แอบหลับมางีบใหญ่ แวะมาลงบทที่ 47 ให้ละครับ บทนี้คือบทแรกของการเฉลยเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่การโดนวางยาของบิ๊กในบทที่ 42 ไปจนถึงที่มาของพอส ที่อยู่ในบทที่ 43-46 ครับ
นอกจากนั้น ผมได้เขียนพาคนอ่านไปดูรากเหง้าชีวิตบิ๊กอีกด้านที่สำคัญ นั่นคือ สนามมวยใต้ดิน ที่บิ๊กโตมากับมัน และสร้างบิ๊กเป็นอย่างที่เห็นนี่ละครับ บทที่ 48 จะเป็นเฉลยปิดเรื่องของแก้ว ในเรื่องของ ที่มาของผงขาว / แก้วเมาผงขาว / แผนพอสจีบแก้วจริง+ขึ้นเตียงจริง และการระบายเครียดของบิ๊กที่เอาอารมณ์ดิบตัวเองไปใส่กับพอส
มาดูกันต่อเลยครับ
************
Chapter 47เกือบสองเดือนที่แล้ว....
ผมเปิดประตูห้องนอนตัวเอง มีเพียงแสงสว่างดวงเล็กๆ ที่โต๊ะทำงานที่ผมเปิดไว้หลังจากเข้าห้อง ผมทิ้งตัวบนเก้าอี้โต๊ะทำงาน ก่อนจะคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ทั้งหมด ผมเหมือนคนที่ไปไม่เป็น คิดไม่ออก คำถามเดียวที่ผมคิดไม่ออกตอนนี้คือ
“ทำไมผมสลบจนไปนอนกับแก้วได้” มันนานแค่ไหนไม่รู้ ผมเริ่มไม่อยากคิด จนผมลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อเริ่มอาบน้ำ พอผมเปิดผักบัวให้น้ำราดตัวจนเปียก พอกดสบู่อาบน้ำเท่านั้นแหละ ผมเหมือนจะได้คำตอบบางอย่าง ที่ผมนั่งคิดตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มตื่นจากโรงแรมม่านรูด
หลังมือซ้ายผม รู้สึกแสบเล็กน้อยเมื่อถูสบู่ ผมมองไม่เห็นแผลว่าตรงไหน แต่มันเหมือนผมโดนเข็มแทง...ผมหาไม่เจอ แผลตรงไหนกันแน่ ผมพยายามนึกวิธีการจับมือของแก้วตอนที่อยู่สยาม ผมพยายามคลำหาจุดที่โดนแทง แต่ก็ไม่เจอ เข็มมันคงเล็กจนผมไม่ทันรู้สึก ผมทุบกำแพงห้องอาบน้ำด้วยความเจ็บใจเหมือนคนเสียรู้....ไม่มีเวลาจะมาเสียใจแล้ว ผมต้องทำยังไงดี...
ผมทิ้งตัวนอนลงบนเตียงมองดูข้อมือซ้าย...ตีสองแล้ว แต่ผมนอนไม่ลงจริงๆ ความรู้สึกปวดหัวจางๆ ทำให้ผมยิ่งอยากได้คำตอบ ผมจะเริ่มจากตรงไหนดี ถ้าแก้วมีของแบบนี้ได้ มันก็ต้องมาจากแหล่งที่....ผมรู้ละ
“สวัสดีครับเสี่ยเจี๊ยบ บิ๊กเองนะครับ” ผมโทรหาคนที่คิดว่าช่วยผมได้แน่นอน
“ว่าไงพ่อหนุ่มคนแรง ไม่เจอนานเลย นึกว่าลืมกันแล้ว” เสียงใหญ่แบบนักเลงของเสี่ย เป็นเอกลักษณ์ที่ใครทุกคนได้ยินก็รู้เลยว่า นี่คือเสี่ยเจี๊ยบ
“คืนพรุ่งนี้เสี่ยว่างไหม ผมเองก็คิดถึงเวทีอยู่เหมือนกัน” ผมคิดว่าคืนนี้ผมยังไม่สะดวกจะไปหา ทั้งที่ใจอยากไปเดี๋ยวนี้เลย
“แกก็รู้นี่ เออ มาเมื่อไหร่ก็ทักได้เลย” เอาละ ผมว่าผมถามเลยดีกว่า
“เสี่ยครับ ยังขายแหวนยาสลบเปล่าครับ” คำถามนี้ เสี่ยตอบให้ผมฟังทันใจมาก
“ของมีราคาแบบนี้ ขายกันไม่เยอหรอก มีอะไรเปล่าไอ้น้องชาย” ผมรู้สึกเหมือนมาถูกทาง
“พรุ่งนี้เจอกันที่ถ้ำเสี่ยนะครับ ขอบคุณมากครับ” ผมวางสายลงหลังจากพอจะได้คำตอบที่คิดว่าใช่ว่า สิ่งที่ผมโดนคืออะไร
คืนวันต่อมา หลังจากเดทแรกของผมกับแก้วผ่านไป ผมกลับมาบ้าน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ขับน้องแพนด้าออกไปโกดังแห่งนึงแถวรังสิตคลอง 4 เป็นที่ลับตาที่คนในวงการเท่านั้นจะรู้กัน ที่แห่งนี้ เหมือนผมได้กลับสังเวียนเก่าที่เหมือนพึ่งผ่านมาไม่นานนี้เอง นี่คือสนามมวยใต้ดิน ทีมีกติกาแค่
“ต่อยให้อีกฝ่ายไม่ลุกขึ้นมาได้อีก คุณคือผู้ชนะ” จะใช้เวลานานแค่ไหนก็ได้ ไม่มีพักยก ไม่มีขอเวลานอกดื่มน้ำ กติกาเดียวที่มีคือ ห้ามต่อยใต้เข็มขัด / ใช้สนับมือหรือพกอาวุธมาใช้
สนามมวยแห่งนี้ มีแค่ผู้ได้รับเชิญเข้าชม ซึ่งมีแต่เหล่าเจ้าสัว ผู้มีอิทธิพล นักพนันขาใหญ่ และเหล่าพี่เลี้ยงนักมวยที่พามาหาลำไพ่พิเศษกัน ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่พาตัวเองมาลงสังเวียนนี้ด้วยตัวเอง เงิน...อาจเป็นเรื่องหลักที่ทำให้ผมมาที่นี้ แต่ที่จริงแล้ว ผมแค่อยาก
“ชนะ” เท่านั้นเอง
“มาหาใครไอ้หนู ได้รับเชิญด้วยเหรอ” การ์ดหน้าทางเข้าคงไม่คุ้นกับผมและรถผมแน่นอน
“ผมมาหาเสี่ยเจี๊ยบ” การ์ดดูจะไม่เชื่อผม แต่ก็วิทยุเข้าไป ก่อนจะปล่อยให้ผมเข้าไปจอดรถในบริเวณข้างๆ โกดัง
ทางเข้ายังคงเหมือนเดิม ตรวจอาวุธ ตรวจกล้องรูเข็ม ไมค์ และอุปกรณ์สอดแนมอื่นๆ รวมถึงต้องฝากมือถือและอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดก่อนเข้าชม เมื่อผมเข้าไปในโกดังได้แล้ว เสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่ม บอกให้ผมรู้ว่า ผมมาถูกที่แล้ว
“เสี่ยให้เชิญคุณขึ้นไปบนห้องครับ” การ์ดของเสี่ยมาเรียกผมให้ขึ้นไปห้องทำงานชั้นสองของเสี่ย ซึ่งมองเห็นทุกอย่างของด้านล่าง รวมถึงคู่ที่กำลังต่อยอยู่ตอนนี้
“นั่งๆ ไอ้หนุ่มน้อยของเสี่ย ฮาๆๆ” เสี่ยเจี๊ยบเดินมากอดผม ก่อนจะหันไปเปิดแชมเปญขวดใหม่ที่แช่ในถังน้ำแข็งแล้วรินส่งแก้วให้ผม
“วันนี้อยากทำให้เวทีเสี่ยคึกคักหน่อยไหม ลงต่อยสักคู่ไหม เสี่ยจัดให้” ผมนั่งโซฟาในห้องทำงาน ที่มีเสี่ยนั่งอีกฝั่งนึงอยู่
“น่าสนใจครับ แต่ผมขอจัดการธุระผมก่อนครับ เข้าเรื่องเลยแล้วกันครับ สองวันก่อน ผมโดนยาสลบแรงระดับตื่นมาแล้วไม่รู้เรื่อง ผมเลยอยากรู้ว่า เสี่ยขายแหวนยาสลบให้ใครไปบ้าง” ผมซดแชมเปญที่เสี่ยรินให้หมดแก้ว
“ไปเรียกไอ้เล็กมา” เสี่ยมองผมด้วยความสงสัยหลังจากสั่งลูกน้องให้เรียกคนที่น่าจะให้คำตอบผมได้
“แกแน่ใจเหรอ ว่าเป็นแหวนยาสลบที่มาจากเสี่ย” ผมพยักหน้าให้คำถามเสี่ย
“ของที่เสี่ยขาย เนียนสุดในบรรดาของใต้ดินที่จะหาได้แล้วครับ ผมเลยเชื่อว่ามันมาจากเสี่ย” เสี่ยลุกขึ้นมารินแชมเปญให้ผมอีก
“แกสลบนานแค่ไหน” เสี่ยถามผมหลังจากรินเสร็จ
“มากกว่า 5 ชั่วโมงครับ” เสี่ยพยักหน้า ก่อนจะจิบแชมเปญต่อ แล้วคนที่เสี่ยถามถึงก็มา
เล็ก...มือขวาของเสี่ย ที่มีหน้าที่ทำทุกอย่างจากดำให้เป็นขาว หรือทำให้ดำเป็นเทา เรียกว่าเป็นลูกน้องมือดีของเสี่ยเจี๊ยบที่ผมเห็นมาโดยตลอด รวมถึงทุกรอบที่ผมต่อยชนะ ผมจะมารับเงินจากคนๆ นี้ประจำ
“คุณบิ๊กรู้สึกเจ็บที่มือข้างไหนครับ” ผมชูมือซ้ายให้เป็นคำตอบ ก่อนที่คุณเล็กจะลูบหลังมือกับฝ่ามือผมไปมา แล้วพยักหน้าช้าๆ
“เป็นของเราแน่นอนครับเสี่ย” ผมเปิดรูปหน้าของแก้วให้คุณเล็กดู คุณเล็กดูอยู่สักครู่ ก่อนส่งมือถือคืนให้ผมว่า
“ไม่ใช่คนนี้มาซื้อครับ” ผมคิดไม่ออกเลยว่า ผมจะสืบต่อยังไง
“เอางี้...แกอยากได้ข้อมูลคนซื้อใช่มะ ให้ได้นะ แต่...” ผมกะแล้วว่า เสี่ยต้องไม่ให้ผมแบบฟรีๆ แน่นอน
………………..
สิบนาทีถัดมา ผมขึ้นสังเวียนที่คุ้นเคย ถอดแว่นตา ถอดเสื้อ ใส่กางเกง Nike Pro Combat รัดรูปขาสั้น พันผ้าที่มือทั้งสองข้างให้พร้อมสำหรับขึ้นชก ถุงเท้าตัดส้นสำหรับเตะ และคู่แข่งผมวันนี้ เป็นนักมวยไทยอายุรุ่นๆ ผม แต่ดูจะไม่ค่อยดังกับการต่อยอาชีพ เลยผันตัวเองมาต่อยใต้ดินแทน
“ถ้าแกชนะ แกได้ขั้นต่ำห้าแสน แถมข้อมูลที่แกต้องการ รับคำท้าไหมไอ้หนุ่มน้อย” นี่คือสิ่งที่เสี่ยเจี๊ยบเสนอผมเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ผมรับข้อเสนอนี้ทันที เพราะผมคิดแผนขั้นต่อไปสำหรับเอาคืนแก้วไว้แล้ว ซึ่งต้องใช้เงินพอสมควรอยู่
วันนี้เวทีประกาศเดิมพันผมไว้ที่ แทง 1 จ่าย 3 บาท ส่วนคู่ชกผม แทง 1 จ่าย 1.50 บาท เพราะขาโหดคนนี้ โค่นมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบคน ผมกำลังเป็นเหยื่อรายล่าสุดที่ให้มันขยี้...มั่ง ไม่ลองก็ไม่รู้วะ ลุยเลยแล้วกัน
“สวัสดีครับท่านผู้ชม วันนี้ เรามีมวยคู่เอกที่ยิ่งใหญ่ประจำวันนี้ มุมแดงของเราคือแชมป์สนามที่ซัดมาแล้ว 10 คนติด ส่วนมุมน้ำเงินของเรา คือประวัติศาสตร์ของเวทีเรา แชมป์ที่อายุน้อยที่สุดของสังเวียนเรา วันนี้ ทั้งคู่จะเจอกันในตอนนี้ รักใคร ชอบใคร แทงกันกับเจ้าหน้าที่สนามได้เลยครับ” เสียงประกาศจากโฆษกสนามเป็นการบอกให้ผมขึ้นเวทีได้แล้ว
คู่ต่อสู้ผมวันนี้ มองแว็บเดียว รู้เลยว่าโหด นักมวยของแท้ กล้ามเนื้อแน่นและทนทุกส่วน ถ้าโดนสักหมัดไป ผมอาจคาที่เอาได้ แถมตัวพอๆ กับผมแบบนี้ ความคล่องตัวน่าจะดีกว่าด้วย และเมื่อพิธีกรสนามสั่งเริ่ม อีกฝ่ายเดินหน้าเข้าซัดผมทันที หมัดซ้ายหมัดแรกที่อัดผม ไวจนผมเกือบเอาการ์ดรับไม่ทัน หมัดขวาที่สองของอีกฝ่ายอัดเข้าท้องผมเต็ม แต่นั้นก็พอให้ผมสวนหมัดขวาเข้าหน้าของอีกฝ่าย เราทั้งคู่ต่างเซหมัดจนถอยไป ก่อนจะตั้งการ์ดดูเชิงกันใหม่
ผมเดินเข้าหาบาง ยิงหมัดชุดซ้ายขวาเข้าหา แต่อีกฝ่ายตั้งการ์ดรับทัน ผมอาศัยจังหวะสุดท้าย เตะเจาะยางอีกฝ่าย ได้ผล เซเลย แต่ก็ตั้งตัวทัน ก่อนจะโดนขาขวาอีกฝ่ายเตะเข้าสีข้างผม จุก..มาก แต่คุ้มอยู่ มันใกล้พอที่ผมจะกอดอีกฝ่าย แล้วกระแทกเข่าใส่ชุดใหญ่ไม่ยั้ง แต่อีกฝ่ายก็ปลดล็อคผมด้วยการโขกหัวใส่ผมเต็มเหนี่ยว มึนครับ...แต่อีกฝ่ายก็จุกเอาเรื่อง ผมพอจะเห็นความได้เปรียบแล้วว่า วันนี้มันขึ้นเวทีมาก่อนผมแล้ว ความสดใหม่ผมน่าจะได้เปรียบกว่า
ผมเดินหน้าเข้าไปอัดต่อ สารพัดหมัดที่ผมรัวใส่ลำตัวเป็นหลัก พอให้อีกฝ่ายสมาธิหลุดลืมระวังส่วนบน จึงมีหมัดแถมที่ผมอัดเข้าขมับซ้ายที ขวาที แต่อีกฝ่ายก็แก้เกมผมด้วยการเตะเจาะยางผมจนล้ม ผมต้องทิ้งตัวนอนทันที เพราะดาบสองทีอีกฝ่ายจะเล่นผม คือการเตะหัวผมต่อ พออีกฝ่ายเหลือขาเดียว ผมสลักใหัล้ม ก่อนจะพุ่งไปคร่อม แล้วลุกขึ้นทิ้งตัวเข่าใส่กลางอกของอีกฝ่าย แล้วอัดหมัดตรงใส่หน้ามันรัวๆ เสียงอ๊อก แอ๊ก จากอีกฝ่าย ทำให้ผมรู้ว่า ผมยำมันถูกจุดแล้ว ผมปิดเกมด้วยการรีบลุกขึ้น เตะหัวอีกฝ่ายเหมือนเตะลูกบอลแบบเต็มแรง เรียบร้อย..สลบ
“1 2 3 4 5 6 7 8 9 10” พิธีกรสนามมาชูมือให้ผมเป็นผู้ชนะ ท่ามกลางเสียงโห่เสียดายของคนดู นั่นแปลว่าผมจะได้เงินมากกว่าห้าแสนแน่นอน
แต่ตอนนี้ หัวใจผมเต้นแรงฉิบหาย ไม่ได้มาต่อยแค่เกือบปี แอบตื่นเต้นเหมือนตอนต่อยนัดแรกๆ
………………..
กลับมาที่ห้องทำงานเสี่ย ผมยังอยู่ในสภาพไม่ได้แต่งตัวอะไร นอกจากชุดเดิมที่พึ่งขึ้นเวทีไปเมื่อครู่ คุณเล็กเอาเงินใส่ถุงให้ผมเรียบร้อย ทั้งหมดเจ็ดแสนกว่าๆ เพราะมีคนแทงพลาดไปเยอะมาก ส่วนแบ่งผมเลยทะลุไปสองแสนกว่า
“เก่งเหมือนเดิมนะเนี่ย” แต่ก็น่วมนะครับเสี่ย เจ็บตัวฉิบหาย
“ตามสัญญานะเสี่ย” เสี่ยรินแชมเปญส่งให้ผม ก่อนจะหัวเราะชอบใจด้วยเสียงใหญ่ๆ ของแก
“ตัวแหวนอะ หาง่าย แต่ที่โดนไป คือยาสลบแบบที่เสี่ยขายเท่านั้น ไม่มีพิษตกค้าง ซึมเร็ว แกเลยไม่เจอแผลช้ำอะไรเลย นอกจากความรู้สึกเหมือนเข็มเล็กๆ แทงเข้าเนื้อไปเท่านั้น” เสี่ยส่งซองเอกสารที่กระดาษพึ่งพิมพ์ออกมาจากเครื่องสดๆ เป็นชื่อบัญชีที่โอนเงินค่ายาสลบนี่ สามคนล่าสุด ผมเก็บกระดาษนี้ลงซองเหมือนเดิม
“อีกเรื่องครับเสี่ย ผมอยากได้คนทำงานบางอย่าง” เสี่ยเลิกคิ้วด้วยความสงสัย
หลังจากผมบอกสเปคคนที่อยากได้มาทำงานด้วย ผมพาตัวเองมาถึงที่ๆ เสี่ยเจี๊ยบแนะนำคนที่พอจะช่วยได้ ผมจอดน้องแพนด้าท้ายซอยประตูชัย ตอนนี้ห้าทุ่มกว่าแล้ว ผมคลุมฮูดเสื้อตัวนอกให้เรียบร้อย ยกฮูดปิดหัวกับหน้าผมให้เรียบร้อย แล้วเดินเข้าไปในซอยที่เหล่าผู้ชายขายบริการเต็มซอย กำลังพยายามลากผมเข้าร้าน เพื่อดูโชว์โคโยตี้ต่างๆ แต่จุดหมายผมอยู่ที่โคโยตี้บาร์ร้านนึง
“เชิญครับๆ กี่ที่ครับผม” เด็กเชียร์เรียกผมเข้าร้าน แต่ผมไม่ได้สนใจอะไร
“รับอะไรดีครับ” บริกรของร้านเดินมาหาผม ในขณะที่ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าเวที
“สิงห์ขวดเล็กครับ...อ้อ เจ๊ะไก่อยู่ไหมครับ” บริกรพยักหน้าก่อนจะบอกผมรอสักครู่
ไม่ถึงห้านาทีต่อมา เจ๊ะไก่ สาวข้ามเพศร่างใหญ่ที่เป็นแม่เล้าของบาร์แห่งนี้ มานั่งข้างๆ ผม พร้อมเสิรฟ์เบียร์ที่ผมสั่ง
“มีอะไรให้เจ๊ะรับใช้คะ พ่อรูปหล่อ” เจ๊ะไก่โอบผมอย่างแนบชิด ในขณะที่ผมกระตกเบียร์ สายตามองเหล่าโคโยตี้ในชุดกางเกงในตัวเดียว
“เสี่ยเจี๊ยบแนะนำผมมาที่นี่ครับ ผมอยากซื้อเด็กร้านเจ๊ะไปทำงานหน่อย” เจ๊ะไก่มากระซิบข้างหูผมว่า
“ดูไปเลยนะ ถูกใจคนไหน บอกเจ๊ะได้เลยนะจ๊ะ” เจ๊ะไก่ลุกขึ้นเดินออกไป ปล่อยให้ผมดูเวทีที่มีผู้ชายให้เลือกไม่ต่ำกว่า 30 คน ยืนอยู่
ผมจิบเบียร์ไป ดูโคโยตี้ที่เดินสลับตำแหน่งไปมา แต่ก็ยังไม่เจอสเปคที่ผมคิดว่าซื้อตัวไปทำงานได้ ผมขยับฮูดที่คลุมหัวเล็กน้อย ทุกอย่างที่ผมมองผ่านแว่นตาตอนนี้ มีแค่แสงสีกับดนตรี ที่เหล่าโคโยตี้บางคนกำลังยืนขยับตัวเบาๆ ตามจังหวะ จนเบียร์ขวดแรกหมด เปิดขวดสองดูต่อไป
“น้องๆ” ผมกวักนิ้วชี้กับนิ้วกลางให้โคโยตี้เบอร์ 50 ที่เดินสลับตำแหน่งจากหลังเวทีมาด้านหน้า ลงมาหาผม คนที่ผมกวักเรียก เป็นเด็กผู้ชายผิวขาว ผมทรงคล้ายๆ ทหาร โครงหน้าเหมือนผม ตากับจมูกก็คล้ายๆ ผม ดูแล้วน่าจะไม่เกิน 20 แน่นอน ส่วนหุ่นก็พอมีเนื้อบ้าง แต่แห้งกว่าผมนิดหน่อย
“ชื่อไรครับ” โคโยตี้ที่ผมเรียกในชุดกางเกงในตัวบาง นั่งข้างๆ ผมแล้ว
“พอสครับ” ชื่อจำง่ายดี ผมกระดกเบียร์ต่อ
“ผู้ชายหรือ...” พอสอมยิ้มติดขำกับผม ก่อนจะบอกว่า
“ได้หมดครับ เอาก็ได้ โดนเอาก็ได้ ผู้หญิงก็ได้ ฟินหมดพี่” เยี่ยม...ตรงคุณสมบัติเบื้องต้นที่ผมคิดไว้เลย
“น้อง....เบียร์ให้ขวดนึง” ผมสั่งเครื่องดื่มให้พอสที่ผมเรียกมานั่งข้างๆ
“เป็นไงจ๊ะ ถูกใจเด็กเจ๊ะ หิ้วไปด้วยนะจ๊ะ” เจ๊ะไก่เดินกลับมาเมื่อเห็นผมกำลังนั่งกับพอสอยู่
“พอนะครับ” ผมส่งแบงค์เทาให้เจ๊ะไปสามใบ เจ๊ะไก่เรียกให้พอสไปใส่เสื้อผ้า
สิบห้านาทีต่อมา ผมกับพอสตอนนี้อยู่ในห้องของโรงแรมที่ไม่ไกลจากร้านนัก พอสจัดแจงเตรียมอ่างอาบน้ำ แล้วพาผมเข้าไปอาบน้ำให้
“พี่ดูเด็กมากเลยครับ แบบ เหมือนเด็ก ม.ปลาย” พอสถามผมขณะกำลังถูตัวให้
“ใช่...ยังเรียน ม.ปลายครับ” พอสหัวเราะเหมือนผมอำเล่น
“ว่าแต่...ทำงานนี้นานยัง” ผมถามบ้าง
“ปีนึงได้แล้วครับ” คำตอบที่ฟัง เหมือนมีคนถามจนชินไปแล้ว
“อยากเลิกทำงานนี้ไหม” พอสหัวเราะในลำคอ
“ทำไมครับ จะเลี้ยงเหรอครับ...ยืนขึ้นครับ” ผมลุกขึ้นยืน ก่อนที่พอสจะฉีดผักบัวล้างสบู่ทั้งตัวผม
“มีข้อเสนองานให้ทำ จะฟังก่อนไหมละ” พอสยังคงล้างตัวโดยไม่มีคำตอบรับอะไร แล้วส่งผ้าเช็ดตัวให้ผม
“พี่เช็ดตัวแล้วรอที่เตียงนะครับ” ผมต้องเจรจาธุรกิจต่อที่เตียงใช่มะนี่
………………..
ผมมีเวลาหนึ่งชั่วโมง ที่จะได้อยู่กับพอส หลังจากรอพอสอาบน้ำจนเสร็จ ดูท่าทางจะรู้งานว่าควรทำอะไรกับผม แต่วันนี้ผมไม่ได้ซื้อพอสมาเพื่อทำงานนี้
“เวลามีจำกัดนะครับ” ผมลุกออกจากเตียงไปดูว่าตู้เย็นมีอะไรไหม..ไม่มี ผมเลยกลับมานั่งเก้าอี้ในห้อง มองพอสที่นั่งอยู่บนเตียงแทน
“อยากเลิกเป็นโคโยตี้มะ” ผมยื่นข้อเสนอแบบตรงไปตรงมา น้องพอสหัวเราะออกมาเหมือนผมกำลังล้อเล่น
“พี่ครับ ผมทำอะไรได้ ผมทำได้แค่อาชีพแบบนี้แหละครับ” ผมควักบุหรี่ขึ้นมาจุด ก่อนจะยื่นข้อเสนอให้
“อายุเท่าไหร่” ผมทายไว้ว่าไม่น่าเกินยี่สิบสอง
“19 ครับ” โอเค ไม่แก่ไป ใช้ได้เลย
“มีงานให้ทำ ไม่ยาก แค่เป็นคู่นอนให้ผู้หญิง จีบหญิง อัดคลิป และก็ ระบายอารมณ์ให้กูเวลากูอยาก” ผมบอกงานที่จะให้พอสทำ แต่พอสก็ยังหัวเราะ
“ทำได้พี่ แต่ค่าตัวผมแพงนะ” แพงเหรอ งั้นผมยื่นข้อเสนอให้เลยละกัน
“สองแสนบาท พอมะ” พอสถึงกับหัวเราะ ดูไม่เชื่อว่าผมจะมีเงินให้
“อำเล่นเปล่าน้อง เป็นเด็ก ม.ปลาย เงินที่มาเที่ยวเนี่ยมีเปล่ายังไม่รู้เลย” ผมกะแล้วว่าต้องตอบผมงี้ ผมเลยเดินไปหยิบซองน้ำตาลที่ผมเตรียมไว้ตอนเข้าในห้อง แล้วโยนลงเตียงข้างๆ พอส
“ถ้าแกตกลงรับงานนี้ นี่คือก้อนแรกที่จะให้เลย” พอสหยิบซองมาดู ได้ผล...ตาโต ตกใจกันเลยทีเดียว
“ของจริงเหรอวะ ไม่ได้ปล้นใครมาใช่ปะน้อง” ผมลุกขึ้นเดินไปกระชากซองเงินออกมาเก็บ
“กู ไม่ใช่น้องมึง กูเป็นนายจ้างมึง เรียกกูว่า พี่ ซะ” พอสยกมือไหว้ขอโทษ ผมโยนซองเงินไว้ที่พื้น แล้วผมเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ในห้อง โดยตรงกลางระหว่างผมกับพอส คือซองเงินที่ผมวางไว้
“พร้อมจะรับข้อเสนอยัง” พอสพยักหน้าอย่างสนใจ
“กูโดนผู้หญิงวางยา แล้วยัดให้กูเป็นผัวมัน ผู้หญิงคนนี้ปั่นหัวเพื่อนกู ทำให้แฟนกูเข้าใจผิดจนต้องเลิกกัน” ผมอัดควันก่อนจะพ่นไปทางหน้าพอส
“แล้ว พี่จะให้ผมทำอะไรครับ” ผมเคาะบุหรี่กับที่เขี่ย ก่อนจะเริ่มประโยคต่อไป
“กูจะเอาคืนผู้หญิงคนนี้ แต่กูต้องการใครสักคนทำหน้าที่แทนกูนิดหน่อย อย่างแรก ต้องเอามันแทนกู อย่างที่สอง ต้องจีบอีนี่ให้ติด มึงต้องเป็นชู้ของมันอีกที อย่างที่สาม อัดคลิปในห้องเวลามึงเล่นบทรักกับมัน อย่างสุดท้าย เวลากูเงี่ยน มึงต้องให้กูเอา ทำได้มะ” ผมกับพอส เราสองคนมองตากัน ผมมองเพื่อเอาคำตอบ แต่พอสมองเพื่อคิดคำตอบที่จะให้ผม
“สองแสนใช่มะพี่” ผมพยักหน้าให้
“หรืออาจมากกว่านั้น ถึงมึงทำงานดี” พอสกุมมือบิดไปมาเหมือนคนกำลังตัดสินใจ ผมรู้ละ จะบอกอะไรดี
“งานนี้ไม่ต้องกลัวตำรวจ กูมีแบ็คหนุน เสร็จงานแล้วมึงกลับบ้านไม่ต้องกลับมาทำงานแบบนี้อีก ค่าจ้างที่ให้ น่าจะพอตั้งตัวได้...ใช่มะ” พอสพยักหน้าแบบตั้งใจ ผมรู้สึกตัวเองได้เปรียบกับการเจรจานี้
“ผมตก...” พอสกำลังบอกคำตอบ แต่ผมยกมือเบรค
“ก่อนตอบตกลง จำไว้ด้วยนะ ถ้ามึงหักหลังกู คนสุดท้ายที่เอาดินกลบหน้ามึง คือกูแน่นอน” พอสนิ่งไปสักครู่ ก่อนจะตอบผมคำตอบเดิมว่า
“ตกลงครับพี่” ผมกระดกหน้าขึ้นให้พอสไปหยิบถุงเงินมาดู ส่วนผมหยิบมือถือโทรหาเจ๊ะไก่
“เจ๊ะครับ ผมขอไถ่เด็กคนนี้ออกจากร้านนะครับ ผมชอบ สักสามหมื่นไหวใช่มะครับ ส่งเลขบัญชีมาได้เลยครับ เดี๋ยวโอนให้เดี๋ยวนี้” ผมวางสายไป ก่อนที่ SMS ของเจ๊ะไก่จะส่งมา ผมโอนเงินให้ทันทีหลังจากได้เลขบัญชี
“แต่งตัวซะ กูจะหาที่นอนให้มึง ชีวิตมึงเป็นของกูแล้ว” พอสพยักหน้า ก่อนจะกลับไปแต่งตัวให้เรียบร้อย
ผมดับบุหรี่ลง มองควันจางๆ ที่เหลือจากการดับบุหรี่ บอกตัวเองว่าเกมนี้ผมเดินแบบถอยกลับไม่ได้แล้ว
เงินทุนพร้อม คนพร้อม เหลือเซ็ทสถานที่กับรู้จักเหยื่อให้มากกว่านี้ซินะ
**********
บทที่ 48 จะเป็นบทเฉลยสิ่งที่บิ๊กทำในส่วนที่เหลือ และปิดบัญชีผู้หญิงคนนี้ถาวรเรียบร้อย ส่วนบทที่ 49 ผมจะพาทุกคนไปดูว่า บิ๊ก ตั้ม โจ แชมป์ มาเป็นเพื่อนกันได้ยังไง และความเป็นเพื่อนที่ตัดกันไม่ขาด พาให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม และรักกันกว่าเดิมด้วยครับ
ก่อนที่บทที่ 50 จะเป็นเรื่องของบิ๊กกับแทน อีกรอบครับผม
บทที่ 48 เจอกันประมาณวันอาทิตย์บ่ายๆ นะครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ^^