ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
Pocky story
11/11/11
11:11
ป็อกกี้ คือขนมปังแท่งกลมๆอบกรอบแล้วเคลือบด้วยรสต่างๆบนพื้นที่เกือบทั้งหมดแล้วเหลือปลายน้อยๆเป็นที่จับพอดีมือ รสคลาสสิคอันเป็นที่รู้จักกันดีคือช็อกโกแลตและสตรอเบอร์รี่
ผมจำแนกป็อกกี้เป็นสองประเภทง่ายๆคือป็อกกี้สามัญชนและป็อกกี้ผู้ดี อันนี้จำกัดเฉพาะในประเทศไทยนะครับ ไม่นับของนอกประเทศที่อลังการงานสร้าง กินทีเหมือนได้เห็นเทพเจ้า~
ถามว่าจะจำแนกจากตรงไหนน่ะเหรอครับ?
ป็อกกี้สามัญชนก็คือป๊อกกี้ทั่วไปที่เราเห็นกันจนชินตา คือเคลือบเรียบๆทีเดียวจบ พิเศษหน่อยก็ช็อกโกบานาน่าที่แท่งเป็นสีดำ แต่ยังไงมันก็เคลือบครั้งเดียวอยู่ดี เพราะฉะนั้น มันก็เป็นป็อกกี้สามัญชน!!
ส่วนป็อกกี้ผู้ดีมีราคา มักจะเป็นแบบเคลือบพิเศษ เช่นมีส่วนผสมของเนื้อผลไม้หรือถั่ว หรือการสอดไส้ข้างในไปจนกระทั่งการเคลือบสองชั้นทำลวดลายอลังการงานสร้าง แล้วแต่บุญวาสนาของใครที่จะได้พบเจอ
แล้วถ้าจะถามว่าผมมาพูดอะไรอยู่นี่
ผมก็พูดเรื่องป็อกกี้ไงล่ะครับ! มันคือของหวานที่ถูกลิขิตให้เกิดมาคู่กับผม นายเป็นเอก อเนกอนันต์! ชื่อเล่นป็อกกี้ครับ เยส~
ไม่มีชื่อไหนในโลกจะเลิศเลอไปมากกว่านี้อีกแล้วครับ =w=b!
แล้วถ้าจะถามต่ออีกว่าทำไมผมต้องมาพูดอะไรตอนนี้
ก็จงหันไปมองปฏิทินสิครับทุกท่าน! ขี้เกียจหน่อยก็ลากเมาส์ไปวางตรงนาฬิกาที่มุมขวาล่างของหน้าจอคอมคุณก็ได้ คุณเห็นอะไรโผล่ขึ้นมาครับ? วันเดือนปีใช่มั้ยครับ?
ใช่แล้วครับ! วันนี้! มันคือวันที่ 11! เดือน 11! และปี 2011!
มันคือวันเกิดของผม! วันที่ทุกอย่างเป็นแท่งตรง! มันคือวันแห่งป็อกกี้มหาชาติ~!!
เต้นระบำบูชา~ ฮาเลลูย่า!!!!
********************************
ในตอนเที่ยงวันของสัปดาห์กีฬาสีประจำโรงเรียน ช่วงเวลาที่ทุกคนเหนื่อยจากการเล่นกีฬาและการตากแดดที่ร้อนแผดจ้ายิ่งกว่าอะไรดี เที่ยงวันของวันนี้ก็ยังเป็นอีกวันที่ผมหลบหนีความวุ่นวายขึ้นมาบนดาดฟ้าอาคารใหม่ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม
ลมเย็นๆจากที่สูงพัดแรงจนยอดของต้นไม้ที่เห็นอยู่ไกลๆไหวเอน แน่นอนว่าอานิสงส์ของมันเผื่อแผ่มาให้ผมที่นั่งคาบป็อกกี้รสสตรอเบอร์รี่แบบเหม่อๆอยู่ในพื้นที่ร่มเพียงแห่งเดียวบนอาณาบริเวณกว้างใหญ่ของดาดฟ้าแห่งนี้
ตอนนั้นเองที่อยู่ๆก็มีเสียงทุ้มห้าวตะโกนมาจากบันไดทางขึ้น ร่างสูงปรี๊ดปร๊าดเจ้าของดีกรีนักกีฬาบาสโรงเรียนที่เพิ่งพิชิตเหรียญทองจากการแข่งบาสรอบชิงชนะเลิศเมื่อเช้าก้าวขึ้นมาจากบันได
“เฮ้ย! กูลิโกะ”
“กูชื่อป็อกกี้!!”
ผมหันกลับไปเถียงทันทีเมื่อถูกเรียกชื่ออันแสนภาคภูมิใจแบบผิดๆ ผู้เรียกชื่อผมเดินเข้ามาพร้อมกับป็อกกี้รสลิ้นจี่แบบที่มันมีเนื้อผลไม้ผสมอยู่(ไอ้ที่ลงท้ายด้วยจุ๊บุ จุ๊บุ อ่ะครับ เห็นป็อกกี้อันไหนที่มีแบบนั้น แสดงว่ามันต้องมีเนื้อผลไม้ผสมรวมอยู่ด้วย)
นั่น! นั่นมันป็อกกี้ผู้ดี?!
ผมอ้าปากหวอมองไอ้บ้าที่คาบแท่งป็อกกี้เดินเข้ามาหาแล้วเกิดอาการกิเลสพุ่งพรวด มันคือไอ้เพรทซ์! บุคคลที่ถึงแม้จะหล่อรวยนิสัยดีมีชาติตระกูลบริบูรณ์ด้วยชื่อเสียงแค่ไหนแต่ผมก็เกลียดมัน
เพราะมันชื่อเพรทซ์!
มันคือขนมปังแท่งอบกรอบที่ไม่เคลือบน้ำตาล!
มันไม่ใช่ของหวาน!
มันเป็นศัตรูของป็อกกี้โว้ยยยยย!
ไม่ใช่แค่ชื่อเท่านั้นนะครับ ไอ้เวรนี่ชอบเรียกผมว่ากูลิโกะทุกครั้งที่เจอ แล้วทั้งๆที่ชื่อเพรทซ์ แต่มันเสือกแดกป็อกกี้ผู้ดีได้แทบทุกวัน! แล้วแดกอย่างเดียวไม่พอ ต้องแดกให้กูเห็นด้วย! เรื่องของชายหนุ่มรูปงามนามไพเราะผู้เป็นเจ้าของฉายาไอ้บ้าป็อกกี้นั้น ทุกคนในโรงเรียนก็รู้จักดี ทั้งๆที่มันก็รู้ ทำไมต้องมายั่วกูด้วยล่ะวะ! (ที่น่าเจ็บใจเพราะเสือกยั่วแล้วไม่ให้กูกินนี่แหละ กูแค้นมาก!)
คุณรู้มั้ยครับว่าในชีวิตประจำวันของนายเป็นเอก อเนกอนันต์นั้น ต้องบริโภคขนมปังกรอบแบบแท่งเคลือบน้ำตาลรสชาติต่างๆไม่ต่ำกว่าวันละ6กล่อง แต่ด้วยทุนทรัพย์ที่มีน้อยนิดและความต้องการมีมากเกิดกำหนด จึงทำได้เพียงบริโภคป็อกกี้สามัญชนเท่านั้น ในหนึ่งอาทิตย์จะมีเพียงสองถึงสามครั้งที่ได้ป็อกกี้ผู้ดีมาเชยชม
ตอนนี้ไม่ได้กินมาสามวันแล้วด้วย อา...ป็อกกี้ผู้ดีที่รัก
“อยากกินมั้ยกูลิโกะคุง?”ไอ้เพรทซ์โบกป็อกกี้ไปมาตรงหน้าผม แน่นอนว่าศีรษะของผมส่ายไปมาตามดวงตาซึ่งจับพิกัดไอ้แท่งอร่อยนั่นไว้แล้วเป็นมั่นเหมาะ
“อยาก...”เออใช่ แล้วกูก็ชื่อป็อกกี้ด้วย…
“งั้นมึงมาเล่นเกมส์กับกู ถ้ามึงชนะ กูให้มึงทั้งกล่องเลย เอาป่ะ?”มันชูกล่องขนมขึ้นมา ในซองที่เปิดอยู่นั้นมีป็อกกี้ผู้ดีเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก...
และแน่นอน ผมตาลูกวาว…
“เอา!”ผมรีบตอบตกลงไปแบบไม่หยุดคิดแม้แต่นิดเดียว เกิดมันเปลี่ยนใจก่อนขึ้นมาผมก็อดดิ!!
“เกมส์ของกูเล่นโคตรง่าย แค่ให้มึงกับกูกินป็อกกี้แท่งนี้จากคนละฝั่ง ใครกินได้มากกว่าก็ชนะไป ง่ายๆใช่มั้ยล่ะ?”มันว่าไปพลางกินป็อกกี้ที่มันเอามาโบกใส่ผมไปด้วย
สัด มึงหยุดกินก่อน เดี๋ยวป็อกกี้กูลดจำนวน!
“เออ แล้วไงต่อ?”
“ก็เท่านี้แหละ มึงกินฝั่งที่เคลือบนะ”เพรทซ์หยิบป็อกกี้ขึ้นมาจากกล่องแล้วสั่งให้ผมอ้าปาก
“กูจะชูสามนิ้ว พอกูนับถอยหลังแล้วกำมือเมื่อไหร่ก็เริ่มกินได้เลย เข้าใจนะ?”มันพูดขณะค้างป็อกกี้เอาไว้ไม่ห่างจากปากผม กลิ่นหวานๆของลิ้นจี่ลอยมาแตะจมูกจนผมอย่างแย่งมันมากินเอาตอนนี้ซะเลย!
แต่มาคิดดูระหว่างอันเดียวในตอนนี้กับได้มาทั้งกล่องในอนาคต อย่างหลังมันก็ดีต้องดีกว่าอยู่แล้วจริงมั้ยล่ะครับ!?
เครี๊ยกกกกกกกก!! วะฮ่าๆๆๆๆ!
“โอเคนะ?”เพรทซ์คาบปลายของแท่งป็อกกี้เอาไว้ ก่อนจะยื่นหน้ามาหาผมเพื่อให้รับอีกฝั่งเข้าปากไป
พอผมงับปลายป็อกกี้เอาไว้ได้ เพรทซ์ก็ชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้วแล้วค่อยๆลดลงทีละนิ้ว...ทีละนิ้ว...
เริ่มได้!
แน่นอนว่าคำแรกเป็นอะไรที่จะกัดเข้าไปได้เยอะที่สุด ผมอ้าปากแล้วกัดลงไปอย่างรวดเร็ว แอบเหลือบมองไปทางฝั่งมันก็เห็นว่าไอ้เหี้ยนี่แม่งกัดได้เยอะกว่ากูนี่หว่า! เวรแล้ว!!
ตรงส่วนกลางที่ยังไม่ถูกแตะต้องเหลือประมาณ5เซ็นติเมตร แต่ความห่างแค่นั้นทำให้จมูกของมันกับผมชนกันจนกินไม่ถนัด ไอ้เพรทซ์เอียงหลบออกไปเล็กน้อยแล้วเร่งกินเข้ามาอีก ขนตายาวๆปรือลงครึ่งหนึ่ง แถมยังเห็นแก้มกับหูของมันแดงแจ๋ซะยิ่งกว่าอะไรดี
ทำไมต้องแดงด้วยวะ??
จังหวะที่เผลอคิดไปทำให้ความเร็วของผมตกลงมา คำนวณจากความยาวแล้วผมกำลังแพ้มันอยู่ประมาณ3เซนติเมตร ไม่ได้การ...
ป็อกกี้อย่างผมจะแพ้ให้ไอ้เพรทซ์นี่ด้วยป็อกกี้ไม่ได้เป็นอันขาด!!
ในจังหวะสุดท้ายที่ไอ้เพรทซ์ดูน่าจะชนะเห็นๆ ผมก็กระทืบเท้ามันเต็มแรงจนเจ้าตัวเผลออุทานออกมา แน่นอนว่านั่นเป็นโอกาสที่มันอ้าปากอยู่ ผมจึงก้าวเข้าไปจนชิดหน้าอกมัน ใช้มือทั้งสองข้างโน้มคอของมันลงมาอย่างรวดเร็วแล้วสอดลิ้นเข้าไปข้างใน
ป็อกกี้ที่อยู่ในนั้นยังไม่ได้ถูกเคี้ยว แน่สิใครมันจะมีเวลาไปเคี้ยวกันล่ะ ผมควานลิ้นเข้าไปในปากของมันแล้วกวาดต้อนป็อกกี้ที่อยู่ในนั้นมาเป็นของตัวเอง จากนั้นผมก็ถอยออกมาแล้วเคี้ยวป็อกกี้ไปพลางมองมันอย่างภาคภูมิ
“กูชนะ!”
ไอ้เพรทซ์ยืนตัวแข็งทื่อไม่ตอบโต้อะไรผม มันมองหน้าผมนิ่งๆแต่ใบหูเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
ทำไมแดงได้ขนาดนั้นวะ? ถึงแดดจะร้อนแต่ตรงนี้มันร่มนี่นา ลมก็เย็นด้วยนะ!
ผมยื่นมือไปตรงหน้าเพรทซ์แล้วกวักมือดิ๊กๆให้มันส่งกล่องป็อกกี้ผู้ดีมาให้ผม แต่ไอ้เวรนี่กลับจ้องหน้าผมเขม็งแล้วโยนป็อกกี้ในมือทิ้งลงกับพื้น
อ่าวเฮ้ย!! ของกูนะมึง!!
“อ่ะ!”มือของผมถูกเพรทซ์กระชากเข้าไปหาตัวมันอย่างแรง เพราะไม่ทันได้ตั้งหลัก ผมเลยเซไปปะทะอกแข็งๆของมันเต็มที่ มือใหญ่ขนาดจับลูกบาสได้ด้วยมือข้างเดียวของมันจับหลังศีรษะของผมเอาไว้แน่นจนขยับไปไหนไม่ได้
ผมมองตามันเขม็ง กะจะโวยวายเอาเรื่องที่มันไม่ทำตามสัญญาเต็มที่ แต่ใบหน้าคมที่โน้มลงมากลับใช้ปากปิดปากผมมิดอย่างหนักหน่วง เรียวลิ้นแข็งแรงดุนดันริมฝีปากของผมให้เผยอออกจากกัน ก่อนจะรุกล้ำเข้าไปภายในแล้วเกี่ยวกระหวัดลิ้นของผมอย่างชำนิชำนาญ
แข้งขาผมอ่อนจนต้องจับแขนมันประคองตัวเองเอาไว้ เพรทซ์ดันผมไปจนชิดกับกำแพงสูงด้านหลัง มือข้างหนึ่งของมันรวบแขนของผมไว้ด้วยกันในระดับอก ก่อนจะบดจูบอันแสนหนักหน่วงนั่นลงมาอีกครั้งอย่างรุนแรง
เหี้ยเอ๊ย นี่มันอะไรกันวะ? กูงงไปหมดแล้วนะเว้ย แล้วความรู้สึกแปลกๆนี่มันอะไรกันอีกล่ะ?
ผมคิดขณะรู้สึกชาไปทั้งตัว ในหัวโล่งว่างและรู้สึกแปล๊บปล๊าบทุกครั้งเวลาที่ไอ้เพรทซ์มันดูดลิ้นผม จนต้องส่งเสียงประท้วงออกมาจากลำคออย่างอ่อนแรง หายใจไม่ทันจนรู้สึกทรมาณ
“เพรทซ์หยุด! ยะ…หยุดก่อน ไม่ไหว…แล้ว…”ในจังหวะที่ไอ้บ้านี่ผละออกมาเล็กน้อย ผมก็ถือโอกาสนั้นทิ้งตัวลงนั่งไปกับพื้น แขนทั้งสองข้างที่ยังถูกรวบไว้เลยชูอยู่เหนือหัว แลดูเป็นท่าทางพิศดารแปลกๆ
แต่ตอนนี้ใครจะมีเวลาไปสนเรื่องนั้นกันวะ! กูขอหายใจก่อนเหอะ!
ผมหลับตาแน่นแล้วรีบสูดอากาศเข้าปอดให้มากที่สุด มีเสียงหอบเบาๆของตัวเองดังประกอบจังหวะไปด้วย แต่เมื่อลืมตาขึ้นมากลับต้องผวาเฮือกเมื่อใบหน้าของไอ้เพรทซ์อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ มันทำหน้าตาเครียดๆมองผมแล้วพูดบางอย่างออกมา
“มึงยั่วกูก่อนเองนะ…” หา? กูยั่วตอนไหนอ้ะ?!!
ว่าจบโดยไม่ทันให้ผมเถียง เพรทซ์ก็ก้มลงมาปิดปากผมอีกครั้ง มือข้างที่ยังว่างลากไล้ตั้งแต่ปลายคางไปจนถึงแอ่งตรงกระดูกไหปลาร้าก่อนจะปลดกระดุมผมออกทีละเม็ดอย่างรวดเร็ว จะแก้ผ้ากูทำไมเล่า!!
“แม่งเอ๊ย! กูเกลียดมึง!!!”
ผมตะโกนหลับตาปี๋แล้วดิ้นหลบไปมาสุดฤทธิ์ ไอ้เพรทซ์นิ่งชะงักไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้หยุดมือ พอผมถูกขยี้ตรงยอดอกข้างขวา อาการเสียววาบก็แล่นขึ้นสมองจนผมต้องงอตัวหนีมือของมัน บ้าเอ๊ย! นั่นจุดอ่อนกูนะมึง!
“อ๊ะ!”ไอ้เพรทซ์ดูดริมฝีปากของของผมดังป็อบแล้วเปลี่ยนมาซุกไซร้ที่ซอกคอของผมแทน มือข้างที่ขยี้อกของผมอยู่นั้นบีบคลึงปลายยอดจนแข็งขึงเป็นเม็ด เสียงหอบปนครางของผมดังแผ่วๆท่ามกลางความเงียบสงัดของดาดฟ้าอาคารเรียน เพรทซ์ปล่อยมือของผมให้เป็นอิสระแล้วดึงเสื้อนักเรียนของผมมากองอยู่บนไหล่ จากนั้นจึงประทับรอยลงไปด้วยริมฝีปากของมันเอง
“เชี่ยเพรทซ์ อะ...อา…มึง…หยุด อ๊ะ!!”เสียงร้องห้ามของผมสั่นพร่าไม่เป็นภาษา แน่ล่ะว่าไอ้เพรทซ์มันไม่ได้ฟังแม้แต่น้อย แต่กลับเลื่อนมือลงไปแล้วปลดกางเกงของผมออกอย่างรวดเร็ว
“กูหยุดไม่ได้แล้วกี้…”มันว่าแล้วมองหน้าผมอีกครั้งพร้อมกับยิ้มเศร้าๆ มือร้อนจัดกอบกุมส่วนอ่อนไหวของผมเบาๆแล้วเร่งเร้าช้าๆให้มันตื่นตัว
“อ๊ะ เพรทซ์…ไม่ เอา…อ๊ะ อ๊า~!”เริ่มสำเหนียกได้ว่าเสียงครางของตัวเองที่หยุดไม่ได้นี้เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยใช้มือทั้งสองข้างปิดปากตัวเองไว้แน่น
มือแรกใช้กั้นเสียงตัวเอง อีกมือใช้กั้นอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ…
“ขอโทษนะ”ไอ้เพรทซ์พึมพำเบาๆแล้วก้มหน้าลงตรงระหว่างขาของผม สัมผัสเปียกชื้นทว่าร้อนผ่าวที่รู้สึกได้ทำให้ผมสะดุ้งเฮือก ส่งเสียงร้องห้ามไอ้เวรนี่ไม่เป็นภาษา ตรงนั้นของกูไม่เคยมีใครสัมผัสมาก่อนนะเว้ย แล้วนี่มันถึงกับใช้...ปาก
“มึงอย่า! ตรงนั้นมันสกปรก! ฮ่ะ..อ๊า!!”ความเสียวซ่านแล่นริ้วไปทั้งตัวทำให้ผมเกร็งจนตัวสั่น ผมน่ะหนุ่มซิงบริสุทธิ์ไม่เคยผ่านมือสาวใดมาก่อนซะด้วยซ้ำนะเว้ยครับ! เจอแบบนี้ใครมันจะไปทำอะไรถูกเล่า!
“ไม่สกปรกหรอกน่า”ไอ้เพรทซ์จับข้อพับขาผมยกขึ้นทั้งสองข้างแล้วเร่งจังหวะจนผมแทบสติหลุด ลิ้นร้อนโลมไล้ไปตั้งแต่โคนจรดปลาย ส่งผ่านอะไรสักอย่างเหมือนกระแสไฟฟ้าขึ้นไปที่สมองของผม
มันแปลก...เพราะไม่ใช่ความรู้สึกแย่ แต่ดีเกินไปจนน่ากลัว...ดีจนนึกไม่ถึงว่าจะมีอารมณ์แบบนี้ซ่อนอยู่ในตัวของเราเอง
สัมผัสที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนคุกคามตัวผมมากขึ้นเรื่อยๆจนผลักดันให้น้ำใสๆไปคลออยู่ในตาและค่อยๆไหลออกมาเป็นสายในที่สุด ไอ้เพรทซ์ที่กลายร่างเป็นไอ้หื่นพอเงยหน้าขึ้นมาเห็นผมมันก็คืนร่างเดิมทันที
“เฮ้ยกี้ มึงร้องไห้!??”เชี่ยเพรทซ์หยุดทุกการกระทำแล้วผวาเข้ามาโอ๋ผมพัลวัน ผมก้มหน้าลงซบกับเข่าตัวเองแล้วแกล้งสะอื้นเบาๆ ไอ้กลัวมันก็กลัวนะครับ น้ำตาแตกอยู่เนี่ย! แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยเกิดมันแปลงร่างอีกรอบผมก็ตายห่าอ่ะดิ!
“ฮึก..มึงมันเหี้ย!”ขอกูระบายก่อนเหอะ สัดเอ๊ย เข้าใจมั้ยว่ากลัวอ่ะ!
“เออ กูขอโทษ กูเหี้ยเองล่ะกี้ แต่มึงหยุดร้องเหอะว้า นะมึงนะ”ไอ้เพรทซ์ทำหน้าเลิ่กลั่กแล้วลูบหัวผมเหมือนลูกหมา มันมองซ้ายมองขวาก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ากล่องป็อกกี้ที่นอนนิ่งอยู่กับพื้นแล้วหยิบแท่งนึงขึ้นมาจิ้มปากผมจึกๆๆเหมือนเอาขนมมาล่อเด็กอนุบาล แต่ป็อกกี้มาลอยอยู่ตรงหน้ามีเหรอผมจะปฏิเสธอ่ะ!
แดกแม่ง!
“ฮึก..เชี่ยเพรทซ์ กรุบๆๆๆ กูไปทำอะไรให้มึงวะ! ฮึก...กรุบๆๆๆ ทำไมต้อง ฮึก..แกล้งกูด้วย”ใช่ ค้างคาในใจกูมานานมาก มึงแกล้งกูทำไม!
“กูเปล่าแกล้ง...”ผมมองมันด้วยสายตาไม่เชื่อถืออย่างแรง พอมีป็อกกี้เข้าปากแล้วเลยหยุดสะอื้น แต่น้ำตายังคงไหลพรากๆอยู่แบบหยุดไม่ได้
“เออ ก็ แกล้งบ้าง แต่เฮ้ย! ครั้งนี้ไม่ได้แกล้งนะเว้ย!”
“แล้วที่มึงทำเมื่อกี้มันเรียกว่าอะไรวะ!!”
“กู....ปล้ำ….”
“ห๊า!!!???”
ผมอ้าปากค้าง ทำหน้าเหวอสุดฤทธิ์ ไม่ได้คิดว่ามึงจะตอบตรงขนาดนี้นะเว้ย! ไอ้เพรทซ์หน้าแดงแปร๊ดแล้วเปลี่ยนมาทำท่าโยนความผิดให้ผม
“ก็มึงยั่วกูก่อนทำไมล่ะ!”
“กูไม่ได้ยั่วเว้ย!”
“ก็มึงจูบกูอ่ะ!”
“กูแดกป็อกกี้เถอะสัด”
คราวนี้กลายเป็นไอ้เพรทซ์ที่อ้าปากค้างแทน ทันกุมขมับแล้วบ่นพึมพำๆ ได้ยินแค่ประมาณว่า “แดกพ่อง...กูไม่น่า...คนอย่างมึง”อะไรของมันก็ไม่รู้
คนอย่างกูทำไมล่ะ = =..... แว่บมาต่อเงียบๆ
แต่ตอนนี้มันง่วงแล้วอ่ะ :t3:จะพยายามให้จบในคืนพรุ่งนี้นะครับ
ไม่สามารถแต่งตอนกลางวันได้เพราะคนเต็มบ้านเลยครับ ต้องรอให้หลับกันก่อนถึงจะแอบแต่งได้ รัดทดจริงๆ =[]=
ฝันดีราตรีสวัสดิ์ครับ
Namioto Yo.
.
.
.
.
.
.
.
เพื่อให้ทันเวลาเลขที่ต้องการ ขอลงก่อนนะครับ
...อ่าวเฮ้ย ช้าไป1นาที
ต่อจากนี้จะเป็นฉากอัศจรรย์ ขอลงหลังตีหนึ่งนะครับ
บ้านผมเค้ายังไม่นอนกัน และคอมที่ใช้อยู่นี่ก็อยู่ในห้องนั่งเล่นพอดีเป๊ะ = =