ่มพร่าๆ เพราะน้ำที่ซึมออกมา มองเขาคว้าความว่างเปล่าแบบนั้นนานๆ ผมชักทนไม่ไหว เลยเดินไปหาเขา ตั้งใจจะปลุกเขาให้ตื่น ให้ลืมตาขึ้นมา ดูว่าผมอยู่ตรงนี้ ผมนี่ที่เขาควรจะขอโทษ แต่พอเดินไปใกล้ มือของสุภาพงษ์ก็หล่นลงมา ก่อนที่เขาจะกอดตัวเองไว้แน่น
   “พี่นิต... พี่นิต......”
   ผมกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ จะอ้าปากพูดก็พูดไม่ออก จะจับลงไปบนตัวเขาก็ไม่รู้ว่าจะจับไปเพื่ออะไร ได้แต่นั่งลง ซบหน้าลงข้างๆ โซฟา ฟังเขาเรียกชื่อผมในฝันด้วยน้ำเสียงปวดร้าว
   “พี่นิต... ผมขอโทษ ผมขอโทษนะ ผมขอโทษ”
   ผมทนไม่ไหว ต้องเงยหน้าขึ้น แล้วไหล่เขาเอาไว้ “โจ... พี่อยู่ตรงนี้”
   สุภาพงษ์หน้าซีดจัด เหงื่อออกเต็มไปหมด เขาหลับตา ขมวดคิ้วด้วยท่าทางน่าสงสาร แล้วพึมพำคำพูดออกมาอย่างไม่ได้สติ “พี่นิต ผมขอโทษ ผมขอโทษจริงๆ”
   ได้ยินเสียงเขาครางฮือ อกผมแน่นไปหมด สุดท้ายต้องจับมือเขามากำไว้ แล้วเรียกชื่อเขาทั้งน้ำตา “โจ”
   สุภาพงษ์สะดุ้งตัวเฮือก จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นมา พอเห็นผมเขาก็กะพริบตาปริบๆ หนสองคน ก่อนจะคว้าตัวผมไปกอดแน่น
   “ขอโทษ” เขาโพล่งออกมา ก่อนจะสะอื้นจนตัวสั่น บ้าจริง อายุปูนนี้แล้วแท้ๆ โตขนาดนี้แล้วแท้ๆ ยังจะ... ยังจะมาร้องไห้แบบนี้อยู่อีก
   แต่ผมพูดว่าอะไรเขาไม่ได้ เพราะผมที่อายุมากกว่าเขาตั้งเยอะ กำลังน้ำตาไหลพรากๆ อย่างห้ามอาการตัวเองไม่อยู่เหมือนกัน
   บ้าจริงเชียว
   สุภาพงษ์กอดผมแล้วร้องไห้อยู่แบบนั้น ส่วนผมก็พูดอะไรไม่ออก บอกไม่ได้ด้วยว่าจะยกโทษให้เขาหรือเปล่า แค่รู้สึกปวดอกแปลบๆ น้ำตาไหลไม่หยุดเท่านั้นเอง
   สุภาพงษ์สะอื้นอยู่พักใหญ่ ก็ทำท่าเหมือนรู้สึกตัวขึ้นมาเสียที เขาปล่อยผม แล้วยันตัวขึ้นมาอย่างเงอะๆ งะๆ สภาพดูไม่ได้เอาเสียเลย หัวก็ยุ่ง หน้าก็โทรม น้ำหูน้ำตาเลอะเทอะไปหมด เขายกมือเช็ดหน้า แล้วถามผมเสียงแปร่ง “พี่นิต... พี่นิต เป็นไงบ้าง”
   ถามมาได้ ผมก็เสียใจน่ะสิ แต่ว่า... ตอนนี้เขาควรจะสนใจสภาพตัวเองมากกว่า
   “โจไม่ต้องร้องไห้ขนาดนี้หรอก” ผมพูด พยายามจะทำเป็นผงเข้าตา ก่อนจะพูดต่อ “มาเสียใจตอนนี้ก็สายไปแล้วล่ะ”
   “.................” สุภาพงษ์มองหน้าผม น้ำตาไหลหยดออกมาอาบแก้มอีก ให้ตายสิ เขาหยุดทำหน้าน่าสงสารขนาดนี้ทีเถอะ นี่ยังเอาไปจากผมไม่พออีกหรือไง
   ผมตั้งใจแล้วว่าจะด่าเขา ให้เขาเข้าใจว่าผมไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด ต่อให้เขามาทำท่าขอความเห็นใจแบบนี้จากผม ก็อย่าคิดว่าผมจะยกโทษให้ง่ายๆ
   สุภาพงษ์เม้มริมฝีปาก เหมือนพยายามจะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา แต่มันก็ยังไหลออกมาอยู่ดีนั่นล่ะ ให้ตายสิ เขาขี้แยมาตั้งแต่เมื่อไหร่นะ
   “ผมขอโทษ” เขาพูดเสียงเครืออีกครั้ง แย่งบทผมอีกแล้ว ผมสิ ผมสิจะต้องพูด พูดว่าเขาที่ทำร้ายจิตใจผม จากนั้นเขาก็ดึงมือผมไปจับ เหอะ! จับผมอีกแล้ว นึกว่าผมง่ายหรือไง
   ผมชักมือกลับ ถลึงตาใส่เขา “ไม่ต้องมาจับพี่”
   สุภาพงษ์ทำหน้าอึ้ง หึ! มาอึ้งอะไร ไม่คิดล่ะสิว่าผมจะทำแบบนี้ ก่อนหน้านี้ที่ยอมให้เขาจับน่ะ...
   “ถ้าโจคิดว่าพี่ง่ายกับใครไปทั่ว โจไม่ต้องมายุ่งกับพี่หรอก”
   ผู้ชายตรงหน้าผมเบิ่งตากว้าง แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไร หรือแทนที่เขาจะอ้าปากพูดอะไรก่อนบ้าง สุภาพงษ์ก็คว้าตัวผมไปกอดอีก
   “ขอโทษ... ผมไม่ได้ตั้งใจ”
   เอ้อเรอะ!! ไม่ได้ตั้งใจแต่เจตนาลึกๆ อยู่ในใจใช่ไหมล่ะ! ผมพยายามจะผลักเขาออก “โจพอเถอะ แค่นี้พี่ก็เห็นแล้วล่ะว่าโจมองพี่ยังไง”
   “พี่นิต!” เขาเรียกชื่อผมเสียงพร่า แต่ไม่ยอมปล่อยผมสักที ผมทั้งผลักทั้งตีเขาแล้ว เขาก็ยังกอดแน่น “ผมขอโทษนะ ผม... ผมคิดว่าพี่จะให้ผมทำแบบนั้นกับพี่ได้คนเดียว..”
   “แบบไหน?!” ผมกระชากเสียงถามเขาทันที สุภาพงษ์อึ้งไปชั่วครู่หนึ่ง “ก็... แบบ...”
   “เล่นจี้เอวกันโจเคยทำด้วยหรือไง!!”









**********************

ขออภัยที่เข้ามาแก้โดนพลการ  แต่คิดว่าถ้าตอนนี้ได้จัดหน้าแบบนี้  อ่านถึงตอนนั้น  คงได้น้ำตาหยด อิอิ

เจ้สอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2012 11:01:23 โดย oaw_eang »

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
   “!!!!???” คราวนี้เขาขยับหน้าหันมามองผมทันที “อะไรนะครับ เล่นจี้เอว?”
   “เออ!” ผมพูดกระแทกเสียงใส่หน้า “พี่เล่นกับเพื่อน มันไปโดนส่วนไหนโจไม่ทราบ”
   “ตะ... แต่พี่นิตเล่นกับเพื่อน มันดู....” เขาตะกุกตะกัก “ดูอย่างกับเขาจะกดพี่นิตบนเก้าอี้แน่ะ”
   “บ้าเรอะ!!” ผมตาวาดแว้ด “คนหัวเราะจะตายแล้ว โจเห็นเป็นงั้นได้ไง สมองโจคิดอะไรอยู่น่ะ!!”
   “ขอโทษนะครับ!” เขาโพล่งออกมาอีก “ผมขอโทษ ตะ... แต่ แต่พี่นิตอย่าไปเล่นแบบนี้กับคนอื่นอีกได้ไหม?”
   “นี่!” ผมขึ้นเสียงอีก “ชีวิตพี่นะ พี่จะเล่นอะไรกับใครมันก็เรื่องของพี่ โจมีสิทธิ์อะไรมาสั่งห้ามพี่น่ะ!!”
   สุภาพงษ์ดูอึ้งๆ ไปอีก แต่ผมเนี่ย เดือดปุดๆ เลย นี่ชีวิตผมนะ เขาเจ้ากี้เจ้าการมาสั่งโน่นสั่งนี่ได้ไง
   “ตะ... แต่” สุภาพงษ์ตะกุกตะกักขึ้นมาอีก เหอะ! จะแต่อะไรอีกล่ะ พูดม้าๆ ล่ะก็ ผมจะด่าให้น้ำตาร่วงหนักกว่านี้เลย
   “แต่พี่นิตชอบผมคนเดียวใช่มั้ย?”
   “!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ผมถลึงตามองเขา นี่เขานึกบ้าอะไรพูดแบบนี้ออกมาน่ะ เขาทำผมเจ็บแทบตาย ทำผมปวดอกแทบตาย ยังจะ... ยังจะกล้ามาพูดแบบนี้ใส่ผมอีก
   “พี่นิตอย่าเกลียดผมนะ”
   นั่น ผมยังไม่ทันได้อ้าปาก เขาก็แย่งพูดอีกแล้ว ผมทนไม่ไหว ต้องทุบเขาไป “เด็กบ้า!”
   เขากอดผมแน่นกว่าเดิม “ชอบผมนะ”
   โอ๊ย!! นี่เขาร้องไห้จนสติเลอะเลือนหรือไง เขาทำกับผมขนาดนี้ ยังจะให้ผมชอบเขาอีกเหรอ ผมทุบหลังเขาอีกหลายครั้ง ดึงปึ๊กๆ เลย
   “พี่ไม่ชอบ ไม่ชอบหรอก ไม่ชอบเด็กปากร้ายนิสัยเสียแบบนี้หรอก”
   สุภาพงษ์กอดผมแน่นจนแทบหายใจไม่ออก นี่กะจะเอาให้ตับไตไส้พุงผมทะลักออกมาเลยหรือไงน่ะ!
   “ขอโทษนะครับ ผมจะไม่ปากร้าย ผมจะไม่นิสัยเสียกับพี่นิตอีกแล้ว”
   ผมฮึดใจ ทุบเขาแรงๆ อีกที “พี่ไม่เชื่อหรอก โจเคยบอกพี่ว่าไม่ขี้หึง โจยังขี้หึงเลย”
   ผู้ชายตัวใหญ่ที่ทำท่าเหมือนจะรัดผมจนตับหลุดออกมาชะงักไปหน่อยหนึ่ง เหอะ! นั่นไงล่ะ รู้ตัวแล้วล่ะสิว่าพูดเรื่องโกหกใส่ผมน่ะ ผมได้ทีรีบพูดต่อ “คิดจะมาเป็นแฟนพี่ ถ้ายังรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ล่ะก็ ไม่ต้องมายุ่งหรอก”
   “............................”
   “อุ๊!” ผมต้องอุทานออกมา เพราะเขารัดแน่นยิ่งกว่าเดิมอีก จากนั้นก็พูดตะกุกตะกัก “ถะ... ถ้ารับได้... พี่นิตให้ผมเป็นแฟนนะ นะ”
   ผมถูกกอดจนพูดไม่ออก ต้องออกแรงผลักเขาเป็นการใหญ่ “เด็กบ้า ปล่อยพี่นะ จะฆ่ากันหรือไง”
   “พี่นิต” เขาพูดเสียงตื่นเต้น “ให้ผมเป็นแฟนนะ ผม... ผมจะไม่โมโหพี่แล้ว ผมขอโทษนะ”
   ผมทุบเขาป้าบใหญ่ เสียงดังดี แต่ผมเจ็บมือชะมัดเลย “ไม่ พี่ไม่เชื่อโจแล้ว พี่ไม่อยากเสียใจอีกแล้ว”
   สุภาพงษ์อึ้งไปอีก สักพักก็พูดออกมา “พี่นิต... ขอโอกาสผมอีกครั้งเถอะ”
   “ไม่!”
   “..............”
   “โจทนได้หรือไง พี่ไม่มีเวลามาดูแลโจ ไม่มีเวลามาใส่ใจโจอย่างที่คนเป็นแฟนกันเขาทำหรอกนะ พี่จะคุยเล่นกับเพื่อน จะไปค้างบ้านใคร พี่ไม่บอกโจหรอกนะ พี่อยากทำอะไรพี่ก็ทำ พี่ไม่อยู่ตัวติดกับโจยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอก”
   “ตะ... แต่พี่นิตจะไม่ทำอะไรกับคนอื่นอย่างที่ทำกับผมใช่มั้ย?” สุภาพงษ์พูด แล้วเงยหน้ามามองผม เลยโดนผมตบอีกที คราวนี้ผมเล็งดี ตบอีกข้าง แก้มเขาจะได้ช้ำพอกัน
   “ถ้าคิดว่าพี่ง่ายขนาดนั้นล่ะก็ เลิกยุ่งกับพี่เถอะ เราจะได้ไม่ต้องเสียน้ำตาอีก”
   ผู้ชายตัวใหญ่ที่โดนตบจนแก้มอีกข้างเห่อขึ้นมา สั่นศีรษะดิกๆ “ผมขอโทษนะครับ ขอโทษนะ”
   ผมหันหน้าไปทางอื่นเสีย เพราะผลักก็แล้ว ตีก็แล้ว ตบก็แล้ว เขาไม่ยอมปล่อยผมสักที ให้ตายสิ จะยึดอะไรผมนักหนานะ
   “ให้โอกาสผมอีกครั้งนะ”
   “......................”
   “นะครับ... ชีวิตนี้ผมรักพี่ได้คนเดียวจริงๆ”
   ผมตัวสั่นนิดๆ บ้าจริง อย่ามาพูดอะไรน้ำเน่าแบบนี้กับผมได้มั้ยเล่า!
   “ถ้าโจทำนิสัยแบบนี้อีก ไม่ต้องกลับมาให้พี่เห็นหน้าแล้วนะ พี่ไม่ให้อภัยโจแล้ว”
   สุภาพงษ์ทำหน้าตื่นๆ ก่อนจะเม้มปาก แล้วพยักหน้า “ครับ ผม... ผม.... ผม.....”
   เขาพูดเป็นติดอ่างอยู่พักใหญ่ หน้าแดงจัดเลย ผมรออยู่ว่าเขาจะพูดอะไร แต่ดูเหมือนเขาจะพูดไม่ออกสักที เลยเปลี่ยนเป็นดึงผมเข้าไปกอดอีกครั้ง
   “พี่นิต... ขอบคุณนะ... ขอบคุณ”
   “..............” บ้าจัง ผมน่ะเป็นฝ่ายถูกกระทำแท้ๆ โดนเขาด่า โดนเขาดูถูก แถมยังโดนเขาหลอกล่อจนต้องมายอมตกลงพูดอะไรแบบนี้อีก แต่ไม่รู้ทำไม พอเห็นเขาทำท่าดีใจกับคำพูดของผมขนาดนี้ ผมอดสะท้อนใจขึ้นมาไม่ได้
   นี่ถ้าผมเป็นคนนอก แล้วเห็นเขามาหลงชอบอะไรคนแบบผมล่ะก็ ผมยุให้เขาเลิกยุ่งไปแล้วล่ะ
   เขา... เขาจะทนผมได้จริงๆ เหรอ นิสัยแบบผม ท่าทางแบบผม... เขาจะไหวเหรอ.... แล้วผมจะทนเขาไหวมั้ย ถ้าเขาทำแบบนั้นอีกล่ะ ผมคง....
   จู่ๆ น้ำตาผมก็ร่วงผล็อยออกมาอีก บ้าจริง! ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ เมื่อคืนผมอุตส่าห์บอกตัวเองเสียดิบดี ว่าต่อไปนี้จะไม่ให้ใครเข้ามาทำผมเจ็บอีก ผมอุตส่าห์ก่อกำแพงเสียดิบดี กะว่าไงๆ ก็จะไม่ยอมอีกแล้ว แต่....... แต่แค่เจอเขาร้องไห้ แค่เจอเขาอ้อนแค่นี้ ผมก็..........
   “โจ... อย่าทำแบบเมื่อวานกับพี่อีกนะ” บ้าเอ๊ย ทำไมผมต้องพูดแล้วน้ำตาไหลขนาดนี้ด้วยนะ สุภาพงษ์เงยหน้าขึ้นมา พอเห็นหน้าผมเขาก็น้ำตาร่วง แล้วรีบกอดผมอีก “ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว ผมจะไม่ทำอะไรให้พี่เสียใจอีกแล้ว”
   ผมน้ำตาไหลอีก นี่เขาเก่งเรื่องทำใหผมขี้แยไปตามเขาด้วยหรือไง เขากอดผมสักพัก ก็พูดออกมา “พี่นิต.... ตกลงเป็นแฟนผมนะ”
   “ไม่!”
   “..........”
   “ขนาดพี่ไม่เป็นแฟนโจ พี่ยังเจ็บขนาดนี้เลย ถ้าพี่เป็น...”
   “..............”
   “พี่ไม่เป็นหรอก”
   “ตะ... แต่พี่ยังชอบผมอยู่ใช่มั้ย?”
   “?!” อะไรน่ะ ทำไมถึงต้องใช้คำว่ายังชอบด้วยล่ะ หมายความว่าไง หมายความว่าก่อนหน้านี้เขารู้ว่าผมเคยชอบขางั้นเรอะ!?
   ผมยังไม่ทันได้อ้าปาก สุภาพงษ์ก็กอดผมแน่นขึ้นอีก “ไม่เป็นไร ให้พี่นิตชอบผมก็พอ”
   “ไอ้!” นานๆ ผมอยากจะด่าคนด้วยคำไม่สุภาพนะเนี่ย แต่โอ๊ย! เขากอดแน่นอย่างกับจะรัดผมให้ตาย นี่ผมโทรเรียกศูนย์นเรนทรหรือป่อเต๊กตึ๊งให้เขาคีมตัดเหล็กมางัดแขนเขาออกได้มั้ย ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองแรงมากอย่างกับอะไร
   โชคดีที่ก่อนผมจะขาดอากาศตาย เขาก็ยอมคลายวงแขนออกเสียที ก่อนจะขยับมามองผมด้วยหน้าโทรมๆ ขอบตาบวมๆ แก้มช้ำๆ สองข้าง ด้วยสายตาที่แสดงอาการดีใจอย่างปิดไม่อยู่
   “พี่นิต... ผมรักพี่นะ รักพี่คนเดียว”
   ผมไม่รู้จะทำไงแล้ว จะเอาหน้าซุกไหล่เขาก็ไม่ทัน จะหนีออกจากวงแขนเขาก็งัดไม่ออกสักที จนเขา... เขาขยับมาจูบผม
   นี่ผมง่ายอีกรึเปล่านะ
   “โจ...” ผมพูด หลังจากเขาผละริมฝีปากออก คราวนี้เขาแค่เม้มลงมาเบาๆ ไม่ได้ใช้ลิ้นหรืออะไรอย่างคราวก่อนแล้ว
   “ครับ”
   “พี่เคยจูบกับโจคนเดียวนะ... พี่จะไม่จูบกับคนอื่นอีกแล้ว”
   “............”
   “เรื่องวันนั้น ก็ครั้งแรกของพี่นะ พี่ไม่มีครั้งที่สองกับใครอีกแล้ว”
   “....................”
   “พี่ไม่ใจง่ายกับใครหรอกนะ”
   สุภาพงษ์เม้มปาก ดึงผมไปกอดอีก “ขอบคุณนะพี่นิต ผมรู้แล้ว ผมขอโทษจริงๆ ผมรู้แล้วว่าพี่ชอบผม ผม.... ผม........”
   จากนั้นเขาก็หอมแก้มผม จูบปากผมเบาๆ อีกครั้ง ผมล่ะแทบน้ำตาร่วงออกมา
   ไม่ใช่ว่าดีใจอะไรหรอกนะ ผมเสียใจน่ะ เสียใจที่กำแพงที่ผมอุตส่าห์ก่อไว้อย่างดี มันไม่ได้ช่วยกั้นเขาได้เลย ไม่รู้เขามุดรอยแยกเข้ามาในกำแพงใจผมตั้งแต่เมื่อไหร่ บ้าจัง นี่ผมไม่รู้ตัวเลยว่าเขากลายมาเป็นส่วนหนึ่งในโลกบิดๆ เบี้ยวๆ ของผมแล้ว
   เขาจะทำลายโลกเบี้ยวๆ ของผมอีกรึเปล่า ผมไม่รู้ คำพูดของเขาเชื่อได้แค่ไหน ผมไม่รู้เลย แล้วผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เขาจะทนอยู่ในโลกเบี้ยวๆ ของผมได้อีกนานแค่ไหน เขาจะมั่นคงกับคำพูดของตัวเองไปนานขนาดไหน
   ถ้าวันหนึ่งเขาเกิดทนผมไม่ได้ หรือผมทนเขาไม่ได้ล่ะ?!
   ผมขยับตัวมามองหน้าเขาชัดๆ อืม... โทรมจริงๆ เลยนะ ถ้าไม่อคติก็คงพอรู้ว่าเขาคงเสียใจไม่แพ้ผม บ้าจริงเชียว แบบนี้ผมคงจะไล่เขาออกจากใจไปไม่ได้ง่ายๆ แน่ๆ แต่ถ้าจะให้เขาเข้ามาลึกเกินไปมันก็เสี่ยง...
   เพราะงั้น.... ลองทอดเวลาออกไปหน่อยแล้วกัน ดูอาการของเราไปอีกสักระยะ ดูว่ามันจะไปในแนวทางไหนกันแน่ แล้วถ้ามันไม่ไหวจริงๆ ก็ค่อย.....
   ผมยกมือขึ้นปัดผมเขาออก เช็ดน้ำตาให้เขา ลูบแก้มเขาที่โดนผมตบ สุภาพงษ์เงยหน้ามองผม ก่อนจะพูดเสียงพร่า “พี่นิต...”
   ผมหลับตา จากนั้นเขาก็จูบมาอีกครั้ง
   บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องราวที่มีผมกับเขาเป็นตัวเอก เราสองคนผลัดกันเขียนเรื่องคนละบท ไม่รู้ว่าตอนจบเขาจะได้เป็นพระเอกหรือผู้ร้าย แล้วก็ไม่รู้ว่าผมจะได้ครองตำแหน่งอะไร
   ผมเดาไม่ออกว่าเรื่องนี้จะจบยังไง จะสุขหรือจะเศร้า จะโศกจะเหงา หรือจะตื่นเต้นสดใส
   แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจเท่าไหร่ เพราะเรื่องนี้เริ่มต้นเมื่อตอนไหน ผมเองก็ยังไม่รู้เลย บางทีมันอาจจะไปต่อเรื่อยๆ อย่างไม่มีวันจบสิ้นก็ได้
   ก็นี่มันเรื่องราวชีวิตผมกับเขา ไม่ใช่เรื่องราวในนิยายนี่นา...
   ตอนจบจะเป็นยังไง คงต้องรอให้ผมกับเขาช่วยกันเขียนต่อไปล่ะมั้ง
----------------------------------------

** เอ่อ.... พอเขียนถึงตอนนี้แล้ว พอลงประโยคสุดท้ายปุ๊บ คำว่า "จบ" มันก็โผล่มาในหัวเราะทันที จนอยากจะ... อยากจะพิมพ์ลงไปท้ายตอนจริงๆ ว่า"จบ" แต่!! ถ้าเราพิมพ์ลงไปล่ะก็ จะต้องถูกคนอ่านกระทืบแน่ๆ เลย :a5: (อ้อ! รู้ตัวนี่!!!)

งั้น... ยังไม่จบก็แล้วกัน (แหะๆ)

อันที่จริงเรื่องนี้เริ่มต้นแบบหลวมๆ ถือว่าเป็นนิยายที่เราทำโครงไว้หลวมมาก-มากที่สุด (น่าเสียใจและเพลียใจจริงๆ) ตอนแรกคิดว่าคงไม่ยาวมาก เพราะเรื่องไม่มีอะไร หลวมโพรก ก็แค่นายซึนสองคนมาเจอกัน สุดท้ายเดี๋ยวก็(น่าจะ)รักกัน แต่ทว่า!! เรื่องราวมันดันยืนยาวกว่าที่เราคาดเอาไว้!!! เพราะความหลวม(ของโครงเรื่อง) และความอายุมากของคุณพนิตแท้ๆ!! เออ ของนายโจด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆ ลืมไปเลยว่าความสัมพันธ์เฉื่อยๆ แบบนี้มันต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ (นั่นแปลว่าใช้จำนวนหน้าเข้าช่วยนั่นเอง!!)

แล้วคนอย่างพี่นิตก็ใช่ว่าจะมีบทสรุปอะไรตายตัวกับเขา แต่... แต่...... แต่เราก็ได้เขียนฉากธรรมดาที่สุด ที่ยังอึ้งตัวเองว่าเขียนลงไปได้ยังไงในบทที่16

อันที่จริงไม่ใช่คนที่ชอบเขียนดราม่าที่มีการเข้าใจผิดระหว่างพระเอกนางเอกเนื่องจากมีมือที่สามมาเกี่ยวข้อง ทำนองว่าทำท่าให้ชวนเข้าใจผิดแบบ.... ละครไทยอย่างนี้มาก่อนเลย (ช็อกกับตัวเองสุดๆ o22)

แต่เนื่องจาก... เนื่องจาก..... เนื่องจาก!!! เนื่องจากเราอยากเห็นดราม่า (โห...) และ เราอยากปล่อยบทให้คุณภูมิ กับนายกั้ง (อ้าว ไหนบทนายกั้งวะ... ลืมแล้ว ฮ่าๆ) เราก็เลย... ก็เลยจัดไป (เพราะจะทำให้พิศดารแบบเรื่องอื่นมันก็Epic อลังการ ไม่เข้ากับเนื้อหามากไป เอาวะ ขอธรรมดาสักเรื่องก็ได้ (โอ๊ย ช็อก... ช็อกค่ะช็อก!!)

สรุป... สรุปว่ายังไม่จบ ฮ่าๆๆๆ

ส่วนใคร ที่ลุ้นจะหาพระเอกให้นายกั้ง กับหานายเอกให้คุณภูมิ มีลุ้น!!(แต่อาจจะเรื่องอื่น)

แอบคิดเนื้อเรื่องคู่นี้ไว้นิดๆ แระ รับรองไม่ธรรมดา ฮ่าๆๆๆๆ :laugh: (หัวเราะเสียสติ)

ส่วนพี่นิต กับนายโจ.... ปัดมดๆๆๆๆ โอ๊ย มดกัด (อันที่จริงแรกเริ่มเดิมที ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะมีดราม่ารุนแรงขนาดนี้นะเนี่ย แต่ว่า... ก็เขียนไปแล้วน่ะนะ แหะๆ)

โอย.. แลดูเพ้อเจ้อ ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ^^

****ต่ออีกนิด... สงสารพี่นิตอ่ะ... อุตส่าห์ก่อกำแพง ทำ่่ท่าจะพาดคาน... คาดไม่ถึง โจไม่ต้องฝ่ากำแพงแล้ว เพราะเข้ามาเรียบร้อยแล้ว โถ... พี่นิต เหนื่อยฟรีเลยอ๊า แพ้ใจโจไปนานแล้ว ไม่รู้ตัว!! :-[

ดังนั้น นายโจ ถ้าไม่รักษาน้ำใจพี่นิตอีกล่ะก็ แกตายแน่ ฉันจะเด้งแกออกจากตำแหน่งพระเอก ยกคานมาหามพี่นิตแทน.. ให้พี่นิตนั่งคานสมใจ แล้วให้นายโจน้ำตาตกใน (พร้อมคนอ่าน<<โดนเตะ :z6:) โจจ๋า รักถนอมพี่นิตให้มากกว่านี้อีกนะจ้ะ.. เพราะอย่างพี่นิต ไม่มีขายแล้วนะ เพราะเป็นของเออเร่อ หายากหาเย็น ได้ยากได้เย็น ได้มาแล้วต้องรักษาดีๆ เพราะพังง่าย เนื่องจากมีอายุการใช้งานมานานแล้ว (แต่เรื่องอย่างนั้น ยังใหม่อยู่ ว๊ายย โจอ๊ะ!!<<อีนี่เป็นอะไรมากไหม)

 :L2: :L2: :L2: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-01-2012 10:14:00 โดย juon »

ออฟไลน์ misso

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ดีใจจริงๆ ที่มาต่อ ขอบคุณมากๆ ที่ไม่ให้เขาดราม่ากันต่อ  :กอด1:

พออ่านใกล้จะสุด เริ่มตัวเกร็ง เฮ้ยๆ อย่าบอกนะจะจบน่ะ รูปประโยคชักทะแม่งๆ สุดท้ายโล่งใจที่ยังไม่จบมาก อยากอ่านเรื่องนี้อีกนาน อยากเห็นพี่นิตโก๊ะๆ กับนายโจมาดแบดบอย!! ฮ่าๆ เอาเป็นว่าอยากอ่านต่อค่ะ ^^

อันนี้

“บ้าเรอะ!!” ผมตาวาดแว๊ด “คนหัวเราจะตายแล้ว โจเห็นเป็นงั้นได้ไง สมองโจคิดอะไรอยู่น่ะ!!”

ตวาดแว้ด และ หัวเราะจะ ใช่มั้ยคะ

แล้วก็

โจจ๋า รักถนอมพี่นิตให้มากกว่านี้อีกนะจ้ะ.. เพราะอย่างพี่นิต ไม่มีขายแล้วนะ เพราะเป็นของเออเร่อ หายากหาเย็น ได้ยากได้เย็น ได้มาแล้วต้องรักษาดีๆ เพราะพังง่าย เนื่องจากมีอายุการใช้งานมานานแล้ว (แต่เรื่องอย่างนั้น ยังใหม่อยู่ ว๊ายย โจอ๊ะ!!<<อีนี่เป็นอะไรมากไหม)

เออเร่อ = urror = ผิดพลาด >> พี่นิตเป็นของผิดพลาด :jul3:

แซวเล่นนะคะ จะได้จิ้มมั้ยลุ้นๆ :z13:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-01-2012 08:29:54 โดย misso »

ออฟไลน์ Anonymus

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-1
อ้างถึง
** เอ่อ.... พอเขียนถึงตอนนี้แล้ว พอลงประโยคสุดท้ายปุ๊บ คำว่า "จบ" มันก็โผล่มาในหัวเราะทันที จนอยากจะ... อยากจะพิมพ์ลงไปท้ายตอนจริงๆ ว่า"จบ" แต่!! ถ้าเราพิมพ์ลงไปล่ะก็ จะต้องถูกคนอ่านกระทืบแน่ๆ เลย :a5:  (อ้อ! รู้ตัวนี่!!!)

คิดเหมือนกันเลยค่ะ แต่ถ้าจบดื้อๆแบบนี้ คงมีการนอยด์กันกระจาย เพราะพี่นิตยังไม่โดนกดเลย

อุ๊บ! พูดอะไรออกไป (เขาเลยรู้กันหมดว่ารออะไรอยู่ แหะๆ)

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อยากดูวันที่เข้าใจกันจริงจังซะที
ตอนนี้มันแบบเริ่มต้นจะปรับตัวเข้าหาอีกฝ่าย ถึงจะรักแล้วแต่ยังไม่เห็นเข้าใจกันซะที
ลุ้นจนรอยย่นจะขึ้นบนหน้าผากแล้วค่า

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
จบตอนนี้ละโดนแน่  :z6: อุ๊ยลืมตัว มาต่อไวๆนะคะ

ออฟไลน์ ooopimmyooo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
โฮ้วววววววววววววว
คุณพนิตใจร้ายจัง ทุบโจจนช้ำไปหมดแล้ว
โจก็อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ สงสารคนมีอายุเค้าบ้าง
ฮ่าๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
ว่ากันตามตรง...เอาท์ออฟออร์เดอร์มันทั้งสองคน ทั้งพี่นิตทั้งโจ
หาซื้อก็ซื้อไม่ได้...จะขายก็ของดันหมด :laugh:

โอ๊ย ดีใจมากเลยค่ะไม่คิดว่าจะได้อ่านคุณพนิตเร็วแบบนี้ เพราะเมื่อวานยังเพิ่งอ่านตอนที่แล้วไปอยู่เลย อ๊าย
มันน่าดีใจยิ่งนัก (ขอนอกเรื่อง ระบายความฟินของตัวเองก่อนค่ะ ฮ่าฮ่า)


ตอนนี้ไม่มีอะไรจะแซว
เพราะพอดีว่าคุณพนิตไม่ได้จบวิศวะโยธา ก่อร่างสร้างตึก ก่อกำแพง(เมืองจีน) ทั้งที เลยไม่ค่อยได้มาตรฐาน
ไร้การผ่านคิวซี...เพราะฉะนั้น มันจะมีรูรั่ว รอยแตก รอยแยก จนคนตัวใหญ่ๆอย่างนายโจเล็ดลอดเข้ามาได้
ก็ถือว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรนะคะ
ถ้าเกิดพี่นิตจบวิศวะจริงๆ แล้ว นายโจยังรอดกำแพงอิฐที่พี่นิตก่อมาได้...หนูจะไปฟ้องปวีณา!
เฮ้ย ไม่ใช่! ไปฟ้อง สคบ. (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) แต่ พี่นิตอาจจะมี สคบ. ไม่เหมือนคนอื่น

สคบ. = สุภาพงษ์คนบ้า~~~

(ก๊ากกกก ยังจะเล่น)


กลับเข้าเรื่องดีกว่า...นั่งเลยป้ายมานาน
ตอนนี้ น้ำตาไหลพรากๆตามคุณพนิตเลยค่ะ
ยิ่งตอนที่พี่นิตเข้ามาเห็นสภาพโจ นอนแหม็บไร้สติสตางค์อยู่กับโซฟา
เวลามีปัญหาพี่นิตชอบใช้มุกเป็นลม แต่พอโจเจอปัญหาบ้าง โจก็ใช้มุกป่วย เข้ากั๊นนนนเข้ากัน
แนะนำถ้าสองคนนี้แต่งงานกัน ควรสร้างเรือนหอเป็นโรงพยาบาลค่ะ ก๊ากกกกก
เผื่อพี่นิตเป็นลมก็แอดมิตเลย...ถ้าโจป่วยก็ไปจองเตียงใน รพ. ข้างๆพี่นิตอีกที คงเข้าท่าแฮะ!

ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก


นั่นไง...เลยป้ายอีกละ..
นอกจาก นายโจ และ พี่นิต จะเอาท์ออฟออร์เดอร์
คนอ่านยังชอบนั่งเลยป้ายตลอด ก๊ากกก ว่าจะเม้นท์เข้าเนื้อเรื่อง แต่ไหงจบประโยคไปโผล่เรื่องโรงพยาบาล-"-

นั่งแท๊กซี่วนกลับมาใหม่(เปลืองเงินเยอะนะเนี่ย)

ตอนนี้เห้นใจทั้งโจ ทั้ง คุณพนิตเลยล่ะค่ะ
พี่นิตว่าใจแข็ง...แข็งจริง พอเจอโจ ก็แข็งจริง....แข็งยวบยาบเลยล่ะค่ะก๊ากกกกกกก o22
ชอบตอนที่สองคนนี้ง้อกันมาก มันไม่มีอารมณ์งุ้งงิ้งง้องแง้ง แบบเด็กๆเลย เค้าง้อกันได้แบบผู้ใหญ่มากเลยอ่าค่ะ
ไม่ใช่แบบ ตัวเอง ง้อแล้วน้า...ไม่ๆ เค้าไม่หายงอน อะไรเทือกนี้ ไม่มีการตีแป๊ะๆ บอกให้รู้ว่าไม่พอใจ
เพราะพี่นิตของเรานั้นไซร้ ฟาดโจอย่างกับตบวอลเลย์บอล...
คนนะคะพี่นิต ไม่ใช้ลูกวอลเลย์ ตบข้างนึงบวมไปละ เล็งตบอีกข้าง หวังดีกะให้บวมเท่ากันว่างั้น? ฮ่าาา
โจเองก็พอกัน พี่นิตเค้าไม่ได้ตัวใหญ่ถึกทึน นะค้า กอดที เดี่ยวกระดูกกระเดี้ยวหักขึ้นมา ได้หามส่งโรงบาลอีกนะ(วนกลับมาที่โรงบาลอีกครั้ง ก๊ากกกกก)

รัดอยู่นั่นเองพี่นิตน่ะ...สงสัยชาติที่แล้วนายโจเกิดเป็นงู...ชอบรัดพี่นิตจริงๆ ก๊ากกกกก :laugh:

อ้างถึง
   “พี่เคยจูบกับโจคนเดียวนะ... พี่จะไม่จูบกับคนอื่นอีกแล้ว”
   “............”
   “เรื่องวันนั้น ก็ครั้งแรกของพี่นะ พี่ไม่มีครั้งที่สองกับใครอีกแล้ว”
   “....................”
   “พี่ไม่ใจง่ายกับใครหรอกนะ”

ขอเลย ประโยคเด็ด แบบเด็ดสุดๆ อ่านประโยคนี้แล้วโลกก็พลันกลายเป็นสีชมพู๊วววววววววววว :-[

เฮ้อออ เกิดเป็นนายโจนี่มันน่าอิจฉาจริงๆเลยน้าาาาาา
(จากคนที่แอบชอบคุณพนิตมาเนิ่นนานนนนนนนนน)


ปล. ติดตามเรื่องนี้เสมอคะ...ถึงจะบอกว่าเรื่องนี้เรื่อยๆหลวมๆ แต่คนอ่านก็ติดตามเรื่องนี้มาตลอด แบบตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นเรื่องนี้อัพค่ะ

ปล2. ตอนนี้เพื่อนๆในกลุ่ม ถามถึง "คุณพนิต" ทุกวันเลยค่ะ....ถามว่า "คุณพนิตนี่ใครวะ? เห็นพูดถึงตลอดเลย"
ก็ทำได้แค่ตอบไปว่า คุณพนิตเป็นนักเขียน....ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :laugh:
(เพราะบ่นทั้งใน เฟส ทั้งในทวิตเตอร์ ทั้งบ่นจากปากเองเลย พอพูดถึงปุ๊บ ทุกคนก็จะถามเลย เออ เห็นแกพูดถึงบ่อยๆ คุณพนิตเป้นใครวะ? ฮ่าฮ่า รักคุณพนิตมากกกกก)

ปล3. ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้มากๆเลยนะค้า...ขอบคุณสำหรับนิยายทุกเรื่องของคุณจูออนเลยค่ะ!

ปล4. ตอนนี้แอบหวังว่าจะเห็นกั้งอยู่กับโจนะเนี่ย (บ้า! จะให้เกิดเรื่องดราม่าอีกเรอะ!) :z6:

ปล5. รอเรื่องของกั้งกับคุณภูมิอยู่นะคะ อิอิ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ค่อยยังชั่ว โจทลายกำแพงได้  :m4:

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
คู่นี้ยังต้องปรับตัวกันอีกเยอะะะเลย
เพราะพี่นิตแกอาร์ตตต น้องโจก็แอบติสท์อีก

เห็นด้วยกับคุณ ryoko_chan สงสัยสองคนนี้ต้องไปปลูกเรือนหอข้างรพ.นะ
กร๊ากกกกก

ดีใจที่เรื่องยังไม่จบนะคะ ยังอยากอ่านคู่นี้ไปอีกนานๆ อยากคอยช่วยลุ้นช่วยกันเป็นลมไปกับพี่นิตต่อไป
ถ้ามาจบเอาตอนนี้ต้องรู้สึกว่ายังไม่ฟินแน่ๆเลย
(ตอนอ่านมาถึงวรรคท้ายๆนี่กลัวเกือบตายว่าจะจบแล้วเรอะ แบบไม่มีสัญญาณอ่ะ! =[]=)

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
อ่านๆลงมากลัวจะจบแค่นี้เหมือนกันดีนะ ที่ยังมีต่อ ฮิฮิ

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
แอบรู้สึกว่าพี่นิตใจอ่อนง่ายไปหน่อย
อาจมีโกรธหรือมีงอนไอีกนิด เพราะคำพูดของโจมันก็ดูร้ายแรงพออยู่
แต่โจก็อ้อนซะ ฮึ้ย น่ารักมากอ่ะ
ลูกหมาขี้อ้อนกลับมาแล้ว
เย้

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
ดีแล้วค่ะ อย่าพึ่งจบเลยน๊า อยากอ่านไปเรื่อย ๆ ^^ :3123:


ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
คิดอยู่ว่า พี่นิต โกรธคราวนี้ นายโจตั้งใช้เวลาง้อนานแน่ๆ
แต่ที่ไหนได้ขณะที่พี่นิตก่อกำแพง นายโจก็ยืนมองพี่นิตก่อกำแพงอยู่ข้างหลังนั่นเอง(คือนายโจมันมายืนอยู่ในกำแพงนานแล้ว) แต่พี่นิตไม่รู้ตัวนั่นเอง  อะนะตามประสานายเอกผู้จิตใจดีและอ่อนต่อโลก

ปล.นายเอกของคุณภูมิก็นายกั้งไง น่ารักดีออก

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
เรื่องราวของทั้งคู่ถึงแม้ว่าจะดูเรื่อยๆ แต่มันก็กินใจมากเหมือนกัน
โดยเฉพาะสองตอนหลังนี้บีบหัวใจมากมาย

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
เหมือนจะเป็นตอนจบ แต่ยังไม่จบก็ดีแล้ว :laugh:
อยากให้มดมาขึ้นพี่นิตกับคุณโจ หุหุ o18

ออฟไลน์ taran

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 325
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
นึกว่าจะจบซะอีก ตกใจหมดเลย

อยากรู้ว่าต่อไป บทละครชีวิตของนักเขียนคนนี้จะเป็นยังไง แล้วคุณภูมิอีกล่ะ รายนั้นน่าสงสารนะ
ชอบเขามาตั้งหลายปี แต่ไม่ได้ครอบครอง จะมีใครมาช่วยดามหัวใจหนุ่มใหญ่คนนี้ไหมเนี้ย ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
ดีใจจริงๆ ที่มาต่อ ขอบคุณมากๆ ที่ไม่ให้เขาดราม่ากันต่อ  :กอด1:

พออ่านใกล้จะสุด เริ่มตัวเกร็ง เฮ้ยๆ อย่าบอกนะจะจบน่ะ รูปประโยคชักทะแม่งๆ สุดท้ายโล่งใจที่ยังไม่จบมาก อยากอ่านเรื่องนี้อีกนาน อยากเห็นพี่นิตโก๊ะๆ กับนายโจมาดแบดบอย!! ฮ่าๆ เอาเป็นว่าอยากอ่านต่อค่ะ ^^

อันนี้

“บ้าเรอะ!!” ผมตาวาดแว๊ด “คนหัวเราจะตายแล้ว โจเห็นเป็นงั้นได้ไง สมองโจคิดอะไรอยู่น่ะ!!”

ตวาดแว้ด และ หัวเราะจะ ใช่มั้ยคะ

แล้วก็

โจจ๋า รักถนอมพี่นิตให้มากกว่านี้อีกนะจ้ะ.. เพราะอย่างพี่นิต ไม่มีขายแล้วนะ เพราะเป็นของเออเร่อ หายากหาเย็น ได้ยากได้เย็น ได้มาแล้วต้องรักษาดีๆ เพราะพังง่าย เนื่องจากมีอายุการใช้งานมานานแล้ว (แต่เรื่องอย่างนั้น ยังใหม่อยู่ ว๊ายย โจอ๊ะ!!<<อีนี่เป็นอะไรมากไหม)

เออเร่อ = urror = ผิดพลาด >> พี่นิตเป็นของผิดพลาด :jul3:

แซวเล่นนะคะ จะได้จิ้มมั้ยลุ้นๆ :z13:

แก้คำผิดให้แล้วนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อ๊ายยยยย อยากอ่านเรื่องกั้งกับคุณภูมิ  :o8:


ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
เข้าใจกันแล้ว โอ๊ย ดีใจสุดๆ นายโจก็สมควรให้พี่นิตตีให้น้วมนั้นแหละ แลกกับการโดนโกรธนานๆ เนอะ
ขอความผิดครั้งนี้เป็นครูนะน้องโจ ยังอยากเห็นพี่นิตได้รับบ้างอย่างครั้งแรกอ่ะน้อง

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อาจตอนนี้แทนที่จะรู้สึกดราม่า  เรากับรู้สึกว่ามันหวานมากกว่าค่ะ

ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ฮู่ววว :เฮ้อ:
ลุ้นกันใจหายใจคว่ำกับหนุ่มซึนคู่นี้จริงๆ

กำแพงของพี่นิตต้องแข็งแรงมาก(เพราะน้องโจมาช่วยก่อ)
....ตอนฝันว่าก่อกำแพงนี่ เหมือนจะลืมอัญเชิญโจออกไปสินะ ( :beat: น้องโจเป็นคนนะยะ! // โดน fcน้องโจ ตบ)

ออฟไลน์ sunshine538

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ข้อดีของการมาอ่านวันนี้คือ ได้อ่าน 2 ตอนรวด
ตอนแรกน้ำตาร่วง ไว้อาลัยให้น้องโจ น้องเม้มปาก ไม่พูดไม่จามาเกือบทั้งเรื่อง พอบทจะพูดออกมา ... ลงหลุมซะงั้น :a5:

ยังอึ้งๆ กับชะตากรรมของพี่นิตอยู่ ก็เจอตอน 2 พอดี
โชคดีมากที่เจอมาม่าและซดหมดภายในเวลาชั่วโมงเดียว :laugh:

แต่หนทางยังอีกยาวไกล คราวนี้น้องโจอาจโชคดี แต่ถ้ามีแบบนี้อีก ... :fire:

รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :call:

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
คุณพนิตโกรธง่าย หายเร็วกว่าที่คิดนะ (นึกว่าจะงอนไปสัก 10 ปี ) อาจจะเป็นเพราะวัยที่มากขึ้นด้วยกระมั้ง ?
จริง ๆ คนใจอ่อนอย่างคุณพนิต เจอกับ คนที่อ้อนสะบัดแบบคุณสุภาพงษ์ ก็เหมาะสมกันดีออก  :-[

เราอ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่า ภายใต้ความ art ที่ชอบทำอะไรตามอารมณ์ของคุณพนิตเนี่ย คือ ความเป็นเคะราชินีนี่น่า... :m26:
 

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ใจหายแว๊บ ๆ ๆ นึกว่าจะจบจริง ๆ

ออฟไลน์ Cc-kun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เหมือนเจอคำแปลกๆแต่หาไม่เจอแลัว

คำว่า"ทำ"มันน่าจะเป็นคำอื่น

รู้แล้วรู้เรื่องน่าจะเป็นรู้รอด

นึกว่าพี่นิดจะใจแข็งนานกว่านี้

แต่ก็นะ

ตาโจน่าสงสาร

ออฟไลน์ Pepor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-3
เอ่อ อ่านมาเหมือนจะจบเลย แต่ดีใจจังที่ยังไม่จบ จะได้ตามอ่านความซึนของพี่นิตต่ออีก
ฮึฮึ ว่าแต่โจ  ได้โอกาสแล้ว คงไม่ทำให้เสียไปอีกนะ ไม่งั้นล่ะก็  o18
กำแพงพี่นิตต้องทำจากทรายที่ลืมผสมปูนแน่ๆ เพราะเจอน้องน้ำ(ตา)จากโจก็พังทลายแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด